Categories
ECONOMY

SME D Bank นำร่อง 8 จังหวัด ทำโรงแรมขนาดเล็กได้

 

นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า  SME D Bank ร่วมกับ มหาวิทยาลัยศิลปากร และหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่น จัด “โครงการ Tourism Business 2023 พลิกฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวไทย” สนับสนุนลูกค้า SME D Bank และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง คว้าโอกาสเติบโตได้เต็มศักยภาพ ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และตอบรับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้แก้กฎหมายให้อาคารที่พักอื่น สามารถประกอบธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กได้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็ก รวมถึง ส่งเสริมการท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่เมืองรอง กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ ด้วยการพาเข้ารับความรู้จากทีมวิทยากร  ในหัวข้อ “ปลดล็อค ธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก… กฎหมายใหม่ ดันเข้าสู่แหล่งทุน” แนะนำแนวทางนำอาคารประเภทต่าง ๆ มาเป็นโรงแรมขนาดเล็ก ตามกฎหมายแก้ไขใหม่

นอกจากนั้น ได้รับความรู้การบริหารธุรกิจท่องเที่ยว รู้ทันทิศทางเทรนด์ตลาดท่องเที่ยวปี 2566-2567 เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ ขยายตลาด อีกทั้ง ผู้ประกอบการที่ผ่านโครงการ จะได้รับ e-Certificate รับรองผ่านการอบรม สามารถใช้การันตีและต่อยอดธุรกิจ สร้างความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้า และที่สำคัญ ยังเปิดโอกาสเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษจาก SME D Bank วงเงินกู้สูงสุดถึง 50 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุดถึง 15 ปี  และสำหรับลูกค้าใหม่ เมื่อยื่นกู้และใช้วงเงิน 1 ล้านบาท ถึง 50 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนกันยายน 2566 ได้รับ Cash Back ค่าประเมินหลักทรัพย์ค้ำประกัน มูลค่าสูงสุด 30,000 บาทต่อราย   

โครงการดังกล่าว นำร่องจัดอบรม 8 ครั้ง ในพื้นที่ 8 จังหวัด 5 ภูมิภาค ระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึง สิงหาคม 2566 ได้แก่ ภาคใต้ จัดที่ ภูเก็ต กับสุราษฎร์ธานี , ภาคตะวันออก จัดที่ เมืองพัทยา, ภาคกลาง จัดที่ กรุงเทพมหานคร, ภาคอีสาน จัดที่ ขอนแก่น กับ อุบลราชธานี และ ภาคเหนือ จัดที่ น่าน กับเชียงใหม่  ผู้ต้องการเข้าร่วมโครงการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการ 02-265-3775 , 062-625-9428 ,094-543-8245 หรือ Call Center 1357

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
SOCIETY & POLITICS

ผนึกกำลังรับมือสถานการณ์จัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย

 

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ที่ โรงแรม ทีค การ์เด้น สปารีสอร์ท ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ร่วมบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุรับมือสถานการณ์อุทกภัย และการจัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย พร้อมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชน รับมือฤดูฝน ปี 66 หลังมีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุรับมือสถานการณ์อุทกภัย (Table Top Exercise : TTX) โดยจำลองสถานการณ์ฝนตกหนัก ระดับน้ำสูงเข้าท่วมพื้นที่ ติดตามการดำเนินงานของ ส่วนอำนวยการ ส่วนปฏิบัติการ ส่วนสนับสนุน และส่วนประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่มีภารกิจในศูนย์ส่วนหน้าฯ เช่น กรมประชาสัมพันธ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หน่วยทหาร ตลอดจนผู้แทนอาสาสมัครภาคีเครือข่ายภาคประชาชน เข้าร่วม

 

นายฐนโรจน์ วรรัฐประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) กล่าวว่า การซักซ้อมแผนเผชิญเหตุของศูนย์ส่วนหน้า และสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชน ในวันนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานของภาครัฐกับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร ทรัพยากร วิธีการรับมือสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนนี้ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประโยชน์ร่วมกันในการปฏิบัติงาน และได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายภาคประชาชน ในการเฝ้าระวัง ปฏิบัติตามมาตรการ รายงานสถานการณ์ นำไปสู่การแก้ไขปัญหา และให้ความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนอย่างเป็นเอกภาพ ทันต่อสถานการณ์ การจัดกิจกรรมในวันนี้ ได้ซักซ้อมขั้นตอนการสื่อสารประชาสัมพันธ์ระหว่าง กอนช. และหน่วยงานภาครัฐรวมทั้งเครือข่ายภาคประชาชน และฝึกการใช้ Application ในการแจ้งเตือน และติดตามสถานการณ์น้ำอีกด้วย
 
 
ด้าน นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ได้นำเสนอกระบวนการประชาสัมพันธ์ภาครัฐ ในฐานะหน่วยงานที่ภารกิจประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชนทั้งในภาวะปกติ และในภาวะวิกฤติ โดยให้ความสำคัญกับการบริหารและการสื่อสารประเด็นสำคัญที่ทันต่อสถานการณ์ ผ่านศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารเพื่อการประชาสัมพันธ์ (IOC) และประเด็นเชิงพื้นที่ นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลร่วมในการกู้ภัย ที่จะสามารถสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ส่วนหน้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล บริหารและจัดทำประเด็นการสื่อสาร พร้อมแจ้งหน่วยงานราชการในจังหวัดให้ทราบข้อมูล ว่า ภัยที่เกิดขึ้น เกิดจากอะไร เกิดที่ไหน ผลกระทบที่เกิดขึ้น ความรุนแรงของภัย และเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานและเครือข่ายภาคประชาชน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

ปลดออกจากกองประจำการ มทบ.37

 

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00 น. พล.ต. ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผบ.มทบ.37 เป็นประธานในพิธี มอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่ทหารกองประจำการซึ่งรับราชการครบกำหนด และจะปลดออกจากกองประจำการ ผลัดที่ 1/64 ในสังกัด มทบ.37 โดยได้กล่าวให้โอวาสแก่กำลังพล ให้ประพฤติดี เป็นกำลังที่สำคัญในการสร้างความสงบสุข ความมั่นคง และเป็นส่วนช่วยในการพัฒนาชาติบ้านเมือง และขอให้กำลังพลทุกนาย ระลึกอยู่เสมอว่ายังเป็นทหารกองหนุน หากมีภัยคุกคาม หรือข่าวสารสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคง ขอให้ประสาน และแจ้งเตือน ได้ตลอดเวลา เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน พร้อมกันนี้ ผบ.มทบ.37 และผู้บังคับบัญชา ได้มอบประกาศนียบัตรให้กับทหารกองประจำการฯ จำนวน 59 นาย ณ ห้องสอนอบรม ร้อย.มทบ.37

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
HEALTH

กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบ จะถูกดูดน้ำย่อยในลำไส้ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ไม่เป็นความจริง

วันที่ 28 มิถุนายน 2566  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยข่าวปลอม อย่าแชร์! กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบ จะถูกดูดน้ำย่อยในลำไส้ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ


ตามที่มีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับประเด็นเรื่องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบ จะถูกดูดน้ำย่อยในลำไส้ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

 

กรณีที่มีบทความเตือนโดยระบุว่า กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบจะดูดน้ำย่อยในลำไส้ ทำให้เกิดอาการขาดน้ำ จนเกิดภาวะช็อกได้นั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า การกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบ ไม่สามารถดูดน้ำย่อยในลำไส้ได้ และไม่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทำมาจากแป้งและทำให้สุกด้วยน้ำร้อน ก่อนจะนำไปทอดในน้ำมัน หรือนำไปอบแห้ง แล้วถึงจะนำมาต้มอีกที


ซึ่งเมื่อนำมาเติมน้ำร้อน หรือต้ม เส้นบะหมี่จะดูดน้ำและพองตัวในระดับหนึ่ง รวมทั้งมีความอ่อนนุ่ม เหมาะแก่การบริโภค หากนำมากินดิบ เมื่อบริโภคเข้าไปในร่างกายก็เหมือนกับการกินแป้งหรือขนมปัง จึงไม่สามารถไปดูดน้ำย่อยในลำไส้ และทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ แต่การกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบอาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้องได้


ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หรือโทร. 1556


บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปดิบ ไม่สามารถดูดน้ำย่อยในลำไส้ได้ และไม่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ เป็นเสมือนการกินแป้ง หรือขนมปัง อาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้องได้

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
WORLD PULSE

มณฑลซานตงของจีน เพิ่มช่องทาง ตลาดระหว่างประเทศการค้าไทย – จีน

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับความร่วมมือทางการค้าของไทย – จีนที่เติบโตต่อเนื่อง โดยได้ร่วมกันจัดงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจีน (ซานตง) – ไทย (China (Shandong) – Thailand Business Co-operation and Matchmaking Conference) สะท้อนพัฒนาการทางการค้าระหว่างสองประเทศ พร้อมขยายโอกาสทางธุรกิจและอุตสาหกรรมทุกมิติ 

 
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มณฑลซานตง ถือเป็นมณฑลที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดมณฑลหนึ่งของจีน มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและข้อได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ต่าง ๆ เช่น มีผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของจีน มีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ครบทั้ง 41 ประเภทของจีน มีช่องทางโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นจุดตัดของเส้นทางสายไหมทางบกและทางทะเล ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจการท่าเรือและการขนส่ง รวมทั้งมีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) สามารถรองรับการขยายความร่วมมือกับประเทศสมาชิก RCEP ในด้านต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม โดยล่าสุดเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา หน่วยงานทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำมณฑลซานตง (CCPIT) คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) หอการค้าไทย-จีน และสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีนประจำประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจีน (ซานตง) – ไทย โดยมีบริษัทจากมณฑลซานตงและไทยจำนวนกว่า 400 บริษัท เข้าร่วม เกิดการเจรจาธุรกิจแบบทวิภาคีในที่จัดงานกว่า 300 คู่ และมีการลงนามความร่วมมือมากกว่า 10 ฉบับ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานส่งเสริมการค้า และวิสาหกิจ 
 
 
โดยข้อมูลจากหอการค้าไทย – จีน ระบุว่า คณะผู้แทนด้านเศรษฐกิจและการค้าของซานตงที่เข้าร่วมการประชุมฯ ดังกล่าว ประกอบด้วยวิสาหกิจในมณฑลซานตง จำนวนกว่า 100 บริษัท โดยมี 22 บริษัทในกลุ่มจัดซื้อผลิตภัณฑ์และความร่วมมือด้านการลงทุนที่มีศักยภาพสูงในการเปิดตลาดและมีเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งมีความตั้งใจชัดเจนในการร่วมลงทุนกับบริษัทของไทย แบ่งตามประเภทได้ 8 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มอุปกรณ์เครื่องกลและไฟฟ้าและอุปกรณ์เสริม กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มยางล้อและชิ้นส่วนรถยนต์ กลุ่มสินค้าเกษตร กลุ่มอาหารและเครื่องจักรแปรรูป กลุ่มอุตสาหกรรมเบาและสิ่งทอ กลุ่มสุขภาพและการแพทย์ และกลุ่มเคมีภัณฑ์และ e-Commerce ซึ่งล้วนมีศักยภาพทางการค้าและสามารถต่อยอดไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ในอาเซียนได้ 
 
 
“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าความร่วมมือและเวทีทางการค้าระหว่างกันจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจได้อย่างรอบด้าน โดยเป็นการเปิดพื้นที่ให้พบปะหารือ หรือจับคู่ทางธุรกิจได้ตรงตามความต้องการของผู้ลงทุนหรือผู้ประกอบการในแต่ละภาคส่วนอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันไทยมีความร่วมมืออย่างกว้างขวางกับจีน ทั้งด้านอุตสาหกรรม พาณิชย์ เกษตร เทคโนโลยี พลังงาน และการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนความร่วมมือของภาคธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับอุตสาหกรรม ยกระดับผู้ประกอบการของไทย” นายอนุชาฯ กล่าว
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
WORLD PULSE

ภาครัฐ-เอกชน จัดงานพลังงาน “ASEAN Sustainable Energy Week 2023”

 

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีต่อความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ขานรับตามนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่การใช้พลังงานสะอาด ร่วมกันจัดงาน ASEAN Sustainable Energy Week 2023 (ASEW) งานแสดงเทคโนโลยีระดับภูมิภาค ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม และความร่วมมือในการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ขับเคลื่อนไปสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคอาเซียน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งาน ASEW จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 33 โดยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยในปีนี้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายน 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด การขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Powering the Clean Energy Transition Toward Carbon Neutrality Goal) โดยมีเป้าหมายในการเป็นเวทีระดับนานาชาติเชื่อมโอกาสให้ผู้ประกอบการและประชาชนที่สนใจ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีด้านพลังงานจากหลากหลายประเทศมาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อร่วมกันพัฒนาและเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานสะอาด สร้างความยั่งยืน และเพิ่มโอกาสให้กับประเทศไทยในอนาคต โดย ASEW 2023 ถือเป็นงานแสดงสินค้าและการประชุมระดับนานาชาติที่ครอบคลุมมากที่สุดในภูมิภาค ทั้งด้านพลังงานทดแทน การจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมถึงความร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กับหน่วยงานพันธมิตร ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี “แพลตฟอร์มแพ็กแบตเตอรี่มาตรฐานแบบสับเปลี่ยน สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” เพื่อสร้างมาตรฐานของแพ็กแบตเตอรี่และสถานีชาร์จ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย ขับเคลื่อนสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคอาเซียนต่อไป

“นายกรัฐมนตรีขอบคุณการบูรณาการความร่วมมืออย่างแข็งขันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ความท้าทายเรื่องพลังงาน และสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องไกลตัว ทุกคนได้รับผลกระทบ และไม่สามารถแก้ไขด้วยคน คน เดียว หรือกลุ่มเดียว ประเทศเดียวได้ แต่จะแก้ไขให้ดีขึ้นได้ความร่วมมือร่วมใจกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อว่ายังมีโอกาส และช่องว่าง ที่ศักยภาพของไทยสามารถเติมเต็มเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าได้อีกมาก ซึ่งจะช่วยไทยเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานสะอาด พัฒนาอย่างสมดุล สู่ความยั่งยืนตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้” นายอนุชาฯ กล่าว

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

เสริมท่องเที่ยวเมืองรองปลดล็อกขอใบอนุญาตโรงแรมขนาดเล็ก

 

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อให้เม็ดเงินกระจายสู่ท้องถิ่น ประชาชนได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวกว้างขวางขึ้น หน่วยงานต่างๆ ได้ปรับปรุงเกณฑ์รวมถึงออกมาตรการสนับสนุนเพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้ออกและปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้มีการนำอาคารประเภทอื่นมาประกอบธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กได้
 
โดยตั้งแต่ปี 2559 กระทรวงมหาดไทยได้ออกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ผู้ที่ประสงค์จะนำอาคารประเภทต่างๆ เช่น ห้องแถว ตึกแถว โฮมสเตย์ สามารถปรับปรุงอาคารให้เป็นไปตามเกณฑ์และขอรับใบอนุญาตให้ใช้อาคารเป็นโรงแรม เพื่อประกอบการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมได้ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้ปรับปรุงกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกณฑ์สามารถสนับผู้ประกอบการ ขณะเดียวกันก็สามารถควบคุมให้มีการใช้อาคารที่ได้มาตรฐาน ให้ความปลอดภัยแก่ผู้รับบริการมากที่สุด
 
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ล่าสุดกระทรวงมหาดไทยได้ปรับปรุงกฎกระทรวงฯ เพิ่มเติม ออกเป็นกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ 4 ) พ.ศ. 2566 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 66 ที่ผ่านมา โดยสาระสำคัญได้ขยายระยะเวลาของกฎกระทรวงจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 18 ส.ค. 67 ไปสิ้นสุด 18 ส.ค. 68 เพื่อให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารมีเวลาในการแก้ไขดัดแปลงอาคารที่ก่อสร้างไว้แล้วให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ทัน
 
นอกจากนี้ กฎกระทรวงฯ ฉบับที่ 4 ยังได้ปลดล็อกส่วนที่เคยเป็นอุปสรรคอื่นๆอีก โดยมีการผ่อนผันให้อาคารที่มีอยู่ก่อนวันที่ 19 ส.ค. 59 ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติในเรื่องเกี่ยวกับที่ว่างของอาคาร ช่องทางเดินในอาคาร ความกว้างของบันได ระยะถอยร่นแนวอาคาร ระยะดิ่งของอาคาร และที่จอดรถ เป็นต้น แต่อาคารที่จะเปลี่ยนการใช้ไปเป็นโรงแรมที่พักดังกล่าวต้องมีความมั่นคงแข็งแรงและมีระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยและด้านอื่นๆ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด
 
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การปรับปรุงกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายเล็กจะเข้าสู่ระบบรับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรม ได้รับการดูแลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มีการพัฒนาบริการที่ได้มาตรฐานสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในเมืองรองมากยิ่งขึ้นตามมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล เพิ่มโอกาสและรายได้ให้ผู้ประกอบการ เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น ขณะที่นักท่องเที่ยวก็มีทางเลือกพักโรงแรมที่หลากหลายภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย
 
กฎกระทรวง กำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2566  : https://t.ly/ratchakitcha.moi.dpt

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
ECONOMY

ลุยภาคเหนือ โชว์นวัตกรรมและ เทคโนโลยีสร้างสรรค์ หนุนรายได้ช่วยชุมชน

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 เวลา 19.00 น. ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงาน อุตสาหกรรมแฟร์ ภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ปั้นแต่ง โตไวด้วยดีพร้อม” พร้อมด้วย นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (รปอ.) นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม (หน.ผตร.อก.) นายเดชา จาตุธนานันท์ นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม (ผตร.อก.) และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วม โดยมี นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน พร้อมได้รับเกียรติจาก นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เข้าร่วมด้วย ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือ (DIPROM MICE CENTER) อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ปลัดฯ ณัฐพล กล่าวว่า สำหรับการจัดงานใน ครั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบหมายให้ ดีพร้อม จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ปั้นแต่ง โตไว ด้วยดีพร้อม” 

 

ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์จากผู้ประกอบการ ภาคีเครือข่ายภาครัฐ-ภาคเอกชน รวมถึงเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกิดจากภูมิปัญญาและผสมผสานเทคโนโลยีการวิจัยและพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์ ทั้งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป รวมถึงการนำผลิตภัณฑ์เด่นและเน้นเอกลักษณ์ของภาคเหนือมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดลำปางและใกล้เคียง อีกทั้งยังเชื่อมโยงให้อุตสาหกรรมอยู่คู่ชุมชนอย่างเป็นมิตร อันจะเป็นการสร้างความสมดุลและกระตุ้นเศรษฐกิจของภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตามนโยบาย “MIND” ใช้ “หัว”และ “ใจ” 

 

ในการทำงานมุ่งสู่ความสำเร็จ 4 มิติ ประกอบด้วย ความสำเร็จทางธุรกิจ การดูแลสังคม การรักษาสิ่งแวดล้อมและการกระจายรายได้สู่ชุมชน เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมมีการปรับตัวเข้าสู่วิถีใหม่ได้อย่างสมดุลและยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านการกระจายรายได้ให้กับประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มุ่งการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นระบบเพื่อรักษาวิถีชีวิต สร้างประโยชน์พัฒนาชุมชนรอบอุตสาหกรรม และ ต่อยอดอาชีพดีพร้อม รวมถึงการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรม ให้มีการกระจายโอกาสให้ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการในระดับภูมิภาคได้รับการพัฒนาและยกระดับศักยภาพให้สามารถแข่งขันได้ 

 

ทั้งนี้ งาน “อุตสาหกรรมแฟร์” จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ปั้นแต่ง โตไวด้วยดีพร้อม” เป็นการผนึกกำลังจากหลายฝ่าย อาทิ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กฟผ. แม่เมาะ และภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน ในโชว์ศักยภาพภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยี นวัตกรรม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์พื้นถิ่นสู่เชิงพาณิชย์ การดูแลสังคมโดยรอบโรงงานอุตสาหกรรมและรักษาสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด BCG Model ผ่านการพัฒนาแม่เมาะ เมืองน่าอยู่ (Mae Moh Smart City) โดยมีผู้ประกอบการกว่า 80 ร้านค้าทั่วประเทศ ร่วมทดสอบตลาดและเชื่อมโยงธุรกิจ และเสิร์ฟอาชีพดีพร้อมสร้างรายได้ให้ชุมชน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น 

 

ทั้งนี้ งานดังกล่าวฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-30 มิถุนายนนี้ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือ (DIPROM MICE CENTER) อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง โดยตลอดการจัดงานทั้ง 8 วัน กระทรวงอุตสาหกรรม คาดหวังว่าผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปจะได้รับทราบถึงแนวทางการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม และการแสดงศักยภาพในด้าน1นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่สะท้อนภาพอันเกิดจากภูมิปัญญาและการผสมผสานเทคโนโลยีการวิจัยและการพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์ ทั้งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ยังมีการเจรจาจับคู่และเชื่อมโยงธุรกิจของผู้ประกอบการทั่วประเทศมากกว่า 400 ราย รวมถึงมีการจัดสัมมนาให้ความรู้ฝึกอาชีพกว่า 30 หลักสูตร และมีการออกร้านค้าเพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ SME โดยคาดการณ์ว่าการจัดงานครั้งนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานมากกว่า 50,000 คน และสามารถสร้างเงินสะพัดในจังหวัดลำปาง มากกว่า 100 ล้านบาท

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงอุตสาหกรรม 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
HEALTH

ติดเชื้อไวรัส Parabola จากสุนัขและแมว ทำให้ไขกระดูกไม่สร้างเลือด ไม่เป็นความจริง

วันที่ 28 มิถุนายน 2566  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยข่าวปลอม อย่าแชร์! ไม่มีชื่อเชื้อไวรัส Parabola ปรากฏในสารบบทางการแพทย์ในประเทศไทย

 

ตามที่มีการโพสต์แจ้งข่าวสารเกี่ยวกับประเด็นเรื่องติดเชื้อไวรัส Parabola จากสุนัขและแมว ทำให้ไขกระดูกไม่สร้างเลือด ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

 

กรณีที่มีการแชร์ข้อมูลว่า พบเชื้อไวรัส Parabola แพร่จากหมาและแมวมาสู่คน โดยผู้ที่ติดเชื้อไวรัสนี้จะทำให้ไขกระดูกไม่สร้างเลือด ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ไม่มีชื่อเชื้อไวรัส Parabola ปรากฏในสารบบทางการแพทย์ในประเทศไทย 

 

 

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย และวิธีการป้องกันตนเอง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ddc.moph.go.th หรือโทร. 1422

บทสรุปของเรื่องนี้คือ :  ไม่มีชื่อเชื้อไวรัส Parabola ปรากฏในสารบบทางการแพทย์ในประเทศไทย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

กอ.รมน. เชียงราย จัดประกวดคลิปวิดีโอ เยาวชนในระบอบประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 66 เวลา 13.00 น. พ.อ.จักรวีร์ เสนีย์วรยุทธ์ รอง ผอ.รมน.จังหวัด.ช.ร. (ท.) เป็นประธานการประกวดคลิปวิดีโอ “เยาวชนในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” พร้อมกำลังพล กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. เพื่อให้นักเรียน ร่วมกันปลูกจิตสำนึก กระตุ้นเตือนให้เยาวชนเกิดความตระหนักรู้ ความภาคภูมิใจ ตลอดจนเห็นความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ตลอดจนมีทัศนคติที่ดีต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ณ ห้องประชุม กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. อ.เมือง จว.ชร.ชั้น 2 ศาลากลาง โดยมี รร.ในพื้นที่ จว.ช.ร. พร้อม อาจารย์ที่ปรึกษา เข้าร่วมกิจกรรม โดยส่งคลิปวิดีโอเข้าประกวดฯ ผลการประกวดคลิปวิดีโอ ชนะเลิศ ได้แก่ รร.ป่าแดดวิทยาคม โดยได้รับมอบโล่,เงินรางวัล และเกียรติบัตร จาก รอง ผอ.รมน.จังหวัด.ช.ร. (ท.)

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News