Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย หนุนใช้ Line OA เชื่อม อสม. ให้เข้าถึงบริการด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน

 

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางทรงศรี คมขำ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และหัวหน้าสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ประจำเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 ณ ห้องประชุมธรรมปัญญา ชั้น 2 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

โดยมีระเบียบวาระการประชุมดังนี้
(ฝ่ายส่งเสริมสุขภาพ)
– ความก้าวหน้าการทำบัตรเจ้าพนักงานสาธารณสุข ตาม พรบ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535
– Chiang Rai Wellness City เชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ
– กิจกรรมอบรม “สร้างเครือข่ายปกป้องคนเชียงรายจากฝุ่น PM 2.5
– โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตาฐานประเทศไทย T-VER
– การลดการดูดซับและการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกจากภาคป่าไม้และภาคเกษตร
– แอปพลิเคชัน Line OA เพื่อสร้างเสริมสุขภาพ
(ฝ่ายบริการสาธารณสุข)
– 10 อันดับโรคติดต่อในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงราย
– การส่งรายงาน 506
– แผนการออกตรวจการประเมินมาตรฐานโรงพยาบาลส่งเสริมและสนับสนุน
การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน (รพ.สส.พท.) สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ปีงบประมาณ 2567
– มาตรการป้องกัน ควบคุม โรคติดต่อนำโดยยุงลาย
(ฝ่ายบริหารงานสาธารณสุข)
– คำสั่ง ที่ 311/2567 จัดตั้งศูนย์ประสานงานและผู้ประสานงานระดับอำเภอ ของสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
– การบันทึกข้อมูลที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก สปสช. ลงในแผนเงินบำรุง
– การรายงานการสอบหาข้อเท็จจริงกรณีพัสดุชำรุด เสื่อมสภาพหรือสูญไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI WORLD PULSE

เชียงรายพร้อมต้อนรับผู้สำเร็จราชการ แห่งเครือรัฐออสเตรเลีย 16 – 17 ก.พ.

 

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 67 ที่ห้องประชุมธรรมลังกา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมเตรียมการต้อนรับ พลเอก เดวิด จอร์น เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย และภริยา ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ณ จังหวัดเชียงราย โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

 

ด้วยจังหวัดเชียงรายได้รับแจ้งจากกระทรวงต่างประเทศว่า พลเอกเดวิด จอห์น เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย และภริยา มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลระหว่างวันที่ 13 – 17 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งการเยือนประเทศไทยครั้งนี้เป็นการเยือนของผู้นำระดับสูงของออสเตรเลียในรอบ 7 ปี และเป็นครั้งแรกของพลเอกเดวิดฯ ในฐานะผู้สำเร็จราชการ กระชับความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีและต่อยอด ความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ของทั้งสองประเทศ โดยมีกำหนดเดินทางมาเยือนยังจังหวัดเชียงรายวันที่ 16 – 17 กุมภาพันธ์ 2567 
 
 
เพื่อเยี่ยมชมโครงการ การเสริมสร้างความสามารถในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศกรณีศึกษา พื้นที่ลุ่มน้ำอิง ที่ประเทศออสเตรเลียให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการฯ โดยมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมกับชุมชนในพื้นที่บ้านป่าข่า ตำบลป่าตาล อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย รวมถึงเยี่ยมชมโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งการเดินทางมาเยือนของผู้สำเร็จราชการแห่งเครือออสเตรเลียดังกล่าว จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการกระชับ และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับออสเตรเลียให้ใกล้ชิดมากขึ้น 
 
 
โดยเฉพาะในวาระครบรอบ 72 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับออสเตรเลียในปี 2567 และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบฯ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษาที่ราชวิทยาลัยนายร้อยทหารบกดันทรูน ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งพลเอก เดวิดฯ ยังเป็นพระสหายที่สำคัญ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเชิงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับออสเตรเลียให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
 
 
ทั้งนี้จังหวัดเชียงรายโดยนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงราย เตรียมความพร้อม รวมถึงซักซ้อมก่อนพลเอก เดวิดฯ และภริยา จะมาเยือนยังจังหวัดเชียงราย ทั้งด้านการอำนวยความสะดวกให้แก่คณะฯ ในการสนับสนุนการประสานงานร่วมกับกรมพิธีการทูต และจังหวัดเชียงราย ความปลอดภัยทางท้องถนน สถานที่ พร้อมทั้งจัดเตรียมรถไฟฟ้าสำรอง สำหรับพื้นที่ทุกจุดหมายตามเส้นทางให้เพียงพอ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความสะอาดเรียบร้อยในพื้นที่จุดหมาย รวมถึงจัดเตรียมรถพยาบาล พร้อมแพทย์และพยาบาล อุปกรณ์ทางการแพทย์ ติดตามขบวน จัดเตรียมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองเชื้อโรคสำหรับแจกจ่ายเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ตลอดจนประสานสื่อมวลชนทุกแขนงในการจัดทำข่าวให้เป็นไปด้วยความเหมาะสมเรียบร้อย
 
 
การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ของผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และมิตรภาพระหว่างราชอาณาจักรไทยและเครือรัฐออสเตรเลีย ตั้งแต่ระดับราชวงศ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด จนมาถึงรัฐบาล และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยการเยือนครั้งนี้ยังเป็นโอกาสให้ ไทยและออสเตรเลีย กระชับความร่วมมือในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม
 
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

อนุรักษ์ วัฒนธรรมสร้างบ้านแปงเวียง พญามังรายหลวง 762 ปี เมืองเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 67 นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเปิดงานวัฒนธรรมสร้างบ้านแปงเวียงพญามังรายหลวง 762 ปี เมืองเชียงราย ที่บริเวณลานวัดฝั่งหมิ่น ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมกับชุมชนวัดฝั่งหมิ่น และเครือข่ายภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เพื่อเป็นการอนุรักษ์ สืบสาน สืบทอด เผยแพร่องค์ความรู้ภูมิปัญญาศิลปวัฒนธรรมท้องของท้องถิ่นให้ยั่งยืน ที่ได้มีการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และสร้างกิจกรรมเทศกาลด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย 

 

น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติพญามังรายหลวง ปฐมกษัตริย์แห่งล้านนา ผู้สถาปนาเมืองเชียงราย และสร้างความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ รักและหวงแหนแผ่นดินเกิด และสร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้จากมรดกภูมิปัญญาศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น ต่อไป โดยมี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน เครือข่ายสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ประชาชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีเปิดจำนวนมาก

 

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ทุกวันที่ 26 มกราคมของทุกปี จังหวัดเชียงราย กำหนดให้เป็นวันคล้ายวันสถาปนาเมืองเชียงราย ซึ่งในปี 2567 จังหวัดเชียงรายมีอายุครบ 762 ปี จังหวัดเชียงราย โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย จึงได้ร่วมกับเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรม สืบชะตา และวันสถาปนาเมืองเชียงราย ภายใต้โครงการพัฒนากิจกรรมและการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ขึ้น 
 
 
โดยได้แบ่งออกเป็น 2 กิจกรรมย่อย คือ 1 กิจกรรมพิธีทำบุญสืบชะตาเมืองเชียงราย ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่สาย อำเภอแม่สรวย อำเภอเชียงของ อำเภอพาน อำเภอเทิง และอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย กิจกรรมที่ 2 การจัดงานวัฒนธรรมสร้างบ้านแปงเวียงพญามังรายหลวง 762 ปีเมืองเชียงราย ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 กุมภาพันธ์ 2567 ณ บริเวณวัดวังหมิ่น ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงรายแห่งนี้ 
 
 
ซึ่งกิจกรรมภายในงานจัดให้มีการเสวนาประวัติศาสตร์การสร้างบ้านแปงเวียงพญามังรายหลวง การจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพญามังรายหลวง และนิทรรศการภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองเชียงราย การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน กิจกรรมฐานเรียนรู้ การสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นทางวัฒนธรรม และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
 
 
นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวอีกว่า จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองเศรษฐกิจการค้าและเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและเชิงนิเวศที่สวยงาม เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่มีความเก่าแก่ น่าศึกษาค้นคว้า มีความหลากหลายชาติพันธุ์ ส่งผลให้จังหวัดเชียงรายมีทุนทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดดเด่น ทั้งด้านวิถีชีวิต ประเพณี พิธีกรรมความเชื่อ ภูมิปัญญา ชาวเชียงรายก็ต้องไม่ลืมรากเหง้าบรรพบุรุษ ผู้สร้างและสถาปนาเมืองเชียงรายให้เราได้อยู่และใช้ชีวิตบนผืนแผ่นดินนี้ 
 
 
ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวยังเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดพระเกียรติพญามังรายปฐมกษัตริย์แห่งล้านนา ผู้สถาปนาเมืองเชียงราย เนื่องในโอกาสเมืองเชียงรายครบรอบ 762 ปี และการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ เปิดพื้นที่ให้การเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ ศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม ให้แก่น้องๆ นักเรียนประชาชนทั่วไป ตลอดจนนักท่องเที่ยวได้รู้ถึงประวัติศาสตร์ประวัติความเป็นมาของจังหวัดเชียงราย และยังเป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดเชียงราย ส่งผลให้เกิดรายได้แก่ชุมชน จังหวัด ต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งจับคนอ้างเจ้าหน้าที่รัฐ ทีมงาน รมช.ชาดา ข่มขู่เรียกค่าคุ้มครอง

 

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 67 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงกรณีมีผู้แอบอ้างเป็นหนึ่งในคณะทำงานของนายชาดา ไทยเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากสถานบริการประเภทคาราโอเกะ เพื่อเป็นค่าคุ้มครองป้องกันไม่ให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยเข้าจับกุม ซึ่งจากเบาะแสทราบว่ามีการเรียกรับเงินในอัตรา 300,000 – 400,000 ต่อร้าน โดยข่มขู่ว่าหากไม่จ่ายเงินค่าคุ้มครองจะดำเนินการจับกุมสถานบริการ อีกทั้งยังอ้างถึงการประสานผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายหากไม่จ่ายเงินค่าคุ้มครองดังกล่าว

 

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเบาะแสดังกล่าว ตนจึงได้ประสานงานไปยังคณะทำงานของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมสั่งการให้ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย นำโดยนายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายอำเภอเมืองเชียงราย ปลัดอำเภอ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย เข้าตรวจสอบบุคคลผู้แอบอ้างดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้วางแผนการล่อซื้อ ด้วยการให้สายลับเข้าทำการจ่ายเงินค่าคุ้มครองให้แก่ผู้แอบอ้างเป็นค่ามัดจำเงินสด จำนวน 100,000 บาท โดยมีการนัดหมายเพื่อจ่ายเงินกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงราย ซึ่งเมื่อเป้าหมายมาถึงเจ้าหน้าที่สายลับได้จ่ายเงินให้กับบุคคลผู้แอบอ้าง พร้อมทั้งแสดงตัวเข้าจับกุมและตรวจสอบบุคคลผู้แอบอ้างทันที ทราบชื่อคือ นายสุทธิรัตน์ฯ พร้อมกับธนบัตรเงินสดที่มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้วนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงรายดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

“จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้แอบอ้างได้มีการกล่าวอ้างถึงผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยจริง โดยกล่าวอ้างว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ส่งให้มาเรียกค่าคุ้มครองจากสถานบริการหรือธุรกิจอื่น โดยเรียกอัตราค่าคุ้มครองตามขนาดของร้าน ในอัตรา 300,000 – 400,000 บาทต่อร้าน และหากร้านไหนจ่ายจะไม่ให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้ามาจับกุม และหากคุยไม่ได้จะส่งรายชื่อสถานบริการที่จ่ายค่าคุ้มครองให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเพื่อดำเนินการทันที โดยในด้านของคณะทำงานของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้การยืนยันว่าไม่มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยคนใดที่จะเรียกรับผลประโยชน์จากสถานบริการ หากมีบุคคลใดไปแอบอ้างคือเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น” นายพุฒิพงศ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม

 

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอย้ำเตือนผู้ประกอบการทุกประเภทว่า “คนมหาดไทยไม่มีเรียกรับผลประโยชน์ ไม่มีคำว่าเคลียร์ใด ๆ ถ้าจะเคลียร์กับสิ่งผิดกฎหมาย คือ ต้องจับสถานเดียว ไม่มีละเว้น” พร้อมทั้งขอแจ้งไปยังพี่น้องประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการต่าง ๆ ต้องระมัดระวังมิจฉาชีพหรือผู้แอบอ้างชื่อผู้มีอำนาจของรัฐ เพื่อเรียกรับเงิน ซึ่งปัจจุบันมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจำนวนมาก และมักจะมาหลากหลายวิธีการ หากท่านพบมีผู้กระทำการดังกล่าวอย่าหลงเชื่อเป็นอันขาด ถ้าทำได้ขอให้อัดเสียงกับโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่นใดที่อัดเสียงได้ บันทึกได้ แล้วนำหลักฐานแจ้งความทันที หรือสามารถขอรับคำปรึกษาและแจ้งเบาะแสที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย สายด่วน 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กองสารนิเทศ สป.มท.

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

ทรู ดิจิทัล ปลุกองค์กรธุรกิจ ยกระดับรับมือภัยคุกคามไซเบอร์

 

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ภัยไซเบอร์ที่คุกคามองค์กรธุรกิจในปัจจุบันมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วอีกทั้งมูลค่าความเสียหายต่อธุรกิจและระบบเศรษฐกิจทั่วโลกยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง องค์กรธุรกิจจึงต้องเร่งปรับกลยุทธ์ด้านความมั่งคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อลดความเสี่ยงต่อความเสียหายและการหยุดชะงักของธุรกิจจากการถูกโจมตีระบบและข้อมูลสำคัญ ทรู ดิจิทัล ไซเบอร์ซิเคียวริตี้ หนึ่งในธุรกิจของ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ผู้ให้บริการดิจิทัลครบวงจรในกลุ่มทรู ผู้นำโทรคมนาคม-เทคโนโลยี เดินหน้าพัฒนาโซลูชันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ส่งเสริมความยั่งยืนในการทรานสฟอร์มธุรกิจ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ได้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด  ควบคู่กับความปลอดภัยขั้นสูง ชูจุดแข็งระบบบริหารจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI และ ML (Machine Learning) สามารถตรวจจับความผิดปกติและตอบสนองการโจมตีได้อัตโนมัติแบบเรียลไทม์  พร้อมกระบวนการด้านความปลอดภัยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล และทีมงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมบริการด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น บริการศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังด้านความมั่นคงปลอดภัย (Security Operation Center – SOC)  Managed Security Services บริการ Outsource การบริหารจัดการระบบความปลอดภัยไซเบอร์ และบริการให้คำปรึกษาด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้ อาทิ การประเมินความเสี่ยง การปกป้องข้อมูลรั่วไหล และปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และบริการค้นหาช่องโหว่และจุดอ่อนของระบบ เพื่อสร้างเกราะป้องกันภัยไซเบอร์ที่แข็งแกร่งให้องค์กรธุรกิจทุกขนาด ในทุกอุตสาหกรรม สามารถรับมือกับภัยไซเบอร์และการโจมตีระบบบนโลกดิจิทัลทุกรูปแบบ พร้อมร่วมขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนของสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ บนพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

 

นางฐิติรัตน์ ศิริพัฒนาเลิศ หัวหน้าสายงานด้านความปลอดภัยระบบข้อมูลสารสนเทศ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การทรานสฟอร์มและปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น ทำให้องค์กรต้องเผชิญกับความท้าทายในการรับมือกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน ในปี 2566 ที่ผ่านมา สถิติภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์ของประเทศไทยมีอัตราสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกถึงเท่าตัว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยเป็นเป้าหมายใหญ่ของการโจมตี รองมาคือ หน่วยงานราชการ ธุรกิจประกันภัย และธุรกิจค้าปลีก นอกจากนี้ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ยังกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของการโจมตี เนื่องจากประสิทธิภาพของระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ของธุรกิจ SMEs ยังไม่เพียงพอ รวมถึงการขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำให้ปัจจุบัน SMEs มีความเสี่ยงที่จะเผชิญภัยคุกคามไซเบอร์สูงกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ถึง 3 เท่า

 

แนะธุรกิจทุกขนาดปรับกลยุทธ์ด้านความมั่งคงปลอดภัยทางไซเบอร์

นางฐิติรัตน์ กล่าวว่า  ทรู ดิจิทัล ไซเบอร์ซิเคียวริตี้ หนึ่งในธุรกิจของทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “Empowering Digital Equity” มุ่งสร้างความเท่าเทียมให้คนไทยและภาคธุรกิจไทยสามารถเข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยีได้ง่าย เหมาะสมและคุ้มค่า ตอบโจทย์ตรงความต้องการและได้ประโยชน์มากขึ้น บนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) ที่มีระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นสูง เพื่อรองรับการทรานสฟอร์มธุรกิจ (Business Transformation) ที่มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งการใช้เทคโนโลยีระบบปฏิบัติการต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนการเก็บข้อมูลสำคัญในระบบดิจิทัล เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย เสี่ยงต่อการถูกโจมตีระบบหรือโจรกรรมข้อมูล อีกทั้งผู้โจมตียังมีความสามารถในการคิดค้นและใช้เครื่องมือใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง องค์กรธุรกิจจึงต้องเร่งปรับกลยุทธ์ด้านความมั่งคงปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยให้ความสำคัญใน 3 องค์ประกอบหลัก คือ 1) การพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้และทักษะด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี้ และสร้างความตื่นตัวต่อภัยไซเบอร์ให้แก่บุคลากรทุกระดับ 2) การปรับเปลี่ยนระบบความปลอดภัยในกระบวนการและระบบต่างๆ ขององค์กร และ3) การลงทุนในเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและคุ้มค่าในการจัดการความเสี่ยงจากภัยคุกคาม  ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่อธุรกิจ ทั้งความเสียหายด้านการเงิน สูญเสียโอกาสทางการตลาดจากธุรกิจที่สะดุดหรือไม่สามารถดำเนินกิจการต่อได้ รวมถึงความน่าเชื่อถือขององค์กร

 

เสริมเกราะป้องกันภัยคุกคาม ด้วยระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เหนือกว่า

ทรู ดิจิทัล ไซเบอร์ซิเคียวริตี้  เดินหน้าพัฒนาโซลูชันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบบริการระดับมืออาชีพ ให้ทุกองค์กรมั่นใจได้มากกว่า ด้วยหลากหลายจุดเด่น ดังนี้

  • ขับเคลื่อนระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยเทคโนโลยี ML และ AI เพิ่มขีดความสามารถในการคาดการณ์การโจมตีระบบบนโลกไซเบอร์ ทั้งการตรวจจับความผิดปกติ วิเคราะห์ แจ้งปัญหาได้แบบเรียลไทม์ และเชื่อมโยงกับระบบอัตโนมัติ ทำให้ตอบสนองต่อการโจมตี ตัดกระบวนการโจมตีได้อย่างทันท่วงที
  • การันตีมาตรฐานสากลในการให้บริการแบบ Secure Digital Transformation and Operation อาทิ ระบบความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO 27001
  • ทีมงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ได้รับประกาศนียบัตรรับรองชั้นนำระดับโลก อาทิ CISSP, CISM, GIAC, OSCP เป็นต้น ช่วยดูแลความปลอดภัยให้ธุรกิจต่อเนื่องทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
  • ผสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และพันธมิตรชั้นนำ ในการพัฒนาบริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ตลอดจนร่วมกันผลักดันการสร้างความตระหนัก และเสริมสร้างองค์ความรู้ เพื่อเพิ่มบุคลากรที่มีทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศ

 

ทรู ดิจิทัล ไซเบอร์ซิเคียวริตี้ บริการครบวงจร ตอบโจทย์ทุกขนาดธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรม

ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในความท้าทายด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ขององค์กรธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดด้านบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ความซับซ้อนในการพัฒนาระบบ รวมถึงการลงทุนอุปกรณ์และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ทรู ดิจิทัล ไซเบอร์ ซิเคียวริตี้ จึงพัฒนาโซลูชันและบริการที่สามารถตอบโจทย์และเติมเต็มความต้องการขององค์กรธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ในทุกอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้มีประสิทธิภาพ พร้อมรับมือและตอบสนองต่อภัยคุกคามทุกรูปแบบได้อย่างทันท่วงที

  • Security Operations Center (SOC) ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังด้านความมั่นคงปลอดภัย ให้บริการที่เหนือกว่าด้วย Next Generation SOC ใช้เทคโนโลยี AI และ ML ช่วยจัดการภัยคุกคามแบบอัตโนมัติ ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ตรวจจับภัยคุกคาม ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาและรับมือได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO/IEC 27001:2013
  • Managed Security Services บริการ Outsource เพื่อการบริหารจัดการระบบความปลอดภัยไซเบอร์ ที่ช่วยให้องค์กรทุกขนาดมีระบบความปลอดภัยไซเบอร์ที่เหมาะสม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องบุคลากรผู้เชี่ยวชาญและ การลงทุนในระบบความปลอดภัย
  • Governance Risk and Consulting บริการให้คำแนะนำปรึกษาด้านการประเมินความเสี่ยง บริหารระบบความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO 27001
  • Offensive Cybersecurity บริการทดสอบเจาะระบบ และค้นหาช่องโหว่ ในการเข้าถึงระบบต่างๆ รวมถึงจำลองเหตุการณ์การโจมตีในระบบเพื่อค้นหาจุดอ่อนในการเข้าถึงระบบ
  • PDPA and Data Protection บริการให้คำปรึกษาในการปกป้องข้อมูลรั่วไหล และปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

สำหรับลูกค้าองค์กรที่สนใจใช้บริการ “ทรู ดิจิทัล ไซเบอร์ซิเคียวริตี้” สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truedigital.com/cybersecurity

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

“เศรษฐา” ชูไทยจุดหมายนักมวยทั่วโลก กองทุน ววน. ยกระดับเป็นเฟสติวัลมวยไทย

 

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 67 นายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรีว่าการ 4 กระทรวง ร่วมงาน “มหัศจรรย์วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก” ที่อุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการมวยไทย ผลงานจากกองทุน ววน.มุ่งหวังไทยเป็นจุดหมายของนักมวยจากทุกมุมโลก

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน “มหัศจรรย์ วันมวยไทย ดังไกลสู่ ชาวโลก ประจำปี 2567” (Amazing Muay Thai World Festival 2024) จัดโดย กองทัพบก ผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เพื่อส่งเสริมกีฬามวยไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ ณ อุทยานราชภักดิ์ อําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ พร้อมส่งเสริมกีฬามวยไทย พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และยกระดับมวยไทยสู่มาตรฐานสากล มุ่งให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านกีฬามวยไทยของโลก โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติร่วมงาน

 

นายเศรษฐา ทวีสิน โพสต์ถึงงานวันมวยไทยว่า “วันนี้เรากำลังทำให้มวยไทยเป็นมรดกของโลก ซึ่งต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เรามีงาน WBC Amazing Muay Thai ที่รวมนักมวยกว่า 60 ประเทศ ความยิ่งใหญ่ที่เราร่วมกันถ่ายทอด และความงดงามของการไหว้ครูมวย ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักมวยจากทุกมุมโลก ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องเดินทางมาร่วมไหว้ครูมวยที่นี่ครับ”

 

ด้าน ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส สกสว.ในฐานะผู้แทนผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรีถึงการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อยกระดับความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมมวยไทย ให้เป็น SOFT POWER ที่ทรงพลังสู่สากล ผ่านการสนับสนุนทุนวิจัยให้แก่มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง นับตั้งแต่ปี 2558-2567 โดยในช่วงปี 2558-2560 เป็นงบประมาณจากทุนวิจัยมุ่งเป้า โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และในช่วงปี 2563- ปัจจุบัน ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัย จากแผนงานการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) งบประมาณจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) ทั้งนี้เป็นการสนับสนุนการวิจัยด้าน Soft Power Mauy Thai อย่างต่อเนื่องสู่สากล

 

 

การวิจัยได้ให้ความสำคัญกับการบูรณาการพลัง SOFT POWER (5F)  และธุรกิจเชื่อมโยงเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์มวยไทยสู่การจัดการเทศกาลมวยไทย (MauyThai Festival) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและส่งออกวัฒนธรรมสู่สากล  เป็นการศึกษาเพื่อยกระดับ อีเว้นท์มวยไทย สู่การเป็น เฟสติวัลมวยไทย (Muay Thai Festival) ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนจากฐานความรู้เดิมได้แก่ 1. ฐานข้อมูลค่ายมวย องค์ประกอบและปัจจัยสำเร็จของธุรกิจค่ายมวย 2. เครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงกีฬาเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียนโดยใช้มวยสุวรรณภูมิ (มวยไทย มวยพม่า มวยเขมร และมวยลาว) 3. องค์ความรู้การออกแบบประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงกีฬาโดยใช้ศิลปะการต่อสู้มวยไทยบูรณาการวิถีไทย สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 4. ต้นแบบการบูรณาการการจัดกีฬาเพื่อการเสริมสร้างสุขภาวะในโรงแรม (WellHotel) โดยใช้โมเดลกีฬามวยไทยบูรณาการวิถีไทย 5.การจัดอีเว้นท์กีฬามวยไทยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ 6. การท่องเที่ยว Pre–event และ Post-event เชิงสร้างสรรค์เพื่อชดเชยคาร์บอนเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงกีฬา สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ 7. ต้นแบบเทคโนโลยีจักรวาลนฤมิตร มวยไทยเพื่อพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจค่ายมวยสู่การส่งออกสินค้าทางวัฒนธรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยว ผศ.สุภาวดี กล่าวเสริม

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“กฤษนันท์” จัดกิจกรรมพัฒนา ศักยภาพผู้ประกอบการ นโยบาย BCG ไทย

 

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2567   ที่ห้องประชุมสัมมนา โรงแรมแสน จังหวัดเชียงราย นางกฤษนันท์ ทะวิชัย อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง “นโยบาย BCG ของประเทศไทยกับความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงในระดับนานาชาติ” ภายใต้ค่าใช้จ่ายในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภูมิภาคให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยกรอบแนวคิด BCG โดยมีนางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัด ว่าที่ร้อยตรี ดุจเดี่ยว วงศ์ภักดิ์ เกษตรจังหวัดเชียงรายเชียงราย ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด

 

ทั้งนี้ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจ และเห็นชอบให้ BCG Economy Model เป็นวาระแห่งชาติที่จะใช้พัฒนาประเทศ โดยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนาที่สำคัญเพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์และสร้างการเติบโตบนฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สมดุล สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ กับการเติบโตอย่างยั่งยืน และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ( พ.ศ. 2566 – 2570 ) ไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ โดยมีเป้าหมายไปสู่การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมเศรษฐกิจสีเขียว มุ่งหมายพัฒนาให้การบริโภค และการผลิตของประเทศมีความยั่งยืนสูง ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมภาคการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการเพิ่มมูลค่าจากเศรษฐกิจหมุนเวียน
และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนให้มีการลงทุนด้านการใช้พลังงานสะอาด เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้า และบริการตามแนวทางเศรษฐกิจ หมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อตอบสนองต่อการบังคับใช้กฎหมายเรื่องสิ่งแวดล้อม และการผลิตที่ยั่งยืนที่นานาชาติให้ความสำคัญ
 
 
ปัจจุบันผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยังประสบปัญหาหลายประการ อาทิปัญหาด้านการผลิตที่ยังมีต้นทุนสูง ปัญหาด้านผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของตลาด และสามารถแข่งขันได้ในตลาดจะเป็นกลไกสำคัญ ในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต และการบริหารจัดการธุรกิจแบบใหม่ เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มของวัตถุดิบ ลดต้นทุน ลดของเสีย และเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น เพื่อยกระดับสถานประกอบการ ให้มีผลิตภาพการผลิตและลดต้นทุนการประกอบการอย่างคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบและความเสี่ยงจากการประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อมและชุมชน และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สังคมหรือวัฒนธรรมอย่างมีส่วนร่วม ระหว่างชุมชนและโรงงาน SMEs ด้วยเศรษฐกิจ BCG อย่างสมดุลและยั่งยืน
 
 
กระทรวงอุตสาหกรรมโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย จึงได้จัดการสันมนาเรือง “นโยบาย BCG ของประเทศไทยกับความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงในระดับนานาชาติ” ขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการหรือวิสาหกิจด้วยเศรษฐกิจ BCG ภายใต้ค่าใช้จ่ายในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภูมิภาคให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยกรอบแนวคิด BCG เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม SMEs มีการนำองค์ความรู้ และเทคโนโลยีภายใต้นโยบายเศรษฐกิจ BCG มาประยุกต์ใช้ในการยกระดับการผลิตที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และมีการใช้ทรัพยากรในภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจ BCG และเพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ตระหนักถึงความสำคัญของ BCG สู่การยกระดับกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่ความยั่งยืนในการผลิตและบริโภค (Sustainable Production and Consumption) อีกทั้ง สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ อย่างมีส่วนร่วมระหว่าง สถานประกอบการหรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และชุมชน โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นสถานประกอบการหรือโรงงานอุตสาหกรรม ที่ประกอบกิจการในอุตสาหกรรม S – Curve หรือผู้ที่เกี่ยวข้องรวมถึงบุคลากรในสถานประกอบการ
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
WORLD PULSE

เปิดแล้วสนามบินสามเหลี่ยมทองคำ รับได้ถึงโบอิ้ง 737-900

 

เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมาที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้ามกับ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดสนามบินสากลแขวงบ่อแก้วอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้เข้าร่วมคือ ดร.บัวคง นามมะวง เจ้าแขวงบ่อแก้ว นายจ้าวเหว่ย ประธานกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ นายหวางเคอหาน ผู้แทนบริษัท Greater Bay Area Investment and Development (HK) Limited จากฮ่องกง และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมครบครัน

 

โดยทางแขวงบ่อแก้วระบุว่าสนามบินดังกล่าวเป็นสนามบินรหัส 4 C มูลค่าการลงทุน 225,358,700 ดอลลาร์สหรัฐ โดยถือเป็นหนึ่งในข้อตกลงในการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำที่มีความกว้าง 314 เฮกตาร์ 5,478 ตารางเมตร มีทางวิ่งหรือรันเวย์ยาว 2,500 เมตร รวมทั้งยังสามารถขยายไปได้ถึง 3,000 เมตร สามารถรองรับเครื่องบินขนาด A-321 และโบอิ้ง 737-900 อาคารผู้โดยสารสามารถรองรับผู้โดยสารทั้งขาเข้าและออกได้ถึง 600 คน
 
 
สำหรับสนามบินมีการลงทุนเป็นมูลค่า 225,358,700 เหรียญสหรัฐ เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.2563 เป็นต้น ระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี สามารถขยายออกไปได้ตามข้อตกลงของรัฐบาล ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาสัมปทานแล้วโครงการจะส่งมอบคืนให้กับรัฐบาล สปป.ลาว ต่อไป อยางไรก็ตามในช่วงต้นนี้สนามบินจะเปิดให้บริการภายในประเทศก่อนโดยรองรับเครื่องบิน ATR-72 หรือเทียบเทา เพื่อเป็นการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ส่งเสริมด้านการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อกับสากล เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนและการท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ รวมไปถึงการเดินทางของประชาชน ที่สำคัญคือเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาคเหนือโดยเฉพาะแขวงบ่อแก้ว
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
All

วิชาการศรีเกิด เปิดวัฒนธรรมจีน ครั้งที่ 17 สอนเด็กนักเรียนรู้ตรุษจีน

 

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย มอบหมายให้ นายณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย นางบังอร มะลิดิน รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย ร่วมเปิดกิจกรรม “วิชาการศรีเกิด เปิดวัฒนธรรมจีน ครั้งที่ 17 ที่โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด โดยมี พระไพศาลประชาทร วิ. (หลวงพ่อพบโชค) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง เข้าร่วมในกิจกรรมด้วย

โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด เป็นหนึ่งในโรงเรียนในสังกัด เทศบาลนครเชียงราย และ นางสาวศิริภัส ขัติยะ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด นำคณะครูอาจารย์และนักเรียนเข้าร่วม โดยพิธีจัดให้มีกิจกรรมแสดงศิลปวัฒนธรรมจีน ในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งจัดพิธีสักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมงานในโอกาสเทศกาลตรุษจีน โดยมีผู้ปกครองเด็กนักเรียน เดินทางมาร่วมในกิจกรรมจำนวนมาก
 
 
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าว ทางเทศบาลนครเชียงราย ได้ให้ความสำคัญกับภาษาจีน รวมทั้งวัฒนธรรมจีน ที่มีบทบาทสำคัญต่อประชาคมโลกและประเทศไทย เทศบาลนครเชียงรายนำโดยนายกเทศมนตรีได้ตระหนักและให้ความสำคัญเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมจีนมาโดยตลอด จึงมีกิจกรรมระหว่างเทศบาลนครเชียงรายและประเทศจีนอย่างหลากหลาย เช่น โครงการความร่วมมือทางการศึกษาแก่ครูและนักเรียนด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน อีกทั้งความร่วมมือจากสถาบันขงจื่อ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการจัดการศึกษาตามการพัฒนาดังกล่าว
 
 
นางสาวศิริภัส ขัติยะ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด กล่าวว่าโรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด ได้จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยเพิ่มเติมวิชาภาษาจีนกลางมาตั้งแต่ปี 2548 ปัจจุบันได้พัฒนาหลักสูตรโดยเน้นการเรียนการสอนด้วยภาษาจีนอย่างเข้มข้น โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันขงจื่อ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย การจัดงานครั้งนี้จึงเพื่อให้ผู้เรียนได้แสดงศักยภาพทางภาษาและวัฒนธรรมจีน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จะทำให้นักเรียนทุกคนได้เข้าถึงวัฒนธรรมจีน ในช่วงตรุษจีน รวมทั้งได้ความรู้อื่น ๆ ควบคู่ไปด้วยการมีรประสบการณ์นอกห้องเรียน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : โรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

ยกระดับแม่ไม้มวยไทย อ.แม่จัน เปิดการจัดงานศึกมวยการกุศล ต.จันจว้าใต้

 

เมื่อวันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 20.00 น. นายก นก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดงานศึกมวยการกุศล ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ต.จันจว้าใต้ ณ เวทีมวยชั่วคราว ลานตากข้าวบ้านป่าบงหลวง ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน จ.เชียงราย พร้อมด้วย นายเสน่ห์ ปัญญาดี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นายชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย และมีญาณวุฒิ สุดพิมศรี อำเภอแม่จันกล่าวต้อนรับ นายสุกิจ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้าใต้ กล่าวรายงาน และมีนายทนงศักดิ์ แสนทอง นายกเทศมนตรี ต.จันจว้าใต้ นายสิงห์ทอง หนุนนำสิริสวัสดิ์ นายกเทศมนตรี ต.เวียงเทิง ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีเปิด และร่วมชมการแข่งขันมวยในครั้งนี้ด้วย

ตามที่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ต.จันจว้าใต้ ได้จัดงานศึกมวยการกุศล ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่ออนุรักษ์สืบสานศิลปะแม่ไม้มวยไทย และส่งเสริมประเพณีการแข่งขันมวยไทยให้แพร่หลายแก่เด็ก เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมให้ชุมชนมีรายได้จากการออกตลาดนัดเกษตรกรในชุมชน เพื่อหารายได้สนับสนุนในการบริหารจัดการชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ต.จันจว้าใต้ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างความสมัครสมานสามัคคีระหว่างชมรม องค์กร ชุมชน และหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งนี้ยังสอดคล้องกับการส่งเสริมกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน และเศรษฐกิจของ อบจ.เชียงราย ตามนโยบาย กีฬาเยาวชนเงินล้าน และ สามพี่น้องท้องถิ่นร่วมใจชุมชนและการมีส่วนร่วม
อีกด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News