Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย หารือกฎหมายใช้ที่ดินพื้นที่อำเภอแม่สาย

 

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 10.00 น.นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายญาณาฤทธิ์ หนสมสุข รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ประชุมข้อราชการและระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์และที่ดินอื่นๆ ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลแม่สาย

 

โดยมีผู้นำท้องถิ่น ท้องที่เข้าร่วมปรึกษาหารือข้อราชการ ระเบียบกฎหมาย เกี่ยวกับการเข้าดำเนินกิจกรรม หรือโครงการพื้นที่อุทยาน ป่าไม้ หรือป่าสงวน เช่น การดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และปัญหาอุทกภัยอย่างมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยมีส่วนร่วม กับประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย โดยพื้นที่ดำเนินการบางแห่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวและพื้นที่ในการดูแลของป่าไม้-อุทยาน ซึ่งต้องดำเนินการขออนุญาตก่อนเข้าดำเนินการ จากการดำเนินการที่ผ่านมามีการประสานเพื่อขออนุญาต แต่ไม่ได้รับการตอบรับหรือการตอบรับล่าช้า จากหน่วยงานผู้ดูแลพื้นที่ ทำให้การดำเนินการกิจกรรม-โครงการไม่สามารถดำเนินตามกรอบเวลาหรือกำหนดการที่วางไว้
 
 
ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายจึงได้จัดการประชุมเพื่อสร้างการรับรู้และเข้าใจระหว่างส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำท้องที่ รวมถึงประชาชนที่ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ที่ดิน (น.ส.ล.) ทั้งที่อยู่ในเขตป่า/ป่าสงวน ที่ราชพัสดุและที่ดินอื่นๆ ในพื้นที่อำเภอแม่สาย เพื่อบูรณาการและนำไปถ่ายทอดความรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบและถือเป็นแนวทางปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและรองรับตามภารกิจอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด รวมถึงขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายโดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 
1. ท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย 
2. ผู้อำนวยการ ปปช. ประจำจังหวัดเชียงราย 
3. ที่ดินจังหวัดเชียงราย 
4. สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ 2 (เชียงราย) 
5. ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย 
6. ธนารักษ์พื้นที่เชียงราย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“วันชัย” นำทีมเทศบาลนครเชียงราย คว้ารางวัล บริหารจัดการดีเลิศ ประจำปี66

 
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เทศบาลนครเชียงราย โดยนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พ.จ.อ.อัษฎางค์ วิเศษวงศ์ษา ปลัดเทศบาลนครเชียงราย พร้อมคณะผู้บริหาร เข้ารับรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประเภทดีเลิศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งคณะผู้บริหาร, สมาชิกสภา, ข้าราชการและพนักงานในเทศบาลนครเชียงรายร่วมแสดงความยินดี
 
 

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 62 แห่ง ที่ได้รับรางวัลว่า นับตั้งแต่ปี 2546 ที่มีการมอบรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดีจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 21 ปี รัฐบาลโดยคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีนโยบายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้พัฒนาการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ  มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และพัฒนาท้องถิ่นให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการบริหารจัดการที่ดี และมีความพยายามให้ท้องถิ่นสร้างสรรค์นวัตกรรมในการบริการประชาชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้ง ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงผลการทำงานที่มีความเป็นเลิศขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นให้มีความเจริญก้าวหน้า  และช่วยยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการที่ดีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้มีมาตรฐานทัดเทียมกับระดับสากล

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่า ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับรางวัลในวันนี้ นำเงินรางวัลที่ได้รับไปพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และสร้างนวัตกรรมท้องถิ่น เพื่อแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการของประชาชน  ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน และความเจริญก้าวหน้าของท้องถิ่นอย่างยั่งยืนต่อไป

ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับรางวัลประเภทดีเลิศ ได้แก่ รางวัลที่ 1  เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด รางวัลที่ 2 เทศบาลเมืองแม่เหียะ จังหวัดเชียงใหม่ รางวัลที่ 3 เทศบาลเมืององค์การบริหารส่วนตำบลปางหมู จังหวัดแม่อ่องสอน  และ 4รางวัลชมเชย เทศบาลนครเชียงราย จังหวัดเชียงราย พร้อมมอบรางวัลอื่น ๆ  โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนเพื่อให้เป็นรางวัลสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนถิ่น และผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับรางวัลเข้าร่วม

 
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

OPEN HOUSE 2023 โรงเรียน อบจ.เชียงราย

 
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.30 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมด้วยสมาชิกสภา อบจ.เชียงราย หัวหน้าส่วนราชการในสังกัด อบจ.เชียงราย ร่วมเปิดกิจกรรม OPEN HOUSE 2023 “Challenges and Opportunities for Future Education ความท้าทาย และโอกาสในอนาคตของการศึกษาไทย” ณ ลานโดม โรงเรียน อบจ.เชียงราย ทั้งนี้ ดร.ศราวุธ ศุตะวงค์ ผู้อำนวยการโรงเรียน อบจ.เชียงราย นำคณะผู้บริหารคณะครู และนักเรียน ร่วมให้การต้อนรับในกิจกรรมครั้งนี้
 
.
โรงเรียน อบจ.เชียงราย ถือกำเนิดจากนโยบายในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนในจังหวัดเชียงราย เริ่มรับนักเรียนรุ่นแรกในปี 2549 เป็นที่ภาคภูมิใจในการเป็นสถานศึกษาแห่งแรกของประเทศไทยที่ก่อตั้งขึ้นเองในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ปัจจุบันมีนักเรียนกว่า 4,000 คน เปิดสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ Active Learning ผ่านกระบวนการ Thinking School และได้พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้เหมาะสมกับศักยภาพของผู้เรียนที่มีความแตกต่างกัน และเชื่อว่า “เด็กทุกคนเก่งทุกรายแต่เขาเก่งคนละด้าน” เรียนแล้วให้เกิดประโยชน์ เรียนแล้วนำไปใช้ได้จริง ไปต่อยอดการเรียนในระดับที่สูงขึ้น หรือต่อยอดเป็นอาชีพได้ จึงเกิดเป็นรูปแบบของงานเปิดบ้านวิชาการ เปิดบ้านแห่งการเรียนรู้ ในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงผลงานของนักเรียน ครู โรงเรียน ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง นักเรียนและประชาชนทั่วไป ที่สนใจจะส่งบุตร หลานเข้าศึกษาต่อได้เยี่ยมชมผลงาน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น อีกทั้งจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักสูตรพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศและส่งเสริมให้นักเรียนได้แสดงผลงานทางด้านวิชาการและศักยภาพด้านอื่น ๆ
 
 
ตามความถนัดและความสนใจ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย การแสดงนิทรรศการและการแสดงผลงาน จำนวน 23 โปรแกรมหลักสูตร กิจกรรมแนะแนวการศึกษาต่อจากวิทยาลัย 3 แห่ง และมหาวิทยาลัย 4 แห่ง กิจกรรม School Tour พา 13 โรงเรียน มากกว่า 300 คนที่มาร่วมงานได้เยี่ยมชมโรงเรียน มีการแสดงความสามารถบนเวที และเปิดโอกาสให้นักเรียนที่มาร่วมงานและสนใจที่จะศึกษาต่อที่โรงเรียน อบจ.เชียงราย สามารถรับใบสมัครและติดต่อขอสมัครได้ในช่วงของการจัดงานในครั้งนี้ด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

โอนเงินเกิน 50,000 บาท ทุกครั้ง บนแอปฯ ธนาคาร ต้องสแกนหน้า

 

สมาคมธนาคารไทย และ ศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคการธนาคาร ได้ตรวจสอบระบบของภาคธนาคารแล้ว ยืนยันว่า โปรแกรมดังกล่าวไม่สามารถใช้กับบัญชีลูกค้าทั่วไปได้ เพราะจะต้องมีข้อมูลของเจ้าของบัญชีทั้งหมด รวมทั้ง ข้อมูลการยืนยันตัวตน รหัส PIN โมบายแบงกิ้ง รหัสผ่านใช้งานครั้งเดียว (OTP) และการสแกนใบหน้า

การโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาท ต่อครั้ง และ 200,000 บาท ต่อวัน ยืนยันว่าต้องยืนยันตัวตนโดยสแกนใบหน้า  รวมทั้งย้ำว่า ระบบโมบายแบงกิ้งของทุกธนาคารมีความปลอดภัย และมีเสถียรภาพขอให้มั่นใจว่า ระบบโมบายแบงกิ้งของทุกธนาคารมีความปลอดภัยสูง

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าและประชาชน ต้องติดตามข้อมูลและปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันภัยทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงการตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพ ดังนี้

 

  • ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรมจากแหล่งอื่น
  • ไม่เปิดเผยรหัสผ่านเข้าโมบายแบงก์กิ้ง รวมถึงรหัสOTP กับบุคคลอื่น
  • ไม่สแกนใบหน้า หรือยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก
  • ไม่กดลิงก์จาก SMS แปลกปลอม เพราะธนาคารไม่มีนโยบายส่งข้อความ SMS ที่แนบลิงก์ทุกชนิด หรือมีข้อความให้แอด Line ID หลงเชื่อเด็ดขาด
  • ควรสังเกตโล่ ที่อยู่ด้านหน้า Line account เสมอ ซึ่งมีโล่สีเขียว หรือน้ำเงินเข้ม เท่านั้น
  • หากมีข้อสงสัยเรื่องการทำธุรกรรมใด ๆ ติดต่อแบงก์ เพื่อตรวจสอบข้อมูลเสมอ หรือ แจ้งไปยังสายด่วน 1441

 

พร้อมขอเตือนว่าประชาชนอย่าไปรับจ้างเปิดบัญชีม้า หรือ เบอร์ม้า เพราะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมธนาคารไทย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

ปั๊มไหนปฏิเสธจำหน่ายน้ำมัน ระวังคุก 7 ปี โดนค่าปรับไม่เกิน 140,000 บาท

 

เมื่อวันที่ 7 พ.ย.66 ที่ผ่านมา จนทำให้เกิดเหตุการณ์ปั๊มน้ำมันต่าง ๆ ทั่วประเทศ ติดป้ายว่า “น้ำมันหมด” ซึ่งถูกตั้งคำถามว่า หมดจริงหรือเป็นการกักตุนน้ำมัน เพราะ ราคาลดลง

ล่าสุด นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ชี้แจงว่า 

เมื่อราคาน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ เช่น ปรับลดราคาน้ำมันลง 0.80-2.50 บาทต่อลิตร อย่างเมื่อวันที่ 7พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามามาก ว่าเกิดสินค้าน้ำมันหมดในหลายปั๊มทั่วประเทศ เกิดเป็นประเด็นคำถามกับผู้ใช้น้ำมัน ว่าเกิดจากหมดจริง หรือหมดเพราะเกิดการกักตุนสินค้า

 

ทั้งนี้เท่าที่ตรวจสอบข้อมูลพบว่า สถานีบริการหลายแห่งมีผู้ใช้จำนวนมากมาเติม ทำให้น้ำมันหมดจริง และหลายแห่งติดป้ายน้ำมันหมดตั้งแต่เช้า ทำให้มีข้อสงสัยว่าอาจเป็นพฤติกรรมการกักตุนน้ำมัน เฉพาะแค่บางชนิดที่ลดราคาเยอะ อย่างเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91

โดยกระทรวงพลังงาน ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบปั๊มน้ำมันหลายแห่งที่มีเรื่องร้องเรียนแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการที่ปฏิเสธการจำหน่ายในขณะที่น้ำมันยังมีในสต็อคจะ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะประชาชนผู้ใช้น้ำมันได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย 

 ดังนั้นประชาชนสามารถแจ้งกรมธุรกิจพลังงาน (0-2794-4555) หรือ กองตรวจราชการ กระทรวงพลังงาน (02-1406080) เพื่อเข้าไปตรวจสอบปั๊มที่เกิดเหตุ โดยแจ้งรายละเอียดชื่อสถานีบริการ และสถานที่ตั้ง เพื่อประสานกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่มีกฎหมายเฉพาะดูแล

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงพลังงาน

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

วธ. ดูความพร้อม “Thailand Biennale” งานศิลปะทั่วโลก รวมไว้ที่เชียงราย

 

วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน 2566 เลา 15.30 น. ณ ห้องประชุมแทนคุณแผ่นดิน ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง  นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้า และหารือโครงการการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ซึ่งกำหนดจัดในช่วงระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ณ จังหวัดเชียงราย

 

 

โดยมีนายพลภูมิ  ภิวัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และคณะ ,ดร.ธนกฤษฏ์ เอกโยคยะ รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เข้าร่วมหารือ

 

 

        สำหรับในส่วนจังหวัดเชียงราย นำโดยนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงราย,นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย, ดร.ณัฐวุฒิ  ยอดสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, ดร.อดิเทพ  วงค์ทอง ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, นาวาอากาศตรีสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ผู้แทนสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงราย, ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย, ผู้แทนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย, ผู้แทนสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย, ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย, ผู้แทนสำนักงานเทศบาลนครเชียงราย, นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, ผู้แทนสมาคมขัวศิลปะ เข้าร่วมหารือ โดยมีสื่อมวลชนร่วมทำข่าวประชาสัมพันธ์

 

 

       หลังจากการประชุมหารือ คณะฯ ได้ลงพื้นที่บริเวณหอศิลป์เมืองเชียงราย (Chiangrai International Art Museum : CIAM) เพื่อเยี่ยมชมและเตรียมความพร้อมของสถานที่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีเปิดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 โดยจะมีพิธีเปิดในวันที่ 9 ธันวาคม 2566

 

 

        ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้นางพัชรนันท์ แก้วจินดา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม พร้อมด้วยบุคลากร ร่วมอำนวยความสะดวกและร่วมการประชุมดังกล่าว

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : พัชรนันท์ แก้วจินดา รายงาน สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด 

วรพล จันทร์คง : ภาพ 

อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการข่าว

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ตามความก้าวหน้าผลงานศิลปะของศิลปิน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023

 

สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม โดย นายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปะร่วมสมัย พร้อมคณะ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการผลิตและติดตั้งผลงานศิลปะของศิลปินในโครงการการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ในวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ พื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย จำนวน 5 แห่ง ดังนี้

  1. หอศิลป์แทนคุณ (Tankhun Art Gallery) วัดร่องขุ่น ตำบลป่าอ้อดอนชัย
  2. ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ตำบลห้วยสัก
  3. หอศิลปะร่วมสมัยเมืองเชียงราย (CIAM) ตำบลริมกก
  4. อาคารปฐมาคารนุสรณ์ 2542 (MFU MEMORIAL HALL 1999) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตำบลท่าสุด
  5. พิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตำบลท่าสุด

     ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายวรพล จันทร์คง นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ นายยุทธนา สุทธสม นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ และ นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมลงพื้นที่เพื่อสนับสนุน อำนวยความสะดวก และตามคณะดังกล่าว

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม

พัชรนันท์ แก้วจินดา, สุพจน์ ทนทาน : รายงาน

วรพล จันทร์คง : ภาพ 

อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการข่าว 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

รมว.เกษตรฯ เน้น 3 นโยบายหลัก สร้างเสถียรภาพยางพารา

 

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายขับเคลื่อนการบริหารยางพารา โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารระดับสูงของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นำโดย นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ กยท. คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย พนักงานในสังกัด ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกันตัง กยท. สำนักงานใหญ่


           รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ต้องการมาพบปะและหาแนวทางการขับเคลื่อนงานร่วมกัน ซึ่งต้องการให้ทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการการทำงานไปพร้อมกัน โดยมุ่งเน้น 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) การปรับสมดุลปริมาณยางพาราในประเทศ ได้มอบหมายให้ กยท. ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร ตรวจสอบสต็อกยางพาราให้ตรงกัน รวมถึงให้ตรวจสอบจำนวนสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและไม่ขึ้นทะเบียน เพื่อจัดทำเป็น Big data ใช้ในการบริหารจัดการยางให้เกิดเสถียรภาพ 2) การปราบปรามการนำเข้าสินค้าภาคการเกษตรมาสู่ราชอาณาจักรแบบผิดกฎหมาย จะต้องเอาจริงเอาจัง และมีบทลงโทษอย่างเด็ดขาดสำหรับผู้กระทำผิด และ 3) ดึงภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนกับ กยท. โดยมีแนวทางในการสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์จากยางพารา เช่น ยางล้อรถยนต์ เป็นต้น เพื่อใช้ในส่วนราชการ และใช้ภายในประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการส่งยางออกนอกราชอาณาจักรด้วย


        “อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าภายใต้การกำกับดูแลของผู้บริหาร กยท. จะสามารถเดินหน้าหามาตรการต่าง ๆ มาขับเคลื่อนให้ราคายางดียิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาราคาจะขยับขึ้น แต่จะต้องดีกว่านี้ เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางอยู่ดีกินดี และสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวสวนยางให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
ECONOMY

กระทรวงอุตฯ ลุยเหนือเสริมศักยภาพ อุตสาหกรรมดึงดูดต่างชาติลงทุน

 

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.00 น. นางสาวพิมพ์ภัทรา  วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ลำพูน หารือร่วมเอกชน ถึงแนวทางขับเคลื่อน ภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นางสาวศิรินันท์ ศิริพานิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกภัทร วังสุวรรณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารระดับสูง กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วม โดยมี นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน  นางจันทนา ไวยาวัจมัย อุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่เกี่ยวข้องร่วมต้อนรับ ณ ห้องประชุมสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน

 

สำหรับในพื้นที่จังหวัดลำพูน มีผู้ประกอบกิจการโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ 73 ราย แบ่งเป็น ญี่ปุ่น 35 ราย ไทย 19 ราย ยุโรป 11 ราย เกาหลี 3 ราย ไต้หวัน 2 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย สิงคโปร์ 1 ราย และอินเดีย 1 ราย มีจำนวนการจ้างงาน 35,000 คน โดยเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม แบ่งเป็นด้าน ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ 27 โรงงาน อุตสาหกรรมเหล็ก และผลิตภัณฑ์โลหะ 8 โรงงาน อุตสาหกรรมน้ำมัน และพลังงาน 7 โรงงาน อุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม 5 โรงงาน อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เครื่องจักร และอะไหล่ 5 โรงงาน และอุตสาหกรรมด้านอื่นๆ เช่น อัญมณี เครื่องแต่งกาย ฯลฯ 21 โรงงาน

 

โดยการประชุมหารือในครั้งนี้ ได้นำเสนอในประเด็นต่าง ๆ อาทิ โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรายใหญ่กับ SMEs ลำพูน (Lamphun Supply Chain) : เพื่อเปิดโอกาสแสดงศักยภาพ และสร้างโอกาสเจรจาธุรกิจร่วมกัน ,โครงการขนส่งสินค้าทางรถไฟ และสถานี Container Yard : เพื่อสนับสนุนให้เกิดการขนส่งสินค้าในภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมภายในประเทศไทยและขนส่งออกไปต่างประเทศ, การปรับปรุงผังเมือง เพื่อรองรับการขยายตัวของการค้าและอุตสาหกรรมลำพูน NEC ,การปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับเศรษฐกิจ และ อุตสาหกรรมเกษตรเพิ่มมูลค่าสูง (Lamphun Superfoods Valley)

 

อุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน กล่าวว่า สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดลำพูน จากข้อมูล ประจำปี พ.ศ. 2564 ต่อหัว ลำพูน เป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ ลำดับที่ 14 ของประเทศ และจังหวัดลำพูน มีประเด็นการพัฒนาจังหวัดให้เป็นเมืองอุตสาหกรรม หัตถกรรม และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทย ให้สอดรับกับการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคเหนือ (Northern Economic Corridor) หรือ NEC ซึ่งรัฐบาลหวังพัฒนาภาคเหนือในส่วนของ 4 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และลำพูน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดลำพูน ให้เป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ของประเทศอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปวิสัยทัศน์ของจังหวัดลำพูนในปี 2570 ต่อไป

 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีฯ พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดึงดูดนักลงทุน ในส่วนภาคอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูนว่า รัฐบาลมีความพร้อมในการสนับสนุนศักยภาพภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก พร้อมกับมีโยบายในการส่งเสริมการจัดทำโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งให้กำลังใจพี่น้องประชาชน และผู้ประกอบการภาคธุรกิจ และเน้นย้ำให้การนิคมฯ ดูแลในส่วนของการบริหารจัดการน้ำ การใช้น้ำของโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ให้กระทบต่อภาคการเกษตรของประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรี เป็นห่วงสถานการณ์น้ำแล้งเป็นอย่างมาก

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงอุตสาหกรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

พจ.เชียงราย นำทีมประดิษฐ์ ผีเสื้อจากผ้าไทย

 

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย ศาลากลางจังหวัดเชียงราย

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย โดยการนำของนายวิทยา ชุมภูคำ พัฒนาการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางสุรีย์ศรี แสงสุวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน นักวิชาการพัฒนาชุมชน และนักศึกษาฝึกงาน ได้ร่วมใจกันประดิษฐ์ผีเสื้อจากผ้าไทยประจำจังหวัด และผ้าไทย ขนาดไม่เกิน 3 นิ้ว พร้อมติดลวดสำหรับแขวน ซึ่งจังหวัดเชียงรายมีเป้าหมายผลิตผีเสื้อจากผ้าไทย จำนวน 1,400 ตัว โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอทั้ง 18 อำเภอ คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอ และภาคีเครือข่ายงานพัฒนาชุมชนระดับอำเภอ ร่วมใจประดิษฐ์ผ้าไทยอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงรายจะได้ส่งมอบให้กระทรวงมหาดไทย สำหรับใช้ในงานวันกาชาด 100 ปี พุทธศักราช 2566 ณ ร้านกาชาดกระทรวงมหาดไทยต่อไป
ทั้งนี้ “งานวันกาชาด 100 ปี พุทธศักราช 2566” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-18 ธันวาคม 2566 ภายใต้แนวคิด “รื่นรมย์สุขฤดี ณ ที่แห่งการให้” #RedCrossFairCenturyOfCharity ณ สวนลุมพินี กรุงเทพฯ และบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่www.redcrossfair.com
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : พจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News