
พะเยาดับไฟป่าบ่อสิบสองแล้ว ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ให้กำลังใจ
พะเยา, 17 กุมภาพันธ์ 2568 – ผู้ว่าฯ พะเยา ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดไฟไหม้บ่อสิบสอง ยืนยันสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ด้าน มทบ.34 ปฏิเสธข้อกล่าวหา ซ้อมยิงปืนใหญ่ไม่ใช่สาเหตุไฟป่า
ผู้ว่าฯ พะเยาตรวจสอบไฟป่า บ่อสิบสอง
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15.00 น. นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย นายนิกร ยะกะจาย นายอำเภอเมืองพะเยา, นางลักษวรรณ พวงไม้มิ่ง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพะเยา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ป่านันทนาการบ่อสิบสอง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา เพื่อตรวจสอบจุดเกิดไฟไหม้และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่เข้าควบคุมสถานการณ์
นายถวิล จันธิยศ ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้พะเยา กรมป่าไม้ รายงานว่า ไฟป่าดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเย็นวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2568 โดยเปลวเพลิงได้ลุกไหม้เข้าพื้นที่ป่านันทนาการบ่อสิบสอง เจ้าหน้าที่จึงเร่งเข้าไปดับไฟและทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันการลุกลาม โดยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เบื้องต้นพบว่า พื้นที่ป่านันทนาการบ่อสิบสองได้รับความเสียหายประมาณ 5 ไร่
ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวัง และป้องกันไม่ให้เกิดการเผาในพื้นที่ พร้อมสั่งการให้ผู้นำท้องที่และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างความเข้าใจกับประชาชน เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของสถานการณ์ เพื่อลดความขัดแย้งและป้องกันการแพร่กระจายของข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
มณฑลทหารบกที่ 34 ชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่ใช่สาเหตุไฟป่า
มณฑลทหารบกที่ 34 (มทบ.34) ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ไฟป่าบ่อสิบสองเกิดจากการฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่ของทหาร ซึ่งทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลามเป็นวงกว้างเสียหายกว่า 500 ไร่ โดยระบุว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง
แถลงการณ์ระบุว่า เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 หน่วย ป.4 พัน.17 ได้ดำเนินการฝึกยิงปืนใหญ่ที่ บ้านเกษตรพัฒนา โดยใช้พื้นที่เป้าหมายที่ เขาบ้านร่องปอ ก่อนการฝึก หน่วยงานทหารได้เข้าพบชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 7 และ 14 ตำบลดงเจน พร้อมร่วมประชุมและรณรงค์ป้องกันไฟป่าอย่างเข้มข้น
ต่อมาในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เกิดไฟป่าลุกลามบริเวณใกล้เคียงกับจุดฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่ อย่างไรก็ตาม มทบ.34 ยืนยันว่า กระสุนปืนใหญ่ที่ใช้ในการฝึกซ้อมไม่มีคุณสมบัติในการทำให้เกิดไฟป่า อีกทั้งหลังเกิดเหตุ ทางมณฑลทหารบกที่ 34 ได้จัดกำลังพลเข้าร่วมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการควบคุมเพลิงทันที
ทหารและเจ้าหน้าที่ภาคส่วนต่าง ๆ สนธิกำลังดับไฟป่า
ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในพื้นที่ป่านันทนาการบ่อสิบสอง กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 17 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 4 ได้จัดกำลังพลจิตอาสาพระราชทานและชุดควบคุมไฟป่า เข้าสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการควบคุมเพลิง โดยได้มีการเดินเท้าเข้าไปในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติแม่ปืม เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟป่าลุกลามเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 12.30 น. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สนธิกำลังกันเข้าไปดับไฟป่าในพื้นที่ ป่าหินบ่อสิบสอง ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมืองพะเยา โดยทำการ สร้างแนวกันไฟ และปฏิบัติการควบคุมเพลิงจนสามารถดับไฟได้ทั้งหมด
เพจอย่างเป็นทางการของ มณฑลทหารบกที่ 34 ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมว่า ไฟป่าที่ลุกลามเกิดขึ้นในพื้นที่ป่านันทนาการบ่อสิบสองจริง แต่พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมีเพียง 5 ไร่ ไม่ใช่ 500 ไร่ตามที่เป็นข่าว ขณะที่พื้นที่ที่เหลือซึ่งได้รับผลกระทบเป็น พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยบงและป่าห้วยเคียน โดยทางทหารได้เข้าร่วมสนับสนุนกำลังพลเพื่อช่วยควบคุมสถานการณ์
ผู้ว่าฯ พะเยาลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ ยืนยันไฟป่าดับสนิทแล้ว
ล่าสุด นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้นำคณะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหายจากเหตุไฟป่า พร้อมรายงานว่าสถานการณ์ กลับสู่ภาวะปกติ และเจ้าหน้าที่สามารถ ดับไฟป่าได้ทั้งหมดแล้ว
ผู้ว่าฯ พะเยา กล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินมาตรการเฝ้าระวังไฟป่าอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมเตรียมมาตรการระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่าอย่างยั่งยืน
สรุป
เหตุไฟป่าในพื้นที่ ป่านันทนาการบ่อสิบสอง จังหวัดพะเยา ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2568 ได้รับการควบคุมเรียบร้อยแล้ว โดยมีพื้นที่เสียหาย 5 ไร่ ขณะที่ มณฑลทหารบกที่ 34 ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าการฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่เป็นสาเหตุของไฟป่า พร้อมส่งกำลังพลเข้าช่วยดับเพลิงจนสถานการณ์คลี่คลาย
ขณะนี้จังหวัดพะเยาอยู่ระหว่างการ เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังไฟป่า และขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดการเผาในพื้นที่ เพื่อป้องกันปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5 ในอนาคต
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพะเยา