Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ตำรวจยึดรถทันก่อนส่งต่างประเทศ หลังผู้เสียหายแจ้งหลงเชื่ออนุมัติเช่า

 
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันตรวจยึดรถยนต์ ยี่ห้อ FORD EVEREST สีขาว หมายเลขทะเบียน ก 8096 เชียงใหม่ (ป้ายแดง) จำนวน 1 คัน สถานที่ตรวจยึด บ้านเลขที่ ๓๐๐ หมู่ ๑๙ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย พฤติการณ์ ตามที่ผู้เสียหายได้ให้นางสาวอุทิศพร อินต๊ะปาน (“ผู้เช่าซื้อ”) เช่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อ FORD EVEREST เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ซึ่งรถยนต์ดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียหาย ภายหลังผู้เช่าซื้อใด้รับรถไวในครอบครองเรียบร้อยแล้ว ผู้เสียหายได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้เช่าซื้อได้ใช้เอกสารทางการเงินเป็นเท็จมายื่นขอสินเชื่อกับผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้หลงเชื่ออนุมัติให้เช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าวไป 
 
 
        ต่อมาผู้เสียหายได้ทราบข้อมูลว่ารถยนต์คันดังกล่าวอยู่ในบริเวณใกล้ชายแดนของประเทศ อาจนำออกไปนอกประเทศได้ ซึ่งทำให้ผู้เสียหายเกิดความเสียหาย และอยู่ระหว่างดำเนินการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เช่าซื้อ โดยแจ้งความดำเนินคดี ข้อหา ฉ้อโกง ที่ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ผู้เสียหายจึงประสานมายังสถานีตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ให้ช่วยสืบสวนข้อมูลและติดตามรถยนต์คันดังกล่าวกลับคืนให้แก่ผู้เสียหายโดยเร่งด่วน ทางชุดตรวจยึดจึงได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง หน่วยบริการประชาชนฯ แม่จัน และสภ.แม่จัน รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นและได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลแขวงเชียงราย ที่ ค.38/2567 ลง 15 พฤษภาคม 2567 ไปทำการตรวจค้นสถานที่บ้านเลขที่ 300 หมู่ที่ 19 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยมี นางสาริสา อายพล เป็นเจ้าของบ้านแต่ไม่อยู่บ้าน และมีนายนาวี แช่เฉิน อายุ 29 ปี ที่อยู่ 471 หมู่ที่ 19 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เป็นผู้ดูแลบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจยึดจึงได้แสดงหมายค้นให้ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว และมีนายชัยวัฒน์ ชีวินมหาชัย กำนันตำบลป่าตึง เป็นพยานผู้นำการตรวจค้นบ้านจนกระทั่งเสร็จสิ้นการตรวจค้น ตรวจค้นเสร็จสิ้นเวลา 16.50 น. ผลการตรวจค้น พบรถยนต์ ยี่ห้อ FORD EVEREST สีขาว หมายเลขทะเบียน ก 8096 เชียงใหม่ (ป้ายแดง) จำนวน 1 คัน และได้ทำการตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบและประสานส่งมอบให้กับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ในรถยนต์คันดังกล่าว ต่อไป
 
 
        ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน พี่น้องประชาชน การปลอมหลักฐานทางการเงิน เพื่อไปใช้ในการกู้ยืมสินเชื่อต่างๆ สามารถตรวจสอบได้ หากมีเจตนาทุจริต จะมีความผิด ตาม ป.อาญา ม.264 ข้อหา ปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ ตาม ม.341 ข้อหา ฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.ดร.เจต จึงประเสริฐศรี สว.ส.ทล.5 กก.5 บก.ทล. “ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด” 
 
 
โดยร่วมกันตรวจยึดรถยนต์ ยี่ห้อ FORD EVEREST สีขาว ในครั้งนี้ภายใต้การอำนวยการของ ของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้มรอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ. สาธิต สมานภาพ ผกก.5 บก.ทล.,พ.ต.ท.ศิลา ขำเพชร,พ.ต.ท.ยุทธนันท์ จันทร์เนตร รอง ผกก.5 บก.ทล., พ.ต.ท.ดร.เจต จึงประเสริฐศรี สว.ส.ทล.5 กก.5 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด นำโดย ร.ต.อ.ธีระพงษ์ ไชยมงคล รอง สว.ฯ,ร.ต.ต.เดช ฉ่ำชื่น รอง สว.(ป.)ฯ ,ด.ต.สิทธิชัย ชิ้นจิ้น,ต.ต.เอนก บุญหล้า, ต.ต.ปริญญา โกลนันต์, ต.ต.วุฒิชัย ขันทะบุตร, ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์ศรี, และจ.ส.ต.นรากร ดอนแก้ว ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.5 บก.ทล.
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
FEATURED NEWS

ปราบแก๊งนักล่าสมบัติ ยึดโบราณวัตถุได้เกือบ 1,000 ชิ้น

 
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับ กรมศิลปากร นำกำลังลงพื้นที่ตรวจค้นจับกุม 9 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด โดยสามารถจับกุมกลุ่มลักลอบขุด ค้าโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ ได้จำนวน 3 ราย ตรวจยึดอุปกรณ์สแกนโลหะ และสิ่งของคล้ายวัตถุโบราณจำนวนเกือบ 1,000 ชิ้น
 
สืบเนื่องมาจากตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.4 บก.ป. ได้รับแจ้งเบาะแสจากกลุ่มผู้อนุรักษ์โบราณวัตถุ ว่ามีกลุ่มบุคคลลักลอบขุด และค้า โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ โดยมีการนำโบราณวัตถุต่างๆ มาเสนอขายผ่านช่องทางออนไลน์โดยผิดกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร
 
จากการตรวจสอบพบบัญชีเฟซบุ๊กของกลุ่มผู้ต้องหา ลงโพสต์ภาพการขุดค้นหาโบราณวัตถุ พร้อมประกาศขายสิ่งของคล้ายโบราณวัตถุจำนวนหลายรายการ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการติดต่อซื้อสิ่งของคล้ายโบราณวัตถุดังกล่าว โดยเมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้รับสิ่งของคล้ายวัตถุโบราณมาแล้ว ได้มีการส่งตรวจพิสูจน์ที่สำนักศิลปากร กรมศิลปากร ผลการตรวจสอบพบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นโบราณวัตถุตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 จริง
 
จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งสามารถเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวได้ทั้งหมด 3 คน ซึ่งจากการตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา พบมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 200,000 บาท และมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 10 ล้านบาท ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา
 
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยประชาชนกรณีพบเจอสิ่งของคล้ายโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุ ขอให้ท่านนำส่งกรมศิลปากร เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ไม่ควรยึดถือไว้เป็นของตน และสำหรับผู้ใดที่ลักลอบขุด ค้นหา โบราณวัตถุตามสถานที่ต่างๆ เพื่อนำไปประกาศขาย รวมไปถึงผู้รับซื้อโบราณวัตถุต่างๆ ถือว่ามีโทษตามกฎหมาย
 
 
Successful Joint Operation by CIB and Department of Fine Arts to Combat Antiquities Trafficking
 
In a collaborative effort between the Central Investigation Bureau (CIB) and Department of Fine Arts, an extensive operation was conducted to apprehend a group involved in illegal excavation and trade of antiquities. The suspects had been advertising these artifacts on Facebook, which eventually led to the seizure of nearly 1,000 valuable antiquities. Nine locations across four provinces were targeted in this operation, resulting in the apprehension of three individuals engaged in unauthorized excavation and trading of antiquities. The authorities also confiscated metal scanning equipment and numerous items resembling ancient artifacts.
.
This successful operation highlights the importance of safeguarding cultural heritage and enforcing laws related to archaeological sites and artifacts. It ensures the preservation of valuable historical and cultural assets for future generations while deterring illegal activities that threaten our heritage.
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ตำรวจสอบสวนกลาง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

ทลายเครือข่ายยาลดน้ำหนัก ข้ามชาติ มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

 
ตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับ อย., สบส., ป.ป.ส., ตํารวจสากล (INTERPOL), สํานักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา (HSI), หน่วยงานสืบสวนอาชญากรรมข้ามชาติ(TCIU) และสํานักงานกลางแห่งชาติตํารวจสากลกรุงเทพ(Interpol NCB Bangkok) ทลายเครือข่ายจําหน่ายยาลดนํ้าหนัก ผสมไซบูทรามีนข้ามชาติ
 
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. ได้รับการประสานว่า ผู้ต้องหาซึ่งมีสัญชาติคาซัคสถาน ได้จำหน่ายยาลดน้ำหนักผสมวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาทผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีการโพสต์จำหน่ายยากลุ่มลดน้ำหนักเป็นจำนวนมาก และมีการรีวิวสรรพคุณเกินจริง นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบอีกว่า มีการส่งยาลดน้ำหนักไปขายต่างประเทศ รวมกว่า 34 ประเทศ มากกว่า 600 ครั้ง ยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 3 ล้านบาท
 
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวน กระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้ และเข้าตรวจค้นทั้งหมด 6 จุด พร้อมทั้งตรวจยึดของกลาง รวม 272 รายการ มูลค่ากว่า 6,000,000 บาท
 
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงขอเตือนภัยประชาชน การซื้อผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนักผ่านช่องทางออนไลน์ ควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อ หรือเลือกซื้อจากสถานบริการที่ได้รับอนุญาต หรือสั่งยาผ่านโดยแพทย์เท่านั้น และขอเตือนผู้ที่ลักลอบจาหน่ายผลิตภัณฑ์ยา แผนปัจจุบันและวัตถุออกฤทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. โดยเฉพาะการลักลอบจาหน่ายยาลดความอ้วนทางสื่อออนไลน์ ให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุด
 
หากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค
 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ตำรวจสอบสวนกลาง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS TOP STORIES

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. รวบนายอำเภอแม่วงก์ เรียกรับส่วยใบอนุญาตบ่อนไก่ชน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. รวบนายอำเภอแม่วงก์ เรียกรับส่วยใบอนุญาตบ่อนไก่ชน

Facebook
Twitter
Email
Print
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท., ป.ป.ช. และ ป.ป.ง. ร่วมกันจับกุม นายประสิทธิ์ฯ (นายอำเภอแม่วงก์) อายุ 60 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” มาตรา 157
 
สถานที่จับกุม บริเวณห้องทำงาน อาคารที่ทำการปกครองอำเภอแม่วงก์ ต.แม่วงก์ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์
 
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าผู้เสียหายได้รับอนุญาตเป็นผู้เปิดบ่อนไก่ชน ในเขตอำเภอแม่วงก์ (โดยมีใบอนุญาตเป็นรายปี) แต่จะต้องมีการขอใบอนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนัน (พ.น.4) ซึ่งเอกสารดังกล่าวจะต้องมีการยื่นคำขอเป็นรายเดือน โดยวิธีการขออนุญาต คือ ผู้ขอจะต้องไปยื่นใบคำขออนุญาตจัดให้มีการเล่นการพนัน (ยื่นคำร้องต่อนายอำเภอ) เพื่อให้นายอำเภอเป็นผู้ลงนามในใบคำร้องเพื่อยื่นต่อในระดับจังหวัด ถ้านายอำเภอไม่ลงนามในเอกสารดังกล่าว ก็จะไม่ยื่นเรื่องขออนุญาตในระดับจังหวัดได้
 
ซึ่งทางผู้ต้องหา ได้พยายามทวงถามเงินค่าดูแลจากผู้เสียหาย และข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายก็ปิดบ่อนไก่ชนไปเลย ผู้เสียหายจึงพยายามหาเงินมาจ่ายให้ โดยนัดจ่ายเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2566 จำนวน 2 เดือน เป็นเงิน 6,000 บาท และในวันที่ 19 พ.ค.2566 นัดหมายจะจ่ายที่เหลือและจ่ายล่วงหน้า อีก 3 เดือน (รวมเป็น 4 เดือนเป็นเงิน 12,000 บาท)
.
ก่อนถูกเจ้าหน้าที่วางแผนเข้าทำการจับกุมตัวได้พร้อมเงินของกลางที่ตัวผู้ต้องหา จึงได้แจ้งพฤติการณ์ในการกระทำผิด และแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปปป. เพื่อทำการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)
มืออาชีพ เป็นกลาง เคียงข้างประชาชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ตำรวจสอบสวนกลาง

 
Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE