Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ศิลปินเชียงรายผนึกสิบสองปันนา สร้างสัมพันธ์ผ่านงานศิลปะ

ศิลปินเชียงรายร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะกระชับสัมพันธ์กับศิลปินสิบสองปันนา

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 ศิลปินไทยจากสมาคมขัวศิลปะเชียงรายได้เดินทางไปยังเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อศึกษาดูงานและร่วมสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมร่วมกับกลุ่มศิลปินสิบสองปันนา โดยกิจกรรมในครั้งนี้มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านศิลปะ วัฒนธรรม และพระพุทธศาสนาระหว่างสองเมือง นับเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นและยั่งยืน

กิจกรรมสร้างสรรค์และแลกเปลี่ยนความรู้

คณะศิลปินไทยนำโดยสุวิทย์ ใจป้อม ประธานสมาคมขัวศิลปะเชียงราย พร้อมด้วยศิลปินทรงเดช ทิพย์ทอง, เสงี่ยม ยารังษี, พิชิต สิทธิวงศ์, กำธร สีฟ้า และคณะรวม 12 คน ได้ร่วมกับศิลปินสิบสองปันนาในการวาดภาพสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เช่น วัดไทยลื้อ หมู่บ้านชาวไทยลื้อบ้านหัวนา และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่สิบสองปันนา

การแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการสร้างผลงานศิลปะ แต่ยังเป็นการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และวิถีชีวิตของชาวไทยลื้อ ซึ่งสะท้อนผ่านงานจิตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยผลงานเหล่านี้จะถูกนำมาจัดแสดงในนิทรรศการศิลปะเพื่อประชาสัมพันธ์ความงดงามของวัฒนธรรมท้องถิ่นในทั้งสองประเทศ

กระชับความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง

นายสุวิทย์ ใจป้อม กล่าวว่าศิลปินจากเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาและเชียงรายมีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนานผ่านการแลกเปลี่ยนศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงการศึกษาในด้านพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองเมือง

ในครั้งนี้ ศิลปินสิบสองปันนาได้แสดงความยินดีและตั้งใจอย่างยิ่งที่จะเดินทางมายังจังหวัดเชียงรายในอนาคตเพื่อตอบแทนการต้อนรับที่อบอุ่นและมิตรภาพอันดีจากศิลปินไทย การแลกเปลี่ยนนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีในการแสดงผลงานศิลปะจากทั้งสองประเทศให้ผู้คนได้ชื่นชม พร้อมทั้งเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของกันและกัน

เชื่อมโยงศิลปะ วัฒนธรรม และการศึกษา

ในฐานะตัวแทนศิลปินไทย นายสุวิทย์ ใจป้อม ยังได้เชิญชวนให้ศิลปินจากสิบสองปันนาเยือนจังหวัดเชียงรายเพื่อร่วมงานด้านศิลปะและวัฒนธรรม โดยไทยพร้อมให้การต้อนรับและจัดกิจกรรมเพื่อสานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

กิจกรรมในครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของศิลปินทั้งสองฝ่ายในการใช้ศิลปะเป็นสื่อกลางเพื่อกระชับความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันอย่างยั่งยืน

การเดินหน้าความสัมพันธ์ในอนาคต

ความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินไทยและศิลปินสิบสองปันนาจะยังคงดำเนินต่อไปผ่านกิจกรรมแลกเปลี่ยนต่างๆ ในอนาคต อันเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่เพียงแสดงถึงความงดงามของศิลปะ แต่ยังแสดงถึงพลังแห่งความร่วมมือระหว่างสองวัฒนธรรม

กิจกรรมดังกล่าวช่วยส่งเสริมชื่อเสียงของจังหวัดเชียงรายและเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล และตอกย้ำถึงความสำคัญของศิลปะในฐานะสะพานเชื่อมโยงวัฒนธรรมและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมขัวศิลปะเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงรายจัดงานปีใหม่ลาหู่นานาชาติ ครั้งที่ 2 สร้างความสามัคคีระดับโลก

งานสืบสานศิลปวัฒนธรรมประเพณีปีใหม่ลาหู่นานาชาติ ครั้งที่ 2 ส่งเสริมความสามัคคีชาติพันธุ์

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2568 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS จังหวัดเชียงราย นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน สืบสานศิลปวัฒนธรรมประเพณีปีใหม่ลาหู่นานาชาติ ครั้งที่ 2″ ประจำปี 2568 โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อฟื้นฟู ส่งเสริม และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาติพันธุ์ลาหู่ให้คงอยู่ต่อไป อีกทั้งเป็นการสร้างความตระหนักในคุณค่าของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแก่ชาติพันธุ์ลาหู่รุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยเผยแพร่ แลกเปลี่ยน และเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างชาติพันธุ์ลาหู่ในประเทศไทยและนานาชาติ

ภายในงานมีบุคคลสำคัญเข้าร่วม อาทิ นางสาวพลอย ธนิกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม, นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์, นายกสมาคมและผู้บริหารสมาคมลาหู่นานาชาติ รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการและตัวแทนพี่น้องชาติพันธุ์ลาหู่จาก 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย เมียนมาร์ เวียดนาม จีน ออสเตรเลีย อเมริกา สปป.ลาว และสิงคโปร์

กิจกรรมภายในงาน

งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2568 ตั้งแต่เวลา 09.00-22.30 น. โดยมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมและการสาธิตภูมิปัญญาพื้นบ้านจากชาติพันธุ์ลาหู่ เช่น การแสดงดนตรีพื้นบ้าน การเต้นรำประเพณี งานฝีมือ และนิทรรศการวัฒนธรรม พร้อมทั้งมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวคิดเกี่ยวกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมของชาติพันธุ์ในแต่ละประเทศ

การจัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรภาคีเครือข่าย รวมถึงพี่น้องลาหู่จากทั่วโลกที่ร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรม โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย รวมถึงสร้างความสามัคคีและปรองดองในหมู่ชาติพันธุ์

ลาหู่ในประเทศไทย

ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรชาติพันธุ์ลาหู่ราว 150,000 คน อาศัยกระจายอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาร์กว่า 800 หมู่บ้าน จังหวัดที่มีประชากรลาหู่อาศัยอยู่มาก ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง เชียงใหม่ และตาก โดยชาติพันธุ์ลาหู่เป็นกลุ่มที่มีวัฒนธรรมโดดเด่น เช่น ภูมิปัญญาท้องถิ่นและประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน

นางสาวจิราพร สินธุไพร กล่าวในพิธีเปิดว่า “งานนี้ไม่เพียงส่งเสริมวัฒนธรรมแต่ยังสะท้อนถึงความสามัคคีและการยอมรับในความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพี่น้องลาหู่รุ่นใหม่ที่จะตระหนักถึงคุณค่าของมรดกวัฒนธรรม เพื่อสืบสานและรักษาไว้ให้คงอยู่ต่อไป”

เป้าหมายการจัดงาน

  • อนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมของชาติพันธุ์ลาหู่
  • เชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างชาติพันธุ์ลาหู่ในระดับนานาชาติ
  • ส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในจังหวัดเชียงราย
  • สร้างแรงบันดาลใจให้รุ่นใหม่เห็นคุณค่าในวัฒนธรรมดั้งเดิม

งาน สืบสานศิลปวัฒนธรรมประเพณีปีใหม่ลาหู่นานาชาติ ครั้งที่ 2″ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยยกระดับเชียงรายให้เป็นศูนย์กลางด้านศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระดับนานาชาติ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสความงดงามของวัฒนธรรมลาหู่ในรูปแบบที่หลากหลายและน่าประทับใจ.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

‘พิสันต์’ พาเชียงรายคว้า 4 ปีติด สุดยอดชุมชนต้นแบบ ยลวิถี

พิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติ 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ปี 2567

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 ณ อาคารอเนกประสงค์ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติให้แก่ 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ข้าราชการ และผู้แทนจากชุมชนที่ได้รับรางวัลเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

ในโอกาสนี้ นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้ นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย รักษาราชการแทนปลัดจังหวัดเชียงราย และ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้ารับโล่รางวัลผู้สนับสนุนการขับเคลื่อนชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี”

ชุมชนวัดห้วยปลากั้ง คว้ารางวัลชุมชนต้นแบบยอดเยี่ยม

ส่วนของชุมชนวัดห้วยปลากั้ง อำเภอเมืองเชียงราย ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบประจำปีนี้ ได้รับมอบหมายให้ นางรพีพร ทองดี ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนชุมชน และ นางสาวกนกวรรณ สมสวัสดิ์ คณะกรรมการขับเคลื่อนชุมชน เข้ารับโล่รางวัล โดยมี พระไพศาลประชาทร วิ. (พบโชค ติสฺสวํโส) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ

การแสดงนิทรรศการจากชุมชนวัดห้วยปลากั้ง

ชุมชนวัดห้วยปลากั้งได้นำเสนอภูมิปัญญาและผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นของชุมชน อาทิ ผลิตภัณฑ์จากผ้าทอและผ้าปักของกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ เช่น กระเป๋า ย่าม พวงกุญแจ และเข็มกลัด รวมถึงอาหารชาติพันธุ์ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมในท้องถิ่น เช่น น้ำพริกข่า น้ำพริกน้ำผัก จิ้นทอด หมูยอ ไข่ต้ม แคปหมู ข้าวงาปิ้ง และการสาธิตตำอ้อย

จังหวัดเชียงราย: 4 ปีแห่งความภาคภูมิใจ

จังหวัดเชียงรายได้รับการยกย่องเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ได้แก่

  • พ.ศ. 2564: ชุมชนวัดท่าข้ามศรีดอนชัย อ.เชียงของ
  • พ.ศ. 2565: ชุมชนบ้านเมืองรวง อ.เมืองเชียงราย
  • พ.ศ. 2566: ชุมชนวัดพระธาตุผาเงา (บ้านสบคำ) อ.เชียงแสน
  • พ.ศ. 2567: ชุมชนวัดห้วยปลากั้ง อ.เมืองเชียงราย

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล

กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมชุมชนต้นแบบให้สามารถยกระดับผลิตภัณฑ์และวิถีชีวิตให้สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชนอื่นๆ ตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรมท้องถิ่น

งานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงพลังความร่วมมือของชุมชนท้องถิ่น ภาครัฐ และภาคเอกชน ที่มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

พระสิงห์ทรงชัยเหนือสยาม พุทธศิลป์ร่วมสมัยสู่สายตาโลก

พิธีพุทธาภิเษก “พระสิงห์ทรงชัยเหนือสยาม” และ “เมตไตรยกาล” งานพุทธศิลป์ร่วมสมัย เชียงราย

เชียงราย – เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 วัดพระสิงห์ พระอารามหลวง จังหวัดเชียงราย ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกผลงานพุทธศิลป์ร่วมสมัย “พระสิงห์ทรงชัยเหนือสยาม” และ “เมตไตรยกาล” ซึ่งออกแบบโดย ดร.จีรวุฒิ บุญช่วยนำผล ศิลปินผู้มีเอกลักษณ์ด้านการสร้างสรรค์พุทธศิลป์ร่วมสมัย และ อ.อโณทัย บุษราคำวิสิฐ ผู้กำกับงานออกแบบ โดยมีประชาชนร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

พิธีพุทธาภิเษกในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบ 30 ปีที่วัดพระสิงห์ได้รับพระราชทานเป็นพระอารามหลวง โดยมีการจัดสร้างผลงานพุทธศิลป์ในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่

  • พระกริ่งคล้องคอ ขนาด 4 ซม. และพระบูชาขนาด 3 นิ้วและ 5 นิ้ว
  • เหรียญหล่อพุทธศิลป์ ขนาด 5 ซม.
  • พระบูชาพุทธศิลป์เต็มรูปแบบ ขนาดสูง 6 นิ้ว และ 15 นิ้ว

ผลงานทั้งหมดได้รับการออกแบบอย่างประณีตด้วยเทคโนโลยี 3D Sculpture ที่ผสานแนวคิดลายไทยและความร่วมสมัย สร้างสรรค์โดยทีมงานคุณภาพ นำโดย อาจารย์คิว (Jeerawut Boonchuaynampon) และทีมงานจากโรงหล่อระลึก

พุทธศิลป์ที่สะท้อนเอกลักษณ์และความทุ่มเทของศิลปิน

ดร.จีรวุฒิ บุญช่วยนำผล ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน กล่าวถึงกระบวนการสร้างสรรค์ว่า งานทุกชิ้นได้รับการทุ่มเทอย่างเต็มที่และพัฒนาด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) ซึ่งช่วยเพิ่มมิติด้านความกว้าง ยาว และลึกในผลงาน นับเป็นการประยุกต์ศิลป์ที่ยกระดับศิลปะไทยไปอีกขั้น

“ทุกชิ้นงานของผมคือทุกสิ่งทุกอย่าง ผมใช้ทั้งฝีมือและพลังสร้างผลงานให้ดีที่สุด ไม่ใช่เพียงเพื่อสะท้อนความงามทางศิลปะเท่านั้น แต่เพื่อส่งต่อคุณค่าทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ” ศิลปินกล่าว

ความสำคัญของการสร้างผลงานพุทธศิลป์ในยุคดิจิทัล

ศิลปินและทีมงานยังเผยว่าการสร้างผลงานด้วยเทคโนโลยี 3D Sculpture ช่วยให้ผลงานสามารถถ่ายทอดรายละเอียดและความงดงามของลวดลายไทยได้อย่างสมจริง ทั้งยังสะท้อนความร่วมสมัยที่สามารถเชื่อมโยงศิลปะไทยกับนานาชาติ

“ผลงานพุทธศิลป์ร่วมสมัยเหล่านี้ไม่เพียงแต่สะท้อนเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย แต่ยังเป็นสื่อกลางที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่สามารถเข้าใจและเข้าถึงความงามของพุทธศิลป์ไทยได้ง่ายขึ้น” ดร.จีรวุฒิ กล่าว

งานศิลป์ที่เป็นมากกว่าความงาม

ภายในพิธีประชาชนยังได้ชมผลงานสร้างชื่อของศิลปินในอดีต รวมถึงผลงานใหม่ ๆ ที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์และคุณค่า งานแต่ละชิ้นเต็มไปด้วยความหมายและสะท้อนความอุตสาหะของผู้สร้าง

นอกจากนี้ พุทธศิลป์ร่วมสมัยที่จัดแสดงในครั้งนี้ยังผสมผสานระหว่างศิลปะไทยและความเป็นสากลได้อย่างลงตัว สื่อถึงการปรับตัวของศิลปะไทยในยุคใหม่ที่ยังคงรักษารากเหง้าวัฒนธรรมอันล้ำค่า

จุดหมายสู่อนาคตของพุทธศิลป์ไทย

พิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันศิลปะไทยสู่ระดับสากล พร้อมทั้งเชิดชูคุณค่าของพุทธศิลป์ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังสะท้อนจิตวิญญาณแห่งความศรัทธาและวัฒนธรรมไทยที่ล้ำค่า

งานพุทธศิลป์ “พระสิงห์ทรงชัยเหนือสยาม” และ “เมตไตรยกาล” ไม่เพียงแต่เป็นผลงานทางศิลปะ แต่ยังเป็นเครื่องหมายแห่งความศรัทธาและความงดงามที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

โครงการสืบสาน อนุรักษ์ ประเพณีวัฒนธรรม 4 ชนเผ่า ประจำปี 2568 ที่บ้านปางขอน จ.เชียงราย

โครงการสืบสาน อนุรักษ์ ประเพณีวัฒนธรรม 4 ชนเผ่า ประจำปี 2568 ที่บ้านปางขอน จ.เชียงราย

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 ณ สนามโรงเรียนจีนบ้านปางขอน ม.7 ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้มีการจัดพิธีเปิดโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ ประเพณีวัฒนธรรม 4 ชนเผ่า” ประจำปี 2568 ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายวิรัตน์ วงศ์มา แรงงานจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยมี นายยุทธชัย ไอ่ดอ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยชมภู (อบต.ห้วยชมภู) นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้

บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนานและสีสันสดใสจากการแต่งกายในชุดชนเผ่าของผู้ร่วมงาน ซึ่งประกอบไปด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการ เอกชน ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมาก

ส่งเสริมการเรียนรู้และอนุรักษ์วัฒนธรรมชนเผ่า

นายยุทธชัย ไอ่ดอ กล่าวว่า กิจกรรมสืบสาน อนุรักษ์ ประเพณีวัฒนธรรม 4 ชนเผ่านี้ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้เลือกจัดที่โรงเรียนจีนบ้านปางขอน เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้ประชาชนและเยาวชนได้เรียนรู้ถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของชนเผ่าต่าง ๆ ในท้องถิ่น

การจัดงานนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมชนเผ่า รวมถึงนำเสนอวัฒนธรรมเหล่านี้ให้กับนักท่องเที่ยวและสาธารณชนได้รับรู้อย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

กิจกรรมที่หลากหลายเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรม

กิจกรรมในงานประกอบด้วยนิทรรศการวิถีชีวิตของชนเผ่า 4 ชนเผ่าหลัก ได้แก่

  • ชนเผ่าอาข่า
  • ชนเผ่าลาหู่
  • ชนเผ่าอิ้วเมี่ยน
  • ชนเผ่าลีซู

นอกจากนี้ ยังมีการแสดงวัฒนธรรมประจำชนเผ่า เช่น การละเล่นพื้นบ้าน การเต้นรำตามเทศกาลดั้งเดิม และการแสดงที่ปรับปรุงให้ทันสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

นายยุทธชัย กล่าวเสริมว่า งานนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต.ห้วยชมภู รวมถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในพื้นที่ ทั้งในด้านบุคลากร แรงกาย และแรงใจ

การมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้งานนี้สำเร็จลุล่วง โดยทุกคนได้ร่วมมือกันเพื่อสืบทอดประเพณีอันทรงคุณค่าให้คงอยู่ต่อไป

ส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านวัฒนธรรม

นอกจากจะเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมแล้ว งานนี้ยังเป็นช่องทางสำคัญในการส่งเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมชนเผ่า ยังช่วยให้จังหวัดเชียงรายเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม

ข้อสรุป

กิจกรรม “สืบสาน อนุรักษ์ ประเพณีวัฒนธรรม 4 ชนเผ่า” เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงถึงความร่วมมือร่วมใจของประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ ในการสืบทอดวัฒนธรรมอันล้ำค่าให้ยังคงอยู่ และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับการพัฒนาท้องถิ่นในด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

กราฟฟิตี้รุ่นใหม่แต่งแต้มวัดร่องขุ่น สร้างสีสันใหม่เชียงราย

อ.เฉลิมชัย สนับสนุนศิลปะกราฟฟิตี้ สร้างแลนด์มาร์คใหม่ที่วัดร่องขุ่น

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 เฟซบุ๊ก “นรินทร์ ทามาส” ลูกศิษย์ใกล้ชิดของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย เผยแพร่คลิปและภาพผลงานกราฟฟิตี้อันงดงามบนกำแพงข้าง วัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ซึ่งผลงานชิ้นนี้เป็นฝีมือของกลุ่มศิลปินรุ่นใหม่ 3 คน ที่อาจารย์เฉลิมชัยให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

ศิลปะที่เกิดจากการแอบสร้าง กลายเป็นจุดเช็คอินใหม่

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 มีกลุ่มวัยรุ่น 3 คนจากเชียงรายและเชียงใหม่แอบสร้างสรรค์งานกราฟฟิตี้บนกำแพงข้างวัดร่องขุ่น อาจารย์เฉลิมชัยเมื่อเห็นผลงาน ได้ไลฟ์สดตามหาศิลปินเหล่านี้ พร้อมเปิดโอกาสให้กลับมาทำผลงานให้สมบูรณ์ โดยย้ำว่า ไม่ต้องแอบทำ มาให้เสร็จสวยงามเลย” พร้อมมอบเงินจำนวน 10,000 บาทเพื่อสนับสนุนการซื้ออุปกรณ์พ่นสี

หลังจากที่กลุ่มวัยรุ่นติดต่อกลับ พวกเขาก็เริ่มต้นทำงานอีกครั้ง โดยเปลี่ยนผลงานใหม่ให้โดดเด่นและเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ จนเสร็จสมบูรณ์ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา อาจารย์เฉลิมชัยถึงกับกล่าวชื่นชมในคลิปว่า ฝีมือดีขึ้นเยอะมาก สวยงามจนต้องมอบเงินค่าขนมเพิ่ม”

กราฟฟิตี้ที่สร้างความประทับใจ

ผลงานกราฟฟิตี้นี้ไม่เพียงแค่ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยว แต่ยังสะท้อนถึงการสนับสนุนศิลปะรุ่นใหม่ในแบบที่ไม่ซ้ำใคร หลายคนในโซเชียลต่างเข้ามาชื่นชม เช่น สวยงามมากค่ะ เด็กๆ เก่งมากค่ะ”, ยอดเยี่ยมมากครับ”, และ ตามทุกที่ กำลังใจทุกงานครับอาจารย์”

วัดร่องขุ่น: จุดหมายปลายทางแห่งศิลปะ

วัดร่องขุ่นซึ่งเป็นผลงานศิลปะระดับโลกที่ได้รับการออกแบบและสร้างสรรค์โดยอาจารย์เฉลิมชัย ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และตอนนี้กำแพงข้างวัดที่ประดับด้วยกราฟฟิตี้จากศิลปินรุ่นใหม่ก็เพิ่มสีสันให้กับการเยี่ยมชม โดยเป็นแลนด์มาร์คใหม่ที่เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปและสัมผัสบรรยากาศแห่งความสร้างสรรค์

สนับสนุนศิลปะรุ่นใหม่และส่งเสริมเชียงราย

การสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความใจกว้างของอาจารย์เฉลิมชัย แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการผลักดันเชียงรายให้เป็นเมืองแห่งศิลปะที่สร้างแรงบันดาลใจ โดยผลงานกราฟฟิตี้นี้กลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการเชื่อมโยงความคิดสร้างสรรค์และความรักในงานศิลปะเข้ากับชุมชน

ร่วมชมศิลปะกราฟฟิตี้แห่งใหม่ที่วัดร่องขุ่น

สำหรับผู้สนใจสามารถมาชมผลงานนี้ได้ที่กำแพงข้างวัดร่องขุ่น พร้อมดื่มด่ำกับความงามที่เต็มไปด้วยจินตนาการและความตั้งใจจากศิลปินรุ่นใหม่ งานนี้ไม่ควรพลาด!

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ประเพณีกินวอ ชุมชนลาหู่ เชียงราย เฉลิมฉลองปีใหม่วัฒนธรรมเหนือ

วธ.ร่วมเฉลิมฉลองประเพณีกินวอ กลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ ชุมชนวัดห้วยปลากั้ง เชียงราย

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม 2568 เวลา 09.00 น. ณ ลานวัฒนธรรมชาติพันธุ์ลาหู่ ชุมชนวัดห้วยปลากั้ง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นำโดยนางสาวณพิชญา นันตาดี นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และทีมงาน ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ หรือ ประเพณีกินวอ ของกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ เพื่อสืบสานและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีสำคัญของชุมชน

ประเพณีกินวอ: การเฉลิมฉลองที่มีเอกลักษณ์

ประเพณีกินวอ ถือเป็นประเพณีสำคัญของชาวลาหู่ ที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิต ศาสนา และวัฒนธรรมของเผ่า โดยการเฉลิมฉลองเริ่มต้นด้วย พิธีรดน้ำอวยพร เพื่อส่งความสุขและความเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ ต่อด้วย การเต้นจะคึ ซึ่งเป็นการเต้นรำเพื่อบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในธรรมชาติ และแสดงความกตัญญูต่อพระเจ้า

ชาวลาหู่ทั้งชายและหญิงต่างแต่งกายในชุดประจำชาติพันธุ์ที่มีสีสันสดใสและลวดลายที่สวยงาม เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์และภูมิปัญญาของชุมชน นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การสาธิตตำข้าวปุ๊ก ซึ่งเป็นอาหารพื้นถิ่น การละเล่นสะบ้า และ การตีลูกข่าง ที่สร้างความสนุกสนานและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในชุมชน

การส่งเสริมความสัมพันธ์และวัฒนธรรม

การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในชุมชน การสืบทอดประเพณีให้แก่คนรุ่นใหม่ และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่มีคุณค่า โดยมีผู้เข้าร่วมงานทั้งจากชุมชนลาหู่ในพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศ

นางสาวณพิชญา นันตาดี นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ กล่าวว่า ประเพณีกินวอเป็นประเพณีที่สะท้อนถึงความสามัคคีและความเป็นหนึ่งเดียวของชาวลาหู่ นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนผ่านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างชาติพันธุ์ต่าง ๆ

ความสำคัญของประเพณีกินวอ

ประเพณีกินวอของชาวลาหู่มีรากฐานมาจากความเชื่อและความศรัทธาในธรรมชาติและพระเจ้า โดยในอดีต การจัดงานกินวอมีขึ้นเพื่อแสดงความกตัญญูต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองชุมชน รวมถึงการขอพรให้ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ความสุข และความสงบสุข

พิธีกรรมและกิจกรรมในงาน ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและมีเอกลักษณ์ของชาวลาหู่ แต่ยังเป็นการส่งต่อคุณค่าแห่งความสามัคคีและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคม

ประเพณีกินวอกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว

การจัดงานกินวอในปีนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ทำให้พื้นที่ลานวัฒนธรรมชาติพันธุ์ลาหู่กลายเป็นจุดหมายที่นักเดินทางหลายคนเลือกมาเยือนในช่วงเทศกาลปีใหม่ การเฉลิมฉลองในครั้งนี้ยังสะท้อนถึงศักยภาพของเชียงรายในฐานะเมืองแห่งวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์

การสนับสนุนจากวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสืบสานประเพณีท้องถิ่น พร้อมสนับสนุนกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมและพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง โดยมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและชุมชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับวัฒนธรรมชาติพันธุ์

สรุป

การเฉลิมฉลองประเพณีกินวอของกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการสืบสานขนบธรรมเนียมที่มีคุณค่า แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความตระหนักถึงการอนุรักษ์วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้วัฒนธรรมลาหู่และประเพณีกินวอ สามารถเยี่ยมชมงานประจำปีได้ที่ลานวัฒนธรรมชาติพันธุ์ลาหู่ ชุมชนวัดห้วยปลากั้ง จังหวัดเชียงราย งานที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์วัฒนธรรมและความสนุกสนานที่ไม่ควรพลาด!

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ส่งเสริมศิลปะพื้นบ้านเชียงราย ขับเคลื่อน Soft Power สร้างรายได้ชุมชน

เชียงรายจัดกิจกรรมส่งเสริมศิลปะการแสดงพื้นบ้าน ขับเคลื่อน Soft Power ด้วยมิติวัฒนธรรม

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ณ ห้องประชุมหอปรัชญารัชกาลที่ ๙ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และเครือข่ายสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย จัดกิจกรรม “ส่งเสริมศิลปะการแสดงพื้นบ้าน สร้างงาน สร้างรายได้”

เปิดงานโดยประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

กิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เป็นผู้กล่าวต้อนรับและเปิดงาน โดยกิจกรรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อนำศิลปะการแสดงพื้นบ้านมาสร้างคุณค่าทางสังคมและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ

เป้าหมายของการจัดกิจกรรม

กิจกรรมนี้มุ่งเน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและองค์กรเครือข่ายในการสืบสาน รักษา และต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างความมั่นคงทางวัฒนธรรมและขับเคลื่อน Soft Power ด้วยมิติวัฒนธรรม สู่เศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน

เสวนาหัวข้อสำคัญ: ส่งเสริมศิลปะพื้นบ้านสร้างรายได้

กิจกรรมสำคัญในงานคือการเสวนาหัวข้อ “ส่งเสริมศิลปะการแสดงพื้นบ้านจังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างรายได้ สร้างงาน และความมั่นคงทางวัฒนธรรม” โดยมีผู้นำเสวนาที่มากด้วยประสบการณ์ ได้แก่

  1. นางวนิดาพร ธิวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม
  2. นายนิรันดร์ แปงคำ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอพาน
  3. นายธันวา เหลี่ยมพันธุ์ ประธานองค์กรภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองเชียงของ

การเสวนาได้รับการดำเนินรายการโดย ดร.รัชฏ์พันธ์ รัชนีวงศ์ รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางการส่งเสริมศิลปะพื้นบ้านให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

การแสดงศิลปะพื้นบ้านจาก 5 อำเภอ

ภายในงานมีการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่หลากหลายและสะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ในจังหวัดเชียงราย ได้แก่:

  1. การแสดงฟ้อนดาบ โดยนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
  2. การขับร้องพื้นเมือง จากสภาวัฒนธรรมอำเภอแม่สรวย
  3. การฟ้อนเจิง จากสภาวัฒนธรรมอำเภอเชียงแสน
  4. การแสดงชาติพันธุ์เทอดไทย จากสภาวัฒนธรรมอำเภอแม่ฟ้าหลวง
  5. การแสดงตอกเส้นประกอบดนตรี จากสภาวัฒนธรรมอำเภอพาน

บูธจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรมจาก 18 อำเภอ

อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานคือการออกบูธจำหน่ายและสาธิตมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมจากเครือข่ายสภาวัฒนธรรมทั้ง 18 อำเภอในจังหวัดเชียงราย ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายและความงดงามของวัฒนธรรมพื้นถิ่น

การสนับสนุนจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่จากกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม รวมถึงนักวิชาการวัฒนธรรมจากทุกอำเภอในเชียงรายเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างองค์กร

ส่งเสริม Soft Power ผ่านศิลปะและวัฒนธรรม

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างงานและรายได้ให้แก่ชุมชน แต่ยังส่งเสริมการใช้มิติทางวัฒนธรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดเชียงรายในฐานะเมืองแห่งวัฒนธรรม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE TRAVEL

เทศกาลชิมชา วัฒนธรรมชนเผ่า และของดีดอยแม่สลอง ครั้งที่ 27

สัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรมชนเผ่าและชาเลิศรสในงาน “เทศกาลชิมชา วัฒนธรรมชนเผ่า และของดีดอยแม่สลอง ครั้งที่ 27”

องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก จังหวัดเชียงราย เชิญชวนทุกท่านร่วมสัมผัสความงดงามของศิลปะและวัฒนธรรมชนเผ่าในงาน “เทศกาลชิมชา วัฒนธรรมชนเผ่า และของดีดอยแม่สลอง ครั้งที่ 27” ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2567 – 2 มกราคม 2568 ณ พิพิธภัณฑ์วีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติภาคเหนือ ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

ดอยแม่สลอง: เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมชนเผ่าและธรรมชาติ

ดอยแม่สลองถือเป็นพื้นที่สำคัญที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและธรรมชาติอันงดงาม ภูมิประเทศบนยอดเขาสูงที่มีถึง 5 ยอด และระดับความสูงเฉลี่ย 1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มอบวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดปี พื้นที่รวมกว่า 115.26 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 72,045 ไร่

ในช่วงฤดูหนาว อากาศจะเย็นสบายเป็นพิเศษ โดยอุณหภูมิต่ำสุดอาจลดลงถึง 3 องศาเซลเซียส ซึ่งเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวและเพลิดเพลินกับกิจกรรมภายในงาน

กิจกรรมภายในงานที่ไม่ควรพลาด

  1. การประกวดชาคุณภาพของดอยแม่สลอง
    งานนี้เปิดโอกาสให้ผู้ปลูกชาและผู้ผลิตชาคุณภาพในพื้นที่ได้แสดงศักยภาพผ่านการประกวดชาชั้นนำ
  2. การประกวดธิดาชา
    สาวงามผู้มีความรู้และความสามารถเกี่ยวกับชาและวัฒนธรรมชนเผ่าจะแข่งขันกันในงานนี้
  3. การแข่งขันทำอาหารชนเผ่า
    พบกับอาหารพื้นเมืองที่สะท้อนเอกลักษณ์ของชนเผ่าดอยแม่สลอง
  4. การแสดงชาติพันธุ์ชนเผ่า
    เพลิดเพลินกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากชนเผ่าต่าง ๆ ทั้งการแต่งกาย เสียงเพลง และท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์
  5. การประกวดขบวนชาติพันธุ์ชุมชนดอยแม่สลอง
    ชมขบวนแห่ที่สื่อถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันหลากหลาย
  6. นิทรรศการมากมาย
    เรียนรู้ประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาชุมชนผ่านนิทรรศการที่จัดแสดงอย่างสร้างสรรค์

เชียงราย: เมืองสร้างสรรค์ระดับโลก

เชียงรายได้รับการยอมรับในระดับสากลในฐานะเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยได้รับการผลักดันจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ที่มองเห็นศักยภาพในอดีตและอนาคตของพื้นที่นี้

ในปี 2566 เชียงรายต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 6.14 ล้านคน และสร้างรายได้กว่า 46,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึงร้อยละ 20-30 และในปี 2567 ตัวเลขนักท่องเที่ยวยังคงเพิ่มขึ้น โดยในเดือนตุลาคมเพียงเดือนเดียวมีผู้เยี่ยมชมแล้วกว่า 4.9 ล้านคน

ปิดท้ายด้วยการสนับสนุนการพัฒนาท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ร่วมมือกับชุมชนในพื้นที่เพื่อส่งเสริมเชียงรายในฐานะอุทยานธรณีโลกที่เน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติและวัฒนธรรมไปพร้อมกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • สถานที่จัดงาน: พิพิธภัณฑ์วีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติภาคเหนือ ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
  • วันที่: 28 ธันวาคม 2567 – 2 มกราคม 2568
  • ติดต่อสอบถาม: องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองนอก โทร. 053-765129

ร่วมสนุกและสัมผัสวัฒนธรรมอันงดงามได้ในงานนี้!

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงรายเดินหน้าขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ ด้านการออกแบบระดับโลก

ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ นำสื่อมวลชนสำรวจเชียงราย เมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้นำคณะสื่อมวลชนจากกรุงเทพมหานคร และสื่อมวลชนท้องถิ่น ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการขับเคลื่อน เชียงรายเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ ภายใต้การรับรองของยูเนสโกในปี 2566

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมและสื่อมวลชน พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาเชียงรายให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การท่องเที่ยว และคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่

พื้นที่ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์และจุดเชื่อมโยงศิลปะ

คณะสื่อมวลชนได้เข้ารับฟังข้อมูลจาก รศ.ดร.พลวัฒ ประพัฒน์ทอง อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในฐานะ UCCN Main Communication Contact ของเชียงราย และได้ชมสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งเชื่อมโยงกับการเป็นเมืองสร้างสรรค์ โดยมีไฮไลต์ดังนี้

  1. บ้านสิงหไคล มูลนิธิมดชนะภัย
    ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเชียงราย เป็นศูนย์กลางการจัดแสดงผลงานศิลปะที่เชื่อมโยงกับเรื่องราวความงามและวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงราย ที่นี่เป็นที่ตั้งของศูนย์ประสานงานการขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ หรือ UCCN Focal Point ซึ่งรวบรวมผลงานของศิลปินชื่อดังและศิลปินแห่งชาติ
  2. ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรก
    พื้นที่แห่งนี้ได้รับคัดเลือกให้เป็น ศูนย์ TCDC เชียงราย โดยเป็นศูนย์กลางสำหรับผู้ที่สนใจด้านความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และพัฒนาไอเดียใหม่ๆ ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับชุมชนและนักออกแบบ
  3. หอนาฬิกาพุทธศิลป์
    ชมความงดงามของหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ เชียงราย หรือหอนาฬิกาพุทธศิลป์ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่สะท้อนความสร้างสรรค์และอัตลักษณ์ของศิลปะเชียงราย
  4. วัดพระธาตุดอยจอมทอง และอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช
    พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความศักดิ์สิทธิ์ โดยอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ตั้งอยู่บริเวณห้าแยกพ่อขุน เพื่อรำลึกถึงพระเกียรติคุณของพระองค์ผู้ก่อตั้งเมืองเชียงราย
  5. พิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
    เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และชีวิตของผู้คนในลุ่มแม่น้ำโขง สะท้อนถึงความสำคัญของพื้นที่ในแง่ของภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจ
  6. ดอยดินแดง เครื่องปั้นดินเผา
    เป็นสถานที่สำคัญที่แสดงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นและความสร้างสรรค์ในการผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียงของเชียงราย

การยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว

ในปี 2568 อพท. มีแผนที่จะยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษจังหวัดเชียงราย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง รวมถึงผลักดันแหล่งธรณีวิทยาเชียงรายให้เข้าสู่ เครือข่ายอุทยานธรณีโลก (Global Geopark) ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่ยั่งยืน

จังหวัดเชียงราย ได้รับการยอมรับจาก ยูเนสโก ให้เป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ UCCN ด้านการออกแบบ หรือ City of Design ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการพัฒนาพื้นที่ผ่านการผสมผสานศิลปะ วัฒนธรรม และการออกแบบที่มีความโดดเด่น เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่

การนำคณะสื่อมวลชนในครั้งนี้ เป็นการเผยแพร่และสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพของเชียงรายในการเป็นเมืองสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น เพื่อนำเชียงรายสู่เวทีระดับโลกอย่างยั่งยืน

เชียงราย เมืองแห่งความคิดสร้างสรรค์ เดินหน้าสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ผสมผสานศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนสำหรับการท่องเที่ยวและการออกแบบระดับโลก

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News