Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

อบจ.เชียงราย เร่งช่วยเหลือน้ำท่วม บ้านปางลาวและบ้านฟาร์มสัมพันธกิจ

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 16.30 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) พร้อมด้วยนายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัด อบจ.เชียงราย และสิบเอกวิมล รู้ทำนอง ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณ อบจ.เชียงราย รวมถึงบุคลากร อบจ.เชียงราย และน้องๆ จิตอาสาจากศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย ได้ลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจและมอบความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา

ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบหลักๆ ในครั้งนี้เป็นชุมชนบ้านปางลาว ตำบลบ้านดู่ และบ้านฟาร์มสัมพันธกิจ ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย หลังจากที่น้ำในแม่น้ำกกได้ล้นตลิ่งและไหลเข้าสู่หมู่บ้าน ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ประสบความเดือดร้อนอย่างหนัก บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายอย่างมาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของทัน ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งทรัพย์สินและการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่

เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ และคณะ ได้ส่งมอบน้ำดื่มและอาหารที่ได้รับบริจาคจากผู้ใจบุญ รวมถึงสิ่งของจำเป็นอื่นๆ เพื่อช่วยให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบสามารถดำรงชีวิตได้ในระหว่างการฟื้นฟูชุมชน โดยอาหารและน้ำดื่มเหล่านี้ถูกนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยทุกครัวเรือนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก ทั้งบ้านปางลาวและบ้านฟาร์มสัมพันธกิจ

นอกจากการมอบสิ่งของยังชีพ นางอทิตาธร และคณะยังได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ความเสียหายและติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อให้การฟื้นฟูชุมชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการช่วยเหลือที่ทันท่วงที เนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมซ้ำในกรณีที่มีฝนตกหนักเพิ่มขึ้น

จากการประเมินสถานการณ์ในเบื้องต้น พบว่า น้ำในพื้นที่เริ่มลดระดับลงบ้างแล้ว แต่ยังคงมีน้ำขังในบางส่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทาง อบจ.เชียงราย ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อระดมความช่วยเหลือด้านเครื่องจักรในการระบายน้ำและทำความสะอาดพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำรงชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานเชิงรุกขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง นอกจากนี้ ยังได้มีการวางแผนร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและกลุ่มจิตอาสาในการฟื้นฟูสภาพพื้นที่และจัดการปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากอุทกภัย รวมถึงการสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมในระยะยาว

นางอทิตาธร กล่าวเพิ่มเติมว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย จะยังคงติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนในด้านการจัดหาน้ำสะอาด อาหาร และการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสะพานที่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ทาง อบจ.เชียงราย ยังได้ร่วมมือกับชุมชนและองค์กรภาคเอกชนในการวางแผนระยะยาวเพื่อป้องกันน้ำท่วมและเพิ่มความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติในอนาคต

สำหรับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบและยังคงต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้จากหน่วยงานท้องถิ่นที่อยู่ใกล้เคียงหรือองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เพื่อรับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ปลัดกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่เชียงราย สั่งการเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม แม่สายยังวิกฤต

 

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 เวลา 08.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในเขตอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยในเขตเทศบาลนครเชียงราย ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว ถือเป็นข่าวดีสำหรับชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ บริเวณถนนพหลโยธินช่วงห้าแยกพญามังราย ที่เคยมีน้ำท่วมสูงเมื่อวานนี้ ล่าสุด ระดับน้ำลดลงไปกว่า 1 เมตร อย่างไรก็ตาม ถนนบริเวณรอบๆ ยังคงมีโคลนและซากรถที่ถูกน้ำพัดพามากีดขวาง ส่งผลให้ยังไม่สามารถสัญจรผ่านได้สะดวก แต่สถานการณ์โดยรวมดีขึ้นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ได้เริ่มเข้าพื้นที่ที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยว เช่น พื้นที่ตรอกซอกซอยบางจุด

สำหรับพื้นที่วัดร่องเสือเต้น ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของประชาชนจำนวนมาก ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายและเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ได้เข้าไปช่วยเหลือจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งจำเป็นต่างๆ ให้ประชาชนแล้ว

นายสุทธิพงษ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์บริเวณสะพานพญาเม็งราย ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมขังในระดับที่สูงอยู่ รถเล็กยังไม่สามารถสัญจรผ่านได้สะดวก และหากไม่มีฝนตกลงมาอีก ระดับน้ำจะลดลงอย่างต่อเนื่อง และสามารถใช้งานเส้นทางได้ตามปกติในอีก 1-2 วัน

ในส่วนของอำเภอแม่สาย ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้รับรายงานว่าระดับน้ำในพื้นที่ลดลง แต่ระดับน้ำในแม่น้ำแม่สายยังคงสูงอยู่ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนัก จึงยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในย่านตลาดสายลมจอย ที่ยังคงมีน้ำท่วมและกระแสน้ำไหลเชี่ยว ทำให้การเข้าถึงพื้นที่ยังเป็นไปได้ยาก

นายสุทธิพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ภายใต้การนำของนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ทำงานอย่างเต็มที่ร่วมกับทีมงานจากหลายฝ่าย ทั้งราชการ สมาคม มูลนิธิ และหน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน ในขณะเดียวกัน มีการดำเนินการทำความสะอาดและฟื้นฟูพื้นที่ที่น้ำลดลงแล้วอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการจัดการกับสิ่งกีดขวางที่ปิดกั้นเส้นทางน้ำ

สำหรับการเดินทางภายในจังหวัดเชียงราย เส้นทางจากจังหวัดพะเยาเข้าสู่จังหวัดเชียงราย ผ่านอำเภอพาน สามารถใช้ได้ตามปกติแล้ว ส่วนเส้นทางภายในเทศบาลนครเชียงราย ยังคงต้องรอการฟื้นฟูให้พร้อมใช้งาน ขณะที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ได้กลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ว

ในช่วงท้าย นายสุทธิพงษ์ได้ให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งขอให้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากมีความต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงรายหมายเลข 1567

ในเวลา 09.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้เดินทางไปยังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย และรับมอบรองเท้าบูทจากนายจักรภัทร แสนภูธร หัวหน้าศูนย์ข่าวภาคเหนือ เพจอีจัน เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงมหาดไทย 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ประชุมสถานการณ์น้ำท่วมเชียงรายถือว่าหนักที่สุดในรอบ 80 ปี

 

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมในเขตชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ “ยางิ” ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 80 ปีในพื้นที่ชายแดน โดยน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชายแดนแม่สาย รวมถึงพื้นที่ตลาดสายลมจอย และบ้านเรือนประชาชนเป็นบริเวณกว้าง

นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้ประสานงานช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งนำเครื่องมือและยุทโธปกรณ์ช่วยเหลือเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีปัญหาเรื่องกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากส่งผลให้การเคลื่อนย้ายประชาชนที่ติดค้างตามอาคารต่างๆ เป็นไปอย่างลำบาก แต่จนถึงขณะนี้สามารถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่อันตรายได้แล้วประมาณ 80% โดยประชาชนบางส่วนถูกย้ายไปอยู่ในวัดพรหมวิหาร และโรงแรมต่างๆ ที่ถูกใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว

นอกจากนี้ นายสุทธิพงษ์ยังกล่าวถึงการเตรียมการฟื้นฟูว่า มีการจัดเตรียมอาหารและน้ำดื่มเพียงพอเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แม้บางพื้นที่จะยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง แต่สถานการณ์โดยรวมเริ่มคลี่คลายเนื่องจากมีฝนตกลงมาน้อยลงและระดับน้ำเริ่มลดลง ทั้งนี้คาดว่าหากไม่มีพายุลูกใหม่เข้ามา ภายใน 5 วันข้างหน้าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ในส่วนของระบบเตือนภัยน้ำท่วม นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีการแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอพยพออกจากจุดอันตราย แต่ประชาชนบางส่วนไม่สามารถคาดการณ์ความรุนแรงของน้ำท่วมได้เนื่องจากเคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมมาแล้วหลายครั้งในปีนี้ แต่ครั้งนี้น้ำมาแรงและพนังกั้นน้ำพังทำให้เกิดผลกระทบมากกว่าครั้งก่อน

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้เฮลิคอปเตอร์จำนวน 3 ลำเข้าบินตรวจตราและนำเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม พร้อมทั้งกำลังดำเนินการฟื้นฟูและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ รวมถึงการประเมินความเสียหายและเตรียมมาตรการป้องกันน้ำท่วมในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

พายุ “ยางิ” ทำเชียงรายน้ำท่วมหนัก แม่สาย-เชียงของ ได้รับผลกระทบ

 

เมื่อวันที่ 9-10 กันยายน 2567 จังหวัดเชียงรายเผชิญกับฝนตกหนักต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากอิทธิพลของพายุ “ยางิ” ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอแม่สายและอำเภอเชียงของ โดยบ้านเรือนประชาชนและสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก

 

ความเสียหายจากน้ำท่วมในอำเภอแม่สาย

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า อำเภอแม่สายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ ตลาดสายลมจอย ซึ่งเป็นจุดขายสินค้าชายแดนไทย-เมียนมา น้ำจากแม่น้ำสายได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ทำให้พ่อค้าแม่ค้าไม่สามารถเก็บสินค้าขึ้นหนีน้ำได้ทัน ส่งผลให้สินค้าหลายร้านเสียหายเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้น้ำยังพัดพาขอนไม้และเศษวัสดุลงมาจากต้นน้ำในประเทศเมียนมา ซึ่งคาดว่าในพื้นที่ป่าต้นน้ำมีฝนตกหนักเช่นกัน

นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย พร้อมฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน โดยมีการแจ้งเตือนประชาชนให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและอยู่ในจุดปลอดภัย

 

น้ำท่วมเชียงของ พื้นที่หมู่บ้านได้รับผลกระทบ

อีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย คือ อำเภอเชียงของ โดยเฉพาะในตำบลสถาน น้ำได้เอ่อล้นตลิ่งและท่วมในพื้นที่หมู่ 2, 5, 12 ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนกว่า 50 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วม เจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลสถานได้เร่งใช้เครื่องจักรเปิดทางน้ำและระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่เริ่มลดลง แต่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

เตรียมความพร้อมรับมือฝนตกหนักและน้ำท่วมระลอกใหม่

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ระบุเพิ่มเติมว่า จากการประเมินสถานการณ์น้ำและฝนตกในพื้นที่ มีแนวโน้มว่าอาจมีฝนตกหนักและมวลน้ำระลอกใหม่เข้าท่วมเพิ่มเติมในช่วง 2-3 วันนี้ ทางจังหวัดได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและเตรียมการรับมืออย่างทันท่วงที

สำหรับพื้นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น น้ำตกและถ้ำ หากพบว่ามีฝนตกหนักและเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทำการปิดกั้นพื้นที่และแจ้งเตือนประชาชนอย่างชัดเจน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

 

การช่วยเหลือเบื้องต้นและมาตรการป้องกันเพิ่มเติม

ในการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ทางจังหวัดเชียงรายได้ประสานกับหลายหน่วยงานในการจัดหาอาหาร น้ำดื่มสะอาด เครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย นอกจากนี้ ยังได้เร่งซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหาย และอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่วในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมและการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมตัวรับมือและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วนนิรภัย 1784 หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อรับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

เชียงราย จัดตั้งกองทุนฯ ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย สูงสุด 150,000 บาท

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2567 ณ ห้องจอมกิตติ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการแถลงข่าว การช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเรียงรายฯ โดยมี นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองรู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย และนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอเทิง เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว โดยมีนางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้ววยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมการแถลงข่าวในครั้งนี้

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวว่า จังหวัดเชียงราย ได้จัดตั้งกองทุนฯ ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ผ่านบัญชีธนาคาร กรุงไทย สาขาเชียงราย เลขที่บัญชี 504-3-23-732-5 ชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ.2567 โดยยอดบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า ซึ่งการจัดตั้งกองทุนในครั้งนี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะบ้านที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย สำหรับการช่วยเหลือด้านสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก ก็ได้มีส่วนราชการ ภาคีเครือข่าย ภาคเอกชน ภาคสังคมสงเคราะห์ เหล่ากาชาด ในการแจกจ่ายสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อใช้เป็นปัจจัยในการดำรงชีพพื้นฐาน ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของการช่วยเหลือ

นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์จังหวัดเชียงราย ซึ่งตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 67 เป็นต้นมา เกิดอุทกภัยและดินถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในระหว่างวันที่ 14 ส.ค. – 5 ก.ย. 67 จำนวน 18 อำเภอ 106 ตำบล 925 หมู่บ้าน และบางส่วนในเขตเทศบาลนครเชียงราย จำนวน 27 ชุมชน ราษฎรได้รับผลกระทบ 34,131 ครัวเรือน 127,809 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 31 หลัง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 2,861 หลัง ซึ่งเกิดจากน้ำป่าและดินสไลด์ สำหรับภาคการเกษตรได้รับผลกระทบภาพรวม 189,275 ไร่ ส่วนใหญ่ได้แก่ นาข้าว ไร่ข้าวโพด ไร่มัน พืชสวน พืชยืนต้น ด้านปศุสัตว์ได้รับผลกระทบ 356,000 ตัว ด้านประมง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งบ่อปลาและบ่อกุ้ง รวม 4,137 ไร่ ถนนได้รับความเสียหาย 499 จุด สะพานและคอสะพาน 13 แห่ง ฝาย 69 แห่ง อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 3 แห่ง ศาสนสถานและวัด 34 แห่ง สถานศึกษาได้รับผลกระทบ 30 แห่ง สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมี 4 อำเภอได้แก่อำเภอเทิง อำเภอเวียงแก่น อำเภอพญาเม็งราย และอำเภอขุนตาล ซึ่งทั้ง 4 อำเภอนอกจากได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากแล้ว ยังได้รับผลกระทบจากน้ำอิงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมทั้งพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่การเกษตรบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำของลำน้ำอิงด้วย

นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอเทิง ได้กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม จนถึงปัจจุบันนี้ อำเภอเทิงได้เกิดอุทกภัยขึ้น ได้รับผลกระทบ 10 ตำบล 156 หมู่บ้าน 713 ครัวเรือน มีผู้อพยพมายังศูนย์พักพิงรวมกว่า 105 ราย ซึ่งขณะนี้ทุกคนได้กลับบ้านแล้ว บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 7 หลังคาเรือน แต่ยังถือว่าเป็นเรื่องดีที่สถานการณ์เกิดในช่วงเวลากลางวัน ทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงแค่ 1 รายเท่านั้น

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงกรณีการเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยจำนวน 2 ราย คือ รายที่ 1 นายสุรชัย อายุ 56 ปี เป็นราษฎร ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ถูกน้ำป่าพัดร่างขณะขี่จักรยานยนต์เข้าไปทำงานในไร่ ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ องค์การบริหารส่วนตำบลปอ ได้มอบค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัว เป็นเงิน 59,400 บาท และสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงราย มอบเงินสงเคราะห์กรณีผู้ประกันตน มาตรา 33 เสียชีวิตให้แก่ทายาทนายสุรชัยฯ เป็นเงิน 87,353.97 บาท และ คปภ. เยียวยาให้อีก 35,000 บาท รายที่ 2 นายชวฤทธิ์ อายุ 49 ปี เป็นราษฎรบ้านป่าตาลแดง หมู่ที่ 3 ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ถูกน้ำป่าพัดร่างสูญหายตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. 67 เวลา 09.00 น. พบร่างในวันที่ 24 ส.ค. 67 โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มอบค่าจัดการศพ 29,700 บาท และสำหรับพี่น้องประชาชนที่บ้านเรือนเสียหาย จะได้รับเงินเยียวยาตามระเบียบหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2563 หลักเกณฑ์ ค่าซ่อมแซมที่พักอาศัยเนื่องจากเสียหายทั้งหลังไม่เกิน 49,500 บาท หลังที่เสียหายบางส่วนเท่าที่เสียหายจริงไม่เกิน 49,500 บาท  
.
ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ ของกองทุนฯ ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งบ้านที่ได้รับถวามเสียหายทั้งหลัง และมีการประเมินความเสียหายเกินกว่า 1 ล้านบาท  จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 150,000 บาท ความเสียหาย 700,000 – 1 ล้านบาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 125,000 บาท ความเสียหาย 500,000 – 700,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 100,000 บาท ความเสียหาย 300,000 – 500,000 บาท  จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ  75,000 บาท ความเสียหายตำกว่า 300,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 50,000 บาท สำหรับที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายบางส่วน และมีการประเมินความเสียหายเกิน 500,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 75,000 บาท ความเสียหาย 300,000 – 500,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ ร้อยละ 10 ของประมาณการความเสียหายแต่ไม่เกิน 50,000 บาท ความเสียหาย 100,000 – 300,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ ร้อยละ 5 ของประมาณการความเสียหายแต่ไม่เกิน 15,000 บาท หากความเสียหายต่ำกว่า 100,000 บาท จะใช้งบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเยียวยา
.
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การเยียวยาของทาง กองทุนฯ จะสมทบกับการเยียวยาของราชการ เพื่อให้ผู้ประสบภัยกลับมาลุกขึ้นสู้ได้อีกครั้ง ด้วยความร่วมมือร่วมใจของชาวเชียงราย และในวันที่ 7-9 กันยายน นี้ ก็ต้องเฝ้าระวังเรื่องของผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ซึ่งทางจังหวัดเชียงราย ได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดเชียงราย ที่ภายในหอประชุมคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เราต้องร่วมกันเตรียมความพร้อม ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เพราะหากเกิดเหตุภัยพิบัติขึ้นอีก เราต้องทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทางจังหวัดได้สั่งการให้ทุกอำเภอจัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เราทุกคนต้องดูแลซึ่งกันและกัน เพราะเราชาวเชียงรายจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างเด็ดขาด
จากนั้น ผู้เข้าร่วมแถลงข่าวได้รับชมคลิปวีดีโอสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือในจังหวัดเชียงราย และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้รับมอบเงินและสิ่งของจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร้านค้า เข้าสู่กองทุนฯ เพื่อนำไปช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

อบจ.เชียงราย เร่งฟื้นฟูพื้นที่ ประสบอุทกภัย ต.หงาว อ.เทิง

 

เมื่อวันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2567 เวลา 10.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) พร้อมด้วยนายชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และ ส.อ.วิมล รู้ทำนอง ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.เชียงราย ลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลหงาว อำเภอเทิง หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา

เหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้พื้นที่ตำบลหงาวได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่อาศัยและพื้นที่สัญจร ประชาชนจำนวนมากต้องเผชิญกับสภาพที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมและดินโคลนที่สะสมอยู่ในบริเวณพื้นที่ต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันและการสัญจรไปมาของชาวบ้าน

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ได้สั่งการให้กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักช่าง และบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยโดยด่วน โดยได้จัดส่งรถน้ำแรงดันสูงเข้ามาช่วยเหลือในการทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งบริเวณพื้นผิวสัญจรและพื้นที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชนที่มีดินโคลนสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก

ในระหว่างการลงพื้นที่ นางอทิตาธรได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและประชาชน เพื่อให้การฟื้นฟูและการช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงความพร้อมในการสนับสนุนทรัพยากรและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อให้การช่วยเหลือสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

นางอทิตาธรยังได้พบปะและพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ โดยให้กำลังใจและให้ความมั่นใจว่าทาง อบจ.เชียงราย จะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เธอยังได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกคนที่ได้เข้ามาช่วยเหลือและทำงานอย่างไม่หยุดยั้งตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ อบจ.เชียงรายยังได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อจัดหาเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูและซ่อมแซมพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เช่น การจัดหาวัสดุก่อสร้างสำหรับซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย และการตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ยังได้สั่งการให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันและการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถลดผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การดำเนินงานในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ อบจ.เชียงราย ในการให้ความช่วยเหลือและดูแลประชาชนในยามวิกฤต ทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและชุมชนในการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

คาดการณ์ บ้านป่าข่า อ.ขุนตาล จมน้ำอยู่อีกประมาณ 1 เดือน

 

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ เดินทางจากท่าอากาศยานฝูงบิน 466 กองทัพอากาศ จ.น่าน ไปที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถยนต์ไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านหนองบัว ม.5 ต.สันทรายงาม อ.เทิง จ.เชียงราย และบ้านหล่ายงาว ม.1 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย 


        โดยก่อนที่จะเดินทางลงพื้นที่ประสบภัย คณะของนายภูมิธรรม ได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนจาก นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ณ ห้องรับรองท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง หลังจากรับฟังรายงานแล้ว รองนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางด้วยรถยนต์ไปที่บ้านหนองบัว ม.5 ต.สันทรายงาม อ.เทิง และเดินทางต่อไปที่บ้านหล่ายงาว ม.1 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น เพื่อพบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย


สำหรับสถานการณ์น้ำที่จังหวัดเชียงราย ตอนนี้พื้นที่ทีมีปัญหาน้ำท่วมจะเป็นที่อำเภอขุนตาล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รับมวลน้ำต่อจากอำเภอเทิง บวกกับมวลน้ำที่มาจากจังหวัดพะเยาไหลมาสมทบ จนทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำอิงล้นฝั่ง เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตรเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ 2 ตำบลคือตำบลต้าและตำบลป่าตาล ขณะทื่การให้ความช่วยเหลือนั้น จังหวัดเชียงรายระดมกำลังทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่  

โดยพื้นที่ บ้านป่าข่า ม.8 ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล จ.เชียงราย เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ประสบอุทกภัยจากน้ำอิงที่เอ่อท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่าครึ่งหมู่บ้าน วันนี้กองทัพบกได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน โดยนำเรือท้องแบนมาบรรทุกถุงยังชีพไปแจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัย และตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อแจกจ่ายให้ผู้เดือดร้อน

นายสอน เทพสมบัติ ผู้ใหญ่บ้านบ้านป่าข่า ตำบลป่าตาล อำเภอขุนตาล กล่าวว่า ขณะนี้มวลน้ำก็ได้เข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยได้ประสานขอหน่วยงานจากทหาร หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 สำนักงานพัฒนาภาค3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.35) นำเรือท้องแบนมาช่วยเหลือชาวบ้าน เพื่อส่งสิงของให้ชาวบ้านที่ยังจมน้ำ บางรายก็ออกมาได้ บ่งรายก็ออกมาไม่ได้ ตอนนี้ก็ต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐบาล ขอให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้ทางหมู่บ้านได้รับความลำบากมาที่สุด มีบ้านเรือนที่จมน้ำ และออกบ้านได้ประมาณ 70 หลังคาเรือน ซึ่งบ้านป่าข่าเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำอิงที่มีต้นน้ำมาจาก กว๊านพะเยา ซึ่งคาดว่าหมู่บ้านจะจมน้ำอยู่แบบนี้ไปอีกประมาณ 1 เดือน ทางชาวบ้านก็ขอขอบคุณหน่วยงานต่าง งภาคเอกชนและราชการที่มาช่วยเหลือชาวบ้าน

พันตรี วัลลภ เสือโฮก หัวหน้าศูนย์บรรเทาสาธารณภัย พัฒนาสำนักงานพัฒนาภาค 3 กล่าวว่า ทางทหารหน่วยพัฒนา ได้มีการนำชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 2 ชุด เรือท้องแบน และรถครัวสนามเข้ามาช่วยเหลือประชาชน โดยตั้งครัวพระราชทานอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอเทิง เพื่อสนับสนุนอาหารให้กับผู้ประสบภัย โดยได้ประสานงานกับผู้ใหญ้บานในการช่วยเหลือ นำอาหารไปส่งให้กับชาวบ้านและรับผู้ที่จะออกจากหมู่บ้านออกมา ในการเคลื่อนย้าย ปัจจุบันมีการ้องขอ 2 พื้นที่คือ บ้านป่าข่า และบ้านต้า อ.ขุนตาล ซึ่งเป็นจุดที่มีประชาชนได้รับการเดือดร้อน และยังมีเรือท้องแบบอีก 2 ลำที่จะเข้ามาสนับสนุนการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย / Poom Pakpoom Wilai

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

สทนช. ทำหนังสือด่วนประสานจีน ชะลอระบายน้ำเขื่อนลงแม่น้ำโขง

 

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567 เวลา 16.30 น. นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ระบายน้ำอิงสู่น้ำโขง ณ สะพานบ้านเต๋น ต.สถาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ติดตั้งเครื่องดันน้ำของโครงการชลประทานเชียงราย เพื่อดันน้ำจากแม่น้ำอิง ลงแม่น้ำโขง บริเวณปากอิง ต.ศรีดอนชัย ที่อยู่ห่างจากสะพานนี้ประมาณ 1 กม. โดยมีนายทวีชัย โค้วตระกูล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงราย และนายอุดม ปกป้องวรกุล นายอำเภอเชียงของ และผู้นำชุมชน ต.ศรีดอนชัย และต.สถานให้การต้อนรับ

นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า ทางจังหวัดไม่ได้อยู่เฉย ๆ ปล่อยให้น้ำเอ่อ แต่พยายามทำให้ลงแม่น้ำโขงเร็วที่สุดระยะทางจากพะเยากว่า 100 กม.เพื่อไม่ให้ประชาชนระหว่างทางเดือดร้อน ทั้งที่อำเภอเทิง อำเภอขุนตาล ที่เป็นทางผ่านของแม่น้ำอิง ซึ่งได้รับความเสียหายกันมาก ผสมกับเราเจอน้ำป่า ร่องกดอากาศต่ำพาดผ่าน สังเกตว่าทำไมตกอยู่แต่ที่เชียงราย เป็นเวลาเดือนกว่า ยังไม่ผ่านไปเลย แต่ยังอยู่ที่เชียงรายอยู่

“วันนี้ฝนยังตกเรื่อย ๆ น้ำจากจังหวัดอื่นก็มาสะสม ไหลมารวมกันที่บ้าน พื้นที่เกษตร ปศุสัตว์ประสบกันทั่วหน้า ภาพรวมที่ติดริมน้ำอิง ตั้งแต่เทิง ลงมาพญาเม็งราย และขุนตาล เชียงของ เป็นปลายทางน้ำอิงลงน้ำโขง ที่สังเกตว่าเป็นลานีญา เห็นว่าตกสะสมจึงวันที่ 23 ส.ค. รวม 600 กว่ามิลลิเมตรแล้ว เทียบกับเดือนสิงหาคมปี 2566 รวม 200 กว่ามิลลิเมตรเอง 3 เท่าของปีที่แล้ว ทั้งที่ไม่ครบเดือน อยากเตือนพี่น้องประชาชน เป็นประเด็นปัญหาที่ป้องกันแก้ไขด้วย”ผวจ.เชียงราย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่มีการเตรียมสร้างเขื่อนปากแบงกั้นแม่น้ำโขงซึ่งห่างจากชายแดนไทยเพียง 96 กม.ทำให้อนาคตยิ่งกลายเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์อีกหรือไม่ นายพุฒิพงศ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้รัฐบาลดูแล ทราบว่ารัฐบกาลกำลังเจรจาอันนี้เป็นเรื่องเหนือขอบเขตอำนาจหน้าที่ และรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจโดยได้เร่งเจรจากำลังทำอยู่ ส่วนตนมีหน้าที่รักษาพื้นที่ภาย ทำอย่างไรให้เราเดือดร้อนน้อยที่สุด และเร่งน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด “เรื่องนี้ผมไม่สามารถตอบได้ ต้องเป็นรัฐบาลและกระทรวงต่างประเทศ”

ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์ระดับน้ำล่าสุดในแม่น้ำโขงวัดที่อำเภอเชียงของ พบว่าปริมาณน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งโดยวัดล่าสุดในช่วง 18.00 น.อยู่ที่ 10.30 เมตร

เย็นวันเดียวกัน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า สทนช. ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่มีการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นอย่างใกล้ชิด

โดยขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำโขงในหลายพื้นที่ของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

สทนช. จึงได้มีหนังสือด่วนที่สุดไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) ให้ดำเนินการเฝ้าระวัง ศึกษา วิเคราะห์ เพิ่มเติม โดยเฉพาะการวิเคราะห์แนวโน้ม คาดการณ์ วัน เวลา และปริมาณน้ำสูงสุด (Peak) และการสิ้นสุดของสถานการณ์ ณ สถานีต่าง ๆ ตามแนวแม่น้ำโขง 8 จังหวัดของประเทศไทย

โดยให้รายงานผลการดำเนินงานและมีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเสนอแนวทางและมาตรการให้ประเทศสมาชิกของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ได้แก่ ไทย สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ได้ทราบและช่วยกันดำเนินการร่วมกันทุกฝ่าย

นอกจากนี้ยังขอให้ MRCS ประสานงานกับ สปป.ลาว เพื่อช่วยในการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนในแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง เพื่อบรรเทาผลกระทบและให้ระดับน้ำลดลงจากการล้นตลิ่งของแม่น้ำโขง พร้อมทั้งให้ประสานงานกับจีน เพื่อแจ้งสถานการณ์ในปัจจุบันของลุ่มน้ำโขงตอนล่าง เพื่อให้จีนชะลอการปล่อยน้ำและบริหารจัดการน้ำในเขื่อนแม่น้ำโขงตอนบน ตลอดจนติดตามสถานการณ์การให้ข้อมูลเพื่อประกอบการแจ้งเตือนและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนริมโขงให้มากที่สุด โดย สทนช. จะมีการติดตามสถานการณ์น้ำและประสานงานร่วมกับ MRCS อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหายแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขงให้ได้มากที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักข่าวชายขอบ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ภูมิธรรม ควง อนุทิน ลุยน้ำท่วมเชียงราย ไม่เจอตัวผู้ว่าฯ ไม่แน่ใจว่าติดภารกิจ

 

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย ทั้งนี้ นายภูมิธรรมและนายอนุทินพร้อมคณะได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ ณ ที่ว่าการอำเภอเทิง จากนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอเทิง เนื่องจากนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายไม่อยู่ในพื้นที่ จากนั้นคณะรองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยที่สถานีขนส่งอำเภอเทิง

นายภูมิธรรมกล่าวว่า การลงพื้นครั้งนี้ เนื่องจากทางรัฐบาลห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพราะน้ำมาเร็วและแรง ซึ่งรับทราบว่าในพื้นที่มีประชาชนเสียชีวิตแล้ว 1 คน โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เองก็มีความห่วงใยประชาชน แต่ด้วยข้อกฎหมายที่ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ก็ได้สั่งการให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนให้ช่วยดูแลพี่น้องประชาชนที่ลำบากอยู่ให้เร็วที่สุด ซึ่งก็น่าดีใจที่ตอนนี้น้ำหลากลดลง ด้วยปกติเชียงรายน้ำจะไหลลงแม่น้ำโขง แต่ขณะนี้ระดับแม่น้ำโขงสูงจึงมีน้ำรอระบาย จึงให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูแลประชาชน กระทรวงคมนาคมดูแลในส่วนว่ามีจุดใดกีดขวางทางน้ำหรือไม่ แต่ในภาพรวมแล้วสถานการณ์เบาบางลง เพียงแต่การระบายต้องใช้เวลา ฝากกับทางรองผู้ว่าฯไปด้วยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ควรสรุปเป็นบทเรียน จะได้เตรียมการรองรับต่อไปเนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในช่วงมรสุม

“ตอนนี้ทางจังหวัดต้องเตรียมการทำงาน คุยกับรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านก็ได้สั่งการให้ทุกส่วนจัดตั้งศูนย์ดูแลเหตุการณ์อย่างเต็มที่ แต่ก็น่าเสียใจที่วันนี้มาแล้วไม่เจอตัวผู้ว่าฯ ไม่แน่ใจว่าติดภารกิจอะไร ภาวะแบบนี้ควรต้องลงมาดู มาอยู่กับประชาชนเพื่อจะได้เข้าใจปัญหา หาทางบรรเทาให้พี่น้องประชาชน แต่ถึงแม้ผู้ว่าฯไม่อยู่ ก็ขอให้หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ลงพื้นที่ดูแล ส่วนของเครื่องไม้เครื่องมือรัฐมนตรีมหาดไทยท่านก็สั่งการแล้ว ส่วนของอาหารก็มาจากหลายทาง มีโรงครัวพระราชทานเข้ามาหลายคัน เข้ามาดูแลเรื่องอาหารการกิน เอกชนก็เข้ามา หน่วยจิตอาสาเข้ามาช่วยกันแพคของ เป็นเวลาที่ได้พึ่งพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านทรงช่วยราษฎร ทางกระทรวงพาณิชย์เองวันนี้ปลัดมาลงพื้นที่ด้วย จะได้ดูและประสานสิ่งที่ยังขาดเข้ามาช่วยเหลือต่อไป” นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ในวันที่ 25 สิงหาคม จะเข้ามาติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อีก โดยได้สั่งการให้สำนักนายกรัฐมนตรีเตรียมถุงยังชีพไว้แล้วอย่างน้อยน่าจะได้เข้ามา 5,000 ชุด และจะได้หารือการช่วยเหลือกับเพิ่มเติมกับทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป แต่ขอฝากพี่น้องประชาชนว่ารัฐบาลมีความห่วงเป็นใย และเรากังวลที่เห็นพี่น้องลำบากและพยายามทำงานเต็มที่เพื่อบรรเทาปัญหาของพี่น้องให้เร็วที่สุด

ด้านนายอนุทินกล่าวว่า การช่วยเหลือทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยได้สนับสนุนเครื่องจักรสาธารณภัย เช่นรถแบ๊กโฮ ขุดตัก เกลี่ยดินที่ถล่มลงมาในพื้นถนน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถสัญจรได้ และขอฝากให้ผู้ว่าฯรีบกลับมาเชียงรายด้วย คนเชียงรายรออยู่

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจใน จ.เชียงราย คณะของนายภูมิธรรมและนายอนุทิน ได้เดินทางไปจังหวัดน่านเพื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยใน อ.เมืองน่าน และ อ.ภูเพียง 

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นอกจากการลงพื้นที่ในจังหวัดภาคเหนือแล้ว นายอนุทินยังได้มอบหมายให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อติดตามเหตุการณ์อุทกภัยและดินสไลด์ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยนายชาดา พร้อมคณะได้ลงพื้นที่สำรวจจุดเกิดเหตุ ที่หมู่ 2 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต รับฟังรายงานสถานการณ์ในภาพรวม พร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัย จากนั้นร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ จิตอาสา ภาคประชาชนประมาณ 100 คน ดำเนินกิจกรรม Big Cleaning Day ปัดกวาด เคลียร์พื้นที่เกิดเหตุด้วย

“นายอนุทินให้ความสำคัญกับการติดตามเหตุการณ์ดินสไลด์ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีการกำชับหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ดูแลความปลอดภัยประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ วันนี้จึงได้มอบหมายให้นายชาดาลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ล่าสุด พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย” น.ส.ไตรศุลีกล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

13 โรงพยาบาล รับผลกระทบน้ำท่วม สธ. เปิดศูนย์ฉุกเฉิน “เชียงราย-พะเยา”

 

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567  นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือของประเทศไทย ว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมยังมีปัญหาเพิ่มขึ้นใน 3 จังหวัด คือ เชียงราย น่าน และแพร่ แต่มีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินที่ต้องเฝ้าระวัง 2 จังหวัด คือ เชียงรายและพะเยา 

ทั้งนี้ มีสถานพยาบาลได้รับผลกระทบจำนวน 13 แห่ง เพิ่มขึ้นจากเดิม 7 แห่ง ได้แก่ รพ. 2 แห่ง สาธารณสุขอำเภอ 2 แห่ง และ รพ.สต. 9 แห่ง จำนวนนี้ยังเปิดให้บริการตามปกติ 5 แห่ง ปิดบริการ 8 แห่ง คือ แพร่ มี รพ.สต.บุญเกิด และ รพ.สต.สบบง , เชียงราย มี รพ.สต.ตับเต่า และ สสอ.เทิง , แแพร่ มี รพ.สต.น้ำโค้ง รพ.สต.วังธง ร.สต.สบสาย และ สสอ.เมือง

นพ.สุรโชคกล่าวว่า การดูแลสุขภาพประชาชนขณะนี้มีประมาณ 9 พันครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ ได้มีการจัดหน่วยแพทย์เข้าไปดูแลตามปกติ ส่วนกลางได้สนับสนุนยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวน 1 พันชุด ส่วนใหญ่เป็นยาสามัญประจำบ้าน ยารักษาน้ำกัดเท้า เป็นต้น อย่างไรก็ตาม จากรายงานจนถึงขณะนี้พบผู้เสียชีวิตสะสมจากเหตุน้ำท่วม 8 ราย บาดเจ็บ 10 ราย รายละเอียดยังต้องรอสรุปอีกครั้ง 

“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้เฝ้าระวังใกล้ชิดและคอยสนับสนุนยาไปให้แก่ผู้ประสบภัย ซึ่งเราก็ส่งไปแล้วประมาณ 1 พันชุด ส่วนใหญ่จะลงไปที่ รพ.สต.เป็นหลัก ส่วน รพ.ใหญ่ยังคงดูแลได้” นพ.สุรโชคกล่าวและว่า สำหรับการประเมินสถานการณ์ใน 6 จังหวัดที่ยังมีปัญหาน้ำท่วม คิดว่าปัญหาอยู่ในระดับเริ่มคงที่ ไม่ได้เพิ่มขึ้น 

เมื่อถามถึงการประเมินความเสี่ยงในจังหวัดอื่นๆ ที่เป็นเส้นทางของมวลน้ำที่จะไหลผ่าน จะมีมาตรการรองรับอย่างไร  นพ.สุรโชค กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคเหนือมีการจัดทำแผนรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม ดินโคลนถล่มไว้อยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจังหวัดเดิมๆ ที่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่แล้ว ยกเว้นบางจังหวัดที่ไม่ค่อยได้ประสบปัญหา ส่วนจังหวัดที่อยู่ด้านล่างลงมาและเป็นเส้นทางน้ำผ่านก็มีแผนรับมือแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้จะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา แต่มาตรการที่วางไว้สามารถรองรับได้ เพราะก่อนหน้านี้มีการพยากรณ์เอาไว้ว่ามวลน้ำจะเยอะกว่าปีที่ผ่านมา เราจึงมีการทบทวนและซ้อมแผนในพื้นที่ต่างๆ อยู่แล้ว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News