Categories
ENTERTAINMENT

วธ. มอบโล่เชิดชูละครน้ำดี “ละครมาตาลดา”

 
วธ. มอบโล่เชิดชู “ละครมาตาลดา” เป็นละครน้ำดี พร้อมถอดบทเรียนเป็นละครส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว ดึงเด็กพร้อมครอบครัวร่วมกิจกรรม MEET & GREET With IDOL : บอกรักให้โลกรู้ ร่วมกับศิลปินชื่อดัง-อินฟูเอนเซอร์ เชื่อมสัมพันธ์-สานพลังเครือข่ายพัฒนาครอบครัว
 
วันที่ 26 สิงหาคม 2566 นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกิจกรรมถ่ายทอดถอดบทเรียนและมอบโล่เชิดชูเกียรติแก่ผู้จัดละครและนักแสดงจากเรื่อง มาตาลดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม MEET & GREET With IDOL : บอกรักให้โลกรู้ โดยมีนางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม คณะผู้จัดละครและนักแสดง จากเรื่องมาตาลดา อาทิ ยศสินี ณ นคร ผู้จัดละคร  กกกร เบญจาธิกุล นักแสดง ผู้เข้าร่วมกิจกรรม เข้าร่วม ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ภายในงานมีกิจกรรมพูดคุยกับศิลปินไอดอลในรูปแบบ Talk Show เกี่ยวกับการสร้างสรรค์ส่งเสริมสถาบันครอบครัวและวัฒนธรรมไทย และ Live ผ่านเพจ Facebook กระทรวงวัฒนธรรม 
 
ปลัดวธ. กล่าวว่า ละครเรื่อง มาตาลดา เป็นละครที่ส่งเสริมการมีบทบาทในการปลูกฝังค่านิยม และวัฒนธรรมที่ดี ตลอดจนสร้างสัมพันธภาพอันดีในครอบครัว วธ. จึงขอมอบโล่เชิดชูเกียรติเพื่อขอบคุณ และเป็นกำลังใจให้กับคณะผู้จัดละครและนักแสดง ที่ได้ผลิตสื่อที่ดีและมีคุณภาพส่งเสริมการมีบทบาทในการปลูกฝังค่านิยม และวัฒนธรรมที่ดี เพื่อสร้างสังคมแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ตลอดจนสร้างสัมพันธภาพอันดีในครอบครัว รวมทั้งได้มีการถอดบทเรียนจากละครดังกล่าว ถือเป็นการสนับสนุน Soft Power ละครไทยให้มีคุณภาพและเป็นตัวอย่างที่ดีของวงการละครไทย
 
ปลัดวธ.กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เพื่อ
เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวผ่านมิติทางวัฒนธรรม ทำกิจกรรมแบบ Exclusive กับศิลปินที่วัยรุ่นชื่นชอบ อาทิ การสัมภาษณ์พูดคุยเรื่องราวครอบครัวของศิลปิน workshop ร่วมกับศิลปินในโซน Happy กินดี วิถีไทย โดยจะร่วมทำข้าวมัน – ส้มตำ ขนมผกากรองและม้าฮ่อ (ของกินที่อร่อยและหายาก) และโซน Happy ทำดี วิถีไทย สาธิตงานประดิษฐ์กุหลาบใบเตยสื่อรัก และเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ร่วมกันผลิตสื่อสร้างสรรค์เพื่อเผยแพร่ลงในช่องทางออนไลน์ โดยผู้ที่มียอดไลค์สูงสุดจะได้รับของรางวัลและของที่ระลึก 
 
“กิจกรรมนี้ถือเป็นการส่งเสริม สนับสนุนและเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดค่านิยมและวัฒนธรรมอันดีงามให้เป็นที่แพร่หลายในสังคม ตลอดจนการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมให้กับคนในชาติ ได้เห็นความสำคัญของการสานสัมพันธ์ในครอบครัว รวมทั้งการขับเคลื่อนเครือข่ายในการส่งเสริมพัฒนาครอบครัวคุณธรรม เนื่องจากครอบครัวเป็นสถาบันหลักในการเสริมสร้างและปลูกฝังค่านิยม วัฒนธรรม คุณธรรมและจริยธรรมที่พึงประสงค์ให้แก่เด็ก เยาวชน และครอบครัว ผ่านกระบวนการเรียนรู้และการจัดกิจกรรมตามแนวคิดครอบครัวเข้มแข็งและจะดำเนินการขับเคลื่อนการกิจกรรมสานสัมพันธ์ครอบครัวอย่างต่อเนื่องต่อไป”ปลัดวธ. กล่าว 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
ENTERTAINMENT

วธ. ชวนเที่ยวตามรอยเช็คอินซีรีส์ King The Land

 

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ประเทศไทยมีทรัพยากรทั้งทางธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลาย สวยงามและทรงคุณค่าเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก รัฐบาลจึงมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมมือกับทุกหน่วยงาน องค์กรเครือข่ายต่างๆ ขับเคลื่อนและส่งเสริมงาน Soft Power ความเป็นไทยสู่ระดับชาติมาตลอดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพ 5F ได้แก่ F-Food อาหาร, F-Film ภาพยนตร์และวีดิทัศน์, F-Fashion การออกแบบแฟชั่นไทย, F-Fighting ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย และ F-Festival เทศกาลประเพณีไทย สู่ระดับโลกเพื่อช่วยสร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ ตลอดจนนโยบายขับเคลื่อนงานการใช้สื่อบันเทิงนำเสนอวัฒนธรรมของประเทศ ส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย อีกทั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศในประเทศไทย ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้แก่นักแสดงชาวต่างชาติที่ถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย เป็นระยะเวลา 5 ปี และมาตรการคืนเงินในการลงทุนที่มีเนื้อหาส่งเสริมภาพลักษณ์ ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย ผลปรากฏว่ามีผู้ประกอบการต่างประเทศสนใจและพร้อมเดินทางมาถ่ายทำในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

นายอิทธิพล กล่าวว่า ซึ่งขณะนี้ เป็นที่น่ายินดีและน่าภูมิใจสำหรับคนไทย ที่ซีรีย์เกาหลีชื่อดังอย่าง King The Land ที่นำแสดงโดย อี จุนโฮ และอิม ยุนอา ในตอนที่ 10 เผยแพร่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2566 ได้เผยแพร่ความสวยงามของประเทศไทย ได้เผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยววัฒนธรรมของไทยจนได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ครบจบใน 1 ตอน เป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็มๆ โดยตลอดทั้งตอนนี้ตัวละครหลักและเพื่อนๆได้พาไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โชว์ภาพวิวสวยๆ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ รวมถึงกิจกรรมสนุกๆ สำหรับนักท่องเที่ยว การนั่งรถตุ๊กๆซึ่งเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างหนึ่งของประเทศไทยในการทัวร์รอบเมืองกรุงเทพ เผยแพร่ภาพสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถาน วัด แหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตของไทย สถานที่พัก ร้านอาหาร ตลอดจนสถานท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเหล่านักท่องเที่ยว อาทิ วัดอรุณราชวราราม, โลหะปราสาท วัดราชนัดดารามวรวิหาร, วัดปากน้ำภาษีเจริญ, ลานแสดงน้ำพุ ไอคอนสยาม, สยามสแควร์, ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง, แม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืน, ถนนข้าวสาร, เสาชิงช้า และวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรวิหาร, เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ, ตลาดร่มหุบ, ร้านอาหารคุณแดงก๋วยจั๊บญวณ, โรงแรมสิริ ศาลา ไพรเวท วิลล่า, โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ, เอเชียทีค เป็นต้น นอกจากนี้ยังนำเสนออาหารไทย ทั้งแบบสตรีทฟู้ด ไปจนถึงอาหารสุดหรู ได้อย่างสวยงามและน่ารับประทาน

นายอิทธิพล กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมขอชื่นชมซีรีย์เกาหลี เรื่อง King The Land ที่สามารถนำเอาวัฒนธรรม วิถีชีวิตของไทย เก็บรายละเอียดความเป็นไทยถ่ายทอดออกมาผ่านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีย์ได้อย่างดี รวมถึงยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาให้มาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น จึงขอเชิญชวนเหล่าแฟนคลับที่ชมซีรีย์เรื่องนี้ ตลอดจนแฟนคลับของนักแสดงในเรื่องดังกล่าว มาท่องเที่ยวตามรอย ณ โบราณสถาน วัด แหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตของไทย ทำให้เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพิ่มรายได้ให้ประเทศ เกิดภาพลักษณ์ที่ดี พร้อมดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาท่องเที่ยวด้วยทุนทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นของประเทศไทย

ทั้งนี้ นอกจากประเทศสาธารณเกาหลี (เกาหลีใต้) แล้ว ยังมีอีกหลายๆประเทศที่จะเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์หรือซีรีย์ต่างๆในประเทศไทย ซึ่งจากข้อมูลจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival 2023) ณ เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-27 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา มีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมคูหาประเทศไทยจำนวนมากกว่า 600 ราย รวมถึงมีผู้ผลิตภาพยนตร์ที่สนใจและมีแผนจะเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักรไทย จำนวน 21 ราย จาก 8 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส กรีซ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ อินเดียและออสเตรเลีย โดยมีแผนใช้เงินลงทุนรวมกว่า 3,800 ล้านบาท

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ซีรีย์ เรื่อง King the Land Ep.10 จาก Netflix 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
ENTERTAINMENT

​ช่อง 3 เดินหน้าซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านละคร “หมอหลวง”

​ช่อง 3 เดินหน้าซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านละคร “หมอหลวง”

Facebook
Twitter
Email
Print

กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3  จัดงานเสวนา “ส่งเสริมอำนาจละมุน Soft Power ผ่านละครไทย หมอหลวง โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานในงานเสวนา และมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจโทรทัศน์ บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) นายเขมทัตต์ พลเดช นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ผู้บริหาร ผู้กำกับ ผู้จัดละคร ตัวแทนนักแสดง แขกผู้เกียรติ เครือข่ายทางวัฒนธรรม และสื่อมวลชน เข้าร่วม ทั้งนี้เสวนาดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและผลักดันผลิตภัณฑ์ด้านวัฒนธรรมออกสู่ระดับสากล เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ และกระจายรายได้สู่ชุมชนทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่ปลุกกระแสสำคัญคืออุตสาหกรรมสื่อบันเทิง ทั้งละครโทรทัศน์ ซีรีส์ ภาพยนตร์ ฯลฯ ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สร้างความสำเร็จในการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ให้กับประเทศไทย โดยงานจัดขึ้นในวันที่ 2 มิถุนายน 2566 ณ อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม

ละครหมอหลวงออกอากาศในช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัล ช่อง 33 และ ทางแอปพลิเคชัน CH3Plus ผลิตโดยบริษัท โซนิกซ์ บูม 2013 โดย ชุดาภา จันทเขตต์ และ ปิยะ เศวตพิกุล ละครหมอหลวงนับเป็นหนึ่งในซอฟท์พาวเวอร์ที่ทรงพลังของยุคปัจจุบัน ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการสร้างสรรค์ผลงานละครโดยบูรณาการภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียว จนทำให้เกิดปรากฏการณ์และเป็นกระแสความสนใจอย่างล้นหลาม 
ไม่ว่าจะเป็นเรตติ้งความนิยม การตอบรับอย่างถล่มทลายในทุกครั้งที่จัดกิจกรรม  และละครหมอหลวงยังมีการจำหน่ายลิขสิทธิ์เพื่อไปออกอากาศต่อยังแพลตฟอร์มของต่างประเทศ โดยละครหมอหลวงสามารถผลักดันเรื่องสมุนไพร อาหารไทยที่เป็นประโยชน์ และแพทย์แผนไทย ให้เป็นที่สนใจในวงกว้างของผู้ชมทั้งในและต่างประเทศ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เล็งเห็นว่า “หมอหลวง” ถือเป็นกรณีศึกษาที่ดีในการใช้สื่อบันเทิงเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ช่วยส่งเสริมและผลักดันซอฟต์พาวเวอร์จากสื่อบันเทิง ให้เป็นที่แพร่หลาย ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากล ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงวัฒนธรรม จึงได้จัดงานเสวนาครั้งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการถอดบทเรียนจากละครหมอหลวง ที่จะเป็นแนวทางในการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ในอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงและคอนเทนต์ของไทยต่อไปในอนาคต และแสดงให้เห็นถึงการบูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของภาครัฐและภาคเอกชนในการดำเนินงานส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์อย่างเป็นรูปธรรม 

โดยมีประเด็นการเสวนาเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมสื่อบันเทิงอย่างละครและภาพยนตร์สู่สากล ทั้งจากกระทรวงวัฒนธรรมและตัวแทนผู้ประกอบการ เบื้องหลังและความสำเร็จในการพัฒนาละครที่สอดแทรกความรู้ด้านแพทย์แผนไทย โดยทีมผู้ผลิตละครหมอหลวง โดยมี นายเขมทัตต์ พลเดช นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ เข้าเสวนาเสวนาร่วมกับตัวแทนจากกระทรวงวัฒนธรรม ผู้จัด ผู้กำกับ และนักแสดงจากละครหมอหลวง โดยมี เซน เมจกา สุพิชญางกูร เป็นผู้ดำเนินรายการ

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยถึงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ว่า “ขณะนี้ภาครัฐให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสื่อบันเทิง ซึ่งจากข้อมูลล่าสุด (2564) สร้างรายได้จำนวนมหาศาลให้กับประเทศกว่า 312,827 ล้านบาท และในปี 2566 วธ.จะดำเนินงานโครงการเพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ความนิยมไทยของประเทศไทย โดยสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลกว่า 971.55 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ 58.25 ล้านบาท โครงการพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ 893.41 ล้านบาท และโครงการด้านการต่างประเทศ 19.88 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ที่ได้รับงบประมาณเพื่อร่วมส่งเสริม Soft Power ของประเทศไทย ในมิติต่าง ๆ อีกจำนวน ไม่น้อยกว่า 1,200 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ด้านวัฒนธรรมไปสู่ตลาดต่างประเทศ สร้างงาน สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ชุมชนและประเทศได้อย่างต่อเนื่อง”

ทางด้าน นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจโทรทัศน์ บริษัท บีอีซีเวิล์ด จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ละครหมอหลวง ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยความนิยมนั้นนอกจากความสนุกสนานของละครแล้ว ละครยังสร้างกระแสความภาคภูมิใจให้กับคนไทย และความสนใจในเรื่องของสมุนไพรและแพทย์แผนไทยให้เกิดขึ้นอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เห็นว่าโอกาสนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดีในการจัดงานเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการผลักดันอุตสาหกรรมสื่อบันเทิง ให้เป็นแกนหลักในการส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ด้านวัฒนธรรมไปสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิผลต่อไป”               

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

ไทยชู Soft Power เนื้อหอมเทศกาลเมืองคานส์ เปิดโต๊ะเจรจาการค้ากว่า 2,000 ล้านบาท

ไทยชู Soft Power เนื้อหอมเทศกาลเมืองคานส์ เปิดโต๊ะเจรจาการค้ากว่า 2,000 ล้านบาท

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการที่ วธ. ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสัญลักษณ์ Content Thailand ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival 2023) ณ เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-27 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า ประเทศไทยสามารถส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทย และขยายตลาดภาพยนตร์ไทยสู่ระดับนานาชาติ และผลักดัน “Soft Power” ความเป็นไทยได้ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศผ่านอุตสาหกรรมวัฒนธรรม 5F ได้แก่ อาหาร (Food) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น (Fashion) มวยไทย (Fighting) และเทศกาลประเพณี (Festival) ได้อย่างเป็นรูปธรรม

นายอิทธิพล กล่าวว่า สำหรับการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ เป็นที่น่ายินดีว่ามีภาคเอกชนเข้าร่วมงาน 12 บริษัท อาทิ Benetone Films, BrandThink, Film Frame Productions, GDH 559, Halo Productions, Kantana Motion Pictures, M Pictures, Right Beyond, Sahamongkolfilm International และ Yggdrazil Group  เนรมิตรหนัง ฟิล์ม และเวลา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งให้ความร่วมมือในหลากหลายกิจกรรม อาทิ กิจกรรมตลาดซื้อขายภาพยนตร์ และนิทรรศการคูหาประเทศไทย (Thailand Pavilion) โดยมีมูลค่าการเจรจาการค้ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ไฮไลท์ของคูหาประเทศไทย คือการจัดกิจกรรม Thai Film Pitching Project 2023 นำเสนอโครงการการสร้างภาพยนตร์เพื่อการร่วมลงทุน 2 เรื่อง ได้แก่ ทองหล่อคิดส์ โดย อาทิตย์ อัสสรัตน์ และ เจ้าหงิญ โดย เอมอัยย์ พลพิทักษ์ ซึ่งขณะนี้มี 43 บริษัท ที่สนใจเข้าร่วมลงทุนมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ตลอดการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในครั้งนี้ มีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมคูหาประเทศไทยจำนวนมากกว่า 600 ราย รวมถึงมีผู้ผลิตภาพยนตร์ที่สนใจและมีแผนจะเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักรไทย จำนวน 21 ราย จาก 8 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส กรีซ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ อินเดียและออสเตรเลีย โดยมีแผนใช้เงินลงทุนรวมกว่า 3,800 ล้านบาท 

โดยรายละเอียดการเข้ามาติดต่อสอบถามในประเด็นหลัก ๆ อาทิ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในประเทศไทย การร่วมทุนผลิต (Co-Production) และการหาทุนในการสร้างภาพยนตร์ในประเทศไทย การจัดเทศกาลภาพยนตร์ในระดับประเทศและระดับนานาชาติในประเทศไทย (Film Festival) และการสนับสนุนด้านเงินทุนในการผลิตภาพยนตร์ (Film Funding) นอกจากนี้ ในวันเปิดคูหาประเทศไทยยังมีอาหารไทยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน นักท่องเที่ยว ได้ลิ้มลอง ได้แก่ ส้มตำ ข้าวผัดกุ้ง ข้าวเหนียวมะม่วง และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ชาวต่างชาติรู้จักประเทศไทย ช่วยสร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศสร้างความมั่งคั่ง มั่นคงตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIAL & LIFESTYLE TRAVEL

Soft Power ด้านอาหาร เตรียมจัด “Bangkok International Food Festival”

Soft Power ด้านอาหาร เตรียมจัด “Bangkok International Food Festival”

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประสานความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเตรียมจัด “Bangkok International Food Festival” ซึ่งเป็นเทศกาลอาหารที่ยิ่งใหญ่ระดับนานาชาติ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 30 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งการจัดงานดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้ความสำคัญกับการนำศักยภาพของประเทศไทยในด้านต่าง ๆ รวมทั้ง Soft Power ด้านอาหารของประเทศไทยมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยอีกทางหนึ่ง

นายอนุชากล่าวถึงการจัดงาน “Bangkok International Food Festival 2023” ว่า ททท. จะมีการนำเสนอความหลากหลายของสินค้าท่องเที่ยวเชิงอาหาร ในรูปแบบ Amazing Food Festival ด้วยการจัดงานเทศกาลอาหารระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยมุ่งกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมงานอาหารระดับสากล สอดรับกับการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปพร้อมกับการเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยว และสร้างการรับรู้ความเป็นเมืองหลากหลายทางวัฒนธรรมด้านอาหารของประเทศไทย ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์และเอกลักษณ์ของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศ โดยการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยให้เชื่อมโยงการเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวและชุมชนที่เป็นแหล่งวัตถุดิบของอาหาร ขยายระยะเวลาการพำนักค้างคืนให้นานขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้จากการใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง และสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจทั้งในระดับพื้นที่และภาพรวมของประเทศด้วย

สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน “Bangkok International Food Festival 2023” ประกอบด้วย 

1) กิจกรรม Creative Cooking สาธิตและเรียนรู้การทำอาหาร ขนม ที่มาร่วมออกร้านภายในงาน 

2) กิจกรรม “Chef Table Bangkok International Food Festival” เป็นการรังสรรค์เมนู Chef Table จากเชฟชื่อดังจากต่างประเทศ อาทิ Chef JACOB JAN BOERMA, Chef David Gil Rovira, Chef ALEJANDRO HUERTAS, Chef RUBEN ARNANZ, Chef Riley Sanders, Chef SAITO, and Chef Rick Dingen, Chef Nelson Chantrawan, Chef Chumpol Jangprai etc., ในชุดเมนูที่เชฟรังสรรค์ ในชื่อเมนู “Chef Table Bangkok International Food Festival” ในการรังสรรค์เมนูที่แสดงถึงความโดดเด่นในสไตล์อาหารของเชฟแต่ละคน 

3) กิจกรรม การรังสรรค์เมนู Street Food ของประเทศไทยในสไตล์ของเชฟที่เชิญมาเข้าร่วมภายในงาน ด้วยเมนูประสบการณ์มิติใหม่ที่มีความหลากหลาย กิจกรรม Gastronomy กับนวัตกรรมอาหารด้วยศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงจากเชฟผู้เชี่ยวชาญ และ 

4) กิจกรรม “สวรรค์แห่ง Fine Dinning” workshop เมนูพิเศษ สำหรับการสาธิตและการเรียนรู้การทำอาหารผ่านนวัตกรรมด้วยศาสตร์การทำอาหารชั้นสูง นอกจากนี้ ภายในงานยังมีร้านอาหารต่าง ๆ  มากมายร่วมออกร้านหลากหลายโซน ทั้งโซนร้าน International Food โซนร้าน Michelin Guide โซนร้านเด่น ร้านดังจาก 5 ภูมิภาค โซนร้าน Street Food และโซน ร้าน Cafe รวมถึงการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดังของไทยที่จะมาแสดงภายในงานด้วย 

“จึงขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมงาน Bangkok International Food Festival 2023 ที่จัดขึ้นระหว่าง 26 – 30 พฤษภาคม 2566 เวลา 15.00 – 22.00 น. ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร  เพื่อร่วมกันส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมทางอาหารของไทย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตานักชิมทั่วโลก” นายอนุชา กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
CULTURE

Soft Power ต่างชาติสนใจ “ผ้าขาวม้า” ในงาน World Dance Day 2023

Soft Power ต่างชาติสนใจ “ผ้าขาวม้า” ในงาน World Dance Day 2023

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อเวันที่ 21 พฤษภาคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งได้นำ “ผ้าขาวม้า” Soft Power ของไทย ร่วมแสดงในงาน World Dance Day 2023  กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้รับความสนใจจากผู้ชมชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก และขณะนี้ผ้าขาวม้าไทยอยู่ระหว่างการเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Intangible cultural heritage) ต่อองค์การยูเนสโก (UNESCO) อีกด้วย

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้นำผ้าขาวม้า ซึ่งเป็นหนึ่งSoft Power ที่มีเอกลักษณ์ของไทย เข้าร่วมการแสดงในงาน World Dance Day 2023 เป็นงานที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความสามารถทางศิลปะวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ โดยเยาวชนไทยได้ทำการแสดง 2 ชุด ได้แก่ 1. การแสดงชุดเคียนขะม้านารี ใช้ผ้าขาวม้าเป็นองค์ประกอบหลักสำหรับการแสดง บอกเล่าเรื่องราวของผ้าขาวม้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทย จนเป็นเอกลักษณ์ของไทย และ 2. การแสดงชุดผืนไท เป็นการแสดงท่ารำและการแต่งกายของคนไทยในทุกภูมิภาค เพื่อสื่อให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขร่มเย็น ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ซึ่งเมื่อการแสดงจบลง ได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมอย่างยาวนานด้วยความประทับใจ มีชาวต่างชาติมาขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกจำนวนมาก

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่าเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้เสนอ “ผ้าขาวม้า” ผ้าอเนกประสงค์ในวิถีชีวิตไทย ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การยูเนสโก โดยพิจารณาจากคุณค่าของผ้าขาวม้าในหลายมิติ การใช้ประโยชน์ที่แพร่หลายในทุกภาคและชุมชน รวมถึงในชาติพันธุ์ต่าง  ทั่วประเทศ มีเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น เป็นผ้าสารพัดประโยชน์เข้าถึงง่ายและผูกพันกับวิถีชีวิตคนไทยหลายด้าน ทั้งการทอผ้าใช้กันเองในครัวเรือน แลกเปลี่ยนในหมู่บ้านและชุมชนไปจนถึงเป็นของขวัญ และใช้ในงานพิธีกรรมต่าง  โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชี้ว่าผ้าขาวม้ามีมาตั้งแต่สมัยเชียงแสน ผ่านการปรับปรุงต่อยอดภูมิปัญญา พัฒนาคุณภาพให้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายขึ้นจนถึงปัจจุบัน

 

นายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันต่อยอด ผลักดันผ้าขาวม้า อีกหนึ่ง Soft Power ของไทย รวมถึงชื่นชมคนรุ่นใหม่ เยาวชนไทย ที่รักความเป็นไทย สนับสนุน และผลักดันเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของชาติให้เป็นที่รู้จักในสายตาชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น ตลอดจน ชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ ที่นำมาผสมผสานเป็นความร่วมสมัยทางวัฒนธรรมนำไปเผยแพร่ในระดับโลก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนให้ผ้าขาวม้าให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การยูเนสโกต่อไป” นายอนุชาฯ กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE