Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เปิดสะพานบ้านดงเจริญ เชื่อมชุมชนเชียงราย เสริมพัฒนาคมนาคม

เปิดสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านดงเจริญ เชื่อมโยงชุมชนเชียงราย สร้างโอกาสการพัฒนา

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2567 ณ บ้านดงเจริญ หมู่ที่ 17 ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก บ้านดงเจริญ เชื่อมต่อบ้านป่าบง หมู่ที่ 10 ตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย โดยมีนายสะอาด ปัญญาดี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย เขต 4 เข้าร่วม พร้อมด้วยนายสุรพ์พลฎ์ ดุรงคชยานุรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าอ้อดอนชัย คณะผู้บริหาร ปลัดเทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ความสำคัญของโครงการสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและการเชื่อมโยงชุมชน จึงได้สนับสนุนงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำหรับการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กดังกล่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสัญจร ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลป่าอ้อดอนชัยและตำบลบัวสลี รวมถึงเป็นการยกระดับระบบการขนส่งและการคมนาคมของชุมชน

สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งนี้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างบ้านดงเจริญและบ้านป่าบง ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ ลดความยากลำบากในการขนส่งสินค้าเกษตร และเสริมสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในระยะยาว

ผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน

ประชาชนในพื้นที่ต่างแสดงความพึงพอใจต่อการก่อสร้างสะพานดังกล่าว ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางและการขนส่ง แต่ยังช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นบนเส้นทางที่ขาดความปลอดภัย นอกจากนี้สะพานแห่งนี้ยังเปิดโอกาสให้ชุมชนทั้งสองตำบลมีการเชื่อมโยงกันมากขึ้น สร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคมที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น

นายสุรพ์พลฎ์ ดุรงคชยานุรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าอ้อดอนชัย กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาชุมชนในท้องถิ่น การเชื่อมโยงตำบลป่าอ้อดอนชัยและตำบลบัวสลีช่วยลดช่องว่างทางการคมนาคม และเพิ่มโอกาสในการพัฒนาอย่างยั่งยืน

แผนพัฒนาต่อเนื่อง

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ได้กล่าวในพิธีเปิดว่า การพัฒนาสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กบ้านดงเจริญเป็นหนึ่งในโครงการที่สะท้อนถึงความตั้งใจขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายในการพัฒนาท้องถิ่น โดยจะมีการติดตามผลกระทบและการใช้งานสะพานอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ครอบคลุมทุกมิติ

เสียงสะท้อนจากชุมชน

นายคำปัน ผู้ใหญ่บ้านดงเจริญ ได้กล่าวขอบคุณองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายสำหรับการสนับสนุนที่สำคัญนี้ ชาวบ้านรู้สึกดีใจที่มีสะพานเชื่อมโยงชุมชน ซึ่งช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาซึ่งเส้นทางเดิมมักประสบปัญหาน้ำท่วมและเสื่อมโทรม

สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังเป็นสะพานแห่งความหวังที่จะเชื่อมโยงชุมชนให้เข้มแข็งและเติบโตไปพร้อมกัน สะพานแห่งนี้จึงเป็นตัวอย่างของความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

‘สนามบินเชียงราย’ เปิดระบบสแกนใบหน้า พร้อมอีก 5 สนามบิน เริ่มใช้ 1 พ.ย.

AOT เปิดตัวระบบไบโอเมตริกที่ 6 สนามบิน พร้อมรับผู้โดยสารทะลุ 120 ล้านคน

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เปิดตัวระบบไบโอเมตริกเพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้กับการเดินทางใน 6 สนามบินหลักของไทย โดยมีการติดตั้งเทคโนโลยี Facial Recognition เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้กับผู้โดยสารทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งระบบนี้จะเริ่มให้บริการกับผู้โดยสารภายในประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 และจะเปิดให้บริการแก่ผู้โดยสารระหว่างประเทศในวันที่ 1 ธันวาคม 2567

ภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่
  1. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
  2. ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.)
  3. ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.)
  4. ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.)
  5. ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.)
  6. ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)

เทคโนโลยีไบโอเมตริกเพื่อการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็ว

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ AOT กล่าวว่า ระบบ Biometric ถูกนำมาใช้ในสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวง เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่ เพื่อช่วยลดเวลารอคิวของผู้โดยสารในจุดบริการต่าง ๆ โดยผู้โดยสารสามารถลงทะเบียนไบโอเมตริกได้ง่าย ๆ ที่จุดเช็กอิน โดยมี 2 วิธี ได้แก่ การเช็กอินผ่านเจ้าหน้าที่และการเช็กอินผ่านเครื่องอัตโนมัติ หลังจากลงทะเบียนแล้ว ผู้โดยสารสามารถผ่านด่านตรวจสัมภาระ จุดตรวจค้น และจุดขึ้นเครื่องได้โดยไม่ต้องแสดงเอกสารการเดินทางซ้ำอีก

การเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยและลดปัญหาการแออัดในสนามบิน

การใช้งานระบบ Biometric ช่วยให้การระบุตัวตนทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ส่งผลให้การเดินทางราบรื่นและมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ผู้โดยสารสามารถผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ภายในสนามบินได้รวดเร็วขึ้น ลดความแออัดของสนามบิน และสร้างโอกาสให้ผู้โดยสารมีเวลามากขึ้นในการพักผ่อน เลือกซื้อสินค้าปลอดอากร และใช้บริการต่าง ๆ ภายในสนามบิน นอกจากนี้ ระบบยังช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางผ่านด่านต่าง ๆ ได้สะดวกและไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย

การเติบโตของผู้โดยสารและคาดการณ์สำหรับปีงบประมาณ 2568

จากสถิติในปีงบประมาณ 2567 พบว่า ท่าอากาศยานของ AOT มีผู้โดยสารกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% จากปีก่อนหน้า โดยเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองซึ่งมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่จำนวนเที่ยวบินรวมทั่วประเทศอยู่ที่ 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% AOT คาดการณ์ว่าปีงบประมาณ 2568 จะมีผู้โดยสารรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% และเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32%

การขยายขีดความสามารถและการพัฒนาความสะดวกสบายในท่าอากาศยาน

AOT มุ่งพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในท่าอากาศยานให้ทันสมัยและตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการติดตั้งระบบ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับระบบ Biometric ให้ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเช็กอินไปจนถึงการขึ้นเครื่อง ซึ่งรวมถึงการใช้งานเครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสาร) เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเอง) เครื่องรับสัมภาระอัตโนมัติ (CUBD) ระบบตรวจสอบยืนยันตัวตน (PVS) และระบบประตูขึ้นเครื่อง (SBG) ที่เชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ความร่วมมือเพื่ออนาคตของการเดินทางในประเทศไทย

การเปิดตัวระบบ Biometric ในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาท่าอากาศยานของไทยให้เป็นท่าอากาศยานระดับโลก โดยมุ่งเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพและตอบโจทย์การเดินทางของผู้โดยสารอย่างแท้จริง AOT ตั้งเป้าหมายในการสร้างประสบการณ์การเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยให้กับผู้โดยสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News