Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย สนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายศูนย์เยาวชน ครั้งที่ 4

 

เมื่อวันพุธที่ 31 มกราคม 2567 เวลา 11.40 น. ณ หอประชุมโรงเรียนป่าแดดวิทยาคม อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พบปะน้องๆในโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย “กลุ่มต้นกล้าความดี” ครั้งที่ 4 พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ อุดขา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอป่าแดด เขต 1 ร่วมพบปะในครั้งนี้ โดยมี ว่าที่ร้อยตรีธีระวัฒน์ คำชุ่ม ผู้อำนวยการโรงเรียนป่าแดดวิทยาคม คณะผู้บริหาร คณะครู และน้องๆเยาวชน ร่วมให้การต้อนรับ

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่ออบรมให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการมีบุคลิกภาพที่ดี สามารถสื่อสารกับบุคคลอื่นได้อย่างมั่นใจในตนเองมากขึ้น เพื่อให้เด็กและเยาวชนในเขตพื้นที่อำเภอป่าแดดตระหนักและทราบถึงแนวทางการพัฒนาบุคลิกภาพของตนเอง เสริมสร้างจุดแข็งของตนเองในด้านการสื่อสาร เพื่อการปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนอำเภอป่าแดด มีความกล้าแสดงออก กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น และกล้าที่จะนำความสามารถของตนเองมาแสดงให้ผู้อื่นได้รับชม เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ในการร่วมคิด ร่วมทำ ส่งเสริมให้เยาวชนใช้เวลาว่างสร้างสรรค์กิจกรรมอันเป็นประโยชน์ให้สังคม โดยการทำกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนวิทยากรจาก “มัดปุ๊กเจียงฮาย” อีกด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เชียงรายเตรียมติดตู้แดง ทุกสถานศึกษา หลังกรณีครูถูกทำร้ายในช่วงอยู่เวร

 

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 ที่ห้องประชุม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการการประชุม หารือมาตรการในการป้องกันอาชญากรรมในสถานศึกษา และรับมอบตู้แดง เพื่อติดตั้งในสถานศึกษา จากบริษัท อีซูซุสงวนไทย จํากัด ซึ่งได้จัดทําตู้แดงเพื่อมอบให้ ตํารวจภูธรจังหวัดเชียงราย โดยมีผู้บริหารทางด้านการศึกษาทุกระดับ ฝ่ายปกครอง เข้าร่วมในการสรุปแนวทางดำเนินการ รักษาความปลอดภัยในสถานศึกษา และประชาชน

 

จากนั้นได้มีการรับมอบตู้แดง จากตัวแทน บริษัท อีซูซุสงวนไทย จํากัด ที่ได้ดำเนินการผลิตให้กับทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และยังได้มอบน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับสายตรวจ ที่จะเข้าไปตรวจป้องกันเหตุตู้แดงในสถานศึกษา
 
 
พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ทําร้ายร่างกายคุณครู ภายในโรงเรียน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ ตํารวจภูธรจังหวัดเชียงราย เพื่อรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษาและประชาชน ในพื้นที่ จึงได้จัดการประชุมในครั้งนี้เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันและนำไปปฏิบัติได้ทันที ทั้งนี้การดำเนินการทางตำรวจไม่สามารถดำเนินการได้เพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องทำงานร่วมกับทางสถานศึกษา ฝ่ายปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา เมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วจะต้องลงมือทำที
 
 
“ในขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่สำรวจสถานศึกษาพื้นที่อื่นๆ ที่มีความต้องการตู้แดง จากนั้นให้สรุปส่งเข้ามายังตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เพื่อวางมาตราการการรักษาความปลอดภัยและติดตั้งตู้แดง และขณะนี้ได้ทำการสำรวจความต้องการในการติดตั้งตู้แดงในสถานศึกษา และต้องการตู้แดง จำนวน 246 โรงเรียน ทั้งนี้หากจะเกินกว่า 500 ตู้แดง ก็พร้อมดำเนินการ เพื่อความปลอดภัยในโรงเรียน รวมทั้งการทำเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งกล้องวงจรปิด การแจ้งเจ้าหน้าที่ในช่องทางอื่นๆ ที่รวดเร็ว รวมทั้งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ฝ่ายปกครอง ร่วมกันตรวจด้วยเช่นกัน” พล.ต.ต.มานพ กล่าว
 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในที่ประชุมได้พูดถึงเรื่องการดำเนินการจ้างบุคคลภายนอกเข้าไปปฏิบัติงาน นอกเหนือจากการเรียนการสอน ให้ทางสถานศึกษาพิจารณาเป็นพิเศษ และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นข้อมูลเพื่อป้องกันเหตุร้าย รวมทั้งผู้นำหมู่บ้าน ชุมชน และคณะกรรมการศึกษาต้องเข้าไปดูแลด้วยเช่นกัน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สานต่อโครงการแฟชั่นดีไซเนอร์เชียงราย สู่เวทีประกวดระดับโลก ชิงรางวัล 400,000 บาท

 

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567  จังหวัดเชียงราย ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย ภูมิภาคภาคเหนือ และหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดเชียงรายผนึกกำลังความร่วมมือจัดแถลงข่าวโครงการ Chiang Rai Fashion to The World Season 2 พร้อมเปิดตัวกิจกรรม “Chiang Rai Designer’s Competition Season 2” ผลักดันสานต่อโครงการแฟชั่นดีไซเนอร์เชียงรายสู่เวทีประกวดระดับโลก ณ ห้องประชุมแสนหวี หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

ททท. โดย ภูมิภาคภาคเหนือ ร่วมกับ สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย และบริษัท วัฒนกูล กรุ๊ป จำกัด จัดโครงการ Chiang Rai Fashion to The World Season 2 พร้อมเสนอกิจกรรม “Chiang Rai Designer’s Competition Season 2”  ประกวดเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักออกแบบแฟชั่นดีไซน์รุ่นใหม่จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศที่มีความสนใจแฟชั่นในรูปแบบงานออกแบบผ้าพื้นเมือง ผ้าจากแต่ละภูมิภาค ผสมผสานผ้าชาติพันธุ์ของเชียงราย ภายใต้แนวคิด “แฟชั่นผ้าล้านนาสู่แฟชั่นระดับโลก” ร่วมดันจุดขาย F-Fashion เพื่อพัฒนาส่งเสริมผ้าไทย แฟชั่น และสิ่งทอของประเทศ และยกระดับผ้าแฟชั่นของเชียงรายสู่ระดับสากล ตลอดจนสร้างและพัฒนานักออกแบบของจังหวัดเชียงรายและขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าของแต่ละภูมิภาคของไทย รวมถึงเปิดช่องทางการขาย ขยายตลาดไปสู่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

 

การแถลงข่าวโครงการ ประกอบด้วย กิจกรรมเสวนาบนเวที เข้าร่วมโดยผู้แทนจากหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ จังหวัดเชียงราย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคเหนือ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย สำนักพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB เทศบาลตำบลแม่สาย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเชียงราย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย ชมรมแม่บ้านมหาดไทย และบริษัท วัฒนกูล กรุ๊ป จำกัด และการจัดแสดงแฟชั่นโชว์ผลงานการออกแบบจาก ห้องเสื้อ ModalooM นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย และ YOURS Thailand เชียงราย

 

กิจกรรม “Chiang Rai Designer’s Competition Season 2”  ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 400,000 บาท เปิดรับสมัครในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2567 ผ่านช่องทาง www.fashionchiangraitotheworld.comโดยผู้สมัครสามารถส่งภาพแบบสเก็ตช์ 4 ประเภท ได้แก่ Casual Clothes Working Clothes Evening Dress และ Creative Clothes และใช้เวลาในการพัฒนา ออกแบบ และตัดเย็บ 8 สัปดาห์ พร้อมนำเสนอในรูปแบบของ Video Presentation ภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2567 

 

โดยชุดจากการออกแบบของผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขันที่ผ่านการคัดเลือกจะถูกนำมาแสดงแฟชั่นโชว์ที่งาน Fashion on the Road 2nd Chiang Rai Designer’s Competition ที่จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 30, 31 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567  (รวม 3 วัน) ณ บริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย – เมียนมา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งจะจัดพร้อมกับกิจกรรมไฮไลต์ในงาน Fashion on the Road  2nd At Mae Sai ซีซั่นที่ 2 คืองานแสดงแฟชั่นโชว์ชุดกว่า 100 ชุด จากดีไซน์เนอร์ทั่วประเทศที่ออกแบบตัดเย็บชุดจากผ้าไทยของแต่ละภูมิภาค ผสมผสานผ้าชาติพันธุ์จังหวัดเชียงรายเป็นการต่อยอด F-Fashion โดยมีร้านค้าที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์งานผ้า Art & Craft อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมยกทับร้านอาหารดังของเมืองเชียงรายรวมกว่า 100 ร้าน ให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัส และยังชวนร่วมสนุกกับกิจกรรม Check in @ Chiang Rai เพียงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย ผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยการร่วมกิจกรรมสแกน QR Code พร้อม Check in at Chiang Rai บนสื่อโซเซียลเพื่อรับสิทธิพิเศษส่วนลดจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้อีกด้วย

 

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงราย และ ททท.โดยภูมิภาคภาคเหนือ รวมถึงหน่วยงานพันธมิตรทุกภาคส่วน เชื่อมั่นว่า กิจกรรม “Chiang Rai Designer’s Competition Season 2” จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านผ้า แฟชั่น และด้านการท่องเที่ยวที่ดีของภาคเหนือแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งสะท้อนศักยภาพของหน่วยงานภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชนในการสนับสนุนและเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในพื้นที่  นำสู่การหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจฐานรากอย่างทั่วถึง ตลอดจนผลักดันภาพรวมตลาดในประเทศ ประจำปี 2567 เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

ผู้อบรมหลักสูตรวิเคราะห์ข่าวระเบียบโลก ศึกษาดูงาน จ.เชียงราย – สปป.ลาว

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือสกสว.และ สภาการการสื่อมวลชนแห่งชาติ จัดกิจกรรมศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านตลาดการค้าชายแดน สปป.ลาว – ประเทศไทย ” ระหว่างวันศุกร์ที่ 26 – วันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2567

 

เมื่อวันที่ 26 – 27 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของระเบียบโลกให้กับสื่อมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความสามารถของสื่อมวลชนในการรายงานและวิเคราะห์ข่าว ความเคลื่อนไหวในมุมต่างๆ ของระเบียบโลกได้อย่างถูกต้อง รอบด้าน และเป็นไปตามหลักจริยธรรมสื่อมวลชน ที่ซึ่งจัดโดย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ โดยการสนับสนุนของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) โดยได้ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แลนายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ เข้าร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย

 

 

 

โครงการได้คัดเลือกในรูปแบบของการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ตามสัดส่วนของทั้งสื่อมวลชน องค์กรภาครัฐและเอกชนรวม จำนวน 31 คน นอกจากจะมีการศึกษาดูงานในส่วนกลางที่กระทรวงการต่างประเทศ และสหประชาชาติใน ประเทศไทย นอกจกานี้ยังจะมีในส่วนภูมิภาคที่จังหวัดเชียงราย เพื่อศึกษาดูงานการค้าขายชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง ลาว – เมียนมา – จีน เพื่อให้ได้รับข้อมูลและความรู้โดยตรงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการจัดทำรายงานกลุ่มเพื่อร่วมกันออกแบบการสื่อสารเกี่ยวกับระเบียบโลกที่เปลี่ยนแปลงไปให้น่าสนใจและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้รับสาร ต้องขอบคุณ สกสว. กองทุน ววน.ที่เห็นความสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ในครั้งนี้

 

 

ซึ่งทาง สำนักข่าว นครเชียงรายนิวส์ หรือเดิมชื่อหนังสือพิมพ์นครเชียงราย มีนายกันณพงศ์ ก.บัวเกษร ผู้ก่อตั้งนครเชียงรายนิวส์ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งท่านในโครงการอบรมครั้งนี้ด้วย

 

ในวันที่ 26 มกราคม 2567  ผู้เข้ารับการอบรม โครงการ “เพิ่มองค์ความรู้สื่อมวลชนเรื่อง : โลกาภิวัตน์ในกระบวนทัศน์ใหม่ของสื่อ” จัดโดยสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ โดยการสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้เดินทางไปศึกษาดูงานในส่วนภูมิภาค ที่จังหวัดเชียงราย

 

โดยมี นายเกรียงศักดิ์ วันไชยธนวงศ์ รองนายก อบจ. เชียงราย ให้การต้อนรับ และนางสาวผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ได้บรรยาย สถานการณ์การเมือง-เศรษฐกิจชายแดน แก่ผู้เข้ารับการอบรมทราบ

 

จากนั้น คณะฯ เดินทางไปสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) เพื่อศึกษาดูงานแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว  โดยมี ท่านไพบูน พิลาทอง รองอธิบดีกรมสื่อมวลชน กระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว แห่ง สปป.ลาว ให้การต้อนรับ และนายสีสุพรรณ สีลิวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมและการค้า แขวงบ่อแก้ว บรรยายสรุปอุตสาหกรรมและการค้าแขวงบ่อแก้ว ให้ผู้เข้ารับการอบรมทราบ และนมัสการพระธาตุสุวรรณผ้าคำ เมืองห้วยทราย 

 

โดยในวันที่ 27 มกราคม คณะฯ ได้เยี่ยมชมหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย ในช่วงการจัดงาน ไทยแลนด์ เบียนนาเล่ เชียงราย 2023 มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ 3 ซึ่งนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นางสุภัสสร ประภาเลิศ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ร่วมต้อนรับ มีนางสาววัจนีย์ บุญเจ็น ผู้จัดการขัวศิลปะ กล่าวต้อนรับและนำชมงาน นอกจากนี้ คณะฯ มีโอกาสได้ไปเยี่ยมกิจการสิงห์ปาร์ค วัดร่องเสือเต้น และถนนคนเดินเมืองเชียงรายด้วย

โดยสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ได้ประกาศรับสมัครผู้เข้ารับการอบรบโครงการ “เพิ่มองค์ความรู้สื่อมวลชนเรื่อง : โลกาภิวัตน์ในกระบวนทัศน์ใหม่ของสื่อ” ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2566 – 25 ตุลาคม 2566 นั้น บัดนี้ สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ ได้ดำเนินการพิจารณาแล้ว ผลปรากฎว่ามีผู้มีสิทธิ์เข้ารับการอบรมจำนวน 31 คน ดังนี้

1. นายกันณพงศ์ ก.บัวเกษร ผู้ก่อตั้งสำนักข่าวออนไลน์ นครเชียงรายนิวส์

2. นายกิตติกร แสงทอง ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวอิศรา

3. นางสาวจารุพร โอภาสรัตน์ ผู้สื่อข่าว องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย

4. ดร.ฉัตรฉวี คงดี ผู้ช่วยผู้อำนวยการหน่วยข้อมูลและสำนักงานผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

5. นายชนาภัทร กำลังหาญ ผู้สื่อข่าว The Nation (บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน))

6. นายณรงค์กร มโนจันทร์เพ็ญ คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ บริษัท เดอะสแตนดาร์ด จำกัด (The Standard)

7. นายณัฐพล สมุหเสนีโต นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ กรมประชาสัมพันธ์

8. นางสาวณัฐยา เมืองแมน รองผู้อำนวยการอาวุโส ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

9. นางสาวดวงกมล เจนจบ ผู้สื่อข่าว-เว็บไซต์ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย

10. นางสาวดารินทร์ หอวัฒนกุล ผู้สื่อข่าวอาวุโส บริษัท เนชั่น ทีวี จำกัด (เนชั่น ทีวี)

11. อาจารย์ต้นฝน ทรัพย์นิรันดร์ อาจารย์ประจำ วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

12. นางธัญดา วาณิชฤดี ผู้วิเคราะห์อาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย

13. นายนครินทร์ ศรีเลิศ หัวหน้าข่าวเศรษฐกิจ – นโยบายสาธารณะ บริษัท กรุงเทพธุรกิจ จำกัด (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

14. นางสาวนิธิปรียา จันทวงษ์ นักวิชาการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

15. นางสาวเนาวรัตน์ เสือสอาด ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

16. นายปรัชญา ชีพเจริญรัตน์ บรรณาธิการบริหารข่าวออนไลน์ (Onenews) บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (ช่อง ONE)

17. นายพงษ์ธร กิจเจริญยิ่ง ผู้สื่อข่าว บริษัท ไทย เวิลด์ มีเดีย จำกัด (ผู้จัดการออนไลน์)

18. นางสาวมนกนก ภาณุสิทธิกร ผู้จัดการ – Public Relations บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

19. นางสาววนิดา เพ็งจันทร์ ผู้ชำนาญการ ขั้นพิเศษ ส่วนสารนิเทศและกิจกรรมสังคม ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

20. นายวรพล เพชรสุทธิ์ หัวหน้าข่าวภูมิภาค บริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด(หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

21. นางสาววรางคณา จำปาทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซียน ทีวี จำกัด

22. นายวิชัย สอนเรือง หัวหน้าข่าวออนไลน์ บริษัท สยามรัฐ จำกัด (หนังสือพิมพ์สยามรัฐ)

23. ผศ.วิภาวี วีระวงศ์ อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

24. นายวีรยุทธ แก้วจินดา ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตรายการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)

25. นายวีระพันธ์ โตมีบุญ ผู้ดำเนินรายการวิทยุ สถานีวิทยุศึกษา

26. นายศราวุธ ดีหมื่นไวย์ ผู้สื่อข่าวอาวุโส เจาะประเด็น บริษัท เทรนด์วีจี 3 จำกัด (ไทยรัฐออนไลน์)

27. นางสาวศิดาพักตร์ ศักดิ์บุญญารัตน์ บรรณาธิการการเมือง บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น 16)

28. นายศุภเกษม เกษมศรี ณ อยุธยา นักวิจัย มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย

29. นางสาวสราลี แซ่เตี๋ยว กรรมการบริหารฝ่ายปฏิบัติการ บจก.เชียงใหม่รายวัน จำกัด (สำนักข่าวเชียงใหม่นิวส์)

30. นางสาวสุมนชยา จึงเจริญศิลป์ ผู้จัดการแผนก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

31. นางสาวอาทิตญา ทาแป้ง ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ บริษัท วัชรพล จำกัด (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

จีนยินดีจะสนับสนุน หมีแพนด้าให้สวนสัตว์จังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง!

 

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 เวลา 11.15 น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการหารือกับ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า มีการเซ็นสัญญาเรื่องการค้าทางด้านเกษตรกรรมระหว่างร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับทูตจีน อีกทั้ง ประเทศจีนให้ความสนใจเรื่อง Landbridge แต่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม และไม่ใช่เพียงแค่ทางรัฐบาลจีนอย่างเดียว ทางเอกชนของจีนก็ให้ความสนใจที่จะมีส่วนร่วม เพราะว่าเขาทราบดีอยู่ว่าหนึ่งในเหตุผลหลักที่ประเทศไทยควรจะมีโครงการ Landbridge เนื่องจากการลงทุนที่มาจากประเทศจีนในช่วงปีหลัง ๆ บริษัทใหญ่ ๆ ของประเทศจีนมาลงทุนสร้างโรงงานผลิต โรงงานอุตสาหกรรมที่ใหญ่มากในเมืองไทย และไม่ใช่แค่มาตอบสนองความต้องการของคนในประเทศไทยอย่างเดียว แต่จะใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออก 

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยจะต้องมีท่าเรือน้ำลึก ต้องมี Mega Project ใหญ่ ๆ อย่างโครงการ Landbridge เพื่อที่จะซัพพอร์ตในจุดนี้ โดยทางด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็จะเดินทางไปประเทศจีนในเร็ว ๆ นี้ เพื่อจะจัดทำ Road Show ให้เกิดขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ประเทศไทยมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศจีน ซึ่งในปีหน้าก็จะครบ 50 ปี ตนเองได้ถือโอกาสเรียนเชิญประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้ท่านมาเยือนที่ประเทศไทยด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้แจ้งข่าวดีว่า ได้ขอรับการสนับสนุนหมีแพนด้าจากทูตจีน ซึ่งทูตจีนยินดีจะสนับสนุน  ทำให้ประเทศไทยกลับมามีหมีแพนด้าในสวนสัตว์จังหวัดเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทำเนียบรัฐบาล

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

“ซูเปอร์โพล” เผย “ก้าวไกล“ มาแรง! ฐานเสียงพุ่ง ความนิยมในภาคใต้มาแรง

 

เมื่อวันที่ 28 .. 2567 – สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง สำรวจฐานเสียงพรรคก้าวไกลวันนี้ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศอายุ 18 ปีขึ้นไป ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวน 1,142 ตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติ ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 25 – 27 มกราคม พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา

 

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อเปรียบเทียบผลสำรวจระหว่างเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ.2563 กับ มกราคม ปี พ.ศ. 2567 เกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง จะเลือกพรรคก้าวไกลหรือไม่เลือกพรรคก้าวไกล ผลสำรวจพบว่า ในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ฐานเสียงของพรรคก้าวไกลพุ่งพรวดมาเท่าตัว จากร้อยละ 16.7 ขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 37.3 และเมื่อจำแนกตามช่วงอายุ พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่มากที่สุดคือ ร้อยละ 76.2 ในกลุ่มคนต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 48.8 ในกลุ่มคนอายุ 20 – 29 ปี ร้อยละ 33.7 ในกลุ่มคนอายุ 30 – 39 ปี ร้อยละ 28.8 ในกลุ่มอายุ 40 – 49 ปี ร้อยละ 19.6 ในกลุ่มคนอายุ 50 – 59 ปี และร้อยละ 22.2 ในกลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไป

 

เมื่อแบ่งออกตามกลุ่มอาชีพ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.2 ในกลุ่มนักเรียนนักศึกษาเลือกพรรคก้าวไกล รองลงมาคือกลุ่มคนว่างงานร้อยละ 43.5 กลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 39.4 กลุ่มคนค้าขายส่วนตัว ร้อยละ 32.5 กลุ่มข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐ ร้อยละ 31.0 กลุ่มเกษตรกรและรับจ้างแรงงานทั่วไปร้อยละ 21.3 และกลุ่มแม่บ้านผู้เกษียณอายุร้อยละ 15.2 ตามลำดับ และเมื่อจำแนกตามภูมิภาค พบว่า กระแสพรรคก้าวไกลมาแรงในภาคใต้ร้อยละ 45.2 รองลงมาคือ ภาคกลางร้อยละ 40.3 อีสานร้อยละ 39.4 กรุงเทพมหานครร้อยละ 38.4 แต่ในภาคเหนือพบเพียงร้อยละ 9.7 ในการสำรวจครั้งนี้

 

รายงานของซูเปอร์โพล ระบุว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลมีฐานเสียงเพิ่มสูงพุ่งพรวดเท่าตัวในช่วงระยะเวลา 3 ปีและมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องโดยยังเหนียวแน่นในกลุ่มคนรุ่นใหม่กลุ่มนักเรียนนักศึกษาตามด้วยกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชนและกำลังเติบโตในภาคใต้มากที่สุดในการสำรวจล่าสุดนี้ 

 

ปัจจัยที่ทำให้พรรคก้าวไกลได้รับคะแนนนิยมเพิ่มสูงขึ้นจากการวิเคราะห์พบความเชื่อมโยงกับความนิยมในตัวนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์และปัจจัยเชื่อมโยงอื่น ๆ หลายปัจจัย เช่น การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การใช้บอท (BOT) ในเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทำให้เกิดการกระจายข้อมูลข่าวสารของพรรคก้าวไกลและของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ตรงกับจริตความต้องการเปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ส่งผลให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เกิดความเชื่อมั่นศรัทธาในพรรคก้าวไกลและในลักษณะเฉพาะตัวนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ทั้งในเรื่องการศึกษาดี มีความรู้ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล การสื่อสารดีทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศที่มากกว่าภาษาอังกฤษ ความสง่างาม ความดูดีมีเสน่ห์ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เช่นกัน

 

รายงานของซูเปอร์โพล ระบุด้วยว่า ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เสริมประกอบควบคู่ไปกับการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และบอท (BOT) ในการจัดแคมเปญ สร้างสรรค์และกระจายข้อมูลข่าวสารของนโยบายพรรคก้าวไกลและสิ่งที่พรรคก้าวไกลและที่ส.ส.ของพรรคก้าวไกลทำหรือสนับสนุน ผ่านเทคโนโลยีสื่อสารยุคดิจิทัลทำให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ บรรดา ส.ส.ของพรรค และพรรคก้าวไกล สามารถใช้สื่อดิจิทัลให้ข้อมูลและความเห็น รวมถึงบุคลิกภาพและการกระทำที่ถูกนำส่งไปยังกลุ่มแฟนคลับประชาชนผู้นิยมศรัทธาชื่นชอบพรรคก้าวไกลและส.ส.ของพรรคอย่างหลากหลายและมีประสิทธิภาพส่งผลทำให้พรรคก้าวไกลและส.ส.ของพรรคก้าวไกลได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มข้นจนถึงขั้นตัดสินใจจะเลือกและชักชวนคนอื่น ๆ ให้เลือกด้วยเป็นลักษณะของการผูกพัน (engagement) ระหว่างความสนใจ ค่านิยม ทัศนคติของฐานเสียงประชาชนแฟนคลับและตัวตนของพรรคก้าวไกลได้อย่างลงตัว ถึงวันนี้จึงยากที่จะเหนี่ยวรั้งไว้ได้รอวันแลนสไลด์ของพรรคก้าวไกลทั้งประเทศเท่านั้น

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักวิจัยซูเปอร์โพล

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เวทีข่วงคนเมืองเขต 4  หนองปึ๋ง-หนองขี้บ้วน เพื่อการท่องเที่ยวและพักผ่อน

 
เทศบาลนครเชียงรายโดย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ส่งเสริมสุขภาพชุมชนเขตเมืองสู่เมืองแห่งความสุข 3 มิติ มิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในการขับเคลื่อนเชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ Chiang Rai Wellness City โดยภาครัฐ สถาบันการศึกษา องค์กรภาคเอกชน และชุมชน เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนจังหวัดเชียงราย ในการสร้างรายได้ สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร โดยเฉพาะการบริโภคอาหารที่มีความปลอดภัย
 
 
โครงการพัฒนานครเชียงรายสู่เมืองแห่งความสุข 3 มิติ เทศบาลนครเชียงรายร่วมกับ สำนัก กองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกิจกรรมเวทีข่วงคนเมืองเขต 4 ครั้งที่ 2 และร่วมเสวนา ในหัวข้อ “การพัฒนาที่ยั่งยืนหนองน้ำสาธารณะหนองปึ๋ง/หนองขี้บ้วน เพื่อการท่องเที่ยวและพักผ่อน” ณ หนองน้ำสาธารณะหนองปึ๋ง ลานกีฬาชุมชนหนองปึ๋ง ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

วัดร่องเสือเต้น อลังการแสดง แสง สี เสียง

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2567 นายก นก นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ณ เวียงงามนามเจียงฮาย” โดยมี นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัด อบจ.เชียงราย กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนายสุธีระพงษ์ วันไชยธนวงศ์ ประธานสภาอบจ.เชียงราย สมาชิกสภาอบจ.เชียงราย คณะผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากร อบจ.เชียงราย และได้รับเกียรติจาก นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาเชิงวิชาการ “การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” โดยสมาพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคเหนือ (17 จังหวัด) เข้าร่วมในพิธีเปิดและร่วมรับชมการแสดงในครั้งนี้ด้วย

เนื่องในวันที่ 26 มกราคม ของทุกปี จะเป็นวันคล้ายวันที่พญามังราย หรือ พ่อขุนเม็งรายมหาราช ได้ทรงสร้างเมืองเชียงรายขึ้น อบจ.เชียงราย จึงได้จัดงาน “ณ เวียงงามนามเจียงฮาย” การแสดง แสง สี เสียง อิงประวัติศาสตร์ ตามฮอยพญามังราย เพื่อน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณของปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เม็งราย เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 762 ปี เมืองเชียงราย และเพื่อปลูกฝังให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย บูรณาการกับศิลปการแสดงล้านนาร่วมสมัย สอดคล้องกับการเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก้
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

เชียงใหม่ เปิดกิจกรรมตามรอยเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา วัดพระสิงห์

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2567 เวลา 18.00 น. จังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีเปิดกิจกรรมตามรอยเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา สักการะพระธาตุประจำปีเกิด ภายใต้โครงการจาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จังหวัดเชียงใหม่ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้คัดเลือกวัดที่ร่วมโครงการ ดังนี้

  1. วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร พระมหาธาตุเจดีย์พระธาตุประจำปีเกิดปีมะโรง
  2. วัดเจ็ดยอด พระเจดีย์ศรีมหาโพธิ์พุทธคยา พระธาตุประจำปีเกิดปีมะเส็ง
  3. วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร พระบรมธาตุดอยสุเทพ พระธาตุประจำปีเกิดปีมะแม
  4. วัดเกตการาม พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี พระธาตุประจำปีเกิดปีจอ

 

 

โดยมีพระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค 7 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม วัฒนธรรมจังหวัดภาคเหนือ 16 จังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กร ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมพิธี ณ วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

 

ในการนี้ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย โดย นายพิสันต์  จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนางสุพรรณี เตชะตน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ เข้าร่วมงานดังกล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

กอ.รมน.เชียงราย จัดโครงการ สร้างคนดีสู่สังคม “ละอ่อนฮักบ้าน”

 

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 67 ที่ ศูนย์ผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย พ.อ.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ รอง ผอ.รมน.จังหวัด ช.ร. (ท.) เป็นประธานในพิธีเปิด การอบรมโครงการอารยเกษตรวิถี สร้างคนดีสู่สังคม “ละอ่อนฮักบ้าน” โดย กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. บูรณาการร่วมกับส่วนราชการ และภาคเอกชน บริษัท ณ สโตน (จำกัด) ในการดำเนินโครงการฯ เพื่่อปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันหลัก อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การเป็นพลเมืองที่ดี และการนำแนวทางตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงตน โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 100 คน

 
ด้วย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย ได้ดำเนิน โครงการฝึกอบรมสร้างเยาวชน ” ละอ่อนฮักบ้าน ” เครือข่ายเฝ้าระวังภัยในเด็กและเยวชน เนื่องจากสภาพสังคมปัจจุบัน พบว่ามักมีเหตุรุนแรงเกี่ยวเด็กและเยาวชนมากขึ้น และเพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้นำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางในการดำรงตน ให้เป็นประโยชน์กับตนเองและชุมชน หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่ไม่เหมาะสม ทำให้เด็กและเยาวชนเป็นพลังที่ดีในการสร้างสังคมให้มีความเจริญเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยกำหนดการฝึกอบรม จำนวน 2 วัน ห้วงวันที่ 27-28 มกราคม 2567 ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบลแม่คำ บ้านสันธาตุ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
 
 
ภายในกิจกรรม ประกอบด้วยการอบรมอารยเกษตรวิถี สร้างคนดีสู่สังคม “ละอ่อนฮักบ้าน” บทบาทหน้าที่ของเยาวชนกับความมั่นคงของชาติ การบรรยายในหัวข้อ”วัฒนธรรมนำไทยให้เจริญ” การให้ความรู้ เยาวชนรุ่นใหม่ห่างไกลยาเสพติด การบรรยาย “ศาสตร์พระราชากับการพัฒนาเยาวชน” และ”บทบาทหน้าที่ของเยาวชนไทย” ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้ฝึกปฏิบัติการฐานการเรียนรู้ 4 ฐานการเรียนรู้ ได้แก่ฐานทักษะชีวิตใหม่ เยาวชนไทยสร้างอาหารเป็น , คืนลมหายใจให้แผ่นดิน(PM 2.5) , คนรักป่า 3 4 5 และ ฐาน นักสื่อสารสังคม
 
 
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้มีพื้นฐานแนวความคิด ฝึกวินัย ลงมือปฏิบัติ แก้ปัญหาจริงในท้องถิ่น สู่การเรียนรู้ให้เกิดผลในมิติต่าง ๆ รวมทั้งสามารถเป็นที่พึ่งของชุมชนได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน อีกทั้งเป็นการให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมแรง ร่วมใจกันขับเคลื่อนการนำแนวทางตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงตน ให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรมในทุกพื้นที่
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News