
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันนายกรัฐมนตรีสั่งเร่งแก้ปัญหาน้ำกกปนเปื้อนสารพิษ เตรียมส่งทีมผู้เชี่ยวชาญร่วมถกเมียนมา-จีนและหน่วยงานระหว่างประเทศ ดันแนวทางจัดการต้นเหตุเหมืองทองฝั่งเมียนมา ยกระดับความร่วมมือข้ามพรมแดนสู่ความยั่งยืน
การขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วนจากรัฐบาลกลาง
เชียงราย, 29 มิถุนายน 2568 – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า พล.อ.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายด้วยตนเองและติดตามปัญหาคุณภาพน้ำในลุ่มน้ำกกอย่างใกล้ชิด หลังมีรายงานการปนเปื้อนสารพิษจากกิจกรรมเหมืองในประเทศเมียนมา โดยรัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของประชาชนในทุกมิติ ทั้งด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
“นายกรัฐมนตรีได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างจริงจัง รวมถึงประสานขอความร่วมมือจากจีนและองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำอย่างเร่งด่วนและยั่งยืน” นายมาริษกล่าว
เร่งเดินหน้าเจรจาเชิงเทคนิคกับเมียนมา-จีน
ในสัปดาห์หน้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะนำคณะผู้เชี่ยวชาญไทยเข้าหารือกับผู้เชี่ยวชาญเมียนมาที่กรุงเนปิดอว์ เพื่อร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและออกแบบแนวทางแก้ไขเชิงระบบ ตั้งแต่การป้องกันต้นทาง การพัฒนาเครื่องมือเฝ้าระวัง การควบคุมไม่ให้สารพิษไหลลงสู่แม่น้ำกก โดยมีเป้าหมายในการยุติผลกระทบระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเปิดทางขอรับความช่วยเหลือทางเทคนิคจากองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNEP, UNDP และ GEF
ศูนย์อำนวยการคุณภาพน้ำส่วนหน้า สื่อสารใกล้ชิดประชาชน
น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ (ส่วนหน้า) เปิดเผยถึงการเร่งขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาในพื้นที่จริง โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณภาพน้ำทุกมิติทั้งประปา สัตว์น้ำ พืชผล เกษตรกรรม ตลอดจนสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ พร้อมจัดเวทีสาธารณะรับฟังข้อเสนอแนะ เปิดพื้นที่ให้ประชาชนร่วมกำหนดแนวทางแก้ไข และสื่อสารความคืบหน้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เพจ “ศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อการรับรู้และติดตามสถานการณ์น้ำเชียงราย (AIM)”, วิทยุชุมชน, เสียงตามสาย และหอกระจายข่าว
ความร่วมมือข้ามพรมแดน สู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ เนื่องจากแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นทรัพยากรร่วมระหว่างไทย-เมียนมา การแก้ไขจึงต้องเน้นความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด ล่าสุดกรมกิจการชายแดนทหารได้หารือกับกองทัพเมียนมาเกี่ยวกับปัญหาสารหนู โดยเมียนมามอบหมายให้กรมทรัพยากรสิ่งแวดล้อมส่งทีมลงพื้นที่สำรวจเพื่อเตรียมพร้อมร่วมประชุม Regional Border Committee (RBC) 2–3 กรกฎาคมนี้ ซึ่งฝ่ายไทยจะเสนอแนวทางความร่วมมืออย่างยั่งยืน และเตรียมการเจรจาระดับรัฐบาลในอนาคต
วิเคราะห์และแนวโน้มผลลัพธ์
การเดินหน้าเชิงรุกของรัฐบาล ทั้งในมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การมีส่วนร่วมของประชาชน การตรวจสอบคุณภาพน้ำ และการขอความร่วมมือจากนานาชาติ สะท้อนความตั้งใจที่จะปกป้องสุขภาพประชาชนและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในลุ่มน้ำกกอย่างยั่งยืน หากสามารถบรรลุข้อตกลงที่เป็นรูปธรรมจากทุกฝ่าย จะช่วยสร้างความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาและสร้างแบบอย่างความร่วมมือชายแดนเพื่อปกป้องทรัพยากรน้ำของภูมิภาค
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- กระทรวงการต่างประเทศ
- กระทรวงมหาดไทย
- ศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อการรับรู้และติดตามสถานการณ์น้ำเชียงราย (AIM)
- กรมกิจการชายแดนทหาร