Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

เชียงราย ไทย-จีน ร่วมถกปัญหาแก้ไข PM 2.5 อย่างยั่งยืน เพื่อเป็นต้นแบบและนำไปใช้ในพื้นที่อื่นๆ

เชียงราย ไทย-จีน ร่วมถกปัญหาแก้ไข PM 2.5 อย่างยั่งยืน เพื่อเป็นต้นแบบและนำไปใช้ในพื้นที่อื่นๆ

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม 2566 ที่ห้องประชุมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายมิติ ติยะไพรัตน์ ตัวแทนภาคประชาสังคม ว่าที่ สส.จุฬาลักษณ์ ขันสูธรรม ว่าที่ สส.วิทูร ยะแสง ผศ.ดร.นิอร ศิริมงคลเลิศกุล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาเชียงราย ผศ.ดร.นพชัย ฟองอิสสระ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับ Mr. Gansheng Shi, Engineer of Shanghai Institute of Ceramics, Chinese Academy of Sciences , Prof. Dr. Jing Sun, the Research Group Leader of Shanghai Institute of Ceramics, Chinese Academy of Sciences เพื่อหารือถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 และปัญหาหมอกควันไฟป่า ที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงราย

นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า เชียงรายได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม ถึง ต้นเตือนพฤษภาคม ซึ่งในปี 2566 นี้ถือว่ามีความรุนแรง ซึ่งในจังหวัดเชียงรายมีพื้นที่เป็นที่ราบ เมื่อเกิดฝุ่นละอองในอากาศก็จะพัดมารวมกันทำให้เกิดเป็นปัญหามาอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งทางหน่วยงานต่างๆ ก็ได้ให้ความสำคัญและพยายามแก้ไขปัญหาทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ผ่านมาทางประเทศจีนก็ได้ประสบปัญหามาก่อนแต่ก็มีการแก้ไขได้อย่างดี ในวันนี้ทางมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ ประเทศจีนจะได้ให้คำปรึกษาและแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นต้นแบบและนำไปใช้ในพื้นที่อื่นๆ

นายมิติ ติยะไพรัตน์ ตัวแทนภาคประชาสังคม กล่าวว่า ในปีนี้ทางภาคประชาสังคมก็จะพยายามช่วยเหลือในทุกๆ ด้านเพื่อที่จะทำให้การแก้ไขปัญหา ฝุ่น PM 2.5 ที่มันเกิดขึ้นเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นหรือมีน้อยที่สุด

ผศ.ดร.นิอร ศิริมงคลเลิศกุล กล่าวว่า ปัจจุบันมีความผันผวนของสภาพภูมิอากาศที่ยากแก่การคาดเดา และการแก้ไขปัญหา ไฟและฝุ่น ณ แหล่งกำเนิดยังคงมีความซับซ้อนและยังคงใช้เวลาในการแก้ไข นอกจากนี้การแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศไม่สามารถแก้เพียงที่ใดที่หนึ่งเท่านั้น เพราะมลพิษทางอากาศไม่มีขอบเขตการปกครอง ดังนั้นการ่วมมือกันของทุกๆภาคส่วนและการร่วมมือระหว่างประเทศจึงสำคัญและการปรับตัว พร้อมด้วยการรับมือจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยการนี้กลุ่มนักวิจัย จาก The Research Group Leader of Shanghai Institute of Ceramics, Chinese Academy of Sciences 

ได้ทำการพัฒนานวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กที่สามารถใช้ได้ทั้งในระบบปิด และ ระบบเปิด โดยใช้หลักการไฟฟ้าสถิต และไม่ต้องมีการเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ เพื่อเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสำหรับการรับมือและการลดผลกระทบด้านสุขภาวะที่เกิดขึ้นได้ 

โดย นายสิทธิกร ฉันทแดนสุวรรณ อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้เป็นผู้ประสานงานให้มีการบริจาคเครื่องดังกล่าวนี้ มายังพื้นที่ๆได้รับผลกระทบในประเทศไทย จำนวน 4 เครื่อง โดยติดตั้งที่โรงเรียนบ้านป่าแฝ-หนองอ้อ-สันทรายมูล อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย รร.ชุมชนบ้านท่าข้าม อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ และ อีก 2 เครื่องที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งสองเครืองแรกจะเป็นการติดตั้งในโรงเรียนที่มีค่า PM2.5 และ การเกิด Fire Hotspot ค่อนข้างสุงเพื่อเป็นการลดผลกระทบให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชน ส่วนอีก 2 เครื่องนั้นเพื่อเป็นความร่วมมือกันในด้านวิชาการต่อไป

Prof. Dr. Jing Sun กล่าวว่า เราได้เห็นปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย และได้รับการประสานจากคุณสิทธิกร ฉันทแดนสุวรรณ อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง เพื่อประสานโอกาสและความร่วมมือทั้งทางด้านวิชาการ การเรียนรู้ และการแก้ไขปัญหา PM2.5 จากหลายๆ ภาคส่วนจึงถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เรียนรู้ร่วมกัน ต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

วุฒิสภา เยือนโอโซนฟาร์ม Young Smart Farmer จ.เชียงราย

วุฒิสภา เยือนโอโซนฟาร์ม Young Smart Farmer จ.เชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 นาฬิกา คณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา นำโดย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พร้อมคณะ เดินทางศึกษาดูงาน ณ โอโซนฟาร์ม ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เยี่ยมชมการดำเนินงานและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับอนาคตและทิศทางเกษตรไทยในมุมมองของกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ และการสร้างเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) โดยมีนายพิเชษฐ์ กันทะวงค์ ผู้ก่อตั้งโอโซนฟาร์ม ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งให้ข้อมูลและนำเยี่ยมชมโอโซนฟาร์ม

“โอโซน ฟาร์ม” เป็นฟาร์มที่นำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Internet of Thing) มาทำเรื่องของเมล่อนให้มีรสชาติหวาน ทำเป็นฟรีชดรายแปรรูปส่งตลาด รวมทั้งการใช้ระบบให้อาหารพืชที่ปลูกในโรงเรือนแบบแม่นยำ และจัดทำระบบเครื่องจ่ายปุ๋ยผ่านโทรศัพท์มือถือที่สามารถควบคุมได้ ทำให้ผลผลิตในโอโซนฟาร์มมีคุณภาพและเป็นการลดต้นทุนในการทำฟาร์ม จึงทำให้เป็นการพลิกโฉมการทำเกษตรแบบใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะหาองค์ความรู้แบบนี้มาจากแหล่งใด โดยในปัจจุบันคนรุ่นใหม่ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายให้ความสำคัญกับการทำการเกษตรแบบแม่นยำมากขึ้น และได้สมัครเป็นสมาชิก Young Smart Farmer เชียงราย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

ตรวจสอบเหตุคุ้มคลั่งเมืองเชียงราย ตามเหตุแจ้งความมั่นคง สายด่วน 1374

ตรวจสอบเหตุคุ้มคลั่งเมืองเชียงราย ตามเหตุแจ้งความมั่นคง สายด่วน 1374

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา พ.อ.พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าวฯ พร้อมด้วยกำลังพล กอ.รมน.จังหวัดเชียงราย ร่วมกับชุดปฏิบัติการนรสิงห์ ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองเชียงราย ชุดปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบตามการแจ้งเหตุเบาะแสความมั่นคง สายด่วน 1374 เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา กรณีที่มีบุคคลเสพกัญชาและยาบ้า จนมีอาการหลอนอารมณ์ฉุนเฉียนคุ้มคลั่ง เหตุเกิด ณ บ้านเลขที่ 66 ม.13 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 

ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวอยู่หลังบริเวณ ร.ร.เทศบาล 4 มีประชาชนแจ้งร้องเรียนมราบชื่อภายหลัง คุณฉัตรทริกา (สงวนนามสกุล) เกรงว่าจะเกิดเหตุไม่ปลอดภัยกับประชาชนในบริเวณใกล้เคียง จากการลงพื้นที่ตรวจสอบทราบว่าผู้แจ้งเหตุเป็นพี่สาวของบุคคลดังกล่าวทราบชื่อภายหลังว่า นายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) โดยมีประวัติการเสพกัญชามาเป็นเวลา 6 ปี และมีใบส่งตัวไปรับการตรวจรักษา ณ รพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่ เมื่อ 18 พ.ค.66 ที่ผ่านมา โดยนายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) มีความประสงค์ที่จะทำบัตรประชาชนใหม่ เพื่อใช้ในการสมัครงานหลังจากเข้ารับการรักษาตามคำสั่งของแพทย์

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 ชุดปฏิบัติการนรสิงห์ ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองเชียงราย ได้อำนวยความสะดวกให้กับ นายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) ไปทำบัตรประชาชน ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงราย จ.เชียงราย และทางด้านครอบครัวจะได้ส่งตัวไปรักษาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

กอ.รมน. จ.เชียงราย ถอดบทเรียน ปัญหาไฟป่าหมอกควันประจำปี 2566

กอ.รมน. จ.เชียงราย ถอดบทเรียน ปัญหาไฟป่าหมอกควันประจำปี 2566

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.00 น. พ.อ.พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ หน.กลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าวฯ เข้าร่วมการประชุมถอดบทเรียนหลังการปฏิบัติ AAR การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย,ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย,เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงราย,เกษตรจังหวัดเชียงราย,สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ Zoom Meeting ร่วมกับ ศอ.ปกป.ภาค 3 โดยมี พล.ท.วีรวัฒน์ วิวัฒน์วานิช รอง ผอ.ศอ.ปกป.ภาค 3 เป็นประธานการประชุม ณ ศอ.ปกป.ภาค 3 /นาย สุรศักดิ์ วณิชอนุกูล ผอ.ส่วนสิ่งแวดล้อม ทสจ.ชร. เป็นประธานจังหวัดเชียงรายฯ ณ ห้องประชุม กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. ชั้น2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

มทบ.37 ร่วมคณะอาจารย์ และนักศึกษา ทำกิจกรรมศึกษาป่าชุมชนบ้านห้วยหยวกป่าโซ

มทบ.37 ร่วมคณะอาจารย์ และนักศึกษา ทำกิจกรรมศึกษาป่าชุมชนบ้านห้วยหยวกป่าโซ

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เวลา เวลา 09.00 น. ร.ต.วชิรศักดิ์ ตันชัยสิริมณีกุล หน.ชป.บ้านห้วยหยวกป่าโซ พร้อมด้วยกำลังพล ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ คณะอาจารย์ และนักศึกษาจากชมรมอนุรักษ์สัตว์ป่าและป่าไม้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ทำกิจกรรมศึกษาป่าชุมชนบ้านห้วยหยวกป่าโซ ณ สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง บ.ห้วยหยวกป่าโซ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

รางวัลการประกวดธิดาชาวสวน เทศกาลลิ้นจี่และของดีจ.เชียงราย ปี 66

รางวัลการประกวดธิดาชาวสวน เทศกาลลิ้นจี่และของดีจ.เชียงราย ปี 66

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 เวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการมอบรางวัลการประกวดธิดาชาวสวน ในงานเทศกาลลิ้นจี่และของดีจังหวัดเชียงราย ณ เทศบาลตำบลแม่จัน ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 – 28 พฤษภาคม 2566 โดยการจัดงานดังกล่าวเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่าง อบจ.เชียงราย และเทศบาลตำบลแม่จัน โดยเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่ จำหน่ายผลผลิตถึงมือผู้บริโภค โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ในการนี้ นางทรงศรี คมขำ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และนายประเสริฐ ชุ่มเมืองเย็น สมาชิกสภา อบจ. อำเภอแม่จัน เขต 1 ร่วมด้วย

 
การประกวดธิดาชาวสวนในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประกวดรวม 9 สาวงาม โดยมีผลการประกวด ดังนี้
 
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นางสาวศุณิษรา อินต๊ะมารค
 
รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นางสาวนัทธมน พาดา
 
รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นางสาวกุลกันยา อาจอ
 
รางวัลขวัญใจประชาชน ได้แก่ นางสาวปภาดา พรหมณี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

สนง.คุมประพฤติ สานสัมพันธ์ น้อง-พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด รุ่นที่ 1

สนง.คุมประพฤติ สานสัมพันธ์ น้อง-พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด รุ่นที่ 1

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงรายที่ 1 ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย นางภัทราวดี สุทธิธนกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการ สานสัมพันธ์ น้อง-พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด รุ่นที่ 1 โดยมีนางสุรีย์ ภู่เพชร ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ และอาสาสมัครคุมประพฤติ เข้าร่วมพิธี

ตามที่กรมคุมประพฤติ ได้ให้สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงรายดำเนินการแก้ไขปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติด ภายใต้โครงการสานสัมพันธ์ น้อง-พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด ซึ่งเป็นการอบรมเชิงจิตวิทยาเพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และดำเนินการในลักษณะกลุ่มสัมพันธ์สันทนาการ เพื่อให้ผู้ถูกคุมความประพฤติได้สำรวจตนเอง พร้อมทั้งความสามารถของตนเองอันนำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งทางใจในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และได้รับการเสริมสร้างทักษะในการตัดสินใจ ทักษะการแก้ปัญหา และได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 
 
โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วยผู้ถูกคุมความประพฤติที่ศาลมีคำสั่งให้นำเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติมาใช้แทนการลงโทษตามมาตรา 166 แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ผู้ถูกคุมความประพฤติในฐานความผิดคดียาเสพติดหรือมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่ศาลมีคำสั่งให้คุมความประพฤติตามมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือผู้ถูกคุมความประพฤติที่ได้รับการปล่อยตัวพักการลงโทษและลดวันต้องโทษในฐานความผิดคดียาเสพติด และมีผลการประเมินความเสี่ยงปานกลาง จำนวน 40 คน พร้อมเจ้าหน้าที่ วิทยากร และผู้สังเกตการณ์ รวม 54 คน
.
โครงการสานสัมพันธ์ น้อง-พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด เป็นการดำเนินการภายใต้กระบวนการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาระดับชาติ ที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญทางด้านการป้องกันและปราบปรามรวมถึงแก้ไขปัญหาระยะยาว โดยการแก้ไขปัญหายาเสพติดและผู้ติดยาเสพติดปัจจุบันใช้กระบวนการทางระบบสาธารณสุขเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยเหลือให้ผู้เสพและผู้ติดยาได้เข้ารับการบำบัดรักษา โดยเข้าโปรแกรมแก้ไขฟื้นฟูและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สามารถกลับมาใช้ชีวิต ร่วมกับครอบครัวและสังคมได้อย่างปกติสุขต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

คณะวุฒิสภาศึกษาดูงาน โรงเรียนนิคม สร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา จ.เชียงราย

คณะวุฒิสภาศึกษาดูงาน โรงเรียนนิคม สร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา จ.เชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.30 นาฬิกา คณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา นำโดย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พร้อมคณะ เดินทางศึกษาดูงาน ณ โรงเรียนนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดเชียงราย เพื่อรับฟังประวัติความเป็นมา การดำเนินงาน และศึกษาความเป็นอยู่ของเด็กนักเรียนโรงเรียนนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา ซึ่งอยู่ในเครือมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวมทั้งมอบทุนการศึกษาและสิ่งของบริจาคให้กับโรงเรียน โดยมีนายเกียรติณรงค์ มงคลดี ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู และนักเรียน ให้การต้อนรับ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

เชียงราย มอบโล่เกียรติคุณอาสาดับไฟป่า ในวาระการประชุมกรมการจังหวัด

เชียงราย มอบโล่เกียรติคุณอาสาดับไฟป่า ในวาระการประชุมกรมการจังหวัด

Facebook
Twitter
Email
Print
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ที่ห้องประชุมจอมกิตติ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ก่อนวาระการประชุมกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ประจำจังหวัดเชียงราย นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้บริหารองค์กรภาคเอกชน ครั้งที่ 5/2566 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่สนับสนุนและให้ความร่วมมือในการดับไฟป่า ให้แก่ มูลนิธิกระจกเงา 

เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ยกย่องและเชิดชูเกียรติ แบบอย่างที่ดีแก่สังคม โดยมีนายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงานพร้อมนำเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิกระจกเงาเข้ารับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณฯ ตามที่จังหวัดเชียงรายได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 

ซึ่งได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ตั้งแต่ห้วงเดือนพฤศจิกายน 2565 เป็นต้นมา พร้อมทั้งได้บังคับใช้กฎหมายและมาตรการควบคุมการเผาในระดับสูงสุด ในห้วงห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดโดยเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2566 รวมระยะเวลา 75 วัน ซึ่งการบริหารสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันของจังหวัดเชียงราย ในปี 2566 นี้ 

สามารถควบคุมสถานการณ์ให้เข้าสู่ภาวะปกติได้ เนื่องด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา การขับเคลื่อนและการประสานงานการปฏิบัติในทุกภาคส่วนและทุกระดับ โดยมูลนิธิกระจกเงา เป็นภาคประชาสังคมอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการระงับเหตุไฟป่า ลาดตระเวน และจัดทำแนวกันไฟ ด้วยความมุมานะ อุตสาหะ และอุทิศตนโดยยึดถือประโยชน์ของการปกป้องรักษาทรัพยากรป่าไม้และคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวเชียงรายเป็นสำคัญ จนผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้ปฏิบัติงานและประชาชนทั่วไป

 

หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยังได้มอบทุนอุปการะเด็กยากจนและด้อยโอกาสของกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2566 ของหน่วยงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย โดยมีนายวิทยา ชมภูคำ พัฒนาการจังหวัดเชียงราย นำผู้เข้ารับมอบทุนฯ จากอำเภอเมือง อำเภอเวียงชัย อำเภอเชียงของ อำเภอเทิง อำเภอพาน อำเภอป่าแดด อำเภอแม่จัน อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่สาย อำเภอเวียงป่าเป้า อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเวียงแก่น อำเภอขุนตาล อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ลาว อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอดอยหลวง และ อำเภอแม่สรวย รวมทั้งสิ้น 18 อำเภอของจังหวัดเชียงราย เข้ารับมอบทุนฯ

 

นายวิทยา ชมภูคำ พัฒนาการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาเด็กชนบทขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2522 เพื่อเป็นกองทุนในการช่วยเหลือเด็กก่อนวัยเรียน ที่ครอบครัวมีฐานะยากจนและด้อยโอกาสในชนบท ตลอดจนสนับสนุนกิจกรรมการพัฒนาเด็ก เพื่อให้เด็กในชนบทได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึง ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณารับกองทุนพัฒนาเด็กชนบทไว้ในพระราชูปถัมภ์ 


โดยพระราชทานพระราชานุญาติให้ใช้ชื่อว่า “กองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพฯพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” และกองทุนได้จัดกิจกรรมเพื่อหารายได้สมทบกองทุนฯ ทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัด โดยในส่วนของจังหวัดเชียงราย ได้ดำเนินการทอดผ้าป่าสมทบกองทุนฯ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ณ วัดพระสิงห์ พระอารามหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ซึ่งยอดบริจาคสมทบเป็นเงิน 435,348 บาท และนำดอกผลของเงินทุนฯ ดังกล่าว ช่วยเหลือเด็กก่อนวัยเรียน 


โดยมอบเป็นทุนช่วยเหลือเด็กยากจนและด้อยโอกาสเป็นประจำทุกปี และปัจจุบันมีทรัพย์สินกองทุนฯ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 จำนวน 3,866,140.22 บาท ดังนี้ บัญชีเงินฝากธนาคารกรุง ไทยประเภทเงินฝากออมทรัพย์ จำนวนเงิน 859,431.01 บาท บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ฝากประจำ จำนวนเงิน 865,221.93 บาท และตั๋วสัญญาใช้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์กรมการพัฒนาชุมชน จำกัด จำนวน 1 ฉบับ เป็นเงิน 2,141,487.28 บาท โดยกองทุนพัฒนาเด็กชนบทO จังหวัดเชียงราย ได้จัดสรรให้เด็กที่อยู่ในครัวเรือนตกเกณฑ์ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ปี 2565 จำนวน 34 ราย และให้อำเภอคัดเลือกเด็กที่อยู่ในครัวเรือนขากจน อำเภอละ 5 ราย รวม 90 ทุน รวมทั้งสิ้น จำนวน 164 ทุนๆ ละ 1,500 บาท รวมเป็นเงิน 246,000 บาทถ้วน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
WORLD PULSE

รักษาความมั่นคง ครม. บริหารจัดการ การทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ

รักษาความมั่นคง ครม. บริหารจัดการ การทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ

Facebook
Twitter
Email
Print

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (30 พฤษภาคม 2566) รับทราบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ ดังนี้
 
1. เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว  3 สัญชาติ (กัมพูชา
และเมียนมา) ซึ่งเข้ามาทำงานตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน (MOU)  ภายใต้บันทึกข้อตกลงว่าด้วยการจ้างแรงงาน (Agreement) ซึ่งวาระการจ้างงานครบ  4 ปี
– กลุ่มเป้าหมาย :   คนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูซา ลาว และเมียนมา) ที่เข้ามาทำงานตาม MOU ที่วาระการจ้างงานครบกำหนด 4 ปี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 – 31 ธันวาคม 2565  และที่ครบกำหนด 4 ปี ระหว่างวันที่ 2 มกราคม 2566 – 31 กรกฎาคม 2566
– แนวทางการดำเนินการ :  ผ่อนผันให้คนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษและทำงานเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 โดยใช้หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน หรือเอกสารตามที่กรมการจัดหางานกำหนดเป็นหลักฐานแสดงการผ่อนผัน  ซึ่งระหว่างการผ่อนผันนี้ ให้นายจ้างรายเดิมหรือรายใหม่ที่ประสงค์ จะจ้างคนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมาย ดำเนินการขออนุญาตนำคนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายซึ่งได้รับการผ่อนผันเข้ามาทำงานตาม MOU ควบคู่ไปด้วย  ทั้งนี้ ให้คนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายที่หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางหมดอายุ หรือการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด สามารถเดินทางกลับประเทศได้ หรือเมื่อครบกำหนดการผ่อนผันแล้วให้คนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายเดินทางกลับประเทศต้นทางโดยไม่มีความผิด
 
2. การขยายระยะเวลาจัดทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางและการตรวจลงตรา ของคนต่างด้าว 4 สัญชาติ (ก้มพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์  2566 ซึ่งไม่สามารถจัดทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทน หนังสือเดินทาง และการตรวจลงตรา ได้ทันภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2566
– กลุ่มเป้าหมาย  :  คนต่างด้าว  4 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม)  ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  5 กรกฎาคม 2565 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งไม่สามารถจัดทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือไม่สามารถประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ทันภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2566
– แนวทางการดำเนินการ  : ผ่อนผันให้คนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษและทำงานเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 โดยให้ใช้ใบรับคำขออนุญาตทำงานฉบับเดิมเป็นหลักฐานการผ่อนผัน  และเมื่อได้รับหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแล้ว ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจลงตรา และตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 หรือได้ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 และตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566
 
อย่างไรก็ตาม  เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว  ให้กระทรวงแรงงานเสนอเรื่องเพื่อพิจารณายกเลิกมติคณะรัฐมนตรีหรือปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีต่อไป
 
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จะประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจให้นายจ้าง ผู้ประกอบการ แรงงานต่างด้าว และผู้ที่เกี่ยวข้องให้รับทราบข้อมูลการดำเนินการดังกล่าวอย่างทั่วถึง และขั้นตอนการดำเนินการนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานตามระบบ MOU  รวมทั้งการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฏหมายคนเข้าเมืองและกฏหมายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว
 
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว 3 สามสัญชาติ กัมพูชา ลาวและเมียนมา เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ โดยเป็นการผ่อนผันให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าว กลุ่มเป้าหมาย ที่ต้องการทำงานต่อไป มีระยะเวลดำเนินการจัดทำเอกสารในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน  โดยเมื่อคนต่างด้าวเดินทางกลับประเทศต้นทางแล้วจะสามารถเข้ามาทำงานได้ตาม MOU ครั้งใหม่  ทั้งยังเป็นการช่วยสนับสนุนนายจ้าง  สถานประกอบการที่ยังต้องการจ้างแรงงานเหล่านั้นต่อ โดยแรงงานยังอยู่ในกำกับและการบริหารจัดการของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้    เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับระบบเศรษฐกิจไทย  หลังสถานการณ์ โควิด-19 คลี่คลายและกันและยังเป็นประโยชน์เป็นผลให้คนงานต่างด้าวหลับได้รับการทำงานได้รับการจัดงานโดยถูกต้องตามกฏหมายต่อไปโดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการแก้ปัญหาการจัดการแรงงานต่างด้าวครั้งนี้ว่า   เป็นไปตามภายใต้กรอบระยะของรัฐบาลชุดปัจจุบัน 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News