Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย เปิดกิจกรรม วันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2566

อบจ.เชียงราย เปิดกิจกรรม วันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2566

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 ณ วัดมงคลธรรมกายาราม หมู่ที่ 1 ตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2566 โดยมี พระครูวรมาตุ โสภณ รองเจ้าอาวาสวัดมงคลธรรมกายาราม นายอำนาจ สิทธิมงคล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งงาม หน่วยงานราชการ และพี่น้องประชาชน ให้การต้อนรับ และร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

สำหรับ กิจกรรมในครั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้เชิญชวนให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม มีส่วนร่วมในกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งงาม ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญวันดังกล่าว จึงได้จัดกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้ประชาชน และหน่วยงานทุกภาคส่วนตระหนัก และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการแก้ไขลดปัญหาภาวะโลกร้อน โดยการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตพื้นที่ตำบลโป่งงาม เพื่อสร้างความสามัคคีและการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ตำบลโป่งงาม

ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวนทั้งสิ้น 200 คน ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน จิตอาสา กลุ่มมวลชน ประชาชนทุกหมู่บ้านในเขตพื้นที่ตำบลโป่งงาม โดยองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งงาม ได้การสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ซึ่งได้ประสานงานสนับสนุนกล้าไม้ จำนวนทั้งสิ้น 1,000 กล้า อีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย ร่วมมือ ปรับปรุงพื้นที่ในอำเภอแม่สาย

อบจ.เชียงราย ร่วมมือ ปรับปรุงพื้นที่ในอำเภอแม่สาย

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุมโรงเรียนเทศบาล 1 วัดพรหมวิหาร อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายชัยยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย และนายสมพล ธาตุอินจันทร์ รองปลัดเทศบาลตำบลแม่สาย 

ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ปรับปรุงพื้นที่บริเวณสนามกีฬากลางอำเภอแม่สาย สวนสุขภาพพระเจ้าพรหมมหาราช หมู่ที่ 10 ตำบลเวียงพางคำ และหอประชุมเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าพรหมมหาราช ชุมชนเหมืองแดง หมู่ที่ 2 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ระหว่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และเทศบาลตำบลแม่สาย โดยมีนายอนุชา ยอดเชียงคำ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอแม่สาย เขต 1 นายฐิติวัชร ไลศิริพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม นายอมรรัตน์ บุตรดี หัวหน้าฝ่ายเครื่องจักรกล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพี่น้องประชาชน ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในครั้งนี้

สำหรับบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือในการขับเคลื่อนการปรับปรุงพื้นที่ จำนวน 3 แห่ง เพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลเวียงพางคำและตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ร่วมกับเทศบาลตำบลแม่สาย โดยการบูรณาการร่วมกัน ในการปรับปรุงพื้นที่บริเวณสนามกีฬากลางอำเภอแม่สาย สวนสุขภาพพระเจ้าพรหมมหาราช หมู่ที่ 10 ตำบลเวียงพางคำ และหอประชุมเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าพรหมมหาราช ชุมชนเหมืองแดง หมู่ที่ 2 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 

ซึ่งใช้บุคลากร เครื่องจักรกลและยานพาหนะขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย โดยเทศบาลตำบลแม่สาย เป็นผู้สนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือการปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าว ในพื้นที่ตำบลเวียงพางคำและตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ขึ้น เพื่อบูรณาการดำเนินงานร่วมกัน ต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม.) 

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS NEWS

พม. จัดงาน “KICK OFF ต่อต้านการค้ามนุษย์” TOGETHER WE CAN หยุด ค้า คน

พม. จัดงาน “KICK OFF ต่อต้านการค้ามนุษย์” TOGETHER WE CAN หยุด ค้า คน

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 เวลา 13.30 น. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานเปิดงาน “KICK OFF รณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์” ภายใต้แนวคิด TOGETHER WE CAN หยุด ค้า คน โดยมี คณะผู้บริหารกระทรวง พม. ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคประชาสังคม องค์การระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ สภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล  พร้อมเครือข่าย เข้าร่วมงาน ณ ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก กรุงเทพมหานคร อีกทั้งผ่านระบบออนไลน์ โดยมีหัวหน้าและเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการสังกัดกระทรวง พม. เครือข่ายสภาเด็กและเยาวชน เครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ เข้าร่วม 

        นายอนุกูล  กล่าวว่า “การค้ามนุษย์” เป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เศษฐกิจ และภาพลักษณ์ของประเทศ ปัจจุบัน พบว่า ขบวนการค้ามนุษย์เปลี่ยนรูปแบบการกระทำผิดผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เช่น การค้าประเวณี การหลอกเด็กหญิง เด็กชาย ผู้ชายและผู้หญิงเพื่อผลิตสื่อลามกอนาจาร และการหลอกลวงโฆษณาจัดหางาน เพื่อชักชวนคนไทยให้ไปทำงานต่างประเทศ เป็นต้น โดยปี 2565 มีคดีค้ามนุษย์ผ่านช่องทางออนไลน์ถึง 182 คดี คิดเป็นร้อยละ 71 ของคดีค้ามนุษย์ทั้งหมด 253 คดี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีจำนวน  107 คดี คิดเป็นร้อยละ 70.09 ของคดีค้ามนุษย์ ทั้งหมด 188 คดี ทั้งนี้ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังและต่อเนื่องในทุกมิติ โดยกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และให้วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ของประเทศไทย 

      นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ กระทรวง พม. ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จึงจัดงานวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ประจำปี 2566 ในวันที่ 7 มิถุนายน 2566 ณ ห้องฟีนิกซ์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์  สำหรับวันนี้ กระทรวง พม. โดยกองต่อต้านการค้ามนุษย์  ได้จัดงาน KICK OFF วันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ภายใต้แนวคิด TOGETHER WE CAN หยุด ค้ำ คน เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักรู้แก่เด็ก เยาวชน  และประชาชน ในการป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการค้ามนุษย์ผ่านช่องทางออนไลน์  และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคประชาสังคม องค์การระหว่างประเทศ และประชาชน เป็นเครือข่ายต่อต้านการค้ามนุษย์ของประเทศไทยที่เข้มแข็งต่อไป 

 

การจัดงานครั้งนี้ มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย 

1) การเปิดตัวทูตรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์เป็นครั้งแรกของประเทศไทย คือ นางสาวเขมนิจ จามิกรณ์ ดารานักแสดง 

2) การปล่อยคาราวานรถตุ๊กตุ๊กรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ 

3) การเสวนาในหัวข้อ “สื่อออนไลน์กับการค้ามนุษย์” 

4) การแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน และ 

5) การจัดแสดงบูธนิทรรศการผลงานของภาคีเครือข่าย จำนวน 14 บูธ 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม.) 

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS NEWS

บสย. – ชาญอิสสระ จัดโครงการ CSR แจกกล้าไม้ ชวนคนเมืองเพิ่มพื้นที่สีเขียว

บสย. – ชาญอิสสระ จัดโครงการ CSR แจกกล้าไม้ ชวนคนเมืองเพิ่มพื้นที่สีเขียว

Facebook
Twitter
Email
Print
นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และคณะผู้บริหาร พร้อมด้วย นางอรพรรณ อรุณรังสิกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด จัดโครงการ CSR ร่วมแจกกล้าไม้มงคล จำนวน 300 กล้า เนื่องในโอกาสวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 3 มิถุนายน และวันสิ่งแวดล้อมโลก ปี 2566 ตรงกับวันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี เพื่อให้ประชาชนนำไปปลูกช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้สิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 ณ ลานพลาซ่า ชั้น 1 อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2

สำหรับในปีนี้ บสย. ได้รับการสนับสนุน “ต้นยอ” จากกรมป่าไม้ จำนวน 300 กล้า สรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้ ช่วยเสริมสิริมงคลแก่เจ้าบ้าน และสมาชิกในบ้านตามความเชื่อ โดย บสย. นำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไปและชุมชนใกล้เคียง เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย ESG ที่ บสย. มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรผู้นำด้าน ESG ของประเทศตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ Sustainable Development Goals (SDGs) การสร้างมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนขององค์การสหประชาชาติ (UN)

ทั้งนี้ บสย. ยังสนับสนุน SMEs สู่ธุรกิจ ESG และ BCG ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ “บสย. SMEs เข้มแข็ง” (PGS 10) กับผลิตภัณฑ์ Smart Green วงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 40 ล้านบาท รวมทุกสถาบันการเงิน ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 4 ปีแรก และค้ำประกันสูงสุด 10 ปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บสย. Call Center 0-2890-9999 และสำนักงานเขตทั้ง 11 แห่ง ทั่วประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS TOP STORIES

ตำราจตามรวบโจรแสบขณะนำทองไปขาย หลังงัดบ้าน ลักทรัพย์ ของกลางเพียบ

ตำราจตามรวบโจรแสบขณะนำทองไปขาย หลังงัดบ้าน ลักทรัพย์ ของกลางเพียบ

Facebook
Twitter
Email
Print
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย พร้อมของกลาง เพียบ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่สรวยได้ร่วมกันจับกุมตัว นายอาลอง แลเชอร์ อายุ 21 ปี (1 ม.ค.2545) บ้านเลขที่ 136 ม.8 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงรายได้พร้อมด้วยของกลางเป็น จักรยานยนต์ยี่ห้อ HONDA รุ่นเวฟ 110 สีดำ- เทา จำนวน 1 คัน,โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 1 เครื่อง สร้อยคอทองคำลายโซ่ จี้รูปดอกไม้ หนัก 1 สลึง จำนวน 1 เส้น ,ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท
จำนวน 2 ฉบับ รวมเป็นเงิน 2,000 บาท ธนบัตรฉบับละ 100 บาท จำนวน 2 ฉบับ รวมเป็นเงิน 200 บาท
 
จุดที่พบของกลาง ของกลางลำดับที่ 1 พบจอดอยู่หน้าป้อมยามโรงเรียนแม่สรวยวิทยาคม ของกลางลำดับที่ 2 พบนายอาลองฯถืออยู่ในมือข้างขวา ,ของกลางลำดับที่ 3 พบอยู่ร้ายทองศิริชัยแม่สรวย,ของกลางลำดับที่ 4และ 5 พบอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวาตัวที่นายอาลองฯสวมใส่อยู่ โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ
 
โดยใช้ยานพาหนะ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” มีพฤติการณ์ วันที่ 1 มิ.ย.2566 เวลา 22.18 น ได้มีนายอาหยี มาเยอะ อายุ 24 ปีได้มาพบพนักงานสอบสวน แจ้งว่า
 
เวลา 05.30 น.ผู้แจ้งตื่นนอนแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานที่ปั้มน้ำมันเอสโซ่ หนองหล่ม 
 
ต่อมาเวลาประมาณ 18.20 น. ได้กลับมาบ้านและทราบว่าบ้านถูกงัดแล้วเงินน้องสาวได้หายไปจำนวน 2,000 บาทและสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึงได้หายไป จำนวน 1 เส้นลายโซ่ จี้รูปดอกไม้ และธนบัตรฉบับละ 100 บาทจำนวน 4 ฉบับ รวม 400 บาทและได้ลงบันทึกรับคำร้องทุกข์ไว้แล้วและจะติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป 
 
และวันที่ 2 มิ.ย.2566 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับ(ไม่ประสงค์ออกนาม) ว่าผู้ต้องสงสัยในคดีลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2566 ได้ปรากฏตัวที่บริเวณลานรับซื้อ-ขายกล้วยบ้านห้วยหมอเฒ่าบ้านเลขที่6 ม.10 ต.เจดีย์หลวงฯ หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาและออกเดินทางไปตรวจสอบ 
 
เวลาประมาณ 12.30 น. เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงและอยู่บนถนนสาธารณะบริเวณหน้าลานรับซื้อ-ขายกล้วยบ้านห้วยหมอเฒ่า เจ้าหน้าที่ได้มองเห็นนายอาลอง แลเชอร์(ทราบชื่อภายหลัง) กำลังยืนอยู่บริเวณหน้าลานดังกล่าว โดยมีท่าทางพิรุธ คล้ายมีสิ่งของผิดกฎหมายและมีตำหนิ รูปพรรณคล้ายบุคคลตามที่สายลับแจ้ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดและแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน
 
โดย ร.ต.อ.วัชรพงษ์ ปันนะสาร รอง สว.สส.ฯ/เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เลขประจำตัว 591707 จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อเท็จจริงเหตุวัตถุประสงค์ของการตรวจค้น/ตรวจสอบให้นายอาลองฯเข้าใจดีโดยตลอดแล้ว และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น/ตรวจสอบแต่โดยดีโดยไม่ขัดขืน หวงห้าม หรือโต้แย้งแต่อย่างใด เป็นไปด้วยความสมัครใจยินยอมของนายอาลองฯ ก่อนการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้นายอาลองฯดูก่อนจนเป็นที่พอใจแล้วจึงเริ่มทำการตรวจค้น/ตรวจสอบไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายอาลองฯ ถึงพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนายอาลองฯ ยอมรับว่าตนเสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้ เจ้าพนักงานจึงได้นำตัวนายอาลองฯ ไปตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของนายอาลองฯ 
 
โดยความสมัครใจยินยอมของนายอาลองฯ พบเป็นผลบวกสำหรับเมทแอมเฟตามีนเจ้าพนักงานจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิให้นายอาลองฯ ทราบว่า “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” นายอาลองฯ ทราบและเข้าใจ ข้อกล่าวหาสิทธิของตนเป็นอย่างดีโดยตลอดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นจึงได้นำตัวนายอาลองฯมาที่ห้องสืบสวนสภ.แม่สรวย และได้สอบถามนายอาลองฯถึงเหตุลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2566ที่ผ่านมา นายอาลองฯได้ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองเป็นคนลักทรัพย์ในวันดังกล่าวจริง โดยนายอาลองฯให้การว่า
 
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2566 เวลาประมาณ 08.00 น. นายอาลองฯได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ HONDA รุ่นเวฟ 110 สีดำ – เทา หมายเลขทะเบียน 1กย 6678 เชียงราย มาจากลานรับซื้อกล้วย มาถึงบ้านที่เกิดเหตุและได้นำรถจักรยายนต์มาจอดไว้บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว และได้นำเอาไขควงที่เตรียมมาด้วยไปงัดประตูหน้าบ้านและเดินเข้าไปในบ้านไปงัดประตูห้องนอนอีกห้องหนึ่ง จากนั้นเดินเข้าไปในห้องนอนได้ขโมยสร้อยทองจำนวน 1 เส้น จากกล่องสี่เหลี่ยมข้างประตูในห้องนอน จากนั้นได้ออกมาเปิดลิ้นชักโต๊ะแป้งได้ขโมยเงินมาจำนวนหนึ่งประมาณ 1,000 กว่าบาท จากนั้นได้ออกจากบ้านหลังดังกล่าวมาโดยใช้จักรยานยนต์ที่ขับขี่มาได้ขับขี่ออกไป ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2566 เวลาประมาณ 11.00 น.นายอาลองฯได้นำสร้อยทองที่ขโมยมานำมาขายที่ร้านทองศิริชัยแม่สรวย โดยน้ำหนักทองที่ขายไปนั้นหนัก 1 สลึง ขายได้เงินจำนวน 7,600 บาท
 
จากนั้นได้นำเงินไปใช้จ่าย และเหลือเงินในขณะถูกจับกุม จำนวน 2,200 บาท เจ้าพนักงานจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมและแจ้งสิทธิให้นายอาลองฯ ทราบว่า “ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ,โดยใช้ยานพาหนะ” นายอาลองฯ ทราบและเข้าใจ ข้อกล่าวหาสิทธิของตนเป็นอย่างดีโดยตลอดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นจึงได้นำตัวนายอาลองฯ พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่สรวยฯ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่สรวยฯ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ถนนคนข่าว

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

บขส. สั่งคุมเข้มความปลอดภัยรถโดยสาร สถานีขนส่งฯ ช่วงวันหยุด 3 – 5 มิถุนายน 2566

บขส. สั่งคุมเข้มความปลอดภัยรถโดยสาร สถานีขนส่งฯ ช่วงวันหยุด 3 – 5 มิถุนายน 2566

Facebook
Twitter
Email
Print

 นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ มีวันหยุดติดต่อกัน 3 วัน (ระหว่างวันที่ 3 – 5 มิถุนายน 2566) บขส. คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติที่มีผู้โดยสารใช้บริการวันละกว่า 25,000 – 30,000 คน จึงได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งในส่วนของรถโดยสาร พนักงานขับรถ และสถานีขนส่งผู้โดยสาร ในส่วนของความปลอดภัย เนื่องจากช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ได้กำชับให้พนักงานขับรถ เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่และให้ตรวจสภาพความพร้อมของรถโดยสารและพนักงานประจำรถก่อนให้บริการ สำหรับเส้นทางที่มีระยะทางเกินกว่า 400 กิโลเมตร จัดให้มีพนักงานขับรถ 2 คน มีระบบ GPS ควบคุมความเร็วในการขับขี่ ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ บขส. มีประกันภัยทุกที่นั่ง ซึ่งผู้โดยสารจะได้รับความคุ้มครองตลอดการเดินทาง รวมทั้งเพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) บขส. ยังคงขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าขณะใช้บริการบนรถโดยสารและภายในสถานีขนส่งด้วย

         กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวด้วยว่า ในวันหยุดยาวนี้ บขส. ได้มอบส่วนลดค่าโดยสาร 5% (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) และคะแนนสะสมคูณ 2 ให้กับผู้โดยสารที่เป็นสมาชิก บขส. Card และจองตั๋วโดยสารผ่านช่องทางออนไลน์บน Application : E-ticket Website บขส. : https://tcl99web.transport.co.th และเดินทางในช่วงวันที่ 3 – 9 มิถุนายน 2566 ส่วนลูกค้าสมาชิก บขส. Card ที่จองตั๋วโดยสารหน้าช่องขายตั๋ว สามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดค่าโดยสารได้เช่นกัน ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเป็นสมาชิก บขส. Card โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านทาง Application : E-ticket หรือ Website บขส. สอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ บขส. Call Center 1490

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กระทรวงคมนาคม

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS NEWS

“กรุงไทย-GC” ตอกย้ำองค์กรความยั่งยืน ตอบโจทย์ เป้าหมาย Together to Net Zero

“กรุงไทย-GC” ตอกย้ำองค์กรความยั่งยืน ตอบโจทย์ เป้าหมาย Together to Net Zero

Facebook
Twitter
Email
Print
“ธนาคารกรุงไทย” ร่วมกับ “พีทีที โกลบอล เคมิคอล” บริหารจัดการทางการเงินเชื่อมโยงเป้าหมาย ESG หรือ ESG Financial Solution ครอบคลุมการบริหารสภาพคล่อง ESG Investing และบริหารความเสี่ยงด้วย ESG-Linked Derivatives ช่วยลดต้นทุน ตอบโจทย์เป้าหมาย Together to Net Zero และการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมการเงินและการลงทุนตามแนวทาง การพัฒนาอย่างยั่งยืน ให้ตอบโจทย์ในลูกค้าและเหมาะสมทุกสภาวะตลาด รวมถึงสนับสนุนเป้าหมายการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ล่าสุด ธนาคารร่วมมือกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC บูรณาการเครื่องมือทางการเงิน สนับสนุนธุรกรรมการลงทุนแบบยั่งยืนของ GC โดยพิจารณาเลือกลงทุนในสินทรัพย์เพื่อบริหารสภาพคล่องที่สอดคล้องกับหลักการ ความยั่งยืน (ESG Investing) และเข้าทำธุรกรรมบริหารความเสี่ยงทางการเงินที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายความยั่งยืน (ESG-Linked Derivatives) ในรูปแบบ ESG for ESG Solutions ซึ่งมีการออกแบบให้มีการวัดผล การดำเนินงานด้าน ESG เป็นเกณฑ์ในการลดต้นทุนของธุรกรรม และส่งต่อผลประโยชน์ที่ได้รับไปยังการลงทุนตามหลักการ ESG ต่อไป ถือเป็นความร่วมมือด้าน ESG ครั้งแรกที่มีการเชื่อมโยงการบริหารสภาพคล่องและการบริหารความเสี่ยง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้ทั้งสององค์กรบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนและบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ไปพร้อมกัน

“นับเป็นครั้งแรกที่ธนาคารนำความหลากหลายของเครื่องมือทางการเงิน มาเชื่อมโยงกับ เป้าหมาย ESG ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินงานของทั้งสององค์กรให้บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนไปพร้อมกัน ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดด้านบริการทางการเงินที่ยั่งยืน (ESG Financial Solutions) ทั้งด้านบริหารความเสี่ยงทางการเงินและการบริหารจัดการการลงทุน ด้วยการออกแบบและพัฒนาบริการ เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของลูกค้าอย่างตรงจุด สนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน ตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ในข้อ 13 เรื่องการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ กรุงไทยเคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”

นางสาวภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า GC มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทางการเงิน การบริหารความเสี่ยงและมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามกรอบเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) ภายใต้สมดุล 3 มิติ คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และการดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล (ESG)

ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำแนวทางธุรกิจยั่งยืนมาปรับใช้กับนโยบายการลงทุนเพื่อบริหารสภาพคล่อง โดยจะเลือกสินทรัพย์ลงทุนที่สอดคล้องตามหลักการของ ESG และมีความเสี่ยงที่เหมาะสม นอกจากนี้ ในการทำ ESG-Linked Derivatives กับธนาคารกรุงไทยเพื่อการบริหารความเสี่ยงทางการเงินนั้น ยังมีการกำหนดเป้าหมายด้าน ESG ที่บริษัทมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ ซึ่งส่วนลดต้นทุนทางการเงินดังกล่าว จะนำมาสนับสนุนนโยบายการลงทุนแบบ ESG Investing ต่อไป เป็นการบูรณาการเพื่อนำหลักการของ ESG มาปรับใช้กับการบริหารจัดการทางการเงินในทุกๆ ด้าน ส่งเสริมแนวทางของบริษัทในการเติบโตแบบยั่งยืน

Krungthai Bank and GC solidify their status as sustainable organizations with ESG financial solution addressing ‘Together to Net Zero’ mission

Krungthai Bank and PTT Global Chemical have joined forces to develop a financial management solution aimed at addressing environmental, social, and governance (ESG) targets, or an ESG financial solution, in which liquidity and risk are managed through ESG-linked derivatives. This collaborative effort is expected to reduce costs and contribute to addressing the net-zero target under the strategy “Together to Net Zero” and the sustainable business agenda.

Rawin Boonyanusasna, Senior Executive Vice President of the Global Markets Group at Krungthai Bank, said that Krungthai Bank is committed to developing financial and investment innovations that not only meet customer needs in different market conditions but also support sustainable development and the integration of ESG principles into business practices. In line with this commitment, the bank has recently partnered with PTT Global Chemical Public Company Limited (GC) to use financial instruments to support GC’s sustainable investing agenda by considering investing in assets that align with ESG investing for liquidity management purposes and entering into ESG-linked derivative agreement, which is considered an ESG for ESG solution. It is designed to measure the performance of ESG operations and pass on the benefits received to ESG investing. This is the first time that the ESG agenda is integrated into liquidity and risk management, and it is a crucial step that will support both organizations to achieve sustainability goals and net-zero targets together.

Rawin stated, “This marks the first time Krungthai Bank has utilized a diverse range of financial instruments to address ESG objectives. It is a significant milestone in propelling both organizations toward sustainable development goals. Moreover, it reinforces Krungthai Bank’s position as a leading provider of ESG financial solutions, both for liquidity and investment management, that effectively cater to the specific business needs of its customers, while addressing the United Nations’ Sustainable Development Goal 13: Climate Action. All of this aligns with our vision of ‘Growing Together for Sustainability.'”

Pattaralada Sa-ngasan, Executive Vice President of Finance and Accounting at PTT Global Chemical Public Company Limited (GC) said that the company focuses on sound financial and risk management practices, along with its commitment to integrating the United Nations’ Sustainable Development Goals into its operations, aiming to achieve balance across three dimensions: environmental, social, and governance (ESG). To this end, the company has adopted a sustainable business approach in its investment policy, strategically investing in assets that align with ESG principles and fall within its risk appetite. As part of the ESG-linked derivative deal with Krungthai Bank, specific ESG targets have been established, and the fee discounts received upon reaching these targets will be allocated towards the company’s ESG investing policy. This showcases the company’s comprehensive integration of ESG principles across all aspects of financial management, which aligns with its sustainable growth strategy.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ธนาคารกรุงไทย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS TOP STORIES

ตำรวจไซเบอร์ รวบ! ผู้ขายซิมม้าออนไลน์เวียงป่าเป้า

ตำรวจไซเบอร์ รวบ! ผู้ขายซิมม้าออนไลน์เวียงป่าเป้า

Facebook
Twitter
Email
Print
ตามที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4 ได้รับคำสั่งให้ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่างวันที่ 15-31 พ.ค. 66 โดยมีเป้าหมายการระดมกวาดล้างเกี่ยวกับ การกระทำความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ได้แก่ เป็นธุระจัดหาโฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ หรือขาย เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ (เป็นคนกลางประกาศขายซิมการ์ดผี) ซึ่ง ตร.ได้กำชับให้ บช.สอท. เร่งรัดดำเนินการตาม พ.ร.ก.มาตรการฯโดยเฉพาะการกวดขันจับกุมผิดใดๆ เกี่ยวกับ บัญชีม้าและซิมม้า
 
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 66 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบพบ มีการโพสต์โฆษณา จำหน่ายซิมการ์ดหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนแล้ว ใน Facebook ในกลุ่มสาธารณะชื่อ “ซื้อขายซิม ไม่ลงทะเบียน และ ลงทะเบียน ทุกค่าย AIS DTAC TRUE” โดยโพสต์ดังกล่าวเป็นโพสต์สาธารณะบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ผู้ใช้บัญชี Facebook ชื่อ “สุพัตรา มณีวงษ์” ได้โพสต์โฆษณาขายซิมการ์ดโดยมีข้อความว่า “ขายซิมดีแทคปกสุขใจ ลงทะเบียนไม่เปิดเบอร์ มี 175 ซิม ขายเหมาที่ซิมละ 39 พร้อมส่งฟรีค่ะ” โดยโพสต์เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 66 เวลา 17.30 น.
 
ต่อมาวันที่ 20 พ.ค.66 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้รับพัสดุ ซึ่งกล่องหีบห่อพัสดุอยู่ในสภาพปิดผนึกเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยการเปีด งัดแงะ หรือฉีกขาด แต่อย่างใดโดยระบุชื่อผู้ส่งคือ นางสุพัตราฯ หมายเลขโทรศัพท์ 092-4656656 จึงนำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นได้สอบพัสดุดังกล่าว พบว่าภายในกล่องบรรจุชิมการ์โทรศัพท์ระบบ DTAC จำนวน 20 ใบ ซึ่งลงทะเบียนแล้ว ตรงตามที่สายลับได้ทำการสั่งซื้อจากการตรวจสอบชิมการ์ด หมายเลขโทรศัพท์ 094-4175955 พบว่าได้มีการลงทะเบียนใช้งานบุคคลอื่นแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดชิมการ์ดที่ได้รับดังกล่าวไว้เป็นของกลาง ต่อมาวันที่ 29 พฤษภาคม 66 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้นำหมายค้นศาลแขวงเวียงป่า เพื่อตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งเปิดเป็นร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและ อุปกรณ์ไอที ชื่อร้าน “ไอทีคอมพิวเตอร์” และเป็นที่พักอาศัยของผู้ต้องหานี้ด้วย เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ดังกล่าวพบ นางสุพัตรา มณีวงษ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.เชียงราย แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นให้กับนางสุพัตราฯ ดูจนเป็นที่พอใจ แจ้งวัตถุประสงค์ให้ทราบ ยินยอมให้ทำการตรวจค้น และเป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นด้วยตนเอง ผลการตรวจค้น ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
 
จากการสอบถามนางสุพัตรา มณีวงษ์ฯ รับว่าตนได้ขายชิมการ์ดระบบ DTAC ที่ลงทะเบียนแล้ว ให้กับสายลับ (ไม่ประสงค์ออกนาม) จำนวน 20 ใบ ในราคา 900 บาท จริง เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 66 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกล่องพัสดุที่ได้รับจากสายลับและซิมการ์ดระบบ DTAC จำนวน 20 ใบ ที่บรรจุในกล่องดังกล่าว มาแสดงต่อหน้านางสุพัตราฯ สอบถามนางสุพัตราฯ ยอมรับว่ากล่องพัสดุดังกล่าวตนเป็นผู้ใช้บรรจุชิมการ์ดและที่สายลับสั่งซื้อส่งให้กับสายลับจริง และชิมการ์ดจำนวน 20 ใบดังกล่าว เป็นของตนซึ่งได้ขายให้กับสายลับจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นางสุพัตราฯ ทราบว่า “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดเพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 นางสุพัตราฯ ทราบและเข้าใจในข้อกล่าวหาเป็นอย่างดีแล้วให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวทา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงทำการเชิญตัวนางสุพัตราฯ มาที่ สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เพื่อจัดทำบันทึกร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อ พงส.สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
 
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.สุขสันต์ เปาอินทร์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4, ได้สั่งการ พ.ต.ท.อนุรักษ์ พรมเมือง รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4 พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บช.สอท. – CCIB

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

เชียงราย ปลูกผักสวนครัว เฉลิมพระเกียรติ

เชียงราย ปลูกผักสวนครัว เฉลิมพระเกียรติ

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 ที่แปลงผักหลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย อ.เมืองเชียงราย นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Kick off 1 หมู่บ้าน 1 ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี วันประสูติ 6 พฤษภาคม 2566 เพื่อสร้างความต่อเนื่องในการสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน ลดรายจ่าย สร้างรายได้ระยะสั้น ทั้งในระดับครัวเรือนและระดับกลุ่มอาชีพ รวมทั้งเพื่อสร้างโมเดลต้นแบบในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยมีนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาด จ.เชียงราย และประธานแม่บ้านมหาดไทย จ.เชียงราย พร้อมด้วยนางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายนำหัวหน้าส่วนราชการ จิตอาสา และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม

 
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 โดยการส่งเสริมให้ครัวเรือนปลูกผักสวนครัวอย่างน้อย 10 ชนิด เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยเริ่มจากผู้นำต้องทำก่อน และขยายผลไปยังครัวเรือนอื่นๆ โดยมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง สู่กิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และขยายผลมาสู่กิจกรรม “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” โดยมีการมอบพันธุ์ไม้ให้ผู้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ไปปลูกด้วย นอกจากนี้ยังมีการพืชผักสวนครัว อย่างพริก มะเขือ ผักสลัด กระเพรา ฯลฯ ไว้เป็นแหล่งอาหารปลอดสารพิษอีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

คณะศรัทธาประชาชน ร่วมพิธีสังเวย เลี้ยงเทวดาอารักษ์พระสิงห์ เมืองเชียงรายปีที่ 5

คณะศรัทธาประชาชน ร่วมพิธีสังเวย เลี้ยงเทวดาอารักษ์พระสิงห์ เมืองเชียงรายปีที่ 5

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 ที่พระวิหารแก้ว (หอพระสิงห์) วัดพระสิงห์ พระอารามหลวง ถนนสิงหไคร ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมีนางภัทราวดี สุทธิธนกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้นำภาคเอกชน อุบาสก อุบาสิกา ทายก ทายิกา เยาวชนและศาสนิกชน ร่วมประกอบพิธีเลี้ยงสังเวยเทวดาอารักษ์พระสิงห์ ประจำเมืองเชียงรายปีที่5 พร้อมด้วยนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ตลอดทั้งคณะศรัทธา พ่อค้า ประชาชน ที่มาร่วมพิธีในครั้งนี้

การสังเวยเทวดาอารักษ์ เป็นความเชื่อของชาวล้านนาที่ถูกสืบทอดมา โดยพิธีพลีกรรมเลี้ยงพระสิงห์ จะจัดขึ้นในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 9 เหนือ ในฐานะของการเป็น พระสิงห์ หรือ ผีสิงเมือง ที่คุ้มครองรักษาชาวเมืองเชียงราย จึงมีการเซ่นสังเวย โดยอาหารที่ใช้พลีกรรมมีทั้งอาหารคาว ลาบ แกงอ่อม รวมทั้งอาหารหวาน ดอกไม้ 7 สี บอกไฟดอก และเชื่อว่าเมื่อพญา กษัตริย์ ชนชั้นปกครอง สิ้นพระชนม์ หรือสวรรคตแล้ว จะได้จุติเป็นอารักษ์หลวง หรือเทวดาอารักษ์เมือง มีหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองให้สงบสุขร่มเย็น ปราศจากสิ่งชั่วร้าย โดยในพิธีจะมีพิธีเป่าโองการสังเวยเทวดาฟ้าดิน เพื่ออัญเชิญเทวดาอารักษ์มาสิงสถิต และมารับเครื่องเซ่นสังเวย
ทั้งนี้การจัดพิธีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมประเพณีอันดีงาม ความเป็นสิริมงคล และเป็นการสร้างความสามัคคี สร้างขวัญกำลังใจแก่พุทธศาสนิกชนชาวเชียงราย ก่อให้เกิดความตระหนักในการสำนึกรักถิ่นกำเนิดตลอดจนอยู่คู่กับชาวล้านนาจังหวัดเชียงรายสืบไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News