Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

‘นครเชียงรายเกมส์’ กรีฑาสูงอายุ สร้างมิตรภาพและสุขภาพดี

จังหวัดเชียงรายเตรียมพร้อมจัดการแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศประเทศไทย ครั้งที่ 29 “นครเชียงรายเกมส์”

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 ณ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศประเทศไทย ครั้งที่ 29 ประจำปี 2568 ภายใต้ชื่อ “นครเชียงรายเกมส์” โดยมีแนวคิด “สปิริต สร้างมิตรภาพในเกมส์กีฬา” พร้อมคำขวัญ “กอดเชียงรายสักครั้ง จะรักตลอดไป” ทั้งนี้ มีน้องกอดอุ่นเป็นสัญลักษณ์การแข่งขัน ซึ่งสะท้อนถึงความอบอุ่นและมิตรภาพที่เชียงรายพร้อมมอบให้ผู้เข้าร่วมงาน

การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างจังหวัดเชียงราย สมาคมกรีฑาผู้สูงอายุไทย สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงราย และสำนักงานกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงราย โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย มีนักกีฬาทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมกว่า 2,000 คน

รายการแข่งขันและไฮไลต์สำคัญ

การแข่งขันจะแบ่งออกเป็นกีฬาประเภทลู่ 15 รายการ และกีฬาประเภทลาน 8 รายการ โดยแบ่งรุ่นอายุออกเป็น 15 รุ่น ตั้งแต่กลุ่มอายุ 35-39 ปี จนถึงกลุ่มอายุ 105-109 ปี โดยมีนักกีฬาที่อายุมากที่สุดในปีนี้มาจากจังหวัดระยอง อายุ 104 ปี และตัวแทนนักกรีฑาจังหวัดเชียงรายที่อายุมากที่สุด อายุ 97 ปี ถือเป็นไฮไลต์ที่สะท้อนถึงความแข็งแรงและสปิริตของนักกีฬาสูงอายุอย่างแท้จริง

การเตรียมความพร้อมในฐานะเจ้าภาพ

เพื่อให้การจัดการแข่งขันเป็นไปอย่างเรียบร้อย จังหวัดเชียงรายได้จัดประชุมคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมในทุกด้าน เช่น การอำนวยความสะดวกด้านสถานที่ การต้อนรับนักกีฬาและผู้ติดตาม การดูแลความปลอดภัย และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมวัฒนธรรมล้านนาและการประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงรายให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศและนานาชาติ

กิจกรรมพิเศษ

การแข่งขัน “นครเชียงรายเกมส์” ครั้งนี้ยังมีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม เช่น การแสดงศิลปะล้านนา การจัดตลาดนัดวัฒนธรรมที่รวบรวมสินค้า OTOP และของดีจากชุมชนในจังหวัดเชียงราย รวมถึงกิจกรรมเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วัดร่องขุ่น ดอยแม่สลอง และพิพิธภัณฑ์บ้านดำ เพื่อสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน

ส่งเสริมสุขภาพและมิตรภาพ

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ กล่าวว่า การจัดการแข่งขันกรีฑาสูงอายุครั้งนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมสุขภาพกายและใจของผู้สูงวัย แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้สังคมเห็นถึงศักยภาพของผู้สูงอายุ อีกทั้งยังส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชนและนักกีฬาจากทั่วประเทศ

เป้าหมายของการแข่งขัน

“นครเชียงรายเกมส์” ไม่ได้มุ่งหวังเพียงการชิงชัยในสนามกีฬา แต่ยังเป็นเวทีที่สร้างความสามัคคีและกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพและการดูแลตนเอง การจัดงานนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาศักยภาพด้านการกีฬาและการจัดงานระดับประเทศของจังหวัดเชียงราย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างยั่งยืน

ปิดท้ายด้วยคำขวัญ

“กอดเชียงรายสักครั้ง จะรักตลอดไป” คำขวัญที่สะท้อนถึงความอบอุ่นของเมืองเชียงรายที่พร้อมต้อนรับนักกีฬาและผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลกอย่างเต็มที่.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ประกวดดาวจรัสฟ้าเชียงราย 2568 ส่งเสริมพลังผู้สูงวัย

จังหวัดเชียงรายจัดกิจกรรมประกวด “ดาวจรัสฟ้าเจียงฮาย” ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัย มุ่งสร้างสังคมเห็นคุณค่า

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 จังหวัดเชียงรายจัดแถลงข่าวกิจกรรมประกวด “ดาวจรัสฟ้าเจียงฮาย” ประจำปี พ.ศ. 2568 ภายใต้แนวคิด ผู้สูงอายุสุขภาพดี ชีวีมีสุข” โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมสุขภาพ การแสดงศักยภาพ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้สูงอายุในพื้นที่ รวมถึงกระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของผู้สูงวัย

งานแถลงข่าวจัดขึ้นที่สวนสาธารณะหาดนครเชียงราย ภายในงานเชียงรายดอกไม้งาม ครั้งที่ 21 โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วม ได้แก่ นางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย แพทย์หญิงอัจฉรา ละอองนวลพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ดร.ปรีชา อนุรักษ์ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย และนางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

การประกวดจะจัดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม 2568 ภายในงานพ่อขุนเม็งรายมหาราชและกาชาด ประจำปี 2568 ณ สนามบินเก่า อำเภอเมืองเชียงราย โดยมี นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิด ผู้เข้าประกวดต้องเป็นสุภาพสตรีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีภูมิลำเนาในจังหวัดเชียงราย สุขภาพสมบูรณ์ และแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองล้านนาหรือชุดชาติพันธุ์ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 32,000 บาท พร้อมมงกุฎและสายสะพาย

ส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตผู้สูงวัย

นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า กล่าวถึงนโยบายดูแลผู้สูงอายุแบบบูรณาการ โดยเน้นการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ครอบคลุม การพัฒนาบุคลากรดูแลผู้สูงอายุในชุมชน และการปรับปรุงระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อการติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าการดำเนินงานดังกล่าวช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในภาพรวม อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความท้าทายในการพัฒนาบุคลากรด้านการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน และการส่งเสริมสุขภาพเชิงป้องกันอย่างยั่งยืน

สร้างแรงบันดาลใจและความสุขในสังคม
นางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย กล่าวว่างานประกวดครั้งนี้นอกจากจะเป็นการส่งเสริมสุขภาพและกำลังใจแก่ผู้สูงวัย ยังแสดงถึงความภาคภูมิใจและศักยภาพของพวกเขาในฐานะส่วนสำคัญของสังคม และเป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงคุณค่าของผู้สูงอายุ

เชิญเที่ยวงาน ชมวิถีชีวิตล้านนา

ด้านนางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ได้เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทุกท่านเดินทางมาสัมผัสอากาศหนาวเย็น พร้อมเยี่ยมชมเชียงราย เมืองแห่งศิลปะ วัฒนธรรม และธรรมชาติ โดยเฉพาะกิจกรรม “ดาวจรัสฟ้าเจียงฮาย” ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตล้านนาอันเป็นเอกลักษณ์ และเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้แสดงความสามารถ

เชียงรายมุ่งสู่ความยั่งยืน

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากจะส่งเสริมสุขภาพและสร้างกำลังใจแก่ผู้สูงอายุ ยังสอดคล้องกับเป้าหมายของจังหวัดเชียงรายที่ต้องการเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งสิ่งแวดล้อม เกษตรกรรม และวัฒนธรรมท้องถิ่น

เชียงราย เมืองท่องเที่ยวสร้างสรรค์ วิถีถิ่นร่วมสมัย เกษตรกรรมมูลค่าสูง สิ่งแวดล้อมสมดุล มุ่งสู่ความยั่งยืน”

ข้อมูลการจัดกิจกรรม

  • วันที่: 30 มกราคม 2568
  • สถานที่: สนามบินเก่า อำเภอเมืองเชียงราย
  • การแต่งกาย: ชุดพื้นเมืองล้านนา หรือชุดชาติพันธุ์
  • รางวัล: เงินรางวัลรวมกว่า 32,000 บาท พร้อมมงกุฎและสายสะพาย

งานนี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในจังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืน และให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุในฐานะกำลังสำคัญของสังคมไทย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายเคาะ 61 วันปลอดเผา ลดปัญหา PM 2.5

ที่ประชุมเชียงรายเคาะ “61 วันปลอดการเผา” พร้อมกิจกรรมป้องกันไฟป่า-หมอกควัน

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 ที่ห้องปฏิบัติงานรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมติดตามการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ของจังหวัดเชียงราย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อวางมาตรการควบคุมการเผาและการจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่

สรุปมาตรการสำคัญ

ที่ประชุมมีมติกำหนดห้วงควบคุมการเผาในพื้นที่จังหวัดเชียงรายตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 และกำหนด “ห้วงห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิดโดยเด็ดขาด” ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2568 ภายใต้ชื่อ “61 วันปลอดการเผาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย” เพื่อควบคุมและลดมลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม

หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายมีหน้าที่เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ผ่านการจัดทำ One Page สาระสำคัญที่เข้าใจง่าย รวมถึงออกประกาศจังหวัดให้ประชาชนรับทราบถึงช่วงเวลาห้ามเผาอย่างชัดเจน พร้อมทั้งมีการจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน

กิจกรรมสำคัญที่กำหนดในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568

  1. กิจกรรมทำแนวกันไฟ 2 แผ่นดิน
    กำหนดจัด ณ อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เพื่อแสดงถึงความร่วมมือระหว่างจังหวัดเชียงรายกับประเทศเพื่อนบ้านในพื้นที่ชายแดน
  2. ทอดผ้าป่าระดมทุนป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน
    กิจกรรมทอดผ้าป่าเพื่อสนับสนุนงบประมาณสำหรับใช้ในกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จะจัดขึ้นที่วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง อำเภอเมืองเชียงราย
  3. ประชุมติดตามสถานการณ์การเผาและฝุ่น PM 2.5 อย่างใกล้ชิด
    กำหนดให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย (ทสจ.) และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย (ปภ.) ซึ่งทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ เร่งติดตามสถานการณ์ หากมีแนวโน้มรุนแรงให้จัดประชุมคณะทำงานอย่างเร่งด่วน พร้อมกำหนดการประชุมคณะทำงานทุกสัปดาห์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568

การจัดการปัญหาเชิงรุก

จังหวัดเชียงรายเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างทุกภาคส่วน โดยให้ความสำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมจากประชาชนและองค์กรท้องถิ่น พร้อมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือและมาตรการรองรับสถานการณ์ หากเกิดเหตุไฟป่าหรือฝุ่น PM 2.5 ระดับรุนแรง

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ กล่าวในการประชุมว่า “ปัญหาไฟป่าและหมอกควันเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบทั้งด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน จังหวัดเชียงรายจึงต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยยึดหลักความร่วมมือจากทุกภาคส่วน พร้อมสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงความสำคัญของมาตรการที่กำหนด”

การมีส่วนร่วมของประชาชน

ทางจังหวัดเชียงรายขอความร่วมมือจากประชาชนในทุกพื้นที่ร่วมปฏิบัติตามมาตรการ “61 วันปลอดการเผา” อย่างเคร่งครัด รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงและลดผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กและไฟป่า

ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการป้องกันไฟป่า หมอกควัน และ PM 2.5 ได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมที่สายด่วน 1784

เชียงรายเดินหน้าลดฝุ่น-ไฟป่า สร้างชุมชนปลอดมลพิษอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ธนาคารที่ดินเชียงราย หนุนเกษตรกร ยกระดับวิสาหกิจชุมชน

ธนาคารที่ดิน” ลงพื้นที่เชียงราย หนุนเกษตรกร ยกระดับวิสาหกิจชุมชน

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 นายศรัณยสันฑ์ วีรกุลสุนทร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) นำโดยนายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการสถาบันฯ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานของ “ธนาคารที่ดิน” และพบปะเกษตรกรในพื้นที่ โดยมีนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยส่วนราชการในพื้นที่ร่วมต้อนรับ

ตรวจเยี่ยมวิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา

ทีมงานได้เข้าตรวจเยี่ยมวิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชาวัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีเกษตรกรจำนวน 64 ครัวเรือน บนพื้นที่ทั้งหมด 84 ไร่ ที่นี่ถือเป็นชุมชนต้นแบบในการพัฒนาที่ดินและการดำเนินชีวิตตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นายศรัณยสันฑ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและยินดีที่ได้เห็นความสำเร็จของโครงการดังกล่าว ซึ่งได้ช่วยเหลือเกษตรกรและขยายโอกาสในการพัฒนาพื้นที่เพื่อความยั่งยืน

โมเดลแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน

นายศรัณยสันฑ์ ระบุว่า การบริหารจัดการที่ดินในรูปแบบการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนที่ธนาคารที่ดินดำเนินการ ถือเป็นโมเดลสำคัญที่สามารถนำไปปรับใช้ในพื้นที่อื่นทั่วประเทศ เพื่อให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้มีสิทธิในที่ดินทำกิน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล โดยเน้นการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

ขยายผลและสร้างความยั่งยืน

นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารที่ดินมุ่งมั่นขยายโครงการให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ เพื่อกระจายการถือครองที่ดินอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกร และส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่สนับสนุนและผลักดันให้โครงการเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ

การสนับสนุนจากทุกภาคส่วน

การดำเนินงานในพื้นที่เชียงรายได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน รวมถึงการบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน โดยเน้นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์เกษตร ยกระดับสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าทางการตลาด และเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้าถึงทรัพยากรอย่างเท่าเทียม

ฝากถึงทุกหน่วยงาน

นายศรัณยสันฑ์ ทิ้งท้ายว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และขอฝากทุกหน่วยงานช่วยกันสนับสนุนธนาคารที่ดิน เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของการแก้ไขปัญหาและสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในพื้นที่ชนบท.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย “ทักษิณ” เตรียมลุยโค้งสุดท้ายเข้มข้น!

การหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย 2568 เข้มข้นในโค้งสุดท้าย

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.) ระหว่างนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช อดีตนายก อบจ.เชียงราย ภรรยาของนายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำพรรคเพื่อไทย และนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ.เชียงราย กำลังเข้มข้นในโค้งสุดท้าย โดยนางสลักจฤฎดิ์และทีมงานได้ลงพื้นที่หาเสียงอย่างหนัก จัดเวทีปราศรัยใหญ่และย่อยทุกอำเภอในจังหวัด บางวันเปิดเวทีปราศรัยมากถึง 3-4 จุด

นายทักษิณ ชินวัตร เตรียมช่วยหาเสียง

ในวันที่ 29 มกราคม 2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเชียงรายเพื่อช่วยหาเสียงให้นางสลักจฤฎดิ์ โดยจะขึ้นเวทีปราศรัย 3 จุดสำคัญ ได้แก่ อำเภอแม่สรวย อำเภอพาน และสนามฟุตบอลเชียงรายยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสนามกีฬาประจำจังหวัด ทั้งนี้ นายทักษิณเคยเดินทางมาช่วยหาเสียงในพื้นที่เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา

นโยบายเชียงรายโมเดล เน้นช่วยเหลือประชาชน

นายยงยุทธ ติยะไพรัช ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง กล่าวว่า การหาเสียงครั้งนี้แตกต่างจากรูปแบบเดิม โดยเน้นนำเสนอนโยบายที่จับต้องได้ เช่น เชียงรายโมเดลที่เชื่อมโยงการพัฒนาจังหวัดกับส่วนกลางและรัฐบาล เน้นการช่วยเหลือด้านเกษตรกรรมและการแก้ปัญหาหนี้สินของเกษตรกร อาทิ การสร้างตลาดกลาง (Marketplace) สำหรับเกษตรกรในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น น้ำตกและภูเขา โดยเกษตรกรสามารถขายสินค้าเกษตรได้โดยไม่คิดค่าพื้นที่ และส่งเสริมการขายแบบ Farm to Table เชื่อมโยงผลิตผลจากเกษตรกรถึงผู้บริโภคโดยตรง พร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้ลดต้นทุนการผลิต

อบจ.เชียงรายต้องปรับตัวสู่ยุคใหม่

นายยงยุทธระบุว่า อบจ. ต้องไม่เพียงคิดถึงการสร้างถนน แต่ควรสนับสนุนการพัฒนาสาธารณสุข การศึกษา และส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาแก่ประชาชนและนักศึกษาในจังหวัด นอกจากนี้ยังต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง

เวทีปราศรัยในโค้งสุดท้าย

นอกจากนโยบายที่เน้นจับต้องได้ การหาเสียงยังมีการดึงบุคคลสำคัญมาช่วยเสริม เช่น นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาช่วยหาเสียงและขึ้นเวทีปราศรัยในวันนี้

การเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงรายในครั้งนี้ถือเป็นการวัดพลังทางการเมืองระหว่างฝ่ายต่าง ๆ โดยจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 08.00-17.00 น. ประชาชนสามารถตรวจสอบสิทธิ์และเตรียมพร้อมใช้สิทธิ์ได้ที่หน่วยเลือกตั้งใกล้บ้าน.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายต้อนรับกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ร่วมมือแก้ปัญหายาเสพติด PM 2.5

จังหวัดเชียงรายต้อนรับกงสุลใหญ่สหรัฐฯ เชียงใหม่ หารือความร่วมมือหลากมิติ

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ นางลิสา เอ.บูเจนนาส กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ และคณะ เพื่อเยี่ยมคารวะและพบปะหารือข้อราชการที่เกี่ยวข้องในหลากหลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สิ่งแวดล้อม และสังคม

หารือการฟื้นฟูหลังอุทกภัยและส่งเสริมผู้ประกอบการ

หนึ่งในหัวข้อสำคัญคือ การหารือเรื่องสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงรายที่ผ่านมา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้รายงานถึงมาตรการฟื้นฟูพื้นที่และการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือจากสหรัฐอเมริกาในด้านการจัดการภัยพิบัติและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยถึงการส่งเสริมผู้ประกอบการท้องถิ่นผ่านการจัดเวิร์กช็อปเพื่อเรียนรู้การใช้เครื่องมือ AI เช่น Chat GPT และการใช้ช่องทางออนไลน์อย่าง Amazon เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการในเชียงราย

การพัฒนาความร่วมมือทางการศึกษา

กงสุลใหญ่สหรัฐฯ ได้หารือเรื่องความร่วมมือทางการศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพัฒนานักศึกษาให้มีทักษะที่สอดคล้องกับตลาดงานยุคใหม่ รวมถึงการสนับสนุนโครงการวิจัยและการเรียนรู้ระหว่างประเทศ

แก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน PM 2.5 และยาเสพติดตามแนวชายแดน

ประเด็นสำคัญอีกข้อที่ได้หารือกันคือ การจัดการปัญหาไฟป่าหมอกควัน PM 2.5 และปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน นายชรินทร์ได้รายงานว่าปัจจุบันจังหวัดเชียงรายมีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติด โดยการเสริมศักยภาพบุคลากรและเครื่องมือบริเวณแนวชายแดน พร้อมเน้นย้ำว่าประเทศไทยไม่ใช่แหล่งผลิตยาเสพติด แต่เป็นทางผ่านที่สำคัญไปยังประเทศอื่นๆ ทางด้านสหรัฐอเมริกาได้แสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนความร่วมมือผ่านหน่วยงาน DEA ในการป้องกันและปราบปรามปัญหาดังกล่าว

พัฒนาเชียงรายสู่เมืองแห่งการท่องเที่ยวและ MICE City

เชียงรายได้รับการเน้นย้ำถึงศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่โดดเด่น ด้วยความเป็นเมืองที่มีพี่น้องชาติพันธุ์กว่า 30 ชาติพันธุ์ และการเป็นจังหวัดชายแดนที่เชื่อมต่อกับเมียนมาและ สปป.ลาว ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญของรถไฟความเร็วสูงจากลาวสู่จีนและยุโรป นอกจากนี้ เชียงรายยังได้รับการส่งเสริมให้เป็นเมือง MICE City และศูนย์กลาง Wellness Center เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ความสัมพันธ์กับชาวอเมริกันในเชียงราย

นายชรินทร์ยังได้กล่าวถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างจังหวัดเชียงรายกับชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ประมาณ 1,100 คน ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จของการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยงานต่างประเทศ

การส่งเสริมความร่วมมือที่ยั่งยืน

นางลิสา เอ.บูเจนนาส กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ ได้แสดงความชื่นชมจังหวัดเชียงรายที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดและปัญหาสังคมอย่างเป็นระบบ พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาความร่วมมือในระดับท้องถิ่นและระดับระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในทุกมิติ

การเยือนครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา และเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกมิติในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

โตโยต้าเชียงรายร่วมมือชมรมราชการ มอบผ้าห่มต้านภัยหนาวเชียงราย

บริษัทโตโยต้าเชียงราย มอบผ้าห่มกันหนาวแก่ชมรมหัวหน้าส่วนราชการ เมืองเจียงฮาย

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 บริษัท โตโยต้าเชียงราย จำกัด นำโดย คุณเรืองชัย จิตรสกุล และ คุณจินตนา จิตรสกุล ผู้บริหารบริษัทฯ และรองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ได้มอบผ้าห่มกันหนาวจำนวน 100 ผืน มูลค่า 45,000 บาท ให้แก่ “ชมรมหัวหน้าส่วนราชการ เมืองเจียงฮาย” โดยมี นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย เป็นผู้แทนรับมอบ ณ โชว์รูม บริษัท โตโยต้าเชียงราย จำกัด ถนนพหลโยธิน อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

ในโอกาสนี้ นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยสมาชิกชมรมหัวหน้าส่วนราชการ เมืองเจียงฮาย ได้จัดกิจกรรม “ส่งมอบความห่วงใยถึงชาวเชียงราย” เพื่อนำผ้าห่มกันหนาวไปมอบให้แก่ผู้ขาดแคลนและผู้ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งการบริจาคครั้งนี้สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยหนาวในจังหวัด

ร่วมส่งความอบอุ่นถึงผู้ที่ขาดแคลน

กิจกรรมครั้งนี้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชน หน่วยงานภาครัฐ และประชาชนทั่วไปที่สนใจร่วมสนับสนุนนำเครื่องกันหนาวมาบริจาคเพิ่มเติม โดยสามารถส่งมอบได้ที่ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อรวบรวมไปแจกจ่ายแก่ผู้ที่ต้องการในพื้นที่ต่าง ๆ

สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 092-2468347 (นางสาวนันทวรรณ กันคำ) ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

โตโยต้าเชียงราย ร่วมสร้างชุมชนที่อบอุ่น

บริษัท โตโยต้าเชียงราย จำกัด มุ่งมั่นส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสนับสนุนกิจกรรมที่ช่วยเหลือชุมชนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการมอบเครื่องกันหนาวหรือการส่งเสริมการศึกษา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยกิจกรรมในครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะส่งมอบความอบอุ่นและห่วงใยให้แก่ประชาชนในช่วงฤดูหนาว

ความสำคัญของกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว

เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล การจัดกิจกรรมเช่นนี้ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบจากภัยหนาว แต่ยังแสดงถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการสร้างสังคมที่อบอุ่นและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เชียงรายกำลังเดินหน้าไปสู่การเป็นชุมชนที่พร้อมช่วยเหลือและแบ่งปัน เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถผ่านพ้นฤดูหนาวนี้ไปได้อย่างอบอุ่นและปลอดภัย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายสร้างโมเดลบวร ป้องกันไฟป่าอย่างยั่งยืน

พระอาจารย์วิบูลย์ ธมฺมเตโช นำเชียงรายสู่ต้นแบบจัดการไฟป่าด้วยพลัง “บวร”

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ลงพื้นที่วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อพบปะและรับฟังแนวทางการจัดการไฟป่าจาก พระอาจารย์วิบูลย์ ธมฺมเตโช” พระภิกษุสงฆ์ผู้มุ่งมั่นในการปกป้องป่าและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ โดยใช้แนวทาง “บวร” (บ้าน วัด ราชการ) และศาสตร์พระราชาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน

บวร: บ้าน วัด ราชการ แนวทางแห่งสามัคคี

พระอาจารย์วิบูลย์อธิบายว่า ไฟป่าและหมอกควัน มักเกิดจากการเผาป่าที่ไม่มีการควบคุม ซึ่งนำไปสู่ความเสียหายทางธรรมชาติและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ แนวทาง “บวร” ได้กลายเป็นต้นแบบในการจัดการปัญหาไฟป่าด้วยความร่วมมือของชุมชน บ้าน วัด และหน่วยงานภาครัฐ โดยมุ่งเน้นการสร้างความสามัคคีและความเข้าใจร่วมกันในชุมชน

กิจกรรมเพื่อป้องกันไฟป่า

ในแต่ละปี พระอาจารย์วิบูลย์ได้ริเริ่มกิจกรรมต่าง ๆ เช่น

  1. การปลูกป่า: ส่งเสริมการฟื้นฟูป่าไม้ในพื้นที่เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
  2. การทำแนวกันไฟ: ใช้วิธี “ก้างปลา” เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟ
  3. การสร้างหอดูไฟ: ช่วยในการตรวจสอบและเตือนภัยไฟป่าได้อย่างรวดเร็ว
  4. การเกษตรผสมผสาน: สนับสนุนการเกษตรที่ลดการพึ่งพาการเผา

พระอาจารย์ยังเน้นว่าการแก้ไขปัญหาที่สำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือที่จริงจังจากทุกภาคส่วน โดยใช้ความสามัคคีเป็นเครื่องมือสำคัญ

หลักศาสตร์พระราชาและสามัคคีในชุมชน

พระอาจารย์วิบูลย์ได้น้อมนำหลักคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ว่า ทุกปัญหาของสังคมและโลกใบนี้จะแก้ด้วยสามัคคี” มาเป็นแนวทางในการสร้างพลังสามัคคีในชุมชน ทั้งนี้ การบูรณาการระหว่างภาครัฐ ชุมชน และศาสนสถาน ได้ทำให้พื้นที่ดอยอินทรีย์กลายเป็นต้นแบบของการจัดการไฟป่าที่ประสบความสำเร็จ

ความสำเร็จและเป้าหมายในอนาคต

ในปัจจุบัน พื้นที่ดอยอินทรีย์ไม่มีปัญหาไฟป่าหรือหมอกควันรุนแรง เนื่องจากการจัดการที่เป็นระบบและความร่วมมือของทุกฝ่าย พระอาจารย์วิบูลย์กล่าวว่า แนวทางนี้ไม่เพียงช่วยรักษาป่าไม้และสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนและคนรุ่นหลัง

“เราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยสามัคคี ไม่ใช่เพียงเพื่อเราในวันนี้ แต่เพื่ออนาคตของลูกหลาน” พระอาจารย์วิบูลย์กล่าวทิ้งท้าย

การยอมรับจากทุกภาคส่วน

แนวทาง “บวร” ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากคณะสงฆ์ ชุมชน และหน่วยงานภาครัฐ โดยจังหวัดเชียงรายวางแผนที่จะขยายผลโครงการนี้ไปยังพื้นที่อื่น ๆ เพื่อสร้างต้นแบบการจัดการปัญหาไฟป่าที่ประสบความสำเร็จในระดับประเทศ

โครงการดังกล่าวสะท้อนถึงพลังของความสามัคคีและการบูรณาการร่วมกัน ซึ่งเป็นแบบอย่างที่น่ายกย่องในระดับชุมชนและประเทศชาติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ศิลปะบนนาข้าวเชียงราย สะท้อนความหวังหลังน้ำท่วมใหญ่

งานศิลปะบนนาข้าว เชียงราย สื่อแรงบันดาลใจผ่านมังกร-แมว-หมาจร

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเรื่องราวงานศิลปะบนนาข้าวขนาดใหญ่ในจังหวัดเชียงราย ผลงานสร้างสรรค์โดย ธัญพงศ์ ใจขำ ชาวนาและศิลปินท้องถิ่น ที่เปลี่ยนนาพื้นที่กว่า 12 ไร่ ให้กลายเป็นผลงานศิลปะสื่อความหมาย โดยใช้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปีก่อน

มังกร แมว และหมาจรในนาข้าว

ผลงานศิลปะในนาข้าวประกอบด้วยภาพ มังกรสีแดง ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน และภาพ แมวสี่หูห้าตา ซึ่งเป็นตัวแทนของโชคลาภในท้องถิ่น รวมถึงภาพ หมาจรและแมวจร สื่อถึงสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปีก่อน โดยธัญพงศ์ตั้งใจสื่อสารผ่านงานศิลปะว่า “มังกร” เป็นตัวแทนของการนำพาความโชคร้ายให้ผ่านพ้นไป

แรงบันดาลใจจากศิลปะญี่ปุ่นสู่ศิลปะไทย

ธัญพงศ์ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะบนนาข้าวของญี่ปุ่น (Tanbo Art) ซึ่งใช้เทคโนโลยีดาวเทียมและจีพีเอสวางแผนการปลูกข้าว โดยธัญพงศ์ใช้พันธุ์ข้าวพิเศษ เช่น ข้าวสรรพสี ที่มีถึง 5 เฉดสีมาสร้างสรรค์ภาพต่างๆ ทีมงานเริ่มต้นด้วยการออกแบบและปักหมุดตามจุดที่กำหนด ก่อนปลูกข้าวให้ตรงตามแผน ผลงานดังกล่าวกลายเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักศึกษาที่มาชมความงดงามและความละเอียดอ่อนของศิลปะในพื้นที่นี้

ฟื้นฟูชุมชนผ่านศิลปะ

ธัญพงศ์ตั้งเป้าหมายให้ผลงานนี้สร้างแรงบันดาลใจให้เกษตรกรในพื้นที่ฟื้นฟูนาที่เสียหายจากน้ำท่วม และกระตุ้นให้คนในชุมชนเห็นคุณค่าของการใช้ศิลปะร่วมกับการเกษตร ผลงานนี้ยังแสดงถึงความหวังและการฟื้นตัวหลังวิกฤต

ศิลปะที่สะท้อนถึงชีวิตและชุมชน

ธัญพงศ์กล่าวว่า “ผลงานนี้ไม่ใช่เพียงศิลปะเพื่อความสวยงาม แต่ยังสะท้อนความผูกพันกับผืนนาและชีวิตในชนบท” เขาเสริมว่าการสร้างงานศิลปะในนาข้าวต้องอาศัยทั้งความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยี ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการเกษตรในประเทศไทย

เปิดให้ชมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์

งานศิลปะในนาข้าวของธัญพงศ์เปิดให้ประชาชนเข้าชมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นข้าวพร้อมเก็บเกี่ยว ผลงานนี้ไม่เพียงสะท้อนความงดงามของศิลปะไทย แต่ยังเป็นการส่งต่อเรื่องราวและแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในวงกว้าง

งานศิลปะบนนาข้าวของธัญพงศ์ ใจขำ เป็นตัวอย่างที่น่าทึ่งของการผสมผสานศิลปะกับการเกษตร ที่ไม่เพียงแต่สร้างความงดงาม แต่ยังช่วยฟื้นฟูชุมชนและสร้างความหวังในอนาคต.

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เทศบาลเชียงรายเร่งฟื้นฟู ดูดโคลนเลน 52 ชุมชนหลังน้ำท่วม

เทศบาลนครเชียงรายฟื้นฟูเมืองหลังน้ำท่วมใหญ่ ดูดโคลนเลนแก้ปัญหาท่อระบายน้ำ 52 ชุมชน

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 เทศบาลนครเชียงราย นำโดยนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมคณะผู้บริหาร ได้เดินหน้าฟื้นฟูพื้นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงรายที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา โดยเน้นการดูดโคลนและเลนที่สะสมในท่อระบายน้ำและพื้นที่สาธารณะ เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและแก้ปัญหาการระบายน้ำในอนาคต

ดำเนินการฟื้นฟูใน 52 ชุมชน

เทศบาลนครเชียงรายได้ส่งรถดูดโคลนเลนพร้อมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานใน 52 ชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยมีเป้าหมายในการฟื้นฟูครบทั้ง 65 ชุมชนในเขตเทศบาล เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้ การทำความสะอาดและขจัดสิ่งอุดตันในท่อระบายน้ำยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดน้ำท่วมซ้ำอีกในอนาคต

ฝาท่อชำรุด ปรับปรุงใหม่เพื่อความปลอดภัย

อีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่ได้รับการแก้ไขคือเรื่องฝาท่อระบายน้ำที่ชำรุดหรือหายไป ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เทศบาลฯ ได้ออกแบบฝาท่อใหม่ให้ยากต่อการโจรกรรม พร้อมคำนึงถึงความคงทนและสะดวกต่อการเปลี่ยนในกรณีที่เกิดความเสียหาย นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการทำงานของผู้รับเหมา เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรฐานด้านความปลอดภัยได้รับการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

ผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่

น้ำท่วมครั้งใหญ่ในจังหวัดเชียงรายได้สร้างความเสียหายให้กับชุมชนอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ต่ำที่น้ำไหลบ่าลงมาสะสมในระบบระบายน้ำ การฟื้นฟูดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

นายวันชัย จงสุทธานามณี กล่าวว่า การฟื้นฟูครั้งนี้ไม่เพียงแค่การขจัดโคลนและเลน แต่ยังรวมถึงการวางแผนแก้ปัญหาเชิงรุก เช่น การตรวจสอบระบบระบายน้ำในพื้นที่เสี่ยง การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และการวางมาตรการลดผลกระทบจากน้ำท่วมในระยะยาว

ร่วมมือฟื้นฟูชุมชน

นอกจากนี้ เทศบาลฯ ยังได้ร่วมมือกับชุมชนในพื้นที่เพื่อวางแผนการฟื้นฟูที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยชาวบ้านต่างให้ความร่วมมืออย่างดีในการช่วยกันฟื้นฟูชุมชนของตน

การดำเนินการฟื้นฟูครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของเทศบาลนครเชียงรายในการพัฒนาชุมชนและสร้างความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถเผชิญกับสถานการณ์ในอนาคตได้อย่างมั่นใจ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News