เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร.)กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน2 (พะเยา เชียงราย น่านและแพร่)ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดจำนวน 9 โครงการรวมวงเงิน 155 ล้านบาทและโครงการภาคเอกชนอีกจำนวน 4 โครงการ วงเงินรวม 145 ล้านบาท รวม 300 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กรอ.) เสนอ
โดยโครงการที่ผ่านความเห็นชอบของ ครม.สัญจรจังหวัดพะเยา จำนวน 13 โครงการเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการภายใน 1 ปี มาจากข้อเสนอของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด 9 โครงการ และภาคเอกชน 4 โครงการ จากจำนวนโครงการเร่งด่วนที่เสนอเข้ามามีจำนวนทั้งสิ้น 15 โครงการ โดยมีโครงการที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.สัญจรจ.พะเยาดังนี้
โครงการของจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด 9โครงการ ได้แก่
1.โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงอาหาร Gastronomy tourism สู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างสร้างสรรค์ และยั่งยืน วงเงิน 20 ล้านบาท
2.โครงการ A Cup to Village เพิ่มขีดความสามารถการเป็นนวัตกรด้านชาและกาแฟเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน วงเงิน 15 ล้านบาท
3.โครงการยกระดับสินค้าและบริการด้านสุขภาพของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 วงเงิน 15 ล้านบาท
4.โครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ วงเงิน 26.12 ล้านบาท
5.โครงการยกระดับการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรมูลค่าสูง ตามแนวทางตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ จังหวัด พะเยา วงเงิน 23.88 ล้านบาท
6.โครงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและยกระดับการท่องเที่ยวน่านสู่ท่องเที่ยวคุณภาพสูง วงเงิน 14 ล้านบาท
7.โครงการน่านเมืองเก่ามีชีวิต สร้างสรรค์ เมืองแห่งวัฒนธรรมสู่มรดกโลก วงเงิน 21 ล้านบาท 8.โครงการเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูง (กาแฟ) จังหวัดน่าน วงเงิน 15 ล้านบาท
9.โครงการยกระดับการผลิตภาคการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าจังหวัดแพร่ วงเงิน 5 ล้านบาท
กลุ่มที่ 2 โครงการซึ่งเป็นข้อเสนอของภาคเอกชน 4 โครงการ วงเงินรวม 145.88 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 1202 ตอนควบคุม 0200 ตอน สันต้นแหน – ป่าแดด ตําบลโรงช้าง อําเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย วงเงิน 50 ล้านบาท
2.โครงการอํานวยความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมเชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) วงเงิน 50 ล้านบาท
3.โครงการพลิกโฉมถนนสายวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ Soft Power พะเยา วงเงิน 25.88 ล้านบาท
4.โครงการสูบน้ำขึ้นดอย สอย PM2.5 สร้างป่าคาร์บอนเครดิต วงเงิน 20 ล้านบาท
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า 2 โครงการที่กรอ.จังหวัดภาคเหนือตอนบน2 เสนอ ครม.สัญจร จ.พะเยา แล้วยังไม่ผ่านความเห็นชอบมี 2 โครงการได้แก่ โครงการเชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City) วงเงิน 50 ล้านบาท และโครงการ โครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองเก่าแพร่ วงเงิน 45 ล้านบาท โดยทั้งสองโครงการที่ประชุม ครม.ให้ปรับปรุงรายละเอียดของโครงการใหม่แล้วเสนอเข้ามาสู่การพิจารณาของ ครม.อีกครั้งตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ความเห็นของ ครม.ในส่วนของโครงการทั้งสองโครงการที่ให้มีการปรับปรุงโครงการได้แก่ โครงการเชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ ต้องการให้มีการปรับลดในส่วนของการฝึกอบรม และเพิ่มเติมในส่วนของงบประมาณที่ลงไปส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนก่อน ส่วนโครงการเมืองเก่าแพร่นั้นที่ประชุมเห็นว่าในส่วนของงบประมาณ 45 ล้านที่ขอมา 37 ล้านบาทนั้นเป็นการใช้ไปในเรื่องของการจัดซื้อวัสดุและครุภัณฑ์ จึงอยากให้มีการปรับปรุงแก้ไขในส่วนนี้ลงให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการให้ชุมชนได้รับงบประมาณส่วนนี้มากที่สุด
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)