“วันดินโลก” ที่บ้านร่องเบ้อ มทบ.37 นำจิตอาสาสร้างฝาย Gabion ฟื้นป่าต้นน้ำ–รับมือไฟป่าเชียงราย
เชียงราย – วันที่ 10 ธันวาคม 2568 ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 37 (ศอ.จอส.พระราชทาน มทบ.37) จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา “น้อมรำลึก เนื่องในวันพ่อแห่งชาติและวันดินโลก” ณ บ้านร่องเบ้อ ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย โดยมีเป้าหมายสำคัญในการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ฟื้นฟูระบบนิเวศ และสร้างแหล่งน้ำต้นทุนให้ชุมชน ผ่านการสร้างฝายชะลอน้ำแบบกล่องลวดตาข่าย Gabion ควบคู่กับการปลูกต้นไม้และปล่อยพันธุ์ปลาในแหล่งน้ำชุมชน
กิจกรรมครั้งนี้มี นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จังหวัดเชียงราย (ฝ่ายพลเรือน) เป็นประธานในพิธี โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 400 คน ประกอบด้วยกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน มทบ.37 หน่วยงานรัฐ ภาคธุรกิจ เยาวชน และชุมชนในพื้นที่บ้านร่องเบ้อ สะท้อนรูปธรรมของการบูรณาการทุกภาคส่วนในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน
วันดินโลก–จากพระราชดำริสู่การลงมือในป่าต้นน้ำเชียงราย
การจัดกิจกรรม “วันดินโลก” ในประเทศไทยมีความหมายลึกซึ้งเป็นพิเศษ เนื่องจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็น “World Soil Day” เพื่อรณรงค์ให้ทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของดิน ต่อความมั่นคงทางอาหารและระบบนิเวศ โดยอ้างอิงพระราชดำริด้านการจัดการดินและน้ำของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ซึ่งทรงริเริ่มโครงการพระราชดำริต่าง ๆ ด้านอนุรักษ์ดินและน้ำอย่างต่อเนื่องยาวนาน
กิจกรรมที่บ้านร่องเบ้อในวันที่ 10 ธันวาคม 2568 จึงเป็นทั้งการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และการต่อยอดหลักคิด “พัฒนาควบคู่อนุรักษ์” สู่การปฏิบัติในพื้นที่จริง โดยเลือกป่าต้นน้ำและลำห้วยของชุมชนเป็นสมรภูมิหลักในการทำงานเชิงจิตอาสา
พลังจิตอาสา 400 ชีวิต เครือข่ายที่เกินกว่า “งานวันเดียว”
หัวใจสำคัญของกิจกรรม คือ การรวมพลังภาคีเครือข่ายจากหลากหลายสาขา ทั้งด้านความมั่นคง หน่วยงานด้านสังคม เศรษฐกิจ และเยาวชนในพื้นที่
ผู้เข้าร่วมประกอบด้วย
- กำลังพลจิตอาสาพระราชทานจากมณฑลทหารบกที่ 37
- สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย (พม.จว.ช.ร.)
- จิตอาสากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงราย (กอ.รมน.จังหวัด ช.ร.)
- สำนักงานประมงจังหวัดเชียงราย
- คณะศูนย์ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจจังหวัดเชียงราย (CSR เชียงราย)
- ตัวแทนวิทยาลัยอาชีวศึกษา เยาวชนสภาลมหายใจจังหวัดเชียงราย และกลุ่มเยาวชนไทยหัวใจอาสา
- ผู้นำท้องถิ่นและประชาชนจิตอาสาบ้านร่องเบ้อ
การมีส่วนร่วมที่หลากหลายเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่า การอนุรักษ์ป่าต้นน้ำและการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หากแต่ต้องอาศัย “ทุนทางสังคม” ของชุมชนในวงกว้าง ทั้งในมิติความรู้ กำลังคน ทุน และเครือข่าย
นอกจากนี้ กิจกรรมยังได้รับเมตตาจาก “ครูบาศรีจอมหมอกฟ้างำเมือง” พระเกจิจากจังหวัดลำปาง เดินทางมาร่วมให้กำลังใจจิตอาสาและชาวบ้านที่ลงมือฟื้นฟูป่าต้นน้ำร่วมกันในพื้นที่บ้านร่องเบ้อ ช่วยเสริมมิติทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณให้กับการขับเคลื่อนงานอนุรักษ์ ซึ่งมักจะต้องใช้ความต่อเนื่องและความศรัทธาในระยะยาว
ฝาย Gabion วิศวกรรมเรียบง่ายที่เปลี่ยนภูเขาแห้งให้กลายเป็น “ป่าเปียก”
ภารกิจหลักของกิจกรรมครั้งนี้ คือ การสร้าง “ฝายชะลอน้ำแบบกล่องลวดตาข่าย Gabion” บริเวณลำห้วยในพื้นที่ป่าต้นน้ำของบ้านร่องเบ้อ
ฝาย Gabion เป็นโครงสร้างชะลอน้ำที่สร้างจากกล่องลวดตาข่ายบรรจุก้อนหิน มีข้อดีคือแข็งแรง ปรับตัวตามสภาพพื้นที่ได้ดี และปล่อยให้กระแสน้ำไหลผ่านได้ แต่ถูกชะลอความเร็วลง ทำให้ตะกอนดินหยาบตกค้างอยู่ด้านเหนือฝาย พร้อมทั้งกักเก็บความชุ่มชื้นให้พื้นที่โดยรอบ เมื่อเวลาผ่านไป ตะกอนที่สะสมจะกลายเป็นแหล่งดินอุดมสมบูรณ์ที่เอื้อต่อการเติบโตของพืชพรรณรอบลำห้วย
สำหรับบ้านร่องเบ้อ ฝาย Gabion ที่สร้างขึ้นถูกออกแบบให้ทำหน้าที่หลายประการพร้อมกัน ได้แก่
- ดักตะกอนป้องกันการพังทลายของดินในพื้นที่ลาดชัน
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าต้นน้ำ สร้าง “ระบบนิเวศป่าเปียก” ที่ช่วยลดโอกาสเกิดไฟป่า
- เป็นแหล่งกักเก็บน้ำต้นทุนสำหรับระบบประปาภูเขาของชุมชน
- ทำหน้าที่เป็นแหล่งน้ำสำรองสำหรับทีมดับไฟป่าชุมชนในช่วงฤดูแล้ง
เมื่อผนวกรวมกับกิจกรรมปล่อยปลาลงสู่แหล่งน้ำและปลูกต้นไม้ลดภาวะโลกร้อน กิจกรรมในวันเดียวจึงไม่ได้สร้างเพียง “ฝายหนึ่งตัว” หากแต่เป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานทางนิเวศและสังคมเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีส่วนร่วมในระยะยาว
เชียงราย–เมืองหน้าด่านปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ
ทุกปีในช่วงฤดูแล้ง จังหวัดเชียงรายและจังหวัดในภาคเหนือเผชิญปัญหาไฟป่าและหมอกควัน PM2.5 อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากจุดความร้อนในประเทศและหมอกควันข้ามแดน โดยข้อมูลจากหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมชี้ว่า จุดความร้อนจำนวนมากที่เกิดจากไฟป่ามีแนวโน้มสัมพันธ์กับระดับฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ โดยเฉพาะแนวชายแดนที่รับอิทธิพลจากกระแสลมพัดพาควันไฟจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา
รายงานสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นละอองในจังหวัดเชียงรายในช่วงฤดูหมอกควันระบุว่า หลายวันค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงเกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
ในบริบทนี้ การสร้าง “ป่าเปียก” ด้วยฝายชะลอน้ำในพื้นที่ต้นน้ำ ไม่เพียงช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นของผืนป่าและลดการแพร่กระจายของไฟป่า แต่ยังช่วยลดโอกาสที่ไฟจะลุกลามกลายเป็นจุดความร้อนขนาดใหญ่ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเกิดหมอกควัน PM2.5 ในระดับภูมิภาค
กิจกรรมที่บ้านร่องเบ้อจึงสะท้อนให้เห็นแนวคิด “คิดระดับภูมิภาค–ลงมือระดับหมู่บ้าน” กล่าวคือ แม้ฝายหนึ่งตัวในลำห้วยเล็ก ๆ จะดูเป็นเรื่องเล็กในสายตาคนนอกพื้นที่ แต่เมื่อเชื่อมโยงกับระบบฝายชะลอน้ำจำนวนมากในลุ่มน้ำเดียวกัน ก็สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อระบบนิเวศและคุณภาพอากาศของทั้งจังหวัดได้
หนองหลวง–ร่องเบ้อ แหล่งน้ำชุมชนที่มากกว่า “สระน้ำสำหรับทำการเกษตร”
พื้นที่บ้านร่องเบ้อ–หนองหลวง ที่จัดกิจกรรมครั้งนี้ มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของประชาชนในหลายมิติ เป็นทั้งแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร แหล่งประมงพื้นบ้าน และพื้นที่สีเขียวที่ช่วยรองรับกิจกรรมนันทนาการของชุมชน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้เข้าร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชบริเวณหนองหลวงร่วมกับหลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงชัย เทศบาลตำบลห้วยสัก เทศบาลตำบลสิริเวียงชัย เทศบาลตำบลเมืองชุม และเทศบาลตำบลดอยศิลา เพื่อฟื้นฟูคุณภาพแหล่งน้ำให้กลับมาใสสะอาดและใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มศักยภาพ
ปัจจุบัน หนองหลวงได้รับการปรับปรุงสภาพแวดล้อมจนกลับมามีคุณภาพน้ำที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมรองรับการเป็นหนึ่งในโซนจัดกิจกรรม “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025” ในเขตอำเภอเวียงชัย กำหนดจัดระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ถึง 7 มกราคม 2569 ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้เข้ามาสัมผัสความงดงามของแหล่งน้ำและภูมิทัศน์ในพื้นที่
การสร้างฝาย Gabion ในลำห้วยต้นน้ำที่เกี่ยวเนื่องกับหนองหลวง จึงเป็นเหมือนการเสริม “หลังบ้านด้านนิเวศ” ให้มั่นคง เพื่อรองรับ “หน้าบ้านด้านการท่องเที่ยว” ที่กำลังได้รับการผลักดันอย่างจริงจังจากจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จิตอาสาพระราชทาน กับสมการ “ความมั่นคง–สิ่งแวดล้อม–ชุมชนเข้มแข็ง”
การขับเคลื่อนกิจกรรมจิตอาสาโดยมณฑลทหารบกที่ 37 ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการระดมกำลังพลไปช่วยงานชุมชนระยะสั้น หากแต่สะท้อนบทบาทของกองทัพในมิติ “ความมั่นคงมนุษย์” ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติให้กับประชาชนในระยะยาว
ภายใต้กรอบแนวคิดจิตอาสาพระราชทาน กิจกรรมอนุรักษ์ป่าและการสร้างฝายชะลอน้ำจึงทำหน้าที่เป็น “สะพาน” เชื่อมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานความมั่นคงกับเครือข่ายภาคประชาชน เยาวชน และภาคธุรกิจในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการป้องกันไฟป่า ลดหมอกควัน และสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับชุมชน
การบูรณาการดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางของหน่วยงานด้านทรัพยากรธรรมชาติของไทย ที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชนในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผน ออกแบบ ไปจนถึงการดูแลรักษาโครงสร้าง เช่น ฝายชะลอน้ำและแนวกันไฟ เพื่อให้ชุมชนรู้สึกเป็นเจ้าของและพร้อมดูแลต่อเนื่องในระยะยาว
จาก “วันเดียว” สู่ “แผนระยะยาว” ความท้าทายและข้อเสนอเชิงนโยบาย
แม้กิจกรรมในวันดินโลกที่บ้านร่องเบ้อจะประสบความสำเร็จในแง่การระดมพลังจิตอาสาและผลลัพธ์เชิงรูปธรรมในพื้นที่ แต่ความท้าทายสำคัญคือ การต่อยอดให้โครงการลักษณะนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ “แผนจัดการลุ่มน้ำและป่าต้นน้ำเชียงราย” ที่มีความชัดเจนและต่อเนื่อง
ประเด็นที่ควรพิจารณาในเชิงยุทธศาสตร์ ได้แก่
- การสำรวจศักยภาพลำห้วยและป่าต้นน้ำรอบบ้านร่องเบ้อ–หนองหลวง
เพื่อต่อยอดการสร้างฝายชะลอน้ำและแนวป่าเปียกให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงต่อไฟป่า โดยอาศัยฐานข้อมูลจุดความร้อน (Hotspot) และข้อมูลไฟป่าที่หน่วยงานด้านภูมิสารสนเทศและสิ่งแวดล้อมรวบรวมไว้ - การเชื่อมโยงข้อมูลกิจกรรมจิตอาสากับฐานข้อมูลการจัดการไฟป่าและ PM2.5
หากสามารถบันทึกตำแหน่งฝายชะลอน้ำ แนวกันไฟ และพื้นที่ปลูกป่าที่เกิดจากโครงการจิตอาสาเข้าสู่ระบบข้อมูลกลาง ก็จะช่วยให้จังหวัดเชียงรายสามารถประเมินผลเชิงนโยบายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าการลงทุนด้านจิตอาสาและโครงสร้างนิเวศมีส่วนช่วยลดความรุนแรงของไฟป่าและหมอกควันได้มากน้อยเพียงใด - การเสริมบทบาทเยาวชนในฐานะ “ผู้พิทักษ์ต้นน้ำรุ่นใหม่”
การมีส่วนร่วมของเยาวชนจากสภาลมหายใจและกลุ่มเยาวชนไทยหัวใจอาสาในกิจกรรมครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ด้านสิ่งแวดล้อม หากได้รับการออกแบบโครงการต่อเนื่อง เช่น หลักสูตรเยาวชนเฝ้าระวังไฟป่า หรือโครงการสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ฝายและลำห้วย ก็จะช่วยให้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติกลายเป็นวาระของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง - การเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025
หนองหลวงในฐานะหนึ่งในโซนจัดกิจกรรมของงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025 มีศักยภาพสูงในการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เล่าถึงความสำคัญของป่าต้นน้ำ ฝายชะลอน้ำ และตำนานท้องถิ่น หากสามารถออกแบบเส้นทางเรียนรู้ที่เชื่อมระหว่างจุดชมดอกไม้กับพื้นที่ป่าต้นน้ำบ้านร่องเบ้อ ก็จะช่วยให้ผู้มาเยือนเข้าใจว่า “ความสวยงามของดอกไม้ในงานมหกรรม” เชื่อมโยงกับ “ความชุ่มชื้นของป่าต้นน้ำ” อย่างไร
วันดินโลกที่บ้านร่องเบ้อ – เรื่องเล่าของดิน น้ำ ป่า และผู้คน
กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาที่บ้านร่องเบ้อในโอกาสน้อมรำลึกวันพ่อแห่งชาติและวันดินโลก ไม่ได้เป็นเพียงภาพของผู้คนที่ช่วยกันแบกหิน ใส่กล่องลวดตาข่าย ปลูกต้นไม้ และปล่อยปลาเท่านั้น หากแต่เป็น “ฉากย่อย” ของเรื่องเล่าขนาดใหญ่เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติของจังหวัดเชียงรายในศตวรรษที่ต้องเผชิญทั้งวิกฤตภูมิอากาศ ไฟป่า หมอกควัน และความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น
ฝาย Gabion หนึ่งตัวอาจไม่สามารถหยุดไฟป่าทั้งจังหวัด หรือทำให้ค่า PM2.5 ลดลงในทันที แต่เมื่อมองในมิติของระบบนิเวศและความร่วมมือของผู้คน การมีฝายจำนวนมากขึ้นในพื้นที่ต้นน้ำ การมีเยาวชนและชุมชนที่เข้าใจบทบาทของตนเอง การมีหน่วยงานรัฐ–ทหาร–เอกชน–ภาคศาสนาร่วมขับเคลื่อน ล้วนเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นในการสร้าง “เมืองปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม” อย่างยั่งยืน
ในมุมหนึ่ง วันดินโลกที่บ้านร่องเบ้อจึงเป็นการย้ำเตือนว่าดิน น้ำ ป่า และผู้คน ไม่ใช่เรื่องที่แยกขาดจากกัน การอนุรักษ์ป่าต้นน้ำไม่ใช่เพียงการปกป้องต้นไม้ แต่เป็นการปกป้องชีวิตของผู้คนทั้งในวันนี้และอนาคต
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
- องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)
- กรมชลประทาน
- กรมควบคุมมลพิษ
- สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA














































