
รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาสารปนเปื้อนและอุทกภัยลุ่มน้ำกก–สาย เชียงราย เน้นบูรณาการทุกภาคส่วน มั่นใจคุณภาพน้ำปลอดภัย
ประเทศไทย, 28 พฤษภาคม 2568 –พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนหน่วยงานจากส่วนกลาง ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายอย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อน (สารหนู) ในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย รวมถึงประเมินสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ โดยได้รับความร่วมมือจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หน่วยงานระดับอำเภอ กรมการทหารช่าง และองค์กรที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดและภูมิภาค
วิกฤตสิ่งแวดล้อมกับความหวังของคนเชียงราย
ปัญหาสารปนเปื้อนในลำน้ำกกและแม่น้ำสาย ถือเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลใจให้กับประชาชนในจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียงมาอย่างต่อเนื่อง จากผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำที่ผ่านมาพบการปนเปื้อนของสารหนูในบางจุด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพชุมชน รวมถึงความปลอดภัยด้านประมง เกษตรกรรม และการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนและฤดูน้ำหลาก ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นและน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ได้ทำให้ประชาชนในหลายอำเภอ โดยเฉพาะแม่สายและเชียงแสน ต้องเผชิญกับทั้งปัญหาสารปนเปื้อนและความเสี่ยงจากอุทกภัยในเวลาเดียวกัน
ความร่วมมือเชิงบูรณาการ เร่งฟื้นฟูคุณภาพน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วม
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องประชุมธรรมลังกา ศาลากลางจังหวัดเชียงราย พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก พร้อมคณะผู้แทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมประชุมรับฟังรายงานสถานการณ์จากนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม สาธารณสุข ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกภาคส่วน
ที่ประชุมได้นำเสนอภาพรวมการดำเนินงานในช่วงปีที่ผ่านมา โดยมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนในน้ำแบบเฉพาะกิจ มีการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำเป็นระยะ ร่วมกับมาตรการเสริมสร้างความเข้าใจและให้ข้อมูลแก่ประชาชนอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงโครงการพัฒนาระบบประปาให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าประชาชนจะมีน้ำสะอาดใช้อย่างเพียงพอ
พลเอก นิพัทธ์ เน้นย้ำว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญอย่างสูงสุดกับความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชน โดยเน้นการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง โปร่งใส และชัดเจน พร้อมเปิดเผยว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนทุกมาตรการที่จังหวัดเชียงรายนำเสนอ และจะเร่งขับเคลื่อนให้การแก้ไขปัญหาเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
ติดตามสถานการณ์อุทกภัย-สารปนเปื้อนแม่สายอย่างใกล้ชิด
หลังการประชุมคณะฯ ได้ลงพื้นที่สวนสาธารณะหาดนครเชียงราย ประเมินสถานการณ์น้ำท่วมริมแม่น้ำกก และตรวจงานขุดลอกเพื่อระบายน้ำ พร้อมเดินทางต่อไปยังเขื่อนเชียงรายและอำเภอแม่สาย เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำสาย
ในเวลา 14.30 น. พลเอก นิพัทธ์ พร้อมคณะ ได้รับมอบหมายจากนายภูมิธรรม เวชยชัย เดินทางเข้าสู่ศูนย์บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ (OSS) ที่ว่าการอำเภอแม่สาย เพื่อรับฟังรายงานจากนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 16 ร่วมติดตามสถานการณ์
จุดสำคัญคือการลงพื้นที่ชุมชนหัวฝาย เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างแนวพนังกั้นน้ำชั่วคราวและกึ่งถาวรบริเวณริมแม่น้ำสาย ซึ่งดำเนินงานโดยกรมการทหารช่าง นำโดยพลโท สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่าง รายงานว่าขณะนี้หน่วยงานได้เร่งขุดลอกลำน้ำรวก ระยะทางรวม 18 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำและป้องกันน้ำท่วมขังในฤดูฝนปีนี้
การสื่อสารสร้างความเข้าใจ มุ่งมั่นลดความตื่นตระหนกและสร้างความมั่นใจ
นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงบทบาทของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ในการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และสื่อสารข่าวสารให้ประชาชนรับรู้ตรงกันทุกภาคส่วน โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพน้ำและมาตรการป้องกันน้ำท่วม เพื่อคลายความวิตกกังวลและสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัย
พลเอก นิพัทธ์ ยืนยันกับประชาชนจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ชายแดนว่า น้ำประปาในพื้นที่ปลอดภัย สามารถบริโภคได้ตามมาตรฐาน ขณะที่น้ำในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายยังคงใช้เพื่อการประมงและการเกษตรได้อย่างปกติ หน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดได้ออกตรวจคัดกรองและดูแลสุขภาพประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันผลกระทบระยะยาวจากการปนเปื้อนสารหนู
การวิเคราะห์และข้อสังเกต จากวิกฤตสู่โอกาสสร้างระบบบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
เหตุการณ์ในครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มแข็งของการประสานงานระหว่างรัฐบาลกลาง จังหวัด และท้องถิ่นในการรับมือกับภัยพิบัติและปัญหาสิ่งแวดล้อมเชิงซ้อน แม้จะต้องเผชิญกับปัจจัยหลายประการ เช่น ภัยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบจากกิจกรรมในพื้นที่ต้นน้ำฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน (เมียนมา) แต่ด้วยระบบตรวจสอบคุณภาพน้ำและการแจ้งเตือนแบบบูรณาการ ส่งผลให้สามารถควบคุมและบริหารสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังพบว่ามาตรการขุดลอกลำน้ำและก่อสร้างแนวพนังกั้นน้ำ ได้ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน และลดผลกระทบต่อชุมชนในเขตลุ่มน้ำสายและลุ่มน้ำกกอย่างเห็นได้ชัด โดยชาวบ้านและเกษตรกรสามารถดำเนินชีวิตตามปกติได้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
สถิติและแหล่งอ้างอิง
- ผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำ: กรมควบคุมมลพิษ (2568) รายงานว่าปริมาณสารหนูในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ลดลงสู่ค่ามาตรฐานใน 90% ของจุดตรวจวัดในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา
- น้ำประปาจังหวัดเชียงราย: การประปาส่วนภูมิภาค รายงานคุณภาพน้ำผ่านเกณฑ์มาตรฐาน WHO ทุกสถานี
- ขุดลอกลำน้ำรวก: กรมการทหารช่าง รายงานดำเนินการขุดลอกระยะทาง 18 กิโลเมตร เสร็จสมบูรณ์แล้ว 14 กิโลเมตร
- เฝ้าระวังสุขภาพประชาชน: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย รายงานการคัดกรองสุขภาพประชาชนในเขตเสี่ยงกว่า 7,000 คน ไม่พบผู้ป่วยโรคเฉียบพลันจากสารหนูในรอบ 6 เดือน
- ข้อมูลประชาสัมพันธ์: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย, OSS อำเภอแม่สาย
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- สำนักนายกรัฐมนตรี
- กรมควบคุมมลพิษ
- กรมการทหารช่าง
- การประปาส่วนภูมิภาค
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
- สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
- ศูนย์บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ (OSS) อำเภอแม่สาย