Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

จ.เชียงราย เตรียมพิธีการจัดทำ น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เฉลิมพระเกียรติ

 

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2567  ณ ห้องจอมกิตติ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ  จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย  เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดเชียงราย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยการจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ประกอบด้วย พิธีพลีกรรมตักน้ำ พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และพิธีสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์

 

          โดยในที่ประชุม ได้วางแผนและหารือร่วมกันถึงการเตรียมความพร้อมการจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และได้มอบหมายภารกิจให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละด้าน เพื่อให้การจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดเชียงราย เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ ซึ่งจังหวัดเชียงราย ได้กำหนดการจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ตามโบราณราชประเพณีไทย ดังนี้ 

 

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2567  ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ บ่อน้ำทิพย์ วัดพระธาตุดอยตุง (วัดน้อยดอยตุง) ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2567  พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว พระอารามหลวง อำเภอเมืองเชียงราย และในวันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2567 พิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว พระอารามหลวง อำเภอเมืองเมืองเชียงราย  ต่อจากนั้น วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2567 คนเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เดินทางไปเก็บรักษาที่กระทรวงมหาดไทย  วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2567 ขบวนเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จากกระทรวงมหาดไทยไปวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อจัดพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์  และในวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 ขบวนเชิญพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากวัดพระเชตุพนฯ ไปยังพระทีนั่งอมรินทรวินิจฉัย

 

           สำหรับบ่อน้ำทิพย์ของจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุดอยตุง หรือ วัดน้อยดอยตุง ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ลักษณะเป็นบ่อน้ำก่ออิฐถือปูนรูปวงกลม ก่ออิฐเรียงเป็นผนังเพื่อกันดินทลาย ปากบ่อก่อด้วยอิฐมอญสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง ตามตำนานกล่าวว่า เป็นบ่อน้ำธรรมชาติ มีลักษณะพิเศษคือใสบริสุทธิ์และมีน้ำตลอดทั้งปี พุทธศาสนิกชนจังหวัดเชียงราย ใช้สรงพระบรมธาตุดอยตุง ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 หรือ เดือน 6 (เหนือ) เป็นประจำทุกปี บ่อน้ำทิพย์แห่งนี้ มีความอัศจรรย์ คือ ตั้งอยู่บนดอยสูง ถึงแม้จะมีภัยธรรมชาติฝนแล้งแค่ไหน น้ำในบ่อก็ไม่เคยแห้ง มีน้ำมีตลอดทั้งปี ใสและเย็นอยู่เสมอ

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

วัฒนธรรมเชียงราย เตรียมจัดกิจกรรมสมโภชพระปางประทานพร ต.สันทราย

 

เมื่อวัน 6 มิถุนายน 2567 มีการประชุมปรึกษาหารือในการจัดกิจกรรมสมโภชพระปางประทานพร เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระชนมายุครบ 80 พรรษา ประจำปี 2567

 

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ สุ่มมาตย์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และ นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมการประชุมปรึกษาหารือในการจัดกิจกรรมสมโภชพระปางประทานพร เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระชนมายุครบ 80 พรรษา ประจำปี 2567 ในวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ณ วัดป่ากล้วย หมู่ที่ 6 ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

เทศบาลตำบลสันทราย ร่วมกับ คณะสงฆ์ตำบลสันทราย และสภาวัฒนธรรมตำบลสันทราย จะดำเนินการจัดกิจกรรมสมโภชพระปางประทานพร เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระชนมายุครบ 80 พรรษา ประจำปี 2567 ในวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2567 ณ วัดป่ากล้วย ตำบลสันทราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมอันดีงามให้ลูกหลานได้ทราบและเห็นความสำคัญของพระปางประทานพรที่ทำตากไม้ตะเคียนอายุ 700 กว่าปี

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

การยาสูบฯ ให้เช่าที่ดิน 75 ไร่ ใกล้ด่าน อ.แม่สาย เชียงราย 30 ปี

 
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมาการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดประมูลให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ระยะยาวสูงสุด 30 ปี จำนวน 3 โครงการ ในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดเชียงราย จัดประชุมทดสอบความสนใจของนักลงทุน (Market Sounding) ในวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ยสท. เปิดประมูลให้เช่าที่ดินระยะยาว 30 ปี โดยได้คัดเลือกที่ดินย่านธุรกิจ 
 
 
โครงการที่ 1 ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 10 ติดสวนป่าเบญจกิติ ขนาดพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ 2 งานเศษ
 

โครงการที่ 2 พื้นที่บางส่วนของสำนักงานใหญ่ การยาสูบแห่งประเทศไทย ถนนพระราม 4 คลองเตย กรุงเทพฯ ขนาดพื้นที่ประมาณ 9 ไร่เศษ ให้เช่าที่ดินเปล่าพร้อมอาคารนันทนาการ (คอร์ทแบดมินตัน) และสนามเทนนิส

 

โครงการที่ 3 ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจจังหวัดเชียงราย ให้เช่าที่ดินเปล่าแปลงขนาดใหญ่เนื้อที่ประมาณ 75 ไร่เศษ ริมถนนพหลโยธิน ใกล้ด่านการค้าชายแดนแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่ง “แปลงสถานีใบยาเวียงพาน” อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เนื้อที่ประมาณ 75 ไร่เศษ เป็นที่ดินแปลงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใกล้ด่านการค้าชายแดนเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย มีศักยภาพสูงเหมาะสำหรับพัฒนาโครงการรูปแบบพาณิชยกรรม หรือที่พักอาศัยรองรับพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

 

ขอเชิญนักลงทุนผู้สนใจร่วมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 โครงการ เข้าร่วมกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นของนักลงทุน (Market Sounding) จัดโดย การยาสูบแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท ออทรานส์ จำกัด ที่ปรึกษาโครงการฯ ในวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 – 12.00 น. ณ ห้องเพลินจิต ชั้น F โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยท์ เพลินจิต ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

 

สนใจเข้าร่วมกิจกรรม Market Sounding ติดต่อ คุณชานน กิติโสภากุล บริษัท ออทรานส์ จำกัด โทรศัพท์ 085-944-6055 ภายในวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ติดตามข่าวสารการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ของการยาสูบแห่งประเทศไทย ได้ที่ www.thaitobacco.or.th

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : การยาสูบแห่งประเทศไทย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซ็นทรัลพัฒนา จับมือกรมป่าไม้ปลูกต้นไม้ป่าสงวนแห่งชาติ อ.เชียงของ

 
เมื่อวันพุธที่ 5 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนา ร่วมกับ กรมป่าไม้ จัดกิจกรรมปลูกป่า “One million trees movement” เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับคาร์บอน ลงพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดอยหลวง ป่าน้ำยาว และป่าน้ำซ้อ ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ปลูกต้นไม้ จำนวน 200 ไร่ 40,000 ต้น พร้อมมอบหลอดไฟ ฟลูออเรสเซนต์ จำนวน 50 หลอด ให้กับโรงเรียนบ้านเวียงหมอก ณ บริเวณพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดอยหลวง ป่าน้ำยาว และป่าน้ำซ้อ ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย  มอบพื้นที่สีเขียวให้กระจายทั่วประเทศ
 

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย นำโดยคุณสายัณห์ นักบุญ พร้อมด้วยคณะทำงาน CSR สำนักงานใหญ่, สาขา และกลุ่มจิตอาสา ประจำศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ร่วมจัดกิจกรรมสานต่อโครงการปลูกป่า “One million tress movement” ปลูกป่าซับคาร์บอนตามโครงการ The Journey to NetZero เพิ่มพื้นที่ดูดซับคาร์บอนตามเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ และมอบพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ  สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Imagining better futures for all โดยได้รับเกียรติจากคุณจีระ ทรงพุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยคุณธิดานันท์ สรินา ปลัดอำเภอเชียงราย กล่าวต้อนรับ,คุณสุรินทร์ วงค์อิ่นแก้ว  นายกเทศมนตรีตำบลห้วยซ้อ, คุณไสว ปัญญาสุข รองนายเทศมนตรีตำบลห้วยซ้อ, คุณเฉลิม เงินสม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเวียงหมอก และคุณวราวุฒิ ไชยวงค์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ร่วมงาน

 

เซ็นทรัลพัฒนา เชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนโครงการ ‘One Million Trees Movement – ปลูกป่าซับคาร์บอน นั้นจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีของสิ่งแวดล้อมในอนาคต เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งพันธมิตร ชุมชน และคนในองค์กรได้มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูป่าไปด้วยกัน สร้างสมดุลระหว่าง People และ Planet ด้วยการเป็น  Center of Life เพื่อเป้าหมาย Sustainable Ecosystem และ NET ZERO  ภายในปี 2050

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เปิดงาน นครเชียงรายเกมส์ 2567 ระดับภาคเหนือ ครั้งที่ 38

 

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงานการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท้องถิ่นแห่งประเทศไทย รอบคัดเลือก ระดับภาคเหนือ ครั้งที่ 38 “นครเชียงรายเกมส์” 2567 โดยมีนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ว่าที่ร้อยตรีศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางรัตนา จงสุทธานามณี ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย นำหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เจ้าหน้าที่ ผู้ควบคุมทีม และคณะนักกีฬาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จาก 17 จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมอย่างคึกคัก

 

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่าการจัดการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในครั้งนี้ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นให้เทศบาลนครเชียงรายเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยใช้ชื่อว่า “นครเชียงรายเกมส์” เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เด็ก นักเรียน ในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีส่วนร่วมในการเล่นกีฬา เพื่อการออกกำลังกายเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี มีระเบียบวินัย มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ควบคู่กับวิชาการ เพิ่มพูนทักษะกีฬาขั้นพื้นฐาน พัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศ และมุ่งสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพในระดับสากล ภายใต้หลักการที่ว่า “กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ” ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างสุขภาพพลานามัยของคนไทย ให้สมบูรณ์แข็งแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ โดยใช้กีฬาและการออกกำลังกาย 

 

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าการแข่งขันกีฬาเป็นเครื่องมือที่สำคัญ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนเมื่อได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้ได้รับการเรียนรู้ ควบคู่กับการพัฒนาความสามารถ ใช้กีฬาฝึกฝนให้เป็นผู้มีจิตใจ อดทน เข้มแข็ง กล้าแสดงออก ซึ่งจะส่งผลให้เด็กและเยาวชน เป็นผู้ที่มีความพร้อมทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ จิตใจ สังคม รู้ห่างไกลยาเสพติด และกล่าวต่อไปว่า เมื่อแพ้ก็ต้องหมั่นฝึกฝน เมื่อชนะก็อย่าทะนงตน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการรู้จักการให้อภัยซึ่งกันและกัน รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ซึ่งสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง และก้าวไปสู่การเป็นพลเมืองไทยที่มีสุขภาพใจที่เข้มแข็ง อีกทั้งการพัฒนาคนเป็นเป้าหมายที่สำคัญของประเทศชาติในปัจจุบัน ที่ทำให้ประเทศไทยก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายมั่นคงยั่งยืน และก้าวไกลไปในอนาคต พร้อมกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความสำคัญ ร่วมแรงร่วมใจกัน ในการจัดการแข่งขันกีฬาฯ ในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

 

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ให้การสนับสนุน เพื่อแสดงความขอบคุณในการส่งเสริมการกีฬาให้กับนักเรียนเยาวชน นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดงจากน้อง ๆ จากโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย รวมถึงขบวนพาเหรดจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จาก 17 จังหวัดภาคเหนือ

 

ทั้งนี้การแข่งขันกีฬา “นครเชียงรายเกมส์” จัดระหว่างวันที่ 4-13 มิถุนายน 2567  รวมทั้งสิ้น 10วัน โดยมีจังหวัดในเขตภาคเหนือเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 17 จังหวัด รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่งนักกีฬาเข้าร่วมจำนวน 80 แห่ง มีการแข่งขันจำนวน 11 ชนิดกีฬา ได้แก่ประเภทชายและหญิง ประกอบด้วย กรีฑา ฟุตบอล ฟุตซอล วอลเลย์บอล วอลเลย์บอลชายหาด เซปักตะกร้อ เปตอง/เปตองชู้ตติ้ง แบดมินตัน เทเบิลเทนนิส หมากฮอส และ หมากรุก สามารถร่วมชมและเชียร์ให้กำลังใจแก่นักกีฬาตลอดการแข่งขัน ตลอดจนติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทางเว็บไซต์ www.north.sport-th.com หรือ ทางเพจเฟซบุ๊ค “นครเชียงรายเกมส์ ครั้งที่ 38” 

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ถนน 48 กม. ชมวิวสะพานหนองหลวง สายเชียงราย – อ.ขุนตาล เชื่อม ลาว-จีน

 
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567 เพจรมทางหลวง โพสต์แจ้งเปิดวิ่ง! ถนนตัดใหม่ ทล.1421 สายเชียงราย – อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ระยะทาง 48 กิโลเมตร เพิ่มประสิทธิภาพคมนาคมขนส่งเดินทางไทย – ลาว – จีน พร้อมจุดชมวิวสะพานข้ามหนองหลวง
 

ความนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยถึง การดำเนินการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงแนวใหม่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อรองรับการคมนาคมและการขนส่งระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งขณะนี้กรมทางหลวงได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 1421 สายเชียงราย – อ.ขุนตาล แล้วเสร็จตลอดสาย ระยะทาง 48.19 กิโลเมตร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

 

กรมทางหลวง โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 1 ได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 1421 สายเชียงราย – อ.ขุนตาล มีระยะทางทั้งหมด 48.19 กิโลเมตร โดยที่ผ่านมากรมทางหลวงได้ก่อสร้างแล้วเสร็จรวมระยะทาง 29.19 กิโลเมตร และเปิดให้บริการแก่ประชาชนไปแล้ว ยังคงเหลือ ตอน บ.หัวดอย – บ.ใหม่มงคล เป็นช่วงสุดท้าย มีจุดเริ่มต้นที่ กม.0+000 ของทางหลวงหมายเลข 1152 บริเวณบ้านหัวดอย ตำบลท่าสาย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และสิ้นสุดที่ กม.19+000 บ.ผางาม ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย รวมระยะทาง 19 กิโลเมตร 
 
 
มีลักษณะการก่อสร้างเป็นแนวทางตัดใหม่และตามแนวทางหลวงหมายเลข 1152 เดิมมีขนาด 2 ช่องจราจร (ไป – กลับ) เป็นแบบมาตรฐานทางชั้นพิเศษ ขนาด 4 ช่องจราจร (ไป – กลับ) ช่องจราจรกว้าง 3.50 เมตร ผิวจราจรและไหล่ทางแบบแอสฟัลต์คอนกรีต แบ่งทิศทางการจราจรแบบเกาะร่องและเกาะกลางแบบยก พร้อมทั้งก่อสร้างสะพานข้ามหนองหลวง จำนวน 2 แห่ง ขนาดความยาว 870 เมตร ความกว้าง 11 เมตร และทางเท้ามีความกว้าง 2.75 เมตร ตลอดแนว ทั้งสองฝั่ง นับเป็นสะพานที่ยาวที่สุดของภาคเหนือที่มีการออกแบบและก่อสร้างจุดจอดรถบริเวณด้านล่างสะพาน พร้อมทางเดินไปจุดเชื่อมต่อขึ้นบันไดไปบนสะพานเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน สามารถเดิน – วิ่งออกกำลังกาย หรือปั่นจักรยาน อีกทั้งเป็นจุดชมทัศนียภาพของนักท่องเที่ยวสร้างมูลค่าต่อท้องถิ่นอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ทางโครงการฯ ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายจราจร ป้ายเตือนต่างๆ รวมทั้งไฟฟ้าแสงสว่างตลอดสายทาง วงเงินงบประมาณ 1,088,088,000 บาท
 
 
ปัจจุบันโครงการได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดใช้บริการให้แก่ประชาชนตลอดสายทางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมและการขนส่งในภาคเหนือ ลดระยะเวลาในการเดินทาง สนับสนุนการพัฒนาพื้นที่การค้าการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งระหว่างจังหวัดเชียงราย – สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 สู่ประเทศเพื่อนบ้าน (R3A) ไทย – สปป.ลาว – สาธารณรัฐประชาชนจีน (คุณหมิง) และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมทางหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE SOCIETY & POLITICS

ฉลองตราตั้งวิหารพระเจ้าแสนแซ่พระธาตุ วัดปงสนุก อ.เทิง

 

เมื่อวันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 น. นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส งานฉลองตราตั้ง พระครูวิศาลศุภกิจ เจ้าคณะตำบล ชั้นเอก และพระฐานานุกรมวัดปงสนุก และงานฉลองวิหารพระเจ้าแสนแซ่ พระธาตุ วัดปงสนุก ต.ปล้อง อ.เทิง ในการนี้ นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย นายเกรียงศักดิ์ วันไชยธนวงศ์ รองนายก อบจ.เชียงราย นายกฤษฎา ชัยยา ปลัดอาวุโสอำเภอเทิง ส.อบจ.อ.เทิง และคณะผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ต.ปล้อง อ.เทิง ซึ่งในพิธีได้รับเกียรติจาก พระเดชพระคุณเจ้าคุณพระรัตนมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ณ วัดปงสนุก ต.ปล้อง อ.เทิง จ.เชียงราย

 

วโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ และทรงโปรดพระราชทานถวายสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พิจารณาเลื่อนชั้นพระสังฆาฏิการแก่คณะสงฆ์การนี้ พระครูวิศาล ศุภกิจ เจ้าอาวาสวัดปงสนุก เจ้าคณะ ต.ปล้อง เขต 1 ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะตำบลชั้นเอก และพระฐานานุกรม จำนวน 3 รูป และจะได้ทำการฉลองสมโภช ในการนี้ นายก นก นายก อบจ.เชียงราย ได้อ่านตราตั้ง พระฐานานุกรม พระครูปลัดอนันต์ อานนุทเมซี และถวายสักการะแด่ พระฐานานุกรม ด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

พระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าวปทุมธานี 1 ช่วยภัยแล้งในพื้นที่อำเภอเชียงของ

 

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 67 เวลา 09.30 น. ที่หอประชุมเทศบาลตําบลห้วยซ้อ อําเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์นายกกิตติมศักดิ์ และองค์ประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา พระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าวปทุมธานี 1 ของมูลนิธิชัยพัฒนา แก่เกษตรกรและกลุ่มเกษตรนาแปลงใหญ่ โดยมีนายดนุชา สินธวานนท์ กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานในพิธี โดยมี นายอุดม ปกป้องบวรกุล นายอำเภอเชียงของ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สภาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ 3 ตำบล ร่วมให้การต้อนรับ

 

สำหรับ ฤดูการผลิตที่ผ่านมาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ 29 หมู่บ้าน ของตําบลครึ่ง ตําบลห้วยซ้อ และตําบลสถาน อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ประสบกับวิกฤติภัยแล้งจนทำให้มีพื้นที่ปลูกข้าวได้รับความเสียหายจำนวน 8,869 ไร่ ในวันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงได้พระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าวปทุมธานี 1 จํานวน 133,035 กิโลกรัม แก่เกษตรกรและกลุ่มเกษตรนาแปลงใหญ่ ที่ประสบความเดือดร้อนจํานวน 549 ราย โดยกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพราะเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานที่ได้รับ ทำให้เกษตรกรมีเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี นําไปเพาะปลูกไว้บริโภคและจําหน่ายสร้างรายได้ในครัวเรือน อันจะเป็นการพื้นฟูคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้สามารถก้าวเดินต่อไปในฤดูกาลใหม่ที่กําลังจะมาถึง ด้วยเมล็ดพันธุ์อันเป็นมงคลยิ่ง
 
 
ทั้้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีรับสั่งให้มูลนิธิชัยพัฒนาดําเนินการผลิตพันธุ์ข้าว เพื่อสํารองไว้เป็นพันธุ์ข้าวพระราชทานแก่ราษฎรที่ประสบภัยพิบัติ มูลนิธิชัยพัฒนาจึงมอบหมายให้ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดเชียงราย เป็นผู้ด้าเนินงานผลิตพันธุ์ข้าวปทุมธานี 1 ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีเกษตรกรในตําบลเกาะช้าง อําเกอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เข้าร่วมในโครงการผลิตพันธุ์ข้าวพระราชทาน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ปศุสัตว์ อ.พาน ส่งมอบโคเพศเมียที่มีอายุครบ 18 เดือน เพื่อเกษตรกร

 
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 “สำนักงานปศุสัตว์อำเภอพาน ส่งมอบโคเพศเมีย ที่มีอายุครบ 18 เดือน โครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ (ธ.ค.ก.)แก่เกษตรกรในพื้นที่อำเภอพาน” นายธีรยุทธ ภูพิพัฒน์ ปศุสัตว์อำเภอพาน มอบหมายให้นางสาววทันยา ธนวิโรจน์กุล นายสัตวแพทย์ชำนาญการ นายสมเกียรติ จอมแก้ว และนายจาตุรงค์ คำปันติ๊บ เจ้าพนักงานสัตวบาล ดำเนินการตรวจสุขภาพลูกโคเพศเมีย ตัวที่ 1 ที่อายุครบ 18 เดือน ของโครงการธนาคารโค-กระบือ 
 
 
เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงโคเนื้อโดยวิธีผสมเทียมตำบลดอยงาม อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย จำนวน 1 ตัว และส่งมอบโคดังกล่าว ให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อวิธีผสมเทียมตำบลเจริญเมือง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เกษตรกรผู้รับสัตว์จำนวน 1 ราย ตามระเบียบของโครงการธนาคารโค-กระบือฯ ในการส่งคืนลูกตัวที่ 1 พร้อมทั้งประชุมกลุ่มเกษตรกรเพื่อให้คำแนะนำในการเลี้ยงสัตว์และการป้องกันโรคระบาดที่สำคัญ โดยในการส่งมอบสัตว์ครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรเป็นอย่างดี
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
ECONOMY

‘เมียนมา’ ชอปคอนโดไทยพุ่ง 333% คนไทยซื้อบ้านหลังแรกกู้แบงก์ไม่ผ่าน

 

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567กำลังซื้อคนไทยกลาง-ล่างฟื้นยาก กำลังซื้อบ้านหลังแรกหด ติดกู้แบงก์ไม่ผ่าน อสังหาฯหันพึ่งต่างชาติ ดันยอดขายคอนโดหนุน ‘เมียนมา’ ชอปพุ่ง 333%

 

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทยและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันอนันดามีลูกค้ากู้แบงก์ไม่ผ่านเพียง 10% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มราคาต่ำ 3 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาได้ปรับพอร์ตฟาลิโอไปเจาะตลาดต่างชาติที่จะซื้อสด ไม่กู้แบงก์ ทำให้มีการยกเลิกเพียง 2-3% โดยไตรมาสแรกมียอดขายตางชาติ 2,000 ล้านบาท เติบโต 10% กำลังซื้อหลักยังเป็นจีน พม่า ไต้หวัน
 
 
นายประเสริฐกล่าวว่า ตอนนี้กำลังซื้อคนไทยกลาง-ล่างฟื้นยาก ขณะที่กำลังซื้อบ้านหลังแรกก็ไม่มีแล้ว ติดกู้แบงก์ไม่ผ่าน ต้องพึ่งกำลังซื้อต่างชาติ ซึ่งตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพและปริมณฑลในไตรมาสแรกติดลบ 14% แต่พบว่าตลาดต่างชาติมียอดโอน 11,363 ล้านบาท เติบโต 10% จีนลดลง 8% เมียนมาเพิ่มขึ้น 333% ไต้หวันเพิ่มขึ้น 58% อินเดียเพิ่มขึ้น 34% ขณะที่ตลาดคนไทยมียอดโอน 34,943 ล้านบาท ติดลบ 19%
 
 
“อยากขอให้รัฐขยายโควตาต่างชาติซื้อคอนโดฯจาก 49% เป็น 60% ของพื้นที่โครงการ และในบางพื้นที่ เช่น เมืองท่องเที่ยว กรุงเทพ ภูเก็ต ชลบุรี ซึ่งมาตรการนี้เคยนำมาใช้ปี 2542 ขณะนั้นให้ซื้อได้ 100% และยกเลิกเมื่อปี 2547” นายประเสริฐกล่าว
 

เช่นเดียวกับ พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมอาคารชุดไทย มองว่า กำลังซื้อของต่างชาติที่เข้ามาทำงานหรือต้องการซื้อบ้านหลังที่สองในประเทศไทย จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะธุรกิจอสังหาฯเป็นธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ถือเป็นเครื่องยนต์หนึ่งกระตุ้นจีดีพีของประเทศได้ ดังนั้น อยากให้รัฐขยายโควต้าซื้อคอนโดได้มากกว่า 49% จะเพิ่มดีมานด์ได้อีกมาก รวมถึงขอให้ ธปท.ผ่อนคลาย LTV ให้ในปี 2567-2568 เพื่อกระตุ้นการซื้อบ้านหลังที่ 2 และหลังที่ 3 เพื่อลดซัพพลายที่คงค้างในตลาด

“พีระพงศ์” กล่าวว่า ปัจจุบันคนซื้อบ้านหลังแรกมีน้อยลงเพราะติดกู้แบงก์ไม่ผ่าน ขณะที่ดีมานด์การซื้อบ้านหลังที่ 2 ยังมีอยู่คิดเป็น 50% ของตลาด แต่แบงก์ให้กู้แค่ 70-80% และการซื้อเก็งกำไรที่ ธปท.กังวล ตอนนี้ไม่มีแล้ว ส่วนใหญ่ซื้อเพราะครอบครัวขยาย ต้องการบ้านใกล้ที่ทำงาน โรงเรียนลูกนอกจากนี้ ขอให้ ธปท.ทบทวนการปรับลดดอกเบี้ยในส่วนของภาคครัวเรือนลงอีก เช่น ดอกเบี้ยบ้าน จะทำให้คนมีภาระผ่อนบ้านน้อยลงและเข้าถึงสินเชื่อได้ และจากสถานการณ์ต่างๆ ทำให้ปี 2567 บริษัทรีวิวแผนลงทุนใหม่ จากเดิมจะเปิดพรีเซล 48,000 ล้านบาท เหลือ 40,000 ล้านบาท เป็นแนวราบ 10 โครงการและคอนโด 12 โครงการ

 

ในส่วนของธุรกิจรับสร้างบ้าน วรวุฒิ กาญจนกูล ประธานบริหาร บริษัท ดับบลิวเฮ้าส์ จำกัด ยอมรับว่า ไตรมาสแรก ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท หดตัวประมาณ 30% ผลจากแบงก์ยังเข้มงวดการปล่อยกู้ เช่น ยื่นกู้100 คน ผ่านแค่ 50% ขณะที่ภาวะเศรฐกิจโดยรวมยังไม่ดี ทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจ ชะลอการตัดสินใจที่จะสร้างบ้าน แต่มีตลาดระดับ 10-20 ล้านบาท มาชดเชยกำลังซื้อกลุ่มต่ำ 5 ล้านบาท ที่หายไป จึงทำให้ภาพรวมของตลาดทรงตัว เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีก่อน ไม่ถึงกับแย่กว่าปีที่แล้ว

“แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันมองว่ามันน่าจะดีกว่านี้ ดูจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่เริ่มจะดีขึ้นจากการที่ภาครัฐหาแนวทางกระตุ้น ไม่ใช่แค่มาตรการอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมา ยังมีภาคการท่องเที่ยว เพื่อดันให้จีดีพีของประเทศโตมากกว่านี้ทั้งนี้ อยากให้รัฐมีมาตรการกระตุ้นก๊อกสองออกมาสำหรับภาคอสังหาฯรวมถึงรับสร้างบ้านเพิ่มด้วย” วรวุฒิกล่าว

ท่ามกลางกำลังซื้อที่เริ่มเหือดแห้ง และความคาดหวังจากมาตรการรัฐจะมาช่วยบูสต์ตลาดได้มากน้อยขนาดไหนนั้น วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) คาดการณ์ตลาดจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้ หลังกำลังซื้อชะลอตัวต่อเนื่องมาจากไตรมาส 3 ปี 2566 ซึ่งผู้ประกอบการควรจะมีการเตรียมการเพื่อรองรับการฟื้นตัวของตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยลบทั้งมาตรการ LTV และหนี้ครัวเรือน ทำให้แบงก์ยังปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวังมาก จะกลายเป็นปัจจัยรั้งการขยายตัวของตลาดในปี 2567 ได้ แม้จะมีมาตรการกระตุ้นออกมา แต่สุดท้ายถ้าแบงก์ไม่ปล่อยกู้ก็ไม่เกิดผล

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News