Categories
CULTURE

ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วย Soft Power ในมิติทางศาสนา

 
ในวันอาทิตย์ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ ห้องนิทรรศการ ๕ อาคารหอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร กรมการศาสนากระทรวงวัฒนธรรมจัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการการ ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วย Soft Power ในมิติทางศาสนา โดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Facebook LIVEกรมการศาสนา)โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริหารหรือผู้แทนศูนย์ศึกษา พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์และผู้แทนหน่วยเผยแพร่ศีลธรรมทางพระพุทธศาสนาของแต่ละจังหวัดเพื่อให้เกิดการบูรณาการการดำเนินงานด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ผ่านกลไก “พลังบวร” ซึ่งเป็น Soft Power ที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก สร้างความมั่นคงให้แก่ชุมชน ช่วยสนับสนุนให้เด็กเยาวชนและประชาชนใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนาโดยการน้อมนำและปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนทางศาสนาในชีวิตประจำวัน โดยมีกิจกรรมสำคัญ ดังนี้
 
๑. รับชมวีดิทัศน์หน่วยงานภาคีเครือข่ายทางศาสนา
๒. การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ หัวข้อ “การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วย Soft Power ในมิติศาสนา” ดำเนินรายการโดย นายยงจิรายุ อุปเสน ผู้จัดการสำนักส่งเสริมและขับเคลื่อนเครือข่ายทางสังคม ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน ซึ่งมีคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่
๒.๑ พระมหาศรายุทธ อคฺคธมฺโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดศรีสามัคคีธรรม จังหวัดบึงกาฬ
๒.๒ ผู้แทน ศพอ.วัดพระเชตุพน กรุงเทพฯ
๒.๓ รองศาสตราจารย์ นพดล เนตรดี วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
๒.๔ คุณอัจฉรา แสงจันทร์ ชุมชนคุณธรรมวัดพระบรมธาตุ จังหวัดกำแพงเพชร
๓. กิจกรรมระดมความคิด เรื่อง การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วย Soft Power ในมิติทางศาสนา
 

ในโอกาสนี้จังหวัดเชียงรายโดยผู้บริหารและผู้แทนศูนย์พระพุทธ ศาสนาวันอาทิตย์และผู้แทนหน่วยเผยแพร่ศีลธรรมทางพระพุทธศาสนา จำนวน ๒๑ รูป/คน พร้อมด้วยนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นางพัชรนันท์ แก้วจินดา ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม นางสุภัสสร ประภาเลิศ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นางสายรุ้ง สันทะบุตร นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายอภิชาต กันธิยะเขียว นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ นายวรพล จันทร์คง นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ และนางสาวสุทธิดา ตราชื่นต้อง นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ ข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ด้วย Soft Power ในมิติทางศาสนา ในวันอาทิตย์ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๕.๐๐ น. ณ ห้องประชุมเวียงกาหลง ชั้น ๓ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ Facebook LIVE กรมการศาสนา)พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่คณะสงฆ์และผู้นำ ศาสนาที่มาร่วมการประชุมฯ ดังกล่าว
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย ลุยกระจายเครื่องจักร สู่ชุมชน MOU ร่วม 3 พื้นที่ตำบลบ้านดู่

 
วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม 2566 ณ หมู่บ้านออมสิน หมู่ 14 ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายจิราวุฒิ แก้วเขื่อน ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นางทานตะวัน แสนพิช สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เขต 7 อำเภอเมือง พบปะรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนและร่วมบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การสนับสนุนเครื่องจักรกลฯ เพื่อขุดลอก
นำวัชพืชออกจากหนองน้ำสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ตำบลบ้านดู่ และบ้านเหล่าพัฒนา หมู่ที่ 14 ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมี นางพีระพรรณ ศิริกุล รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านดู่ รักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีตำบลบ้านดู่ นายสมชาติ วรรณาคำ กำนันตำบลบ้านดู่ และนายศรีสุข หงส์คำ ผู้ใหญ่บ้านเหล่าพัฒนา หมู่ที่ 14 ร่วมลงนามในครั้งนี้
 
เนื่องจากมีวัชพืชปกคลุมหนาแน่นทำให้การไหลของน้ำไม่สะดวก เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน และเป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำท่วมในฤดูฝน โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ร่วมกับเทศบาลตำบลบ้านดู่ ฝ่ายปกครองตำบลบ้านดู่ และบ้านเหล่าพัฒนา หมู่ที่ 14 ร่วมบูรณาการในการขุดลอกนำวัชพืชออกจากหนองน้ำสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ตำบลบ้านดู่ โดยวิธีการใช้เครื่องจักรกลหนักขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ซึ่งเทศบาลตำบลบ้านดู่ เป็นผู้สนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิง และฝ่ายปกครองตำบลบ้านดู่ ร่วมกับหมู่บ้านเหล่าพัฒนา เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน เพื่อให้การดำเนินการขุดลอกนำวัชพืชออกจากหนองน้ำสาธารณประโยชน์บ้านเหล่าพัฒนา หมู่ที่ 14
สำหรับการพบปะรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนและร่วมบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เป็นโยบายที่สำคัญของ นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อาทิ นโยบายสามพี่น้องท้องถิ่นร่วมใจ ชุมชน และการมีส่วนร่วม นโยบายการพัฒนาแหล่งน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนโยบายกระจายเครื่องจักรและบุคลากรสู่ชุมชน
ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงร่วมบูรณาการพัฒนากับทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

มทบ.37 ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกษตร ส่งคนช่วยคัดแยกดอกไม้

 
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 66 ร.ต. ไพบูลย์ สายหงษ์หน.ชุดประสานงานและคุ้มครองป้องกันชุมชน สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง บ้านธารทอง พร้อมด้วยกำลังพลร่วมกับเจ้าหน้าที่เกษตร และราษฎร สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ บ้านธารทอง ทำการคัดแยกดอกดาวเรือง ดอกเข้าพรรษา และดอกบัวเข็ม ของสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริ บ.ธารทอง ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.ชร. เพื่อส่งจำหน่ายให้กับตลาดดอกไม้ในจังหวัดเชียงราย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SPORT

คับคั่ง! เชียนแสน ปั่นชิลล์ชมวิวริมโขง 3 แผ่นดิน

 
วันนี้(20ส.ค.)ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย นางภัทราวดี สุทธิธนากูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมปั่นท่องเที่ยวเชียงรายริมฝั่งโขง โดยมีนายสัณฐิติ โคละทัต ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงราย และนายคฑาสิทธิ์ เนื่องหล้า นายอำเภอเชียงแสน นำหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรท้องถิ่นผู้นำชุมชน และพี่น้องนักกีฬาเข้าร่วมอย่างคับคั่ง
 
กิจกรรมการปั่นท่องเที่ยวเชียงรายริมฝั่งโขง จัดขึ้นปีที่ 2 เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย และรักษาสุขภาพ เป็นการพัฒนาการจัดกิจกรรมการปั่นจักรยานของจังหวัดเชียงรายสู่มาตรฐานสากลตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬาเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงรายในรูปแบบ Sport Tourism อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการนำกีฬาจักรยานมาเปิดแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์และงดงามของจังหวัดเชียงรายให้เป็นที่รู้จักด้วยสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน
 
การจัดกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญด้านสุขภาพและด้านต่างๆซึ่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชน และประชาชนในพื้นที่ให้ครบทุกมิติ สนับสนุน ส่งเสริมการออกกำลังกายการเล่นกีฬาเพื่อให้เยาวชน และประชาชนเขาด้วยเชียงรายมีสมรรถภาพร่างกายที่ดี มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง และเป็นการผลักดันกีฬาจักรยานไปสู่สากลพร้อมทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายแบบยั่งยืน สอดคล้องกับการเป็นเมืองกีฬาเชียงรายสปอร์ตซิตี้อีกด้วย
 
ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนการจัดกิจกรรมจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเป็นอย่างดี โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมปั่นในครั้งนี้จำนวนทั้งสิ้นกว่า 800 คน จากทั้งภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว และเมียนมา โดยได้แบ่งเส้นทางการจัดกิจกรรมออกเป็น 3 ระยะประกอบไปด้วย ประเภทเอระยะทาง 90 กิโลเมตร ประเภทบีระยะทาง 48 กิโลเมตร และประเภทซี 22 กิโลเมตร โดนทั้ง 3 ระยะ ผู้ที่เข้าร่วมปั่นในครั้งนี้จะมีความเพลินเพลิน ได้ออกกำลังกาย ชมธรรมชาติของอำเภอเชียงแสน 3 เหลี่ยมทองคำ และได้รับความสนุกสนานอีกด้ว
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
BREAKING NEWS

ข่าวเด่นน่าติดตามวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม 2566

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
ECONOMY

“พล.อ.ประยุทธ์”หนุนอุตสาหกรรมไบโอพลาสติกเติบโตก้าวกระโดด

 

วันที่ 19 สิงหาคม 2566 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญและเร่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ หรือ ไบโอพลาสติก ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ภายใต้แนวคิด BCG โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า มุ่งสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ เกิดคามมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน และเป็นไปตามเป้าหมายกรุงเทพฯ คือโมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่กำหนดไว้ในการประชุมเอเปค 2022 


ทั้งนี้  นับตั้งแต่ปี 2561 จนถึงเดือนมิถุนายน 2566คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน ได้ส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตพลาสติกชีวภาพ จำนวน 24 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 37,000 ล้านบาทแล้ว โดยปัจจุบันบีโอไอได้ให้การส่งเสริมการลงทุนผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพรายใหญ่ระดับโลกหลายรายแล้ว อาทิ บริษัท เนเชอร์เวิร์คส์ เอเชียแปซิฟิก จำกัด และบริษัท โททาล คอร์เบียน พีแอลเอ จำกัด ผู้ผลิตพอลิเมอร์ ชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้ ชนิดโพลีแลคติด แอซิค (Polylactic Acid: PLA) บริษัท พีทีที เอ็มซีซี ไบโอเคม จำกัด ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพชนิด PBS (Polybutylene Succinate) บริษัท ดูปองท์ นิวทริชั่น จำกัด ผู้ผลิตไมโครคริสตัลไลน์เซลลูโลสสำหรับผลิตฟิล์มเคลือบอาหารที่สามารถย่อยสลายได้และบริษัท เอ็นวิคโค จำกัด ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลชนิด rPET (Food Grade) ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท Alpla ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกรายใหญ่ของยุโรป และล่าสุด บริษัท ไทยโพลิเอทิลีน จำกัด บริษัทย่อยของบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้ร่วมทุนกับ Braskem ผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพรายใหญ่ของโลก จัดตั้งโรงงานผลิตไบโอ-เอทิลีน สำหรับผลิตเม็ดพลาสติกไบโอ-พอลิเอทิลีน (Green-Polyethylene) ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง

“ส่งผลให้อุตสาหกรรมไบโอพลาสติกไทย เติบโตแบบก้าวกระโดด ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมไบโอพลาสติกอันดับ 2 ของโลกแล้ว และก้าวขึ้นสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมไบโอพลาสติกได้ในไม่ช้า สะท้อนความสำเร็จของพล.อ.ประยุทธ์ ในการพลิกโฉมประเทศไทยสู่เศรษฐกิจมูลค่าสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”น.ส.ทิพานัน กล่าว

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : การส่งเสริมการลงทุน

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

มช. เปิดตัว “builds” โปรแกรมปั้นสตาร์ทอัพในรั้วมหาวิทยาลัย

 

วันที่ 19 สิงหาคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ชื่นชมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ได้เปิดตัวโปรแกรม “builds” ซึ่งเป็นโครงการที่จะสนับสนุนให้นักศึกษาทุกชั้นปีในมหาวิทยาลัยสามารถเริ่มต้นการเป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพได้ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ด้วยการนำงานวิจัยในมหาวิทยาลัยมาต่อยอดเป็นธุรกิจต่างๆ

เกิดการลงทุน การจ้างงานสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือ ด้วยเป้าหมายภายในปี 2569 จะสร้างนักศึกษาที่สนใจเป็นสตาร์ทอัพ 4,200 คน เกิดทีมสร้างสรรค์ไอเดียธุรกิจไม่น้อยกว่า 600 ทีม และตั้งธุรกิจไม่น้อยกว่า 240 บริษัท มีการจ้างงาน 3,600 คน สร้างรายได้มากกว่า 4,500 ล้านบาท เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจภาคเหนืออีก 8,100 ล้านบาท

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่าโครงการฯ จะเป็นกำลังสำคัญช่วยเสริมความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจคลัสเตอร์สำคัญๆ ในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ ตลอดจนเป็นต้นแบบให้สถาบันการศึกษาในภาคอื่นๆ ในการสร้างผู้ประกอบการเพื่อขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจแต่ละภูมิภาคได้เติบโตได้อย่างยั่งยืนด้วยการวิจัยและพัฒนา

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่13  ซึ่งแบ่งการพัฒนาเป็น 2 ส่วน คือ เศรษฐกิจพิเศษชายแดน 10 เขต และระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ประกอบด้วย 1)ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (NEC) ครอบคลุม จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และลำปาง

2)ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(NeEC) ครอบคลุมจังหวัด นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย 3)ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลาง-ตะวันตก(CWEC) ครอบคลุมจังหวัด พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรีและกาญจนบุรี  และ 4)ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) ครอบคลุมพื้นที่ จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษธานี และนครศรีธรรมราช

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายการพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ โดยดึงทุกภาคส่วนเข้ามาสนับสนุน อาทิ มาตรการส่งเสริมการลงทุนทั้งที่เป็นมาตรที่เป็นภาษีและไม่ใช่ภาษี สนับสนุนงบวิจัยและพัฒนา ดึงสถาบันการศึกษาในพื้นที่เข้ามาสนับสนุนองค์ความรู้และการวิจัย ซึ่งกรณีของ NEC ในภาคเหนือ รัฐบาลสนับสนุนให้เป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์หลักของประเทศ มีคลัสเตอร์เป้าหมายเป็นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น บริการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เขตอุตสาหกรรมภาพยนตร์ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

กรมควบคุมโรคแนะแม่ตั้งครรภ์ ระวังชื้อไวรัสซิกา ทารกเสี่ยงพัฒนาการช้า

 
วันที่ 19 สิงหาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยข้อมูลกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กรณีสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสซิกาในประเทศไทย ในสัปดาห์ที่ 31 คือ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 9 สิงหาคม 2566 พบผู้ป่วยสะสมจำนวน 172 ราย อัตราป่วย 0.26 ต่อประชากรแสนคน ไม่พบผู้เสียชีวิต พบผู้ป่วยครบทุกภาค กระจายใน 21 จังหวัด โดยพบอัตราป่วยสูงสุดในภาคกลาง รองลงมา คือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยกรมควบคุมโรค ได้ออกคำเตือนในช่วงนี้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อนำโดยยุงลาย เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ทำให้มีน้ำขังตามภาชนะต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ก่อให้เกิดการระบาดของโรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งโรคติดเชื้อไวรัสซิกานี้ สามารถติดต่อจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ เป็นโรคที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องเฝ้าระวังและป้องกันตนเองอย่าให้ถูกยุงกัด เพราะหากแม่ติดเชื้อไวรัสซิกาแล้ว อาจส่งผลให้เด็กที่คลอดออกมามีความผิดปกติ 

นางสาวรัชดา กล่าวถึงข้อมูลกรมควบคุมโรคระบุว่า โรคติดเชื้อไวรัสซิกา มียุงลายเป็นพาหะนำโรค เช่นเดียวกับโรคไข้เลือดออก และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย ทำให้ผู้ป่วยมีผื่นแดงตามลำตัวและแขนขา มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ตาแดง และสามารถติดต่อจากมารดาสู่ทารกในครรภ์ และอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง คือ ทารกเกิดความพิการทางสมองและระบบประสาท ส่งผลให้ทารกที่เกิดมามีความผิดปกติ เช่น ศีรษะเล็ก การได้ยินผิดปกติ และพัฒนาการช้า เป็นต้น โดยกรมควบคุมโรคแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ควรป้องกันตนเองอย่าให้ถูกยุงกัด ไปฝากครรภ์ตลอดระยะเวลาที่ตั้งครรภ์จนกว่าจะคลอด หากตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสซิกาต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยสูตินรีแพทย์ 

“นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคย้ำขอให้ประชาชนทั่วไปช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณบ้านและในชุมชน โดยใช้มาตรการ 3 เก็บป้องกัน 3 โรค คือ 1) เก็บบ้าน ให้สะอาดไม่ให้ยุงลายเข้ามาเกาะพัก 2) เก็บขยะ ภายในบริเวณบ้านและชุมชน ให้เรียบร้อยไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย 3) เก็บน้ำ เก็บภาชนะกักเก็บน้ำให้มิดชิดเพื่อป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ รวมถึงการป้องกันตนเองจากการถูกยุงกัดด้วยการทายากันยุง และนอนในมุ้งหรือห้องที่มีมุ้งลวดกันยุง เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ไข้เลือดออก และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย และขอให้ประชาชนสังเกตอาการป่วยของคนในครอบครัว ไม่ควรซื้อยาลดไข้ในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) ได้แก่ แอสไพริน และไอบูโพรเฟนมารับประทาน และให้รีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์หรือสถานบริการสาธารณสุขที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อได้รับการรักษาที่ถูกต้องรวดเร็ว จะช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

ป.ป.ส. จัดงานมหกรรมกองทุนแม่ฯ แก้ปัญหายาเสพติด ประจำปี ๒๕๖๖ “รวมศรัทธา สืบสานพัฒนา ประชาร่มเย็น” 

 
เมื่อวันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม 02566 เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จทรงเป็นองค์ประธานในงานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “รวมศรัทธา สืบสานพัฒนา ประชาร่มเย็น” โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ผู้ว่าราชการจังหวัด 73 จังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน ร่วมรับเสด็จ จำนวน 2,400 คน ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี 
 
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2566 นี้ นับเป็นปีแรกที่สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จทรงเป็นองค์ประธานในพิธีพระราชทานเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดินแก่หมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินใหม่ ประจำปี 2566 เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่หมู่บ้าน/ชุมชนต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดินในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัจจุบันมีหมู่บ้าน/ชุมชนที่เข้าร่วมกองทุนแม่ของแผ่นดินทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2547 – 2565 จำนวน 26,507 แห่ง คิดเป็น 30.99 % เปอร์เซ็นต์ จากหมู่บ้านทั้งหมดในประเทศไทย จำนวน 85,522 หมู่บ้าน และมีการขยายจำนวนหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินเพิ่มขึ้นทุกปี 
 
โดยในปี 2566 มีหมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน เข้ารับพระราชทานเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดินเพิ่มขึ้น จำนวน 1,053 แห่ง รวมเป็น 27,560 แห่ง คิดเป็น 32.00% โดยมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด 73 จังหวัด เป็นผู้แทนรับมอบ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสำคัญเกี่ยวกับการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเกี่ยวกับงานยาเสพติด นิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดินจากพื้นที่ต่าง ๆ การแสดงของศิลปินนักร้องที่ได้รับความนิยมจากรายการโทรทัศน์แชมป์เพลงเอก และรายการ Golden Song การแสดงฟ้อนรำของชมรมบาสโลบเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน จังหวัดสมุทรปราการ และการแสดงดนตรีบรรเลงวงดุริยางค์ของโรงเรียนประชานิเวศน์ตลอดทั้งวัน นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า 
 
 
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงห่วงใยปัญหายาเสพติด และได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จนก่อเกิดเป็นกองทุนแม่ของแผ่นดิน ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีสมาชิกกองทุนแม่ของแผ่นดิน จำนวน 3,163,574 ครัวเรือน มีสมาชิก 4,680,501 คน มีเงินกองทุนแม่ของแผ่นดินทั้งสิ้น 541,441,458 บาท และเป็นเงินที่ได้รับพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดินหมู่บ้านละ 8,000 บาท รวมจำนวนทั้งสิ้น 212,056,600 บาท เมื่อหมู่บ้านชุมชนได้รับทุนตั้งต้นแล้วจะนำทุนที่ได้ไปต่อยอดในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนของตนเอง โดยเน้นแนวทางสันติวิธี ด้วยการพัฒนาคุณภาพชีวิต ช่วยเหลือ ประคับประคอง ให้โอกาสผู้เสพได้กลับตัวเพื่อหลุดพ้นจากปัญหายาเสพติด และร่วมกันดูแลเสริมสร้างให้หมู่บ้าน/ชุมชนปลอดภัยจากปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ในโอกาสนี้จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนทั่วประเทศร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวงของปวงชนชาวไทย ด้วยการไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนเพื่อลูกหลานของเรา และหากพบเบาะแสยาเสพติดสามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ป.ป.ส.

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย ส่งเสริมงานลำไย กระท้อน ของดีตำบลห้วยสัก ปี 66

 
วันที่ 19 สิงหาคม 2566 เวลา 09.30 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงาน “วันลำไย กระท้อน ของดีตำบลห้วยสัก ประจำปี 2566” พร้อมด้วย นายอำนาจ ทาจินา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อ.เมืองเชียงราย เขต 6 นายจิราวุฒิ แก้วเขื่อน ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นางอัญญลักษณ์ กายาไชย เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นางสาวนิโลบล ชาติเงิน ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม และหัวหน้าส่วนราชการ อบจ.เชียงราย ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด ณ สนามโรงเรียนห้วยสักวิทยาคม
.
ลำไย และกระท้อน เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของตำบลห้วยสัก เนื่องจากมีพื้นที่ปลูก รองมาจากพื้นที่ปลูกข้าว ซึ่งแต่ละปีมีผลผลิตจำนวนมาก และมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผลผลิตทางการเกษตรหลายชนิด ตำบลห้วยสักจึงได้จัดงาน วันลำไย – กระท้อนของดีตำบลห้วยสักขึ้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลผลิตทางการเกษตร และการแปรรูปผลผลิตการเกษตรอื่น ๆ ของตำบลห้วยสัก ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย ได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้สอดคล้องกับนโยบายของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นโยบาย “เชียงรายเมืองอาหารปลอดภัย” ที่นำเอาอาหารและผลไม้ของจังหวัดเชียงรายร่วมส่งเสริมแบบบูรณาการกับการท่องเที่ยว เพื่อรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเชียงราย ต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News