Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

จากห้องเรียนสู่เวทีโลก! อาชีวะเชียงรายใช้เทคนิคแกะโฟมจำลองสนามจริง ก่อนลุยชิงแชมป์หิมะที่จีน

อาชีวะเชียงรายปั้น “ช่างฝีมือระดับสูง” ลุยศึกแกะสลักหิมะโลก ณ ฮาร์บิน ใช้ “โฟม” จำลองสมรภูมิหนาว – จากห้องเรียนสู่เวทีนานาชาติ

เชียงราย, 21 ธันวาคม 2568 – เมื่อพูดถึง “หิมะ” เมืองเชียงรายอาจไม่มีเกล็ดหิมะโปรยปรายเหมือนในภาพยนตร์ต่างประเทศ แต่ในห้องปฏิบัติการของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย เยาวชนอาชีวะกำลังฝึกฝนทักษะเฉพาะทางที่ต้องใช้ในสภาพอากาศติดลบหลายสิบองศาเซลเซียส ห่างออกไปกว่าพันกิโลเมตร ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย ภายใต้การนำของ ดร.อรพิน ดวงแก้ว ผู้อำนวยการฯ กำลังขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ช่างฝีมือระดับสูงสู่เวทีโลก” ด้วยการจัดโครงการฝึกอบรม “การแกะสลักโฟม–น้ำแข็ง จำลองสถานการณ์การแกะสลักน้ำแข็งจากหิมะ” ระหว่างวันที่ 12–14 ธันวาคม 2568 เพื่อเตรียมทีม “Fighting frost TH” ตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติระดับมหาวิทยาลัย ครั้งที่ 18 (International Collegiate Snow Sculpture Contest: ICSSC 2026) ณ เมืองฮาร์บิน ช่วงต้นเดือนมกราคม 2569

เบื้องหลังการฝึกอบรม 3 วันไม่ใช่เพียงคาบเรียนเสริมทักษะ แต่คือกระบวนการ “จำลองสนามจริง” ตั้งแต่การออกแบบ การบริหารเวลา ไปจนถึงการทำงานภายใต้แรงกดดันทั้งทางกายภาพและจิตใจ เพื่อให้เยาวชนอาชีวะไทยพร้อมเผชิญสมรภูมิหิมะที่แท้จริง

จากเมืองร้อนสู่เมืองหิมะ ทำอย่างไรให้เด็กไทยแกะสลักหิมะได้

ข้อจำกัดสำคัญของประเทศไทยคือ เป็นประเทศเขตร้อน ไม่มีหิมะธรรมชาติให้ฝึกซ้อม วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงรายจึงใช้ “โฟมอุตสาหกรรมความหนาแน่นสูง” เป็นสื่อกลางในการเรียนการสอน ผ่านรายวิชา “การแกะสลักโฟม” (รหัสวิชา 2307 9012) ปรับรูปแบบการเรียนให้ตอบโจทย์การแข่งขันแกะสลักหิมะโดยตรง

โฟมแต่ละก้อนถูกออกแบบให้มีขนาดและปริมาตรใกล้เคียงกับบล็อกหิมะอัดแน่นที่ใช้จริงในสนามฮาร์บิน นักศึกษาเรียนรู้เทคนิคการลบเนื้อวัสดุ (Subtractive Sculpture) การคำนวณสัดส่วน และการคุมสมดุลน้ำหนัก เพื่อหลีกเลี่ยงการแตกร้าวหรือพังถล่มของชิ้นงาน ซึ่งในสนามจริงอาจหมายถึงการ “ตกรอบ” ทั้งทีมภายในเวลาไม่กี่นาที

เพื่อให้การฝึกมีความใกล้เคียงกับสภาพจริงมากที่สุด วิทยาลัยฯ เชิญ นายสุพัฒน์ ปักกาโต ผู้เชี่ยวชาญด้านการแกะสลักโฟม–น้ำแข็ง และ นายศิวาวุธ แสงสวาสดิ์ นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษจากสำนักบริหารการอาชีวศึกษาเอกชน มาร่วมเป็นวิทยากรถ่ายทอดประสบการณ์ตรง ทั้งเรื่องเทคนิคเครื่องมือ การวางโครงสร้างภายในชิ้นงาน ตลอดจนสภาวะการทำงานในอุณหภูมิติดลบ ที่ต้องสลับการทำงานและพักร่างกายอย่างมีวินัย

โครงการทั้งหมดอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ดร.อรพิน ดวงแก้ว ที่วางแนวทางชัดเจนว่า การพัฒนาทักษะต้อง “เริ่มจากสถานศึกษาท้องถิ่นแต่ไปจบที่เวทีโลก” ผ่านการบูรณาการระหว่างสองแผนกหลัก ได้แก่

  • แผนกวิชาการออกแบบ นำโดย นางสาวศุภรัตน์ หาญศึก ดูแลโครงสร้าง รูปทรง และมิติทางศิลปะ
  • แผนกวิชาวิจิตรศิลป์ นำโดย นายพงษ์พิสิฐ ขันจันทร์แสง รับผิดชอบด้านองค์ประกอบทัศนศิลป์และความละเอียดของผลงาน พร้อมทำหน้าที่ผู้ควบคุมทีมแข่งขัน

การทำงานข้ามสาขาเช่นนี้ ทำให้ผลงานที่ออกมาไม่ใช่แค่ “สวยงาม” แต่ยังมีความแข็งแรงทางวิศวกรรม รองรับสภาพการแกะสลักบนก้อนหิมะจริงขนาดประมาณ 3×3×3 เมตร ที่มีน้ำหนักหลายตัน

รู้จัก “Fighting frost TH” – เยาวชนเชียงรายที่แบกธงไทยขึ้นสู่สนามโลก

ทีม Fighting frost TH ประกอบด้วยนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 (ปวช.3) แผนกวิชาวิจิตรศิลป์ จำนวน 4 คน ซึ่งล้วนเติบโตมาจากภูมิหลังที่แตกต่างแต่เชื่อมโยงกันด้วยศิลปะและเมืองเชียงราย ได้แก่

  1. นางสาวฐิรกาญจน์ สิริพิบูลธรรม (น้องหยวย) จากบ้านถ้ำ อำเภอแม่สาย พื้นที่ชายแดนที่ผสมผสานความหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรม
  2. นางสาวมริสา แบแจกู่ (น้องเฟิร์น) จากบ้านปางขอน อำเภอเมืองเชียงราย แหล่งปลูกกาแฟชื่อดังบนพื้นที่สูงของจังหวัด
  3. นางสาวกัลยาภรณ์ ไชยชมพู (น้องมิ้ว) จากตำบลดอยลาน อำเภอเมืองเชียงราย
  4. นางสาวจิรปรียา ยานะนวล (น้องการ์ตูน) จากตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย

เชียงรายในฐานะ “เมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ” ของยูเนสโก เป็นฉากหลังสำคัญของการเติบโตทางศิลปะให้กับเยาวชนทั้งสี่คน พื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยแกลเลอรี ศิลปินร่วมสมัย และประเพณีท้องถิ่น ได้กลายเป็นห้องเรียนขนาดใหญ่ ที่หล่อหลอมให้พวกเขากล้าที่จะฝันไกลออกไปนอกเหนือจากขอบเขตจังหวัด

นายพงษ์พิสิฐ ขันจันทร์แสง ครูผู้ควบคุมทีม บอกเล่าผ่านเวทีอบรมว่า จุดแข็งของทีมนี้ไม่ใช่แค่ “ฝีมือ” แต่คือความรับผิดชอบและวินัยในการฝึกซ้อมต่อเนื่อง แม้จะต้องฝึกในเวลาหลังเลิกเรียนหรือวันหยุด นักศึกษายังพร้อมเต็มที่ เพราะรู้ว่าบนเวทีฮาร์บิน ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจทำให้ทีมไทยเสียโอกาสสำคัญ

ปลากัดและบัวสี่เหล่า” – ศิลปะบนหิมะที่เล่าเรื่องอาชีวะไทย

ผลงานที่ทีม Fighting frost TH เลือกนำเสนอในการแข่งขัน ใช้แนวคิดหลักว่า
สร้างฝันด้วยหิมะ จุดประกายอนาคตด้วยสติปัญญา”

รูปแบบชิ้นงานเป็น ปลากัดไทย ว่ายวนอยู่บนลูกโลก ประดับด้วย ดอกบัวสี่เหล่า ที่ค่อย ๆ ผุดขึ้นจากผืนน้ำ แนวคิดนี้มีชั้นเชิงทั้งในเชิงสัญลักษณ์และเชิงศิลปะ

  • ปลากัด สื่อถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ มีทั้งความงดงามและความแข็งแกร่ง เป็นภาพแทนเยาวชนอาชีวะที่ต้อง “สู้ไม่ถอย” ในสนามแข่งขันต่างแดน
  • ลูกโลก สะท้อนเวทีโลกและยุคโลกาภิวัตน์ ที่ความรู้และทักษะแพร่กระจายอย่างไร้พรมแดน เยาวชนจากเมืองชายขอบอย่างเชียงรายสามารถก้าวขึ้นไปเล่นบนเวทีเดียวกับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก
  • บัวสี่เหล่า ใช้สัญลักษณ์ทางพุทธศาสนาอธิบาย “ลำดับขั้นของการเรียนรู้” ตั้งแต่ผู้ที่ยังไม่เข้าใจ ไปจนถึงผู้ที่พร้อมเบ่งบานเหนือผืนน้ำ เปรียบเทียบกับเส้นทางการศึกษาของนักเรียนอาชีวะที่ค่อย ๆ สั่งสมทักษะ จากห้องเรียนสู่การเป็น “ฝีมือชน”

ในเชิงเทคนิค การแกะสลักปลากัดให้มีครีบพลิ้วไหว และบัวที่ซ้อนชั้นกันอย่างประณีต ถือเป็นโจทย์ยากบนวัสดุหิมะที่เปราะและแตกหักได้ง่าย ทีมจึงต้องออกแบบโครงสร้างภายในอย่างรอบคอบ เพื่อให้สัดส่วนทุกส่วนรองรับน้ำหนักกันได้จริง ไม่เพียงแต่สวยในภาพสเก็ตช์

 

อาชีวะไทยบนเวทีฮาร์บิน: ความต่อเนื่องของ “มาตรฐานแชมป์”

การแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติที่เมืองฮาร์บิน เป็นหนึ่งในเวทีที่สำคัญที่สุดของโลกในสาขาศิลปะหิมะและน้ำแข็ง ทีมจากประเทศไทย โดยเฉพาะจากสายอาชีวศึกษา เคยสร้างชื่อเสียงมาแล้วหลายครั้ง ทั้งจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี และเสาวภา ที่คว้ารางวัลระดับสูงอย่างต่อเนื่องตลอดทศวรรษที่ผ่านมา

เมื่อเดือนมกราคม 2567 ทีมจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งที่ฮาร์บินได้สำเร็จอีกครั้ง สะท้อนศักยภาพของนักศึกษาอาชีวะไทยที่ยืนอยู่แถวหน้าบนเวทีโลก แม้ประเทศไทยจะไม่มีทรัพยากรหิมะตามธรรมชาติเลยก็ตาม

ปูมหลังความสำเร็จเหล่านี้กลายเป็น “แรงกดดันเชิงบวก” ให้กับวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงรายในฐานะผู้เล่นรายใหม่ ทีม Fighting frost TH จึงไม่ได้เพียงไปเพื่อ “เข้าร่วม” แต่ต้องการ “รักษามาตรฐาน” ที่รุ่นพี่เคยสร้างไว้ พร้อมกับใส่ลายเซ็นของเชียงรายลงบนผลงานชุดใหม่

จากการพัฒนาทักษะสู่ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ–สังคมเชียงราย

มิติที่น่าสนใจของโครงการฝึกอบรมครั้งนี้ คือ ผลลัพธ์ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การแข่งขัน หากมองในระยะยาว การสร้าง “ช่างฝีมือระดับสูง” ด้านประติมากรรมน้ำแข็งและโฟม มีนัยสำคัญต่อทั้งตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของเชียงราย

  1. เพิ่มมูลค่าแรงงานอาชีวะ
    ทักษะการแกะสลักสามารถต่อยอดสู่งานบริการระดับพรีเมียม เช่น การจัดงานอีเวนต์ โรงแรมหรู งานเทศกาลฤดูหนาว หรืองานศิลปะเชิงพาณิชย์ นักศึกษาที่ผ่านการฝึกอบรมสามารถรับงานเสริมระหว่างเรียนหรือเปิดสตูดิโอของตนเองได้ในอนาคต
  2. เสริมภาพลักษณ์เมืองสร้างสรรค์
    เชียงรายซึ่งมีชื่อเสียงด้านศิลปะอยู่แล้ว หากสามารถจัดกิจกรรมหรือเทศกาล “หิมะจำลอง–น้ำแข็งจำลอง” ในช่วงฤดูหนาว โดยใช้ทักษะของนักศึกษาอาชีวะ จะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เชื่อมโยงกับแลนด์มาร์กเดิมอย่างศูนย์ศิลปะ วัด และพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ
  3. สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน
    การที่เยาวชนระดับ ปวช. จากจังหวัดชายแดนสามารถขึ้นแข่งขันในเวทีเดียวกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศ เป็นตัวอย่างจับต้องได้ว่า “เส้นทางสายอาชีพ” ก็สามารถพาคนหนุ่มสาวไปสู่เวทีโลกได้เช่นเดียวกับสายสามัญ

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มองว่าการส่งทีมเข้าร่วม ICSSC 2026 เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ยกระดับทักษะช่างฝีมือไทยให้เทียบเท่าสากล และเป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์อาชีวศึกษาไทยให้สังคมเห็นคุณค่ามากขึ้น ทั้งในมิติวิชาชีพและมิติศิลปะร่วมสมัย

กำหนดการสู่สมรภูมิฮาร์บิน และเสียงเชียร์จากเชียงราย

ตามกำหนดการ ทีม Fighting frost TH จะเดินทางจากประเทศไทยไปยังเมืองฮาร์บิน ระหว่างวันที่ 4–7 มกราคม 2569 เข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหิมะในกรอบงานเทศกาลน้ำแข็งและหิมะนานาชาติประจำปีของเมือง ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลายล้านคนในแต่ละฤดูกาล

สวท.เชียงราย สังกัดกรมประชาสัมพันธ์ ได้เชิญชวนประชาชนชาวเชียงรายและคนไทยทั่วประเทศร่วมส่งแรงใจให้กับทีมตัวแทนอาชีวะเชียงรายในการแข่งขันครั้งนี้ ทั้งผ่านสื่อกระจายเสียง และช่องทางออนไลน์ของหน่วยงาน เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าเบื้องหลังการเดินทางของเยาวชนกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง มีพลังใจจากคนทั้งจังหวัดคอยหนุนอยู่ข้างหลัง

ในมุมของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย โครงการฝึกอบรมครั้งนี้ถือเป็นเพียง “ก้าวแรก” หากผลการแข่งขันออกมาเป็นที่น่าพอใจ สถาบันมีแนวคิดจะจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เฉพาะทางด้านประติมากรรมน้ำแข็งและโฟมในอนาคต เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อไปยังรุ่นน้อง และเปิดโอกาสให้เยาวชนจากจังหวัดอื่น ๆ เข้ามาเรียนรู้ร่วมกัน เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากเวทีโลกกลับมาสู่ชุมชนฐานรากอย่างแท้จริง

หมายเหตุสำคัญต่อผู้อ่าน

ข่าวเชิงลึกชิ้นนี้ ไม่ใช่งานวิจัยหรืองานวิชาการ แต่เป็นการรวบรวมและสังเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ข่าวจากสื่อมวลชน และข้อมูลเปิดเผยบนอินเทอร์เน็ต รวมถึงคำบอกเล่าจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่บางส่วน ผู้เขียนข่าวยินดีอย่างยิ่งหากนักวิชาการด้านอาชีวศึกษา ศิลปกรรม หรือผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง จะช่วยเพิ่มเติม แก้ไข หรือขยายความข้อมูลเชิงลึกในประเด็นที่ยังไม่ครบถ้วน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสาธารณะและต่อการพัฒนานโยบายด้านการศึกษาในระยะยาว

สำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย
  • สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
  • สำนักบริหารการอาชีวศึกษาเอกชน
  • สวท.เชียงราย กรมประชาสัมพันธ์
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงรายเดินหน้าขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ ด้านการออกแบบระดับโลก

ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ นำสื่อมวลชนสำรวจเชียงราย เมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้นำคณะสื่อมวลชนจากกรุงเทพมหานคร และสื่อมวลชนท้องถิ่น ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการขับเคลื่อน เชียงรายเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ ภายใต้การรับรองของยูเนสโกในปี 2566

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมและสื่อมวลชน พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาเชียงรายให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การท่องเที่ยว และคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่

พื้นที่ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์และจุดเชื่อมโยงศิลปะ

คณะสื่อมวลชนได้เข้ารับฟังข้อมูลจาก รศ.ดร.พลวัฒ ประพัฒน์ทอง อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในฐานะ UCCN Main Communication Contact ของเชียงราย และได้ชมสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งเชื่อมโยงกับการเป็นเมืองสร้างสรรค์ โดยมีไฮไลต์ดังนี้

  1. บ้านสิงหไคล มูลนิธิมดชนะภัย
    ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเชียงราย เป็นศูนย์กลางการจัดแสดงผลงานศิลปะที่เชื่อมโยงกับเรื่องราวความงามและวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงราย ที่นี่เป็นที่ตั้งของศูนย์ประสานงานการขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ หรือ UCCN Focal Point ซึ่งรวบรวมผลงานของศิลปินชื่อดังและศิลปินแห่งชาติ
  2. ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรก
    พื้นที่แห่งนี้ได้รับคัดเลือกให้เป็น ศูนย์ TCDC เชียงราย โดยเป็นศูนย์กลางสำหรับผู้ที่สนใจด้านความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และพัฒนาไอเดียใหม่ๆ ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับชุมชนและนักออกแบบ
  3. หอนาฬิกาพุทธศิลป์
    ชมความงดงามของหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ เชียงราย หรือหอนาฬิกาพุทธศิลป์ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่สะท้อนความสร้างสรรค์และอัตลักษณ์ของศิลปะเชียงราย
  4. วัดพระธาตุดอยจอมทอง และอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช
    พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความศักดิ์สิทธิ์ โดยอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ตั้งอยู่บริเวณห้าแยกพ่อขุน เพื่อรำลึกถึงพระเกียรติคุณของพระองค์ผู้ก่อตั้งเมืองเชียงราย
  5. พิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
    เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และชีวิตของผู้คนในลุ่มแม่น้ำโขง สะท้อนถึงความสำคัญของพื้นที่ในแง่ของภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจ
  6. ดอยดินแดง เครื่องปั้นดินเผา
    เป็นสถานที่สำคัญที่แสดงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นและความสร้างสรรค์ในการผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียงของเชียงราย

การยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว

ในปี 2568 อพท. มีแผนที่จะยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษจังหวัดเชียงราย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง รวมถึงผลักดันแหล่งธรณีวิทยาเชียงรายให้เข้าสู่ เครือข่ายอุทยานธรณีโลก (Global Geopark) ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่ยั่งยืน

จังหวัดเชียงราย ได้รับการยอมรับจาก ยูเนสโก ให้เป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ UCCN ด้านการออกแบบ หรือ City of Design ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการพัฒนาพื้นที่ผ่านการผสมผสานศิลปะ วัฒนธรรม และการออกแบบที่มีความโดดเด่น เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่

การนำคณะสื่อมวลชนในครั้งนี้ เป็นการเผยแพร่และสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพของเชียงรายในการเป็นเมืองสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น เพื่อนำเชียงรายสู่เวทีระดับโลกอย่างยั่งยืน

เชียงราย เมืองแห่งความคิดสร้างสรรค์ เดินหน้าสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ผสมผสานศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนสำหรับการท่องเที่ยวและการออกแบบระดับโลก

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงรายเปิดตัวเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโก ยกระดับศิลปะท้องถิ่นสู่โลก

เชียงรายเปิดตัวเชียงรายเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบในเครือข่าย UNESCO พร้อมยกระดับวัฒนธรรม

วันที่ 31 ตุลาคม 2567 เวลา 15.30 น. ณ อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ได้มีการจัดกิจกรรม “เชียงรายเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ” โดยได้รับเกียรติจากนายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงาน ภายใต้การดำเนินงานของจังหวัดเชียงรายและการร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ภาคการศึกษา เอกชนและประชาสังคม โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนเมืองเชียงรายให้เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO ในด้านการออกแบบ

ในงานได้รับการต้อนรับจากอาจารย์นคร พงษ์น้อย ผู้อำนวยการอุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง และนางอธิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ที่ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจและรับทราบถึงประโยชน์ของการเข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ โดยเน้นย้ำว่านี่คือโอกาสสำคัญที่เชียงรายจะได้ใช้ศิลปวัฒนธรรมและการออกแบบเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาเศรษฐกิจภายในท้องถิ่น

ในการประชุมยังได้มีการนำเสนอผลงานการขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์โดยนางพร้อมพร จินดาวงศ์ เนตรหาญ และรองศาสตราจารย์ ดร.พลวัฒ ประพัฒน์ทอง จากสถาบันศิลปวัฒนธรรมและอารยธรรมลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งอธิบายถึงการพัฒนาตามแผนที่นำทางที่ชัดเจน โดยมีพันธสัญญาที่มุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของจังหวัดเชียงรายที่ว่า “เชียงรายเมืองท่องเที่ยวสร้างสรรค์ สะอาด ปลอดภัย น่ายล”

กิจกรรมไฮไลท์ภายในงาน

  1. การลงนามปฏิญาณเชียงรายเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ
    ปฏิญญานี้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจของหน่วยงานและประชาชนในเชียงรายที่พร้อมจะร่วมกันสร้างสรรค์ให้เชียงรายก้าวเข้าสู่การเป็นเมืองแห่งการออกแบบที่น่ายกย่องในระดับสากล
  2. นิทรรศการเครือข่ายเชียงรายเมืองสร้างสรรค์
    นิทรรศการนี้นำเสนอผลงานและความสำเร็จของเชียงรายในด้านการออกแบบที่เป็นที่ยอมรับจาก UNESCO โดยเน้นการบูรณาการศิลปะและวัฒนธรรมให้มีบทบาทในการพัฒนาเมือง โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการนำเสนอความงามและเอกลักษณ์ของท้องถิ่นผ่านศิลปะการออกแบบที่หลากหลาย

ภายในงานยังมีผู้เข้าร่วมจากหลายภาคส่วน อาทิ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย นางฐิติมา เร่งประเสริฐ ศึกษาธิการจังหวัดเชียงราย นางธนัญญา เชิดโฉม รองผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย และนายโชติศิริ ดารายน นายกสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์เชียงราย รวมถึงเครือข่ายชุมชนและนักออกแบบเชียงราย ที่เข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงรายเดินหน้าเป็นเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโก ผลักดันเศรษฐกิจวัฒนธรรมท้องถิ่น

 

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมลานนา 2 โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย จังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดการประชุมการขับเคลื่อน “เมืองเชียงราย เมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบของ UNESCO” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเชียงราย (อพท.เชียงราย)

การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายภาคส่วน เช่น นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย, นายวีรัตน์ สามุมิตร ศึกษาธิการจังหวัดเชียงราย, ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย, ผู้แทนจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาเชียงราย, หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้แทนจากภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวในเชียงราย เข้าร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนและนำเสนอแนวคิดการออกแบบเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO สำหรับการพัฒนาเมืองเชียงรายให้เป็นเมืองที่โดดเด่นทั้งในด้านวัฒนธรรมและการออกแบบอย่างยั่งยืน

ประเด็นสำคัญในการประชุมครั้งนี้ มีดังนี้

  1. ประโยชน์และความเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO
    ดร.คัชพล จั่นเพชร หัวหน้างานพัฒนานวัตกรรมการท่องเที่ยว สำนักพัฒนาขีดความสามารถการท่องเที่ยว (อพท.) ได้อธิบายถึงประโยชน์และบทบาทที่จังหวัดเชียงรายจะได้รับในฐานะสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ การส่งเสริมภาพลักษณ์ของเมือง และการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น

  2. กิจกรรมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO
    รศ.ดร. พลวัฒ ประพัฒน์ทอง อาจารย์จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้กล่าวถึงความสำคัญของการเข้าร่วมกิจกรรมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ และได้หารือเกี่ยวกับการจัดเตรียมการฉลองครบรอบ 1 ปี การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO ในเชียงราย เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าและผลสำเร็จในการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

  3. แผนการขับเคลื่อนการเป็นเมืองสร้างสรรค์
    รศ.ดร. พลวัฒ ประพัฒน์ทอง และนางพร้อมพร จินดาวงศ์ เนตรหาญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเชียงรายพัฒนาเมือง (CRCD) ได้ร่วมกันนำเสนอแผนการดำเนินงานในการขับเคลื่อนเชียงรายให้ก้าวสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบอย่างสมบูรณ์ตามหลักเกณฑ์ของ UNESCO

  4. การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
    ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น การใช้ความคิดสร้างสรรค์มาช่วยต่อยอดสินค้าและบริการในท้องถิ่น เช่น การพัฒนาสินค้าหัตถกรรม, สินค้าเกษตรแปรรูป, การสร้างกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการจัดการพื้นที่ทางวัฒนธรรมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์

  5. การกระตุ้นการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคม
    การพัฒนาศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นจะก่อให้เกิดการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวทางด้านศิลปวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น พร้อมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจแก่ชุมชนต่างๆ ในจังหวัดเชียงราย

ผลจากการประชุมนี้
การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชนในการขับเคลื่อนเชียงรายให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการออกแบบและพัฒนาเมืองให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามเกณฑ์ของ UNESCO

การขับเคลื่อนดังกล่าวจะนำไปสู่การเติบโตของเศรษฐกิจท้องถิ่น เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และบริการในชุมชน และสร้างโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ในการเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเกิดอย่างสร้างสรรค์และมีคุณค่า

คำแนะนำเพิ่มเติม
ผู้เข้าร่วมประชุมต่างเห็นพ้องว่าการพัฒนาเมืองเชียงรายต้องเป็นไปอย่างสมดุลและมีการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างการยอมรับและความร่วมมืออย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมและโครงการต่างๆ ในอนาคตจะเน้นการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการรับรู้และการเข้าถึงข้อมูลอย่างทั่วถึง

การประชุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของจังหวัดเชียงราย
ที่มุ่งมั่นสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบที่โดดเด่นในระดับประเทศและระดับสากล สร้างแรงบันดาลใจและความตระหนักรู้ในการอนุรักษ์วัฒนธรรม ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI VIDEO WORLD PULSE

(มีคลิป) ยูเนสโกประกาศรับรองเชียงรายเมืองสร้างสรรค์ของโลก

 

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566)นางยุถิกา อิศรางกูล ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) ร่วมกันแถลงข่าวและแสดงความยินดีกับจังหวัดเชียงรายที่ได้รับการคัดเลือกเป็นเครือข่ายสร้างสรรค์ UNESCO ที่ห้องประชุมธรรมปัญญา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร อบจ.เชียงราย ภาคเอกชน สื่อมวลชน ร่วมรับฟังการแถลงข่าวจำนวนมาก เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้การประกาศรับรองจังหวัดเชียงรายเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ด้านการออกแบบ

 

นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงราย นับเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ มีอัตลักษณ์โดดเด่นในด้านสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การเป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านการออกแบบ จึงมีการผลักดันให้เชียงราย เป็นเมืองแห่งการออกแบบ (City of Design) เนื่องจากเชียงรายมีทรัพยากรการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมความหลากหลายทางชีวภาพ และอัตลักษณ์ท้องถิ่น ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง มีศิลปินล้านนาจำนวนมาก มีการสร้างสรรค์ทางศิลปะที่สืบทอดกันมาทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมที่บ่งบอกถึงภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่นเมืองเชียงราย สามารถใช้การออกแบบการบริการ Sevice Design มาเป็นจุดแข็ง เช่น กลุ่มสร้างสรรค์ต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มศิลปิน กลุ่มนักสร้างสรรค์ กลุ่มสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เมืองเชียงรายเมืองแห่งวัฒนธรรมล้านนาที่มีเอกลักษณ์ และอัตลักษ์ณ์ที่โดดเด่น สามารถผลักดันเปลี่ยนแปลงเมืองเชียงรายด้วยการสร้างสรรค์ การออกแบบ การบริการ และความมีอัธยาศัยดีความสามัคคีกัน 
 
 
 
 

ส่งผลให้เกิดแนวคิดความสร้างสรรค์ พัฒนา ต่อยอดสู่เมืองสร้างสรรค์ได้ในอนาคต อันเป็นการสนับสนุน และยกระดับความสามารถด้านการท่องเที่ยวแก่จังหวัดเชียงราย เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างแท้จริงและยั่งยืน การเสริมสร้างการรับรู้ศักยภาพของเมืองแก่ประชาชน และผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียในพื้นที่ จึงก่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาและบูรณาการร่วมกันเพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์เมืองในด้านนั้น ๆ

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวอีกว่า สิ่งเหล่านี้ต่างสนับสนุนการพัฒนาเมืองให้จังหวัดเชียงรายขับเคลื่อนไปสู่การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์กรการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) และเพื่อขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ..2561-2580) เมืองสร้างสรรค์ ด้านการออกแบบ การที่เป็นการออกแบบการบริการของเชียงราย มีเป้าหมายเพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ของเมืองในการรักษาสิ่งแวดล้อม และลดความยากจน เพื่อก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ความเท่าเทียมกัน และการพัฒนาเมือง สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) การขับเคลื่อน “เมืองเชียงราย” สู่การเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านการออกแบบ จำเป็นจะต้องดำเนินกิจกรรมตามแผนที่นำทาง (Roadmap) ของเมืองเชียงราย 

สู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านการออกแบบ ให้เกิดเป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับการสนับสนุนการพัฒนาเมืองในพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ อพท. ตามพระราชกฤษฎีกา และเมืองในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวโดยเน้นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา ประชาสังคม รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ การพิจารณาถึงผลตอบรับและแรงจูงใจต้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเพื่อความยั่งยืน ใช้กลไกการทำงานโดยการดึงชุมชนที่มีศักยภาพสร้างเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงการท่องเที่ยว สร้างความเข้าใจให้ทุกฝ่ายให้เห็นถึงความสำคัญของประโยชน์ที่จะได้รับจากการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของเมืองในครั้งนี้ ตลอดจน การถ่ายทอดองค์ความรู้ทั้งด้านพัฒนากิจกรรมสร้างสรรค์ และเส้นทางการท่องเที่ยว การบริการให้มีมาตรฐาน 

 

การพัฒนานักสื่อความหมาย การพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่นำเอาอัตลักษณ์ประจำถิ่นมาพัฒนาเป็นสินค้าที่มีความโดดเด่น สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่สามารถเชื่อมโยงกับชุมชนใกล้เคียงเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ในท้องถิ่นได้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการเสนอชื่อจังหวัดเชียงรายสมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO.ด้วยแนวคิด “เชียงรายวิถี กินอยู่ รู้แบ่งปันสู่ความยั่งยืน” แม้การเสนอชื่อในครั้งแรกยังไม่สามารถนำพาจังหวัดเชียงรายสู่การเป็นเมืองเครือข่ายได้แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์การบริการส่วนจังหวัดเชียงราย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม รวมถึง สถาบันการศึกษา และศาสนา ในพื้นที่ร่วมกันขับเคลื่อนเมืองด้วยแนวคิดของเมืองสร้างสรรค์ สร้าง Creative.Space / Creative.Event ระดับนานาชาติ สร้างสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม สู่การออกแบบเพื่อสร้างสมดุล ระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรมปรับประยุกต์ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาเมือง 

 

เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก เยาวชนและประชาชนชาวเชียงรายอย่างยั่งยืน จนเป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล และเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 องค์การยูเนสโกได้ประกาศรับรอง 55 เมืองทั่วโลก เข้าร่วมเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ซึ่งรวมถึงจังหวัดเชียงรายด้วย บัดนี้ จังหวัดเชียงราย พร้อมแล้วที่จะเป็นหมุดหมายใหม่ของนักสร้างสรรค์ระดับนานาชาติ กับการได้รับการรับรองจากยูเนสโก ยกจังหวัดเชียงราย เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านการออกแบบ Chiang Rai Creative City of Design
 
 
ตราสัญลักษณ์เชียงรายเมืองสร้างสรรค์ เมืองแห่งความสมดุระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรม เพื่อขับเคลื่อนสู่เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UCCN) พบกันที่ไหนทักทายกัน
 
มีชื่อว่า “วัฒนธรรมชาติ” หรือ
อ่านว่า “วัด-ทะ-นะ-ทำ-มะ-ชาด”
ออกแบบโดย นายวีระพงษ์ อมรสิน
 
ที่สื่อแสดงถึงความสมดุลแห่งความมั่งคั่งทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม เป็นต้นทุนสร้างสรรค์ ที่จะขับเคลื่อนเชียงราย
สู่เมืองแห่งการออกแบบที่ยั่งยืน ทั้งนี้ การออกแบบได้ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ธรรมชาติ วัฒนธรรม และธรรม ดังนี้
ส่วนที่ 1 ธรรมชาติ เชียงรายเป็นเมืองที่ “รายรอบด้วยขุนเขาและสายน้ำ” ประกอบไปด้วย
 
ต้นทุนแห่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
ต้นน้ำแห่งกายภาพหัวเมืองเหนือของประเทศ
ต้นกำเนิดแห่งวิถีชีวิตและภูมิปัญญาแห่งชาติพันธุ์
 
สู่การสร้างคุณค่าและมูลค่าจากผลิตผลแห่งการสร้างสรรค์ รวมถึงแรงบันดาลใจแห่งศิลปวัฒนธรรม
ส่วนที่ 2 วัฒนธรรม เชียงรายเป็นเมืองที่ “รายล้อมด้วยผู้คนและศิลปะ” ประกอบไปด้วย
 
– ลวดลายแห่งเชียงราย อัตลักษณ์ใหม่จากศิลปะล้านนาร่วมสมัย ฝีมือจากการรังสรรค์ของศิลปินแห่งชาติ ผู้เป็นตัวแทนแห่งจิตวิญญาณและสุนทรียะทางศิลปะ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ที่เป็นต้นแบบของแรงบันดาลใจให้กับนักสร้างสรรค์ จนถูกขนานเชียงรายว่าเป็น “เมืองแห่งศิลปิน” ที่มากที่สุดในประเทศ เมืองแห่งศิลปะและศิลปินที่มากมาย
 
– ลายล้านนาเชียงแสน ตัวแทนแห่งประวัติศาสตร์และความหลากหลายทางชาติพันธ์ุที่มาพร้อมกับศิลปวัฒนธรรมเฉพาะตัว
– ตุงที่เชื่อมโยงถึงโครงการดอยตุง ตัวแทนของแนวคิดในการปรับตัวและการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีและยั่งยืน
 
หอคำไร่แม่ฟ้าหลวง สถาปัตยกรรมล้านนาประยุกต์ ตัวแทนของความงดงามที่เรียบง่ายความกลมกลืนระหว่างศิลปวัฒนธรรมกับธรรมชาติ และการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าจากบ้านไม้เก่าของการก่อสร้าง ไร่แม่ฟ้าหลวง ยังเป็นหนึ่งในคลื่นศิลปะที่ผลักดันเชียงรายสู่เมืองออกแบบ เพราะเป็นบ้านของศิลปินนักสร้างสรรค์ ที่พร้อมบริการการออกแบบเพื่อสังคม
 
– อาคารลดทอน หรือ วัตถุ Simplified ตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงบนต้นทุนเดิม สะท้อนความเป็น “นีโอล้านนา” และความร่วมสมัยบนพื้นที่แห่งโอกาสและความท้าท้ายของคนรุ่นใหม่ ที่จะมาร่วมขับเคลื่อนพลังและความสามารถให้เป็นเมืองแห่งการออกแบบที่ยั่งยืน
 
ส่วนที่ 3 ธรรม เชียงรายเป็นเมืองที่ “รายเรียงพื้นที่แห่งศาสนาและประวัติศาสตร์” ด้วยความศรัทธาแห่งวิถีพุทธสู่การเป็นศาสนาประจำจังหวัดก่อเกิดงาน “พุทธศิลป์” หลายแขนงที่สานต่อจากอดีตของเมือง
ที่มั่งคั่งด้วย “อารยธรรม”
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News