Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายเปิดตลาดผักปลอดสาร ทหารพันธุ์ดีทุกวันศุกร์

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงรายเปิดพื้นที่จำหน่ายผักปลอดสาร “โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37” ทุกวันศุกร์

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงราย ร่วมมือกับ โครงการทหารพันธุ์ดี มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) เปิดพื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรในทุกวันศุกร์ โดยเน้นผลิตผลทางการเกษตรที่ปลอดสารพิษและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากภาคีเครือข่ายชุมชนสันมะแฟน อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย

การจำหน่ายสินค้าดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายหลังประสบปัญหาอุทกภัย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และสร้างโอกาสในการเข้าถึงสินค้าคุณภาพดีในราคาย่อมเยา โดยมีผักปลอดสารพิษและผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันจาก โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 เช่น ผักกาดขาว ผักบุ้ง คะน้า ฟักทอง และไข่ไก่ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจากภาคีเครือข่ายชุมชน เช่น น้ำพริกและข้าวอินทรีย์ ซึ่งเป็นที่สนใจและได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนที่มาใช้บริการ

วัตถุประสงค์ของโครงการ

ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) กล่าวว่า โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 นั้นมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และส่งเสริมการผลิตพืชผักปลอดสารพิษเพื่อให้ประชาชนได้บริโภคผักที่มีคุณภาพปลอดภัย ในราคาประหยัด อีกทั้งยังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนด้านเศรษฐกิจของประชาชนหลังผ่านวิกฤตอุทกภัย และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนและกำลังพลภายในโครงการ

โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 ได้นำเทคโนโลยีและองค์ความรู้ด้านการเกษตรแบบยั่งยืนมาใช้กับการปลูกผัก โดยเน้นวิถีเกษตรอินทรีย์ที่ไม่ใช้สารเคมีในการผลิต พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ภาคีเครือข่ายในพื้นที่ใกล้เคียงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจำหน่ายสินค้า ทำให้เกิดความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างชุมชน

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงรายให้การสนับสนุนพื้นที่

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงรายได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของโครงการดังกล่าว จึงได้เปิดพื้นที่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเพื่อให้โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 และเครือข่ายชุมชน ได้มีช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นมาตรการความปลอดภัยและความสะอาดอย่างเข้มงวด ซึ่งประกอบไปด้วย

  1. การคัดกรองอย่างเคร่งครัด ก่อนการเข้าซื้อสินค้า
  2. การเว้นระยะห่างระหว่างพื้นที่จำหน่ายสินค้า เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างปลอดภัย
  3. การดูแลจากเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาซื้อสินค้า

นอกจากนี้ โครงการทหารพันธุ์ดี ยังได้มีการนำผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานปลอดสารพิษมาจัดจำหน่ายในราคาประหยัด เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ต้องการสินค้าคุณภาพดีในราคาประหยัด

ประชาชนตอบรับดีเยี่ยม ช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายในครัวเรือน

ประชาชนที่มาเลือกซื้อสินค้าต่างแสดงความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสินค้าทางการเกษตรจากโครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 มีความสด สะอาด ปลอดภัย และราคาถูกกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนโครงการที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือสังคมและชุมชนอย่างแท้จริง

คุณนงลักษณ์ ชาวเชียงราย ผู้มาซื้อสินค้า กล่าวว่า “การมีตลาดแบบนี้ช่วยได้เยอะเลยค่ะ เพราะผักที่ขายสดและปลอดภัย สามารถซื้อในราคาย่อมเยาได้ทุกสัปดาห์ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้จริง ๆ”

ความสำคัญของโครงการทหารพันธุ์ดี

โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารและลดค่าใช้จ่ายของประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นโครงการที่ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น โดยส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูง สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและเครือข่ายชุมชน พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดความตระหนักถึงการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย

ด้วยความร่วมมือระหว่างศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงราย และโครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 ทำให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินงาน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สรุปกิจกรรมจำหน่ายสินค้าทางการเกษตร

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถมาเลือกซื้อผักปลอดสารพิษและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากโครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 ได้ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงราย ทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป โดยรายได้จากการจำหน่ายสินค้าจะถูกนำกลับไปพัฒนาโครงการและสนับสนุนภาคีเครือข่ายชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน

“โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37” จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร เสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชน และช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนในจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียง”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

Chiang Rai Sport City Fight 2024 ดันเชียงรายเป็นเมืองกีฬาอย่างเต็มตัว

 

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 การกีฬาแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรม “Chiang Rai Sport City Fight 2024” ณ ลานกาสะลอง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการผลักดันมวยไทยให้เป็น Soft Power โดยมี นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการเปิดกิจกรรม และกล่าวแสดงความยินดีที่ได้เห็นความพร้อมเพรียงของชาวเชียงรายที่เข้าร่วมส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมกีฬาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย

นางอุบลรัตน์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมแข่งขันมวยไทยในครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันมวยไทยให้เป็นหนึ่งใน Soft Power ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในระดับสากล รวมถึงเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยผ่านกีฬามวยไทย และเปิดโอกาสให้เยาวชนและประชาชนได้มีทัศนคติที่ดีต่อกีฬามวยไทย พร้อมทั้งสร้างสังคมมวยไทยที่เข้มแข็ง

นอกจากนี้ กิจกรรมดังกล่าวยังช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงราย โดยการจัดการแข่งขัน “Chiang Rai Sport City Fight 2024” เป็นความร่วมมือของสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงราย, สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย, จังหวัดเชียงราย และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย

สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ มีนักมวยจากสังเวียนดังทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วมชิงชัยใน 14 คู่ อาทิ

  • น้ำหวาน ส.คงกระพันธ์ (เชียงราย) พบกับ บ่าวบาย บัญชาเมฆ (เชียงใหม่)
  • เพชรโพธิ์ทอง โบว์เมืองบาน (เชียงราย) พบกับ ฉายตะวัน บุญลานามวยไทย (เชียงใหม่)
  • ยอดธง ยอดทัพเชียงราย (พะเยา) พบกับ ไผ่เงิน เกียรติ สปป (ลำปาง)

การแข่งขันในครั้งนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬามวยไทยให้มีคุณภาพสูงสุด เพื่อยกระดับการแข่งขันสู่ระดับนานาชาติ รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ในกีฬามวยไทย และส่งเสริมทัศนคติที่ดีต่อกีฬามวยไทยในชุมชน โดยหวังว่าการแข่งขันครั้งนี้จะทำให้เชียงรายกลายเป็นเมืองกีฬา (Sport City) ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมผลักดันเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเชิงกีฬาแบบยั่งยืน

จุดประสงค์ของการจัดการแข่งขัน:
  • สร้างทัศนคติที่ดีต่อกีฬามวยไทยในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ
  • ผลักดันมวยไทยให้เป็น Soft Power เพื่อสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติ
  • ฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย และกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน
  • พัฒนาศักยภาพของนักกีฬามวยไทยให้ก้าวสู่การแข่งขันระดับสากล

การแข่งขันชกมวยไทยรายการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับเชียงรายสู่การเป็นเมืองกีฬาที่มีศักยภาพสูง และยังคงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการกีฬาระดับประเทศ

นางอุบลรัตน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันนี้จะไม่เพียงแค่เป็นการสร้างความบันเทิงและสนับสนุนความนิยมในกีฬามวยไทย แต่ยังแสดงถึงศักยภาพของชาวเชียงรายในการส่งเสริมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบ

การแข่งขันจะมีขึ้นตลอดช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของเชียงราย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจองห้องพัก การใช้จ่าย และการเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกด้วย

การแข่งขันชกมวยไทยครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้มาตรการความปลอดภัย:
  • มีการคัดกรองนักกีฬาและผู้เข้าชมตามมาตรฐานการจัดงานระดับสากล
  • เน้นการสร้างความปลอดภัยในทุกมิติ ทั้งด้านสุขภาพและการรักษาความปลอดภัยในสถานที่จัดการแข่งขัน

ทั้งนี้ ผู้จัดหวังว่า การจัดงานในครั้งนี้จะทำให้ประชาชนในจังหวัดเชียงรายและนักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่ดี พร้อมเปิดโอกาสให้มวยไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม:
  • จัดขึ้น ณ ลานกาสะลอง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2567
  • เปิดให้เข้าชมฟรีเพื่อกระตุ้นการเข้าร่วมกิจกรรมจากชาวเชียงรายและนักท่องเที่ยว

กิจกรรมนี้จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเชียงรายให้ก้าวสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านกีฬาอย่างแท้จริง

หวังว่าการแข่งขันนี้จะช่วยส่งเสริมให้เชียงรายกลายเป็นหนึ่งใน Sport City ของประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้นี้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซ็นทรัลเชียงราย ร่วมจัดนิทรรศการ จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงรายได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการ “โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายอย่างยั่งยืน จ.เชียงราย” ณ หอประชุมสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความตระหนักและกระตุ้นการมีส่วนร่วมในเรื่องการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงรายได้จัดบูธเพื่อแสดงการจัดการขยะที่มีระบบและเป็นระเบียบ รวมถึงการจัดการขยะที่มาจากศูนย์การค้าแต่ละประเภท เพื่อให้เห็นถึงการดำเนินงานและความมุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ “6 Actions for One Planet” ซึ่งเป็นโครงการของ Central Pattana ที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

อีกหนึ่งไฮไลต์ของการจัดนิทรรศการคือการแสดงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกากกาแฟ ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือกับ Sub Contract ที่มีส่วนร่วมในการผลิตผลิตภัณฑ์เหล่านี้ การใช้กากกาแฟซึ่งเป็นวัสดุที่มักถูกทิ้งเป็นขยะเพื่อนำมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ในงานนี้ ได้รับเกียรติจากว่าที่ ร.ต. ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เข้าชมบูธและกล่าวชื่นชมในความร่วมมือของเซ็นทรัลเชียงรายในการส่งเสริมและจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างแรงผลักดันสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมและสร้างสรรค์การพัฒนาที่ยั่งยืนในจังหวัดเชียงราย

การจัดนิทรรศการในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมและโลกของเราในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News