Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

นักท่องเที่ยวคึกคัก ‘ตักบาตรดอกไม้’ อัญเชิญพระพุทธรูป 9 องค์ หนึ่งเดียวในล้านนานักท่องเที่ยวคึกคัก ‘ตักบาตรดอกไม้’

 
เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่  29 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา ที่บริเวณสวนตุงและโคมนครเชียงราย ถนนธนาลัย ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และพระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีตักบาตรดอกไม้ หนึ่งเดียวในล้านนา
 
โดยมี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ดร.วันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นางรัตนา จงสุทธานามณี ที่ปรึกษา รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย ) และ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย นำชาวเชียงรายเเละ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศร่วมกันตักบาตรดอกไม้ หนึ่งเดียวในล้านนา ซึ่งมีขบวนฟ้อนเชียงรายจากนักเรียนโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครเชียงราย
 
ซึ่งเทศบาลนครเชียงรายได้จัดให้มีงานเชียงรายดอกไม้งาม ปีที่ 20 ณ บริเวณสวนตุงและโคมนครเชียงราย ในระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ถึง 15 มกราคม 2567 นี้ โดยมีการอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 9 องค์จาก 9 วัดในอำเภอเมืองเชียงราย ประดิษฐานบนรถบุษบก 9 คัน เคลื่อนไปตามถนนธนาลัย เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้ร่วมกันนมัสการและร่วมตักบาตรดอกไม้เพื่อความเป็นสิริมงคลจากนั้น พระสงฆ์และสามเณรออกรับบิณฑบาตรดอกไม้ โดยพร้อมเพียงกัน 
 
มีประชาชนออกมาร่วมทำบุญใส่บาตรด้วยดอกไม้ ร่วมกันอย่างคับคั่ง ซึ่งสร้างความประทับใจให้นักผู้ร่วมทำบุญตักบาตรอย่างมาก เพราะราชรถแต่ละคันมีความสวยที่ไม่ซ้ำกัน และสร้างโดยศิลปินแต่ละจังหวัด ใช้ระยะเวลาสร้าง 9 ปี โดยในหนึ่งปีจะนำออกให้ประชาชนและนักนักท่องเที่ยวได้ชมในการร่วมพิธีที่สำคัญเพียง 2 ครั้งเท่านั้น คือ ตักบาตรดอกไม้และตักบาตรวันขึ้นปีใหม่เท่านั้น
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

พิธีต่อไฟพระฤกษ์ประทานจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

 

พิธีต่อไฟพระฤกษ์ประทานจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกในกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วไทย ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับศักราชใหม่ 2567 นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีฯ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และเปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพ ถวายสักการะเบื้องหน้าพระรูปสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

 

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย และ นายโสไกร ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย ถวายไฟพระฤกษ์ประทานของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และน้ำพระพุทธมนต์ แด่เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย (มหานิกาย และธรรมยุติกนิกาย)

 

พระพุทธิญาณมุนี (ประเสริญ ปญฺญาวชิโร) เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย (มหานิกาย) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา อำเภอเชียงแสน พร้อมด้วย พระสิริวัฒโนดม วิ. (สุขเลิศ กนฺตธมฺโม) เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย (ธรรมยุติกนิกาย) เจ้าอาวาสวัดบ้านเหล่า (ธ) อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จุดไฟพระฤกษ์ประทานฯ และดำเนินพิธีต่อไฟพระฤกษ์ประทานฯ แก่เจ้าอาวาสพระอารามหลวง และเจ้าคณะอำเภอทุกอำเภอ ทั้ง 2 นิกาย ในโอกาสมงคลนี้ เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ทั้ง 2 นิกาย เมตตากล่าวสัมโมทนียกถา

 

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานไฟพระฤกษ์แด่ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม นำไปถวายเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อจุดเทียนมงคลในพิธีสวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วไทย ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับศักราชใหม่ 2567 อันเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีของแต่ละวัดในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และเป็นสิริมงคลยิ่งของการเข้าสู่ศักราชใหม่ ดังนั้น สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย จึงได้ดำเนินการจัดพิธีต่อไฟพระฤกษ์ประทานฯ ในวันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2566 เวลา 14.30 – 16.00 น. ณ อุโบสถวัดพระสิงห์ พระอารามหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นำข้าราชการและบุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย นางพัชรนันท์ แก้วจินดา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม นางพรทิวา ขันธมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม นายภัทรพงษ์ มะโนวัน หัวหน้ากลุ่มพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน นายพิพัฒน์ สุ่มมาตย์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นางสุพรรณี เตชะตน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และนายอภิชาต กันธิยะเขียว นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่กลุ่มพิธีฯ ดำเนินการจัดพิธีฯ ดังกล่าว พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกแด่คณะสงฆ์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ชาวบ้านป่าตึงริมกก เชียงราย รับพระธุดงค์กว่า 80 รูป มุ่งหน้า อ.แม่จัน

 

วันที่ 28 ธันวาคม 2566 คณะพระสงฆ์-สามเณรกว่า 80 รูป จาริกธุดงค์โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดาปีที่10 ฝึกฝนอบรมเพื่อที่จะไปจาริกที่ประเทศ อินเดีย เนปาล ได้เดินทางมาถึงป่าตึงริมกก โดยมีพุทธศาสนิกชนชาวอำเภอเมือง จ.เชียงราย ที่ทราบข่าวต่างยินดี พร้อมทั้งเตรียมข้าวสาร อาหารแห้งเพื่อนำมาถวายเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ได้สอบถามจากคณะพระสงฆ์ และสามเณรกว่า 80 รูป ที่เข้าร่วมโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดาปีที่ 10 ฝึกฝนอบรมเพื่อที่จะไปจาริกที่ประเทศ อินเดีย เนปาล โดยท่านได้เดินทางมาจากวัดเกาะวาลุการาม ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง เดินเท้าธุดงค์ผ่านเส้นทางต่างๆ มุ่งหน้าสู่วัดดอยเทพนิมิต ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงรายตั้งแต่วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2566 -วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม 2566 โดยมีพระภิกษุสงฆ์ สามเณร แม่ชี และคณะศรัทธาผู้ติดตาม เดินทางร่วมกว่า 80 รูป

ซึ่งกำหนดการคณะพระสงฆ์-สามเณรกว่า 80 รูป ดังนี้

27 ธันวาคม 2566 เข้าพัก ป่าช้าหมู่5 บ้านป่าตึงริมกก ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย

28 ธันวาคม 2566 จุดที่พัก คือ วัดสุวรรณคีรี ต.แม่จัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย

29 ธันวาคม 2566 จุดสุดท้ายวัดดอยเทพนิมิต ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย

โดยมีการทำวัตรเย็น และ ทำวัตรเช้า ผู้ใจบุญ สามารถไปร่วมใส่บาตรและถวายภัตตาหารได้เวลา 07.30 น. สามารถร่วมบุญได้ตามกำลังศรัทธา

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เพิ่มมูลค่าทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน โครงการสืบทอดภูมิปัญญาพื้นบ้าน

 

วันอังคารที่ 26 ธันวาคม  2566 เวลา 09.00 เป็นต้นไป ณ สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายบูรณาการร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายและเครือข่ายสภาวัฒนธรรมอำเภอ 18 อำเภอ จัดกิจกรรมภายใต้โครงการสืบทอดภูมิปัญญาพื้นบ้าน สู่การเพิ่มมูลค่าทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

  โดยมี ผศ. ยิ่งศักดิ์ เพชรนิล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการฯ  อาจารย์ ดร.อดิเทพ วงศ์ทอง ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย กล่าวต้อนรับ และ นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงาน

   โครงการสืบทอดภูมิปัญญาพื้นบ้าน สู่การเพิ่มมูลค่าทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ 2566 สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัดเชียงราย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างองค์ความรู้ และกระตุ้นให้บุคคลในท้องถิ่นตลอดจนเด็กและเยาวชน ตระหนักถึงคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยนำหลักคุณธรรมมาใช้ในการดำรงชีวิตบนพื้นฐานความพอเพียงได้ รวมถึงการอนุรักษ์ สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถูกต้องตามแบบฉบับให้คงอยู่สู่เด็ก เยาวชนและประชาชนตลอดไป เพื่อสร้างทัศนคติ ค่านิยม ให้บุคคลในท้องถิ่นเกิดความรักถิ่นฐาน หวงแหนมรดกทางวัฒนธรรม อันดีงามให้อยู่คู่สังคมไทย

 

มีกิจกรรมภายใต้โครงการฯ ประกอบด้วย

  1. การเสวนา “ภูมิปัญญาพื้นบ้าน สู่การเพิ่มมูลค่าทางวัฒนธรรม” ผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย

      1.1 พระครูปิยวรรณพิพัฒน์ ,ดร. ประธานคลังปัญญาจังหวัดเชียงราย เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการคลังปัญญาผู้สูงอายุจังหวัดเชียงราย

      1.2 ร.ศ. มาลี หมวกกุล ประธานสาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ประยุกต์ มร.ชร. เรื่อง อาหารภูมิ อาหารถิ่น กับการยกระดับสู่สากล

      1.3 อาจารย์ ดร.อดิเทพ วงศ์ทอง ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มร.ชร. เรื่อง ประเพณีท้องถิ่นล้านนา

     1.4 นายอนุสรณ์ บุญเรือง ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรม สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มร.ชร. เรื่อง ความเชื่อ วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษาอักขระล้านนา

      1.5 นายธันวา เหลี่ยมพันธุ์ รองประธานสภาวัฒนธรรมเชียงราย เรื่อง การส่งเสริม รักษา และต่อยอดมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น

     …ผู้ดำเนินรายการโดย ผศ.ดร.รณิดา ปิงเมือง ที่ปรึกษาอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

  1. การแสดงมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ด้านการละเล่นพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว “การแสดงชุดจายเจิงหาญ”
  2. การขับซอพื้นบ้าน โดย นางบัวลอย โชติสิริพัชญ์ คนดีศรีเชียงราย สาขาศิลปะการแสดง ประจำปี 2566
  3. การสาธิตมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จากเครือข่ายสภาวัฒนธรรมทั้ง 18 อำเภอ
  4. การสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม (CPOT) และภูมิปัญญาพื้นบ้าน

ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้นักวิชาการวัฒนธรรม ผู้ประสานงานวัฒนธรรมอำเภอ และเจ้าหน้าที่มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ร่วมจัดกิจกรรมและอำนวยความสะดวกแก่เครือข่ายทางวัฒนธรรมและผู้มาร่วมงาน และการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

พิธีอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นจากลำน้ำกกและขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมตักบาตรเที่ยงคืน

 
เมื่อเวลา 15.00 น. วันอังคารที่ 26 ธันวาคม 2566 เทศบาลนครเชียงรายโดย ดร.วันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงราย พ.จ.อ.อัษฎางค์ วิเศษวงศ์ษา ปลัดเทศบาลนครเชียงราย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ เทศบาลนครเชียงราย ร่วมกับจังหวัดเชียงรายและวัดมิ่งเมือง ทำพิธีอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นจากลำน้ำกก ขึ้นประดิษฐานยังราชรถบุษบก โดยพระครูโสภณ ศิลปาคมเจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง เจ้าคณะตำบลเวียงเขต 1 สวนบริเวณสวนสาธารณะแม่ฟ้าหลวง ให้พี่น้องประชาชนได้มีโอกาสทำบุญกราบไหว้สักการะ ซึ่งเชื่อกันว่าหากท่านได้ทำบุญตักบาตรพระอุปคุตแล้ว จะเกิดโชคลาภและความเป็นสิริมงคลยิ่งแก่ชีวิต
 
ขอถือโอกาสเชิญชวนทุกท่านได้มาร่วมพิธีตักบาตรในวันเป็งปุ๊ด และกราบไหว้สักการะพระอุปคุต บริเวณหน้าวัดมิ่งเมืองไปจนถึงหอนาฬิกาเชียงราย ตั้งแต่เวลา 23.39 น.เป็นต้นไป ร่วมพิธีตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร บริเวณหน้าวัดมิ่งเมือง ไปตามถนนบรรพปราการ จนถึงหอนาฬิกานครเชียงราย
 
ตามความเชื่อของชาวล้านนา มีความเชื่อว่าองค์พระอุปคุตจะขึ้นมาโปรดสัตว์ก่อนเวลารุ่งเช้า ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ตรงกับวันพุธ หลังได้เสด็จลงไปจำศีลภาวนาอยู่ใต้สะดือทะเลในรอบหนึ่งปี หากพุทธศาสนิกชน ประชาชนทั่วไป ได้มีโอกาสทำบุญกราบไหว้สักการะพระอุปคุต และได้ทำบุญตักบาตรพระอุปคุตแล้ว จะเกิดโชคลาภและความเป็นสิริมงคลยิ่งแก่ชีวิตของตนและครอบครัว
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

กลุ่มชาติพันธุ์ 500 ครอบครัว แสดงตนเป็นพุทธมามกะ วัดพระธาตุดอยตุง

 
วันที่ 24 ธันวาคม 2566 ที่พระบรมธาตุเจ้าดอยตุง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พระเทพเวที เจ้าคณะภาค 6 พระอุดมบัณฑิต รองเจ้าคณะภาค 6 พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย และ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย ประกอบพิธี การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ (ประกาศตนว่าเป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนา) ของกลุ่มชาติพันธุ์ 500 ครอบครัว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อำเภอแม่ฟ้าหลวง และ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
 
โดยพิธีเริ่มจากขบวนแห่ พุทธมามกะชาติพันธุ์ อัญเชิญพระพุทธรูป 500 องค์ จากการสมโภชพระพุทธมงคลธรรม โดยมี นายทชัย และ นางปุณณกา รัตนะฉัตตา เป็นประธานอุปถัมภ์ จากนั้นแห่พระพุทธรูป “มงคลธรรมบพิตร” ไปยังพระบรมธาตุ เจ้าดอยตุง เวียนรอบพระบรมธาตุฯ 3 รอบ ก่อนเริ่มประกอบพิธี ในการถวายพระพุทธรูป 500 องค์ ให้คณะสงฆ์ และคณะสงฆ์ ได้มอบ พระพุทธรูป “มงคลธรรมบพิตร” ให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ 500 ครอบครัว เพื่อนำไปกราบไหว้บูชาที่บ้าน
พระเทพเวที เจ้าคณะภาค 6 กล่าวว่า การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ หรือ ประกาศตนว่าเป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนา ของกลุ่มชาติพันธุ์ในครั้งนี้ ถือว่าคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย ได้เผยแพร่พระพุทธศาสนาได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้กลุ่มชาติพันธุ์เลื่อมใสในคำสอนของพระพุทธเจ้า และได้เข้ามานับถือศาสนาพุทธ
 
ซึ่งทุกคนจะต้องปฏิบัติตามหลักศาสนา และปฏิบัติตัวตามศีล 5 ให้ได้มากที่สุด หากติดขัดในเรื่องใด ก็สามารถปรึกษาคณะสงฆ์ได้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก ที่ทุกคนได้เผยแพร่พระพุทธศาสนาให้กว้างขึ้น ทั้งนี้ก็เช่นกัน พระสงฆ์ก็จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ชาวพุทธเช่นกัน ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และนำคำสอนมาเผยแพร่ต่อไปได้อีก
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เปิดศูนย์ผ้า ‘ปางห้า’ คงอัตลักษณ์ของผ้าทอเชียงราย แบบที่เรียกว่า “ชิ้นเดียวในโลก” และพิเศษเฉพาะคุณ

 

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2566 สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพ จังหวัดเชียงราย ร่วมกับ จินนาลักษณ์ กระดาษสา เทศบาลตำบลแม่สายและบริษัท วัฒนกูล กรุ๊ป จำกัด เปิดศูนย์ผ้าปางห้า และร้าน ModalooM ภายใต้ Welcome to Chiang Rai Shop สาขาที่ 3 อย่าง เป็นทางการ ณ ศูนย์ผ้าปางห้า หมู่ 1 บ้านปางห้า ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย

 

สำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า โครงการจำหน่ายสินค้าของสมาชิกสมาคมสตรี นักธุรกิจและวิชาชีพ จังหวัดเชียงราย ร่วมกับสินค้า 10 ชาติพันธุ์แม่สาย พัฒนาแผนงานเพื่อส่งเสริมผ้าไทยของจังหวัดเชียงราย แบบเต็มรูปแบบจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ และหลักการนำเสนอตัวสินค้าที่เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย และการเชื่อมโยงการพัฒนาตัวสินค้าให้ตรงตามกับความต้องการของตลาด และยังคง มี อัตลักษณ์ของผ้าทอเชียงรายแบบที่เรียกว่า “ชิ้นเดียวในโลก” และพิเศษเฉพาะคุณ โดยสนับสนุนให้สินค้าและบริการของสมาชิกทำการตลาดและการขาย ให้เป็นไปตามกลไกของสถานการณ์ปัจจุบัน นำของที่ไม่ได้ใช้มาใช้ หรือสินค้าที่มีอยู่เพิ่มช่องทาง เสริม เล็งเห็นจุดเชื่อมในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวของสินค้าที่ผลิตในเชียงราย

 

โดยคนเชียงราย ส่งเสริมเชียงราย สร้างงาน สร้างคน สร้างรายได้ ทำอย่างไรที่จะ นำเอา สินค้าต่างๆโดยเฉพาะ เริ่มต้นจากกลุ่มสมาชิก ในการมีส่วนร่วมในผลิตภัณฑ์และบริการให้เกิดการพัฒนาตัวสินค้าให้ถึงความต้องการของลูกค้า ของที่มีประโยนช์เก็บไว้นำมาผลิตเป็นสินค้าใหม่ ตีตรามาจากเชียงราย รับประกัน คุณภาพ รวมถึงการขยาย ทั้งกลุ่มลูกค้า พัฒนา ทำการตลาดในทุกช่องทาง แบบ ขายตรง ขายส่ง ทั้งในเชียงราย ในไทยและต่างประเทศ

 

การเชื่อมต่อคือ เอาสินค้ามาเสนอขายและเป็น supplier ของ บางธุรกิจในเชียงราย เช่น ผลิตสินค้าใช้ใน ร้านอาหาร และโรงแรม เราสามารถ กล่าวได้ว่า การสนับสนุนสินค้าในจังหวัดเชียงราย ช่วยเหลือสนับสนุนสร้างความยั่งยืน ในจังหวัดก่อน ออกนอกจังหวัด
 
ทั้งนี้ สมาคมสตรี ได้ตั้งทีมบริหารโครงการเพื่อรวบรวมสินค้าของสมาชิกที่สนใจเข้าร่วมสมาคมสตรีจัดเตรียม พื้นที่ขาย สินค้าของสมาชิกเพิ่มช่องทางการขาย และร่วมในการพัฒนาตัวสินค้า
 
สาขาแรก : เปิดขายภายใต้ชื่อ WELCOME TO CHIANGRAI SHOP ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงรายเปิดร้านเพื่อจำหน่ายสินค้าในวันที่ :8 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ชาวไทย และ นักท่องเที่ยว
 
สาขาที่ 2 : เปิดขายภายใต้ชื่อ WELCOME TO CHIANGRAI SHOP ณ วัดพระธาตุดอยเวา เปิดร้านจำหน่ายสินค้าในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ชาวไทย ชาวต่างชาติและ นักท่องเที่ยว
 
สาขาที่ 3 เปิดขายภายใต้ชื่อ ModalooM ณ ศูนย์ผ้าปางห้า เปิดร้านจำหน่ายสินค้าในวันที่ 22 ธันวาคม 2566 กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ชาวไทยและ ชาวต่างประเทศ นักท่องเที่ยวการส่งออกนอกประเทศ trade การค้า และเปิดกลุ่มลูกค้าทางการค้าส่งออก หรือ ส่งขายนอกพื้นที่เชียงราย เป้าหมายการเปิดร้านจากเชียงรายสู่ทั่วประเทศ อาทิเช่น เซ็นทรัลเชียงใหม่ กรุงเทพ พัทยา และศูนย์การค้าสยามพารากอน ไอคอนสยาม จังชีลอน ภูเก็ต
 
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท วัฒนกูล กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนประสานงานที่ปรึกษาสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพ จังหวัดเชียงราย โทร. 061 659 4540, โทร. 097 135 7074
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพ จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

‘ครูบาอริยชาติ’ นำพระเกจิ ทำพิธีมหาพุทธาภิเษกเหรียญ ‘บิ๊กต่อ’ ร่วม

 
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.66 ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ พร้อมด้วยพระเกจิอาจารย์ ได้จัดทำพิธี บวงสรรวงเทพยดา และพิธีมหาพุทธาภิเษก เจริญพุทธมนต์เหรียญอาร์ม ตราโล่ตำรวจ รุ่น “ต่อศักดิ์ ต่อบารมี” โดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานฝ่ายฆาราวาส นำข้าราชการตำรวจ พุทธศานิกชน ประชาชนทั่วไป เข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก ที่วัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
 
 
 
ซึ่งการจัดสร้างเหรียญดังกล่าวมีวัตถุประสงฆ์เพื่อนำรายได้มอบให้สาธารณกุศล ตามแต่ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต เห็นสมควร และจัดซื้อ อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลตำรวจ มอบปัจจัยให้กับสมาคมแม่บ้านตำรวจ เพื่องานสาธารณกุศล และสมทบทุนก่อสร้างพระมหาเจดีย์ วัดแสงแก้วโพธิญาณ
 
 
 
สำหรับพระมหาเจดีย์ “พระมหาเจติยะธาตเจ้าเจดีย์” มีความสูง 119 เมตร สร้างในเนื้อที่ 4 ไร่ มีขนาด 9 ชั้น กว้าง 65 เมตร ยาว 65 เมตร สามารถขึ้นไปชมความสวยงามได้ 7 ชั้น ออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมล้านนา ผสม พม่า ภายในออกแบบ สถาบัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาหลายๆ ประเทศ จนสุดท้ายไปสิ้นสุดที่อินเดีย ชั้นที่ 7 จะประดิษฐาน หลวงพ่อพุทธเมตตาหยกแคนนาดา องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หน้าตัก 75 นิ้ว ให้ญาติโยมเข้าไปสักการะได้
 
 
โดยมีการจัสร้างเหรียญ ชุดประธานอุปถัมภ์จำนวน 108 ชุด เนื้อทองคำบริสุทธิ์นำฤกษ์ จำนวน 9 เหรียญ เนื้อทองคำลงยา แดง เขียว น้ำเงิน รวม 52 เหรียญ เนื้อทองคำบริสุทธิ์ฝังเพชร จำนวน 9 เหรียญ เนื้อน้ำเงินลงยาน้ำเงินหน้ากากทองคำ 1 ด้าน จำนวน 299 เหรียญ เนื้อเงินลงยาแดงขอบดำ จำนวน 499 เหรียญ เนื้อเงินบริสุทธิ์ จำนวน 599 เหรียญ เนื้อนวะโลหะลงยาแดงหน้ากากเงิน จำนวน 666 เหรียญ เนื้อนวะโลหะจำนวน 99 9 เหรียญ เนื้อมหาชนวนชุบสามกษัตริย์จำนวน 666 เหรียญ ชุดกรรมการ จำนวน 1499 ชุด เนื้อทองแดงรมดำโบราณ จำนวน 9999 ชุด และเหรียญสำหรับแจกมีสองรายการคือเนื้อมหาชนวน จำนวน 5555 เหรียญและเนื้อมหาชนวนกะไหล่ทองวงเล็บกรรมการ จำนวน 5555 เหรียญ
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

‘ลาลีวรรณ’ นำทีม ก.วัฒนธรรม ลงพื้นที่มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ 2023 เชียงราย

 
เมื่อวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม 2566 ณ พื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย นายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย คณะผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ข้าราชการและบุคลากรสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื้อเยี่ยมชมงานศิลปะโครงการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมลงพื้นที่ต้อนรับคณะและนำชมงานศิลปะของศิลปิน จำนวน 4 แห่ง ดังนี้

  1. ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังเก่า รัชกาลที่ 5 ตำบลเวียง
  2. ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ตำบลห้วยสัก
  3. หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย (CIAM) ตำบลริมกก
  4. ขัวศิลปะเชียงราย ตำบลริมกก

ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางพัชรนันท์ แก้วจินดา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม นางพรทิวา ขันธมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และนายอภิชาต กันธิยะเขียว นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ ข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมลงพื้นที่ติดตามและอำนวยความสะดวกให้แก่คณะผู้บริหาร ดังกล่าว

จังหวัดเชียงราย ร่วมกับ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ดำเนินงานโครงการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 เพื่อส่งเสริมต่อยอด และแสดงศักยภาพในการสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัยของศิลปิน บูรณาการความร่วมมือเชิงรุกของทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นการใช้มิติทางศิลปะสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างรายได้จากต้นทุนและทรัพยากรทางวัฒนธรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรม  

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

3 เครือข่ายภาครัฐและเอกชนหนุน พัฒนางานศิลปะร่วมสมัยผ่านนิทรรศการเครือข่าย

 

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม  เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนางานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ประจำปี 2567 ระหว่างกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรมกับธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) บริษัท ไอคอนสยาม จำกัดและกลุ่ม Chat Lab โดยมีคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย นายประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล กรรมการผู้จัดการ Retail and Brand ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และนายณัฏฐาปกรณ์ คะปูคำ สถาปนิกผู้แทนกลุ่ม Chat Lab ร่วมลงนามความร่วมมือ 

 

โดยมีนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นางสุภัทร กิจเวช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม คณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย ศิลปินและผู้แทนหน่วยงานเครือข่ายที่ได้รับการส่งเสริมจากกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ศิลปิน แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน กรุงเทพฯ 

 

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับองค์กรเครือข่ายและศิลปินทุกท่าน ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตลอดจนความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นจากพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในวันนี้ ระหว่าง กองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย และสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายทั้ง 3 หน่วยงานได้แก่ 1. ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด 3. กลุ่ม Chat Lab และการจัดนิทรรศการแสดงผลงานโครงการที่ได้รับการสนับสนุนในปี 2566 จะทำให้การขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล โดยการนำศิลปะร่วมสมัยมาเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาความรู้ ความสามารถ และส่งเสริมพลังความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยให้พัฒนาไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการบนพื้นฐานของทุนทางสังคมและวัฒนธรรม อันเป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันและเสริมสร้างอัตลักษณ์ความเป็นไทยให้แพร่หลายในประชาคมโลกและยังเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือเชิงรุก 
ที่สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต 
 
 
 
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูลประธานกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย ได้ทำหน้าที่เป็นแหล่งทุนที่ให้การส่งเสริมศิลปะร่วมสมัยแก่ศิลปินและเครือข่ายฯ ทั้งภาครัฐและเอกชนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561- 2566 โดยได้ให้การสนับสนุนโครงการต่างๆ รวมทั้งสิ้น 162 โครงการ เป็นงบประมาณรวมกว่า 43 ล้านบาท และในปี พ.ศ. 2567 มีโครงการที่ได้รับการส่งเสริมจากกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย จำนวนทั้งสิ้น 27 โครงการ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,950,000 บาท ครอบคลุม 4 แนวทางหลัก ได้แก่ แนวทางที่ 1 วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และ/หรือนำงานวิจัยมาประยุกต์ใช้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม  แนวทางที่ 2 ส่งเสริมสนับสนุนการสร้างสรรค์งานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยเพื่อเป็นการเพิ่มคุณค่า มูลค่าทางเศรษฐกิจ แนวทางที่ 3 สร้างความร่วมมือเครือข่ายเพื่อยกระดับคุณค่าที่หลากหลายทางสังคมและชุมชน  แนวทางที่ 4 ส่งเสริมการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยไทยผ่านสื่อแขนงต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ
 
โครงการที่ได้รับการส่งเสริมล้วนมีแนวทางการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการให้เกิดการมีส่วนร่วมกับเครือข่ายในระดับชุมชน ระดับชาติ และระดับนานาชาติ และต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้ง 3 ด้านได้แก่ ด้านสังคม วัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งก่อให้เกิดการบูรณาการส่งเสริมศิลปะร่วมสมัยเชิงรุกผ่านระบบนิเวศศิลปะ ช่วยยกระดับคุณค่าทางสังคมและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
 
 
ทั้งนี้ นิทรรศการโครงการที่ได้รับการส่งเสริมจากกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัยประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เปิดให้เข้าชมผลงานโดยไม่เสียค่าเข้าชม ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2566 จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2567  ณ ห้องปฏิบัติการ 1 และ 2 บริเวณชั้น 2 ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน กรุงเทพฯ 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News