Categories
TOP STORIES

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชี้แจง “ลูกนากเล็บสั้น” หลุดบนเครื่องบินไทย พาวุ่นทั้งลำ!

วันนี้ (5 ต.ค.66) เพจเที่ยวทุกที่ Boarding Pass ได้เผยภาพคลิปความยาว 1 นาที เป็นเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่กำลังไล่จับลูกนากเล็บสั้น อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพนักงานต้อนรับ หรือ เพอร์เซอร์ ได้ประกาศตามหาตัวเจ้าของนาก 3 ภาษา ไทย – อังกฤษ – จีน แต่กลับไม่มีใครแสดงตัว และมีการระบุว่ามีความจำเป็น ที่จะต้องหาเจ้าของสัตว์ให้ได้ จนมีชาวต่างชาติ 1 คน เดินมาคุยกับพนักงานต้อนรับเพื่อขอนากคืน และเหมือนจะร้องไห้ด้วย

ต่อมากรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รายงานว่าได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า พบมีการลักลอบส่งออกสัตว์ป่ามีชีวิตขึ้นไปบนเครื่องบินของสายการบิน Vietjet Air ที่เดินทางจากสนามนินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ไปยังเมืองไทเป ประเทศไต้หวัน

จากการตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบขนส่งสัตว์ป่า คือ เต่าดาวพม่า 20 ตัว นาก 2 ตัว พญากระรอก 2 ตัว และแพรี่ด็อก 1 ตัว ซุกช่อนอยู่ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ทั้งนี้ไม่มีผู้โดยสารคนใดแสดงตัวเป็นเจ้าของกระเป๋าดังกล่าว

ทำให้เจ้าหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่า ประสานงานกับสายการบิน Vietjet Air เพื่อขอทราบรายละเอียดข้อมูลเที่ยวบินผู้โดยสารที่ถือกระเป๋าขึ้นเครื่องบิน และให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่า ประสานงานกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบกระเป๋าที่ต้องสงสัยในการลักลอบสัตว์ป่าออกไป

พบว่าผู้โดยสารที่นำสัตว์ขึ้นเครื่องดังกล่าวเป็นชาวต่างชาติ 2 ราย ซึ่งได้มีการนำกระเป๋าผ่านเครื่อง X-Ray บริเวณจุดตรวจค้นในเวลาประมาณ 13.45 น. โดยพนักงานวิเคราะห์ภาพเกิดข้อสงสัยจึงส่งกระเป๋าให้พนักงานอีกคนหนึ่งทำการเปิดกระเป๋า เพื่อพิสูจน์ทราบว่าสิ่งที่สงสัยนั้นเป็นวัตถุอันตรายหรือ วัตถุต้องห้ามหรือไม่ แต่พนักงานคนดังกล่าวมิได้ทำการเปิดตรวจกระเป๋าและอนุญาตให้ผู้โดยสารผ่านจุดตรวจค้นเดินทางขึ้นเครื่องบินต่อไป

ทสภ. ขอเน้นย้ำว่าระบบเทคโนโลยีที่นำมาใช้ภายในจุดตรวจค้นของ ทสภ. สามารถทำงานได้ตามมาตรฐาน และขั้นตอนการตรวจสอบวัตถุต้องห้ามที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน

แต่กรณีนี้เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของพนักงานเปิดตรวจสอบกระเป๋าไม่ดำเนินการตามขั้นตอนการปฏิบัติงานที่กำหนดไว้ โดย ทสภ. มีคำสั่งให้พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวหยุดปฏิบัติงานทันที และหากผลการสอบสวนพบว่าเป็นการละเลยขั้นตอนการปฏิบัติงานตามมาตรฐานจะต้องถูกดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป

 

ทั้งนี้ ทสภ. ขอย้ำเตือนผู้เดินทางทั้งชาวไทยและต่างชาติทุกท่าน ไม่กระทำผิดกฎหมายโดยการลักลอบ นำสัตว์ หรือ ซากสัตว์ ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตขึ้นเครื่องเข้า-ออกนอกประเทศ หากประสงค์จะนำสัตว์เลี้ยงเดินทาง ขอให้ทำการขออนุญาตให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะมีความเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายทั้งกฎหมายไทยและต่างประเทศ ที่ต้องรับโทษทั้งปรับและจำคุก


 

สำหรับ “นาก” เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535  ในไทยมี 4 ชนิดคือ นากเล็กเล็บสั้น นากใหญ่ขนเรียบ นากจมูกขน และนากธรรมดา แต่ตัวที่อาจพบได้ในเขตเมืองมี 2 ชนิดคือ นากใหญ่ขนเรียบ นากเล็กเล็บสั้น ไม่สามารถครองครองหรือค้าได้  

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
NEWS UPDATE

กรมป่าไม้ส่งชุดพยัคฆ์ไพร ลุยพิจิตร พบพิรุธโรงงานแปรรูป

 
“กรมป่าไม้ส่งชุดพยัคฆ์ไพรลงพื้นที่ขยายผลตรวจสอบกรณีได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีไม้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้ามาซุกซ่อนและทำการแปรรูปภายในบริเวณสถานประกอบกิจการอุตสาหกรรมไม้แห่งหนึ่งในอำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร เบื้องต้นตรวจพบไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ท้ายในอนุญาต จึงได้แจ้งความกล่าวโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484”
 
นายทรงศักดิ์ กิตติธากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สั่งการให้นายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.4 สาขานครสวรรค์ เข้าตรวจสอบสถานประกอบกิจการอุตสาหกรรมไม้แห่งหนึ่งในอำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีไม้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้ามาซุกซ่อนและทำการแปรรูปภายในบริเวณสถานประกอบการแห่งนี้
 
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบปรากฏว่า สถานประกอบกิจการอุตสาหกรรมไม้แห่งนี้ ได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรเพื่อการค้า โดยมีผู้แทนบริษัทได้นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และมอบสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการจัดทำบัญชีไม้ ให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงในแต่ละวัน และไม่เก็บรักษาบัญชีไม้และหลักฐานกำกับไม้ที่นำเข้าและจำหน่ายออกไว้ ณ สถานที่รับใบอนุญาต 
 
ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ฉบับที่ 18 (พ.ศ.2532) ออกตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 ว่าด้วยการควบคุมการแปรรูปไม้ ข้อ 8 และ ข้อ10 มีความผิด ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 ฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาตหรือข้อกำหนดที่รัฐมนตรีกำหนดให้ปฏิบัติเพิ่มเติม ตามมาตรา 58 ประกอบตามมาตรา 73 ทวิ และจากการตรวจสอบพบคนงาน 11 คน ไม่มีใบคู่มือคนงานหรือผู้รับจ้าง แสดงต่อเจ้าหน้าที่ มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 57 ประกอบมาตรา 71
 
นอกจากนี้ตรวจพบไม้สักท่อน 1 ท่อน ปริมาตร 1.43 ลูกบาศก์เมตร ไม้สักแปรรูป 21 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 2 ลูกบาศก์เมตร และไม้พฤกษ์แปรรูป 27 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 3.62 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังไม่สามารถแสดงเอกสารการได้มาของไม้ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งผู้แทนบริษัทแจ้งว่าเป็นไม้ที่รับจ้างแปรรูป จึงขอโอกาสนำเอกสารการได้มาของไม้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 7 วัน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องต่อไป
 
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่บันทึกเรื่องราว นำไปแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโพทะเล ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมจะได้แจ้งประสานไปยังศูนย์ป่าไม้พิจิตร เพื่อประสานไปยังสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจิตร ให้พิจารณาดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายด้านการอนุญาต และประสานสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขานครสวรรค์ เพื่อพิจารณามอบหมายเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องการได้มาของไม้ตามระเบียบและกฎหมายต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

กองกำลังผาเมือง ยึดจักรยานยนต์ ลักลอบนำข้ามแดน จ.เชียงราย

 
เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 กองกำลังผาเมือง โดย กองร้อยทหารพรานที่ 3107 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 31 จัดกำลังพล จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร บริเวณช่องทาง บ้านโป่งไฮ หมู่ที่ 21 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย 
 
หลังจากสืบทราบว่าจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบนำรถจักรยานยนต์ ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จำนวน 4 ราย ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน เข้ามาบริเวณพื้นที่ดังกล่าว หน่วยจึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น เมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ ได้ทิ้งรถและวิ่งหลบหนีไปตามภูมิประเทศ 
 
โดยอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้ หน่วยจึงได้ประสาน กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 327 หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 เข้าร่วมตรวจสอบพื้นที่ จากการตรวจสอบพบรถจักรยานยนยต์ จำนวน 4 คัน ได้แก่ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น PCX สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, ยี่ห้อ ฮอนด้า PCX สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 ไอ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หน่วยจึงได้นำของกลางส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News