Categories
SOCIETY & POLITICS

คกก.นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เห็นชอบศึกษาขยายเวลาจำหน่าย

 
เมื่อวันที่19 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค และกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
 
          นายแพทย์ชลน่านให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ในวันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ได้ร่วมกันพิจารณาเรื่องการขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อสนับสนุนการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ โดยได้นำข้อเสนอจากที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 มาประกอบการพิจารณา และเห็นว่า 1) ปัจจุบันมีกฎหมายที่กำหนดเกี่ยวกับเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับร้านอาหารทั่วไป ได้แก่ ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 และกฎกระทรวงที่ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าว ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2558 ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551และต้องคำนึงถึง พระราชบัญญัติสถานบริการ 2509 ซึ่งถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องปรับแก้กฎหมายเหล่านี้และต้องคำนึงถึงเวลาเปิดปิด ตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการและการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว และ2) ข้อมูลในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ยังไม่มีข้อมูลทางสถิติที่ชัดเจน สมควรศึกษาข้อมูลแล้วนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลของจังหวัดนำร่อง เพื่อนำมากำหนดเวลาที่จะขยาย เพื่อความละเอียดรอบคอบ
 

          “ที่ประชุมได้มีมติให้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อไปทำการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดกรอบระยะเวลาในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารทั่วไปอย่างรอบคอบรอบด้าน ทั้งนี้ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการศึกษาข้อมูล แต่เนื่องจากเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคมก็จะเร่งรัดให้เร็วที่สุดโดยคำนึงถึงข้อมูลที่เพียงพอสำหรับประกอบการพิจารณา นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนเพื่อการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย” นายแพทย์ชลน่านกล่าว
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
FEATURED NEWS

‘หมอธีระวัฒน์’ เผยงานวิจัยแพทย์อเมริกัน “ดื่มแอลกอฮอล์บ้าง” ลดอาการสมองเสื่อม

 
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเผยงานวิจัยถึงเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ โดยระบุว่า “แอลกอฮอล์บ้างกลับลดสมองเสื่อม ผลของการศึกษานี้ รายงานในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน (JAMA network open) วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023
 

กลุ่มที่คงระดับของการดื่มอยู่ที่ดื่มบ้าง ถึงดื่มปานกลางนั้น ลดความเสี่ยงของสมองเสื่อมลง และการลดปริมาณจากดื่มหนักเป็นดื่มปานกลาง จะลดความเสี่ยงของสมองเสื่อมเช่นกัน และในขณะเดียวกัน จากที่ไม่ดื่มเลย เป็นเริ่มดื่มบ้างในปริมาณน้อย จะลดความเสี่ยงของสมองเสื่อมด้วย

ทั้งนี้ เป็นการติดตามศึกษาในคนเกาหลีเป็นจำนวน 4 ล้านคน (3,933,382 คน) โดยเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2009 การติดตามเฉลี่ย 6.3 ปี

ในจำนวนนี้ ตั้งแต่เริ่มต้น 54.8% ไม่ดื่มเลย 26.7% ดื่มบ้าง 11.0% เป็นพวกดื่มปานกลาง และ 7.5% เป็นดื่มหนัก

หนึ่งดื่ม = 14 กรัมของแอลกอฮอล์ ดื่มบ้าง หรือ mild drinker จะอยู่ที่น้อยกว่า 15 กรัมต่อวัน หรือประมาณ = หนึ่งดื่ม ดื่มปานกลาง จะอยู่ที่ 15 ถึง 29.9 กรัมต่อวัน หรือประมาณเท่ากับหนึ่งถึงสองดื่ม และดื่มหนักจะอยู่ที่มากกว่า หรือเท่ากับ 30 กรัมต่อวัน นั่นก็คือมากกว่า หรือเท่ากับสามดื่ม

ข้อมูลที่ไม่คาดคิดมาก่อนในการศึกษานี้ก็คือ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ดื่มเลยตลอดระยะเวลาที่เริ่มการศึกษา กลับพบว่ากลุ่มที่ดื่มบ้างและดื่มปานกลางกลับมีความเสี่ยงของสมองเสื่อมลดลง 21% แต่ในกลุ่มที่ดื่มหนักนั้นมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 8%

ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณกับความเสี่ยงของสมองเสื่อมในลักษณะนี้เป็นแบบเดียวกัน ทั้งโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ และสมองเสื่อมจากเส้นเลือดตันการลดระดับปริมาณของแอลกอฮอล์จากดื่มหนักเป็นดื่มปานกลาง ทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดสมองเสื่อมได้ทั้งสองแบบ และเช่นเดียวกัน เมื่อเพิ่มปริมาณขึ้นจากระดับปานกลางไปเป็นหนักก็จะเพิ่มความเสี่ยงของสมองเสื่อมทั้งสองแบบ

 

แต่ข้อมูลที่ดูประหลาดแต่เป็นไปแล้วนั้น ก็คือในกลุ่มที่ไม่ดื่มเลยและเริ่มต้นดื่มบ้างในระยะต่อมา พบว่าความเสี่ยงที่จะเกิดสมองเสื่อมทั้งหมดลดลง 7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ดื่มบ้างอยู่แล้วตั้งแต่ต้น หมายความว่า เมื่อเริ่มดื่มบ้างแล้วจากไม่เคยดื่มเลยกลับทำให้ความเสี่ยงของสมองเสื่อมนั้นลดลง

ซึ่งข้อมูลจากไม่ดื่มเลยเป็นดื่มบ้าง กลับได้ประโยชน์ ไม่เคยมีรายงานการศึกษาที่ใดมาก่อน และหัวหน้าคณะวิจัยได้กล่าวย้ำว่า ผลการศึกษานี้ไม่ได้เป็นการชักชวนให้คนที่ไม่ดื่มเลยเริ่มต้นดื่ม ชนิดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นไม่ได้มีการแยกแยะรายละเอียดในการศึกษานี้ ว่าเป็น เหล้า เบียร์ ไวน์ หรือเป็นเครื่องดื่มประเภทอื่น”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

“อนุทิน” เผยเปิดผับถึงตี 4 แค่ให้คุยกันต่อ แต่ไม่ขยายเวลาขายสุรา

 

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการขยายเวลาปิดสถานบริการในพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัดท่องเที่ยว เป็นเวลา 04.00 น. ว่า แม้จะขยายเวลาปิดสถานบันเทิง-สถานการบริการ แต่จะไม่ขยายเวลาให้ดื่มสุราได้มากขึ้น เพียงแต่สามารถอยู่ในร้านและพูดคุยกันได้นานขึ้น เพราะเจตนาของการออกมาตรการนี้คือเพื่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น รวมถึงการขายสินค้าและบริการที่ไม่ใช่แอลกอฮอล์ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว

 

และแม้จะนำร่องในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ตและชลบุรี แต่จะไม่ครอบคลุมสถานบริการทั้งจังหวัด โดยจะเป็นลักษณะโซนนิ่ง หรือการจัดโซนในบางพื้นที่

 

สำหรับพื้นที่ กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า กำหนดโซนพื้นที่ขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิง เช่น สีลม-พัฒน์พงศ์-อาร์ซีเอ-เพชรบุรีตัดใหม่-รัชดาภิเษก

 

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ได้เข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา พูดคุยเรื่องการแบ่งโซนนิ่งสถานบริการที่จะขยายเวลาเปิดถึง 04.00 น. ซึ่งเน้นย้ำว่ายังไม่มีการขยายเวลาให้กับสถานบริการทั่วไปนอกเขตโซนนิ่ง เช่น สถานบริการย่านทองหล่อ ยังคงปิดในเวลาเดิม รวมถึงสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการด้วย

 

จากนี้กระทรวงมหาดไทยจะออกเป็นพระราชกฤษฎีกา หรือกฎกระทรวง ขยายเวลาให้ถึง 04.00 น. รวมถึงสถานบริการที่อยู่ในโรงแรมด้วย ซึ่งจะทำให้สามารถดูแลได้ละเอียดขึ้นและไม่กระทบกระเทือนต่อประชาชนทั่วไป

 

ทั้งนี้มีรายงานว่า ระยะเวลาการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานบันเทิงถูกกำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติสถานบริการ 2546 และ กฎกระทรวงมหาดไทยกำหนดวันเวลาเปิดปิดสถานบริการ พ.ศ. 2547 โดยสถานบริการที่ให้เปิดตาม มาตรา 3 (1) ที่เปิดให้บริการ ะหว่างเวลา 21.00 – 02.00 น.ของวันรุ่งขึ้น สำหรับสถานบริการที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา เท่ากับว่าการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังขายได้ถึ.เวลา 02.00 น.

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : thaipbs

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

รัฐบาลเชิญชวนคนไทย ลด ละ เลิกเหล้าเข้าพรรษา สร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย

วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  เนื่องด้วยวันเข้าพรรษาของทุกปี เป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 2 ส.ค. 66 กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาสังคมและเครือข่ายงดเหล้า จัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้คนไทย ลด ละ เลิกการดื่มแอลกอฮอล์ ภายใต้คำขวัญ “ไกลเหล้า ไกลโรค ไกลอุบัติเหตุ”
 
ในโอกาสนี้ รัฐบาลจึงขอเชิญคนไทยทุกคนร่วมลด ละ เลิก เหล้า หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดตลอดเทศกาลเข้าพรรษาที่จะมาถึง ให้ช่วงเวลานี้เป็นจุดเริ่มต้นในการดูแลสุขภาพ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายต่างๆ  ซึ่งข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่าทุกปีทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากพิษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประมาณ 3 ล้านคน และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมากกว่า 230 ชนิด  นอกจากนี้ ยังช่วยลดโอกาสที่เกิดความสูญเสียกับครอบครัวและสังคมโดยรวมจากอุบัติเหตุ ที่นำมาซึ่งการบาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิตก่อนวัยอันควรซึ่งไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าความเสียหายได้
 
 น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังช่วยลดรายจ่ายภาคครัวเรือนได้มาก ซึ่งข้อมูลจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ด้านพฤติกรรมการดื่มสุราของประชากรไทย ปี 65 ระบุว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มค่าใช้จ่ายในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 64 เหล่านักดื่มต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดื่มเพิ่มขึ้นจากในปี 60 เกือบ 2 เท่า โดยผู้ดื่มหนักเป็นประจำ มีค่าใช้จ่ายการดื่มสุราเฉลี่ยสูงถึง 3,722 บาทต่อเดือน
 
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีแนวนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มีความสมดุลระหว่างมิติทางเศรษฐกิจ และมิติของสังคม โดยมิติทางเศรษฐกิจนั้นได้มีกฎกระทรวงที่ลดข้อจำกัดทางกฎระเบียบการอนุญาตให้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนพ.ย.65 เพื่อประโยชน์ในการรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น และลดการผูกขาดทางการตลาด แต่ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการขับเคลื่อนให้มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เพื่อจำกัดไม่ให้กิจกรรมที่มาจากการแข่งขันทางธุรกิจกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการดื่มที่มากขึ้น
 
ตลอดจนขับเคลื่อนการรณรงค์เพื่อสร้างความรอบรู้ผลกระทบต่อสุขภาพที่มาจากการดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ประชาชนอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ต้องเน้นการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เช่น ควบคุมจุดจำหน่าย ความหนาแน่นของร้านค้า การกำหนดโซนนิ่ง เป็นต้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News