Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

สาวๆ เที่ยวชิลล์ที่ “เชียงราย” ปลอดภัยสุดเป็น อันดับ 2 ของโลก

เชียงรายติดอันดับ 2 เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกสำหรับนักเดินทางหญิงสายดิจิทัล

Time Out จัดอันดับ “เชียงราย” เมืองปลอดภัยอันดับสองของโลกสำหรับผู้หญิงนักเดินทางสายดิจิทัล

เชียงราย – วันที่ 10 มีนาคม 2568 Time Out และ Holidu เผยผลสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกสำหรับ นักเดินทางหญิงสายดิจิทัล (Female Digital Nomads) โดยผลการจัดอันดับระบุว่า เชียงราย ได้รับการจัดให้อยู่ใน อันดับที่ 2 ของโลก รองจาก ไทเป ประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นอันดับหนึ่ง

การสำรวจดังกล่าวอ้างอิงจากข้อมูลของ Nomads.com และใช้เกณฑ์การวิเคราะห์หลายปัจจัย เช่น ความปลอดภัยเมื่อต้องเดินทางคนเดียว ความเป็นมิตรต่อผู้หญิง และกฎหมายเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศในสถานที่ทำงาน ผลการสำรวจชี้ว่า เชียงรายเป็นเมืองที่ มีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ทำงานทางไกลและเดินทางคนเดียว

หญิงดิจิทัลโนแมด” เทรนด์ใหม่มาแรง! อิสระ ทำงานได้ทั่วโลก

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น “หญิงดิจิทัลโนแมด” หรือ “Female Digital Nomads” กำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้หญิงที่ต้องการอิสระในการใช้ชีวิตและการทำงาน

“หญิงดิจิทัลโนแมด” หมายถึง ผู้หญิงที่ทำงานโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลก โดยไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานประจำ พวกเธอมีความยืดหยุ่นในการทำงานและสามารถเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ได้ตามต้องการ

ลักษณะสำคัญของหญิงดิจิทัลโนแมด

  • ทำงานทางไกล (Remote Work): ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น อินเทอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, และแอปพลิเคชันต่างๆ ในการทำงาน
  • อิสระในการเดินทาง: สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ที่มีอินเทอร์เน็ต ทำให้พวกเธอสามารถเดินทางและใช้ชีวิตในสถานที่ต่างๆ ได้อย่างอิสระ
  • ความยืดหยุ่น: มีความยืดหยุ่นในการจัดการเวลาและสถานที่ทำงาน ทำให้พวกเธอสามารถสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานได้
  • ทักษะดิจิทัล: มีทักษะและความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการทำงาน เช่น การตลาดออนไลน์, การเขียน, การออกแบบกราฟิก, หรือการพัฒนาเว็บไซต์

ข้อดีของการเป็นหญิงดิจิทัลโนแมด

  • อิสระในการใช้ชีวิตและการทำงาน
  • โอกาสในการเดินทางและสัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย
  • ความยืดหยุ่นในการจัดการเวลา
  • โอกาสในการสร้างรายได้จากทั่วโลก

ข้อเสียที่ต้องพิจารณา

  • ความไม่แน่นอนของรายได้
  • ความท้าทายในการจัดการเวลาและการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน
  • ความเหงาและความโดดเดี่ยว
  • ความท้าทายในการจัดการเรื่องภาษีและกฎหมายในต่างประเทศ

ถึงแม้ว่าการเป็นหญิงดิจิทัลโนแมดจะมีข้อเสียที่ต้องพิจารณา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์นี้กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่ต้องการอิสระในการใช้ชีวิตและการทำงาน

เหตุผลที่เชียงรายได้รับเลือกเป็นเมืองปลอดภัยสำหรับนักเดินทางหญิง

  1. ความปลอดภัยในการเดินทางและการใช้ชีวิต

จากรายงาน Holidu ระบุว่า เชียงรายได้รับคะแนนสูงเป็นอันดับสามของโลกในหัวข้อ ความปลอดภัยเมื่อต้องเดินคนเดียว” โดยมีคะแนนสูงถึง 93.18 เทียบกับกรุงเทพฯ ที่ได้เพียง 79.44 คะแนน นอกจากนี้ อัตราอาชญากรรมในเชียงรายยังอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ในเอเชีย

  1. ความเป็นมิตรต่อชาวต่างชาติและผู้หญิง

เชียงรายเป็นเมืองที่มีอัตราส่วนของนักเดินทางหญิงสายดิจิทัลต่อผู้ชายสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก แสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงที่ทำงานทางไกลมีแนวโน้มจะพบเจอและสร้างเครือข่ายกับเพื่อนร่วมอาชีพได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับคะแนนสูงในด้าน ความเป็นมิตรต่อชาวต่างชาติ” โดยผู้คนในท้องถิ่นมีความต้อนรับและเปิดกว้างต่อผู้มาเยือน

  1. สภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการทำงานทางไกล
  • ค่าครองชีพต่ำกว่าหลายเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ และภูเก็ต
  • อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีให้บริการทั่วเมือง
  • คาเฟ่และพื้นที่ทำงานร่วม (Co-working Spaces) มีให้เลือกมากมาย

นักเดินทางที่ทำงานทางไกลสามารถใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่สูงเกินไป

อันดับเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในเอเชียสำหรับนักเดินทางหญิงสายดิจิทัล

  1. ไทเป,ไต้หวัน (อันดับ 1 ของโลก)
  2. เชียงราย,ประเทศไทย (อันดับ2 ของโลก)
  3. ปีนัง,มาเลเซีย (อันดับ5 ของโลก)
  4. เกาสง,ไต้หวัน (อันดับ7 ของโลก)
  5. อูบุด,อินโดนีเซีย (อันดับ10 ของโลก)
  6. หนานจิง,จีน (อันดับ 17 ของโลก)
  7. โซล,เกาหลีใต้ (อันดับ 22 ของโลก)
  8. เชียงใหม่,ประเทศไทย ( อันดับ 26 ของโลก)
  9. กรุงเทพฯ,ประเทศไทย (อันดับ 31 ของโลก)
  10. แทจ็อน,เกาหลีใต้ (อันดับ 44 ของโลก)

ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเชียงราย

ด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

  • ดึงดูดนักเดินทางสายดิจิทัลจากทั่วโลก
  • เพิ่มการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจเกี่ยวกับพื้นที่ทำงานร่วม
  • ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติของเชียงราย

ด้านสังคมและความปลอดภัย

  • ช่วยกระตุ้นการพัฒนานโยบายด้านความปลอดภัยในเมือง
  • ทำให้เชียงรายกลายเป็นต้นแบบของเมืองปลอดภัยสำหรับผู้หญิง
  • เพิ่มความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิทธิของผู้หญิงในที่ทำงาน

ความคิดเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับผลการจัดอันดับ

ฝ่ายที่สนับสนุนมองว่า:

  • เชียงรายเป็นเมืองที่เงียบสงบ ปลอดภัย และมีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์
  • ความปลอดภัยสูงกว่ากรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ของไทย
  • เป็นโอกาสดีในการพัฒนาเชียงรายให้เป็นศูนย์กลางของ Digital Nomads

ฝ่ายที่กังวลมองว่า:

  • แม้จะเป็นเมืองที่ปลอดภัย แต่อาจต้องพัฒนาสาธารณูปโภคเพิ่มเติม
  • ยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับชาวต่างชาติ เมื่อเทียบกับเชียงใหม่
  • อาจทำให้ค่าครองชีพในพื้นที่สูงขึ้น และกระทบต่อคนท้องถิ่น

บทสรุป: เชียงราย เมืองแห่งโอกาสสำหรับนักเดินทางสายดิจิทัล

การจัดอันดับครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า เชียงรายเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูงสำหรับนักเดินทางสายดิจิทัล โดยเฉพาะผู้หญิง เมืองนี้มีความปลอดภัยสูง ค่าครองชีพที่เหมาะสม และเป็นมิตรกับผู้มาเยือน หากสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการเพิ่มเติม เชียงรายอาจกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของ Digital Nomads ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต

สัมผัสวิถีชีวิตช้างอย่างใกล้ชิดที่ Elephant Family Chiang Rai!

สำหรับผู้ที่สนใจกิจกรรมของ Elephant Family Chiang Rai สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081 022 6807 โดยทางสถานที่มีโปรแกรมให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่:

  • โปรแกรมเต็มวัน (1 Day Trip): ราคา 2,500 บาท
  • โปรแกรมครึ่งวัน (Half Day Trip): ราคา 1,800 บาท

ทั้งสองโปรแกรมรวมบริการรถรับส่ง อาหารกลางวัน และไกด์คอยดูแลตลอดกิจกรรม ทำให้ผู้เข้าร่วมได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจและเรียนรู้เกี่ยวกับช้างอย่างใกล้ชิด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : timeout / Elephant Family Chiang Rai / The Northern Report

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายจัดกิจกรรมลดอุบัติเหตุปีใหม่ 2568 สร้างเมืองปลอดภัย

จังหวัดเชียงรายจัดกิจกรรมวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติและเปิดศูนย์ปฏิบัติการลดอุบัติเหตุปีใหม่ 2568

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 จังหวัดเชียงรายได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ประจำปี 2567 และพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย โดยมีนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ชมรมเหยื่อเมาและขับ และภาคีเครือข่ายเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

รำลึกภัยสึนามิ-วันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ

กิจกรรมดังกล่าวมีขึ้นเพื่อรำลึกถึงภัยพิบัติรุนแรงเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ที่เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิในประเทศไทย ซึ่งสร้างความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้วันที่ 26 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ เพื่อกระตุ้นเตือนประชาชนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติทั้งจากธรรมชาติและจากมนุษย์

เปิดศูนย์ปฏิบัติการและรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ 2568

ในการนี้ จังหวัดเชียงรายได้จัดพิธีเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ซึ่งจะดำเนินการระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2568 ภายใต้แนวคิด “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตให้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงสามปีย้อนหลัง

ภายในงาน นายประเสริฐได้อ่านสารจากนายกรัฐมนตรีเนื่องในวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ พร้อมรับมอบสิ่งของและอุปกรณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการ

ปล่อยขบวนรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย

หนึ่งในกิจกรรมไฮไลต์ของงานคือการปล่อยขบวนรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” โดยหน่วยงานทุกภาคส่วนเข้าร่วมเดินรณรงค์ไปตามเส้นทางในพื้นที่ เพื่อกระตุ้นเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน

เป้าหมายและความพร้อมรับมืออุบัติภัย

จังหวัดเชียงรายเน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนในการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ด้วยมาตรการสำคัญ ได้แก่ การตรวจสอบความพร้อมของยานพาหนะและผู้ขับขี่ การตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์และการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ยังมีการให้ความรู้เรื่องการป้องกันสาธารณภัยและการดูแลสุขภาพในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเดินทาง

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

กิจกรรมในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดเชียงรายในการลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาล โดยเน้นการสร้างความตื่นตัวและการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย เพื่อให้เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ปลอดภัย และปราศจากอุบัติเหตุที่ไม่พึงประสงค์

จังหวัดเชียงรายเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จะสามารถลดจำนวนอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

เชียงรายฟ้าใส เดินหน้าปราบบุหรี่ไฟฟ้า ปกป้องเยาวชน

เชียงรายเปิดปฏิบัติการ “เชียงรายฟ้าใส (ไร้ควัน)” ปราบบุหรี่ไฟฟ้าปกป้องเยาวชน

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สั่งเปิดปฏิบัติการ “เชียงรายฟ้าใส (ไร้ควัน)” ตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เพื่อต่อต้านและจัดการกับปัญหาการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน

เหตุการณ์การจับกุมร้านค้าบุหรี่ไฟฟ้า

การปฏิบัติการในครั้งนี้ เกิดจากการสืบทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านร้านค้าในพื้นที่ ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย โดยร้านดังกล่าวใช้วิธีการสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน LINE และจัดส่งผ่านไรเดอร์ เพื่อปกปิดการกระทำผิด

ร้านที่เป็นเป้าหมายตั้งอยู่ใกล้ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งมุ่งเป้าไปที่นักเรียน นักศึกษา และเยาวชนในพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง

การปฏิบัติการจับกุม

ภายใต้การอำนวยการของผู้ว่าฯ ชรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูง ได้แก่

  • นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
  • นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย
  • พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงราย

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจวางแผนเข้าจับกุม โดยเริ่มจากการล่อซื้อสินค้าและเฝ้าสังเกตการณ์พฤติกรรมของผู้ต้องสงสัย พบว่ามีการจัดส่งบุหรี่ไฟฟ้าผ่านไรเดอร์หลายครั้ง เมื่อถึงจุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและเข้าตรวจค้นบ้านเช่าในพื้นที่ดังกล่าว

ของกลางและข้อกล่าวหา

จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบของกลางดังนี้:

  • บุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ กว่า 500 ชิ้น มูลค่ารวมหลักแสนบาท
  • บัญชีรายรับรายจ่าย ระบุรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท
  • ยาทรามาดอลและมอร์ฟีนชนิดน้ำ จำนวนมาก

ผู้ต้องสงสัย 2 ราย (ชาย 1 หญิง 1) ถูกตั้งข้อหา ดังนี้:

  1. ซ่อนเร้นและจำหน่ายสินค้าต้องห้าม ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560
  2. ผลิตและจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมาย ตามคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ

ความสำคัญของปฏิบัติการ

ปฏิบัติการ “เชียงรายฟ้าใส (ไร้ควัน)” เน้นการจัดระเบียบสังคมและป้องกันเยาวชนจากการยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นภัยร้ายแรงในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่จะเดินหน้าปราบปรามทั้งร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับชุมชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ตำรวจเชียงรายสกัดขบวนการนำพาชาวจีนเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย

ตำรวจท่องเที่ยวเชียงรายจับกุมขบวนการนำพาต่างด้าวชาวจีนเข้าประเทศ

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย นำโดย พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ พล.ต.ต.ฐากูร นิ่มสมบุญ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธนวินท์ พวงมะลิ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 นำกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ขยายผลกรณีที่ชายชาวจีน 1 คนถูกทำร้ายร่างกายและขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย

การตรวจสอบเบื้องต้นและหลักฐานจากกล้องวงจรปิด

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเริ่มต้นจากการสอบปากคำชายชาวจีนผู้เสียหาย พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่เกิดเหตุ บริเวณถนนพ่อขุน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบข้อมูลที่ชี้ว่ามีรถยนต์ต้องสงสัย 2 คันเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยรถทั้งสองคันมีความเคลื่อนไหวที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งใกล้สนามกีฬากลางเชียงราย เจ้าหน้าที่จึงวางแผนขยายผลและเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด

การจับกุมขบวนการนำพาต่างด้าว

ในเวลา 03.00 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คันกำลังออกจากโรงแรมม่านรูด จึงเข้าตรวจสอบ พบชายคนขับรถหนึ่งคนพยายามวิ่งหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมในที่สุด ภายในรถพบชาวจีน 3 คน แบ่งเป็นชาย 1 คนและหญิง 2 คน ซึ่งไม่สามารถแสดงเอกสารการเข้าเมืองได้ รวมถึงชายชาวไทยอีก 1 คนที่ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างให้นำพาชาวจีนมาจากพื้นที่อำเภอเชียงแสนไปยังจังหวัดลำปาง

การตรวจค้นเพิ่มเติม

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นในห้องพักของโรงแรมม่านรูดดังกล่าว และพบชายชาวจีนอีก 1 คนที่ไม่มีเอกสารการเข้าเมือง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาต่อผู้ต้องสงสัยทั้งหมด โดยชายชาวไทย 2 คน อายุ 34 ปี และ 44 ปี ถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” ส่วนชาวจีนทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

เครือข่ายนำพาต่างด้าวทำงานเป็นขบวนการ

จากการสืบสวนพบว่าขบวนการนำพาชาวจีนเข้าประเทศมีการทำงานเป็นขบวนการเริ่มต้นจากชายแดน อำเภอเชียงแสน โดยจะลักลอบนำพาชาวจีนเข้าประเทศ จากนั้นนำตัวมาพักไว้ตามโรงแรมม่านรูดในตัวเมืองเชียงราย ก่อนรอเวลาเพื่อขนส่งไปยังจุดหมายปลายทาง เช่น จังหวัดลำปาง โดยผู้ต้องสงสัยชาวไทย 2 คนให้การว่าได้รับค่าจ้างคนละ 6,000 บาทต่อการนำพาชาวจีน 1 คน

ผลกระทบและการดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบและป้องกันการลักลอบนำพาต่างด้าวเข้าประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว

การทำงานของตำรวจท่องเที่ยว

การจับกุมในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ และการปฏิบัติหน้าที่เชิงรุกของตำรวจท่องเที่ยวในการดูแลและแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของพื้นที่ รวมถึงการประสานงานที่มีประสิทธิภาพระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการลักลอบนำพาต่างด้าวอย่างเป็นระบบ

สรุป

 การจับกุมขบวนการนำพาชาวจีนในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของตำรวจท่องเที่ยวในการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยในพื้นที่ โดยเฉพาะการลักลอบนำพาต่างด้าวซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ทั้งนี้การดำเนินคดีและเพิ่มความเข้มงวดจะช่วยป้องกันเหตุการณ์ลักษณะนี้ในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News