Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

‘เชียงราย’ เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมกว่า 3 หมื่นครัวเรือน

เชียงรายเร่งติดตามความคืบหน้าแผนฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ระยะที่ 2

ประชุมติดตามแผนปฏิบัติการเยียวยาเร่งด่วน จังหวัดเชียงราย

เชียงราย, 22 เมษายน 2568 – ที่ห้องประชุมธรรมลังกา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินโครงการและกิจกรรมภายใต้แผนปฏิบัติการและระบบติดตามการฟื้นฟูเยียวยาพื้นที่ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มในจังหวัดเชียงราย ระยะที่ 2 โดยเน้นยุทธศาสตร์ที่ 3 การเร่งรัดการชดเชยเยียวยาความเสียหายให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรายงานความคืบหน้าอย่างพร้อมเพรียง

การช่วยเหลือฟื้นฟูและเยียวยาจากมติคณะรัฐมนตรี

ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 และ 8 ตุลาคม 2567 จังหวัดเชียงรายได้ดำเนินการรับคำร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยรวมจำนวนทั้งสิ้น 35,124 ครัวเรือน โดยธนาคารออมสินได้ดำเนินการโอนเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยครบถ้วนแล้ว เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 316,116,000 บาท

กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พ.ศ. 2567

สำหรับกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายปี 2567 มียอดเงินบริจาครวม 9,839,079.03 บาท ซึ่งได้มีการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ ได้แก่:

  • สมทบค่าวัสดุก่อสร้างบ้าน จำนวน 174 หลัง เป็นเงิน 8,370,000 บาท
  • สมทบค่าดำรงชีพแก่ผู้ประสบภัยบ้านพังทั้งหลัง 160 ราย เป็นเงิน 1,398,000 บาท

รวมเป็นเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ ทั้งสิ้น 9,768,000 บาท

เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน

ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2562 จังหวัดเชียงรายได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท และได้ดำเนินการช่วยเหลือแล้วทั้งสิ้น 95,179,184 บาท โดยเฉพาะในส่วนของค่าล้างทำความสะอาดดินโคลน ครัวเรือนละ 10,000 บาท ซึ่งมีผู้ขอรับความช่วยเหลือจำนวน 18,362 ครัวเรือน ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 4,994 ครัวเรือน และยังคงเหลืออีก 13,368 ครัวเรือนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ

เงินช่วยเหลือจากสำนักนายกรัฐมนตรีและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

จากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี มีการขอรับความช่วยเหลือรวมทั้งสิ้น 13,570,000 บาท โดยดำเนินการช่วยเหลือแล้วในรอบที่ 1 และ 2 ครอบคลุม:

  • ผู้เสียชีวิต 12 ราย เป็นเงิน 1,080,000 บาท
  • บ้านพังทั้งหลัง 73 หลัง เป็นเงิน 12,490,000 บาท

ส่วนการขอรับความช่วยเหลือครั้งที่ 3 อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักนายกรัฐมนตรี ครอบคลุมผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 2 ราย และบ้านเสียหายทั้งหลังอีก 39 หลัง

สำหรับความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย โดยใช้งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ ได้ดำเนินการแล้วดังนี้:

  • องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.) ช่วยเหลือ 48,937,375 บาท
  • เทศบาลนครเชียงราย ช่วยเหลือ 19,157,500 บาท
  • องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ ช่วยเหลือ 44,057,118 บาท

รวมเป็นเงินช่วยเหลือจาก อปท. ทั้งหมด 112,151,993 บาท

บทวิเคราะห์และข้อเสนอเชิงนโยบาย

การประชุมติดตามครั้งนี้ถือเป็นกลไกสำคัญที่สะท้อนถึงความร่วมมือเชิงรุกของจังหวัดเชียงรายในการเร่งแก้ไขและฟื้นฟูความเสียหายจากภัยธรรมชาติในเชิงระบบ การประสานงานระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่น มีความสำคัญยิ่งในการลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย

ทั้งนี้การขับเคลื่อนภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 3 จะต้องสอดคล้องกับแนวทางการจัดการภัยพิบัติอย่างยั่งยืน ได้แก่ การบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน การบริหารงบประมาณแบบมีประสิทธิภาพ และการสร้างความโปร่งใสในทุกขั้นตอนของการช่วยเหลือ

สถิติและแหล่งอ้างอิง

ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปี 2567 ระบุว่า จังหวัดเชียงรายเผชิญเหตุอุทกภัยรวมทั้งสิ้น 48 ครั้ง โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 14 อำเภอ และมีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 87,000 คน

ขณะที่รายงานจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ปี 2567 ระบุว่า ความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายคิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อทรัพย์สินและผลผลิตทางการเกษตรสูงถึง 2,043 ล้านบาท

รายงานการเงินจากสำนักงานจังหวัดเชียงราย ประจำเดือนเมษายน 2568 ระบุว่า การเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่แล้วเสร็จถึง 91.7% ของงบประมาณทั้งหมด โดยตั้งเป้าให้การช่วยเหลือทั้งหมดแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2568

การประชุมในครั้งนี้จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และเป็นการยืนยันถึงการดำเนินงานที่โปร่งใส รอบด้าน และเป็นธรรมภายใต้หลักการบูรณาการทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

‘วิโรจน์’ เผยผลสำรวจหลังร่วมฟื้นฟู น้ำท่วมเชียงราย เสนอมาตรการระยะยาว

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร เปิดเผยผลสำรวจหลังร่วมฟื้นฟูน้ำท่วมเชียงราย เสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยระยะยาว

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานของทีมอาสาสมัครฟื้นฟูน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย ซึ่งเกิดขึ้นจากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยนายวิโรจน์ได้เน้นย้ำถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่อย่างรุนแรง

ภัยพิบัติครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี

เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงราย ไม่เพียงแต่เป็นน้ำท่วมทั่วไป แต่ยังรวมถึงน้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐานอย่างรุนแรง นายวิโรจน์ระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2547 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภอแม่สาย ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด

ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการฟื้นฟู

หลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชนประจำจังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนเบื้องต้น และได้ร่วมกันจัดตั้ง “ศูนย์ประชาชนอาสา” เพื่อระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย โดยมีมูลนิธิกระจกเงาเข้ามาร่วมเป็นพี่เลี้ยงในการดำเนินงาน

ปัญหาที่พบและข้อเสนอแนะ

จากการลงพื้นที่และดำเนินงานฟื้นฟู นายวิโรจน์ได้พบปัญหาสำคัญหลายประการ เช่น ปัญหาเรื่องหนี้สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว นอกจากนี้ ยังพบปัญหาเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่อำเภอแม่สาย ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม

เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ นายวิโรจน์ได้เสนอข้อเสนอแนะหลายประการ เช่น การให้รัฐบาลสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประสบภัย เพื่อให้สามารถฟื้นฟูชีวิตและธุรกิจได้ รวมถึงการเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่อำเภอแม่สาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากในอนาคต

ความสำคัญของการร่วมมือกัน

นายวิโรจน์ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในระยะยาว เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

หลังจากตนประเมินสภาพพื้นที่ จึงได้พูดคุยขอคำปรึกษาจากเจ้ากรมยุทธการทหารและเจ้ากรมทหารช่าง ซึ่งต้องขอบคุณที่ในเวลาต่อมา ทหารช่างส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่อย่างรวดเร็ว นี่คือตัวอย่างของการร่วมแรงร่วมใจทำงาน เราผนึกกำลังกับทุกภาคส่วนทั้งราชการและท้องถิ่นเพื่อให้งานสำเร็จ

(1) จะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าถึงการชดเชยเยียวยาอย่างรวดเร็วไม่ตกหล่น

(2) จะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินในระบบ เพราะจากการลงพื้นที่ ตนพบว่าทุกบ้านจะมีบัตรของแหล่งเงินกู้นอกระบบตกอยู่ตามพื้นเต็มไปหมด แสดงว่านายทุนเงินกู้นอกระบบรู้ว่าชาวบ้านคนตัวเล็กต้องการเงินทุนเพื่อตั้งต้นชีวิตใหม่

ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ธนาคารออมสินซึ่งเป็นกลไกหลักของรัฐ ทำให้ประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินในระบบได้ ไม่เช่นนั้นหลังจากนี้ภาวะหนี้ครัวเรือนจะยิ่งซ้ำเติมชาวเชียงราย

(3) ระบบระบายน้ำที่พร้อมรองรับฤดูฝนในปี 2568 เพราะเราเชื่อว่ายังมีโคลนค้างอยู่ในท่อบางจุด จึงจำเป็นต้องมีการลอกท่อครั้งใหญ่ ข้อจำกัดตอนนี้ คือ งบประมาณของท้องถิ่นอาจร่อยหรอลงเพราะต้องนำเงินสะสมไปใช้ในช่วงภัยพิบัติ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องพิจารณางบประมาณให้เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือประชาชน

(4) ปัญหาเอกสารสิทธิในที่ดิน เนื่องจากหลายบ้านไม่มีบ้านเลขที่ ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้เข้าไม่ถึงการชดเชยเยียวยา รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน รวมถึงย้ายประชาชนที่ปัจจุบันอาศัยในพื้นที่เสี่ยง ให้ออกมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย

(5) ปัญหาบ่อบำบัดน้ำเสียที่ อ.แม่สาย ที่ประชาชนตั้งข้อสังเกตว่าสร้างขวางทางไหลของน้ำหรือไม่ ตอนนี้บ่อชำรุด รัฐควรให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบว่าขวางทางน้ำจริงหรือไม่ ปรับปรุงให้มีการระบายน้ำที่ดีขึ้นกว่านี้ได้หรือไม่ ในอนาคตจะได้ไม่เกิดปัญหาซ้ำเดิม

โดยเรื่องนี้ตนได้ตั้งกระทู้ถามไปยังนายกรัฐมนตรีให้ตอบในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้ประชาชนทราบว่ารัฐจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากยังมีประชาชนไม่สบายใจ กังวลว่าปีหน้าจะเกิดเหตุแบบปีนี้ ซึ่งนายกฯ มีหนังสือตอบกลับมาแล้ว ขอเวลาในการตอบเพิ่มเติม ตนจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป

(6) การขุดลอกแม่น้ำสาย เนื่องจากเป็นแม่น้ำที่กั้นพรมแดนระหว่างไทยและเมียนมา การทำอะไรจึงมีข้อจำกัดเพราะมีประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องพูดคุยว่าจะขุดลอกแม่น้ำสายร่วมกันอย่างไร ทำระบบเตือนภัยให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งลำน้ำได้ประโยชน์ รวมถึงพิจารณาปัญหาการรุกล้ำลำน้ำ

บทสรุป

เหตุการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของสังคมต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ และความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมและวางแผนรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต นอกจากนี้ ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนเพื่อฟื้นฟูและสร้างสรรค์สังคมให้กลับมามีความเข้มแข็งอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายมากน้อยเพียงใด? เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจของประชาชนในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภอแม่สาย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี

  2. มีการดำเนินการใดบ้างเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย? มีการจัดตั้งศูนย์ประชาชนอาสาเพื่อระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย โดยมีการจัดส่งทีมอาสาสมัครเข้าไปช่วยเหลือในการทำความสะอาดบ้านเรือนและชุมชน

  3. ปัญหาที่สำคัญที่พบในการฟื้นฟูคืออะไร? ปัญหาที่สำคัญคือหนี้สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ และปัญหาเรื่องระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่อำเภอแม่สาย

  4. มีมาตรการใดบ้างเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น? ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ การให้รัฐบาลสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประสบภัย และการเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องระบบบำบัดน้ำเสีย

  5. บทเรียนที่ได้จากเหตุการณ์นี้คืออะไร? เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมและวางแผนรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต รวมถึงความสำคัญของการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการฟื้นฟู

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : วิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม มอบเงินสร้างบ้านใหม่ “เวียงแก่น”

เชียงรายเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบเงินก่อสร้างบ้านให้ผู้เสียหาย

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 หลังจากที่จังหวัดเชียงรายประสบปัญหาอุทกภัยรุนแรงเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมและดินสไลด์ ล่าสุดจังหวัดเชียงรายได้เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง โดยมีการมอบเงินช่วยเหลือเพื่อสมทบค่าก่อสร้างบ้านให้กับผู้ที่บ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักจากอุทกภัย โดยเงินช่วยเหลือดังกล่าวมาจากเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี 2567 ซึ่งได้รับการบริจาคจากภาคเอกชน องค์กรเอกชน และประชาชนทั่วไป

นายสุพจน์ ลังกาวีระนันท์ นายอำเภอเวียงแก่น กล่าวว่า “การมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยของภาครัฐและภาคเอกชนที่มีต่อพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย เราหวังว่าเงินจำนวนนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยได้ฟื้นฟูบ้านเรือนกลับมาอยู่อาศัยได้ตามปกติ”

สำหรับการจัดสรรเงินช่วยเหลือ

คณะทำงานฝ่ายพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้ดำเนินการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม โดยให้ความสำคัญกับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลัง

นอกจากอำเภอเวียงแก่นแล้ว

ยังมีอีก 2 อำเภอที่ได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติม ได้แก่ อำเภอแม่สาย และอำเภอแม่ฟ้าหลวง ซึ่งรวมแล้วมีผู้ได้รับการช่วยเหลือจำนวน 43 ครัวเรือน ด้วยวงเงินรวม 1,940,000 บาท

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “จังหวัดเชียงรายยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันบริจาคเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทำให้เราสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที”

สำหรับยอดเงินบริจาคของกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี 2567

ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,245,716.42 บาท และล่าสุดได้รับเงินบริจาคจากบริษัท ไทยยามาฮ่า ร่วมกับสินธานีกรุ๊ป เพิ่มเติมอีก 200,000 บาท

การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้

สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนในการฟื้นฟูและพัฒนาจังหวัดเชียงรายให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News