Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

จัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนทั่วถึงและสอดคล้องกับความต้องการเกษตรกร

 

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 66 ที่ภายในวัดสันกองพัฒนาราม ตำบลโรงช้าง อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครั้งที่ 1 เพื่อให้เกษตรกรที่มีปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการบริการทางวิชาการ และได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจรในคราวเดียวกัน 


โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องในการให้บริการและร่วมแก้ไขปัญหาทางการเกษตรแก่เกษตรกรร่วมกัน โดยมี นายอำเภอป่าแดด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปกครองจังหวัดเชียงราย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันให้บริการแบบครบวงจรในครั้งนี้ด้วย

 

ว่าที่ ร.ต.ดุจเดี่ยว วงศ์ภักดิ์ เกษตรจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ เป็นการให้บริการเกษตรกรในการแก้ไขปัญหาการผลิตด้านการเกษตรได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร จึงได้มีการบูรณาการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน 


โดยเป็นการปฏิบัติงานในเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายที่มีปัญหาให้ได้รับการบริการทางการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวิจัยโรคพืช โรคสัตว์ ทางประมง รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตร เสริมเพิ่มเติมควบคู่กันไป ร่วมกันจัดกิจกรรม จำนวน 31 หน่วยงาน โดยมีเป้าหมายเป็นเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล จำนวนกว่า 120 คน และให้บริการแบบครบวงจรในคราวเดียวกัน มีประชาชน และเกษตรกรในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

 

โอกาสนี้ นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยังได้เป็นประธานพิธีเปิด Kick Off เกษตรกรเชียงรายร่วมใจไม่เผา “Chiang Rai Zero Burn” โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อปท. บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทปูนซีเมนต์ไทย (ลำปาง) และผู้แทนจากหน่วยงานองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของเกษตรกรเชียงรายร่วมใจไม่เผา เนื่องด้วยในห้วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายนของทุกปีมักมีการเผากำจัดวัชพืช และเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรทำให้เกิดปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 


ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการแก้ไขเพื่อเป็นการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนได้เข้ามามีบทบาทในการป้องกันและปก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่อาจจะเกิดขึ้นและเป็นการผลักดันนโยบายงดการเผาในพื้นที่การเกษตรของภาครัฐผ่านโครงการเกษตรปลอดการเผา (Chiang Rai Zero Burn) เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของจังหวัดเชียงราย อีกด้วย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เชียงราย พร้อมเป็นเจ้าภาพ กีฬาเยาวชนและกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ปี 2570

 
จังหวัดเชียงราย ประชุมคณะกรรมการกีฬาจังหวัด ร่วมกำหนดเป้าหมายการส่งเสริมกีฬาภายในจังหวัด สู่ระดับประเทศ
วันนี้ (1 พฤศจิกายน 2566) ที่ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ชั้น2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกีฬาจังหวัดเชียงราย ครั้งที่1 ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
 
 
ในที่ประชุม ฝ่ายเลขานุการได้รายงานสรุป
 – ผลการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 38 “นครสวรรค์เกมส์” โดยจังหวัดเชียงรายได้รับ 1 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 15 เหรียญทองแดง รวม 22 เหรียญ ได้อันดับ 64 
 
– ผลการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 5 “ชอนตะวันเกมส์” จังหวัดเชียงรายได้รับ 17 เหรียญทอง 13 เหรียญเงิน 11 เหรียญทองแดง รวม 41 เหรียญ ได้อันดับ 11 
 
– ผลการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 48 “กาญจนบุรีเกมส์” จังหวัดเชียงรายได้รับ 7 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 14 เหรียญทองแดง รวม 30 เหรียญ ได้อันดับ 30 และ
 
– ผลการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่38 “กาญจนิกาเกมส์” จังหวัดเชียงรายได้รับ 1 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง รวม 12 เหรียญ ได้อันดับ 39 
 
พร้อมทั้งรายงานการขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชนให้เป็นวิถีชีวิตในระดับจังหวัด รวมถึงรายงานการจัดกิจกรรมกีฬาประจำปี 2566 ของสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงราย สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย และของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย
 
 
ทั้งนี้ในที่ประชุมฝ่ายเลขานุการได้รายงานปฏิทิน และแผนงานกิจกรรมกีฬาในส่วนของปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พร้อมทั้งได้พิจารณาการขอรับเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 42 (พ.ศ. 2570) และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่9 (พ.ศ. 2570) โดยในที่ประชุมได้เห็นชอบให้จังหวัดเชียงรายสมัครขอรับเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน ซึ่งจังหวัดเชียงรายมีความพร้อมในทุกด้าน รวมถึงสนองนโยบายในการเป็นเมืองแห่งกีฬาหรือสปอร์ตซิตี้ อีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เปิดเมืองเชียงราย ต้อนรับนักปั่นจากทั่วประเทศ Chiangrai Road Classic 2023

 
วันนี้ (24 ตุลาคม 2566) ที่ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ชั้น2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดกิจกรรมการปั่นจักรยาน Chiangrai Road Classic 2023 ณ สิงห์ปาร์คเชียงราย โดยมีส่วนราชการ ภาคเอกชน หน่วยแพทย์ ตำรวจ มูลนิธิกู้ชีพกู้ภัย และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
 
 
ด้วยจังหวัดเชียงราย ร่วมกับสิงห์ปาร์คเชียงราย สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงราย และเครือข่ายชมรมจักรยานจังหวัดเชียงราย กำหนดจัดกิจกรรมการปั่นจักรยาน Chiangrai Road Classic 2023 ในวันอาทิตย์ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. โดยเป็นการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพเชิงท่องเที่ยว ไม่มีการแข่งขัน แบ่งเป็น 4 ระยะทาง ได้แก่ระยะ 25กม., 70 กม., 110กม. และระยะ 160 กม. มีจุดปล่อยตัวและจุดเส้นชัย ณ สิงห์ปาร์คเชียงราย โดยเส้นทางปั่นจักรยานจะผ่านจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย เช่น วัดร่องขุ่น ขัวไชยนารายณ์ และสะพานหนองหลวง ผ่านพื้นที่ 5 อำเภอ ของจังหวัดเชียงราย ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงชัย อำเภอพญาเม็งราย อำเภอขุนตาล และอำเภอเวียงเชียงรุ้ง ซึ่งในปีนี้มีนักปั่นจักรยานจากทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,500 คน
 
 
.
สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 9 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย โดยมุ่งหวังให้จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองจักรยาน และตอบสนองนโยบายของจังหวัดเชียงรายที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองกีฬา หรือ Sports City อีกด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

ด่านแม่สาย Fashion on the Road ดีไซเนอร์อาชีวศึกษาเชียงราย

 
ค่ำวันที่ (2 ก.ย. 66) ที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา จุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย จ.เชียงราย น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในการเปิดการงาน เชียงรายแฟนชั่นสู่การออกแบบระดับโลกครั้งที่ 1 หรือ “Chiang Rai Fashion to The World 1st Designers Competition” โดยการจัดเดินแฟนชั่นบนถนนหน้าด่านพรมแดนหรือ Fashion on the Road โดยมี นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดงานหลายภาคส่วน กิจกรรมมีการจัดให้นักออกแบบ หรือดีไซเนอร์ จากทั่วประเทศไทย จำนวน 73 ดีไซเนอร์ นำผลงานและนางแบบร่วมเดินแบบแสดงด้วยเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ถูกกำหนดให้ใช้ลวดลายผ้าจากกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และภาคเหนือ ซึ่งพบว่าดีไซเนอร์สามารถออกแบบเพื่อการประกวดและจัดแสดงครั้งนี้กว่า 92 ชุด เริ่มต้นด้วยการเดินแฟนชั่นโชว์จาก 10 กลุ่มชาติพันธุ์ คือ อาข่า ม้ง กะเหรี่ยง อิ้วเมี่ยน ไตหย่า ไทใหญ่ ยูนนาน ไทลื้อ ลั้วะ และลาหู่ ด้วยนางแบบจำนวน 20 นางแบบ จาก by YOURS Thailand จากนั้นนางแบบทั้ง 92 คน ได้ออกเดินบนถนนหน้าด่านแม่สาย ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั้งชาวไทยและเมียนมา ที่ต่างพากันไปชมความงดงามของชุดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ออกแบบและปรับให้มีลวดลายผ้าปักกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ได้อย่างงดงามและลงตัวเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่เสร็จสิ้นการเดินแบบแล้วผู้คนยังขอถ่ายภาพร่วมกับนางแบบกันอย่างเนืองแน่นด้วย
 
สำหรับการประกวดชุดแฟชั่นทั้ง 92 คน พบว่าชุดราตรีชื่อ “โบตั๋น” จากการออกแบบของ น.ส.วิสา แสนสุขยิ่งนัก วิชาคหกรรม สาขาวิชาแฟชั่นและสิ่งทอ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 โดยเป็นชุดกระโปรงยาวลักษณะคล้ายชุดกี่เพ้าของจีนแต่มีลวดลายผ้าลายปักของกลุ่มชาติพันธุ์อิ้วเมี่ยนบนชุดราตรีอย่างลงตัว รางวัลที่ 2 ดีไซเนอร์มาจากกรุงเทพฯ โดยเป็นชุดราตรีธรรมชาติและภูมิปัญญา ฯลฯ ภายในบริเวณงานยังจัดให้มีร้านค้าเกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่นผ้าต่างๆ กว่า 100 ร้านค้า ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวหน้าด่านพรมแดน อำเภอแม่สาย คึกคักเป็นอย่างยิ่ง
 
น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ปัจจุบันทุกประเทศต่างพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อช่วงชิงการนำหลังวิกฤติไวรัสโควิด-19 สำหรับประเทศไทยก็พยายามหาจุดแข็งเพื่อเป็นจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและทั่วโลกด้วยเช่นกัน ซึ่งก็พบว่าจุดแข็งหนึ่งคือซอฟเพาเวอร์เรื่องอาหาร แฟชั่น กิจกรรม faith (ศรัทธา) ฯลฯ ซึ่งภาคเหนือถือว่าส่วนหนึ่งคือมีลวดลายผ้าปักจากกลุ่มชาติพันธุ์ที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง ดังนั้นทาง ททท.จึงได้สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ขึ้นเพื่อให้เกิดการต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวตลอดทั้งปี หรือ All year รวมทั้งยังส่งเสริมให้เกิดรายได้ไปสู่ชุมชนได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
 
ทางด้าน นางนงเยาว์ เนตรประสิทธ์ นายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย กล่าวว่ากลุ่มชาติพันธุ์ที่มีรวมกันกว่า 35 ชาติพันธุ์ ได้มีการออกแบบลวดลายผ้าปักด้วยเทคนิค ลวดลายและสีสันแตกต่างกันซึ่งล้วนมีความวิจิตรงดงาม ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการจัด “Fashion on the Road” เป็นครั้งแรก และคาดหวังจะให้การออกแบบชุดแต่งกายพร้อมลวดลายพัฒนาไปสู่ระดับประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งนอกจากด้านการท่องเที่ยวแล้วยังจะสร้างรายได้ให้คนทุกระดับตั้งแต่กลุ่มชาติพันธุ์ที่ออกแบบลวดลายผ้าปัก ผู้เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน และผู้จัดจำหน่ายในแต่ละขั้น หรือตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อีกด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News