Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายอัญเชิญพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าพี่นางฯ ประดิษฐานในสวนสมเด็จย่า

เชียงรายจัดพิธีอัญเชิญพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ประดิษฐาน ณ สวนสมเด็จย่ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดพิธีอัญเชิญพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ขึ้นประดิษฐาน ณ สวนสมเด็จศรีนครินทร์เชียงราย หรือที่รู้จักกันในชื่อ สวนสมเด็จย่า ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย โดยมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ และ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา และประชาชนในจังหวัดเชียงรายที่เข้าร่วมพิธีกว่า 100 คน

พิธีอัญเชิญพระอนุสาวรีย์เพื่อสักการะและรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ

พิธีการเริ่มต้นด้วยการอัญเชิญพระอนุสาวรีย์ขึ้นประดิษฐานบนแท่นฐานที่จัดเตรียมไว้ ณ บริเวณสวนสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย โดยมี พระพุทธิวงค์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ร่วมประกอบพิธีสวดมนต์และเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้เปิดเผยว่า การอัญเชิญพระอนุสาวรีย์ในครั้งนี้เป็นผลมาจากการได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนชาวเชียงรายได้มีสถานที่สักการบูชาและรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ได้ทรงสนับสนุนและช่วยเหลือชาวเชียงรายในด้านต่างๆ ตลอดพระชนม์ชีพ

ดร.วันดีและครอบครัวร่วมบริจาคทุนสร้างพระอนุสาวรีย์

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ และครอบครัวได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ในการสร้างพระอนุสาวรีย์ครั้งนี้เป็นจำนวน สามล้านบาท หลังจากได้รับการประสานจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งมีความประสงค์ที่จะสร้างพระอนุสาวรีย์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ แต่ขาดงบประมาณในการดำเนินการ โดยการสร้างครั้งนี้ได้รับการเททองหล่อโดย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

สวนสมเด็จย่าศูนย์การเรียนรู้และสถานที่พักผ่อน

สวนสมเด็จศรีนครินทร์เชียงราย หรือ สวนสมเด็จย่า เป็นสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระชนมายุครบ 80 พรรษา โดยตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย พื้นที่กว้างใหญ่กว่า 625 ไร่ สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการศึกษาและเรียนรู้ด้านพันธุกรรมพืช รวมทั้งเป็นแหล่งออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน

ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตชาวเชียงราย

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ได้ชื่นชมมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายที่ดูแลรักษาพื้นที่สวนแห่งนี้ให้มีความร่มรื่นและสวยงามอยู่เสมอ โดยมีหนองบัวใหญ่และหนองน้ำเล็กที่สะอาด สร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการออกกำลังกายและการพักผ่อนในยามเช้าและเย็น ทั้งนี้สวนสมเด็จย่ายังเป็นสถานที่ที่ประชาชนมาใช้บริการถึงเดือนละกว่า 3,000 คน ส่งเสริมสุขภาพพลานามัยทั้งกายและใจ

อนาคตของสวนสมเด็จย่า: ศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาสิ่งแวดล้อม

สวนสมเด็จย่าเชียงราย ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่สักการะและพักผ่อน แต่ยังมุ่งเน้นการเป็น ศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม ที่สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อน และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีแก่ชุมชน ทั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพิ่มเติม รวมถึงการพัฒนาสวนให้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การศึกษาทั้งในด้านวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม

รองศาสตราจารย์ ดร. สอนชัย มุ่งไทยสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ได้กล่าวถึงความสำคัญของสวนสมเด็จย่าเชียงรายว่าเป็นสถานที่ที่เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมให้เกิดความตระหนักถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยการมีพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ประดิษฐานไว้ในสวนแห่งนี้ จะเป็นเครื่องหมายแห่งความศรัทธาและแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตที่ดีงามของชาวเชียงรายและนักศึกษาทุกคน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ม.ราชภัฏเชียงราย จัดผ้าป่าสามัคคี สร้างหอพระแก้วจักรพรรดิ

 

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ได้จัดพิธีผ้าป่าสามัคคีขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างหอพระแก้วจักรพรรดิ “พระพุทธศรีรัฐกิจโสฬสวัสสานุสรณ์” เพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำคณะ เนื่องในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ของคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ การจัดงานนี้ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้มีจิตศรัทธาหลายภาคส่วนที่เข้าร่วมบริจาคและสนับสนุนการสร้างหอพระ

พิธีทอดผ้าป่าสามัคคี: สานต่อความศรัทธาและการพัฒนาศาสนสถาน

งานพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ประกายศรี ศรีรุ่งเรือง คณบดีเกียรติคุณ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์จากมหาวิทยาลัย ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และตัวแทนจากหน่วยงานที่ร่วมสนับสนุน โดยงานจัดขึ้นที่ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

นอกจากนี้ ยังได้รับเมตตาจาก พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 และเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธี พระภิกษุสงฆ์ที่ร่วมพิธีได้เจริญพระพุทธมนต์และรับถวายเครื่องจตุปัจจัยไทยทานจากผู้เข้าร่วมงาน เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลแก่ผู้มาร่วมบุญในครั้งนี้ การทอดผ้าป่าสามัคคีเป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนได้ร่วมมือกันในมหากุศลครั้งนี้ โดยมีเป้าหมายในการจัดสร้างหอพระแก้วจักรพรรดิ ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมใจของชุมชนในอนาคต

การบริจาคและสนับสนุนจากทุกภาคส่วน

ภายในงานได้รับการสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นคณะผู้บริหาร บุคลากร ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน รวมถึงผู้มีจิตศรัทธาที่เข้าร่วมบริจาคในครั้งนี้ การทอดผ้าป่าในครั้งนี้ได้รับยอดบริจาคเบื้องต้นทั้งสิ้นกว่า 400,000 บาท ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการจัดหาวัสดุก่อสร้างหอพระแก้วจักรพรรดิที่จะใช้เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาคุณธรรมและศาสนาในคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์

หอพระแก้วจักรพรรดิ “พระพุทธศรีรัฐกิจโสฬสวัสสานุสรณ์” เป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคณะฯ และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างสถานที่ทางศาสนาสำหรับการทำบุญและกิจกรรมทางศาสนาแล้ว ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการพัฒนาทั้งด้านการศึกษาและคุณธรรม

เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนสร้างหอพระแก้วจักรพรรดิ

คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ยังคงเปิดรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านที่ต้องการร่วมสร้างบุญกุศล โดยสามารถร่วมสมทบทุนสร้างหอพระแก้วจักรพรรดิ “พระพุทธศรีรัฐกิจโสฬสวัสสานุสรณ์” ผ่านการโอนเงินบริจาคไปยังบัญชีธนาคาร กรุงศรีอยุธยา สาขามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ชื่อบัญชี พระพุทธศรีรัฐกิจโสฬสวัสสานุสรณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลบัญชีได้แก่ น.ส.นวลนภา จุลสุทธิ, นายภูริพัฒน์ แก้วศรี, และ นายจรูญ แดนนาเลิศ หมายเลขบัญชี 422-1-41524-9 ซึ่งการบริจาคเพื่อการจัดสร้างหอพระในครั้งนี้ถือเป็นการทำมหากุศลที่จะสร้างบุญและความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ร่วมบริจาค

หากท่านสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-776-131 คณะฯ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่จะเป็นจุดรวมจิตใจของชุมชนและนักศึกษาในอนาคต

การจัดสร้างหอพระแก้วจักรพรรดิ: ศูนย์รวมใจและศาสนสถานแห่งมหาวิทยาลัย

โครงการจัดสร้างหอพระแก้วจักรพรรดิ “พระพุทธศรีรัฐกิจโสฬสวัสสานุสรณ์” นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีของคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ การมีสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาภายในคณะฯ จะช่วยส่งเสริมคุณธรรมและความศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้กับนักศึกษา บุคลากร และชุมชนในมหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ หอพระยังจะเป็นศูนย์กลางของการจัดกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ เช่น การทำบุญประจำปี การเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีกรรมทางศาสนาอื่นๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความสามัคคีและความเข้มแข็งให้กับชุมชนมหาวิทยาลัย ตลอดจนเป็นสถานที่สำหรับการปฏิบัติธรรมและกิจกรรมที่เสริมสร้างความสงบสุขในจิตใจ

บทสรุป: ความศรัทธาที่ขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ

การจัดผ้าป่าสามัคคีเพื่อจัดสร้างหอพระแก้วจักรพรรดิ “พระพุทธศรีรัฐกิจโสฬสวัสสานุสรณ์” ในครั้งนี้เป็นการแสดงถึงพลังแห่งความศรัทธาและความร่วมมือจากผู้มีจิตศรัทธาหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรในมหาวิทยาลัย ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และชุมชนโดยรอบ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ร่วมบริจาคและสนับสนุนโครงการนี้ และขอเชิญชวนทุกท่านที่ยังไม่ได้มีโอกาสร่วมบริจาคเข้ามาร่วมสมทบทุนเพื่อสร้างมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่

ความสำเร็จของโครงการนี้จะไม่เพียงแต่เป็นการสร้างศาสนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นการส่งเสริมและสืบสานคุณธรรมในชุมชนทางการศึกษาอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ม.ราชภัฏเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

‘นาวะ จะชี’ จาก ม.ราชภัฏเชียงราย คว้ารางวัลทูตภาษาจีน ที่หนึ่งของโลก

 

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับโลกสำหรับนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในโครงการ “สะพานสู่ภาษาจีน” (汉语桥) ครั้งที่ 23 ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการที่เมืองหนานผิง มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน โดยการแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นเป็นเวลา 21 วัน โดยมีทั้งการแข่งขันภาษาจีนและกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมที่เข้มข้น ผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 147 คนจาก 130 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งตัวแทนจากประเทศไทยที่แสดงศักยภาพอย่างยอดเยี่ยมในเวทีนี้

การแข่งขัน “สะพานสู่ภาษาจีน” ครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 รอบ ได้แก่ รอบ Bridge, รอบ Advancement, และ รอบชิงชนะเลิศ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายนที่เมืองผิงถาน มณฑลฝูเจี้ยน โดยจะมีการคัดเลือกแชมป์เปี้ยนระดับโลก, แชมป์เปี้ยนระดับทวีป, และผู้ชนะรางวัลอันดับ 1, 2 และ 3 รวมถึงรางวัลในประเภทบุคคลต่างๆ

ในรอบแรกของการแข่งขัน ซึ่งเป็นรอบ Bridge ผู้แข่งขันต้องทำการสอบเขียนที่ครอบคลุมหัวข้อความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นภูมิศาสตร์, ประวัติศาสตร์, เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม รวมถึงความรู้ภาษาจีนขั้นสูง การแข่งขันนี้มีการทดสอบทักษะที่ครบถ้วนทั้งในด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อทดสอบความสามารถทางภาษาจีนของผู้เข้าร่วมแข่งขันอย่างเข้มข้น

นางสาวนาวะ จะชี ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทย ได้แสดงศักยภาพทางด้านภาษาจีนอย่างเต็มที่ในการแข่งขันครั้งนี้ นางสาวนาวะสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศระดับทวีปเอเชียได้อย่างยอดเยี่ยม แต่แพ้คะแนนให้กับตัวแทนจากอัฟกานิสถานไปอย่างฉิวเฉียด แม้จะพลาดโอกาสคว้าตำแหน่งแชมป์เปี้ยน แต่เธอยังคงทำให้ประเทศไทยภูมิใจ ด้วยการคว้ารางวัล ทูตภาษาจีนและความคิดสร้างสรรค์ และรางวัล ยอดเยี่ยมอันดับหนึ่ง (一等奖) จากผลงานที่แสดงความคิดสร้างสรรค์และทักษะภาษาจีนที่โดดเด่น นอกจากนี้ นางสาวนาวะยังได้รับทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาการสอนภาษาจีนระหว่างประเทศ เป็นเวลา 3 ปี

การแข่งขันรอบแรกเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายนในปีนี้ โดยมีการคัดเลือกผู้ชนะจากการแข่งขันระดับภูมิภาค และตัวแทนจากแต่ละภูมิภาคได้เดินทางมายังประเทศจีน เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้

การแข่งขัน “สะพานสู่ภาษาจีน” 汉语桥 ได้เริ่มต้นจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2545 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ภาษาจีนให้กับนักเรียนต่างชาติทั่วโลก การแข่งขันนี้เป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้เรียนภาษาจีนจากหลากหลายประเทศเพื่อแสดงความสามารถทางภาษา แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ และทดสอบความก้าวหน้าของทักษะทางภาษาจีน นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างสะพานแห่งมิตรภาพระหว่างผู้เข้าแข่งขันจากประเทศต่างๆ อีกด้วย

การแข่งขัน “สะพานสู่ภาษาจีน” ครั้งที่ 23 นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางภาษาจีนที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในโลก ตั้งแต่เริ่มจัดขึ้น มีนักเรียนจากกว่า 160 ประเทศและภูมิภาคเข้าร่วมการแข่งขันนี้กว่า 1.6 ล้านคน ในแต่ละปีมีผู้เข้าร่วมกว่า 7,000 คนที่ได้เดินทางมายังประเทศจีนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งกิจกรรมนี้ยังเป็นที่สนใจของผู้ชมทั่วโลกหลายร้อยล้านคน

ในการแข่งขันปีนี้ ตัวแทนจากประเทศไทยได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศอีกครั้งผ่านความสามารถทางภาษาจีนที่โดดเด่น นางสาวนาวะ จะชี ได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวางในการแสดงศักยภาพทั้งด้านภาษาและการคิดเชิงสร้างสรรค์ นอกจากความสำเร็จที่เธอได้รับแล้ว การเข้าร่วมแข่งขันยังเป็นประสบการณ์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยที่สนใจเรียนรู้ภาษาจีนและวัฒนธรรมจีน

การส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาจีนในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และการเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติเช่นนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาความสามารถทางภาษาจีนของนักเรียนไทยและสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผ่านทางการแข่งขันที่เต็มไปด้วยมิตรภาพและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม

ด้วยการพัฒนาความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนที่แน่นแฟ้นขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเรียนรู้ภาษาจีนได้กลายเป็นทักษะที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเยาวชนไทยที่ต้องการก้าวเข้าสู่เวทีระดับโลก

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

มรภ.เชียงราย CRRU Connect ที่เรียนดีๆ ของคนรุ่นใหม่

 

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จัดงานวันขอบคุณสื่อมวลชนและผู้สนับสนุนมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย “CRRU Thank You Day 2024” เพื่อเป็นการขอบคุณเครือข่ายสื่อมวลชนและผู้สนับสนุนกิจการของมหาวิทยาลัย รวมถึงจัดแสดงผลงานและแถลงผลการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายในรอบปี พ.ศ.2567 โดยภายในงานได้จัดให้มีพิธีมอบโล่รางวัลผู้สนับสนุนมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งประกอบด้วย โล่รางวัลโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่มีนักศึกษามาเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายมากที่สุด 10 อันดับแรก ประจำปีการศึกษา 2567 และโล่รางวัลนักศึกษาและศิษย์เก่าที่สร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายบนสื่อสังคมออนไลน์

ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรชัย มุ่งไธสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ได้แถลงผลการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย “CRRU Connect : ที่เรียนดีๆ ของคนรุ่นใหม่ มหาวิทยาลัยของทุกคน” โดยได้รับเกียรติจากเครือข่ายสื่อมวลชน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรและภาคเอกชน ผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ณ ลานกิจกรรมหน้ากองการสื่อสารองค์กรฯ อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
 
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการแสดงจากนักศึกษา รวมถึงการจัดนิทรรศการสาธิตและแสดงผลงานของนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากร ในการขับเคลื่อนโครงการวิจัย และโครงการพัฒนาท้องถิ่น เช่น การยกระดับคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็ก การพัฒนานวัตกรรมชุมชนด้วยวิศวกรสังคม การขับเคลื่อนชุมชนดิจิทัล การสร้างสรรค์ผลงานของนักศึกษาทางด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงพาณิชย์ในพื้นที่เทศบาลนครเชียงราย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหารล้านนาตะวันออก (Eastern Lanna Food Valley)
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

มรภ.เชียงราย คว้า “รางวัลชนะเลิศ” แข่งขันสุนทรพจน์และความรู้ภาษาจีน

 

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรภ.เชียงราย คว้า “รางวัลชนะเลิศ”การแข่งขันประกวดสุนทรพจน์และความรู้ภาษาจีน(รอบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย)

โดยนางสาวนาวะ จะชี นักศึกษาโปรแกรมวิชาภาษาจีน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย คว้ารางวัลชนะเลิศ การแข่งขันประกวดสุนทรพจน์และความรู้ภาษาจีน ระดับอุดมศึกษา “สะพานจีน” ครั้งที่ 23 รอบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ“天下一家”(One World,One Family) โดยจะเป็นตัวแทนระดับประเทศไทยเพื่อเข้าแข่งขันต่อที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ในลำดับต่อไป

โครงการดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้อง 1-301 อาคารอาทิตย์อุไรรัตน์ (อาคาร 1) มหาวิทยาลัยรังสิต สำหรับการแข่งขัน “สะพานสู่ภาษาจีน” โดยในปีนี้มีนักศึกษา 30 คน จากสถาบันระดับอุดมศึกษา 17 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งโครงการนี้จัดขึ้นโดยสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดำเนินการโดยสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และศูนย์แลกเปลี่ยนและส่งเสริมความร่วมมือด้านภาษาจีนระหว่างประเทศ สำนักงานกรุงเทพฯ

การคว้ารางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นความภูมิใจของนางสาวนาวะ จะชี และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษาไทยคนอื่นๆ ในการศึกษาภาษาจีนและการพัฒนาทักษะที่สามารถนำไปใช้ในอนาคต

นางสาวนาวะ จะชี ได้แสดงความสามารถในการสื่อสารภาษาจีนและความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนได้อย่างน่าประทับใจ ตลอดการแข่งขัน เธอได้ใช้ความสามารถในการสื่อสารและการนำเสนอที่ยอดเยี่ยม สร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการและผู้ชม

การแข่งขัน “สะพานสู่ภาษาจีน” มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศ รวมถึงเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน การที่นักศึกษาไทยสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ ถือเป็นการยืนยันถึงความสามารถและความมุ่งมั่นในการศึกษาและพัฒนาทักษะด้านภาษาจีน

ขอแสดงความยินดีกับนางสาวนาวะ จะชี และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายที่ได้รับเกียรติในครั้งนี้

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย ประกาศต่อต้านยาเสพติด วันต่อต้านยาเสพติดโลก 26 มิ.ย. 67

 
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 67 ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดกิจกรรม รวมพลังไทย สร้างครอบครัว ชุมชนอุ่นใจ พ้นภัยยาเสพติด เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชา เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก ประจำปี 2567 เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน ให้ยาเสพติดหมดไปจากหมู่บ้านและชุมชน โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำชุมชน ภาคีเครือข่าย นักเรียน นักศึกษา และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

 

กิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วย การประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านยาเสพติดเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 การมอบโล่ยกย่องเชิดชูเกียรติแก่หน่วยงานและบุคลากรที่มีผลการดำเนินงานด้านยาเสพติดดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2567 การให้ความรู้ในการใช้ชีวิตให้ปลอดภัย ห่างไกลจากยาเสพติด และการแสดงนิทรรศการผลการดำเนินงานของหน่วยงานราชการ และภาคเอกชน

 

ทั้งนี้ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ มีมติกำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก เนื่องจากภัยยาเสพติด เป็นปัญหาที่นานาประเทศยอมรับว่าต้องมีการแก้ปัญหาร่วมกันทั่วโลก และประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิก ได้ร่วมกับประชาคมโลกในการต่อต้านยาเสพติด และจัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2531จนถึงปัจจุบัน เพราะปัญหายาเสพติด ถือเป็นปัญหาของทุกคน ทั้งส่งผลกระทบแก่ผู้เสพ และยังส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้าง ครอบครัว และชุมชนอีกด้วย

 


จังหวัดเชียงราย ได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญในการร่วมมือกันจากทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน ซึ่งสถาบันครอบครัวและชุมชนถือว่ามีส่วนสำคัญ ในการทำหน้าที่ช่วยสอดส่องดูแล เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อของยาเสพติด อีกทั้งการให้โอกาสผู้เคยหลงผิดที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยส่งเสริมให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดและสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข

 

ด้านนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดจะประสบความสำเร็จได้นั้น เกิดจากพี่น้องชาวจังหวัดเชียงราย และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ได้ร่วมกันบูรณาการในการทำงานอย่างทุ่มเท เสียสละ เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากหมู่บ้านและชุมชน ซึ่งพี่น้องประชาชนทุกคนถือเป็นกำลังสำคัญในการมีส่วนร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ โดยหากพบเบาะแสยาเสพติด สามารถแจ้งหน่วยงานของรัฐเข้าไปดำเนินการ โดยแจ้งได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘หัวเว่ย’ ผนึกกำลัง ม.ราชภัฏเชียงราย ยกระดับการศึกษาปรับตัวเข้าตัวยุคดิจิทัล

 

เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา หัวเว่ยจัดงาน Digital Sustainable University Day อัพเดทเทรนด์เทคโนโลยีและโซลูชันไฮไลต์เพื่อการเตรียมพร้อมโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสำหรับปรับตัวในยุคดิจิทัลของสถานศึกษา โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และลานนาคอม จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

 

นายวิลเลี่ยม จาง ประธานธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะหน่วยงานด้านการศึกษา ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาในทุกๆ ด้าน และยังมีแนวโน้มที่จะมีพัฒนาการด้านความอัจฉริยะมากขึ้นทั้งการเรียน การสอน การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนถึงการจัดการระบบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

 

กิจกรรมการเรียนการสอนได้เปลี่ยนจากการใช้กระดานดำแบบดั้งเดิมมาเป็นเครื่องมือมัลติมีเดีย จากการเรียนรู้เริ่มทำได้ไร้ข้อจำกัด และจากการบรรยายแบบทางเดียวไปสู่การเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางมากขึ้น
ในฐานะผู้ให้บริการด้าน ICT ชั้นนํา

หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะนําเครือข่ายแคมปัสอัจฉริยะ ศูนย์ข้อมูล การประมวลผลคลาวด์ ห้องเรียนอัจฉริยะ และเทคโนโลยีอื่น ๆ มาใช้ในการพัฒนาบุคลากรด้านนวัตกรรมในการศึกษาระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษา เร่งให้เกิดนวัตกรรมในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล

โดยจากการจัดอันดับของ QS World University Rankings มหาวิทยาลัยกว่า 30 แห่งจาก 100 อันดับแรกของโลกได้เลือกให้หัวเว่ยเป็นพันธมิตรในการนำเทคโนโลยีเข้าไปประยุกต์ใช้เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในการปรับปรุงคุณภาพการศึกษา ประสิทธิภาพในการวิจัย และความสามารถด้านนวัตกรรม

“การจัดงานเทคโนโลยีในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นงานด้านเทคโนโลยีแบบฮาร์ดคอร์เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้พบปะกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับฟังสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการจริงๆ เพื่อพัฒนาความร่วมมือให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่สําหรับการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับแถวหน้าของโลก หากเราสามารถใช้ข้อได้เปรียบของเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อสร้างคุณค่ามากมาย“

ในโอกาสนี้ยังได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือในโครงการหัวเว่ย ไอซีที อะคาเดมี่ (Huawei ICT Academy) เพื่อร่วมกันผลักดันการพัฒนาความรู้ความสามารถในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนเตรียมความพร้อมในเทคโนโลยีเฉพาะทาง เพื่อเป็นการบ่มเพาะบุคลากรในอนาคตให้มีทักษะความสามารถด้านดิจิทัลตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม

โดยผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมผ่านโครงการหัวเว่ย ไอซีที อะคาเดมี่ จะได้รับประกาศนียบัตรมาตรฐานวิชาชีพของหัวเว่ย ซึ่งเป็นการรับรองที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมระดับโลก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการสมัครงานของนิสิตนักศึกษา รวมไปถึงโอกาสฝึกงานกับบริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย ตลอดจนอาจได้เป็นพนักงานของหัวเว่ยหรือบริษัทในเครือพันธมิตร ซึ่งปัจจุบัน มีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยเข้าร่วมในโครงการหัวเว่ย ไอซีที อะคาเดมี่แล้วมากกว่า 2,200 แห่งทั่วโลก

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรชัย มุ่งไธสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับหัวเว่ย ซึ่งก็ถือเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เพื่อร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมที่ไม่ได้โฟกัสเพียงเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะของบุคลากรและนักศึกษา รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี

ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนสู่การเป็น CRRU Smart University อีกด้วย และเชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนในยุคดิจิทัล และเกิดประโยชน์แก่ทั้งนักศึกษา อาจารย์ บุคลากร รวมถึงการให้บริการสังคมแก่พี่น้องประชาชนทุกคนอย่างแน่นอน”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ประกาศผลประกวดตุงล้านนาบูชาพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง ประจำปี 2567

 

เมื่อวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น. ณ อาคารปฏิบัติการวิชาชีพสาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมกับคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ดำเนินการประกวดตุงล้านนาบูชาพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง ประจำปี 2567 เนื่องในประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567 เพื่อเป็นการอนุรักษ์ตุงให้อยู่คู่กับวัฒนธรรมประเพณีของชาวล้านนาสืบไป

 

โดยมีนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิด ผศ.ภัทรีพันธุ์ พันธุ คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย กล่าวต้อนรับ และนางสลักจฤฏดิ์ ติยะไพรัช ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดการประกวด พร้อมด้วยอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ข้าราชการเจ้าหน้าที่ สถานศึกษา เครือข่ายด้านวัฒนธรรม เข้าร่วมกิจกรรมฯ

 

การประกวดตุงล้านนาบูชาพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง ประจำปี 2567 แยกเป็น 2 ประเภท โดยผลการประกวด ดังนี้

  1. ประเภทนักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษา ผลการประกวด ดังนี้

     1.1 รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย

     1.2 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย

     1.3 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 โรงเรียนบ้านห้วยผึ้ง

     1.4 รางวัลชมเชย คณะบัญชี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

     1.5 รางวัลชมเชย สาขาพุทธศิลปกรรม วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย

  1. ประเภทกลุ่ม องค์กร ชุมชน และประชาชน

     2.1 รางวัลชนะเลิศ ทีมเอราวัณ

     2.2 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 สภาวัฒนธรรมตำบลห้วยไคร้

     2.3 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 นายสิรภพ กันยะมี

     2.4 รางวัลชมเชย สภาวัฒนธรรมอำเภอเชียงแสน

     2.5 รางวัลชมเชย กลุ่มแม่บ้านขัวแคร่ หมู่ที่ 1

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติ ปรับปรุง อำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ

 

เมื่อวันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 น. ณ อาคารคชสาร นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการความรู้ พื้นฐานในการออกแบบ และปรับปรุงสภาพแวดล้อม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุและผู้ทุพพลภาพ

 

การจัดโครงการและกิจกรรมออกแบบและปรับปรุงสภาพแวดล้อม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ ผู้สูงอายุและผู้ทุพพลภาพในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัด เชียงราย และความร่วมมือ ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มช่างชุมชน/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
 
 
โดยมีวิทยากรจากศูนย์รังสิตด้านกายภาพ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย สำนักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง คณะสถาปัตยกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร และ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้ให้ความรู้ในการอบรมครั้งนี้
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

กรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เปิดรับฟังความคิดเห็นกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ

 

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาธิการ ในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการสัมมนาแนวทางการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ณ หอประชุมโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย โดยมี ดร.เทอดชาติ ชัยพงษ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง ที่ปรึกษาและกรรมาธิการการศึกษา นายปารมี ไวจงเจริญ ที่ปรึกษาและกรรมาธิการการศึกษา ผศ.ดร. ศรชัย มุ่งไธสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ดร.อนุรัตน์ อินทร ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดเชียงราย และนายกวิน เสือสกุล รองศึกษาธิการภาค 15 ปฏิบัติหน้าที่ ศึกษาธิการภาค 16 ตลอดจนผู้บริหารสถานศึกษา ในจังหวัดเชียงราย ร่วมให้การต้อนรับและร่วมรับฟังการเสวนาการอภิปรายกลุ่ม “การกำหนดทิศทางและรับฟังความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การจัดทำกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ” ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย บุคลากร สังกัด อปท. ผู้บริหารและบุคลากรสังกัดโรงเรียน สอศ. บุคลากรสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน บุคลากรสังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้สงฆ์จากโรงเรียนพระปริยัติธรรม บุคลากร อีกด้วย

 

นายโสภณ ชารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาธิการในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับนี้ โดยการรับฟังความเห็นของทุกภาคส่วน ทั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู ผู้นำท้องถิ่น นักวิชการ นักศึกษา มาร่วมระดมความคิดในการร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติให้สำเร็จ ในการจัดทำกฏหมายที่เป็นปัญหาในขั้นวิกฤติ คณะกรรมาธิการศึกษาธิการในสภาผู้แทนราษฎร เล็งเห็นว่า วิกฤติการศึกษาครั้งนี้ จะแก้ได้ต้องแก้ทุกองคาพยพ แก้ทั้งระบบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติถือเป็นแม่บท จึงอยากให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาโดยเร็ว โดยได้รับความร่วมมือจากทุกพรรคการเมืองทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านผนึกกำลังเรื่องทำกฏหมาย พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เป็นภารกิจสำคัญ อยากให้สังคมรับทราบว่า พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติจะสำเร็จได้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้บริหารการศึกษา ครู กรรมการสถานศึกษานักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป รวมทั้งระดมความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 เพื่อนำข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ที่มีความหลากหลายของผู้เข้าร่วมสัมมนาเกี่ยวกับแนวทางการจัดการศึกษาในศตวรรษ ที่ 21 รวบรวมเป็นข้อเสนอแนะไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
 
 
นายกวิน เสือสกุล รองศึกษาธิการภาค 15 ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาค 16 กล่าวว่า เนื่องจากการศึกษามีความเกี่ยวข้องและสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาคนของประเทศให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรมมีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตอย่างสมดุล มีทักษะจำเป็นและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข มีภาวะผู้นำ และการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต มีความคิดสร้างสรรค์ มีจิตสาธารณะ ยึดประโยชน์ส่วนรวม เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ พึ่งพาตนเองได้ และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ระบบการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 จะต้องส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ทุกสภาพ ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในอนาคตได้อย่างมีคุณภาพ คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ที่ต้องจัดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเน้นการเรียนรู้ที่เกิดจากความต้องการของผู้เรียนอย่างแท้จริง ได้ลงมือปฏิบัติเพื่อให้เกิดประสบการณ์ตรงและต่อยอดความรู้นั้นได้ด้วยตนเอง โดยจัดการเรียนรู้ผ่านบริบทความเป็นจริง และสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้เข้าถึงสื่อเทคโนโลยี เครื่องมือ และแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดแนวทางการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการจัดการศึกษาของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
 
 
ในการจัดสัมมนาครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรมาจากผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการศึกษา ได้แก่ ดร.เทิดชาติ ชัยพงษ์ รองประธานคณะกรรมการการศึกษา คนที่ 2 นายปารมี ไวจงเจริญ ที่ปรึกษาและคณะกรรมาธิการการศึกษา ผศ.ดร.ศรชัย มุ่งไธสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และ ดร.อนุรัตน์ อินทร ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดเชียงราย ร่วมกันเสวนาแนวทางการจัดการศึกษา อีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News