Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเปิดงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2023

 

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 66 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปยังสวนไม้งามริมน้ำกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ทรงเปิดงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2023 (Chiangrai Asean Flowers Festival 2023) ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดเชียงราย ส่วนราชการ สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2567 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับจังหวัดเชียงราย ก่อให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่พื้นที่จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

 

สำหรับงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2023 เป็นการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตในท้องถิ่น โดยบริเวณสวนไม้งามริมน้ำกก มีกิจกรรมทั้งกลางวันและกลางคืน ปีนี้มาภายใต้แนวคิด “When You Wish Upon A Star คำอธิษฐานผ่านดอกไม้ถึงดวงดาว” เนรมิตให้เป็นสวนไม้ดอกที่มีชีวิตในยามค่ำคืน การแสดง แสง สี เสียง ประติมากรรมศิลปะร่วมสมัย, อุทยานกล้วยไม้ และสวนไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวนานาพันธุ์, การแสดงไฟประดับสวยงาม, การจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ, การจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ของดีเชียงราย, ข่วงวัฒนธรรมแสดงวัฒนธรรมชนชาติพันธุ์ 17 ชาติพันธุ์ และนิทรรศการของส่วนราชการและภาคเอกชนต่าง ๆ พร้อมกระจายความสุขไปยัง 4 อำเภอ อาทิ อำเภอดอยหลวง อำเภอป่าแดด อำเภอแม่จัน และอำเภอพญาเม็งราย เพื่อก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ของพี่น้องประชาชนอีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

“โรงแรม” ยังติดเป็นธุรกิจโดดเด่น 67 รับปัจจัยบวกในการเปิดประเทศและมาตรการภาครัฐ

 

16 ธ.ค.2566 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจเชิงลึกเพื่อเฟ้นหาธุรกิจดาวเด่น 5 ธุรกิจ ปี 2566 โดยใช้ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์จากหลายส่วน เช่น จำนวน/อัตรา อัตราการเลิก การเพิ่มทุนปัจจัยภายนอก แนวโน้มธุรกิจ กระแสความนิยม นโยบายภาครัฐ

พบว่า ปี 2566 ธุรกิจดาวรุ่งมาแรง คือ ธุรกิจที่เคยประสบปัญหาช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กลับมาฟื้นตัวจนมีความโดดเด่นอีกครั้ง ขณะที่ธุรกิจที่เสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยจะสอดคล้องกับกระแสธุรกิจรักษ์โลกและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมีผลจากเทคโนโลยีดิจิทัล บริการ รูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ที่ส่งผลกระทบและเปลี่ยนแปลงมูลค่าบริการและสินค้าที่มีอยู่ของอุตสาหกรรมเดิม (Digital Disruption)

“ธุรกิจท่องเที่ยว” มาแรง

นางอรมน กล่าวว่า ปี 2566 ธุรกิจที่มีความโดดเด่นและมาแรง 5 ธุรกิจ ประกอบด้วย

1.กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจจัดนำเที่ยว ตัวแทนธุรกิจการเดินทาง โรงแรม รีสอร์ท ห้องชุด สปา และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

2. กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐและการผลักดันให้ไทยเป็น “บ้านหลังที่สอง” สำหรับชาวต่างชาติที่มีศักยภาพ

3. กลุ่มธุรกิจสมุนไพร จากกระแสนิยมดูแลรักษาสุขภาพ ส่งผลให้สมุนไพรเข้ามาเป็นหนึ่งในวัตถุดิบจากธรรมชาติที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม (Health and Wellness)

4. กลุ่มธุรกิจการติดตั้งไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสอดรับกระแสรถยนต์ EV ของผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่เน้นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี และสนองความต้องการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและร่วมรับผิดชอบต่อสังคม

5. กลุ่มธุรกิจ e-Commerce หรือ ธุรกิจการค้าปลีกสินค้าออนไลน์ หลังจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมใช้ช่องทางออนไลน์ในการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการเกือบทุกประเภทปรับตัวขยายช่องทางการตลาดผ่านทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ส่องธุรกิจดาวรุ่งปี 2567

นางอรมน กล่าวว่า ธุรกิจที่มีความโดดเด่นและน่าจับตามอง ในปี 2567 แบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ 9 ประเภทธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ถือเป็นธุรกิจที่ได้รับผลดีจากปัจจัยบวกในการเปิดประเทศและมาตรการภาครัฐ

โดยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ห้องชุด เกสต์เฮ้าส์ จัดนำเที่ยว แลกเปลี่ยนเงินตรา ตัวแทนการเดินทาง ,ธุรกิจการจัดประชุม แสดงสินค้า คอนเสิร์ต

 

ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องรูปแบบการใช้ชีวิต กลุ่มธุรกิจนี้ ถือเป็นธุรกิจที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบัน มีการปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เช่น ธุรกิจดูแลสัตว์เลี้ยง ธุรกิจขายปลีกอาหารและอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ธุรกิจขายส่งอาหารสัตว์ ธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจรีไซเคิล ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า

ส่วนกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริการดิจิทัลและซอฟต์แวร์ เป็นกลุ่มธุรกิจตอบโจทย์โลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลและนวัตกรรม ทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ ครอบคลุมทุกช่วงวัยของประชากรในสังคม มีมูลค่าทางการตลาดระดับสูง เช่น ธุรกิจบริการ e-Commerce บริการชำระเงินแบบดิจิทัล ให้บริการชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการผ่านทางออนไลน์ เป็นต้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
BREAKING NEWS

ข่าวเด่นน่าติดตามวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2566

คลิกที่ภาพ

 

ข่าวเด่นน่าติดตามวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2566

 

1.นายกฯเศรษฐา” อวดโครงการแลนด์บริดจ์ ดึงนักธุรกิจลงทุนเพิ่ม 7 ค่ายรถญี่ปุ่นพร้อมลงทุนในไทย

 

2.เผยโทษ “สส.พัฒนา” เพื่อไทย หาเสียงเกินเวลา หากผิดจริง คุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับ 1 หมื่น

 

3.นายกฯ เศรษฐา” แจง ลาราชการ 19-22 ธ.ค.ขอใช้เวลาดูแล “คุณแม่-ลูก” หยุดแต่ทำงาน 24 ชม.ติดต่อได้ตลอด

 

4.อนุทิน” รับโล่ “สภากาชาดไทย” เชิดชูภารกิจ “หัวใจติดปีก” ประกาศบินทำภารกิจจนไม่เหลือแรง

 

5.โปรดเกล้าฯ พ.ร.ฎ.จ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ เงินอื่น มีผล 1 ม.ค.67

 

  1. “พิธา” เชื่อ “ระเบียบราชทัณฑ์” ไม่เอื้อ “ทักษิณ” ไม่สนยังอยู่ชั้น 14 หรือไม่

 

7.ศาลตัดสิน นักข่าวในเครือหนังสือพิมพ์ Mirror Group แฮกโทรศัพท์เจ้าชายแฮร์รี่ สั่งชดเชย 6 ล้านบาท

 

8.ฮังการีขวาง EU ออกงบระยะยาว 5 หมื่นล้านยูโร ช่วยยูเครน

 

9.ตู้โดยสารรถไฟใต้ดินปักกิ่งของจีน หลุดจากขบวน บาดเจ็บกว่า 30 คน

ติดตามข่าวได้ที่นครเชียงรายนิวส์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

เชียงราย จัดกิจกรรมสภากาแฟ ยามเย็น บรรยากาศในสวนดอกไม้อาเซียน 2023

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 66  และที่สวนไม้งามริมน้ำกก ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นำโดยนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และนายพุฒิพงษ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรม “สภากาแฟ” ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 

 

มีนายศรัณยู มีทองคำ นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อพบปะหารือข้อราชการระหว่างหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนของจังหวัดเชียงราย ซึ่งหน่วยงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย 

 

 

ได้ขอบคุณส่วนราชการต่างๆ ที่ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมสภากาแฟ และเข้าร่วมกิจกรรมมาโดยตลอด ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มุ่งหวังให้หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนของจังหวัดเชียงราย ได้มีโอกาสมาพบปะหารือกันอย่างใกล้ชิด จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการเกิดประโยชน์ต่อประชาชน โดยตอนหนึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ฝากให้หัวหน้าส่วนราชการและทุกอำเภอช่วยกันรณรงค์ป้องกันหมอกควันไฟป่า ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยตรง

 

 

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสื่อมวลชนที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมสภากาแฟวันนี้ และได้ประชาสัมพันธ์การจัดงานมหกรรมดอกไม้อาเซียน เชียงราย Chiangrai Flower and Art Festival 2023 ว่า “งานมหกรรมดอกไม้อาเซียน เชียงราย สวนไม้งามริมน้ำกก จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในแต่ละปีจะจัดสวนดอกไม้ให้ออกมาเป็นที่ประทับใจของพี่น้องประชาชนคนเชียงรายและเป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยว ในปีที่ผ่านมามีการกระจายการจัดงานไป 4 อำเภอ เพื่อกระจายนักท่องเที่ยว กระจายเศรษฐกิจ กระจายรายได้ 
 
 
 
ให้เกิดขึ้นกับประชาชนในแต่ละพื้นที่แต่ละอำเภอ ตามนโยบายเที่ยวเชียงรายเที่ยวได้ทั้งปี มีดีทุกอำเภอ สำหรับปีนี้จัดงานภายใต้คำว่า “คำอธิษฐานผ่านดอกไม้ถึงดวงดาว” รูปแบบการจัดงานเป็นการรังสรรค์งานดอกไม้จัดแบบศิลปะมีการนำประติมากรรมซึ่งรังสรรค์โดยศิลปินในจังหวัดเชียงรายมาออกแบบในแต่ละแห่ง ในขณะเดียวกันได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้เห็นในประเทศไทยมารังสรรค์ผ่านเป็นกระบวนการจัดงานเพื่อให้เกิดประสบการณ์ใหม่ๆ กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในงาน และมีการจัดแสดงผลงานประติมากรรม Art Carnival จากขบวนพาเหรดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 มาจัดแสดงในงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียน เชียงราย ในครั้งนี้ด้วย
 
สำหรับการจัดกิจกรรม “สภากาแฟ” ครั้งที่ 4 เทศบาลนครเชียงราย จะเป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรมต่อไป
 
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

หนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ “มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และ adventure”

 

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 66 ที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกล่าวเปิดงาน “หนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ Nation Parks to Remember Winter Festival ” โดยมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผู้บริหารกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน ประชาชน นักท่องเที่ยวและสื่อมวลชน เข้าร่วมงานร่วมงาน

 

พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ภาคเหนือของประเทศไทยถือเป็นพิกัดท่องเที่ยวยอดนิยมโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวซึ่งมีอากาศหนาวเย็น สถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งดอกไม้เมืองหนาว น้ำตก และปรากฏการณ์เหมยขาบ นักท่องเที่ยวจึงนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในช่วงปลายปีซึ่งเป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองของคนทั่วโลก 
 
 
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะหน่วยงานหลักของประเทศไทยที่บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่กำกับดูแลแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติโดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมากถึง 156 แห่ง และเป็นอุทยานแห่งชาติที่ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว 133 แห่ง กระทรวงได้เตรียมการรองรับนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการผลักดันและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในระยะ Quick Win ซึ่งมีเป้าหมายผลักดันยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 ให้ได้ 28 ล้านคน กรมอุทยานแห่งชาติ ไ
 
 
ด้จัดเตรียมความพร้อมในเรื่องของความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวตามวิสัยทัศน์ที่ว่า “ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามแนววิถีใหม่ ภายใต้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” การทำงานคงจะสำเร็จลุล่วงไม่ได้หากขาดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนและผู้ประกอบการ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือเป็นปฏิบัติตามระเบียบและดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ทางกระทรวง
 
 
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทุกคนจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อพิทักษ์รักษาทรัพยากรทางธรรมชาติที่สวยงาม มีคุณค่าเหล่านี้ไว้ให้ลูกหลานของพวกเราในอนาคตให้ได้ชื่นชมความงามเช่นนี้ตลอดไป สำหรับอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในช่วงงาน “หนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ Nation Parks to Remember Winter Festival ” จะเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมภายในถ้ำได้ถึงโถงที่ 3 โดยคำนึงถึงปลอดภัยเป็นหลัก
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ช่วย 111 คน กลับไทย หลังถูกหลอกทำงานในรัฐฉานตอนเหนือ ประเทศเมียนมา

 

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 66 พ.อ.ณฑี ทิมเสน ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง และประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ฝ่ายไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้ารับคนไทยจำนวน 111 คน ซึ่งไปทำงานหรือถูกหลอกให้ไปทำงานในรัฐฉานตอนเหนือ ประเทศเมียนมา กลับคืนสู่ประเทศไทยโดยมี พ.อ.ตู่ล่า ส่อ วิน โซ ผบ.ยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา นำทั้งหมดมาส่งมอบให้ฝ่ายฝ่ายตรงจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยทั้งหมดถูกส่งมาจากเมืองแผนโดยเจ้าหน้าที่ว้า และ จ.เชียงตุง โดยเจ้าหน้าที่เมียนมา

 
ทั้งหมดแบ่งเป็นชายจำนวน 74 คน และหญิงจำนวน 37 คน ทั้งนี้พบว่าทั้งหมดเป็นผู้ที่มีรอยืนยันหมายจับคดีในฝั่งไทยจำนวน 10 คน เป็นชาย 8 คน และหญิง 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปส่ง สภ.แม่สาย ส่วนที่เหลืออีก 101 คนนั้น หลังทำการตรวจสุขภาพ และหลักฐานต่างๆ แล้ว ได้พาไปพักที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน (อส.) จ.เชียงราย และมูลนิธิศูนย์ชีวิตใหม่ในเขต อ.เมืองเชียงราย ในกลุ่มผู้ได้รับการช่วยเหลือนี้พบว่ายังมีหญิงชาวเวียดนามอยู่ด้วย 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่เมียนมาได้ให้การช่วยเหลือเพื่อให้กลับประเทศเวียดนามได้อย่างปลอดภัยแล้ว

 
พ.อ.ตู่ล่า ส่อ วิน โซ ผบ.ยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก กล่าวว่ากองทัพเมียนมายินดีที่จะให้การช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกในการส่งตัวคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนให้กลับประเทศไทย เพราะมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพของทั้ง 2 ประเทศ


ด้าน พ.อ.ณฑี กล่าวว่าการช่วยเหลืองของทางการเมียนมาในการพาคนไทยกลับประเทศถือเป็นครั้งที่ 4 แล้ว และมีผู้ได้รับการส่งตัวกลับจำนวน 179 คน ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาถือว่าเกิดจากความสัมพันธ์ของกองทัพทั้งของไทยและเมียนมาที่มีความแน่นแฟ้น และจากนี้จะให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกันแบบนี้ตลอดไป

 
รายงานสำหรับชาวไทยทั้ง 111 คนพบว่ามีอายุตั้งแต่ 16-34 ปีโดยผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดเป็นหญิงสาวชาว จ.เชียงใหม่ ทั้งหมดทำงานหรือถูกหลอกให้ไปทำงานอยู่ในที่เมืองแผน เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ประเทศเมียนมาซึ่งติดกับชายแดนประเทศจีน หลายคนถูกบังคับให้ทำงานหลอกให้คนไปลงทุนออนไลน์หลายเดือน หากฝ่าฝืนก็จะถูกทำร้ายร่างกาย กระทั่งทางการจีนมีมาตรการปราบปรามขบวนการหลอกลวงหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประกอบกับมีทีมงานภาคประชาสังคมช่วยเหลือการค้ามนุษย์ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน องค์กรเอกชน (NGO) ฯลฯ ช่วยประสานงานกับทุกฝ่ายทั้งในและต่างประเทศ จนเมื่อทางการจีนส่งกำลังตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ว้าเข้าปราบปรามในเขตเมืองแผนอย่างหนักตั้งแต่เดือน ต.ค. – พ.ย.2566 ทำให้ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือออกมาดังกล่าว โดยสถานการณ์แตกต่างจากเมืองเล่าก์ก่ายในเขตปกครองตนเองโกกั้งซึ่งอยู่ตอนเหนือขึ้นไปอีกเพราะในเขตโกกั้งมีกองกำลังพันธมิตรนำโดยกองทัพโกกั้ง (MNDAA) บุกเข้าโจมตีเขตนี้ซึ่งอยู่ในการปกครองของกลุ่มโกกั้งด้วยกันจนทำให้มีคนไทยที่ทำงานอยู่หนีภัยสงครามออกมาเป็นจำนวนมากดังกล่าว
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : รัชพล งามกระบวน สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนทั่วถึงและสอดคล้องกับความต้องการเกษตรกร

 

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 66 ที่ภายในวัดสันกองพัฒนาราม ตำบลโรงช้าง อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 1 เพื่อให้เกษตรกรที่มีปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการบริการทางวิชาการ และได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจรในคราวเดียวกัน 


โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องในการให้บริการและร่วมแก้ไขปัญหาทางการเกษตรแก่เกษตรกรร่วมกัน โดยมี นายอำเภอป่าแดด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปกครองจังหวัดเชียงราย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันให้บริการแบบครบวงจรในครั้งนี้ด้วย

 

ว่าที่ ร.ต.ดุจเดี่ยว วงศ์ภักดิ์ เกษตรจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ เป็นการให้บริการเกษตรกรในการแก้ไขปัญหาการผลิตด้านการเกษตรได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร จึงได้มีการบูรณาการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน 


โดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหาให้ได้รับการบริการทางการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวิจัยโรคพืช โรคสัตว์ ทางประมง รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตร เสริมเพิ่มเติมควบคู่กันไป ร่วมกันจัดกิจกรรม จำนวน 31 หน่วยงาน โดยมีเป้าหมายเป็นเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล จำนวนกว่า 120 คน และให้บริการแบบครบวงจรในคราวเดียวกัน มีประชาชน และเกษตรกรในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

 

โอกาสนี้ นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยังได้เป็นประธานพิธีเปิด Kick Off เกษตรกรเชียงรายร่วมใจไม่เผา “Chiang Rai Zero Burn” โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อปท. บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทปูนซีเมนต์ไทย (ลำปาง) และผู้แทนจากหน่วยงานองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของเกษตรกรเชียงรายร่วมใจไม่เผา เนื่องด้วยในห้วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายนของทุกปีมักมีการเผากำจัดวัชพืช และเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรทำให้เกิดปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 


ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการแก้ไขเพื่อเป็นการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนได้เข้ามามีบทบาทในการป้องกันและปก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่อาจจะเกิดขึ้นและเป็นการผลักดันนโยบายงดการเผาในพื้นที่การเกษตรของภาครัฐผ่านโครงการเกษตรปลอดการเผา (Chiang Rai Zero Burn) เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของจังหวัดเชียงราย อีกด้วย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

นายกฯ เชื่อมั่นกระตุ้นการลงทุนไทย-ญี่ปุ่น มั่นใจทุกโครงการที่หารือวันนี้จะเกิดและเห็นผลสำเร็จในรัฐบาลนี้

 

วันนี้ 15 ธันวาคม 2566 เวลา 16.30 น. (เวลาท้องถิ่น ณ กรุงโตเกียว ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพ 2 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ในโอกาสเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวสรุปภารกิจวันแรกในวันนี้ ช่วงเช้าได้พบหารือกับนายไซโต เค็น (H.E. Mr. Saito Ken) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรัฐมนตรีที่เพิ่งรับตำแหน่งใหม่และได้พบกับนายกรัฐมนตรีเป็นคนแรกภายหลังรับตำแหน่งได้ยืนยันการค้าและความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทย

ในส่วนของการสัมมนา BOI มีนักธุรกิจญี่ปุ่นจำนวนกว่า 500 คนร่วมเข้ารับฟังการสัมมนาเป็นโอกาสยืนยันความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นที่มีมาอย่างยาวนานและการลงทุนร่วมกัน และประเด็นที่จะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ พลังงานสีเขียว ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โครงการขนาดใหญ่ของไทย Landbridge 

การหารือกับภาคเอกชนที่สำคัญได้แก่ 

  1. บริษัท Mitsui พูดคุยเกี่ยวกับการตรวจเจาะการส่งก๊าซ ซึ่งเป็นประเด็นที่สนใจและมีความชำนาญ 
  2. บริษัท Honda เป็นบริษัทที่ทำการลงทุนในประเทศไทยมานาน มีการลงทุนเยอะ มีแผนที่จะลงทุนอีกห้าหมื่นล้านบาทภายในห้าปีข้างหน้า โดยนายกรัฐมนตรีให้เร่งการลงทุน EV หรือ Plug-in เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
  3. บริษัท Nissan ยืนยันที่จะลงทุนกับประเทศไทยอย่างต่อเนื่องโดยเป็นบริษัทที่เริ่มทำธุรกิจด้าน EV แล้ว
  4. บริษัท Mitsubishi สนใจที่จะผลิตรถ Pickup EV ซึ่งเป็นประเภทรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นโอกาสในการพัฒนาพลังงานสะอาด Zero Carbon
  5. บริษัท Isuzu พร้อมลงทุน 32,000 ล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อห้าปีที่แล้วที่มีการลงทุน 20,000 ล้านบาทถือเป็นจำนวนการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีได้เร่งให้เริ่มลงทุนเร็วขึ้นและใช้ไทยเป็นฐานการส่งออก
  6. บริษัท Mazda มีทั้ง supply chain และฐานการผลิตในประเทศไทย เป็นบริษัทที่ใช้ไทยเป็นฐานและใช้ซัพพลายในไทยเยอะ
  7. บริษัท Suzuki ลงทุนในไทยมานานแล้ว และขอให้ไทยส่งเสริมการลงทุนต่อ โดยในนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ผลิตมอเตอร์ไซค์ EV ในประเทศไทย
  8. บริษัท Toyota เป็นบริษัทที่มีการลงทุนใหญ่ที่สุดอยู่ในไทยมากกว่า 60 ปีแล้ว รุ่น Hilux ขายดีที่สุด ทั้งนี้ ประเด็นที่โตโยต้าห่วงกังวลคือเรื่อง Charging Station โดยเมื่อรัฐบาลให้ความมั่นใจเรื่องนี้ ทางโตโยต้าก็จะเร่งการผลิต EV ให้เร็วขึ้น อีกส่วนคือ Toyota ทำเรื่อง Leasing ซึ่งตรงกับประเด็นที่รัฐบาลตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา รัฐบาลได้เสนอให้โตโยต้าช่วยเรื่องการปรับหนี้ โดยทางโตโยต้าก็รับปากจะดูแลให้

ทั้งนี้ เมื่อได้หารือวันนี้แล้วทำให้ตระหนักถึงความสำคัญกับความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นมากขึ้น และเมื่อหารือก็มีความสนใจด้านพลังงานไฮโดรเจน พลังงานทางเลือก และพลังงานน้ำ

โดย นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า 40% ของรถยนต์ที่ขายในช่วงมอเตอร์โชว์ปีนี้เป็นรถยนต์ EV ซึ่งยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่าจะเป็นตัวเร่ง Charging Station / High Speed Charging ในประเทศไทยให้มากขึ้น

นายกรัฐมนตรียืนยันพอใจในการเดินทางครั้งนี้มาก ทีมงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการบ้านมาอย่างดี ทำให้การพูดคุยกันเป็นไปด้วยมิตรภาพ เปิดโอกาสให้มีการเร่งการลงทุนได้อย่างลงตัว มั่นใจว่าโครงการเหล่านี้ทุกโครงการจะเกิดขึ้นภายในสี่ปี สำเร็จเป็นรูปธรรมภายในรัฐบาลนี้ 

ในส่วนกรณีที่คุณพิธาประเมินการทำงานของรัฐบาลในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา นายกฯ กล่าวว่ารัฐบาลได้ทำงานอย่างชัดเจน อะไรที่ทำได้ทำก่อน ลดค่าไฟ ลดค่าน้ำมัน พักหนี้ กระตุ้นการท่องเที่ยว สนับสนุนการลงทุน และไม่หนักใจกรณีที่ฝ่ายค้านจะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลก็มีหน้าที่ชี้แจงการทำงานให้ชัดเจน รวมทั้งพยายามที่จะทำงานตาม Roadmap ซึ่งก็คือตั้งใจทำงานเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนไทยให้ดีขึ้น

โดยในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ตอบว่าช่วงเวลาวันที่ 19 บ่าย ถึงเที่ยงวันที่ 22 นายกรัฐมนตรีลางานไปพักผ่อน จะพาคุณแม่ และลูกลูกไปเที่ยวแต่ก็ยังติดต่อได้ตลอดเวลา พร้อมทำงาน ตามที่เสนอตัวเข้ามาทำงานเพื่อแบกความหวัง และความฝันของประชาชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

“TRUE-DTAC” เผยควบรวมกิจการสัญญาณดีขึ้นและแพ็กเกจไม่ได้แพงมีให้เลือกหลากหลาย

 

ล่าสุด ทาง ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ออกมาชี้แจงถึง 6 ข้อเท็จจริงที่มีการเข้าใจผิดดังนี้

 

  1. คุณภาพสัญญาณแย่ลงหลังควบรวม?

ข้อเท็จจริง:  คุณภาพสัญญาณไม่ได้แย่ลงหลังควบรวมโดยในทางกลับกันภายหลังการควบรวมนั้น สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5G และ 4G ของลูกค้าทรูและดีแทค ดีขึ้นทันที จากการโรมมิ่งสัญญาณคลื่น 2600 MHz และ 700 MHz โดยทรูมุ่งมั่นการให้บริการโดยมีคุณภาพที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้บริการอยู่ตลอดเวลา และไม่มีเหตุผลใดๆที่ทรูจะดำเนินการใดๆ เพื่อให้คุณภาพสัญญาณแย่ลง

นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยจัดการโครงข่ายด้วย “Single Grid” ทำให้สัญญาณใช้งานดียิ่งขึ้น ลดการรบกวนของสัญญาณ และเพิ่มพื้นที่ใช้งานครอบคลุมทั่วไทยมากขึ้น คาดแล้วเสร็จภายในปี 2568

 

  1. มีการลดเสาสัญญาณทำให้คุณภาพสัญญาณแย่ลง

ข้อเท็จจริง: ไมมีการลดอุปกรณ์ส่งสัญญาณ (Cell  Site) แต่อย่างใด แต่มีผู้เข้าใจผิดว่า เสาโครงเหล็กคืออุปกรณ์ส่งสัญญาณ  (Cell  Site) แต่ความเป็นจริงเสาสัญญาณจะต้องประกอบด้วย เสาโครงเหล็ก (Tower) และ สถานีฐานระบบสื่อสัญญาณ  (Cell Site ) ซึ่งที่ผ่านมามีการปรับเสา (Tower) บางแห่งที่อยู่ในจุดซ้ำซ้อน

เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวน  นอกจากจะไม่มีการปรับลดระบบสื่อสัญญาณ  (Cell Site ) แล้ว ในทางกลับกัน ยังมีการติดตั้ง cell sites เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอีก 5,000 สถานีฐาน เพื่อขยายสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และทำให้ 5G ครอบคลุมพื้นที่และจำนวนประชากรได้ทั่วประเทศยิ่งขึ้น

 

  1. ปัจจุบันมีการขยายเครือข่าย 5 G ครอบคลุมแล้วหรือไม่ ลูกค้าแพ็กเกจไหนถึงมีสิทธิ์ใช้ 5G

ข้อเท็จจริง : ปัจจุบันโครงข่าย 5G ของทรู-ดีแทคครอบคลุม 90% และตั้งเป้าขยายให้ครอบคลุมประชากรถึง 97% ภายในปี 2568 ขณะที่โครงข่าย 4G ของทรู-ดีแทค ครอบคลุมประชากร 99% ซึ่งปัจจุบันหลังควบรวม ทุกแพ็กเกจสามารถใช้งาน 5G ได้ หากเครื่องมือถือที่ใช้งานรองรับ โดยไม่ต้องเปลี่ยนแพ็กเกจ ส่งผลให้ผู้ใช้บริการแพ็กเกจราคาประหยัดก็สามารถเข้าถึงบริการ 5G ได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนมาใช้แพ็กเกจใหม่

 

 

  1. ไม่สามารถใช้แพ็กเกจเดิมได้ต่อไป มีการบังคับให้ต้องเปลี่ยนเป็นแพ็กเกจราคาสูงขึ้น

ข้อเท็จจริง : ในการให้บริการตามปกติทุกแพ็กเกจมีกำหนดอายุการใช้งานตามสัญญา  ดังนั้น เมื่อจะครบกำหนดก่อนที่ปรับเปลี่ยนแพ็กเกจ บริษัทฯ จะมีการส่ง SMS แจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า 30 วัน โดยพิจารณานำเสนอแพ็กเกจที่น่าจะเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ลูกค้า และเพื่อให้การใช้บริการของลูกค้าเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากลูกค้าไม่ต้องการเปลี่ยนแพ็กเกจตามที่เสนอ ลูกค้ารายเดือนสามารถเลือกใช้งานแพ็กเกจเดิม หรือสมัครแพ็กเกจอื่นๆ ได้ตามปกติ และลูกค้าเติมเงินสามารถเลือกแพ็กเกจอื่นๆ ได้เช่นกัน

 

  1. แพ็กเกจราคาแพงขึ้น

ข้อเท็จจริง: มีการเสนอแพ็กเกจโทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวนมากและหลากหลายโดยแต่ละแพ็กเกจมีเงื่อนไขการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปเพื่อให้ผู้ใช้บริการเลือกแพ็กเกจที่ตรงกับความต้องการของตนมากที่สุด โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป ลูกค้าสามารถเลือกได้ทั้งแบบเติมเงินและรายเดือน

ขณะที่สิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับมีการเพิ่มคุณค่าที่หลากหลายที่นอกเหนือการบริการโทรคมนาคม (Non-Telco benefits) เพื่อเพิ่มการตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ลูกค้าในยุคปัจจุบัน    อาทิ คูปองเงินสด, TrueID, TrueX, ประกัน, ดูฟรี บอล EPL หนัง ซีรีส์, อาหารและเครื่องดื่มจากแบรนด์ดัง, ส่วนลดร้านค้าห้างสรรพสินค้า

 

  1. แพ็กเกจ Unlimited ไม่ Unlimited จริง?

ข้อเท็จจริง: บริษัทฯ ยังคงมีโปรโมชั่นแบบ Unlimited ให้ลูกค้าเลือกใช้งาน โดยสำหรับลูกค้ารายเดือนจะมีแพ็กเกจเน็ตไม่อั้นที่ความเร็วสูงสุดให้เลือกใช้งานได้ นอกจากนี้ สำหรับแพ็กเกจที่จำกัดปริมาณบนความเร็วสูงสุด (Volume) หลังจากมีการใช้งานครบปริมาณแล้ว

บริษัทฯ ได้ปรับความเร็วให้ลูกค้าใช้งานได้ต่อเนื่อง จากเดิมความเร็ว 384kbps เป็น 1Mbps – 6Mbps ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจของลูกค้า  สำหรับลูกค้าเติมเงินสามารถเลือกใช้แพ็กเน็ตไม่อั้นที่มีการใช้งานแบบจำกัดความเร็ว (Fixed speed) เลือกได้ตามความเร็วที่ต้องการ และ ระยะเวลาที่ต้องการใช้งาน (เช่น 1 วัน 7 วัน 30 วัน เป็นต้น)

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทรู คอร์ปอเรชั่น

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

องคมนตรี ตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ที่จังหวัดเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 เวลา 11.00 น. พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี และประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะจากส่วนกลาง ไปตรวจเยี่ยมพบปะพูดคุยกับคณะผู้บริหาร ครู บุคลากร และนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท) อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมี นายอำเภอเชียงแสน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ผู้แทนผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ นายอนวัช อุ่นกอง ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานการจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งแบบประจำและไป-กลับ รวมแล้ว 1,360 คน การดำเนินงานที่น่าสนใจ อาทิ การขับเคลื่อนวิถีราชประชานุเคราะห์ : จงรักภักดี มีคุณธรรมน้อมนำแนวทางพระราชดำริ โดยใช้แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญคือ โรงเรียนศาสตร์พระราชา วิทยาเขตกู่เต้า เป็นฐานเรียนรู้ให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง และการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์เชิงนโยบาย : โรงเรียนแห่งความสุข ปลอดภัย สะอาด น่ายล เป็นต้น ปีการศึกษาที่ผ่านมานักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกาาปีที่ 6 ศึกษาต่อระดับอาชีวศึกษา 25 คน ระดับอุดมศึกษา 116 คน โรงเรียนนายสิบทหารบก 2 คน และประกอบอาชีพควบคู่กับการเรียน 22 คน

 

จากนั้นเวลา 14.30 น. พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะจากส่วนกลางไปตรวจเยี่ยมพบปะพูดคุยกับคณะผู้บริหาร ครู บุคลากร และนักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 62 อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ซึ่งโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 62 เดิมชื่อโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์แม่จัน เปลี่ยนชื่อมาเป็นโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 62 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมามีนายนวกฤษต์ ปวนรัตน์ เป็นผู้อำนวยการ จัดการศึกษาแบบโรงเรียนประจำมีการเรียนการสอนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 มีนักเรียนจำนวน 757 คน โรงเรียนได้มีการจัดการเรียนการสอน ด้านวิชาการ การงานอาชีพ มีแหล่งเรียนรู้เสริมทักษะชีวิตให้นักเรียน อาทิ ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง, ฐานการเรียนรู้กิจกรรมพระราชดำริ ซึ่งมีกิจกรรมเครื่องเงินและการเจียระไนพลอยพระราชทาน และมีฐานการเรียนรู้ ดีดอยคาเฟ่ เปิดจำหน่ายเครื่องดื่ม อาหารคาว-หวานภายในโรงเรียน เป็นต้น
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News