Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ส่งมอบบ่อน้ำบาดาล ให้โรงเรียนเพื่ออาข่า – เย้า – ม้ง เชียงราย

 

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ที่โรงเรียนนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา พร้อมด้วยกรรมาธิการวิสามัญ และอนุกรรมาธิการ ได้ส่งมอบบ่อน้ำบาดาลให้โรงเรียนนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา โดยมี นายไชยรัตน์ จินะราช รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 นายอภิวัฒน์ พรหมขาม ปลัดอำเภอแม่จัน นายนิคมภาค หวายบุตร ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง จังหวัดเชียงราย นายเกียรติณรงค์ มงคลดี ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา และนายโชคเอก พาณิชยญากิจ นายกเทศมนตรีตำบลป่าซาง ให้การต้อนรับและร่วมรับมอบ

 

การส่งมอบบ่อน้ำบาดาลให้โรงเรียนนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขาครั้งนี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา ได้รับความเมตตาจากพระไพศาลประชาทร วิ. (พระอาจารย์พบโชค ติสสฺวํโส) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง สนับสนุนการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล มูลค่า 250,000 บาท พร้อมกันนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญได้สนับสนุนอุปกรณ์กีฬา ข้าวสาร และเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียน นอกจากนี้นักศึกษาแผนกคหกรรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย ได้ร่วมจัดกิจกรรมสอนทำพิซซ่า (พี่สอนน้อง) ให้กับนักเรียนโรงเรียนนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขาด้วย
 
 
โรงเรียนนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา เลขที่ 99 หมู่ที่ 15 ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 3 สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล 2 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีเนื้อที่
 
 
32 ไร่ 1 งาน 51 ตารางวา มีภูมิประเทศเป็นเนินเขา ลักษณะเป็นหมู่บ้านแบบชนบทบริเวณใกล้เคียงโดยรอบโรงเรียน ได้แก่ บ้าน, สวนยางและทุ่งนา อาชีพหลักของชุมชน คือเกษตรกรรมและรับจ้าง
 
 
คนในชุมชนนับถือศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์ มีทั้งคนพื้นเมือง, ชนเผ่าอาข่า, ชนเผ่าเมี่ยน(เย้า), และม้ง ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์และพุทธ ปัจจุบันโรงเรียนนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา มีจำนวนข้าราชการครูและบุคลากรทั้งหมด 21 คน ผู้อำนวยการโรงเรียน 1 คน ข้าราชการครู 15 คน ครูอัตราจ้าง 4 คน และนักการภารโรง 1 คน ปีการศึกษา 2566 มีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 326 คน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายกเทศมนตรีนครเชียงราย “ดร.วันชัย จงสุทธานามณี” รับพระราชทานปริญญารัฐประศาสนาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์

 

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ณ หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้รับพระราชทานปริญญารัฐประศาสนาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. มนัส สุวรรณ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ได้อ่านรายนามผู้ได้รับ พระราชทานปริญญารัฐประศาสนาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ในลำดับที่ 4 #นายวันชัยจงสุทธามณีนายกเทศมนตรีนครเชียงรายอุทิศตนทำหน้าที่เป็นผู้แทนประชาชนยาวนานกว่า20ปี มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการการศึกษาผ่านเครือข่ายโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครเชียงราย 8 แห่ง ร่วมก่อตั้งมหาวิทยาลัยวัยที่สาม เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของพลเมืองในทุกช่วงวัย และมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ควรแก่การยกย่องเป็นอย่างยิ่ง สภามหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย เห็นสมควรให้ได้รับปริญญารัฐประศาสนศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ เพื่อเป็นเกียรติประวัติสืบไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

กิจกรรมเปิดงาน “พลัดถิ่น ดินแดนใคร” Thailand Biennale, Chiang Rai 2023

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2566 กิจกรรมเปิดงาน “พลัดถิ่น ดินแดนใคร”  ณ ลานกิจกรรมสามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ครั้งที่ 3 โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ จังหวัดเชียงราย ภายใต้ธีม “เปิดโลก”

มีนายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023  ร่วมถึงนายเชาว์วัฒน์ รัตนการุณจิต ปลัดอำเภอเชียงแสน (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) ปฏิบัติราชการแทน นายอำเภอเชียงแสน กล่าวต้อนรับ ท่านกงสุล กฤษณะ จัยตัญญา กงสุลอินเดียประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวพบปะผู้มีเกียรติและศิลปินผู้เข้าร่วมงานคุณนาวิน ลาวัลย์ชัยกุล ศิลปิน กล่าวถึงผลงานและเล่าถึงป๊อเฒ่าติ๊บ สรนันท์

 

โอกาสนี้ คุณกฤษ์ฤทธิ์ ตีระวานิช ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ พร้อมด้วย คุณกฤติยา กาวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ คุณอังกฤษ อัจฉริยโสภณ ภัณฑารักษ์ คุณมนุพร เหลืองอร่าม ภัณฑารักษ์ และคณะบุคลากรจากสำนักงานศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียงกัน

 

จัดโดยคุณนาวิน ลาวัลย์ชัยกุล ศิลปิน และทีมงานสตูดิโอเค จัดพิธีเปิดงานในผลงานชุดนี้ยังเป็นส่วนขยายของงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับชุมชนพลัดถิ่นในพื้นที่เขตติดต่อชายแดนภาคเหนือตอนบนของไทย โดยผลงานส่วนแรกได้นำไปจัดแสดงที่ศูนย์ศิลปะแห่งเมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน ต่อเนื่องมาถึงงานที่พัฒนาขึ้นในครั้งนี้ ได้เลือกพื้นที่ประวัติศาสตร์ของเมืองเก่าเชียงแสน ในการออกเดินทางเพื่อศึกษาความเป็นมาของชุมชนบริเวณริมน้ำโขง โครงการนี้ยังได้ขยายขอบเขตไปยังเมืองเชียงตุงและเมืองชนบทอื่น ๆ ในเขตรัฐฉานของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

 

โดยมีเป้าหมายในการสำรวจวิถีชีวิตและการย้ายถิ่นฐานของชาวไต ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของชนชาติไทย ศิลปินยังได้สำรวจการเปลี่ยนแปลงของชุมชนในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่เป็นคิงส์โรมัน ประสบการณ์จากผู้คนที่ศิลปินได้พบปะตลอดการเดินทาง

 

ซึ่งบ่อยครั้งมักเกี่ยวพันกับภูมิหลังส่วนตัวและรากเหง้าของบรรพบุรุษก่อเกิดเป็นกระบวนการทางศิลปะที่เชื่อมระหว่างศิลปะและชุมชนเข้าด้วยกัน ประวัติศาสตร์ของชุมชนและการตั้งถิ่นฐานของผู้คนหลากหลายกลุ่มในพื้นที่นี้ร้อยเรียงขึ้นเป็นชุดผลงานศิลปะผ่านบันทึกการเดินทางของศิลปินจนเกิดเป็นผลงานจิตรกรรมแนวโปสเตอร์หนังอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินและทีมงานสตูดิโอเค

 

นำโดยช่างวาดภาพโรงหนังยุคสุดท้ายของไทยเชื่อมต่อกับภาพยนตร์สารคดีซึ่งประพันธ์ขึ้นจากจดหมายฉบับหนึ่งที่ศิลปินเขียนถึงชาวเชียงแสน เพื่อบอกเล่าประสบการณ์ในการเดินทาง การทำเสียงบรรยายภาพยนตร์สารคดีชุดนี้ศิลปินเลือกใช้ภาษาถิ่นทางภาคเหนือด้วยสำเนียงที่แตกต่างกันผสมผสานกับภาษาอื่น ๆ ของกลุ่มคนพลัดถิ่นรวมทั้งชนกลุ่มน้อยเพื่อสะท้อนถึงความหลากหลายทางชาติพันธุ์ของผู้คนชาวเชียงแสน

 

จัดแสดงอยู่ในพื้นที่จุดชมวิวสามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน ซึ่งเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำโขงและแม่น้ำรวกอันเป็นเขตติดต่อระหว่างไทย ลาว เมียนมา สอดคล้องกับชื่อผลงาน “พลัดถิ่น ดินแดนใคร” ชี้ให้เห็นแนวคิดเรื่องเขตแดนที่เปลี่ยนแปลงไปจากโลกในอดีตอันส่งผลต่อวิถีชีวิตและการโยกย้ายถิ่นฐานผู้คนในแต่ละยุคสมัย วัฒนธรรม ชาติพันธุ์ และมุมมองทางสังคมที่หลากหลาย ซึ่งการจัดงานดังกล่าว มีกิจกรรมสำคัญ ดังนี้

  1. การแสดงดนตรีของ พ่อเฒ่าติ๊บ สรนันท์ และคณะ
  2. รำนกรำโต โดย กลุ่มเยาวชนบ้านสบรวก
  3. รำกลองมองเซิง โดยชุมชนชาวไต บ้านสบรวก
  4. การฉายภาพยนตร์ “พลัดถิ่น ดินแดนใคร” จดหมายจากนาวินถึงชาวเชียงแสน
  5. การแสดงนิทรรศการภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองเชียงแสน โดย แสนศิลป์เชียงราย
  6. นิทรรศการและการแสดง โดย กลุ่มชาตพันธุ์ในเชียงแสน
  7. การถ่ายภาพที่ระลึกกับชาวเชียงแสน
  8. การบริการอาหารและเครื่องดื่ม อาหารพื้นเมืองอัตลักษณ์ของท้องถิ่น

ในโอกาสนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางพรทิวา ขันธมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม นางกัลยา แก้วประสงค์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และนายพร้อมพงษ์ ทาสิทธิ์ ข้าราชการและบุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมงาน ดังกล่าว

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

พัชรนันท์ แก้วจินดา, สุพจน์ ทนทาน : รายงาน 
พร้อมพงษ์ ทาสิทธิ์ : ภาพ 
อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการข่าว 
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายอำเภอแม่สรวยลงพื้นที่ “แก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวน”

 
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย บ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย นายอุดม ปกป้องบวรกุล นายอำเภอแม่สรวย เป็นประธานการประชุมคณะทำงานตรวจสอบแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติท้องที่อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย 
 
จากนั้นได้ปล่อยแถวคณะทำงานฯ จำนวน 4 ชุดปฏิบัติการ ได้แก่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย กองร้อย ตชด.ที่ 327 ที่ทำการปกครองอำเภอแม่สรวย กองร้อย อส. อ.แม่สรวยที่ 12 กำนันตำบลวาวี ผู้ใหญ่บ้าน สภ.แม่สรวย หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้แม่สรวย และองค์การบริหารส่วนตำบลวาวี ออกตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 20 จุด 
 
 
โดยตรวจสอบข้อมูลการถือครองที่ดินที่ทำกิน และที่อยู่อาศัย รวมถึงสถานที่ที่ทำการก่อสร้าง ที่ลักษณะเป็นอาคารที่พัก รีสอร์ท หรือโฮมสเตย์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ซึ่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) เป็นผู้รวบรวมข้อมูล และนำผลการตรวจพื้นที่ไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลการถือครองที่ดินที่ทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ รวมถึงตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัยของอาคาร ตลอดจนความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย อีกทั้งได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการในพื้นที่ชะลอการก่อสร้าง หากพบการฝ่าฝืน จะมีการจับกุมดำเนินคดีทันที และจะมีผลต่อการพิจารณาจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามแนวนโยบาย คทช.ต่อไป
 
 
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2566 นายอุดม ปกป้องบวรกุล นายอำเภอแม่สรวย ได้สั่งการให้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และด่านชุมชน ระดับตำบล หมู่บ้าน ออกตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยภายใต้ “อำเภอบำบัดทุกข์บำรุงสุข” ภายใน 2 หมู่บ้าน ได้แก่หมู่ 10 บ้านห้วยม่วง ตำบลแม่สรวย และหมู่ที่ 22 บ้านเหล่าพัฒนา ต.ป่าแดด พบว่าทั้ง 2 หมู่บ้าน สถานการณ์สงบเรียบร้อยปลอดภัย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สสจ.เชียงราย เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี PM2.5

 
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่ห้องประชุมพุทธรักษา อาคาร 1 ชั้น 1 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นายแพทย์คงศักดิ์ ชัยชนะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) โดยมีคณะผู้บริหาร หัวหน้ากลุ่มงาน และเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม พร้อมทั้งร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมออนไลน์ ร่วมกับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ สาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลชุมชน ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
 
 
ที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กของจังหวัดเชียงราย กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก และแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ปี 2567 แนวทางการเฝ้าระวังด้านสุขภาพและสถานการณ์กลุ่มโรคที่ต้องเฝ้าระวัง แนวทางการเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินฯ พร้อมทั้งร่วมพิจารณาหารือ การดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในระดับอำเภอ และทบทวนผังการทบทวนผังโครงสร้างบัญชาการเหตุการณ์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข 
 
 
กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ระดับอำเภอ ทบทวนข้อมูลทรัพยากร (หน้ากากอนามัย,ห้องปลอดฝุ่น) การจัดบริการทางการแพทย์ คลินิกมลพิษ Onsite/Online ทีมปฏิบัติการเชิงรุก การรายงานโรคในระบบเฝ้าระวังกระทบด้านสุขภาพจากปัญหาหมอกควัน พร้อมทั้งการรณรงค์สมัครและประเมินห้องปลอดฝุ่น และการดูแลเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดับไฟป่า
 
ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านสาธารณสุขของจังหวัดเชียงราย ในการเตรียมการรับมือหากเกิดผลกระทบทางด้านสุขภาพของประชาชน จากฝุ่น Pm2.5 ต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สสจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“นกอีโก้ง” นกในฤดูหนาว สีสดสวยในป่าชุ่มน้ำลุ่มน้ำอิงตอนปลาย

 
 

เมื่อวันที่ 7-8 ธันวาคม 2566 ทางทีมสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตโพสต์ผ่านเฟสบุ๊ค สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต  หลังได้ร่วมกับอาจารย์สุทธิ มลิทอง ผู้อำนวยการสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย จากการสำรวจ พบนกทั้งหมดจาก 4 ชุมชนมี 83 ชนิด แบ่งเป็นบ้านได้ดังนี้ บ้านป่าข่า 54 ชนิด บ้านป่าบง 58 ชนิด บ้านม่วงชุม 54 ชนิด และบ้านบุญเรือง 56 ชนิด ได้ทำการสำรวจนกในฤดูหนาว 4 ชุมชนได้แก่ 

1)บ้านม่วงชุม ตำบลครึ่ง 

2)บ้านบุญเรืองใต้ ตำบลบุญเรือง อำเภอเชียงของ 

3)บ้านป่าข่า ตำบลป่าตาล 

และ4)บ้านป่าบง ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย 

 

จาการสำรวจนับนกของทางสมาคมในครั้งนี้ ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจกับนกสีสวยสดใสตัวนี้ คือนกอีโก้ง ชื่อภาษาอังกฤษ / Purple Swamphen, Purple Gallinule, Purple Swamp-Hen และชื่อทางวิทยาศาสตร์ Porphyrio porphyrio เป็นนกน้ำขนาดลักษณะกลาง หัวเป็นสีทองอมน้ำเงิน ลำตัวด้านบนสีน้ำเงินอมม่วง ใต้คางและอกสีน้ำเงินอมเขียว ท้องและสีข้างสีน้ำเงินอมม่วง ต้นขาสีน้ำเงินอมเขียว หัว ไหล่ และขนปีกสีน้ำเงินอมเขียว ปีกสั้น นัยน์ตาสีแดง จะงอยปาก และแผ่นที่หน้าผากสีแดง ขาและนิ้วเท้ายาวมาก และมีสีแดงอมน้ำตาล ปากหนาและแบนข้าง มีสีแดง-สีน้ำตาลแดง เป็นนกที่มีขาค่อนข้างยาว เป็นนกที่เด่นสะดุดตาในการสำรวจในครั้งนี้ ที่หนองน้ำบ้านป่าข่า นกอีโก้งยืนหากินอยู่บนแพกอหญ้ากลางหนองน้ำ 1 คู่
 
 
กิจกรรมการนับนกและการออกแบบเส้นทางเรียนรู้นกในป่าชุ่มน้ำทั้ง 4 ชุมชน เพื่อเป็นการสำรวจจำนวนนกน้ำในป่าชุ่มน้ำในทั้ง 3 ฤดู คือฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว ครั้งนี้เป็นการสำรวจนกน้ำตัวแทนของในช่วงฤดูฝน มีการพบนกในป่าชุ่มน้ำอย่างน้อย 42 ชนิด จาก 4 ป่า ซึ่งทั้ง 4 ป่าชุ่มน้ำกำลังอยู่ในการขอขึ้นทะเบียนพื้นที่ชุ่มน้ำแรมซ่าไซด์ ที่อยู่ในระหว่างการกรอกข้อมูลให้กับหน่วยงานกรรมการพื้นที่ชุ่มน้ำ
 
 
จากการสำรวจพบว่าป่าชุ่มน้ำเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญของนก โดยทางอาจารย์สุทธิ มลิทอง ได้กล่าวถึงป่าชุ่มน้ำว่ามีความสำคัญ2อย่างต่อนกน้ำคือ ป่าชุ่มน้ำเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย และเป็นพื้นที่สำคัญในการหาอาหาร 2 ปัจจัยนี้มีความสำคัญต่อนกน้ำเป็นอย่างมาก ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งนกก็ไม่สามารถอยู่ได้ และนกที่เป็นอัตลักษณ์เด่นๆของป่าชุ่มน้ำ ที่ในพื้นที่อื่นไม่ค่อยเจอ แต่พบเจาได้มากในป่าชุ่มน้ำลุ่มน้ำอิงตอนปลายได้แก่ นกเป็ดลาย นกเป็ดพม่า นกเป็ดหัวดำสีน้ำตาล นกเป็ดดำหัวดำ และนกยางดำ
 
 
การศึกษานกในครั้งนี้ ทางสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตได้ดำเนินการร่วมกับคณะกรรมการป่าชุ่มน้ำในชุมชน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์นกน้ำในป่าชุ่มน้ำ โดยทำข้อมูลนกน้ำ ทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ออกแบบหลักสูตรการเรียนรู้นกในป่าชุ่มน้ำ และร่วมหาแนวทางการอนุรักษ์นกในป่าชุ่มน้ำโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน รวมถึงนำข้อมูลเรื่องนกน้ำ นำไปประกอบการผลักดันการขึ้นทะเบียนพื้นที่ป่าชุ่มน้ำแรมซ่าไซด์ร่วมกับชุมชนต่อไป
 
สำหรับสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ซึ่งงานของสมาคมทำน้้นจะสามารถแบ่งออกได้เป็นอย่างน้อย 4 ด้านหลักๆ ดังนี้ 1.วิจัยไทบ้าน 2.การจัดการน้ำและสัตว์น้ำโดยท้องถิ่น 3.การเสริมสร้างเครือข่ายและกลไกท้องถิ่น 4.เขื่อนขนาดใหญ่ โครงการในปัจจุบัน โครงการเสริมสร้างเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นลุ่มน้ำโขง โครงการอนุรักษ์แลฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาในแม่น้ำโขงและอิงตอนล่างในจังหวัดเชียงรายโดยเครื่องมือและกลไกท้องถิ่น สามารถติดต่ามได้ที่ : https://www.livingriversiam.org/ 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

MY Dance ทีมเต้นเชียงราย ได้แชมป์ UDO THAILAND คว้าสิทธิ์ตัวแทนประเทศลุย! ชิงต่อที่อังกฤษ

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมาบรรยากาศการแข่งขัน UDO THAILAND STREET DANCE CHAMPIONSHIP 2023 ซึ่งจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 ธันวาคม 2566 ชั้น 5 ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา Fl.5 The Street Ratchada โดยมีทีมเยาวชนตัวแทนจังหวัดจากทั่วประเทศไทย เข้าร่วมการประกวด โดยจังหวัดเชียงรายมีทีม MY Dance Academy เข้าร่วม มีสมาชิกกว่า 39 คน เป็นเยาวชนจากโรงเรียนต่างๆ

 

โดย UDO THAILAND STREET DANCE CHAMPIONSHIP 2023 คือองค์กรการเต้นสตรีทแดนซ์จากประเทศอังกฤษ ซึ่งจัดการแข่งขันเต้นสตรีทแด๊นซ์ในผระเทศไทย ที่ได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 และมีสมาชิกจาก 30ประเทศ ที่มีการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 15 ปี

 

และในจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมานี้ จังหวัดเชียงรายได้ส่งเยาวชน จากสถาบัน MY Dance Academy เข้าร่วมการแข่งขันที่ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา Fl.5 The Street Ratchada และประสบความสำเร็จได้รับรางวัลชนะเลิศ MYDA CREW OVER 18 ทำให้ประเทศไทยรับรู้ถึงศักยภาพในอีกด้านของเยาวชนจังหวัดเชียงราย และสามารถสร้างชื่อเสียงให้จังหวัดได้เป็นอย่างมาก โดยแต่ละรุ่นที่ทำการแข่งขันละดังนี้

ชนะเลิศ ประเภท MYDA CREW OVER 18

นักแข่ง :

1.นาย ศุภพิชญ์ กันยะธง / 2.นาย นภัทร บุญประกอบ / 3.นางสาว วชิรญาณ์ นามวงค์ / 4.นางสาว ศุภกานต์ ปัญญาพล / 5.นางสาว สายธาร สมมั่น / 6.นาย ธนภูพรรณ วงค์อะทะชัย / 7.นางสาว กริยา นวลมาก

ประเภท Solo Under 10 Top 15 Final Round รุ่นอายุ ต่ำกว่า 10 ปี

1. “น้องตังตัง” (เด็กหญิง เมขลา สิริชัยรุ่งเรือง) จากโรงเรียน อนุบาลเชียงราย

 

ประเภท Solo Over 18 Top 15 Final Round รุ่นอายุมากกว่า 18 ปี และอีกประเภทคือ Duo Over 18 ที่ 5  [ Solo Over 18 ] Top 15 Final Round รุ่นอายุมากกว่า 18 ปี นักเรียนทุนสถาบันMY DANCE ACADEMY ทีมครูฝึกสอนสถาบัน

1.“หมีพูห์” (นาย นภัทร บุญประกอบ)

2.“เปีย” (นางสาว วชิรญาณ์ นามวงค์) จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 

 

ประเภท Solo Under 8 ที่ 4

1. “น้องใบทาย” ( เด็กหญิง ธนิสา ไกรศรี) อายุ 6 ขวบ โรงเรียน อนุบาลเชียงราย

 

ประเภท Solo Under 8 ที่ 5

1.“น้อง ณพลอย” (เด็กหญิง พิชญดา ผลประสิทธิ์)

Kasemsasna Montessori School โรงเรียนเกษมสาสน์ มอนเตสซอรี่

 

ประเภท [ Solo Under 14 ] Top 15 Final Round รุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี

1. “น้อง นาน่า” ( เด็กหญิง ณิชนันท์ กันยานนท์) อายุ 12 ปี โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม

 

 

ทั้งหมดที่ทำการแข่งขัน 39 คน มีโค้ชอย่างนาย สายเมฆ พึ่งอุดม และ นางสาว ภัทรศยา มาลา ทำการฝึกซ้อมรวมถึงดูแลท่าเต้นตลอดตั้งแต่เริ่มต้นจนแข่งขันในรายการ UDO THAILAND STREET DANCE CHAMPIONSHIP 2023 ซึ่งจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา

จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ทีม MY Dance Academy จากจังหวัดเชียงรายการันตีเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งที่ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมความสามารถของเยาวชนเชียงรายแล้ว ยังช่วยส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวและเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ประเทศไทยและจังหวัดเชียงรายด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :  ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

“พัชรวาท” ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในเวที COP28 ย้ำถึงเวลาที่ทุกคนต้องร่วมกันลงมือทำ

 
 

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ณ Expo City เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลง ในช่วงการประชุมระดับสูง (High-level Segment) ของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 28 (COP28) ตอกย้ำจุดยืนประเทศไทย พร้อมเรียกร้องทุกประเทศร่วมกันลงมือแก้ไขอย่างจริงจัง “โลกใบเดียวของเราส่งสัญญาณแล้วว่า ปี 2023 กำลังจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นปีที่ร้อนที่สุด ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องร่วมกันลงมือทำ เพื่อให้ลูกหลานของเรามีโลกใบนี้ที่อาศัยอยู่ได้ต่อไป”

รมว.ทส. กล่าวในถ้อยแถลงย้ำต่อเวทีโลกว่า คนไทยตื่นตัวเรื่องโลกร้อนมากขึ้น และประเทศไทยยืนยันว่าได้ทำตามสิ่งที่ได้ให้คำมั่นไว้ เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าการดำเนินงานภายในประเทศที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม รวมถึงพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อยกระดับการดำเนินงานต่อไป โดยประเทศไทยได้ปรับปรุงแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจก ตามเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด ค.ศ. 2030 ให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุด ภายในปี ค.ศ. 2025 และจะต้องปรับเปลี่ยนระบบนิเวศเศรษฐกิจให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่คำนึงถึงประชาชนทุกภาคส่วน และรัฐบาลไทย ยังได้เร่งผลักดันพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเป็นเครื่องมือในการกำกับดูแลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัว โดยมีกลไกการเงินที่เหมาะสมและเข้าถึงได้ เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ เป็นศูนย์อย่างเป็นระบบ 

ทั้งยังได้จัดทำแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ เพื่อเป็นกรอบหลักในการสร้างภูมิคุ้มกันอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน และจะสนับสนุนเป้าหมายระดับโลกด้านการปรับตัวอีกด้วย นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการผลักดันตัวอย่างของการปรับตัวในภาคเกษตร เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกควบคู่กับการรักษาความมั่นคงทางอาหาร ผ่านโครงการเพิ่มศักยภาพการปลูกข้าวที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ โดยมองว่าการระดมเงิน 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ภายในปี 2025 จะเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งในการบรรลุเป้าหมายของประเทศกำลังพัฒนา ทั้งนี้ ประเทศไทย ในฐานะรัฐภาคี ยินดีที่จะได้เห็นความชัดเจนของกองทุนสำหรับการสูญเสียและความเสียหาย ใน COP28 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การประเมินสถานการณ์การดำเนินงานระดับโลก จะสะท้อนให้เห็นเส้นทางสู่ 1.5 องศาเซลเซียส ตามเป้าหมายของความตกลงปารีส 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

หนุนท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืนดันนโยบายเสน่ห์ชาติพันธุ์ วัฒนธรรมอาข่า

 
 
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 เวลา 11.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานเปิดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมชาติพันธุ์อาข่า บ้านห้วยไร่ (ซาเจ๊ะ) ม.6 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน โดยมีนายสมชาย บัญชาพล ผู้ใหญ่บ้านห้วยไร่ หมู่ที่ 6 ประธานคณะกรรมการการจัดงานฯ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ตำบลแม่ไร่ ร่วมให้เกียรติในพิธีเปิดกิจกรรมฯ ในครั้งนี้ด้วย
 
 
ด้วยบ้านห้วยไร่ ม.6 ต.แม่ไร่ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในโครงการก่อสร้างถนนสายเรียบเชิงดอย จาก อบจ.เชียงราย ซึ่งโครงการดังกล่าว สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนบ้านห้วยไร่ ม.6 ได้เป็นอย่างดี จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมชนเผ่าอาข่าแทนคำขอบคุณ
 
ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่ ทั้งนี้ อบจ.เชียงราย ได้ให้ความสำคัญการส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี และชาติพันธ์ุ จึงได้กำหนดนโยบาย “เสน่ห์เชียงราย สถานที่ ชาติพันธุ์ วัฒนธรรมประเพณี” โดยจังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญเนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งอารยธรรมล้านนา ตลอดจนมีความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และนานาชาติ เป็นเหตุผลให้เชียงรายเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีความพร้อมในด้านทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดเชียงรายเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีประชากรหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวไทยพื้นราบ ชาวไทยภูเขา แต่ละชนชาติจะมีประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ ก่อเกิดแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้จังหวัดเชียงรายได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมาก พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนโดยใช้เสน่ห์จากวัฒนธรรม และวิถีชุมชนเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวชุมชนมากยิ่งขึ้นต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

โครงการฟ้าขาวกลับบ้าน (Let’s Reunite! CRMS.6) ครั้งที่ 2

 
วันที่ 10 ธันวาคม 2566 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นางรัตนา จงสุทธานามณี ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และในฐานะศิษย์เก่าดีเด่น โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย สมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงราย
ร่วมกับชมรมนักเรียนเก่าโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย จัดกิจกรรม “ฟ้า-ขาวกลับบ้าน” (Let’s Reunite! CRMS.6) ครั้งที่ 2
 
 
โดย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวเปิดกิจกรรมและให้โอวาท กับทาง คณะครู นักเรียน และศิษย์เก่าฯ ที่เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมการแสดงเชียร์ลีดเดอร์ ของน้องๆนักเรียนโรงเรียนเทศบาล6นครเชียงราย
 
 
ซึ่ง โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย ได้เปิดการศึกษาครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2542 ภายใต้นโยบายการขยายโอกาสทางการศึกษา และเพิ่มพูนศักยภาพทางการเรียนรู้ ให้แก่เยาวชนของ นายวันชัย จงสุทธนามณี นายกเทศมนตรีฯ และปัจจุบันศิษย์เก่าโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย นัดพบกัน 20 กว่ารุ่น และร่วมแข่งขันกีฬาฟุตบอลเพื่อมเชื่อมความสามัคคี พร้อมดูแลช่วยเหลือกันต่อๆไปในอนาคต
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News