Categories
CULTURE

พื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร (GIAHS) “เลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย”

พื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร (GIAHS) “เลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย”

Facebook
Twitter
Email
Print

 นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความสำเร็จในการยื่นเอกสารข้อเสนอ “การเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย” เมื่อเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยการเสนอเรื่องดังกล่าว เพื่อขอรับการรับรองเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร มีหลักเกณฑ์การพิจารณาของพื้นที่ GIAHS ทั้งหมด 5 ข้อ ได้แก่ 1) ความมั่นคงอาหาร/ชีวิตความเป็นอยู่ดี 2) ความหลากหลายทางชีวภาพเกษตร 3) ระบบความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีมาแต่ดั้งเดิม 4) วัฒนธรรม ระบบคุณค่า และองค์กรทางสังคม และ 5) ลักษณะภูมิทัศน์/และภูมิทัศน์ทางทะเล และจากการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ (Scientific Advisory Group: SAG) ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ได้ประกาศให้ “การเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย” เป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร (Global Important Agricultural Heritage Systems หรือ GIAHS) ของ FAOและนับเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของประเทศไทย

                       “พิธีมอบใบประกาศรับรองพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร (Globally Important Agricultural Heritage Systems หรือ GIAHS) จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ เวลา 16.00-18.30 น. (เวลาประเทศไทย) ณ สำนักงานใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี โดยชุมชนในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง จะได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ดังนั้น การขึ้นทะเบียนฯ จะไม่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ และยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชน ทำให้เศรษฐกิจชุมชนเติบโต และเพิ่มการจ้างงานในพื้นที่อีกด้วย” ปลัดเกษตรฯ กล่าว

          สำหรับพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของไทยนี้ มีพื้นที่ทั้งหมด 45,822 เฮกตาร์ (458.22 ตารางกิโลเมตร) ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา และจังหวัดนครศรีธรรมราช มีลักษณะเป็นทะเลแบบลากูน (Lagoon)  หนึ่งเดียวของประเทศไทย มีความสำคัญเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ ได้รับการแต่งตั้งอนุสัญญาแรมซาร์ ในปี พ.ศ. 2541 (Ramsar site No.948) ครอบคลุมพื้นที่ป่าพรุ เป็นเส้นทางอพยพของนกจากเอเชียตะวันออกและแหล่งที่อยู่ของสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพ มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ รวมทั้งเป็นแหล่งอาศัยสำคัญของสังคมสัตว์และสังคมพืชนานาชนิด และแหล่งประกอบอาชีพหลักและความมั่นคงทางอาหารของชุมชนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชีพกสิกรรมแบบดั้งเดิม เช่น การทำนา การทำประมงและเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะ “ควายปลัก” ซึ่งมีลักษณะเหมือนควายปกติ แต่มีความสามารถในการปรับตัวให้สามารถหากินได้ทั้งในน้ำและบนบก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของควายในพื้นที่ จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในจังหวัดพัทลุง 

Facebook
Twitter
Email
Print

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
NEWS UPDATE
Categories
FEATURED NEWS NEWS

ธอส. เปิดผลประมูลบ้านมือสองออนไลน์ “GHB’S NPA Online Auction” กว่า 153 ล้าน

ธอส. เปิดผลประมูลบ้านมือสองออนไลน์ “GHB’S NPA Online Auction” กว่า 153 ล้าน

Facebook
Twitter
Email
Print

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานผลการจัดประมูลบ้านมือสองออนไลน์ “GHB’S NPA Online Auction” ผ่าน Application : GHB ALL HOME ที่จัดขึ้นวันนี้ (19 พฤษภาคม 2566) ระหว่างเวลา 12.00-13.00 น. สามารถจำหน่ายทรัพย์ NPA ได้จำนวนทั้งสิ้น 124 รายการ คิดเป็นมูลค่าที่จำหน่ายได้รวม 153 ล้านบาท แบ่งเป็นทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 53 รายการ คิดเป็นมูลค่า 62 ล้านบาท และทรัพย์ในส่วนภูมิภาค จำนวน 71 รายการ คิดเป็นมูลค่า 91 ล้านบาท โดยทรัพย์ที่ประมูลขายได้ในราคาสูงสุด ได้แก่ ทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว ขนาดเนื้อที่ 400 ตารางวา ใน อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี สามารถจำหน่ายได้ในราคา 5.67 ล้านบาท เนื่องจากเป็นทรัพย์ที่มีเนื้อที่กว้างขวาง เหมาะแก่การอยู่อาศัย และใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย  ส่วนทรัพย์ที่ประมูลขายได้ในราคาต่ำสุด ได้แก่ ทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า ขนาดเนื้อที่ 100 ตารางวา ใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก โดยจำหน่ายได้ในราคา 95,000 บาท เท่านั้น!!

ทั้งนี้ ลูกค้าที่ชนะการประมูลต้องทำสัญญาจะซื้อจะขายภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 และหากทำนิติกรรมและโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 จะได้ส่วนลดราคาเพิ่ม 10% จากราคาที่ประมูลซื้อได้ และสามารถใช้ “ผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับซื้อทรัพย์ NPA พร้อมขายของธนาคาร” (เงื่อนไขเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 กด 5 หรือ Facebook Fanpage บ้านมือสอง ธอส. หรือดูข้อมูลรายการทรัพย์บ้านมือสอง ธอส. ได้ที่ www.ghbhomecenter.com, Mobile Application : GHB ALL HOME และ Line Official Account : @GHBALLHOME  

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS NEWS UPDATE

กยศ. เปิดให้กู้ยืม ปี 66 ผ่านมือถือ รายใหม่ – รายเก่า ถึงวันที่ 31 ส.ค. 66

กยศ. เปิดให้กู้ยืม ปี 66 ผ่านมือถือ รายใหม่ – รายเก่า ถึงวันที่ 31 ส.ค. 66

Facebook
Twitter
Email
Print

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดให้กู้ยืมเงินประจำปีการศึกษา 2566 ผู้กู้ยืมรายใหม่  ยื่นขอกู้ยืมได้ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ผู้กู้ยืมรายใหม่/รายเก่า ยื่นแบบยืนยันการกู้ยืมได้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ผ่านทางแอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” หรือทางเว็บไซต์ กยศ. โดยให้กู้ยืม 4 ลักษณะ เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาเข้าถึงโอกาสทางการศึกษามากขึ้น
     
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้เปิดเผยว่า “ขณะนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาได้เปิดระบบให้กู้ยืมเงินประจำปีการศึกษา 2566 โดยนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมรายใหม่สามารถยื่นแบบคำขอกู้ยืมเงินผ่านทางแอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” หรือทางเว็บไซต์ กยศ. ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 และสำหรับผู้กู้ยืมเงินรายใหม่/รายเก่า ต้องยื่นแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืม และลงนามแบบยืนยันเบิกเงินกู้ยืมถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมจะได้รับเงินค่าครองชีพเดือนแรกภายใน 30 วัน นับจากวันที่สถานศึกษาทำการตรวจสอบยืนยันข้อมูล และแนบเอกสารการกู้ยืม   ของผู้กู้ยืมในระบบ DSL เรียบร้อยแล้ว และสถานศึกษาจะต้องจัดส่งเอกสารการกู้ยืมที่ถูกต้องและครบถ้วน  ให้ธนาคารเพื่อกองทุนจะโอนเงินในงวดถัดไป
    
ทั้งนี้ การให้กู้ยืมในปีการศึกษา 2566 กองทุนได้จัดเตรียมวงเงินกู้ยืมกว่า 40,000 ล้านบาท สำหรับนักเรียน นักศึกษากว่า 640,000 ราย ที่ขอกู้ยืมใน 4 ลักษณะ ได้แก่ ลักษณะที่ 1 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ลักษณะที่ 2 ศึกษาในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักซึ่งมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคนและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ ลักษณะที่ 3 ศึกษาในสาขาวิชาขาดแคลน หรือที่กองทุน   มุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ และลักษณะที่ 4 เรียนดีเพื่อสร้างความเป็นเลิศ (ระดับประกาศนียบัตรบัณฑิตและปริญญาโท) และกองทุนจะเป็นหลักประกันให้กับทุกครอบครัวว่าเด็กทุกคนที่เกิดมาในประเทศนี้จะมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันทุกคน เพราะความยากจนจะไม่ใช่อุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษาอีกต่อไปโดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.studentloan.or.th” ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวในที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

เทศบาลนครเชียงรายส่งทีมป้องกันไข้เลือดออกจากยุงลาย

เทศบาลนครเชียงรายส่งทีมป้องกันไข้เลือดออกจากยุงลาย

Facebook
Twitter
Email
Print

  เทศบาลนครเชียงรายป้องกันไข้เลือดออกจากยุงลาย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย มอบหมายให้นางพรทิพย์ จันทร์ตระกูล รก.ผอ.กองการแพทย์เทศบาลนครเชียงราย ออกรณรงค์ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงโรคไข้เลือดออกซึ่งมาจากยุงลาย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เป็นต้นมา โดยให้ความรู้ ให้คำแนะนำ และออกฉีดพ่นหมอกควัน กำจัดลูกน้ำยุงลาย เพื่อให้ครอบคลุมทั้ง 65 ชุมชมในเขตเทศบาลนครเชียงราย โดยร่วมกับ อสม. แกนนำประชาชนทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย แจกสื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนปราศจากโรคภัย

  ทั้งนี้ งานเวชกรรมสังคม กองการแพทย์เทศบาลนครเชียงราย การใช้สารเคมีป้องกันควบคุมยุงพาหะนำโรค เช่น พ่นสารเคมีกำจัดยุงตัวเต็มวัย มีความจำเป็นในการหยุดการแพร่ระบาดของโรคไม่ให้กระจายเป็นวงกว้าง และป้องกันไม่ให้ยุงมีเชื้อไปกัดและแพร่โรคให้คนอื่นต่อการพ่นสารเคมี ต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ทันท่วงที และได้มาตรฐาน ในขอบเขตการระบาด นอกจากนี้ การพ่นต้องเลือกใช้สารเคมีและความเข้มข้นตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ และได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. ไม่พ่นบ่อยครั้งโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการดื้อของยุงต่อสารเคมี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

มทบ.37 จัดกำลังพลสนับสนุน บ้านธารทอง สร้างอาคารโรงผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

มทบ.37 จัดกำลังพลสนับสนุน บ้านธารทอง สร้างอาคารโรงผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 66 เวลา 09.00 น. ร.ต. ไพบูลย์ สายหงษ์ หน.ชป.ประสานงานและคุ้มครองป้องกันชุมชน สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ บ.ธารทอง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พร้อมด้วยกำลังพล สนับสนุนเจ้าหน้าที่เกษตรในพระองค์ ทำการก่อสร้างอาคารโรงผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในสำนักงานโครงการ สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ บ.ธารทอง ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

น่าชื่นชม “มทบ.37” เชียงราย ลุยพื้นที่ มอบของให้ประชาชนในพื้นที่ต่างอำเภอ

น่าชื่นชม “มทบ.37” เชียงราย ลุยพื้นที่ มอบของให้ประชาชนในพื้นที่ต่างอำเภอ

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 66 เวลา 09.00 น. ร.อ.จรัญ นาคจาด นายทหารประสานงานศอป.โครงการ พมพ.แม่ฟ้าหลวง – แม่จัน พร้อมด้วยกำลังพล มอบผ้าห่มให้กับราษฎรผู้ยากไร้ นายลีตู่ อู่ยื่อ และนางละตะ อู่ยื่อ เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ณ บ้านเทอดไทย ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

ต่อมามทบ.37 จัดกำลังพล นำข้าวสารแจกจ่ายใเวลา 10.30 น.  ร.ต. วชิรศักดิ์ ตันชัยสิริมณีกุล หน.ชป.ประสานงานและคุ้มครองป้องกันชุมชน สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ บ.ห้วยหยวกป่าโซ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมด้วยกำลังพล นำข้าวสารแจกจ่ายให้กับราษฎรบ้านเล่าลิ่ว หมู่ที่ 14 ต.แม่สลองใน นางบู่ผะ ยูสึ อายุ 74 ปี และ นางอาแม มาเยอะ อายุ 48 ปี เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ขาดแคลนคุณทรัพย์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

“วันดีดี วันแห่งความสุขที่ได้แบ่งปัน ครั้งที่ 2” โชว์รูม โตโยต้า เชียงราย

“วันดีดี วันแห่งความสุขที่ได้แบ่งปัน ครั้งที่ 2” โชว์รูม โตโยต้า เชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 66 เวลา 09.00 น. ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย จัดกำลังพลจิตอาสา ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต “วันดีดี วันแห่งความสุขที่ได้แบ่งปัน ครั้งที่ 2” ณ โชว์รูม โตโยต้าเชียงราย สำนักงานใหญ่ อ.เมืองเชียงราย จว.ช.ร. เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการสำรองโลหิตให้กับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษา ในการบริจาคโลหิตครั้งนี้ ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37 จัดกำลังพลจิตอาสา ร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต ได้ปริมาณโลหิต จำนวน 3,150 ซีซี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
EDITORIAL NEWS

ถามตอบกับปัญญาประดิษฐ์: สว. ข่าวปลอม และ รากฐานประชาธิปไตย

ถามตอบกับปัญญาประดิษฐ์: สว. ข่าวปลอม และ รากฐานประชาธิปไตย โดยดร.ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Facebook
Twitter
Email
Print

ChatGPT คือ ปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาโดยบริษัทเทคโนโลยี OpenAI เป็นผู้ตอบคำถามภาษาอังกฤษและจากนั้นได้รับคำสั่งให้แปลเป็นภาษาไทย แล้ว ดร.ทีปกรเป็นมนุษย์เรียบเรียงภาษาให้สละสลวยรัดกุมโดยยึดตามความหมายของคำตอบภาษาอังกฤษ

 

  1. ทำอย่างไรผู้ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งตามเจตจำนงของปวงชนไทย จึงจะได้รับการสนับสนุนจากสภาสูง ซึ่งแต่งตั้งมาจากรัฐบาลทหาร?

หากผู้นำทางการเมืองมีเป้าหมายที่จะนำทางในภูมิทัศน์การเมืองที่รัฐบาลทหารมีอิทธิพล อาจต้องเผชิญความท้าทายเพิ่มขึ้นหลายประการ นี่คือกลยุทธ์ที่เป็นไปได้:

  1. การสร้างพันธมิตร: ร่วมมือกับพรรคการเมืองที่มีความเห็นในทางเดียวกันและบุคคลสำคัญที่อุทิศตนเพื่อประชาธิปไตยและการปกครองโดยประชาชน เพื่อสร้างพลังเสียงพรรคร่วม และเพิ่มโอกาสในการส่งเสริมนโยบายที่ต้องการ
  2. การเคลื่อนไหวของสาธารณชน: มีส่วนร่วมและเคลื่อนไหวทางสาธารณะผ่านการประท้วงอย่างสันติ การเดินขบวน และแคมเปญสาธารณะ สามารถช่วยเพิ่มความตระหนักในคุณค่าประชาธิปไตยและกดดันรัฐบาลทหารให้พิจารณาการปฏิรูป
  3. การฑูตและความสนับสนุนระหว่างประเทศ: ขอความสนับสนุนทางการทูตจากรัฐบาลต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ และกลุ่มเครือข่ายสิทธิมนุษยชน สามารถกดดันรัฐบาลทหารให้เคารพหลักประชาธิปไตยและส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปกครองโดยพลเรือน
  4. การปฏิรูปกฎหมายและสถาบัน: สนับสนุนการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง และโครงสร้างเชิงสถาบัน สามารถช่วยยกระดับการแข่งขันที่สูงขึ้นสำหรับกระบวนการประชาธิปไตย และ จำกัดอิทธิพลของกองทัพต่อระบบการเมือง
  5. ข้อความและการสื่อสารเชิงกลยุทธ์: สร้างข้อความที่สะท้อนความต้องการของสังคมเพื่อโน้มน้าวและสื่อสารถึงความสำคัญของการปกครองแบบประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และการปกครองโดยรัฐบาลพลเรือน สามารถช่วยสร้างการสนับสนุนจากประชาชนและต่อต้านข่าวสารข้อมูลที่ถูกสนับสนุนจากรัฐบาลทหาร
  6. การทำงานร่วมกับกองทัพ: ค้นหาโอกาสการสนทนาและการมีส่วนร่วมกับผู้มีความเป็นกลางในกองทัพ อาจช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีส่วนร่วมและค่อยเป็นค่อยไป เพื่อนำไปสู่การปกครองโดยรัฐบาลพลเรือน
  7. การสื่อสารระหว่างประเทศและการแบ่งปันข้อมูล: ใช้สื่อมวลชนระหว่างประเทศและแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อเพิ่มความตระหนักเกี่ยวกับสถานการณ์ เปิดเผยการละเมิดสิทธิมนุษยชน และสนับสนุนความต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางประชาธิปไตย สามารถช่วยรวบรวมการสนับสนุนจากนานาชาติและดึงดูดความสนใจจากสาธารณชนทั่วโลกได้

ทั้งนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องระบุไว้ว่า แต่ละประเทศมีบริบททางการเมืองที่มีลักษณะเฉพาะ และกลยุทธ์ในการท้าทายรัฐบาลทหารอาจแตกต่างอย่างมาก การปรับกลยุทธ์ให้เข้ากันได้กับสถานการณ์และบริบทของแต่ละประเทศเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการกับความท้าทายที่ส่งผลต่อรัฐบาลทหารอย่างมีประสิทธิภาพ

 

  1. เราจะจัดการข่าวปลอมที่สร้างความแตกแยกได้อย่างไร?

การต่อสู้กับข่าวปลอมที่แบ่งแยกประชาชนต้องได้รับการแก้ไขในหลายด้าน เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ การรับรู้เท่าทันสื่อ และการตรวจสอบความเชื่อถือได้ของข้อมูล

ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ที่สามารถใช้ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว:

  1. ส่งเสริมการรับรู้สื่ออย่างเท่าทัน: จัดแคมเปญและโครงการเพื่อการศึกษาสำหรับส่งเสริมการรับรู้สื่ออย่างเท่าทัน ทำให้ผู้คนพัฒนาทักษะการวิเคราะห์แหล่งข่าว ตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูล และสามารถแยกแยะระหว่างข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้และข้อมูลเท็จ
  2. โครงการตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูล: สนับสนุนและส่งเสริมองค์กรอิสระทำหน้าที่ตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลที่ผิดให้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ รณรงค์ให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลก่อนที่จะแชร์ และทำให้แหล่งตรวจสอบข้อเท็จจริงสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย
  3. ร่วมมือกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์: ร่วมมือกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ในการพัฒนานโยบายและเครื่องมือที่ช่วยแก้ไขการแพร่กระจายข่าวปลอมอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้แพลตฟอร์มพัฒนากลไกรายงานและแยกแยะข้อมูลเท็จ พร้อมทั้งสนับสนุนโครงการที่ช่วยจัดลำดับความสำคัญนำเสนอเนื้อหาที่เป็นจริงและเชื่อถือได้
  4. ทำงานร่วมกับสื่ออนุรักษ์นิยม: สนับสนุนการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์กับสื่ออนุรักษ์นิยมเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามหลักจริยธรรมสื่อ และป้องกันการกระจายข่าวเท็จหรือข้อมูลที่ชี้นำผิดทิศหลงทาง ส่งเสริมพวกเขาให้ความสำคัญกับความถูกต้อง ความเที่ยงธรรม และการรายงานข่าวอย่างมีความรับผิดชอบ
  5. กฎระเบียบและนโยบายของรัฐบาล: สร้างกฎระเบียบและนโยบายจัดการกับการเผยแพร่ข่าวเท็จ โดยใส่ใจต่อเสรีภาพของสื่อและการแสดงความคิดเห็น สร้างความโปร่งใสในการเป็นเจ้าของสื่อและแหล่งที่มาของเงินทุน และ บังคับใช้กฎหมายลงโทษการเผยแพร่ข้อมูลเท็จโดยเจตนา
  6. แคมเปญส่งเสริมการตระหนักรู้ของสาธารณะ: สร้างแคมเปญสาธารณะที่เน้นอันตรายจากข่าวเท็จและผลกระทบต่อสังคม ส่งเสริมให้แต่ละคนเป็นผู้บริโภคข่าวสารข้อมูลที่สามารถวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ และ มุ่งเน้นความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลก่อนยอมรับหรือแชร์
  7. ร่วมมือกับสังคม: ร่วมมือกับองค์กรภาคสังคม เอ็นจีโอ และสถาบันวิชาการ เพื่อพัฒนางานวิจัยและโครงการที่เน้นการต่อสู้กับข่าวปลอม สนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมความโปร่งใส ทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และสื่อที่มีความรับผิดชอบ
  8. เสริมสร้างสื่ออิสระ: สนับสนุนสื่ออิสระด้วยการให้ทรัพยากรและโอกาสฝึกอบรม ส่งเสริมการรายงานข่าวเชิงสืบสวนและข่าวที่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเพื่อถ่วงดุลข้อมูลเท็จ
  9. เชื่อมโยงกับผู้นำสังคม: ร่วมงานกับผู้นำในสังคม รวมถึง Influencers และผู้นำความคิด เพื่อส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลที่ถูกต้องด้วยความรับผิดชอบ กระตุ้นให้พวกเขาเป็นแบบอย่างในการตรวจสอบยืนยันข้อมูลก่อนที่จะเชื่อหรือแชร์
  10. ส่งเสริมการสนทนาและการถกเถียงโดยเคารพต่อกัน: สร้างวัฒนธรรมของการสนทนาที่เปิดกว้างและการถกเถียงโดยเคารพต่อกัน เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงวิเคราะห์และการสนทนาที่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ส่งเสริมให้ปัจเจกบุคคลแสวงหามุมมองที่หลากหลายและเข้ามามีส่วนร่วมในการสนทนาอย่างสร้างสรรค์

การแก้ไขการแพร่กระจายข่าวปลอมเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและต้องดำเนินการต่อเนื่อง ซึ่งต้องการความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย รวมถึงรัฐบาล องค์กรสื่อสารมวลชน องค์กรภาคสังคม และประชาชนทั่วไป เพื่อส่งเสริมสังคมที่รู้เท่าทันสื่อ

(หมายเหตุเพิ่มเติมจาก ดร.ทีปกร: ตัวอย่าง Fake News ที่ประสบความสำเร็จ เช่น ผังล้มเจ้า, ธนาธรเป็นนอมินีทักษิณ, CIA และ องค์กรลับอิลลูมินาติ อยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองในประเทศไทย, นโยบายตัดงบบำนาญข้าราชการ, นโยบายตั้งฐานทัพอเมริกาในประเทศไทย, หรือ แฟนด้อม คือ IO เป็นต้น)

 

  1. เราจะวางรากฐานประชาธิปไตยให้ประเทศไทยในระยะยาวได้อย่างไร?

(ย่อหน้าสรุป) การสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็งสำหรับประชาธิปไตยในประเทศไทย ต้องการความมุ่งมั่นในระยะยาวจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐบาล ราชการ องค์กรภาคสังคม พรรคการเมือง และประชาชนเอง สิ่งสำคัญ คือ การประเมินและเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างค่านิยมประชาธิปไตย และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตัดสินใจ เพื่อให้ระบบประชาธิปไตยมีความยั่งยืนและเกิดสัมฤทธิ์ผล

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS TOP STORIES

เปิด 23 ข้อ (ร่าง) MOU ฉบับตั้งรัฐบาลก้าวไกล ทุกพรรคดันนโยบายเพิ่มเติม ตามกระทรวงของตัวเอง

เปิด 23 ข้อ (ร่าง) MOU ฉบับตั้งรัฐบาลก้าวไกล ทุกพรรคดันนโยบายเพิ่มเติม ตามกระทรวงของตัวเอง

Facebook
Twitter
Email
Print

แกนนำ 8 พรรคร่วม ได้จัดทำ MOU จัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล กซึ่งจะลงนามวันนี้ (22 พ.ค.) 23 ข้อ ไม่มีการพูดถึง หรือแก้ไขมาตรา 112 (ม.112)

(ร่าง) บันทึกข้อตกลงร่วม (MOU จัดตั้งรัฐบาล)ในการจัดตั้งรัฐบาลบันทึกข้อตกลงร่วมนี้ทำขึ้นเพื่อสร้างพื้นฐานในการจัดตั้งรัฐบาลและทำงานร่วมกันระหว่างพรรคก้วไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ ทุกพรรคเห็นร่วมกันว่าภารกิจของรัฐบาลที่ทุกพรรคจะร่วมผลักตันประกอบไปด้วยวาระร่วมดังต่อไปนี้

  1. ฟื้นฟูประชาธิปไตย รวมถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนให้เร็วที่สุด โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
  2. เพื่อสร้างความสมานฉันท์ในสังคมทุกพรรคจะร่วมผลักดันการอำนวยความยุติธรรมในคดีที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมืองผ่านกลโกของรัฐสภา
  3. ยืนยันและผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อรับประกันสิทธิสมรสสำหรับคู่รักทุกเพศ โดยจะไม่บังคับประชาชนที่เห็นว่าขัดแย้งกับหลักการของศาสนาที่ตนเองนับถือ
  4. ผลักดันการปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม ให้สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย โดยยึดหลักความโปร่งใส ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน
  5. เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ เป็นระบบสมัครใจ
  6. ร่วมผลักดันกระบวนการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคำนึงถึงหลักการด้านสิทธิมนุษยชน การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงทบทวนภารกิจของหน่วยงานและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคง
  7. ผลักดันการกระจายอำนาจทั้งในแง่ภารกิจและงบประมาณ เพื่อให้ท้องถิ่นตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ ปราศจากการทุจริต
  8. แก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันโดยการสร้างระบบและวัฒนธรรมรัฐโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลรัฐในทุกหน่วยงาน
  9. ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยยึดหลักเพิ่มรายได้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างระบบเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างเป็นธรรม
  10. ยกเครื่องกฎหมายเกี่ยวกับการทำมาหากิน และการดำรงชีวิตของประชาชน เช่น ตัด ลด หรือพักใช้ชั่วคราวซึ่งใบอนุมัติ อนุญาตที่ไม่จำเป็นและเป็นอุปสรรคเพื่อปรับปรุงใหม่ ให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องทางด้านการเงินและสร้างแต้มต่อให้กับ SME พร้อมกับมุ่งเน้นการเติบโต GDP ของ SME สนับสนุนอุตสาหกรรม และสินค้าไทยให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้
  11. ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  12. ปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ ด้วยการผลักตันกฎหมายปฏิรูปที่ดิน กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม แก้ปัญหาแนวเขตป่าไม้และที่ดินของรัฐที่ทับซ้อนกับที่ดินของประชาชน รวมถึงการทบทวนคดีที่เป็นผลจากนโยบายทวงคืนผืนป่า
  13. ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า การคำนวณราคา และกำลังการผลิตที่เหมาะสม เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนและสร้างความมั่นคงทางพลังงาน
  14. จัดทำงบประมาณแบบใหม่ โดยเน้นใช้วิธีการจัดงบประมาณฐานศูนย์ (zero-based budgeting)
  15. สร้างระบบสวัสดิการดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงวัย โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและภาระทางการคลังระยะยาว
  16. แก้ไขปัญหายาเสพติดโดยเร่งด่วน
  17. นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษ โดยมีกฎหมายควบคุมและรองรับการใช้ประโยชน์จากกัญชา
  18. ส่งเสริมเกษตรและปศุสัตว์ปลอดภัย คุ้มครอง รักษาผลประโยชน์ของเกษตรกร ลดต้นทุนการผลิตส่งเสริมการตลาด ส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยี และแหล่งน้ำ ส่งเสริมการรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อวางแผนการผลิตและรักษาผลประโยชน์เกษตรกร ส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเพื่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ
  19. แก้ไขกฎหมายประมง ขจัดอุปสรรค เยียวยา ฟื้นฟู และพัฒนาอาชีพประมงให้ยั่งยืน
  20. ยกระดับสิทธิแรงงานทุกอาชีพให้มีสภาพการจ้างงานที่เป็นธรรม และได้รับค่าแรงที่เป็นธรรมสอดคล้องกับค่าครองชีพและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
  21. ปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  22. สร้างความร่วมมือและกลไกภายในและระหว่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษ รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) โดยเร็วที่สุด
  23. ดำเนินการนโยบายการต่างประเทศ โดยการฟื้นฟูบทบาทผู้นำของไทยในอาเชียน และรักษาสมดุลการเมืองระหว่างประเทศของไทยกับประเทศมหาอำนาจ

ทุกพรรคเห็นพ้องกันว่าจะร่วมกันบริหารประเทศด้วยแนวทางปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

  • ทุกพรรคจะคุ้มครองสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของประชาชนทุกคน
  • ทุกพรรคจะทํางานโดยซื่อสัตย์สุจริต หากมีบุคคลของพรรคใดมีพฤติกรรมทุจริต คอร์รัปชัน ทุกพรรคจะ ยุติการดำรงตำแหน่งของบุคคลนั้นๆ ทันที
  • ทุกพรรคจะทำงานโดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน จริงใจต่อกัน สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน โดยยึดถือ ผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง มากกว่าผลประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่ง
  • ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงร่วมฉบับนี้ โดยอาศัยอ้านาจฝ่ายบริหารของรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนของแต่ละพรรคการเมือง
  • ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงร่วมฉบับนี้ โดยอาศัยอำนาจนิติบัญญัติของผู้แทนราษฎรที่สังกัดแต่ละพรรคการเมือง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
SOCIAL & LIFESTYLE TRAVEL

15 สถานที่โชว์แสง “หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย”

15 สถานที่โชว์แสง “หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย”

Facebook
Twitter
Email
Print

จัดขึ้นในวันที่ 20-28 พฤษภาคม 2566 ณ อำเภอเมืองเชียงราย เวลา 18.00 น. – 24.00 น. นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถสร้างกระแสให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางไปเยี่ยมชม และส่งต่อประสบการณ์ผ่านสื่อ Social Media ในวงกว้าง ต่อยอดนำเสนอแนวคิดและรูปแบบการจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด งานเทศกาล แสง เสียง และความคิดสร้างสรรค์ โดยสื่อออกมาในรูปแบบของการจัดแสดง Light up / Mapping / Projection 3D / Light installation และสื่อผสมที่ทันสมัย สื่อถึงความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถสะท้อนเอกลักษณ์ / อัตลักษณ์ของท้องถิ่น สามารถต่อยอดไปสร้างเส้นทางให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมตามจุดต่างๆ ที่จัดแสดงได้ในลักษณะ Walking Tour เล่าเรื่องเมืองเชียงรายผ่านเส้นทางแห่งกาลเวลาด้วยการ Light up / Mapping สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย ตามแนวคิด  “หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย”

งานวิจิตร ๕ ภาค @เชียงราย “หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย (Chiang Rai : Wiang of Light)” จัดแสดงผ่านสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ 15 แห่ง รวมระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ได้แก่

1.หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ: สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 

หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ: สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ออกแบบโดย ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ จัดแสดงภายใต้แนวคิด Celebrated Time ที่สื่อถึงช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของคนเชียงราย ใช้เทคนิค Moving Head Beam กับลำแสงสีทอง เงิน นาก เคลื่อนไหวไปพร้อมจังหวะการเดินของเข็มนาฬิกา บอกเล่าถึงการเดินทางของเวลาที่เดินหน้า หรือเดินถอยหลังสู่อดีตกาล

 

2.ถนนเชื่อมหอนาฬิกา

ถนนเชื่อมหอนาฬิกา: ถนนสุขสถิตย์หนึ่งในถนนย่านค้าขายสําคัญของเมืองเชียงรายยุคใหม่ ที่เชื่อมโยงวิถีชีวิต เศรษฐกิจ และการคมนาคม ถือเป็นลมหายใจหนึ่งของการเติบโตของเมือง จัดแสดงภายใต้แนวคิด Connected ใช้เทคนิค Laser & Mirror ยิงแสงเลเซอร์ถักเป็นตาข่าย ลอยสุขสถิตย์เหนือผืนถนน สร้างคลื่นแสงเชื่อมสองเวลาและสองสถานที่เข้าหากัน

 

3.หอนาฬิกา (เก่า)

หอนาฬิกา (เก่า): หอนาฬิกาเก่าของจังหวัดเชียงราย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2510 ได้ย้ายจากถนนบรรพปราการ หรือที่ตั้งหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ ในปัจุบัน ไปตั้งไว้ที่ตลาดสดเทศบาล บริเวณสามแยกโรงรับจำนำ ซึ่งอยู่ห่างจากหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ ประมาณ 350 เมตร จัดแสดงภายใต้แนวคิด Classical Time หนึ่งในตัวแทนความคลาสสิคของยุคสมัย ใช้เทคนิคแสง Luminous Light แสงสีขาววางล้อมหอนาฬิกา อวดโฉมเวลาหนึ่งช่วงในอดีตที่เคยเป็นตัวแทนความเจริญของเมืองยุคใหม่

 

4. มูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์

มูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์เชียงราย ตั้งอยู่ที่ถนนบรรพปราการ ภารกิจหลักของมูลนิธิฯ เกี่ยวข้องกับงานด้านสาธารณะกุศลโดยจะมีกิจกรรม ต่างๆ ในช่วงเย็น เช่น รำไทเก๊ก รำมวยจีน รำกระบี่ เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกาย อาคารแห่งนี้มีการตกแต่งอย่างสวยงามตามสไตล์จีน ด้านในมีจุดไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ตามความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายจีนในเมืองเชียงราย จัดแสดงภายใต้แนวคิด Power of Gods การไหว้บูชาเหล่าเทพเจ้าขอพร ใช้เทคนิค Red & Gold Lights แสงสีแดงและสีทอง ตัวแทนความมั่งคั่งและโชคดี

 

5. วัดมิ่งเมือง

วัดมิ่งเมือง ชาวเชียงรายเรียก วัดจ๊างมูบ (ช้างหมอบ) หรือ วัดตะละแม่ศรีตามชื่อผู้สร้าง เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเชียงรายมีสถาปัตยกรรมผสมระหว่างพม่าและล้านนาวิจิตรงดงามทั้งภายในและภายนอก จัดแสดงภายใต้แนวคิด Multi Culture Multi-Colors หนึ่งศรัทธา มากศิลป์ ใช้เทคนิคแสง Led Par Light เลือกใช้คู่สีแสงที่มีความต่อเนื่องและขัดแย้งกันเพื่อขับเน้นศิลปกรรมที่ผสมผสานแปลกตา

 

6. ตึกสามเหลี่ยม

ตึก 3 ชั้นทรงแปลกตา ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาคารแนวโมเดิร์นของธนาคารแห่งหนึ่งของเมืองเชียงรายในยุค 80s จัดแสดงภายใต้แนวคิด Neon Era ใช้เทคนิคแสง Led Neo Light ไฟนีออนที่ไม่ใช่สิ่งส่องสว่าง แต่ได้รับการใช้งานและจัดวางเป็นงานศิลปะและเป็นเอกลักษณ์ที่สําคัญหนึ่งของยุคสมัย

 

7. แมงสี่หูห้าตา

แมงสี่หูห้าตา เป็นชื่อสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งในตํานานว่าด้วยวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว มีลักษณะเหมือนหมีสีดําตัวอ้วน มีหูสองคู่และตาห้าดวง รับประทานถ่านไฟร้อนเป็นอาหารและถ่ายมูลเป็นทองคํา แมงสี่หูห้าตา ยังเคยได้รับการคัดเลือกให้เป็นมาสคอต กีฬาแห่งชาติครั้งที่ 36 “เจียงฮายเกมส์” อีกด้วย จัดแสดงภายใต้แนวคิด Fire Monster ใช้เทคนิคแสง Lantern Installation หุ่นโคมไฟแมงสี่หูห้าตา ขนาดใหญ่ ในท่ากําลังปีนต้นก้ามปูยักษ์หน้าอาคารเทิดพระเกียรติ ที่มาพร้อมกับเสียงแมลงกลางคืน + เสียงสะล้อ

 

8. วัดพระแก้ว

วัดพระแก้ว: ตั้งอยู่บนถนนไตรรัตน์ ใจกลางเมืองเชียงราย เป็นสถานที่แรกที่ได้ค้นพบพระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 1897 ในสมัย พระเจ้าสามฝั่งแกน เป็นเจ้าครองเมืองเชียงใหม่ ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้ พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์ ต่อมาจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวที่สร้างด้วยหยก ซึ่งก็คือพระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบันวัดพระแก้วเชียงราย ได้สร้างและประดิษฐานพระหยก ซึ่งสร้างขึ้นมาใหม่ จัดแสดงภายใต้แนวคิด Jade Begins กำเนิดแสงมรกต ใช้เทคนิคแสง Green Light & Laser ติดตั้งเครื่องยิงเลเซอร์วาดภาพพระแก้วมรกตประกอบไฟแสงสีเขียวย้อนรําลึกถึงการค้นพบพระแก้วมรกตเป็นแห่งแรก

 

9. ศาลากลางจังหวัด (เก่า)

9. ศาลากลางจังหวัด (เก่า): ศาลากลางจังหวัดเชียงรายแห่งนี้ เป็นสถาปัตยกรรมที่มีอายุกว่า 120 ปี เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ช่วยอธิบายความเป็นมาเป็นไปของสังคมเชียงรายสมัยนั้นได้ดียิ่ง เปิดดำเนินการเมื่อ ปี พ.ศ. 2443 ในสมัยของพระพลอาษาเป็นข้าหลวงเมืองเชียงราย ดำเนินการออกแบบและก่อสร้างโดยนาย แพทย์วิลเลี่ยม เอ.บริกส์ (Dr.William A. Briggs) แพทย์ชาว อเมริกัน ปัจจุบันอาคารศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังเก่า ได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานของกรมศิลปากรตามประกาศราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2520 ยุติบทบาทในการเป็นอาคารศูนย์กลางการปกครองหัวเมืองเชียงรายมานานกว่า 1 ศตวรรษ จัดแสดงภายใต้แนวคิด Wiang of Light Wiang of Life อาคารที่สัมพันธ์กับชาวเชียงราย ดูแล พัฒนา และเฝ้ามองการเติบโตและเปลี่ยนแปลงของเมืองจากอดีตสู่ปัจจุบัน ใช้เทคนิคแสง Projection 3D Mapping ใน 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1: Concept Motion Chiang Rai, Wiang of Light เล่าถึงที่มาของแนวคิดของการจัดงาน นําเสนอเส้นทางการชมทั้ง 15 จุดแสงในเมือง และเรื่องที่ 2 : Content Motion Chiang Rai, Wiang of Life นําเสนอของดีของเด่น ของจังหวัดเชียงราย อาทิอาหาร วัดธรรมชาติศิลปะ กลุ่มชาติพันธ์ุชา-กาแฟ ผลไม้ ด้วยกราฟฟิกสนุกชวนดู

 

10. บ้านสิงหไคล

บ้านสิงหไคล เป็นอาคารโบราณอายุ 103 ปี ออกแบบโดยนายแพทย์วิลเลียม เอ.บริกส์ปัจจุบันบ้านสิงหไคลฯ ได้รับการบูรณะ และปรับเปลี่ยนเป็นที่ทำการมูลนิธิมดชนะภัย โดยมีเป้าหมายในการเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านสถาปัตยกรรมและเรื่องราวของภัยพิบัติในจังหวัดเชียงราย รวมทั้งเป็นจุดเชื่อมต่อไปสู่เรื่องราวทางศิลปะและเป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรมทางด้านสังคมและศิลปวัฒนธรรมให้กับประชาชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเชียงรายเมืองศิลปะ โดยบริเวณชั้น 2 ได้เปิดเป็นแกลเลอรี่แสดงผลงานศิลปะ และบริเวณชั้นล่างเป็นร้านกาแฟ จัดแสดงภายใต้แนวคิด Shape of House ถ่ายทอดความงดงามของบ้านด้วยแสง ใช้เทคนิคแสง Tiny Light Bulbs Par Light ใช้แสงอาบฉาบผิวบ้านด้านนอก และใช้แสงส่องออกมาจากภายในตัวบ้าน ผ่านช่องหน้าต่าง เพื่ออวดสัดส่วนการออกแบบบ้านอันสวยงาม และตกแต่งรอบบ้านด้วยไฟเม็ดถั่ว

 

11. หอประวัติเมืองเชียงราย

หอประวัติเมืองเชียงราย เป็นส่วนหนึ่งภายในศูนย์วัฒนธรรมนิทัศน์และพิพิธภัณฑ์เมืองเชียงราย 750 ปี โดยปรับปรุงอาคารหอประชุมเม็งรายอนุสรณ์เดิม เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านภูมิหลังของท้องถิ่น พัฒนาการทางสังคม ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี ในส่วนของการจัดแสดงนิทรรศการ ภายใน ได้จัดแสดงเนื้อหานับตั้งแต่ยุคสมัยก่อน ประวัติศาสตร์ ยุคของการสร้างบ้านเมือง การเปลี่ยนแปลง จนกระทั่งเป็นเมืองเชียงรายในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังจัดแสดงเรื่องราว วิถีชีวิต ภูมิปัญญา การเมืองการปกครองและ เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันน่าภูมิใจของคนเชียงราย จัดแสดงภายใต้แนวคิด Night Museum ขยายเวลาเปิดดําเนินการภาคกลางคืนสําหรับนักท่องเที่ยวในช่วงงาน ใช้เทคนิคแสง Colorful of Par Light ตกแต่งแสงอาคารด้านนอกด้วยไฟหลากสีเพื่อเชื้อเชิญให้เข้าชมนิทรรศการภายในอาคาร

 

12. ตู้โทรศัพท์

ตู้โทรศัพท์สาธารณะหยอดเหรียญ คืออีกหนึ่งของประวัติศาสตร์การสื่อสารของคนเชียงรายที่เปลี่ยนผ่านไปอย่างไม่มีวันหวนคืน จัดวางไว้ยังหน้าบ้านพักข้าราชการคลัง ริมถนนอันเงียบเหงา จัดแสดงภายใต้แนวคิด Silent Call ใช้เทคนิคแสง Light Inside Box-Phone ติดตั้งแสงภายในตู้โทรศัพท์คืนชีวิตด้วยสีสันตื่นเต้นชวนมอง พร้อมเสียงโทรศัพท์ประกอบดนตรี

 

13. ต้นไม้ใหญ่

อุโมงค์ต้นจามจุรี หรือต้นฉำฉาหรือต้นก้ามปูขนาดใหญ่ บริเวณถนนสิงหไคล นับสิบต้นที่อยู่สองฝั่งถนน แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุม สร้างความร่มรื่นไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังเป็นต้นไม้ที่ทางเทศบาลนครเชียงรายอนุรักษ์ไว้เพราะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่คาดว่ามีอายุนับร้อยปี เป็นสัญลักษณ์ของการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว ควบคู่กับประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย จัดแสดงภายใต้แนวคิด Eco Friendly เลือกใช้กลุ่มต้นไม้ใหญ่บริเวณริมถนนสิงหไคล เป็นตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า การรักษาระบบนิเวศ และความยั่งยืนร่วมกันของคนเชียงรายกับป่าไม้ ใช้เทคนิคแสง Light Down From Tree ติดตั้ง Mirror Ball บนยอดไม้แล้วยิงแสงกระทบใส่สร้างซีนแสงแปลกตา

 

14. สวนตุงและโคม

สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ 75 พรรษา เดิมคือพื้นที่เรือนจําโบราณ ต้ังอยู่ใจกลางย่านการค้าเทศบาลนครเชียงราย มีอายุเก่าแก่มากว่า 100 ปี ต่อมามีโครงการย้ายเรือนจําออกไป และปรับพื้นที่จนกลายเป็นลานสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางนครเชียงราย โดยสวนบางส่วนถูกปรับให้เป็นสวนหย่อม นอกจากนี้ด้านในยังมีเรือนจําหญิงที่ถูกปรับให้เป็นอาคารแสดงศิลปะการแต่งกายชนเผ่า 30 ชนเผ่า ด้านข้างอาคารมีตุงเฉลิมพระเกียรติ ความสูง 36 เมตร กรอบตุงมีลวดลายสัญลักษณ์ปีนักษัตร โดยช่างฝีมือของท้องถิ่น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองล้านนาร่วมสมัย จัดแสดงภายใต้แนวคิด Wiang Flower ดอกพวงแสด ดอกไม้ประจําจังหวัดเชียงราย ใช้เทคนิคแสง Light Installation ประติมากรรมดอกพวงแสดส่องแสงประกอบฉากแสงสีส้ม

 

15. คริสตจักรที่ 1 เวียงเชียงราย

โบสถ์คริสตจักรที่ 1 เวียงเชียงราย ได้รับสถาปนาเป็นคริสตจักร เมื่อวันที่ 13 เมษายน ค.ศ.1890 โดยยังไม่มีอาคารพระวิหาร ต่อมาในปี ค.ศ. 1910 – 1911 นายแพทย์วิลเลี่ยม เอ บริกส์ จึงรวบรวมเงินจากผู้ศรัทธา เพื่อซื้อที่ดินสร้างอาคารพระวิหาร โดยต้ังอยู่บริเวณประตูเมืองเชียงราย ที่เรียกว่า “ประตูสลี” ซึ่งเป็นที่ตั้งคริสตจักรในปัจจุบัน โบสถ์หลังนี้ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อสิ้นสุดมหาสงครามเอเชียบูรพา (สงครามโลกครั้งที่ 2) ราวปี ค.ศ. 1946 หลังชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากถูกยึดใช้เป็นส่วนหนึ่งของเขตทหารที่มาตั้งมั่นอยู่ในเมืองเชียงราย เมื่อเสร็จสงครามเหล่าคริสเตียนจึงยินดีที่ได้กลับมาใช้โบสถ์นี้เป็นที่นมัสการอีกครั้ง จัดแสดงภายใต้แนวคิด In Light of Faith ด้วยแสงแห่งศรัทธาของคริสตศาสนิกชนเวียงเชียงราย ใช้เทคนิคแสง Light VS Shadow การต่อสู้กันระหว่างแสงและเงา

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรม Highlight ซึ่งจะมีการจัดแสดงทุกวันศุกร์-อาทิตย์ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย (หลังเก่า) อาทิ การจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น การแสดงดนตรี การออกร้าน            จากผู้ประกอบการในพื้นที่ รวมทั้งการมอบสิทธิพิเศษส่วนลดจากร้านค้ามากมาย อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่      ที่เข้าร่วมในโครงการฯ รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท ผ่านช่องทาง Facebook Fanpage: GoNorthThailand  โดยผู้ที่สนใจสมารถเดินชมงานในลักษณะ Walking Tour หรือจะ ใช้บริการรถรางนำเที่ยวที่ให้บริการฟรีตลอดงาน หรือพาหนะท้องถิ่นอย่างสามล้อเชียงรายโดยคิดค่าบริการตามระยะทาง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE