Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ

 
วันที่ 31 ตุลาคม 2566 เวลา 14.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จเป็นองค์ประธานคณะกรรมการตัดสินการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ณ สุราลัยฮอลล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพฯ โดยมี พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยานายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภริยารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย กรมการพัฒนาชุมชน เฝ้ารับเสด็จ
 
 
การนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทอดพระเนตรนิทรรศการ “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม และวีดิทัศน์การขับเคลื่อนโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” แล้วทรงเป็นองค์ประธานคณะกรรมการตัดสินการประกวดลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม ระดับประเทศ ซึ่งมี คณะกรรมการตัดสินกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ ประจำสำนักพระราชวังพิเศษ กรมกิจการในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นายธีระพันธ์ วรรณรัตน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (การออกแบบแฟชั่น) ปี 2562 พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยานายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภริยารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย นางเอมอร ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านกรมการปกครอง และคณะกรรมการตัดสิน ได้แก่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ดร.ศรินดา จามรมาน นักวิชาการอิสระด้านการจัดการความรู้และสื่อสารการศึกษา นายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผชช.ด้านผ้าไทยและการย้อมสีธรรมชาติ นายกุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารนิตยสารโว้ก ประเทศไทย นายศิริชัย ทหรานนท์ ผชช.ด้านผ้าไทย เจ้าของแบรนด์ THEATRE นายพลพัฒน์ อัศวะประภา นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ ASAVA นายภูภวิศ กฤตพลนารา นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ ISSUE นายวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ WISHARAWISH ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ นายนุวัฒน์ พรมจันทึก ผชช.ด้านการย้อมสีธรรมชาติ ดร.กรกลด คำสุข รองคณบดีฝ่ายนวัตกรรมทางปัญญาและวิจัย วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ม.ศรีนคริทรวิโรฒ ผศ.ดร.รวิเทพ มุสิกะปาน ประธานหลักสูตรแฟชั่นสิ่งทอและเครื่องตกแต่ง วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ นายวีรธรรม ตระกูลเงินไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย นายมีชัย แต้สุจริยา ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ทอผ้า) ปี 2564
 
 
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวสำนึกในพระกรุณาธิคุณใจความสำคัญว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงอุทิศพระองค์ปฏิบัติบำเพ็ญพระกรณียกิจนานัปการเพื่ออำนวยประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์ เพื่อแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาหัตถกรรมไทยให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป โดยเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ได้ปรากฏภาพที่ประชาชนคนไทยทุกคนมิลืมเลือนที่พระองค์พระราชทานแบบลายผ้า ชื่อลาย “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” แก่พสกนิกรชาวไทย อันเป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดถึงพระปรีชาสามารถในด้านการออกแบบที่ทันสมัย คงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ความเป็นไทย โดยได้พระราชทานพระอนุญาตให้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม โดยผู้สมัคร คือ กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ช่างทอผ้าทั่วประเทศ ส่งผ้าและงานหัตถกรรมเข้าประกวดทั้งสิ้น 7,086 ชิ้น แบ่งเป็น ประเภทผ้า 6,290 ผืน และงานหัตถกรรม 796 ชิ้น โดยผ่านเข้ารอบตัดสินระดับประเทศ ประเภทผ้า 65 ผืน และงานหัตถกรรม 10 ชิ้น”
 
 
โดยภายหลังการประกวดฯ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เปิดเผยผลการตัดสินการประกวดฯ จำแนกเป็น ประเภทผ้า 14 ชนิด รวม 65 ผืน ได้แก่ 
 
1. ผ้ายกเล็ก เหรียญทอง นายจักรวรรดิวัตร ปรีจำรัส กลุ่มผ้าทอลายมงคลมนตราธิกาญจน์ จ.กาฬสินธุ์ เหรียญเงิน นางสุพัตรา บุญมา กลุ่มทอผ้าไหมยกดอกเชาวลิตบุญมา จ.ลำพูน เหรียญนาก น.ส.พรผกา ศรีพนม เกษร ผ้าทอยกดอก จ.ลำพูน ชมเชย นางอมรา ทาสัก กลุ่มอมรา ผ้าฝ้าย จ.ลำพูน และนางอรษา คำมณี กลุ่มอรษาไหมไทย จ.ลำพูน 
 
 
2. ผ้ายกใหญ่ เหรียญทอง นางดารณี ใจตื้อ กลุ่มดารณีไหมไทย จ.ลำพูน เหรียญเงิน น.ส.ขวัญฤทัย บุญมา ขวัญไหมไทย จ.ลำพูน ชมเชย นายอิทธิชัย ไชยรินทร์ สมาชิกศิลปชีพบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา นายจักรวรรดิวัตร ปรีจำรัส กลุ่มผ้าทอลายมงคลมนตราธิกาญจน์ จ.กาฬสินธุ์ และนายอดุลย์ มุลละชาติ ไหมสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ 
 
 
3. ผ้ามัดหมี่ 2 ตะกอ เหรียญทอง นางสมเพียร จรรยาศิริ กลุ่มทอผ้าไหมมงคลบ้านโคกล่าม หมู่ 10 จ.มหาสารคาม เหรียญเงิน นายสุเมธ วงค์พระจันทร์ กลุ่มทอผ้าวงค์พระจันทร์ จ.สกลนคร เหรียญนาก นางพันนี นะเรืองรัมย์ กลุ่มทอผ้าไหมพื้นเรียบโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ จ.บุรีรัมย์ ชมเชย น.ส.ศุภาพิชญ์ เพียวงค์ วันทนาไหมไทย จ.บุรีรัมย์ และนางมลิวรรณ ฦาชา กลุ่มทอผ้าไหมโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ จ.ชัยภูมิ 
 
 
4. ผ้ามัดหมี่ 3 ตะกอ เหรียญทอง นายอ่อนสี อินทร์เพ็ง กลุ่มเกษตรกรทอผ้าไหมบ้านตานบ จ.สุรินทร์ เหรียญเงิน นางคำนวน ตรงแก้ว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าไหมซิ่นละออบ้านตะกุย หมู่ 4 จ.สุรินทร์ เหรียญนาก นายยุทธนา น้ำกระจาย กลุ่มทอผ้าลัลณ์ลลิล จ.ร้อยเอ็ด ชมเชย นางอุทัย งามเลิศ กลุ่มสตรีทอผ้าไหมบ้านตานบ จ.สุรินทร์ และพล.ต.ชัยยุทธ วชิรวรภักดิ์ สถาบันสิริกิติ์ จ.พระนครศรีอยุธยา 
 
 
5. ผ้าเทคนิคเกาะ/ล้วง เหรียญทอง น.ส.กิ่งแก้ว วงศ์ชัย กลุ่มสตรีทอผ้าศรีดอนชัย จ.เชียงราย ชมเชย นายอภิรัตน์ รัตนศิลา กลุ่มผ้าซิ่นเมืองน่านโบราณ by คำไทด์ จ.น่าน 
 
 
6. ผ้าหมี่ข้อ/หมี่คั่น เหรียญทอง นายเนติพงศ์ กระแสโสม กลุ่มอาชีพทอเสื่อกกและผ้ามัดหมี่บ้านโปร่งมีชัย จ.ชัยภูมิ เหรียญเงิน นางสมใจ คงชัยภูมิ กลุ่มทอผ้าไหมโครงการส่งเสริมศิลปาชีพทุ่งกะมัง บ้านหนองหอย จ.ชัยภูมิ เหรียญนาก นางบุญยัง เมตตา จ.ชัยภูมิ 
 
 
7. ผ้าแพรวา เหรียญทอง นายจักรวรรดิวัตร ปรีจำรัส กลุ่มผ้าทอลายมงคลมนตราธิกาญจน์ จ.กาฬสินธุ์ เหรียญเงิน นายวิทวัส โสภารักษ์ แพรวาโสภารักษ์ จ.กาฬสินธุ์ เหรียญนาก นางกิตญากรณ์ จันทะมาตย์ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสตรีสหกรณ์บ้านโพนแพรวา จ.กาฬสินธุ์ ชมเชย น.ส.วิชุดา โสภารักษ์ แพรวาโสภารักษ์ จ.กาฬสินธุ์ และนางอมร แสนคำ กลุ่มอาชีพสตรีทอผ้าพื้นเมืองและตัดเย็บ จ.กาฬสินธุ์ 
 
 
8. ผ้าชาติพันธุ์ เหรียญทอง นายณัฐพงษ์ ใจมุ่ง คัวฮอม กลุ่มหนานเอฟผ้าจก ไทยยวนราชบุรี จ.ราชบุรี เหรียญเงิน นายจักรวรรดิวัตร ปรีจำรัส กลุ่มผ้าทอลายมงคลมนตราธิกาญจน์ จ.กาฬสินธุ์ เหรียญนาก นางณัฐธภา ทิพย์วัจนะ ณัฐธภา ผ้าจกทอมือ จ.ราชบุรี ชมเชย นางนงลักษณ์ คณทา กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านผาทั่ง จ.อุทัยธานี และนายสุรชัย ทาเอื้อ กลุ่มกระแตยองตอ จ.ชัยนาท 
 
 
9. ผ้าบาติก/มัดย้อม/เขียนเทียน เหรียญทอง นายธณกร สุขเมตตา มีดีนาทับ จังหวัดสงขลา เหรียญเงิน นายยุทธพล ซุ่นเซ่ง ศิวะนาฏกนกไทย จ.พัทลุง เหรียญนาก นางจันทวรรณ ฉัตรวัชรกุล บาติกเพ้นท์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ชมเชย นายทิมาทร ไชยบุญ กลุ่มลายเทียนบาติกสีธรรมชาติ จ.นครศรีธรรมราช และนายธีรโรจน์ สาระอาภรณ์ สีพูบาติก จ.พัทลุง 
 
 
10. ผ้าบาติกพระนามาภิไธย เหรียญทอง น.ส.ฮัสสือเม๊าะ ดอมะ วิสาหกิจชุมชนยาริง บาติก จ.ปัตตานี เหรียญเงิน น.ส.ซมา โย๊ะหมาด กลุ่มโยซมาบาติก จ.สตูล เหรียญนาก น.ส.คนึงนิตย์ ภัทรพงษ์นพกุล วิสาหกิจชุมชนยาริง บาติก จ.ปัตตานี ชมเชย น.ส.กอบกุล โชติสกุล วิสาหกิจชุมชนปันหยาบาติก จ.สตูล และ น.ส.สุทธิวรรณ คำนวน กลุ่มย้อมผ้าบ้านช่องขาด จ.นครศรีธรรมราช 
 
 
11. ผ้าขิด เหรียญทอง นางจันทร์ทัน พรมแพน กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก จ.อุดรธานี เหรียญเงิน นายวันเฉลิม ศรีภุยเดช เฮือนไหมมนัสวรรณ ไหมแท้ที่แม่ทอ “เทิดทูน S เด่นดอกรักสู่มหกรรมพืชสวนโลก” จ.อุดรธานี เหรียญนาก นายวันเฉลิม ศรีภุยเดช เฮือนไหมมนัสวรรณ ไหมแท้ที่แม่ทอ “จุดกำเนิด” จ.อุดรธานี ชมเชย นายพูลสวัสดิ์ จันทร์บุญ เสงี่ยมจิตไหมทอง จ.อุดรธานี และนางสุนา ศรีบุตรโคตร กลุ่มทอผ้าขิดไหมบ้านหนองอ้อ จ.อุดรธานี 
 
 
12. ผ้าจก/ผ้าตีนจก เหรียญทอง นายอดุลย์ มุลละชาติ กลุ่มไหมสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เหรียญเงิน นางจีรนันต์ มูลน้ำอ่าง ผ้าทอบ้านน้ำอ่าง จ.อุตรดิตถ์ เหรียญนาก น.ส.ศิรินทิพย์ วงศ์หมุด คุณหญิงผ้าทอน้ำอ่าง จ.อุตรดิตถ์ ชมเชย นายจงจรูญ มะโนคำ กลุ่มทอผ้าบ้านคุ้ม จ.อุตรดิตถ์ และ น.ส.ชลธิชา ทาแปง ศูนย์เรียนรู้ผ้าจกเมืองลอง จ.แพร่ 
 
 
13. ผ้าเทคนิคผสมพื้นเมือง เหรียญทอง นายอดุลย์ มุลละชาติ กลุ่มไหมสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เหรียญเงิน นายชญทรรศ วิเศษศรี แต้มตะกอ กลุ่มสตรีทอผ้าไหมลายโบราณ บ้านโคกหม้อ จ.อุทัยธานี เหรียญนาก นายธวัชชัย คำสิงห์ ธ.มณโฑ จ.อุดรธานี ชมเชย นางภัทรวรินทร์ อินทร์เพ็ง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสตรีทอผ้าไหมบ้านตานบ จ.สุรินทร์ และนายจักรพงษ์ ก่อแก้ว กลุ่มมีบี้ ผ้าไหมสุรินทร์ จ.สุรินทร์ 
 
 
14. ผ้าเทคนิคสร้างสรรค์ เหรียญทอง นางสุมามาลย์ เต๋จ๊ะ ศูนย์การเรียนรู้ขวัญตา กลุ่มเย็บผ้าด้วยมือ จ.หนองบัวลำภู เหรียญเงิน น.ส.ทัศนีย์ สุรินทรานนท์ ร้านเรือนไหม-ใบหม่อน จ.สุรินทร์ เหรียญนาก นางสนิม ปิ่นสุวรรณ์ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรม่วงงามไหมไทย ม.6 จ.ชัยนาท ชมเชย น.ส.จีรณัฏฐ์ ภักดีรัตน์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนไหมทองบ้านกระทม จ.สุรินทร์ และนายสุรชัย หลงสิม ร้านชลบถ จ.ขอนแก่น ประเภทหัตถกรรม จำนวน 7 ชิ้น ได้แก่ เหรียญทอง กระบุงจักสานย่านลิเภาทรงฟักทอง เลี่ยมขอบทองแดง ชุบนาก และกล่องถมเงินลายดอกรักราชกัญญา และลวดลายไทยรายล้อมตัวอักษร s โดย พลตรี ชัยยุทธ วชิรวรภักดิ์ สถาบันสิริกิติ์ จ.พระนครศรีอยุธยา เหรียญเงิน กล่องถมตะทองเอนกประสงค์ 
 
 
โดย นายวชิระ นกอักษร นครหัตถกรรม จ.นครศรีธรรมราช เหรียญนาก สลุงเงิน ลายดอกรักราชกัญญา โดย น.ส.สุปรียา บุญอินทร์ บจก.ดอยซิลเวอร์ แฟคตอรี่ จ.น่าน ชมเชย หัตถศิลป์ด้วย “รัก” ราชกัญญา โดย นางพิกุล หาญวัฒนะชัย ศูนย์ศิลปาชีพสีบัวทอง จ.อ่างทอง กระเป๋าจักสานหวายลายมหามิ่งมงคล โดย น.ส.วิณุรา คงทอง กลุ่มจักสานหมู่บ้านอ่าวยายเกิด จ.สิงห์บุรี และกระเป๋า 2tohg&2Gen โดย นายนพดล สดวกดี จ.สิงห์บุรี และรางวัลพิเศษ Best of the best ประเภทหัตถกรรม คือ กระบุงจักสานย่านลิเภาทรงฟักทอง เลี่ยมขอบทองแดง ชุบนาก โดย พลตรี ชัยยุทธ วชิรวรภักดิ์ สถาบันสิริกิติ์ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะเข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในงาน Silk Festival ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงมหาดไทย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

อบจ.เชียงรายเปิด งานทอสายบุญจุลกฐิน ถิ่นไทลื้อโบราณ อ.เชียงของ

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2566 เวลา 16.30 น. นายก นก นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในงานแถลงข่าวเสวนาและประชาสัมพันธ์ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวบูรณาการ พี่น้องท้องถิ่น อ.เชียงของ จ.เชียงราย งานทอสายบุญจุลกฐิน ถิ่นไทลื้อโบราณ (ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านหาดบ้าย หาดทรายทอง) ณ ลานเวทีบ้านหาดบ้าย – หาดทรายทอง ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย

 

ภายในงานแถลงข่าว มีการเสวนา ในหัวข้อการส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวในชุมชนให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน ฯลฯ โดยได้ให้เกียรติจาก หลวงพ่อจตุรงค์ กลิ่นบุปผา เจ้าอาวาสวัดบ้านหาดบ้าย นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชียงราย นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ นายอำเภอเชียงของ นายเกษม ปันทะยม นายก อบต.ริมโขง นายธันวา เหลี่ยมพันธุ์ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเชียงของ และนางสุขาวดี ติยะธะ เข้าร่วมการเสวนา พร้อมนี้มีร่วมทำบันทึกข้อตกลง (MOU) โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวบูรณาการ พี่น้องท้องถิ่น อ.เชียงของ จ.เชียงราย งานทอสายบุญจุลกฐิน ถิ่นไทลื้อโบราณ (ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านหาดบ้ายหาดทรายทอง)
 
 
ทั้งนี้ยังมีนายลิขิต บรรพตพัฒนา กำนันตำบลริมโขง นายสุจิน สิทธิราช ประธานสภา อบต.ริมโขง ร.ท.อภัย วิจารณ์ หัวหน้าชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชน ที่ 3212 หมู่ใหญ่ วิบูรย์ขัติยะ หัวหน้าชุดผ่อนปรนบ้านหาดบ้าย และคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ กองการท่องเที่ยวและกีฬา งานประชาสัมพันธ์ กองยุทธศาสตร์ฯ อบจ.เชียงราย เข้าร่วมพิธีแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งงานทอสายบุญจุลกฐิน ถิ่นไทลื้อโบราณ บ้านหาดบ้าย หาดทรายทอง จะจัดขึ้นในวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2566 ณ บ้านหาดบ้าย – หาดทรายทอง ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย
 
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ตั้งผลงานศิลปะ ต้อนรับ Thailand Biennale ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

 

วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2566 การหารือ และลงสำรวจพื้นที่เพื่อติดตั้งผลงานศิลปะ เพื่อต้อนรับการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ณ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

 

     นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นางพัชรนันท์ แก้วจินดา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม นายบรรจบ ปูธิปิน รองนายกสมาคมขัวศิลปะ และนางสาววัจจนีย์ บุญเจ็น ผู้จัดการขัวศิลปะ พร้อมด้วยศิลปินสมาคมขัวศิลปะ เข้าพบ นาวาตรี ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง และดร.สิทธิปัฐพ์ มงคลอภิบาล รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง และคณะ ณ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เพื่อหารือ และลงสำรวจพื้นที่เพื่อติดตั้งผลงานศิลปะ ของศิลปินจากสมาคมขัวศิลปะ เพื่อเป็นการต้อนรับและเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567

 

    สำหรับการพบปะ หารือ และลงสำรวจพื้นที่ในครั้งนี้ นาวาตรี ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ได้แจ้งว่ามีความยินดีที่จะสนับสนุนพื้นที่จัดแสดงภาพผลงานศิลปะของศิลปิน โดยมอบนโยบายที่จะเปลี่ยนท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงให้เป็นห้องแสดงทางศิลปะ (Art Gallery) ซึ่งจะเป็นการสนับสนุน (Promote) การจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023

 

       โดยนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวขอบคุณสำหรับความมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ที่จะเกิดขึ้น

 

      ในการนี้ภายหลังการหารือ ดร.สิทธิปัฐพ์ มงคลอภิบาล รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายบรรจบ ปูธิปิน รองนายกสมาคมขัวศิลปะ นางพัชรนันท์ แก้วจินดา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม และนางสาววัจจนีย์ บุญเจ็น ผู้จัดการขัวศิลปะ พร้อมด้วยศิลปินสมาคมขัวศิลปะ ร่วมลงสำรวจพื้นที่ภายในท่าอากาศยานสแม่ฟ้าหลวง เพื่อกำหนดจุดติดตั้งประชาสัมพันธ์ และแสดงผลงานของศิลปิน

 

ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย  นายวิชชากรณ์ กาศโอสถ นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ นายนิติกร ปันแก้ว นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ เข้าร่วมการหารือ และลงพื้นที่สำรวจดังกล่าว

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

พม. จับมือสภาสังคมสงเคราะห์ฯ หนุนเป็นช่างซ่อมสังคมไทย

 

   เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 66 เวลา 15.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานพิธีประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น เนื่องในโอกาสงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ประจำปี 2566 โดยมี นายอนุกูลปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และ ดร.วิชัย ไทยถาวร รองประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวรายงาน อีกทั้งมีการรับชม พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาผ่านการบันทึกวีดิโอ เนื่องในวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทยประจำปี 2566 ทั้งนี้ นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พร้อมคณะผู้บริหาร กระทรวง พม. เข้าร่วมพิธี  ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ กรุงเทพมหานคร

         นายวราวุธ กล่าวว่า เนื่องด้วยวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พระมารดาแห่งการสังคมสงเคราะห์) หรือ “สมเด็จย่า” ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย และปี 2566 นับเป็นวาระครบรอบ 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทั้งนี้ กระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้ร่วมกับ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัด “งานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย” ประจำปี 2566 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเผยแพร่พระเกียรติคุณที่เกี่ยวข้องกับการจัดสวัสดิการสังคม การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาสังคม ตลอดจนการประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น อีกทั้งมีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ นิทรรศการอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น และเวทีสมัชชาสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 31 ในหัวข้อ “การจัดสวัสดิการเติมเต็มครอบครัว”

          นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า เราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในฐานะอาสาสมัครและส่วนหนึ่งขององค์กร ซึ่งสังคมไทยวันนี้กำลังต้องการ “การซ่อม” เพราะมีอาการป่วยอยู่หลายส่วน เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า สังคมไทยในวันนี้ต้องมีคนมารักษา มาช่วยกันทำงาน ซึ่งขอขอบคุณอาสาสมัครทุกท่าน ทุกองค์กร ที่ได้รับรางวัลในวันนี้ เพราะทุกคนกำลังเป็น ช่างของสังคม เป็นช่างที่กำลังจะมาซ่อมสังคมไทย ที่วันนี้เหลือฟางอยู่ไม่กี่เส้นแล้ว ที่กำลังจะแตกตัวออกไป 

          นายวราวุธ กล่าวต่อไปอีกว่า พ่อบรรหารเคยสอนตนไว้ว่าจะทำงานให้สำเร็จ ต้องใช้ 3 อย่างด้วยกัน อย่างแรก ต้องมีเงิน สอง ต้องมีคน และสาม ต้องมีใจ หากการทำงานอาสาสมัครแล้วไม่มีใจก็ย่อมไม่เกิดประโยชน์ แต่พวกเราในที่นี้มีครบทั้งสามองค์ประกอบ จึงเป็นโอกาสที่เราจะได้มาเป็นช่างซ่อมสังคมไทย เพื่อไม่ให้เห็นเหตุการณ์หรือเกิดสิ่งที่เราไม่อยากเห็นในสังคมไทย ไม่ว่าจะเกิดกับกลุ่มเปราะบางกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อาทิ เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และคนพิการ เป็นต้น

         นายวราวุธ กล่าวต่อไปอีกว่า ในนามของกระทรวง พม. ขอขอบคุณทุกท่านทุกองค์กร เนื่องจากกำลังของพวกเรามีอยู่เพียงหยิบมือเดียว ถ้าหากขาดการสนับสนุนและการทำงานร่วมมือกันของหลายๆ องค์กร และที่สำคัญคืออาสาสมัครที่อยู่ในที่นี้ ตนเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ทำงานอาสาสมัครและสมควรได้รับรางวัล แต่ยังไม่ได้มาอยู่ในที่นี้ ตนขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านในการทำสิ่งที่ดีให้กับสังคมไทยต่อไป 

            นายวราวุธ กล่าวต่อไปอีกว่า และไม่ใช่ว่าผู้ที่ไม่ได้รับรางวัลในวันนี้ ทางกระทรวง พม. จะไม่เห็นความสำคัญ ขอฝากบอกว่าทุกการกระทำ และทุกลมหายใจของทุกท่าน ที่กำลังทำงานในฐานะอาสาสมัครให้กับแผ่นดินไทยอยู่นั้น พวกเราทุกคนในนามของกระทรวง พม. ขอบคุณด้วยหัวใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การทำดีเช่นนี้จะได้รับการขยายต่อ เผยแพร่ต่อ หากวันนี้เรากลับไปแล้วสามารถเพิ่มจำนวนอาสาสมัครและองค์กรได้ 1:1 เชื่อได้ว่า ในปีหน้าจะมีผู้ที่ได้รับรางวัลเพิ่มมากขึ้น

            นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปี 2566 มีอาสาสมัครดีเด่นได้รับรางวัล 238 ราย อาทิ นางสาวพุทธิอร ไพบูลย์สุวรรณ (ป้าจิ๊)  นายสมพงษ์ คุนาประถม (อื๊ดโปงลาง)  ศ.กิตติคุณ ดร.ชนิตา รักษ์พลเมือง  นางสุพัตรา จิราธิวัฒน์ และนายชวินทร์ ศิรินาค เป็นต้น และมีองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น ได้รับรางวัล 23 องค์การ อาทิ  เทศบาลตำบลทับมา จังหวัดระยอง  เทศบาลตำบลเกาะคา จังหวัดลำปาง  องค์การบริหารส่วนตำบลรางจรเข้  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี  มูลนิธิปากน้ำโพธิ์ประชานุเคราะห์ จังหวัดนครสวรรค์  ศูนย์เรียนรู้เพื่อครอบครัวเข้มแข็ง จังหวัดลำปาง  มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (ประเทศไทย) สาขาภูเก็ต  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โรงแยกก๊าซธรรมชาติระยอง และบริษัท เฉาก๊วยชากังราว จำกัด เป็นต้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

วัฒนธรรมเชียงราย ร่วมประชุมไทยแลนด์ เบียนนาเล่ 2023 เหนือสุดของประเทศไทย

 

วันนี้(23 ต.ค.) การประชุมคณะกรรมการอำนวยโครงการการจัดมหกรรมศิลปร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale ,Chiang Rai 2023 ครั้งที่ 1/2566

 

        รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ครั้งที่ 1/2566 วันที่ 24 ตุลาคม 2566 เวลา 14.30 น. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ครั้งที่ 1/2566 โดยมี นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี พ.ศ. 2554 นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม คณะกรรมการอำนวยการโครงการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น 8 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม และผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting

 

      ในการนี้ นายพิสันต์  จันทร์ วัฒนธรรมจังหวัด นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัด นางวรางคณา อุ่นบ้าน ผอ. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย นายสถินะ เพ็ชรจู หัวหน้างานพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว แทนนายเทศมนตรีนครเชียงรายพร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมประชุมผ่านระบบซูม ณ ห้องประชุมอูหลง ศาลากลางจังหวัดเชียงราย

 

         ที่ประชุมร่วมปรึกษา หรือเพื่อเตรียมการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ดังนี้

     1.รับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023

     2.ร่วมหารือการเตรียมความพร้อมของพิธีการและขั้นตอนต่างๆ ในพิธีเปิดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023    

     3.นายพุฒิพงษ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้แจ้งต่อที่ประชุมในประเด็นหารือที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณในพิธีเปิดงานฯ และการจัดงานมหกรรมฯ รวมถึงประเด็นข้อเสนอแนะอื่นที่มีเกี่ยวข้องการจัดงานฯ

  1. นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้แจ้งต่อที่ประชุมในประเด็นหารือแผนด้านขนส่งสาธารณะบริการตลอดการจัดมหกรรมฯ

     5.ร่วมหารือและขอความร่วมมือบูรณาการหน่วยงานต่างๆในการดำเนินงานโครงการมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023

     6.รับทราบแผนการประชาสัมพันธ์งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัย Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 และทิศทางการดำเนินงานต่อไป

 

ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมาย นางพัชรนันท์ แก้วจินดา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม และข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมประชุมดังกล่าว มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ 3 ไทยแลนด์เบียนนาเล่ เชียงราย 2023 กำหนดจัดในพื้นที่เหนือสุดของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ภายใต้แนวคิด “เปิดโลก (The Open World)” ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2566 – 30 เมษายน พ.ศ. 2567

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

พัชรนันท์ แก้วจินดา,นิติกร ปันแก้ว : รายงาน

นิติกร ปันแก้ว วรพล จันทร์คง  : ภาพ

อภิชาติ กันธิยะเขียว : บรรณาธิการข่าว

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

พิธีสืบชะตาแบบล้านนา อายุวัฒนะมงคล พระครูบากษิพัฑฒิ สิริภทโท

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม  พฺ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา เวลา 09.19 น.  พุทธสมาคมแห่งจังหวัดเชียงราย นำโดยนายนิรันดร์ ภิระบรรณ์ นายกพุทธสมาคม และกรรมการพุทธสมาคม นายธีระพนธ์  ภักดีพงษ์ อุปนายก ,ดร.เกียรติคุณ จันแก่น  อุปนายก ,นางจิตรา สิทธนานุวัฒน์   นโยบายและแผน ,ดร. ปรีด จันทร์แจ่มศรี  เลขาธิการ คณะกรรมการ

ได้เข้าร่วมพิธีสืบชะตาแบบล้านนา  อายุวัฒนะมงคลพระครูบากษิพัฑฒิ สิริภทโท  รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่ายางสบยาบ ณ อุโบสถ วัดป่าบางสบยาบ ตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน  โดย ดร.พิชาญ  พรหมเมฆประธาน  ที่ปรึกษา

 

ในงานนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นประธานในพิธีพระสงฆ์ โดยมีจำนวน 19 รูป เจริญพระพุทธมนต์ และพิธีขอขมากรรม ปล่อยปลา 108 ตัว ลงสู่แม่น้ำโขง ถวายองค์พญาอนันตนาคราช บูรพกษัตริย์ เทวดา พญานาค และเจ้ากรรมนายเวร

 

งานสืบชะตานี้มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 200 กว่าคน และได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากคณะสงฆ์ ตลอดจนคณะศรัทธาประชาชน จำนวน100 ครัวเรือน เป็นอย่างดี

 

พิธีสืบชะตาแบบล้านนา  ของเชียงรายถือเป็นตัวอย่างของมรดกทางวัฒนธรรมและศาสนาที่อุดมไปด้วยความหลากหลายในภูมิภาค. งานนี้ไม่เพียงเสริมเสริมสร้างความสามัคคีในชุมชนท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเสริมค่านิยมในการมีน้ำใจ การทำบุญต่อพระพุทธศาสนา. มันเป็นหลักฐานของประเพณีที่ยังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตลักษณ์ของจังหวัดเชียงราย.

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : พุทธสมาคมแห่งจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE VIDEO

(มีคลิป) ฝึกซ้อมฟ้อนเมืองไหว้สาปูจาพญามังราย

 

วันที่ 19 ตุลาคม 2566 เวลา 15.00 น. บุคลากรในสังกัดสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายร่วมใจกันฝึกซ้อมฟ้อนเมืองไหว้สาปูจาพญามังราย

 

     ในโอกาสนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายจิรัฏฐ์ ยุทธ์ธนประวิช นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ได้เป็นแกนนำและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับศิลปะการฟ้อนฯ ให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 

 

   ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว กำหนดจัดทุกวันพฤหัสบดี เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป เพื่อร่วมกิจกรรมของจังหวัดเชียงราย นำโดย แม่ครูบัวเรียว รัตนมณีภรณ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปการแสดง (การแสดงพื้นบ้าน-ช่างฟ้อน) พ.ศ.2559, เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย, สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดเชียงราย, หน่วยงาน องค์กร และประชาชนชาวเชียงราย “ฟ้อนไหว้สาพญามังราย” ในวันที่ 26 มกราคม 2567 ณ บริเวณพระราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช จังหวัดเชียงราย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

30 หน่วยงาน คลอด 12 แนวทาง ชวนแต่งผ้าไทย-ชุดท้องถิ่นลอยกระทง

 

30 หน่วยงานร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงปี 2566 ยิ่งใหญ่ คลอด 12 แนวทาง ขอความร่วมมืออนุรักษ์คุณค่าวัฒนธรรมอันดีงาม เน้นปลอดภัย ไม่ดื่ม ชวนแต่งผ้าไทย-ชุดท้องถิ่นลอยกระทง เผยแพร่ความรู้ ดึงชาวต่างชาติเที่ยวไทย สร้างรายได้เข้าประเทศหนุนนโยบาย THACCA  เตรียมเสนอยูเนสโกขึ้นทะเบียน “ประเพณีลอยกระทง”มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติปี 67

 

                นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการประชุมคณะกรรมการการบูรณาการการกำหนดแนวทางการจัดงานประเพณีลอยกระทง พุทธศักราช 2566 ครั้งที่ 1/2566 เป็นที่น่ายินดีว่า ปีนี้มีผู้แทนหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง 30 หน่วยงาน เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์  โดยที่ประชุมได้รับทราบนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในการขับเคลื่อนงานประเพณีที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล(Thailand Creative Content Agency -THACCA) ในการสร้างการรับรู้งานเฟสติวัลของไทยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ  และนโยบายของ วธ. ในการส่งเสริมคุณค่าเทศกาลประเพณีของชาติและเทศกาลอื่นๆด้านวัฒนธรรมให้เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ปีนี้ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานทั่วประเทศร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี สร้างความประทับใจ อำนวยความสะดวก ความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ให้เกิดความประทับใจกลับมาท่องเที่ยวไทยอีก

 

นายเสริมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับปีนี้มีสถานที่จัดงานทั้งในกรุงเทพฯ เช่น วัดอรุณราชวราราม คลองผดุงกรุงเกษม คลองโอ่งอ่างและต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ สุโขทัย เชียงราย พระนครศรีอยุธยา ร้อยเอ็ด นครศรีธรรมราช สมุทรสงคราม เป็นต้น ที่ประชุมเห็นด้วยในการขอความร่วมมือไม่เล่นพลุ ดอกไม้ไฟ ประทัดยักษ์  รณรงค์ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทงและขณะขับขี่ยานพาหนะ การควบคุมป้องกันโรคติดต่อ  การประดิษฐ์กระทงด้วยวัสดุในท้องถิ่นหรือวัสดุที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เชิญชวนคนไทยแต่งไทยหรือชุดท้องถิ่นมาร่วมงานประเพณีลอยกระทงและการประชาสัมพันธ์งานทั้งในกรุงเทพฯและจังหวัดต่างๆ 

 

นายเสริมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า  ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการส่งเสริมประเพณีลอยกระทง   ในปี 2566 ครอบคลุมในประเด็นคุณค่าสาระของวัฒนธรรมประเพณี วิถีอัตลักษณ์ท้องถิ่น การท่องเที่ยวและสุขภาพ ตลอดจนความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ดังนี้ 1. จัดกิจกรรมเน้นคุณค่าและสาระของวัฒนธรรม ประเพณี การท่องเที่ยวและสุขภาพ โดยคำนึงถึงความเหมาะสม ความหลากหลายของแต่ละท้องถิ่น  2. ส่งเสริมให้จังหวัดต่างๆ ร่วมจัดกิจกรรมทางศาสนา ความเชื่อ ในประเพณีลอยกระทงอย่างเหมาะสม 3. รณรงค์ให้ประชาชนสืบสานคุณค่าสาระและสิ่งที่ควรทำของประเพณีลอยกระทง รักษาความสะอาดแม่น้ำ ลำคลอง ประดิษฐ์กระทงด้วยวัสดุในท้องถิ่นหรือวัสดุที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และการปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาหรือความเชื่อที่นับถือ 4. สนับสนุนศิลปินพื้นบ้านในการจัดกิจกรรมการละเล่น และการแสดงทางวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น และการแสดงออกถึงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น 5. ผู้เข้าร่วมงาน ควรคำนึงถึงหลักสิทธิ มนุษยชน เช่น การไม่คุกคามทางเพศ การไม่เล่นประทัด พลุ ดอกไม้ไฟในที่สาธารณะ และการไม่สร้าง ความวุ่นวายหรือความเดือดร้อนต่อผู้อื่นในที่สาธารณะ เป็นต้น 6. ขับขี่ยานพาหนะและใช้ถนนหนทางให้ปฏิบัติตาม กฎหมาย กฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมถึงช่วยสอดส่อง หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ในกรณีพบเห็นผู้ที่ปฏิบัติตนไม่เหมาะสม 7. การดำเนินการจัดงานตามคำแนะนำในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด โรคติดเชื้อของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และการรักษาความปลอดภัยในด้านอื่น ๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 8. ส่งเสริมภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเพณีลอยกระทงทั้งในระดับท้องถิ่น ประเทศ และระหว่างประเทศ 9. ส่งเสริมภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน ในการเผยแพร่คุณค่าสาระของประเพณีลอยกระทงที่แท้จริงของต่อชาวต่างชาติ 10.ส่งเสริมในการสร้างความตระหนักรู้ ต่อประชาชนเกี่ยวกับประเพณีลอยกระทงในประเทศไทยในฐานะที่เป็นมรดกภูมิปัญญาของชาติ สร้างความภาคภูมิใจและหวงแหนในประเพณีลอยกระทงต่อประชาชน 11. รณรงค์ให้ประชาชนสร้างอัตลักษณ์ความเป็นไทยในการเข้าร่วมกิจกรรม ประเพณีลอยกระทง เช่น แต่งกายด้วยชุดสุภาพผ้าไทย ผ้าท้องถิ่น หรือชุดไทยที่เป็นอัตลักษณ์ของแต่ละ ท้องถิ่น เป็นต้น 12. ส่งเสริมกิจกรรมที่มีความสร้างสรรค์ที่สามารถพัฒนาต่อยอดคุณค่าสาระลอยกระทง เพื่อเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของชุมชนและของประเทศ โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในชุมชน และยังคงอัตลักษณ์ของความเป็นท้องถิ่น

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ วธ. จะมีการเก็บข้อมูลเทศกาลประเพณีลอยกระทงในประเทศไทยเตรียมเสนอขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ  (ยูเนสโก)  ในปี 2567 ด้วย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

เริ่มแล้ว 9 ประเทศอาเซียนร่วมเทศกาล อาเซียนปันหยี ที่อินโดนีเซีย

 

เริ่มแล้ว 9 ประเทศอาเซียนร่วมเทศกาลอาเซียนปันหยี หรือ “อิเหนา” ที่อินโดนีเซีย วธ.ขับเคลื่อนงานด้านการต่างประเทศ ส่งเสริมบทบาททางวัฒนธรรมของไทยในเวทีอาเซียนใน ASEAN Panji Festival 2023 วันที่ 7 – 28 ตุลาคมนี้ ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ฉลองในวาระครบรอบ 6 ปี ในการขึ้นทะเบียนปันหยีเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก (Memory of the World: MOW)

 

นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายกรมศิลปากรในการส่งคณะศิลปินนักแสดงเข้าร่วมจัดการแสดงปันหยี หรืออิเหนา ในงานเทศกาลอาเซียนปันหยี 2023  ระหว่างวันที่ 7 – 28 ตุลาคม 2566 ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย) ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม การวิจัย และเทคโนโลยี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 6 ปี ในการขึ้นทะเบียนปันหยีเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก (Memory of the World: MOW) อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความรู้และความเข้าใจในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมร่วมของภูมิภาค ทั้งด้านประวัติศาสตร์ ความสำคัญทางวัฒนธรรม รูปแบบการนำเสนอและเทคนิคการแสดง การแต่งกายและดนตรี รวมถึงพัฒนาการและความท้าทายร่วมของวรรณกรรมปันหยีโดยผู้เข้าร่วมเทศกาล ประกอบด้วย ประเทศสมาชิกอาเซียนจาก 9 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม 

 

ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า อิเหนา เป็นวรรณกรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และยังคงเป็นวรรณกรรมสำคัญที่ใช้สำหรับจัดทำการแสดงมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นวรรณกรรมร่วมที่แพร่หลายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถสะท้อนคติ ความคิดความเชื่อ ค่านิยมของสังคม ขนบประเพณีของแต่ละประเทศ การส่งศิลปินนักแสดงเข้าร่วมเทศกาลดังกล่าวจึงเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้และความเข้าใจในการนำเสนอปันหยีหรืออิเหนาผ่านการแสดงและการตีความตามบริบทของแต่ละประเทศ รวมถึงจะเป็นการสร้างเครือข่ายเพื่อพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการด้านงานสร้างสรรค์ศิลปะการแสดงในอนาคต ตามแนวนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรมในการมุ่งพัฒนาและเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมกับต่างประเทศ และการส่งเสริมบทบาททางวัฒนธรรมของไทยในเวทีโลก

 

ในโอกาสนี้ นายลสิต อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ได้เข้าร่วมพิธีเปิดและรับชมการแสดงอาเซียนปันหยี ในวันที่ 13 ตุลาคม 2566 ณ เมืองยอกยาการ์ตา โดยกล่าวว่า สำนักการสังคีต กรมศิลปากรได้ร่วมส่งศิลปินนักแสดงหญิง จำนวน 6 คน ร่วมจัดการแสดงในเทศกาลอาเซียนปันหยี 2023 โดยการแสดงแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การแสดงรายประเทศ และการแสดงรวมประเทศ (Finale) โดยประเทศไทยได้รับมอบหมายให้จัดการแสดงในตอน พิธีมงคลสมรสของปันจี อีนูเกอร์ตาปาตี (Panji Inukertapati) กับกาลุห์อาเยง (Galuh Ajeng) ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องตอนที่ไม่ปรากฏในวรรณกรรมอิเหนาของประเทศไทย จึงเป็นการประดิษฐ์ท่ารำตีบทตามเนื้อเรื่องของประเทศอินโดนีเซีย และใช้เสียงเพลงจากวงปี่พาทย์บรรเลงประกอบการรำตีบทเพื่อสื่อความหมายในการดำเนินเรื่องในรูปแบบละครใน โดยในส่วนของการแสดงรวมประเทศ (Finale) นางสาวศรีสุคนธ์ บัวเอี่ยม นาฏศิลปินอาวุโส สำนักการสังคีต กรมศิลปากร ได้รับคัดเลือกจากผู้กำกับการแสดงให้รับบท ปันจี อีนูเกอร์ตาปาตี หรือ อิเหนา ซึ่งเป็นตัวละครเอกของเรื่อง นับเป็นเกียรติสำหรับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง การแสดงอาเซียนปันหยีจะดำเนินการจัดการแสดงไปยังอีก 4 เมือง ได้แก่ เกดิรี สุราบายา มาลัง และสุราการ์ตา (โซโล) รวมถึงกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Workshop) ระหว่างศิลปินนักแสดงอาเซียนร่วมกับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ตลอดทั้งเดือนตุลาคมนี้

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

Thailand Biennale ปักหมุด 19 พ.ย. 66 เปิดพาเหรดและประติมากรรม 18 อำเภอ

 

จังหวัดเชียงราย ร่วมกับสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จัดการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการการจัดมหกรรมศิลปร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale,Chiang Rai 2023 และการประชุมคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์โครงการการจัดมหกรรมศิลปร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale,Chiang Rai 2023 ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม  2566 เวลา 13.30 น.

ณ ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ผ่านระบบซูม นายประสพ เรียงเงิน ประธานการประชุม พร้อมด้วยคณะกรรมการดำเนินงานฯ ,คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ  จังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงษ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย  พร้อมด้วย นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย นายสรรเสริญ ศีติสาร รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย  นางสาวพลอยไพรินทร์ คุณมาก แทนผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย นายโชติศิริ ดารายน นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและนักประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย นายสุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ นางสาววัจนีย์ บุญเจ็น ผู้จัดการขัวศิลปะ นายนิพนธ์ ตาตน รองผู้จัดการขัวศิลปะ พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมฯ

          ที่ประชุมร่วมปรึกษา หรือเพื่อเตรียมการจัดงานและการประชาสัมพันธ์งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ดังนี้

     1.รับทราบความคืบหน้าการลงพื้นที่ของศิลปิน และการดำเนินโครงการการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023

     2.ร่วมหารือการเตรียมความพร้อมกิจกรรม และการเตรียมความพร้อมรับรองแขกคนสำคัญ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และศิลปิน     

     3.รับทราบรายงานการดำเนินงานด้านประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมา โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย และนางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ได้รายงานต่อที่ประชุมถึงการดำเนินงานของจังหวัดเชียงราย ด้านประชาสัมพันธ์การจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัย Thailand Biennale, Chiang Rai  2023

     4.นายสุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ ได้แจ้งถึงความก้าวหน้าการ

เตรียมในการจัดขบวนพาเหรดและประติมากรรมของ 18 อำเภอ และแผนการเตรียมงานวันพิธีเปิดขบวนพาเหรดและประติมากรรม 18 อำเภอ ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566

     5.ที่ประชุมร่วมกันหารือแผนการและแนวทางการประชาสัมพันธ์ในก้าวต่อไปของการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัย Thailand Biennale, Chiang Rai  2023 

โดนนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมาย นางพัชรนันท์ แก้วจินดา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ในฐานะคณะกรรมการดำเนินงานฯ และข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมประชุมดังกล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

พัชรนันท์ แก้วจินดา,นิติกร ปันแก้ว : รายงาน 
อภิชาต กันธิยะเขียว วรพล จันทร์คง สุทธิดา ตราชื่นต้อง : ภาพ 
อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการข่าว
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News