Categories
TOP STORIES

ปภ.ช. เอาจริง! ขึ้นบัญชีดำเกษตรกรเผา แก้ฝุ่นควันพิษ

ปภ.ช. สั่งเอาจริง! ขึ้นบัญชีดำเกษตรกรดื้อเผา แก้ปัญหาฝุ่นควัน

กุมภาพันธ์ 2568 – กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) ยกระดับมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน สั่งเอาจริงกับเกษตรกรที่ยังดื้อดึงเผาพืชผลทางการเกษตร พร้อมขึ้นบัญชีดำผู้กระทำผิด

ปภ.ช. เร่งแก้ปัญหาฝุ่นควัน สั่งคุมเข้มห้ามเผา

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปภ.ช. ติดตามสถานการณ์ฝุ่นควันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการคุมเข้มสั่งห้ามเผา และการตรวจจับดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

กระทรวงเกษตรฯ เตรียมขึ้นบัญชีดำเกษตรกรดื้อเผา

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานแนวทางและขั้นตอนการแจ้งเตือนและป้องปรามเกษตรกรไม่ให้เผา พร้อมส่งเสริมวิธีกำจัดเศษวัสดุทางการเกษตรแบบใหม่ เช่น การไถกลบตอซัง การใช้จุลินทรีย์และอินทรียวัตถุ

แม้จะได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรส่วนใหญ่ แต่ยังมีบางส่วนที่ไม่ปฏิบัติตาม จึงเตรียมขึ้นบัญชีดำเกษตรกรที่ถูกตัดสิทธิ์และไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ซึ่งจะประกาศในเร็วๆ นี้

กรมป่าไม้เผยข้อมูลไฟป่าและจุดความร้อน

กรมป่าไม้ รายงานการจัดการไฟในพื้นที่ป่า พบว่า จังหวัดกำแพงเพชรเกิดไฟป่ามากที่สุด และพบจุดความร้อน (hotspots) สะสมในภาคเหนือมากที่สุด

กรมโรงงานฯ เผยข้อมูลโรงงานรับอ้อยเผา

กรมโรงงานอุตสาหกรรม รายงานจำนวนโรงงานรับอ้อยเผาเข้าหีบแต่ละภาคยังมีมาก แม้ภาพรวมปีนี้จะลดลงจากปีก่อน แต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมของทุกปี เป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยจะเร่งเก็บผลผลิต ทำให้ยังคงมีการเผาอ้อยในหลายพื้นที่

ปภ.ช. สั่งทุกจังหวัดทำงานเชิงรุกแก้ปัญหาจุดความร้อน

ปภ.ช. มอบหมายทุกจังหวัด นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานงานกับกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ทำงานเชิงรุก ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาจุดความร้อนสูง โดยเฉพาะในจังหวัดเพชรบูรณ์และชัยภูมิ

สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มกลับมาสูงอีกครั้ง

กรมควบคุมมลพิษคาดการณ์ว่า สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 จะบรรเทาลงเล็กน้อยในช่วงวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2568 แต่หลังจากนั้น ค่าฝุ่นจะมีแนวโน้มกลับมาสูงอีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง

ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรเฝ้าระวังสถานการณ์จนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและจมตัว ทำให้การระบายอากาศต่ำ ประกอบกับลมที่แปรปรวนและข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่

มาตรการระยะยาว

นอกจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดแล้ว ปภ.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังพิจารณามาตรการระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นควันอย่างยั่งยืน เช่น การส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงระบบการจัดการพื้นที่เกษตร และการสร้างความตระหนักให้ประชาชนเห็นถึงผลกระทบของการเผาต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

สรุป

ปภ.ช. สั่งเอาจริงกับเกษตรกรที่ยังดื้อดึงเผาพืชผลทางการเกษตร พร้อมขึ้นบัญชีดำผู้กระทำผิด เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นควันอย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษคาดการณ์ว่าสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 จะกลับมาสูงอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

องค์มนตรีติดตามโครงการพระราชดำริที่เชียงราย

องค์มนตรีติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งแงะในเชียงราย

เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะที่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งแงะอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอเชียงของ โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายอุดม ปกป้องบวรกุล นายอำเภอเชียงของ ร่วมให้การต้อนรับ

การเยี่ยมชมในครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อติดตามผลการดำเนินงานของโครงการที่มีความสำคัญในด้านการพัฒนาชุมชนและการเกษตรกรรมในพื้นที่ โดยองค์มนตรีได้เยี่ยมชมผลผลิตและผลิตภัณฑ์จากราษฎรในพื้นที่โครงการ พร้อมกับทำการปล่อยปลากระแห จำนวน 2,000 ตัว ปลานวลจันทร์ 500 ตัว และปลาบึก 19 ตัว ในแหล่งน้ำของหมู่บ้าน เพื่อนำไปสนับสนุนกิจกรรมการประมงในพื้นที่

พื้นที่โครงการและความสำคัญของโครงการ

อำเภอเชียงของ ตั้งอยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่ชายแดนที่มีอาณาเขตติดต่อกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นระหว่างประเทศ โดยอำเภอเชียงของมีพื้นที่ปกครองแบ่งออกเป็น 7 ตำบล 102 หมู่บ้าน มีประชากรประมาณ 64,000 คน ซึ่งประกอบอาชีพเกษตรกรรมและประมง

อำเภอเชียงของมีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลายทางของรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแม่สาย เชียงแสน เชียงของ ซึ่งตำแหน่งนี้ถือเป็น “Logistic City” ที่สำคัญของประเทศ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาสังคมและชุมชนควบคู่กับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งแงะและประโยชน์ที่ได้รับ

โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งแงะอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ตั้งอยู่ในตำบลห้ายซ้อ หมู่บ้านเวียหมอก เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่มีประชากร 336 ครัวเรือน หรือประมาณ 2,036 คน ซึ่งเป็นหมู่บ้านหลักที่ได้รับประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำนี้ ประชาชนในพื้นที่ใช้ประโยชน์จากน้ำในอ่างเก็บน้ำในการทำการเกษตรกรรม ทั้งการปลูกพืชผัก ทำไร่ ทำนา และทำสวน ผลกระทบจากโครงการนี้ได้ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นอย่างมาก

ในปีที่ผ่านมา ส่วนราชการ ภาคเอกชน และชุมชนได้ร่วมกันเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่โดยการปลูกป่าและต้นไม้ในโครงการต่างๆ เช่น โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 และโครงการปลูกป่าลดก๊าซเรือนกระจกร่วมกับกรมป่าไม้และบริษัทต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต

โครงการปลูกป่าลดก๊าซเรือนกระจก

ในปี 2564 โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติในหมู่บ้านเวียหมอกได้ปลูกต้นไม้รวม 1,000 ต้น เช่น ต้นขี้เหล็ก มะขามป้อม ต้นเสี้ยวขาว และต้นพะยุง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างพื้นที่สีเขียวและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ในปี 2565 ได้มีการดำเนินโครงการปลูกป่าลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจร่วมกับกรมป่าไม้และบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) โดยการปลูกป่าบนพื้นที่ 140.21 ไร่ และจะมีการดำเนินการต่อเนื่องจนถึงปี พ.ศ. 2574 ในปี 2567 มีโครงการปลูกป่าลดก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเติมกับบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บนพื้นที่ 144.38 ไร่ ซึ่งจะเสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2576

บทสรุป

โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโป่งแงะอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ได้สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนในด้านการเกษตรและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำในการเกษตรกรรมและการพัฒนาพื้นที่สีเขียวผ่านโครงการปลูกป่าลดก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน และชุมชนได้ช่วยสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและตรงตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News