Categories
SOCIETY & POLITICS

ด่านแม่สาย Fashion on the Road ดีไซเนอร์อาชีวศึกษาเชียงราย

 
ค่ำวันที่ (2 ก.ย. 66) ที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา จุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย จ.เชียงราย น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในการเปิดการงาน เชียงรายแฟนชั่นสู่การออกแบบระดับโลกครั้งที่ 1 หรือ “Chiang Rai Fashion to The World 1st Designers Competition” โดยการจัดเดินแฟนชั่นบนถนนหน้าด่านพรมแดนหรือ Fashion on the Road โดยมี นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดงานหลายภาคส่วน กิจกรรมมีการจัดให้นักออกแบบ หรือดีไซเนอร์ จากทั่วประเทศไทย จำนวน 73 ดีไซเนอร์ นำผลงานและนางแบบร่วมเดินแบบแสดงด้วยเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ถูกกำหนดให้ใช้ลวดลายผ้าจากกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และภาคเหนือ ซึ่งพบว่าดีไซเนอร์สามารถออกแบบเพื่อการประกวดและจัดแสดงครั้งนี้กว่า 92 ชุด เริ่มต้นด้วยการเดินแฟนชั่นโชว์จาก 10 กลุ่มชาติพันธุ์ คือ อาข่า ม้ง กะเหรี่ยง อิ้วเมี่ยน ไตหย่า ไทใหญ่ ยูนนาน ไทลื้อ ลั้วะ และลาหู่ ด้วยนางแบบจำนวน 20 นางแบบ จาก by YOURS Thailand จากนั้นนางแบบทั้ง 92 คน ได้ออกเดินบนถนนหน้าด่านแม่สาย ท่ามกลางความสนใจของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั้งชาวไทยและเมียนมา ที่ต่างพากันไปชมความงดงามของชุดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ออกแบบและปรับให้มีลวดลายผ้าปักกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ได้อย่างงดงามและลงตัวเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่เสร็จสิ้นการเดินแบบแล้วผู้คนยังขอถ่ายภาพร่วมกับนางแบบกันอย่างเนืองแน่นด้วย
 
สำหรับการประกวดชุดแฟชั่นทั้ง 92 คน พบว่าชุดราตรีชื่อ “โบตั๋น” จากการออกแบบของ น.ส.วิสา แสนสุขยิ่งนัก วิชาคหกรรม สาขาวิชาแฟชั่นและสิ่งทอ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 โดยเป็นชุดกระโปรงยาวลักษณะคล้ายชุดกี่เพ้าของจีนแต่มีลวดลายผ้าลายปักของกลุ่มชาติพันธุ์อิ้วเมี่ยนบนชุดราตรีอย่างลงตัว รางวัลที่ 2 ดีไซเนอร์มาจากกรุงเทพฯ โดยเป็นชุดราตรีธรรมชาติและภูมิปัญญา ฯลฯ ภายในบริเวณงานยังจัดให้มีร้านค้าเกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่นผ้าต่างๆ กว่า 100 ร้านค้า ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวหน้าด่านพรมแดน อำเภอแม่สาย คึกคักเป็นอย่างยิ่ง
 
น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ปัจจุบันทุกประเทศต่างพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อช่วงชิงการนำหลังวิกฤติไวรัสโควิด-19 สำหรับประเทศไทยก็พยายามหาจุดแข็งเพื่อเป็นจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและทั่วโลกด้วยเช่นกัน ซึ่งก็พบว่าจุดแข็งหนึ่งคือซอฟเพาเวอร์เรื่องอาหาร แฟชั่น กิจกรรม faith (ศรัทธา) ฯลฯ ซึ่งภาคเหนือถือว่าส่วนหนึ่งคือมีลวดลายผ้าปักจากกลุ่มชาติพันธุ์ที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง ดังนั้นทาง ททท.จึงได้สนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ขึ้นเพื่อให้เกิดการต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวตลอดทั้งปี หรือ All year รวมทั้งยังส่งเสริมให้เกิดรายได้ไปสู่ชุมชนได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
 
ทางด้าน นางนงเยาว์ เนตรประสิทธ์ นายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงราย กล่าวว่ากลุ่มชาติพันธุ์ที่มีรวมกันกว่า 35 ชาติพันธุ์ ได้มีการออกแบบลวดลายผ้าปักด้วยเทคนิค ลวดลายและสีสันแตกต่างกันซึ่งล้วนมีความวิจิตรงดงาม ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการจัด “Fashion on the Road” เป็นครั้งแรก และคาดหวังจะให้การออกแบบชุดแต่งกายพร้อมลวดลายพัฒนาไปสู่ระดับประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งนอกจากด้านการท่องเที่ยวแล้วยังจะสร้างรายได้ให้คนทุกระดับตั้งแต่กลุ่มชาติพันธุ์ที่ออกแบบลวดลายผ้าปัก ผู้เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน และผู้จัดจำหน่ายในแต่ละขั้น หรือตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อีกด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

เชียงแสน จัดกิจกรรม “เดิน วิ่งรณรงค์เพื่อ ต่อด้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย”

 
วันนี้ (1 ก.ย. 66) ณ สวนชมวิวแม่น้ำโขง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดกิจกรรม “เดิน วิ่งรณรงค์เพื่อต่อด้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย” โดยสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP Thailand) ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมดำเนินโครงการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายในประเทศไทย เพื่อเป็นกลไกของจังหวัดเชียงราย ในการขับเคลื่อนกิจกรรมตามโครงการต่อด้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย โดยมีนายประเสริฐ สอนสถาพรกุล ผู้แทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายเรอโน เมแยร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนรัฐวิสาหกิจ และเยาวชน เข้าร่วมกิจกรรม
โครงการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย เป็นโครงการที่สร้างความตระหนักรู้แก่เยาวชนและประชาชน ถึงปัญหาการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย และยังเป็นการสร้างการมีส่วนร่วม สร้างเครือข่ายในการทำงานร่วมกัน ทั้งภาคประชาสังคม ในการร่วมกันรณรงค์ต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายให้เป็นไปอย่างบูรณาการ และเกิดประสิทธิผล ในการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าตามแนวชายแดนของประเทศไทย
นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงราย ได้มีความตระหนักถึงความสำคัญ ของการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงานระดับจังหวัด ด้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายขึ้น มีผู้ว่าฯ เป็นประธานคณะทำงาน และมีผู้แทนจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเป็นคณะทำงาน ที่ผ่านมาได้มีการอบรม และพัฒนาความรู้ทางด้านการบังคับใช้กฎหมาย ในการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างเครือข่ายในการปฏิบัติงาน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัดของเชียงราย ตามเป้าประสงค์ด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมสร้างสรรค์ เพื่อสร้างสมดุลของระบบนิเวศ ซึ่งการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายนั้น ถือว่าเป็นปัญหาระดับโลก และส่งผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมหลายด้าน การดำเนินการโดยภาครัฐอย่างเดียวไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ จึงต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
สำหรับกิจกรรมวิ่งRun for Wildlife ใช้เส้นทางวิ่งจากหน้าสถานีตำรวจอำเภอเชียงแสน ไปตามถนนรอบเวียง ถึง วัดป่าสัก วัดพระธาตุเจดีย์หลวง ระยะทางรวม 4.4 กิโลเมตร อีกทั้งในงานมีกิจกรรมเดินรณรงค์ร่วมกับโรงเรียนและเครือข่ายต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย พร้อมทั้งนิทรรศการภาพวาดโดยเยาวชนต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายอีกด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

เชียงราย พิจารณาเครื่องหมาย มผช. สินค้าชุมชน 21 รายการ

 
วันนี้ (1 กันยายน 66) นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนจังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 23-3/2566 โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย ในฐานะกรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการนำเข้าที่ประชุม โดยมี นางกฤษนันท์ ทะวิชัย อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย คณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมที่ห้องประชุมที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
 
สำหรับการประชุมคณะกรรมการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนจังหวัดเชียงราย ซึ่งสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย ได้รายงานต่อที่ประชุมถึงผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่ผ่านการประเมินแล้ว จำนวน 21 ภลิตภัณฑ์ เป็นผู้ผลิตรายเก่าจำนวน 12 ผลิตภัณฑ์ เป็นผู้ผลิตรายใหม่ จำนวน 9 ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาให้ความเห็นชอบและรับรองให้แสดงเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) โดยผลิตภัณฑ์ชุมชน 21 รายการ ประกอบด้วย 
1. ผลิตภัณฑ์ชาจากบริษัท ชาฉุยฟง จำกัด (รายเก่า) 
2. ผลิตภัณฑ์ชา (ชากึ่งหมัก) ของนายวีรชัย ปทุมชัย (รายเก่า) 
3. กลุ่มหัตถกรรมกลึงไม้บ้านขัวแคร่ (รายเก่า) 
4. วิสาหกิจชุมชนบ้านป่าสักไก่ (รายเก่า) ไม้กวาดทางมะพร้าว 
5. วิสาหกิจชุมชนบ้านป่าสักไก่ (รายเก่า) ไม้กวาดดอกหญ้า 
6. วิสาหกิจชุมชนบ้านป่าสักไก่ (รายเก่า) ผลิตภัณฑ์จักสานไม้ไผ่ 
7. วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์บ้านจงเจริญ (รายเก่า) ผลิตภัณฑ์ผ้าปัก 
8. วิสาหกิจชุมชนทำมือบ้านจงเจริญ (รายใหม่) กระเป๋าผ้า 
9. วิสาหกิจชุมชนทำมือบ้านจงเจริญ (รายเก่า) ผ้าปัก 
10. วิสาหกิจชุมชนทำมือบ้านจงเจริญ (รายใหม่) เสื้อผ้าสำเร็จรูปหญิง 
11. นางสาวกนกวรรณ รัษฎาดาล (รายใหม่) ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสำเร็จรูปหญิง 
12. บริษัท สุวิฬรุฬห์ ชาไทย จำกัด (รายเก่า) ชากึ่งหมัก 
13. บริษัท สุวิรุฬห์ ชาไทย จำกัด (รายเก่า) ชาหมัก 
14. นางสาวปราจีน เวียงโอสถ (รายเก่า) ผลิตภัณฑ์ถักโครเชต์ 
15. กลุ่มทอผ้าและทอเสื่อกกบ้านทุ่งโป่ง (รายใหม่) ผลิตภัณฑ์จากกก 
16. วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรพระธาตุผาเงา (รายใหม่) ลูกประคบสมุนไพร 
17. นางสาวณัชพร สุวรรณจัก (รายใหม่) น้ำมันหอมระเหย 
18. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มตีมีดบ้านป่าสักใต้ (รายเก่า) ผลิตภัณฑ์มีด 
19. กลุ่มทอผ้าและทอเสื่อกกบ้านทุ่งโป่ง (รายใหม่) ผ้าปูโต๊ะและผ้าที่ใช้บนโต๊ะอาหาร 
20. นางลุ ภารไสว (รายใหม่) ผลิตภัณฑ์จากกก และ 
21. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มตัดเย็บแปรรูปบ้านป่าซาง หมู่ที่ 3 (รายใหม่) ผ้าพิมพ์ลายจากพืช 
 
โดยการประชุมครั้งนี้คณะกรรมการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนจังหวัดเชียงราย มีมติผ่านการรับรองผลิตภัณฑ์ชุมชนทั้ง 21 รายการ
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย พบ เยาวชนอาสา อ.เชียงของ

เมื่อวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2566 เวลา 11.00 น. นายก พี่นก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมด้วย นายชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย ลงพื้นที่พบปะและให้กำลังใจน้องๆเยาวชน ในโครงการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย กิจกรรมที่ 3 เยาวชนเชียงรายคนมีดี “เยาวชนอาสาพัฒนาเชียงราย” ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอขุนตาล โดยมีนายสมชาย เชื้อเมืองพาน ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ขุนตาล รักษาการปลัดอาวุโส อ.ขุนตาล เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และมีนางสาวกิตติอัจฉรา อะทะไชย ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง อ.ขุนตาล นายณัฐ ทรัพย์ศิริ ผอ.โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม นายฐิติวัชร ไลศิริพันธุ์ ผอ.ส่วนส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบจ.เชียงราย เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย

ทาง อบจ.เชียงราย ได้เล็งเห็นว่า กิจกรรมนี้เป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืนภายในท้องถิ่น และได้ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการส่งเสริมให้เยาวชนจังหวัดเชียงราย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนกลไกการพัฒนาท้องถิ่น ผ่านกระบวนการระดมความคิดสร้างสรรค์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน สู่การออกแบบกิจกรรมการพัฒนา วางแผนในการดำเนินกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำงานด้านเด็กและเยาวชน ให้ครอบคลุมและทั่วถึงทั้ง 18 อำเภอ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อีกทั้งยังเป็นการดำเนินการเชิงรุก ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กและเยาวชน ได้เข้ามารับฟังปัญหาและความต้องการของเยาวชนในพื้นที่จริง การตระหนักถึงศักยภาพและการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน ในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเองซึ่งจะนำไปสู่การวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล สถานการณ์ด้านเด็กและเยาวชน ในภาพรวมของจังหวัดเชียงราย ให้สามารถแก้ปัญหา ส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านนี้อย่างมีประสิทธิภาพ และทาง อบจ.เชียงราย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และจะให้การสนับสนุนด้วยดีต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

ไฟไหม้อุโบสถไม้อายุ 100 ปี เหลือแต่เสาไม้ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 26 ส.ค.2566 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.แม่สรวยจ.เชียงราย ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านปางอาณาเขต หมู่ 6 ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ว่าได้เกิดเหตุไฟไหม้ภายใน วัดปางอาณาเขต ต.แม่พริก อ.แม่สรวย

ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน จึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) อ.แม่สรวย พร้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่นำรถดับเพลิงไประงับเหตุโดยมีชาวบ้านจำนวนมากช่วยกันดับไฟล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบไฟได้โหมลุกไหม้พระวิหารภายในวัดอย่างหนัก เมื่อสอบถามชาวบ้านทราบว่ามีผู้เห็นไฟไหม้ตั้งแต่เวลาประมาณ 03.30 น. และโหมลุกไหม้เฉพาะในส่วนของพระวิหาร ขณะที่โดยรอบมีกุฏิพระสงฆ์และสามเณรรวมทั้งสิ่งปลูกสร้างต่างๆ อยู่ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ช่วนกันเข้าฉีดพ่นน้ำเพื่อดับอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามออกไป

จนกระทั่งเวลา 05.30 น. จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่พบว่าพระวิหารถูกไฟไหม้จนเสียหายทั้งหลัง โดยเหลือเพียงต้นเสาไม้ที่ยืนต้นอยู่แต่ดำเป็นตอตะโก ส่วนหลังคาและพนังซึ่งเป็นไม้ถูกเผาจนทลายลงมากับพื้นทั้งหมด กระนั้นยังเหลือผนังด้านที่เป็นคอนกรีตและพระพุทธรูปที่เป็นองค์พระประธานรวมทั้งอริยสาวกเบื้องซ้ายและขวาที่ยังคงเหลืออยู่และไม่ถูกไฟไหม้

ทั้งนี้พระวิหารดังกล่าวมีอายุความเป็นมามากกว่า 100 ปี โดยสร้างจากไม้เกือบทั้งหลังทำให้เมื่อเกิดการลุกไหม้จึงลุกลามได้ง่ายและเกิดความเสียหายอย่างหนักดังกล่าว

ซึ่งหลังเกิดเหตุทางฝ่ายปกครอง อ.แม่สรวย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สรวย เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะได้เข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ขณะที่ทางคณะสงฆ์ ต.แม่พริก ได้เดินทางไปให้กำลังใจทางพระสงฆ์และสามเณรรวมถึงชาวบ้านหมู่บ้านปางอาณาเขตแล้ว.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

มทบ.37 ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกษตร ส่งคนช่วยคัดแยกดอกไม้

 
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 66 ร.ต. ไพบูลย์ สายหงษ์หน.ชุดประสานงานและคุ้มครองป้องกันชุมชน สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง บ้านธารทอง พร้อมด้วยกำลังพลร่วมกับเจ้าหน้าที่เกษตร และราษฎร สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ บ้านธารทอง ทำการคัดแยกดอกดาวเรือง ดอกเข้าพรรษา และดอกบัวเข็ม ของสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ บ.ธารทอง ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.ชร. เพื่อส่งจำหน่ายให้กับตลาดดอกไม้ในจังหวัดเชียงราย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

นับถอยหลังสู่การจัดงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023

 

วันนี้ (17 สิงหาคม 66) เวลา 10.00-12.00 น. ณ The Jim Thompson Art Center กระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จัดพิธีแถลงข่าวโครงการการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale,Chiangrai Rai 2023 ครั้งที่ 2 โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธาน นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม คณะอนุกรรมการ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ และคณะภัณฑารักษ์ ศิลปินเครือข่ายจากจังหวัดเชียงราย สมาคมขัวศิลปเชียงราย และสื่อมวลชน เข้าร่วมแถลงข่าวฯ เปิดตัวศิลปิน รอบสอง 20 คน pavilions แสดงงานของกลุ่มศิลปินต่าง ๆ 10 Pavilions อาทิ Korean Paivilion,MOMA Warsaw,Production Zamia ,สล่าขิ่น,กลุ่มศิลปินสีน้ำนานาชาติ และกิจกรรมคู่ขนานต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์โครงการการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale,Chiangrai Rai 2023 สู่สาธารณชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือและความก้าวหน้าของการดำเนินงานของโครงการ ดังกล่าว

ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายสุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปเชียงราย ผู้แทนมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กลุ่มศิลปินเชียงราย ร่วมในพิธีแถลงข่าว
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

พัชรนันท์ แก้วจินดา : รายงาน
ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย: ภาพ
อภิชาต กันธิยะเขียว :บรรณาธิการ
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

มทบ.37 เชียงราย ร่วมเจ้าหน้าที่เกษตร ฝึกอบรมงานผ้าปักลายพระราชทาน

 

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 66 เวลา 09.00 น. ร.ท. วชิรศักดิ์ ตันชัยสิริมณีกุล หน.ชป.โครงการฯ บ้านห้วยหยวกป่าโซ พร้อมด้วยกำลังพล ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกษตรในโครงการฯ อำนวยความสะดวก ให้กับ นายพงศกร ไกรกิจราษฎฐ์ ครูศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพ จังหวัดเชียงราย และคณะ ที่มาทำการฝึกอบรมงานผ้าปักลายพระราชทาน (ผ้าลายดอกรักราชกัญญา) ให้กับราษฎรบ้านห้วยหยวกป่าโซ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

ชาวเชียงรายแห่เวียนเทียน วันอาสาฬหบูชาวัดห้วยปลากั้ง แน่นวัด!

ค่ำวันนี้(1 ส.ค.) ที่วัดห้วยปลากั้ง อ.เมืองเชียงราย พระไพศาลประชาทร วิ. (หลวงพ่อพบโชค) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง นำพระสงฆ์ พุทธศาสนิกชน ปฎิบัติธรรมสวดมนต์เย็น นั่งสมาธิ และเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ โดยพบว่ามีประชาชน และนักท่องเที่ยวร่วมพิธีเวียนเทียนจำนวนมาก โดยมาเป็นครอบครัว ทั้งคนหนุ่ม คนสาวมาเวียนเทียนกันจนแน่นวัด วันอาสาฬหบูชา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าได้แสดงธรรมจากการตรัสรู้ให้แก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ซึ่งเป็นวันแรกที่พระรัตนตรัยเกิดขึ้นโดยสมบูรณ์ ครบองค์ 3 คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
 
นางปวีณา งามกระบวน ชาวเชียงราย กล่าวว่า ตนเองเดินทางมาพร้อมกับครอบครัว ส่วนตัวยังคงมีความศรัทธา และยึดมั่นในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การมาทำบุญ เวียนเทียน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมกับน้อมนำหลักคำสอนไปปฏิบัติต่อไป
 
การเวียนเทียน ถือเป็นการบูชาพระรัตนตรัยด้วยอามิสบูชาและปฏิบัติบูชา ซึ่งถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลในวันสำคัญทางพุทธศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอัฏฐมีบูชาและวันอาสาฬหบูชาโดยปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฎก ใช้คำว่าเวียนประทักษิณาวัตร คือ การเวียนขวา 3 รอบ เพื่อเป็นเครื่องหมายการแสดงออกถึงการเคารพบูชาต่อสิ่งนั้น ๆ อย่างสูงสุด โดยก่อนการเวียนเทียนพุทธบริษัท ทั้ง พระภิกษุ สามเณร อุบาสก และอุบาสิกา จะมาพร้อมกันที่หน้าพระอุโบสถ
 
จากนั้นประธานสงฆ์จุดเทียนและธูป ตามด้วยประธานฝ่ายฆราวาสและผู้ที่มาร่วมประกอบพิธีเวียนเทียน เสร็จแล้วประนมมือ ถือดอกไม้ธูปเทียนเดินเวียนขวารอบปูชนียสถาน จำนวน 3 รอบ โดยรอบแรกจะเป็นการเจริญภาวนาระลึกถึงพระพุทธคุณ รอบที่สองเจริญภาวนาระลึกถึงพระธรรมคุณ และรอบสามเจริญภาวนาระลึกถึงพระสังฆคุณ ซึ่งขณะเวียนเทียนทุกคนจะต้องอยู่ในอาการที่สำรวมทั้ง กาย วาจา และใจ มีสติอยู่กับตัว ไม่พูดคุยและหยอกล้อกันในขณะที่เวียนเทียน เพราะเป็นการไม่เคารพต่อพระรัตนตรัยและสถานที่ ตลอดจนทำให้ผู้อื่นเกิดความรำคาญหรืออาจเกิดอุบัติเหตุได้ เมื่อเวียนครบ 3 รอบ ทุกคนจะนำดอกไม้ ธูป เทียน ไปวางและปักบูชาไว้ยังสถานที่ที่จัดเตรียมไว้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

กอ.รมน. เชียงราย ตรวจสอบ การบุกรุกป่า อ.เชียงแสน

 
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น. โดย พ.อ.พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ หน.กลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าวฯ พร้อมด้วยกำลังพล กอ.รมน.จังหวัด ช.ร. บูรณาการประสานงานร่วมกับ สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2,ปกครองอำเภอเชียงแสน,ขกท.กกล.ผาเมือง,กองร้อยทหารพรานที่ 3102,ชุดปฏิบัติการ ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าที่ 2 และผู้แทนประธานป่าชุมชนตำบลเวียง อ.เชียงแสน โดยมีการประชุมเพื่อรับทราบข้อมูล ตามกรณีมีผู้ร้องเรียนว่าพื้นที่ป่าชุมชนบริเวณบ้านจอมกิตติ ม.6 และ บ้านชุมชน บ้านเวียงเหนือ ม.2 ต.เวียง อ.เชียงแสน ถูกบุกรุกแผ้วถางและเผาทำลาย ณ ห้องประชุม ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าภาคเหนือที่ 2 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จว.เชียงราย ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. ได้ลงพื้นที่ร่วมกับส่วนราชการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนว่าถูกบุกรุกบริเวณป่าชุมชนบ้านจอมกิตติ หมู่ที่ 6 ต.เวียง อ.เชียงแสน จว.เชียงราย รายละเอียดการปฏิบัติเพิ่มเติม กลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าวฯ จะได้รายงานให้ทราบต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News