ตามที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4 ได้รับคำสั่งให้ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่างวันที่ 15-31 พ.ค. 66 โดยมีเป้าหมายการระดมกวาดล้างเกี่ยวกับ การกระทำความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ได้แก่ เป็นธุระจัดหาโฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ หรือขาย เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ (เป็นคนกลางประกาศขายซิมการ์ดผี) ซึ่ง ตร.ได้กำชับให้ บช.สอท. เร่งรัดดำเนินการตาม พ.ร.ก.มาตรการฯโดยเฉพาะการกวดขันจับกุมผิดใดๆ เกี่ยวกับ บัญชีม้าและซิมม้า
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 66 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบพบ มีการโพสต์โฆษณา จำหน่ายซิมการ์ดหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนแล้ว ใน Facebook ในกลุ่มสาธารณะชื่อ “ซื้อขายซิม ไม่ลงทะเบียน และ ลงทะเบียน ทุกค่าย AIS DTAC TRUE” โดยโพสต์ดังกล่าวเป็นโพสต์สาธารณะบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ผู้ใช้บัญชี Facebook ชื่อ “สุพัตรา มณีวงษ์” ได้โพสต์โฆษณาขายซิมการ์ดโดยมีข้อความว่า “ขายซิมดีแทคปกสุขใจ ลงทะเบียนไม่เปิดเบอร์ มี 175 ซิม ขายเหมาที่ซิมละ 39 พร้อมส่งฟรีค่ะ” โดยโพสต์เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 66 เวลา 17.30 น.
ต่อมาวันที่ 20 พ.ค.66 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้รับพัสดุ ซึ่งกล่องหีบห่อพัสดุอยู่ในสภาพปิดผนึกเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยการเปีด งัดแงะ หรือฉีกขาด แต่อย่างใดโดยระบุชื่อผู้ส่งคือ นางสุพัตราฯ หมายเลขโทรศัพท์ 092-4656656 จึงนำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นได้สอบพัสดุดังกล่าว พบว่าภายในกล่องบรรจุชิมการ์โทรศัพท์ระบบ DTAC จำนวน 20 ใบ ซึ่งลงทะเบียนแล้ว ตรงตามที่สายลับได้ทำการสั่งซื้อจากการตรวจสอบชิมการ์ด หมายเลขโทรศัพท์ 094-4175955 พบว่าได้มีการลงทะเบียนใช้งานบุคคลอื่นแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดชิมการ์ดที่ได้รับดังกล่าวไว้เป็นของกลาง ต่อมาวันที่ 29 พฤษภาคม 66 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้นำหมายค้นศาลแขวงเวียงป่า เพื่อตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งเปิดเป็นร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและ อุปกรณ์ไอที ชื่อร้าน “ไอทีคอมพิวเตอร์” และเป็นที่พักอาศัยของผู้ต้องหานี้ด้วย เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ดังกล่าวพบ นางสุพัตรา มณีวงษ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.เชียงราย แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นให้กับนางสุพัตราฯ ดูจนเป็นที่พอใจ แจ้งวัตถุประสงค์ให้ทราบ ยินยอมให้ทำการตรวจค้น และเป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นด้วยตนเอง ผลการตรวจค้น ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
จากการสอบถามนางสุพัตรา มณีวงษ์ฯ รับว่าตนได้ขายชิมการ์ดระบบ DTAC ที่ลงทะเบียนแล้ว ให้กับสายลับ (ไม่ประสงค์ออกนาม) จำนวน 20 ใบ ในราคา 900 บาท จริง เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 66 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกล่องพัสดุที่ได้รับจากสายลับและซิมการ์ดระบบ DTAC จำนวน 20 ใบ ที่บรรจุในกล่องดังกล่าว มาแสดงต่อหน้านางสุพัตราฯ สอบถามนางสุพัตราฯ ยอมรับว่ากล่องพัสดุดังกล่าวตนเป็นผู้ใช้บรรจุชิมการ์ดและที่สายลับสั่งซื้อส่งให้กับสายลับจริง และชิมการ์ดจำนวน 20 ใบดังกล่าว เป็นของตนซึ่งได้ขายให้กับสายลับจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นางสุพัตราฯ ทราบว่า “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดเพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 นางสุพัตราฯ ทราบและเข้าใจในข้อกล่าวหาเป็นอย่างดีแล้วให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวทา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงทำการเชิญตัวนางสุพัตราฯ มาที่ สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เพื่อจัดทำบันทึกร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อ พงส.สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.สุขสันต์ เปาอินทร์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4, ได้สั่งการ พ.ต.ท.อนุรักษ์ พรมเมือง รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4 พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม