Categories
HEALTH

เตือน บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายต่อสุขภาพ ไม่น้อยกว่าการสูบบุหรี่มวน

 

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน เรื่อง “บุหรี่ไฟฟ้า อันตรายพิษร้ายต่อสุขภาพ” ของกรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก ที่ออกคำเตือนบุหรี่ไฟฟ้านอกจากจะทำลายสุขภาพและเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคต่าง ๆ แล้ว ยังอันตรายไม่น้อยไปกว่าการสูบบุหรี่มวนทั่วไปอีกด้วย จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้สูบบุหรี่ ควร ลด ละ เลิกสูบบุหรี่ เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และห่างไกลจากโรคร้ายต่าง ๆ

นายอนุชาฯ กล่าวถึงข้อมูลจากกรมการแพทย์ ระบุว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นของใหม่ที่ผู้สูบหันมานิยมสูบมากขึ้น เพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ธรรมดา และเข้าใจว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะปลอดภัย อันตรายต่อสุขภาพน้อยกว่าการสูบบุหรี่แบบเดิม ๆ แต่ความจริงแล้วสารประกอบในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มีสารพิษที่อันตรายไม่ต่างกว่าบุหรี่มวนทั่วไป มีสารนิโคตินเหลวซึ่งมีความเข้มข้นมากกว่านิโคตินในบุหรี่มวนปกติ โดยในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีสารประกอบ ได้แก่ 

1) นิโคติน (Nicotine) ที่กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เพิ่มความดันโลหิต เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทําให้เกิดโรคมะเร็งปอดและโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ 

2) โพรไพลีนไกลคอล (Propylene glycol) เป็นสารสังเคราะห์ชนิดหนึ่งที่เมื่อสัมผัสหรือสูดดมเข้าไปอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ดวงตาและปอด โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง โรคหอบหืด และโรคถุงลมโป่งพอง 

3) สารแต่งกลิ่นและรส (Flavoring) และ 

4) กลีเซอรีน (Glycerin) โดยบุหรี่ไฟฟ้าก่อให้เกิดโทษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ได้แก่ หายใจไม่ออก ไอ จาม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ระคายเคืองตาและผิวหนัง ระคายเคืองในช่องปากและคอ เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ หากได้รับไปนาน ๆ จนเกิดการสะสมจะทำให้เกิดอาการ เยื่อหุ้มฟันอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ ต้อกระจก ซีด นอนไม่หลับ เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ชัก วิตกกังวล ซึมเศร้า ปวดบวม จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดหัวใจตามมา 

นอกจากนี้ กรมการแพทย์ยังระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับการสูบบุหรี่ สร้างความร้อนและไอน้ำด้วยแบตเตอรี่จึงไม่มีควันจากกระบวนการเผาไหม้ ส่วนประกอบสำคัญคือ “น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า” ที่มีส่วนผสมหลัก คือนิโคตินที่เป็นพิษร้ายต่อร่างกาย ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหดตัว เหนื่อยง่าย ระดับน้ำตาลเพิ่มขึ้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ยังสามารถทำให้เกิดมะเร็งปอดรวมไปถึงโรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้ยังมีสารโพรไพลีนไกลคอล และสาร Glycerol/Glycerin และสารประกอบอีกมากมายในไอของบุหรี่ไฟฟ้า เช่น โลหะหนัก สารหนู สารกลุ่ม Formaldehyde และกลุ่ม Benzene เป็นต้น จึงกล่าวได้ว่าการสูบบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้าล้วนมีสารพิษที่ให้โทษต่อร่างกาย 

ขณะที่ข้อมูลกรมอนามัย เผยว่า การสูบบุหรี่ 20 มวนต่อวัน เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งช่องปากได้มากถึง 10 เท่า หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำร่วมด้วย จะเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งช่องปากมากถึง 15 เท่า โดยความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนบุหรี่ที่สูบต่อวันและจำนวนปีที่สูบ นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบอื่น ๆ จากการสูบบุหรี่ คือ คราบสีดำหรือน้ำตาลติดแน่นบนผิวฟัน วัสดุอุดฟันเปลี่ยนสี มีกลิ่นปาก ความสามารถในการรับรสลดลง เพิ่มความเสี่ยงการเกิดฟันผุ และการสูบบุหรี่ยังเป็นอุปสรรคต่อการรักษาทางทันตกรรม จากการมีคราบเหนียวของน้ำมันดินในบุหรี่ติดแน่นบนตัวฟัน ทำให้ต้องใช้เวลาในการขัดออกนาน ผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคปริทันต์ขั้นรุนแรง รักษาไม่หายขาด

“สำหรับแนวทางการลด ละ เลิก ตามคำแนะนำของกรมการแพทย์ สิ่งที่สําคัญที่สุดในการเลิกบุหรี่ คือตัวผู้สูบเอง ด้วยการตั้งเป้าหมาย เช่น การลดปริมาณการสูบบุหรี่ให้น้อยลง ปฏิเสธเมื่อถูกชวน หากมีอาการอยากสูบสิ่งที่ต้องทำคือเบี่ยงเบนความสนใจ เพื่อไม่ให้มีการหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ เช่น การหักดิบ ออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรือหากิจกรรมอื่น ๆ ทำ นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมก็มีส่วนต่อการช่วยให้เลิกสูบบุหรี่ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงกำลังใจจากคนในครอบครัวและคนรอบข้าง โดยการเลิกบุหรี่ให้หายขาดไม่ใช่เรื่องยาก เพียงทำตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถทำให้ไม่กลับไปสูบบุหรี่ได้ รวมทั้งยังส่งผลให้ผิวพรรณสดใส สุขภาพร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากโรคร้ายอีกด้วย” นายอนุชาฯ กล่าว  

ทั้งนี้ สถาบันโรคทรวงอก เปิดให้บริการคลินิกอดบุหรี่ ในทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 – 16.30 น. หยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยมีการให้คำปรึกษาการเลิกบุหรี่ โดยบุคลากรทางการแพทย์ เฉพาะทาง และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเปิดบริการ อดบุหรี่ด้วยยา ทุกวันพุธ เวลา 08.00 น.– 12.00 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 02-5470999 ต่อ 30927 รวมทั้ง กรมอนามัยเชิญชวนประชาชนเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคก่อนมะเร็งช่องปากได้ที่คลินิกทันตกรรมของรัฐทุกแห่ง เพื่อสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่าง ๆ นอกจากนี้ ประชาชนสามารถตรวจรอยโรคในช่องปากได้ด้วยตนเอง หากมีรอยโรคแดง ขาว แผลหรือก้อนที่ไม่หายใน 3 สัปดาห์ก็ควรมาพบทันตแพทย์หรือแพทย์เพื่อการตรวจรักษาต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมการแพทย์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
WORLD PULSE

เพิ่มตัวเลขการส่งออก ลดอุปสรรค การค้าของสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน

 

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการทำงานเพื่ออำนวยความสะดวก ลดอุปสรรคทางการค้าของสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน เชื่อมั่นความร่วมมือกันจะทำให้ส่งออกสินค้าเกษตรได้มากขึ้น เพิ่มตัวเลขการส่งออก สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจไทย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์หารือกับ สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน GACC (General Administration of the People’s Republic of China) ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ผลักดันความร่วมมือด้านการตรวจสอบ กักกันสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน ตามผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคด้านสุขอนามัยพืชไทย-จีน (JTC-SPS : Joint Technical Committee meeting on the Implementation of Memorandum of Understanding on Cooperation in Sanitary and Phytosanitary) ครั้งที่ 7 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ประกอบด้วย
1. การเปิดตลาดสินค้าเกษตรและอาหาร ได้แก่ เนื้อจระเข้ กุ้งก้ามกรามมีชีวิตเพื่อบริโภค อินทผลัม สละ และเสาวรส ซึ่งสินค้าเกษตรทั้ง 5 ชนิดอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาในการนำเข้าจากจีน
2. มาตรการยกเลิกการระงับการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกและชิ้นส่วนสัตว์ปีกแช่แข็งไปจีน
3. การขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมของโรงงานเพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์รังนกจากไทยไปยังจีน ผ่านระบบ CIFER (China Import Food Enterprises Registration)
4. การเชื่อมโยงระบบใบรับรองสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Phyto (Electronic Phytosanitary Certificate) 5. การประชุม JTC-SPS ครั้งที่ 8 โดย GACC จะเป็นเจ้าภาพ ในช่วงปี 2567

โดยทั้ง 5 ประเด็น มีความคืบหน้าในการดำเนินการเป็นอย่างมาก ฝ่ายจีนยินดีให้การสนับสนุนการจัดอบรมและให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วยิ่งขึ้น และทั้ง 2 ฝ่ายได้เริ่มหารือและแลกเปลี่ยนการดำเนินการเพื่อเชื่อมโยงระบบ e-Phyto ระหว่างกัน เพื่อเปิดตลาดสินค้าเกษตรใหม่ เพิ่มเติมขยายตลาดเดิม ลดอุปสรรคการค้า และเชื่อมโยงเครือข่ายการค้า อำนวยความสะดวกการค้าของทั้งสองฝ่าย ทำให้มีโรงงานไทยที่สามารถส่งออกสัตว์ปีกแช่แข็งไปยังจีนได้เพิ่มขึ้น 

“นายกรัฐมนตรีติดตามการทำงานของทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องเกษตรกร รวมทั้ง สนับสนุนให้หารือเพิ่มความร่วมมือในส่วนของมาตรฐานการค้าของสินค้าเกษตรระหว่างไทย – จีน โดยรัฐบาลพร้อมส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตร อำนวยความสะดวก ลดอุปสรรคทางการค้า เพิ่มโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทย ให้สามารถส่งออกสินค้าเกษตรได้มากขึ้น” นายอนุชาฯ กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

ร่วมส่งกำลังใจส่งไทยเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 ที่ภูเก็ต ครั้งสุดท้าย 21 มิ.ย. นี้

 

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566  นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด ถึงความพร้อมของทีมไทยแลนด์ ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ที่จังหวัดภูเก็ต ในชื่องาน “Expo 2028 Phuket Thailand ชีวิตแห่งอนาคต: แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว (Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity)” ซึ่งจะมีการนำเสนอในขั้นตอนสุดท้ายในวันพุธที่ 21 มิถุนายน นี้ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในขณะนี้ประเทศไทย เป็นหนึ่งในประเทศผู้ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมเสนอชื่อในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 จากผู้เข้าร่วมการเสนอเป็นเจ้าภาพทั้งหมด 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เซอร์เบียร์ สเปน อาร์เจนตินา และไทย ซึ่งจะมีการคัดเลือกโดยประเทศสมาชิกองค์การนิทรรศการนานาชาติ (Bureau International des Expositions: BIE) 171 ประเทศ และจะมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 มิถุนายน 2566 นี้ โดยประเทศไทยได้มีการเตรียมความพร้อมในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากไทยได้รับเลือกจะมีกำหนดการจัดงานในวันที่ 20 มีนาคม – 17 มิถุนายน พ.ศ. 2571 อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดของประเทศไทยที่มีศักยภาพด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญ พร้อมทั้งยังมีความเป็นเอกลักษณ์ โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย มีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ รวมถึงการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ มีศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับนานาชาติ ระบบนิเวศสวนสาธารณะที่ยั่งยืน และมีสถานที่อำนวยความสะดวกในการจัดงานต่างๆ โดยสิ่งเหล่านี้คือจุดแข็งของจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทยในการแข่งขันครั้งนี้

โดยการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้คาดว่า
1. จะมีผู้เข้าร่วมงาน 4.9 ล้านคนตลอด 3 เดือนของการจัดงาน เงินสะพัดกว่า 49,000 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานเพิ่มกว่า 1.1 แสนตำแหน่ง
2. เกิดการพัฒนาเมืองของจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดในกลุ่มอันดามันคลัสเตอร์ ได้แก่ กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสุราษฎร์ธานี
3. ยกระดับสู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ของภูมิภาคอาเซียน และก้าวสู่การเป็นศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
4. หลังจากการจัดงานจะสามารถพัฒนาเป็นศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับนานาชาติครบวงจร รวมถึงการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์ประชุมนานาชาติ และ Ecological Park 

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญติดตามความพร้อม สั่งการ และสนับสนุนการประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ตให้ได้เป็นเจ้าภาพการจัดงานในครั้งนี้ โดยรัฐบาลสนับสนุนการเตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระยะแรกในปี 2564 และในช่วงนี้ถือเป็นช่วงสุดท้ายก่อนการประกาศผลอย่างเป็นทางการ โดยนายกรัฐมนตรีขอส่งกำลังใจให้ทีมไทยแลนด์ นำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ในการนำเสนอประเทศไทยในเวทีการประชุมสมัชชาใหญ่ BIE ณ กรุงปารีส วันที่ 21 มิถุนายนนี้ และขอให้ความตั้งใจอันดี และความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ที่ได้ทำงานอย่างหนักร่วมกันมากว่า 3 ปี ส่งผลให้ประเทศของเราประสบความสำเร็จในการชิงชัยครั้งนี้ และขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกคน ร่วมส่งกำลังใจ แสดงความพร้อมในการสนับสนุนให้ประเทศไทยได้รับเลือกในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานครั้งนี้ด้วยกัน” นายอนุชาฯ กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
ECONOMY

ยกระดับมาตรฐานจัดการสิ่งปฏิกูลและกากอุตสาหกรรม

 

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่งเสริมการดำเนินงานเพื่อปรับปรุง “ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566” มีผลบังคับใช้ 1 พฤศจิกายน 2566 มุ่งยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการสิ่งปฏิกูล ที่เกิดจากการประกอบกิจกรรมของโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งสำหรับผู้ก่อกำเนิดของเสีย และ ผู้รับบำบัดกำจัดของเสียให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และปราบปรามการทิ้งกากอุตสาหกรรมอย่างผิดกฎหมาย สร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566” ฉบับปรับปรุงล่าสุด ได้อ้างอิงตามหลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่ายหรือเป็นผู้รับผิดชอบ (Polluter Pays Principle: PPP) โดยติดตามความรับผิดชอบของโรงงานอุตสาหกรรมผู้ผลิตของเสีย ไปจนกว่าของเสียหรือสิ่งปฏิกูลจะถูกกำจัดอย่างถูกต้องจนเสร็จสิ้นกระบวนการ 

นอกจากนี้ ต้องส่งรายงานประจำปีเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว และรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับการจัดการวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ ผ่านระบบการรายงานข้อมูลกลางของกระทรวงอุตสาหกรรม iSingle Form (https://isingleform.go.th/home) ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 และจะมีผลนับถัดจากวันที่ประกาศ 

โดยผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator: WG) 60,638 โรงงานทั่วประเทศ ต้องส่งรายงานประจำปี (สก.3) ภายในวันที่ 1เมษายน ของปีถัดไป ในส่วนของผู้รับบำบัดกำจัดของเสีย (Waste Processor: WP) คือโรงงานลำดับประเภท 101, 105 และ 106 จำนวน 2,500 โรงงานทั่วประเทศ ต้องส่งรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับการจัดการวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ซึ่งตามประกาศฉบับนี้ จะต้องมีการรายงานข้อมูลครั้งแรกภายใน 15 กรกฎาคม 2566 

ผู้ฝ่าฝืนไม่ส่งรายงาน หรือส่งล่าช้าจะมีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่ได้ขออนุญาตการจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างถูกต้อง กระทรวงอุตสาหกรรมสามารถเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานได้ 

“นายกรัฐมนตรี เดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เชื่อว่าการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการสิ่งปฏิกูล ที่เกิดจากการประกอบกิจกรรมของโรงงานอุตสาหกรรมจะมีส่วนสำคัญช่วยให้กำจัดของเสียให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และปราบปรามการทิ้งกากอุตสาหกรรมอย่างผิดกฎหมาย ทั้งนี้ การควบคุมมลพิษเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของโมเดลเศรษฐกิจบีซีจี (BCG model) เพื่อสร้างสรรค์เศรษฐกิจไทย ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” นายอนุชาฯกล่าว

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงอุตสาหกรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย ส่งมหกรรมเรียนรู้ ละอ่อนโซน 2 สหวิทยาเวียงกาหลงสร้างสรรค์”

 

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566 เวลา 14.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เยี่ยมชมการจัดโครงการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย กิจกรรมที่ 1 มหกรรมส่งเสริมการเรียนรู้และทักษะชีวิตของเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 1 “ละอ่อนโซน 2 สหวิทยาเวียงกาหลงสร้างสรรค์” การแข่งขัน “สุดยอดวงดนตรีสตริง เวียงกาหลง 2023” ณ หอประชุมโรงเรียนพานพิทยาคม

โดยมีนางภาวิณี สุขสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพานพิทยาคม และนายไกร ธรรมากาศ ผู้อำนวยการโรงเรียนเวียงป่าเป้าวิทยาคม ร่วมให้กำลังใจนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมฯ ในครั้งนี้ด้วย
.
โครงการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย กิจกรรมที่ 1 มหกรรมส่งเสริมการเรียนรู้และทักษะชีวิตของเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 1 “ละอ่อนโซน 2สหวิทยาเวียงกาหลงสร้างสรรค์” อบจ.เชียงราย ได้กำหนดนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชน ซึ่งมีวัตถุประสงค์ คือ การเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้มีเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาจังหวัดเชียงราย สนับสนุนให้เยาวชนมีความรู้และเข้าใจในหลักการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นในระบอบประชาธิปไตย การส่งเสริมพัฒนาเด็กและเยาวชนในทุกระดับ ให้มีทักษะที่หลากหลายรอบด้าน รู้เท่าทันสถานการณ์ การบูรณาการ ผสมผสานกับวิถีชีวิตของเด็กและเยาวชนให้ได้รับความรู้ต่างๆ ทั้งส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้ เป็นแกนนำเด็กและเยาวชนในการขับเคลื่อนการทำงานด้านเด็กและเยาวชน ของอบจ.เชียงราย ร่วมกันสร้างเครือข่ายในการทำงาน ร่วมกันสร้างพื้นที่ในการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ในรูปแบบต่างๆ ตามความต้องการ ความถนัด และตามความสนใจให้เชื่อมโยงครอบคลุม และทั่วถึงทั้ง 18 อำเภอ อย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย และประเทศชาติต่อไป
 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย ปลุกพลังเยาวชน “กลุ่มต้นกล้าความดี” ยุวชนเวียงเชียงรุ้ง

 

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 นางอทิตาธร วันไชยธนวงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายปภาน นัยติ๊บ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอเวียงเชียงรุ้ง พบปะเยาวชน “กลุ่มต้นกล้าความดี” โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย ณ หอประชุมโรงเรียนเวียงเชียงรุ้งวิทยาคม อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย โดย มีนางยุพิน วงศ์ชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนเวียงเชียงรุ้งวิทยาคม ให้การต้อนรับ

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา นางอทิตาธร วันไชยธนวงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นายปภาน นัยติ๊บ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และนายเกียรติคุณ จันแก่น ผู้อำนวยการสำนักศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดโครงการ ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย “กลุ่มต้นกล้าความดี” ครั้งที่ 8 โดยมีนางสาวสุทธิดา ชาวลี้แสน กลุ่มเครือข่ายต้นกล้าความดี ศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการดังกล่าว

สำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้ เยาวชนเป็นพลังที่สำคัญในการพัฒนาสังคม การพัฒนาเพิ่มทักษะให้เยาวชนเหล่านี้เป็นผู้กล้าที่จะสร้างสรรค์แสดงออกถึงความสามารถ โดยยึดหลักคุณธรรม จริยธรรมในการดำเนินชีวิต คิดดี ทำดี เอาความรู้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการที่จะให้เยาวชนเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตและแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนอื่น ๆ นั้น เยาวชนเหล่านี้ต้องมีความเป็นผู้นำในด้านนั้น ๆ ก่อน การส่งเสริมการมีส่วนร่วม อนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน และสืบสานวัฒนธรรมโปงลางในท้องที่ของตน ภายใต้ความร่วมมือจากปราชญ์ชาวบ้าน ผู้รู้ในชุมชน ดังนั้นสภาเด็กและเยาวชนอำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย จึงได้จัดโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย “กลุ่มต้นกล้าความดี” ยุวชนเวียงเชียงรุ้งร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้านอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะและศักยภาพของเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย ที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

เชียงราย เตรียมพื้นที่จัดกิจกรรม ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ

 

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 นายกัมปนาทจักรวาล วิเวศ ศรีพุทธา หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ลงพื้นที่วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย และพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ระดับตำบล (CLM ดอยอินทรีย์) โดยมีพระอาจารย์​วิบูลย์​ ธัมมเตโช​ ที่ปรึกษา​เจ้าอาวาส​วัด​พุทธ​อุทยาน​ดอย​อินทรีย์​ นายวราดิศร​ อ่อนนุช​ รองผู้ว่าราชการจังหวัด​เชียงราย​ พร้อมด้วย​ นายวิทยา ชุมภูคำ พัฒนาการจังหวัดเชียงราย นางอำไพ บัวระดก ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน นายปรีชา ปวงคำ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน นางสาวประภาพรรณ วุ่นสุข ผู้อำนวยการกลุ่มงานพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศการพัฒนาชุมชน ทีมงาน Change for Good กระทรวงมหาดไทย และทีมงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย ร่วมลงพื้นที่ในการเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และการมอบนโยบายและตรวจเยี่ยมการขับเคลื่อนโครงการตามนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2566

โดยในช่วงบ่าย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน และคณะ ได้เดินทางไปยังวัดหัวฝาย ตำบลสันกลาง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจเยี่ยมการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย ตามแนวทางบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบทบาทเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดำเนินงานโครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข อำเภอพาน โดยมีพระครูปิยวรรณพิพัฒน์ เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย ตำบลสันกลาง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย​ และประธานเครือข่ายโรงเรียนผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย นายวุฒิกร​ คำมา​ นายอำเภอ​พาน​ และ​นางสิริกัลยพัชร์​ จอมสว่าง​ พัฒนา​การ​อำเภอ​พาน ให้การต้อนรับ
 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Cddchiangrai

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

รอง เลขาธิการ กพฐ. ช่วยเหลือโรงเรียน สอนทางไกลผ่านดาวเทียม

 

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV ของโรงเรียนบ้านสันกลาง ต.ป่าอ้อดอนชัย เปิดสอนตั้งแต่ระดับ อนุบาล 1 จนถึง ระดับ ชั้น ป.6 มีจำนวนนักเรียน ทั้งหมด 62 คน จำนวนครูและบุคลากรรวม 10 คน บริหารงานโดย นายชัยวัฒน์ สกุลวิไล ผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ พาร์ทเนอร์ชิพ กับ สมาคมผู้ปกครอง amec และในเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา สมาคมผู้ปกครองได้แยกไปจัดตั้งโรงเรียนใหม่ โรงเรียนจึงได้ปรับขนาดจากโรงเรียนขนาดกลางเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก และยังคงให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนการสอน Dltv เพื่อให้บริหารจัดการชั้นเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ที่ดีขึ้น


หลังจากนั้น ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รอง เลขาธิการ กพฐ. ได้ไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านป่าอ้อดอนชัยเป็นสถานศึกษาขนาดเล็ก จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้น อ.2 ถึงชั้น ป.6 มีนักเรียน 51 คน ครูและบุคลากรจำนวน 8 คน มี นางสาวศิริลักษณ์ ธรรมพิทักษ์ เป็นผู้บริหารสถานศึกษา ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาการจัดการศึกษาอย่างเต็มกำลังความสามารถ แต่โรงเรียนมีครูไม่ครบชั้น และไม่ตรงตามวิชาเอก จึงได้รับการสนับสนุนจาก สพฐ. ในด้านครุภัณฑ์สำหรับการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการเรียนรู้ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งมีผลการประเมิน RT และ NT เพิ่มสูงขึ้นกว่าระดับประเทศ


ภายหลังจากที่ได้ตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านรวมมิตร ต.แม่ยาว มีนักเรียนทั้งหมดจำนวน 357 คนส่วนใหญ่เป็นชนชาติพันธ์ุที่หลากหลาย มีนายมานิตย์ ถูนาแก้ว ผู้อำนวยการสถานศึกษา มีครูและบุคลากรรวม 24 คน ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รอง เลขาธิการ กพฐ. ได้กล่าวชื่นชมทั้ง 3 โรงเรียนในสังกัด สพป.เชียงราย เขต 1 ว่ามีความตั้งใจในการพัฒนาการเรียนการสอน DLTV และการจัดการศึกษาโดยรวม


นายจรัญ แจ้งมณี ผอ.สพป.เชียงราย เขต 1 กล่าวเพิ่มเติมว่า “สถานีวิทยุโทรทัศน์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (Distance Learning Television : DLTV) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2538 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี บริหารงานโดย มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นการจัดการศึกษา ตาม หลักสูตรการศึกษาในระบบโรงเรียน (Formal Education) ระดับอนุบาล, และ เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนต่างๆ ในรายวิชาที่ขาดแคลนครูผู้สอน หรือเป็นรายวิชาที่มีเนื้อหาค่อนข้างยาก”
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

สีสันแห่งความแตกต่างอย่างงดงามของ ขบวน CHIANGRAI Pride Parade 2023

 

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ณ ลานกาสะลอง 1 หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย คุณรัตนาจงสุทธนามณี นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย เปิดงาน Chiang Rai Pride Month 2023 กิจกรรมฉลองเทศกาลไพรด์ เทศกาลแห่งความเท่าเทียมของกลุ่ม LGBTQIAN ตอกย้ำบทบาทองค์กรแห่งความหลากหลาย และเป็นพื้นที่สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพื่อทุกคนในสังคม ภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining Better Futures For All มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งที่ดี เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน โดยมีคุณวิศิษฏ์ อริยะ ผู้จัดการทั่วไป. ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย กล่าวต้อนรับ คุณกฤชกร สิงห์สกุล ผู้จัดการมูลนิธิเอ็มพลัสเชียงราย นายแพทย์ คงศักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย คุณโชติศิริ ดารายน นายกสมาคมสื่อมวลชนและนัก ประชาสัมพันธ์เชียงราย และกลุ่มรุ่งสร้างสรรค์เชียงราย ร่วมงาน #PrideForAll

 
ชมบรรยากาศสีสันแห่งความแตกต่างอย่างงดงามของ ขบวน CHIANGRAI Pride Parade 2023 #เซ็นทรัลเชียงราย ต้อนรับขบวน CHIANGRAI Pride Parade 2023 ด้วยความยิ่งใหญ่อลังการ โดยมูลนิธิเอ็มพลัส เชียงราย (MPlus) Mplus ChiangRai Mplus ChiangRai ,กลุ่มรุ้งสร้างสรรค์ จังหวัดเชียงราย รุ้งสร้างสรรค์จังหวัดเชียงราย , เทศบาลนครเชียงราย ,กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา,ทิพยประกันภัย ,Jai Jai Studio JaiJai.Studio ,ฟ้อนเชียงราย ฟ้อนเชียงราย ,Madeaw,TDC Dance Studio,มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย,มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเชียงราย,กลุ่ม ฅ.ฅน เพื่อการเปลี่ยนแปลง กลุ่ม ฅ ฅน เพื่อการเปลี่ยนแปลง ,SiriTonPosh ,โรงเรียนแม่จันวิทยาคม และอื่นๆ
 

ร่วมจัดกิจกรรมฉลองเทศกาลไพรด์ เทศกาลแห่งความเท่าเทียมของกลุ่ม LGBTQIAN ตอกย้ำบทบาทองค์กรแห่งความหลากหลาย และเป็นพื้นที่สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพื่อทุกคนในสังคม ภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining Better Futures For All มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งที่ดี เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

ทลายเครือข่ายยาลดน้ำหนัก ข้ามชาติ มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท

 
ตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับ อย., สบส., ป.ป.ส., ตํารวจสากล (INTERPOL), สํานักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา (HSI), หน่วยงานสืบสวนอาชญากรรมข้ามชาติ(TCIU) และสํานักงานกลางแห่งชาติตํารวจสากลกรุงเทพ(Interpol NCB Bangkok) ทลายเครือข่ายจําหน่ายยาลดนํ้าหนัก ผสมไซบูทรามีนข้ามชาติ
 
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. ได้รับการประสานว่า ผู้ต้องหาซึ่งมีสัญชาติคาซัคสถาน ได้จำหน่ายยาลดน้ำหนักผสมวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาทผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีการโพสต์จำหน่ายยากลุ่มลดน้ำหนักเป็นจำนวนมาก และมีการรีวิวสรรพคุณเกินจริง นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบอีกว่า มีการส่งยาลดน้ำหนักไปขายต่างประเทศ รวมกว่า 34 ประเทศ มากกว่า 600 ครั้ง ยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 3 ล้านบาท
 
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวน กระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้ และเข้าตรวจค้นทั้งหมด 6 จุด พร้อมทั้งตรวจยึดของกลาง รวม 272 รายการ มูลค่ากว่า 6,000,000 บาท
 
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงขอเตือนภัยประชาชน การซื้อผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนักผ่านช่องทางออนไลน์ ควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อ หรือเลือกซื้อจากสถานบริการที่ได้รับอนุญาต หรือสั่งยาผ่านโดยแพทย์เท่านั้น และขอเตือนผู้ที่ลักลอบจาหน่ายผลิตภัณฑ์ยา แผนปัจจุบันและวัตถุออกฤทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. โดยเฉพาะการลักลอบจาหน่ายยาลดความอ้วนทางสื่อออนไลน์ ให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุด
 
หากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค
 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ตำรวจสอบสวนกลาง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News