Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายเดินหน้ารับมือไฟป่า หมอกควัน เตรียมแผนปี 2568 อย่างเข้มข้น

การประชุมแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เชียงรายเตรียมความพร้อมปี 2568

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมการประชุมมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือ ประจำปี 2568 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย โดยมี พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมจากศูนย์ปฏิบัติการกองพลทหารราบที่ 7 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

แผนการรับมือและแนวทางการปฏิบัติ

การประชุมได้แบ่งแผนดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่

  1. ช่วงเตรียมความพร้อม (15 พ.ย. 67 – 28 ก.พ. 68): เตรียมความพร้อมด้านกำลังพล วัสดุอุปกรณ์ และระบบประสานงาน
  2. ช่วงเผชิญเหตุ (1 มี.ค. 68 – 30 เม.ย. 68): ดำเนินการดับไฟป่าในพื้นที่ป่า พื้นที่เกษตร และพื้นที่เมือง
  3. ช่วงฟื้นฟู (1 พ.ค. 68 – 30 ต.ค. 68): ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและเตรียมป้องกันเหตุซ้ำซาก

พื้นที่เป้าหมายรวมถึงเขตป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ พื้นที่เกษตรกรรม และเขตเมือง โดยเฉพาะ 7 อำเภอชายแดนที่มีหมอกควันข้ามแดน ซึ่งต้องประสานงานผ่านกลไก TBC และศูนย์สั่งการชายแดนเพื่อป้องกันจุดความร้อน (Hot Spot) และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)

รายละเอียดแนวทางการดำเนินงาน

  • การจัดการไฟป่า: มอบหมายให้กรมชลประทานดูแลแหล่งน้ำสำหรับดับไฟ และใช้โดรนเกษตรเพื่อลำเลียงน้ำในพื้นที่เข้าถึงยาก
  • การลดการเผา: ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่สูงและเกษตรกรที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ใช้วิธีการจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรอื่นแทนการเผา พร้อมส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจ
  • การควบคุมฝุ่นในเมือง: ควบคุมฝุ่นจากชุมชน การก่อสร้าง และยานพาหนะ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง
  • การปฏิบัติการด้านอากาศ: กองพลทหารราบที่ 7 จ.เชียงใหม่ เป็นจุดระดมพลอากาศยานและสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิง
  • การทำงานแบบ Single Command: ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าศูนย์ควบคุมหลัก โดยทหารและตำรวจเป็นหน่วยสนับสนุน

การจัดตั้งศูนย์อำนวยการภาค 3

กองทัพภาคที่ 3 ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ณ สโมสรยอดทัพบันเทิง กองพลทหารราบที่ 7 ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 โดยมอบหมายให้ พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ เป็นผู้บัญชาการศูนย์ เพื่อประสานงานและปฏิบัติการในพื้นที่ภาคเหนือ

ความสำคัญของการประชุม

การประชุมครั้งนี้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานรับฟังความคิดเห็น ร่วมกันแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งบประมาณให้คุ้มค่า และสร้างความมั่นใจให้ประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงที่เคยเกิดไฟป่าซ้ำซาก การปฏิบัติงานในเวลากลางคืนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด พร้อมสร้างความร่วมมือกับชุมชนเพื่อป้องกันปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างยั่งยืน

การประชุมครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายในการเตรียมรับมือสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในปี 2568 เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
NEWS UPDATE

นายกฯ มอบนโยบายแก้ PM2.5 ยั่งยืน เน้นลดไฟป่าภาคเหนือ

นายกฯ ลงพื้นที่แม่ริมถกแผนป้องกันไฟป่า-ฝุ่น PM 2.5 เน้นมาตรการยั่งยืน

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางไปยังกองพลทหารราบที่ 7 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สำหรับปี 2568 โดยมีนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงผู้แทนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และผู้ว่าราชการจาก 17 จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วม

สรุปสถานการณ์ปี 2567

ในที่ประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่รายงานสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างเดือนธันวาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี โดยเฉพาะในปี 2567 พบว่ามีการลดลงของจุดความร้อน (Hotspots) พื้นที่เผาไหม้ และจำนวนผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ที่เข้ารับการรักษา เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2566 ความสำเร็จนี้เกิดจากการดำเนินงานเชิงรุกและการใช้หลักการ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” โดยมีการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานในทุกระดับ

นายกฯ เน้นย้ำมาตรการแก้ไขปัญหา

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ระบุว่าการแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย พร้อมมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พัฒนาแนวทางการแปรรูปวัสดุทางการเกษตร เพื่อลดการเผาและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร รวมถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องจัดทำพื้นที่เฝ้าระวังให้ชัดเจน

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงปัจจัยจากต่างประเทศ โดยให้กระทรวงการต่างประเทศติดตามสถานการณ์และประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพัฒนาระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง พร้อมกำชับให้ดูแลสุขภาพของประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน

ตรวจความพร้อมและมอบกำลังใจ

หลังการประชุม นายกรัฐมนตรีได้ตรวจแถวกำลังพลและความพร้อมของอุปกรณ์ป้องกันไฟป่า พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือและกล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง และประสานการทำงานระหว่างหน่วยงานอย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะสนับสนุนการทำงานของทุกฝ่ายอย่างเต็มที่

นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่ต้องวางรากฐานเพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาจะเป็นต้นแบบในการสร้างมาตรการที่มีประสิทธิภาพต่อไป

มาตรการระยะยาวและเป้าหมายปี 2568

สำหรับปี 2568 รัฐบาลตั้งเป้าหมายลดจุดความร้อนและค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือให้ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเน้นการสร้างความตระหนักรู้ในชุมชน และการสนับสนุนเทคโนโลยีที่ช่วยลดการเผา พร้อมจัดตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจสำหรับรับมือสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

ครม.​ เคาะตั้ง KPI ผู้ว่าฯ ภาคเหนือแก้ฝุ่น​ PM. 2.5 ต้องลดลง ร้อยละ​ 40

 

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ในปี2567 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้ออกมาตรการพร้อมกลไกการบริหารจัดการและมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ไปดำเนินการ รวมทั้งเสนอให้รับทราบแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการปัญหามลภาวะทางอากาศเพื่อความยั่งยืน

 
 

ปัญหาหมอกควันฝุ่นพิษ นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงปลายปีจนถึงต้นปี จะมีมรสุมความกดอากาศทางตอนเหนือ ส่งผลให้อากาศไม่กระจายตัว อีกทั้งในปีนี้เข้าสู่ปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดหมอกควันคือ ไฟป่า การเผาพื้นที่ทางการเกษตร หมอกควันข้ามพรมแดน และควันจากการจราจร กระทรวงทรัพยากรฯ ได้เสนอให้จัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 และเสนอกลไกแก้ไขระดับชาติและในพื้นที่ โดยเน้นมาตรการ 5 ข้อ คือ 

1.กำหนดพื้นที่เป้าหมายในภาคเหนือ 17 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล พร้อมกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่เป็นป่าอนุรักษ์ 10 แห่ง และป่าสงวนแห่งชาติ 10 แห่งรวมถึงพื้นที่ทางการเกษตรที่เคยมีประวัติการเผาซ้ำซาก

2. สร้างกลไกการทำงานให้ทางเอกชนเข้ามาสนับสนุนการแก้ไขปัญหาเพื่อลดข้อจำกัดด้านงบประมาณ

 3.จัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อสั่งการลงสู่ระดับพื้นที่ 

4.การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค 

5. ยกระดับการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนให้เข้มข้นจากระดับภูมิภาคอาเซียนไปสู่การเจรจาระดับทวิภาคี 

 

โดยกำหนดเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม และกำหนดให้เป็น KPI ของผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมตั้งเป้าลดการเผา 50% ในเขตป่าอนุรักษ์และ เขตป่าสงวนแห่งชาติ ถัดมาเป็นพื้นที่เป้าหมายรองที่ไม่ได้อยู่ใน 17 จังหวัด ให้ตั้งเป้าว่าต้องลดการเผาลง 20% ส่วนพื้นที่เกษตรอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในภาคเหนือ 17 จังหวัดให้ลดการเผาลง 10%

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการกำหนด KPI ต้องดูว่า PM 2.5 ลดลงเท่าไร โดยมีการกำหนดในแต่ละพื้นที่ดังนี้ ภาคเหนือค่าเฉลี่ยต้องลดลง 40% กรุงเทพมหานครลดลง 20% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือลดลง 10% และภาคกลางลดลง 20% ส่วนจำนวนวันที่มีหมอกควันเกินค่ามาตรฐาน ภาคเหนือต้องลดลง 30% กรุงเทพมหานคร 5% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5% ภาคกลาง 10% ทั้งนี้ ภาคราชการจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานศูนย์คอยติดตาม และมีชุดปฏิบัติการอำเภอลงไปในพื้นที่สำรวจเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเผา หากจะเผาต้องมีการขอ โดยจะจัดคิวหากมีการขออนุญาตเพื่อทำการเผา

 

ขณะที่การส่งเสริมภาคเอกชนที่จัดนำเอาวัสดุการเกษตรต่างๆ เช่น หญ้า ฟาง ใบไม้ฯ จะนำไปทำเชื้อเพลิง วัตถุดิบสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวล หรือ จะนำไปทำเป็นอาหารสัตว์รัฐจะมีมาตรการส่งเสริม เซนต์ได้สิทธิพิเศษทางภาษี และการอุดหนุนดอกเบี้ย เป็นต้น ที่สำคัญมากต่อไปนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ ผลงานจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการลดปัญหาหมอกควัน PM 2.5 ซึ่งจะเป็น KPI ที่สำคัญเราสามารถชั่ง ตวง วัดได้เพรามีเครื่องวัดมาตรฐานแน่นอน ผลงานจะผ่านต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สสจ.เชียงราย เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี PM2.5

 
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่ห้องประชุมพุทธรักษา อาคาร 1 ชั้น 1 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นายแพทย์คงศักดิ์ ชัยชนะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) โดยมีคณะผู้บริหาร หัวหน้ากลุ่มงาน และเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม พร้อมทั้งร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมออนไลน์ ร่วมกับโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ สาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลชุมชน ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย
 
 
ที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กของจังหวัดเชียงราย กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก และแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ปี 2567 แนวทางการเฝ้าระวังด้านสุขภาพและสถานการณ์กลุ่มโรคที่ต้องเฝ้าระวัง แนวทางการเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินฯ พร้อมทั้งร่วมพิจารณาหารือ การดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในระดับอำเภอ และทบทวนผังการทบทวนผังโครงสร้างบัญชาการเหตุการณ์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข 
 
 
กรณีหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ระดับอำเภอ ทบทวนข้อมูลทรัพยากร (หน้ากากอนามัย,ห้องปลอดฝุ่น) การจัดบริการทางการแพทย์ คลินิกมลพิษ Onsite/Online ทีมปฏิบัติการเชิงรุก การรายงานโรคในระบบเฝ้าระวังกระทบด้านสุขภาพจากปัญหาหมอกควัน พร้อมทั้งการรณรงค์สมัครและประเมินห้องปลอดฝุ่น และการดูแลเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดับไฟป่า
 
ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทางด้านสาธารณสุขของจังหวัดเชียงราย ในการเตรียมการรับมือหากเกิดผลกระทบทางด้านสุขภาพของประชาชน จากฝุ่น Pm2.5 ต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สสจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News