Categories
AROUND CHIANG RAI VIDEO

มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2023 คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

อบจ.เชียงราย เปิดงานมหกรรมดอกไม้อาเซียน จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “When You Wish Upon A Star คำอธิษฐานผ่านดอกไม้…ถึง…ดวงดาว” ซึ่งทางทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้เล่ารายละเอียดของงานว่า

ปีนี้ก็เป็นเรื่องของความรักความโรแมนติกเกี่ยวข้องกับเรื่องของสายมู คําอธิษฐานผ่านดอกไม้หรือดวงดาวมีอยู่7โซน ในสวนดอกไม้งามริมน้ำกกของเรา ในแต่ละโซนก็จะมีไฮไลท์ที่แตกต่างกันไปการจัดสวนของเราเป็นการจัดสวนที่มีการออกแบบผสมผสานไม่ใช่เป็นสวนดอกไม้อย่างเดียว แต่เป็นการจัดสวนออกแนวศิลปะ

 

มีการนําประติมากรรมที่รังสรรค์โดยศิลปินชาวจังหวัดเชียงราย มาออกแบบในส่วนของท้ายสวนก็จะมีพื้นที่สร้างสรรค์โดยกลุ่มเยาวชนของจังหวัดเชียงรายเราและหลังจากจบงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน เราจะมีการจัดพื้นที่สร้างสรรค์ไปอีก 4 อําเภอรอบนอกงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน

อทิตาธร กล่าวอีกว่า ในการคํานวณที่พื้นที่แค่ 500,000 คน หากมีการจับจ่ายใช้สอยพักกินเที่ยวซื้อของคิดแค่คนละ 1,000 บาท ท่านเอาจํานวน 1,000 บาท คูณกับนักท่องเที่ยวจํานวน 500,000 คนคิดว่าเงินจะไหลกลับเข้ามาจํานวนเชียงรายมากมายเท่าไหร่อันนี้กว่า 5 ร้อยล้าน

เพราะฉะนั้นเนี่ยก็ถือว่าเป็นโอกาสทองของจังหวัดเชียงรายหากมีการลดลงของนักท่องเที่ยวจีนไม่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวงานในจังหวัดเชียงรายหรือแม้กระทั่งงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน เพราะเท่าที่ผ่านมาเจากการสํารวจนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวในประเทศและเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากหลายประเทศ

ทางทีมข่าวได้สอบถามถึงประเด็นที่เชียงรายได้รับเลือกให้เข้าเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ในระดับโลก (UNESCO Creative Cities Network – UCCN ) ประจำปี 2566 จากองค์การยูเนสโก ที่ผ่านมาจะช่วยส่งผลต่อจังหวัดอย่างไร

ทางด้านอทิตาธร กล่าวว่า – ในขณะเดียวกันด้วยความเชียงรายเนี่ยเราได้รับการประกาศเป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกมีกว่า 30 ประเทศทั่วโลกที่วันนี้ได้ประสานงานติดต่อเข้ามาเพื่อที่จะเข้ามาเที่ยวชมงานแล้วจะมาเที่ยวชมที่จังหวัดเชียงรายของเรา

ช่วงนี้ถือว่าช่วงเดือนธันวาเข้าสู่ฤดูหนาวอากาศก็เริ่มเย็นลงงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งงานเฟสติวัลที่จะนําพานักท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดเชียงรายของเราและในจังหวัดเชียงรายของเรานอกเหนือจากจะมีเรื่องของไทยแลนด์เบียนนาเล่ เชียงราย 2023 แล้วเชียงรายเมืองสร้างสรรค์แล้ว

งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน ของเราที่จัดนี้ก็เป็นการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาและมีการกระจายการจัดงานไปอีก 4 อําเภอในขณะเดียวกันในอําเภอล้อมรอบของเรา ในส่วนที่เราจัดงาน 4 อําเภอแล้วก็มีการดึงนักท่องเที่ยวไปในแหล่งต่างๆ ซึ่งถือว่าเชียงรายของเราเที่ยวได้ทั้งปีและมีดีทุกอําเภอเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเที่ยวในด้านของสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ชา กาแฟสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ขณะนี้เชียงรายถือว่าเป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ของการท่องเที่ยวเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวคุณภาพค่ะ – อทิตาธร กล่าว

โดยงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 2566 – 2 มกราคม 2567 ณ สวนไม้งามริมน้ำกก องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. ทั้งนี้ สวนดอกไม้จะเปิดให้เข้าชมได้ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2567

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL VIDEO

แอ่วล้ำแอ่วเหลือ ‘สีสันแห่งดอยตุง’ ครั้งที่ 10

 

กลับมาเป็นครั้งที่ 10 แล้ว สำหรับงานเทศกาล “สีสันแห่งดอยตุง” ที่ปีนี้มาในธีม “ดอกไม้ระบายดอย” ที่จัดเต็มดอกไม้สีสันสดใสต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน พร้อมตื่นตาตื่นใจไปกับสีสันของดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์กว่า 100,000 ต้นภายในสวนแม่ฟ้าหลวงโฉมใหม่

 

 

และหลังจากที่ไปชมความสวยงามของดอกไม้แล้ว ก็ต้องไปหาของอร่อยใส่ท้องกันต่อ กับโซน “กาดชนเผ่า” ที่รวบรวมอาหารชนเผ่า ขนมพื้นบ้าน และเครื่องดื่มสุดพิเศษจากร้านในชุมชน ที่มีให้ลิ้มลองมากกว่า 40 เมนูด้วยกัน และเมนูที่ห้ามพลาดเลยก็คือเมนูหมูย่างอาข่า หอม ๆ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำพริกมะเขือเทศรสกลมกล่อม ยำผักพื้นบ้านรสเลิศ หมูผัดรากชู และข้าวเหนียวดอยเคี้ยวหนึบ

สำหรับใครที่อยากหากิจกรรมทำ ที่นี่ก็มีกิจกรรม workshop ให้เลือกทำมากมาย อย่างเช่นการเพ้นท์ถ้วยจานชามเซรามิค เพ้นท์กระเป๋าผ้า ทำป็อปอัพการ์ด DIY โปสการ์ด พวงกุญแจเม็ดบีท ระบายสีดอกไม้สัตว์ป่า ฉลุลายดอกไม้และสัตว์ป่า และทำพรมยิง

 

และนอกจากนี้ ยังมีร้านขายของที่ระลึกให้เราเลือกช้อปทั้งร้านของของที่ระลึกจากดอยตุง และร้านสินค้าหัตถกรรมชนเผ่า ที่ผ่านการสร้างสรรค์ด้วยภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น มีให้เลือกทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ และของที่ระลึกต่างๆ ด้วยสีสรรที่สดใสแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่านั้นๆได้อย่างดีเยี่ยม

และสำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะมาเที่ยวชม ชิม ช้อปที่งานเทศกาล “สีสันแห่งดอยตุง” สามารถมากันได้ที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงราย โดยงานนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ไปจนถึงวันที่ 28 มกราคม 2567 ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00 – 18.00 น.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI VIDEO WORLD PULSE

(มีคลิป) ยูเนสโกประกาศรับรองเชียงรายเมืองสร้างสรรค์ของโลก

 

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566)นางยุถิกา อิศรางกูล ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) ร่วมกันแถลงข่าวและแสดงความยินดีกับจังหวัดเชียงรายที่ได้รับการคัดเลือกเป็นเครือข่ายสร้างสรรค์ UNESCO ที่ห้องประชุมธรรมปัญญา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร อบจ.เชียงราย ภาคเอกชน สื่อมวลชน ร่วมรับฟังการแถลงข่าวจำนวนมาก เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้การประกาศรับรองจังหวัดเชียงรายเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ด้านการออกแบบ

 

นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงราย นับเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ มีอัตลักษณ์โดดเด่นในด้านสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การเป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านการออกแบบ จึงมีการผลักดันให้เชียงราย เป็นเมืองแห่งการออกแบบ (City of Design) เนื่องจากเชียงรายมีทรัพยากรการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมความหลากหลายทางชีวภาพ และอัตลักษณ์ท้องถิ่น ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง มีศิลปินล้านนาจำนวนมาก มีการสร้างสรรค์ทางศิลปะที่สืบทอดกันมาทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมที่บ่งบอกถึงภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่นเมืองเชียงราย สามารถใช้การออกแบบการบริการ Sevice Design มาเป็นจุดแข็ง เช่น กลุ่มสร้างสรรค์ต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มศิลปิน กลุ่มนักสร้างสรรค์ กลุ่มสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เมืองเชียงรายเมืองแห่งวัฒนธรรมล้านนาที่มีเอกลักษณ์ และอัตลักษ์ณ์ที่โดดเด่น สามารถผลักดันเปลี่ยนแปลงเมืองเชียงรายด้วยการสร้างสรรค์ การออกแบบ การบริการ และความมีอัธยาศัยดีความสามัคคีกัน 
 
 
 
 

ส่งผลให้เกิดแนวคิดความสร้างสรรค์ พัฒนา ต่อยอดสู่เมืองสร้างสรรค์ได้ในอนาคต อันเป็นการสนับสนุน และยกระดับความสามารถด้านการท่องเที่ยวแก่จังหวัดเชียงราย เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างแท้จริงและยั่งยืน การเสริมสร้างการรับรู้ศักยภาพของเมืองแก่ประชาชน และผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียในพื้นที่ จึงก่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาและบูรณาการร่วมกันเพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์เมืองในด้านนั้น ๆ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวอีกว่า สิ่งเหล่านี้ต่างสนับสนุนการพัฒนาเมืองให้จังหวัดเชียงรายขับเคลื่อนไปสู่การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์กรการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) และเพื่อขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ..2561-2580) เมืองสร้างสรรค์ ด้านการออกแบบ การที่เป็นการออกแบบการบริการของเชียงราย มีเป้าหมายเพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ของเมืองในการรักษาสิ่งแวดล้อม และลดความยากจน เพื่อก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ความเท่าเทียมกัน และการพัฒนาเมือง สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) การขับเคลื่อน “เมืองเชียงราย” สู่การเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านการออกแบบ จำเป็นจะต้องดำเนินกิจกรรมตามแผนที่นำทาง (Roadmap) ของเมืองเชียงราย 

สู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านการออกแบบ ให้เกิดเป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับการสนับสนุนการพัฒนาเมืองในพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ อพท. ตามพระราชกฤษฎีกา และเมืองในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวโดยเน้นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา ประชาสังคม รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ การพิจารณาถึงผลตอบรับและแรงจูงใจต้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเพื่อความยั่งยืน ใช้กลไกการทำงานโดยการดึงชุมชนที่มีศักยภาพสร้างเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงการท่องเที่ยว สร้างความเข้าใจให้ทุกฝ่ายให้เห็นถึงความสำคัญของประโยชน์ที่จะได้รับจากการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของเมืองในครั้งนี้ ตลอดจน การถ่ายทอดองค์ความรู้ทั้งด้านพัฒนากิจกรรมสร้างสรรค์ และเส้นทางการท่องเที่ยว การบริการให้มีมาตรฐาน 

 

การพัฒนานักสื่อความหมาย การพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่นำเอาอัตลักษณ์ประจำถิ่นมาพัฒนาเป็นสินค้าที่มีความโดดเด่น สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่สามารถเชื่อมโยงกับชุมชนใกล้เคียงเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ในท้องถิ่นได้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการเสนอชื่อจังหวัดเชียงรายสมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO.ด้วยแนวคิด “เชียงรายวิถี กินอยู่ รู้แบ่งปันสู่ความยั่งยืน” แม้การเสนอชื่อในครั้งแรกยังไม่สามารถนำพาจังหวัดเชียงรายสู่การเป็นเมืองเครือข่ายได้แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์การบริการส่วนจังหวัดเชียงราย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม รวมถึง สถาบันการศึกษา และศาสนา ในพื้นที่ร่วมกันขับเคลื่อนเมืองด้วยแนวคิดของเมืองสร้างสรรค์ สร้าง Creative.Space / Creative.Event ระดับนานาชาติ สร้างสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม สู่การออกแบบเพื่อสร้างสมดุล ระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรมปรับประยุกต์ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาเมือง 

 

เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก เยาวชนและประชาชนชาวเชียงรายอย่างยั่งยืน จนเป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล และเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 องค์การยูเนสโกได้ประกาศรับรอง 55 เมืองทั่วโลก เข้าร่วมเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ซึ่งรวมถึงจังหวัดเชียงรายด้วย บัดนี้ จังหวัดเชียงราย พร้อมแล้วที่จะเป็นหมุดหมายใหม่ของนักสร้างสรรค์ระดับนานาชาติ กับการได้รับการรับรองจากยูเนสโก ยกจังหวัดเชียงราย เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านการออกแบบ Chiang Rai Creative City of Design
 
 
ตราสัญลักษณ์เชียงรายเมืองสร้างสรรค์ เมืองแห่งความสมดุระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรม เพื่อขับเคลื่อนสู่เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UCCN) พบกันที่ไหนทักทายกัน
 
มีชื่อว่า “วัฒนธรรมชาติ” หรือ
อ่านว่า “วัด-ทะ-นะ-ทำ-มะ-ชาด”
ออกแบบโดย นายวีระพงษ์ อมรสิน
 
ที่สื่อแสดงถึงความสมดุลแห่งความมั่งคั่งทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม เป็นต้นทุนสร้างสรรค์ ที่จะขับเคลื่อนเชียงราย
สู่เมืองแห่งการออกแบบที่ยั่งยืน ทั้งนี้ การออกแบบได้ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ธรรมชาติ วัฒนธรรม และธรรม ดังนี้
ส่วนที่ 1 ธรรมชาติ เชียงรายเป็นเมืองที่ “รายรอบด้วยขุนเขาและสายน้ำ” ประกอบไปด้วย
 
ต้นทุนแห่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
ต้นน้ำแห่งกายภาพหัวเมืองเหนือของประเทศ
ต้นกำเนิดแห่งวิถีชีวิตและภูมิปัญญาแห่งชาติพันธุ์
 
สู่การสร้างคุณค่าและมูลค่าจากผลิตผลแห่งการสร้างสรรค์ รวมถึงแรงบันดาลใจแห่งศิลปวัฒนธรรม
ส่วนที่ 2 วัฒนธรรม เชียงรายเป็นเมืองที่ “รายล้อมด้วยผู้คนและศิลปะ” ประกอบไปด้วย
 
– ลวดลายแห่งเชียงราย อัตลักษณ์ใหม่จากศิลปะล้านนาร่วมสมัย ฝีมือจากการรังสรรค์ของศิลปินแห่งชาติ ผู้เป็นตัวแทนแห่งจิตวิญญาณและสุนทรียะทางศิลปะ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ที่เป็นต้นแบบของแรงบันดาลใจให้กับนักสร้างสรรค์ จนถูกขนานเชียงรายว่าเป็น “เมืองแห่งศิลปิน” ที่มากที่สุดในประเทศ เมืองแห่งศิลปะและศิลปินที่มากมาย
 
– ลายล้านนาเชียงแสน ตัวแทนแห่งประวัติศาสตร์และความหลากหลายทางชาติพันธ์ุที่มาพร้อมกับศิลปวัฒนธรรมเฉพาะตัว
– ตุงที่เชื่อมโยงถึงโครงการดอยตุง ตัวแทนของแนวคิดในการปรับตัวและการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีและยั่งยืน
 
หอคำไร่แม่ฟ้าหลวง สถาปัตยกรรมล้านนาประยุกต์ ตัวแทนของความงดงามที่เรียบง่ายความกลมกลืนระหว่างศิลปวัฒนธรรมกับธรรมชาติ และการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าจากบ้านไม้เก่าของการก่อสร้าง ไร่แม่ฟ้าหลวง ยังเป็นหนึ่งในคลื่นศิลปะที่ผลักดันเชียงรายสู่เมืองออกแบบ เพราะเป็นบ้านของศิลปินนักสร้างสรรค์ ที่พร้อมบริการการออกแบบเพื่อสังคม
 
– อาคารลดทอน หรือ วัตถุ Simplified ตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงบนต้นทุนเดิม สะท้อนความเป็น “นีโอล้านนา” และความร่วมสมัยบนพื้นที่แห่งโอกาสและความท้าท้ายของคนรุ่นใหม่ ที่จะมาร่วมขับเคลื่อนพลังและความสามารถให้เป็นเมืองแห่งการออกแบบที่ยั่งยืน
 
ส่วนที่ 3 ธรรม เชียงรายเป็นเมืองที่ “รายเรียงพื้นที่แห่งศาสนาและประวัติศาสตร์” ด้วยความศรัทธาแห่งวิถีพุทธสู่การเป็นศาสนาประจำจังหวัดก่อเกิดงาน “พุทธศิลป์” หลายแขนงที่สานต่อจากอดีตของเมือง
ที่มั่งคั่งด้วย “อารยธรรม”
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL VIDEO

(มีคลิป) จัดเต็มแลนด์มาร์ค สืบสานศิลปะล้านนา “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” เซ็นทรัล เชียงราย

 

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 เซ็นทรัลพัฒนา สืบสานศิลปะทรงคุณค่าแห่งล้านนา ในงาน“เทศกาลสีสันกาสะลอง 2023” รับเทศกาลแห่งความสุขด้วย “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” จัดเต็มแลนด์มาร์ค สุดอลังการ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ม.ค. 67 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

 

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ร่วมกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ (โครงการพัฒนาดอยตุง), จังหวัดเชียงราย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย, การท่องเที่ยวและกีฬาเชียงราย, องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย, เทศบาลนครเชียงราย,กระทรวงวัฒนธรรม, วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, ขัวศิลปะ และ Thailand Biennale จัดงาน “เทศกาลสีสันกาสะลอง 2023” สร้างสีสันต้อนรับลมหนาว ด้วยการรังสรรค์ ผสานเรื่องราวทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ชวนนักท่องเที่ยวรื่นเริงส่งท้ายปีไปกับเมืองแห่งอัตลักษณ์ทางการสร้างสรรค์ทางศิลปะอันทรงคุณค่าแห่งล้านนา สร้างลวดลาย สีสัน และ อัตลักษณ์แห่งเชียงรายอย่างงดงาม ก่อกำเนิดเป็นภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 8 พ.ย. 66 – 31 ม.ค. 67 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย 

 

 

โดยพิธีเปิดงานสีสันกาสะลอง 2023 จัดขึ้นพร้อมงานเปิดไฟต้นคริสต์มาสสุดอลังการ เนรมิตหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงรายให้เป็นแลนด์มาร์คจุดถ่ายรูปที่สวยที่สุดในเชียงราย พบกับการ แสดงสุด ยิ่งใหญ่จากวงเดอะระมิงค์ The Raming Lanna Contemporary Music ที่ประพันธ์บทเพลงใหม่เพื่องานเทศกาลสีสันกาสะลองโดยเฉพาะ โดยเพลง Highlight ”มาลา มาเก่อปอด“ คือเพลงที่มีความหมายว่า เฉลิมฉลอง เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากนักดนตรีชนเผ่าแห่งยอดดอยเชียงราย เป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านดนตรี และร่วมบรรเลงเพลงในชนเผ่า ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของดนตรีชนเผ่า ซึ่งเครื่องดนตรีชนเผ่า ที่ใช้ประกอบในการบรรเลงเพลง ซือบือ เครื่องดนตรีอาข่า, เตหน่า เครื่องดนตรีปกาเกอะญอ, ขับลื้อ เครื่องดนตรี ลื้อ ,เค่ง เครื่องดนตรี ม้ง , ซึง เครื่องดนตรี ลัวะ ผสมผสานเครื่องดนตรีชนเผ่า ผสมผสานกับดนตรีตะวันตก เรียบเรียงเป็นชุดเพลงที่แต่งขึ้นมาเพื่อใช้ในการเฉลิมฉลองของชนเผ่าร่วมกับงานครั้งนี้ 

 

ผ่านเครื่องดนตรีประจำเผ่าและวงออร์เคสตรา เพื่อเล่าเรื่องราวของคนในชนเผ่าให้ทุกคนได้รับฟังโชว์ที่ผนวกการแสดงจากชนเผาชาติพันธุ์ ผสมผสานการแสดงสากลจนกลายมาเป็น Contemporary Show ที่แปลกใหม่ สวยงาม และไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อน และชมพลุสุดตระการตา งาน “เทศกาลสีสันกาสะลอง” ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างสีสันและต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมารับลมหนาวภาคเหนือในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะ มาถึง พร้อมเผยแพร่ เรื่องราวทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ทรงคุณค่าแห่งล้านนาให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น 

 

โดยได้นำเทคนิคต่างๆ เข้ามาผสมผสาน โดยแต่ละปีจะมีไฮไลท์สุดพิเศษแตกต่างกันออกไป โดยล่าสุด UNESCO ได้ยกย่องให้จังหวัดเชียงราย เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ(City of Design) ทางศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการมอบประสบการณ์แปลกใหม่ ให้กับชาวเชียงรายและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมงาน สำหรับปีนี้ สร้างสรรค์ขึ้นในคอนเซ็ปต์ The Spirit of Chiangrai : The Pride of Northern Thailand ผสมผสานเรื่องราวจากวัฒนธรรมเครื่องประดับเงิน จาก 6 ชนเผ่า และความอุดมสมบูรณ์ของป่าสนบนดอยตุง เหนือสุดแดนสยามที่แรกที่เดียวในประเทศไทย สื่อถึงความงดงามและวิถีชีวิตที่ผูกพันอยู่กับธรรมชาติ ออกแบบและสร้างสรรค์โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ (โครงการพัฒนาดอยตุง) และได้รังสรรค์ผลงานให้เป็นส่วนหนึ่งสำหรับจุดแลนด์มาร์คของงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023’ 

 

งานมหกรรมศิลปะนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ที่กำลังจะเกิดขึ้นในจังหวัดเชียงราย ไฮไลท์หลักของงานคือ “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” สร้างสรรค์โดย ดอยตุง ที่จำลองแบบต้นสนด้วย กลีบจำนวน 19 ชั้นซ้อนกัน แต่ละชั้นตกแต่งด้วยเครื่องเงินจากแรงบันดาลใจชนเผ่าประดับไฟ หยดน้ำทอประกายระยิบระยับสวยงาม ตระการตา โดยตั้งชื่อตามความยาวของงานผ้าทอมือขนาด 1,000 วา หรือ 2,000 เมตร ที่เกิดจากการร่วมมือกันของชาวบ้าน กลุ่มชนเผ่าบนพื้นที่ดอยตุงที่ใช้ เวลาว่างมาร่วมแรงร่วมใจถักทอผ้า โดยใช้ระยะเวลากว่า 3 เดือน ส่วนคำว่า “หมอก” มาจากการที่ จังหวัดเชียงรายจะเกิดปรากฏการณ์ชมหมอกที่สวยงาม 

 

ในช่วงต้นเทศกาลคริสต์มาสคือตั้งแต่ เดือน พฤศจิกายน ถึง มกราคมเป็นประจำทุกปี “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” ถักทอด้วยผ้าธรรมชาติ และวัสดุในท้องถิ่นสื่อถึงการใช้ชีวิตทีเรียบง่ายและผูกพันกับธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ เถาสน ไหมย้อมสี ผ้าฝ้าย และหญ้าแฝก ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมเครื่องแต่งกายที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ แห่งชาติพันธุ์ของเชียงราย สู่ลายปักผ้าและของตกแต่งบนเครื่องแต่งกายสีสันสดใส ของ 6 ชาติ พันธุ์เชียงราย ได้แก่ อาข่า ลาหู่ ลัวะ ไทใหญ่ ไทลื้อ และจีนยูนนาน สอดประสานกันแต่ละชั้น เพื่อแสดงถึงความหลากหลายที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมเกลียว

 

นื่องด้วย จังหวัดเชียงราย เป็นดินแดนวัฒนธรรมเครื่องประดับเงินแห่งชนเผ่า แต่ละชั้นกลีบประดับ ต้นคริสต์มาส จึงได้นำเอาลวดลายเครื่องประดับเงิน ที่เป็นอัตลักษณ์ของแต่ละชนเผ่าชาติพันธุ์มา ตกแต่งร่วมกับลายผ้าทอ ร้อยเรียงต้นคริสต์มาสให้มีอัตลักษณ์ แต่ละลวดลายล้วนเกี่ยวข้องกับการ ดำเนินชีวิต โดยนัยที่เป็นพลังเชิงบวก เช่น ลายปลา สื่อถึงความมั่งมีและอุดมสมบูรณ์, ลายผีเสื้อ สื่อถึงความงดงามและอุดมสมบูรณ์, ดอกเบญจมาศ สื่อถึงความมีชีวิตชีวาและความเจริญรุ่งเรือง, การทำภู่ เงินห้อยระย้า สื่อถึงความมีชื่อเสียงและความดีงามยังมีการทำเครื่องเงินในลักษณะของ กระดุม ลูกกระพรวน และลูกปัด เพื่อใช้ตกแต่งลงบนผ้าพื้นเมือง สำหรับชนเผ่าเย้า (เมี่ยน) มีการ ผลิตเครื่องประดับเงิน ทำเป็นสร้อยคอ กระดุมเสื้อ และเครื่องประดับเงิน ที่มีลักษณะเป็นแผงมีพู่ ห้อยเพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมการแต่งกายของชนเผ่า สนุกกับกิจกรรมพิเศษทุกวันหยุดยาว ไม่ว่าจะเป็น แขวนโคมล้านนา, เทศกาลดนตรีแจ๊ส, ฟรีเวิร์คช็อปงานคราฟท์, มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ชมการแสดงตลอดเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับ ปีใหม่ การแสดงเปิดหมวกโชว์จากน้องๆ ในเชียงราย สิทธิพิเศษ 

 

สำหรับสมาชิก The1 รับ ฟรี! ของที่ระลึกสุดพิเศษ เมื่อกิน ช้อป ภายในโซนพลาซา ครบ 10,000 บาทขึ้นไป พร้อมเลือกซื้อ สินค้าในกาดสีสันกาสะลองไนท์มาร์เก็ต ลิ้มลองเมนูหาทานยากจากพี่น้อง 6 ชนเผ่าชาติพันธุ์เมือง เชียงราย และอิ่ม อร่อยกับร้านค้าเด็ดเมนูดังในเชียงราย พร้อมช้อปสินค้า ART & CRAFT เป็นของ ที่ระลึกมากมาย 

 

สำหรับพิธีเปิดได้รับเกียรติจากคุณสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และ ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด Chief Marketing Officer บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เป็นประธานเปิดงาน โดยมี คุณประเสริฐ ตรงเจริญเกียรติ ประธานสายปฎิบัติการธุรกิจเพื่อสังคม มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์, คุณอรชร จันทร์วิวัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มงานปฎิบัติการสาขาเขตภาคเหนือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ, คุณสายัณห์ นักบุญ ผู้จัดการ ทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย, คุณเสริฐ ไชยยานันตา ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและ กีฬาจังหวัดเชียงราย, คุณวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สนง.เชียงราย, อาจารย์นคร พงศ์น้อย ผู้อำนวยการอุทยาน ศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงาน บริเวณ ด้านหน้า ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

 

ตื่นตากับ “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา” แห่งเดียวในไทย ในคอนเซ็ปต์ The Spirit of Chiangrai : The Pride of Northern Thailand ผสมผสานเรื่องราวจากวัฒนธรรมเครื่องประดับเงิน จาก 6 ชนเผ่า และความอุดมสมบูรณ์ของป่าสนบนดอยตุง แห่งเดียวในไทย ผลงานร่วมระหว่างเซ็นทรัลเชียงรายและมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ (โครงการพัฒนาดอยตุง)

 

กาดสีสันกาสะลองไนท์มาร์เก็ต ลิ้มลองเมนูหาทานยากจากพี่น้อง 6 ชนเผ่าชาติพันธุ์เมืองเชียงราย และอิ่มอร่อยกับร้านค้าเด็ดเมนูดังในเชียงราย พร้อมช้อปสินค้า ART & CRAFT เป็นของที่ระลึก

 

ม่วนใจ๋ไปกับบทเพลงเพราะๆ ชมการแสดงเชิงวัฒนธรรม Shimmer and Shine จากน้องๆ เยาวชนชาวเชียงราย ถ่ายรูปจุใจกับจุดเช็คอินเก๋ๆ กว่า 10 แลนด์มาร์กให้ได้โพสต์สดใสกันทั้งกลางวัน และงดงามกันในยามค่ำคืน

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เซ็นทรัล เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE VIDEO

(มีคลิป)เก็บข้อมูลชาติพันธุ์ดาราอางและอิ้วเมี่ยน เตรียมงาน เบียนนาเล่ เชียงราย

 

วันอาทิตย์ที่ 5 พ.ย.2566 เวลา 9.30 น.ได้ลงพื้นที่บันทึกการเล่นดนตรีและศิลปะการแสดง ของพี่น้องชาติพันธุ์อิ้วเมี่ยน บ้านห้วนแม่ซ้าย  ม.11 ต.แม่ยาว อ.เมือง ถึงเวลา 12.30 น. ซึ่งจากข้อมูลวารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร ของณัฐนนท์ จิรกิจนิมิตร สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้พูดถึงกลุ่มชาติพันธุ์ที่เรียกตนเองว่า “เมี่ยน” หรือ “อิ้วเมี่ยน” มักเป็นที่รู้จักกันในนามว่า “เย้า” เมี่ยนเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์บนที่สูงตั้งชุมชนกระจายอยู่ทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยมีวิถีการดำรงชีพหลักคือ ทำเกษตรแบบกึ่งยังชีพบนพื้นที่สูง รวมถึงมีความจงรักภักดีและความเชื่อต่อเทพเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการนับถือระบบเครือญาติแบบแซ่ ตระกูล และผีบรรพบุรุษ

 

 

ต่อมาคณะได้เดินทางไปบ้านพี่น้องดาราอาง บ้านโป่งเหนือ ม.8 ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จึงถึงเวลา 16.30 น. ดาราอาง เดิมตั้งถิ่นฐานในตอนเหนือของรัฐฉาน ภายใต้อาณาจักรไตมาว จากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองทำให้ชาวดาราอางได้หลบหนีภัยสงครามมาตั้งถิ่นฐานในจังหวัดเชียงราย และเชียงใหม่ ชาวดาราอาง ถือเป็นกลุ่มตนที่มีความโดดเด่นด้านการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสดใส ทางทีมงานนำโดย ผศ. ดร.องอาจ อินทนิเวศ  จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายเป็นผู้ดำเนินการเก็บข้อมูล เพื่อเตรียมงาน เบียนนาเล่ เชียงราย ในวันที่ 9-10 มีนาคม 2567 

 

 

โดยได้รับความร่วมมือและความพร้อมเพียงจากตัวแทนพี่น้องเราตั้งใจอย่างเต็มที่และสวยงาม ขอขอบคุณผู้ประสานงานทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนงานนี้ให้เกิดความเป็นวัฒนธรรมที่สวยงามต่อไป

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES VIDEO

(มีคลิป) ผิดคาด! “อ.เฉลิมชัย” เจอศิลปินรุ่นใหม่ พ่นสีกำแพงทางออกวัด ‘ไม่ด่า แถมให้เงิน’

 

เมื่อวานนี้ (27 ต.ค. 66) แฟนเพจเฟซบุ๊ก ตามติดชีวิต อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้เผยแพร่เรื่องราวที่น่าประทับใจ ของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ที่ได้ออกมาชื่นชมกลุ่มคนรุ่นใหม่ศิลปิน Street Art หลังจากที่ได้แอบมาวาดภาพที่กำแพงทางออกที่จอดรถวัดร่องขุ่นในเวลากลางคืน

ซึ่งอาจารย์เฉลิมชัย ได้เล็งเห็นความสำคัญของผลงานศิลปะทุกแขนง จึงได้อัดคลิปวีดีโอเชิญชวนให้กลุ่มน้อง ๆ ศิลปิน Street Art มาวาดภาพที่กำแพงในเวลากลางวันได้เต็มที่ พร้อมกับมอบเงินสนับสนุนให้เป็นค่าอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ผลงานอีกจำนวน 10,000 บาท

และหลังจากนั้น ก็ได้มีการอัพเดตความคืบหน้าของผลงานศิลปะจากกลุ่มน้อง ๆ ศิลปิน Street Art เป็นระยะ โดยทั้งนี้ ยังมีผู้ใหญ่ใจดีอีกหลายท่าน ที่จะให้การสนับสนุนอาหารทุกมื้อกับกลุ่มศิลปินจนเสร็จงาน

เรื่องราวนี้ทำให้ชาวเชียงราย และประชาชนผู้ที่ชื่นชอบ  หลงใหลในงานศิลปะ ต่างก็รู้สึกประทับใจ และภูมิใจที่ศิลปินแห่งชาติชื่อดังในจังหวัดเชียงราย รวมไปถึงผู้ใหญ่ใจดีอีกหลายท่านให้การสนับสนุน และไม่ปิดกั้นความสามารถของเด็กรุ่นใหม่ ทำให้เด็ก ๆ และเยาวชนคนรุ่นใหม่สามารถคิด และแสดงออกถึงความสามารถได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเด็ก ๆ และเยาวชนเหล่านี้ก็จะจดจำและเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ และผู้ให้ที่ดีต่อไปในอนาคต


เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ตามติดชีวิต อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ / Dropfib

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE VIDEO

(มีคลิป) ฝึกซ้อมฟ้อนเมืองไหว้สาปูจาพญามังราย

 

วันที่ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 15.00 น. บุคลากรในสังกัดสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายร่วมใจกันฝึกซ้อมฟ้อนเมืองไหว้สาปูจาพญามังราย

 

     ในโอกาสนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายจิรัฏฐ์ ยุทธ์ธนประวิช นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ได้เป็นแกนนำและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับศิลปะการฟ้อนฯ ให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 

 

   ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว กำหนดจัดทุกวันพฤหัสบดี เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป เพื่อร่วมกิจกรรมของจังหวัดเชียงราย นำโดย แม่ครูบัวเรียว รัตนมณีภรณ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน-ช่างฟ้อน) พ.ศ.2559, เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย, สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดเชียงราย, หน่วยงาน องค์กร และประชาชนชาวเชียงราย “ฟ้อนไหว้สาพญามังราย” ในวันที่ 26 มกราคม 2567 ณ บริเวณพระราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช จังหวัดเชียงราย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE VIDEO

(มีคลิป) การแสดงชุดพิเศษ “ฟ้อนเจิงสาวไหม – ตบมะผาบ”

 
ฟ้อนเจิง ลายสาวไหม เชิง หรือ เจิง เป็นศิลปะลีลาท่าฟ้อนมือเปล่าของชายหนุ่มชาวล้านนา มีท่วงท่าหลากหลาย ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติรอบตัว เช่น ท่าเสือ เสือเล่นฮอก(กะรอก) เสือลากหาง ท่าช้าง ช้างงาบานเดินอาจหรือท่าทางในการทำงานประจำวัน เช่น สาวไหม ปั่นฝ้าย ผ่าฟืน ฯลฯ
 
 
นอกจากนี้ ยังมีแม่ท่า “ตบมะผาบ” (มะผาบ = ประทัด) ด้วยการใช้ฝ่ามือตบไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายผู้ฟ้อนให้เกิดเสียงดังคล้ายเสียงจุดประทัด ดูแล้วเกิดความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ
เพลงที่ใช้ประกอบในครั้งนี้ บรรเลงโดยปี่พาทย์พื้นเมือง ชื่อ เพลงมวย ต้นเพลงจะเนิบช้า ฟ้อนแม่ท่าสาวไหม แล้วเปลี่ยนเป็นจังหวะเร็ว ผู้ฟ้อนก็จะใช้แม่ท่าตบมะผาบ
 
.
ซึ่งชุดการแสดงนี้ได้รับเกียรติจาก พิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ฟ้อนเจิงสาวไหม โดย นิสิตระดับมหาบัณฑิต พัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เชียงราย (มจร.เชียงราย) ประกอบ “เพลงมวย” บรรเลงโดย วงปี่พาทย์พื้นเมืองเชียงราย วัดท่าไคร้ บ้านเมืองรวง ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ในงานถวายสลากภัต (ตานก๋วยสลาก) ในวันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม 2566 ณ วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย (ส่วนแยกบ้านน้ำลัด) มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
VIDEO WORLD PULSE

(มีคลิป) อิสราเอลถูกกลุ่มฮามาสบุกโจมตีชาวไทยถูกจับเป็นตัวประกัน

 

อิสราเอล ถูกกลุ่มฮามาส ที่เป็นกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์ที่เคร่งศาสนาอิสลามซึ่งปกครองฉนวนกาซา กลุ่มฮามาส ถล่มอิสราเอลในตอนใต้ และตอนกลาง การโจมตีเริ่มขึ้นในเช้ามืดวันเสาร์  7/10/2023 บุกผสมผสานหลายทิศทาง  พร้อมยิงจรวดจำนวนมากประมาณ 5,000 ลูกในวันที่ 7 ตุลาคม 2023

ล่าสุดสื่อ Jerusalem Post ของ “อิสราเอล รายงานว่า มีคนอิสราเอลถูกสังหารไปแล้วกว่า 600 บาดเจ็บกว่า 2,040 ถูกจรวดถล่มกว่า 5,000 ลูก และทหารและพลเรือนกว่า 100 ถูกจับเป็นตัวประกัน

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ระบุว่า ปาเลสไตน์ ในฉนวนกาซา มีผู้เสียชีวิต อย่างน้อย 232 คนในฉนวนกาซาและบาดเจ็บ 1,700 คนจากการโจมตีของอิสราเอลทูตอิสราเอล ประจำฝรั่งเศส เปิดเผยว่าอิสราเอลไม่ได้เตรียมการรับมือ และรวมไปถึงความล้มเหลวทางด้านข่าวกรอง

 

สื่ออิสราเอล ระบุว่า เตหะราน (อิหร่าน) เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของ กลุ่มฮามาสและญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน

ในจุดที่คาดว่าสูญเสียมากสุด งานปาร์ตี้กลางแจ้งเมือง คิบบุตซ์เรอิม ใกล้กับฉนวนกาซา  ผู้คนนับพันกำลังสนุก กลุ่มฮามาส ได้แทรกซึมเข้ามา โจมตีกลางงาน และยิงจรวด  พร้อมกับจับตัวประกัน

มีรายงานว่าตัวประกันถูกจับบ้างส่วน ถูกกักขังไว้ในบ้าน และสถานที่ต่างๆ ทางตอนใต้อิสราเอล  รวมถึงส่วนหนึ่งถูกจับเข้าไปในฉนวนกาซา ถูกควบคุมตัวไว้ห้องใต้ดินลับโดยกลุ่มฮามาส

ซึ่งตัวประกันประชาชนที่ถูกจับเป็น เด็ก คนแก่ สตรี และกำลังพลอิสราเอล ตัวประกันส่วนหนึ่งถูกปลดปล่อยโดยกองทัพอิสราเอล ในช่วงเย็นวันเสาร์ 

โดยอิสราเอลได้มีการเสริมทหาร 4 กองพันในตอนใต้และกลุ่มฮามาส ได้มีการแทรกซึมลึกเข้ามาถึง 25 กม. จากแนวกั้นฉนวนกาซา และคาดว่ากลุ่มฮามาสได้เตรียมการไว้สำหรับการต่อสู้ยืดเยื้อ ยาวนานที่จะเกิดขึ้น

กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ จากประเทศเลบานอน ยกย่องกลุ่มฮามาสสำหรับ “การปฏิบัติการที่กล้าหาญ” หลังจากกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ เปิดฉากการโจมตีทางอากาศ ทางทะเล และทางบกต่ออิสราเอลเมื่อวันเสาร์ 7/10/2023

อย่างไรก็ตาม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงแรงงาน  ห่วง 11 แรงงานถูกจับในอิสราเอล-ยังไม่มีประสานกลับ และยังไม่รู้ชะตากรรม เร่งหาแนวทางช่วยเหลือทางการทูต พร้อมประสานครอบครัวใกล้ชิด ซึ่งนายกรัฐมนตรีของไทย นายเศรษฐา ทวีสินได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่อง Airbus A340 และ C-130 อพยพคนไทยออกจาก อิสราเอลทันที ทาง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) รับทราบและพร้อมปฏิบัติการ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มนรัตน์ ก.บัวเกษร รายงาน นครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TOP STORIES VIDEO

(มีคลิป) รวบไตเติ้ล นักถ่ายใต้กระโปรง ทำมาแล้ว 7 ปี พบเหยื่อกว่า 430 ราย

 

“ไตเติ้ล แอบถ่ายใต้กระโปรง” ภัยสำหรับสาวชอบนุ่งกระโปรง แฝงตัวตามห้างสรรพสินค้า สะพานลอย ในพื้นที่กรุงเทพฯ คัดเหยื่อหญิงสาวหุ่นดีและนุ่งกระโปรง ก่อนเดินประกบแล้วแอบใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพใต้กระโปรง พร้อมใบหน้า ล่าสุดถูกชุด “สืบนครบาล” และ “PCT5” จับกุมตัวได้ในบ้านพักและขยายผลในโทรศัพท์ทำให้ชุดจับกุมถึงกับอึ้ง พบคลิปแอบถ่ายใต้กระโปรงพร้อมใบหน้าเหยื่อกว่า 430 ราย!!! ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวยอมจำนนต่อหลักฐานสารภาพกับ “ผู้การจ๋อ” ทำไปเพราะชอบความตื่นเต้น เมื่อทำสำเร็จรู้สึกได้ปลดปล่อย ยิ่งกว่าการมีเซ็กส์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งเร่งขยายผลกู้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์โดยเร็วที่สุด

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ปรีชากรณ์ เหมาอำพมาตร์ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ท.ปกป้อง ฟองเลา , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล และชุด PCT5 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว

นายทรรศน์ เสมอภาค หรือ ไตเติ้ล อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.902/2566 ลงวันที่ 15 ก.ย.2566

ในข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ โดยได้บันทึกภาพหรือเสียงการกระทำอนาจารนั้นไว้เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบสำหรับตนเองหรือผู้อื่นและกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการรังแก หรือข่มเหงผู้อื่น หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณสถาน”

ตรวจยึดของกลาง 2 รายการ
1.โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง (กู้ข้อมูลพบคลิปแอบถ่ายใต้กระโปรงกว่า 873 ภาพ ใบหน้าเหยื่อ 430 ราย)
2.คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง (พบข้อมูลการฝึกแอบถ่ายใต้กระโปรง-รอกู้ข้อมูล)

พฤติการณ์ กล่าวคือ “ไตเติ้ล นักแอบถ่ายใต้กระโปรง” ภัยเมืองกรุงของเหล่าเด็กสาว เมื่อได้เกิดกลุ่มลับที่พวกชายสายหื่นที่ชื่นชอบเสพสื่อลามกประเภทของการ “แอบถ่ายใต้กระโปรง“ แล้วนำคลิปมาแชร์มาเสพกันในกลุ่ม โดยแผนประทุษกรรมจะหาเหยื่อตามห้างดัง และสะพานลอย ในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ จากนั้นจะคัดเลือกเหยื่อที่เป็นเด็กหญิงที่ ”สวมกระโปรง” จากนั้นจะเดินสะกดรอยติดตามเยี่ยงคนโรคจิต จากนั้นเมื่อสบโอกาสก็จะใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปวีดิโอใต้กระโปรงเหยื่อ โดยเหยื่อเกือบทุกรายจะ ”ไม่รู้ตัว“ หรือบางรายรู้ตัว คนร้ายก็จะเดินหลบหนีไป ล่าสุดโคตรนักมุดรายนี้ได้ลงมือก่อเหตุในห้างดังย่านสามย่าน โดยก่อเหตุอย่างอุกอาจชนิดที่ไม่เกรงกลัวกล้องวงจรปิด เพราะมั่นใจว่าเหยื่อไม่รู้ตัว แต่แล้วได้มีพลเมืองดีแจ้งให้กับเหยื่อทราบว่าถูกแอบถ่าย จึงพากันเข้าแจ้งความดำเนินคดี ชุดสืบสวนของ สืบนครบาลตรวจสอบแผนประทุษกรรมพบพยานหลักฐานว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน ซึ่งต่อมาได้สืบทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายทรรศน์ฯ หรือ ไตเติ้ล อายุ 29 ปี ซึ่งได้ถูกออกหมายจับในเวลาต่อมา เรื่องนี้ถึงหู พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ให้ส่งชุดสืบสวนนครบาลมือดีสืบสวนติดตามจับกุมตัว ซึ่งต่อมาได้ติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ย่านงามวงศ์วาน เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 66 ซึ่งจากการขยายผลในบ้านพักดังกล่าวพบหลักฐาน โทรศัพท์ และ คอมพิวเตอร์ ของคนร้ายซึ่งมีคลิปที่แอบถ่ายใต้กระโปรงลักษณะนี้อีกกว่า 873 ภาพ!! พร้อมภาพใบหน้าเหยื่อกว่า 430 ราย ทำเอาทั้งชุดสืบสวนถึงกับอึ้ง ซึ่งเจ้าตัวยอมจำนนต่อหลักฐานและรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่อย่างหมดเปลือก
ในชั้นจับกุม นายทรรศน์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองเป็นคนที่มีฐานะทางครอบครัวดี จบชั้นปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านดินแดง โดยจบมาแล้วก็เริ่มก่อเหตุ โดยจุดเริ่มต้นเกิดจากที่ตนเองมีรสนิยมในการเสพหนังโป๊แนวพิสดาร เช่น แนวมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสูงวัย หรือแนวที่มีเพศสัมพันธ์พิเศษ และในช่วงที่ตนเองว่างงานรู้สึกเบื่อจึงอยากหาความท้าทาย จึงเริ่มเรียนรู้โดยศึกษาการแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาว หรือการแอบถ่ายหญิงสาวเข้าห้องน้ำจากทางอินเตอร์เน็ท จนเริ่มลงมือก่อเหตุจริง โดยตนเองทำมาต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 7 ปี โดยจะทำเป็นช่วงๆ พักเป็นช่วงๆ ทำมาเรื่อยๆเป็นร้อยๆราย โดยตนจะชอบหาเหยื่อในพื้นที่ห้างดังต่างๆ และตามสะพานลอยในเส้นทางที่ตนเองเดินทาง โดยจะคัดเหยื่อที่เป็นหญิงสาวที่สวมกระโปรงและหุ่นดี และการก่อเหตุจะดูสถานการแวดล้อมในจุดที่คนน้อยเช่น ร้านเครื่องเขียน ร้านค้าในห้าง และที่ถนัดที่สุดคือบริเวณบันไดเลื่อนจะสามารถก่อเหตุได้ง่ายที่สุด ซึ่งตนเองไม่กลัวกล้องวงจรปิด เพราะมั่นใจว่าฝีมือเก่งก่อเหตุได้แบบเหยื่อไม่รู้ตัวแน่นอน โดยเข้าใจว่าทำแค่ร้อยราย แต่พอมาดูผลงานจริงๆพบว่า 430 ราย ตกใจเหมือนกัน ขอโทษเหยื่อที่เคยก่อเหตุมา ต่อจากนี้จะให้เกียรติและเป็นลูกผู้ชายมากขึ้น” หลังจับกุมตัว ได้นำตัวพร้อมของกลางที่ตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. (ผู้การจ๋อ) กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะเราพบพยานหลักฐานที่ได้จากการกู้ข้อมูล พบคลิปการแอบถ่ายลักษณะนี้กว่า 873 คลิป ซึ่งปรากฏผู้เสียหายกว่า 430 ราย ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนกว่า 160 คน และเชื่อว่ายังมีอีกไม่น้อย ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กู้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์โดยเร็วที่สุด เพราะว่าหากภาพเหล่านี้หลุดออกไปจะทำลายชีวิตของหญิงสาวหลายร้อยชีวิตให้ตายทั้งเป็น จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงพ่อแม่ผู้ปกครองให้ระมัดระวังบุตรหลานของท่าน มิจฉาชีพเหล่านี้แฝงตัวตามห้างสรรพสินค้าและเลือกก่อเหตุในจุดที่ง่ายต่อการแอบถ่าย และผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ ให้แจ้งมาที่เฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเป็นคดีสร้างความเสียหายกับผู้หญิงเป็นอย่างมากตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สืบนครบาล

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News