Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ชมผ้าไทยล้านนา ‘อัตลักษณ์อาภรณ์ฯ’ โชว์ Soft Power เชียงราย

ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทย

วันที่ 19 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย จังหวัดเชียงราย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้จัดงาน อัตลักษณ์อาภรณ์นครเชียงราย 2568” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนากิจกรรมและการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกิจกรรมหลักด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยมี นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วย นางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

มรดกผ้าทอเชียงราย: จากภูมิปัญญาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์

งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 มีนาคม 2568 โดยมีเป้าหมายหลักในการ อนุรักษ์และส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านผ้าไทย ผ้าถิ่น ผ้าชาติพันธุ์ และผ้าอัตลักษณ์ของจังหวัดเชียงราย ต่อยอดสู่การเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น สอดคล้องกับนโยบายผลักดัน Soft Power ไทยสู่ระดับโลก โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ที่ยูเนสโกยกย่องให้เชียงรายเป็น เมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ” (City of Design)

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า งานนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมทุนทางวัฒนธรรม และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์อย่างครบวงจร กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย:

  • การแสดงแบบแฟชั่นโชว์ นำเสนอชุดจากผ้าไทย ผ้าถิ่น ผ้าชาติพันธุ์ และผ้าอัตลักษณ์
  • นิทรรศการและสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านการทอผ้าและการพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
  • บูธแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ อาทิ ผ้าทอ เครื่องประดับ ของฝาก และของที่ระลึก
  • การประกวดออกแบบแฟชั่น ซึ่งได้รับผลงานเข้าร่วมจากนักออกแบบรุ่นใหม่ 15 ผลงาน

อบจ.เชียงรายร่วมส่งเสริม Soft Power ผ่านวัฒนธรรมผ้าไทย

เวลา 18.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้ นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมงาน โดยมี นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงาน และ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงานการจัดงาน ณ ลานจริงใจ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย

การจัดงานครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ สืบสานและส่งต่อมรดกทางภูมิปัญญาการทอผ้าเชียงรายให้คงอยู่ และเผยแพร่อัตลักษณ์การสร้างสรรค์เสื้อผ้าอาภรณ์ของเชียงรายให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล โดยเน้นการนำผ้าไทยมาพัฒนาให้สอดคล้องกับแฟชั่นสมัยใหม่ ตอบโจทย์ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ความสำคัญของอุตสาหกรรมผ้าไทยต่อเศรษฐกิจและวัฒนธรรม

อุตสาหกรรมผ้าไทยถือเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่มีศักยภาพของประเทศไทย โดยข้อมูลจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2567) ระบุว่า:

  • ตลาดสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยสร้างมูลค่า กว่า 280,000 ล้านบาทต่อปี
  • ร้อยละ 60 ของผู้ผลิตผ้าไทยเป็นผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่น
  • ผ้าไทยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดส่งออก ได้แก่ ผ้าไหม ผ้าฝ้ายทอมือ และผ้าชาติพันธุ์
  • อุตสาหกรรมผ้าไทยจ้างงานมากกว่า 500,000 คนทั่วประเทศ

สรุป

การจัดงาน อัตลักษณ์อาภรณ์นครเชียงราย 2568” ไม่เพียงแต่เป็นเวทีสำคัญในการอนุรักษ์ศิลปะการทอผ้าพื้นเมือง แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ และส่งเสริม Soft Power ของประเทศไทยผ่านการออกแบบและสิ่งทอ งานนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับชุมชนท้องถิ่นและนักออกแบบรุ่นใหม่ในการนำเสนอผลงานสู่ตลาดที่กว้างขึ้น พร้อมผลักดันให้อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยมีความเข้มแข็ง และสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้

ผ้าไทยคือมรดกทางวัฒนธรรม สืบสาน ต่อยอด สู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ระดับโลก”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย /สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2567 /สำนักงานวัฒนธรรมเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายเปิดตลาดผักปลอดสาร ทหารพันธุ์ดีทุกวันศุกร์

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงรายเปิดพื้นที่จำหน่ายผักปลอดสาร “โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37” ทุกวันศุกร์

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงราย ร่วมมือกับ โครงการทหารพันธุ์ดี มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) เปิดพื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรในทุกวันศุกร์ โดยเน้นผลิตผลทางการเกษตรที่ปลอดสารพิษและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากภาคีเครือข่ายชุมชนสันมะแฟน อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย

การจำหน่ายสินค้าดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายหลังประสบปัญหาอุทกภัย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และสร้างโอกาสในการเข้าถึงสินค้าคุณภาพดีในราคาย่อมเยา โดยมีผักปลอดสารพิษและผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันจาก โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 เช่น ผักกาดขาว ผักบุ้ง คะน้า ฟักทอง และไข่ไก่ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจากภาคีเครือข่ายชุมชน เช่น น้ำพริกและข้าวอินทรีย์ ซึ่งเป็นที่สนใจและได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนที่มาใช้บริการ

วัตถุประสงค์ของโครงการ

ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) กล่าวว่า โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 นั้นมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และส่งเสริมการผลิตพืชผักปลอดสารพิษเพื่อให้ประชาชนได้บริโภคผักที่มีคุณภาพปลอดภัย ในราคาประหยัด อีกทั้งยังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนด้านเศรษฐกิจของประชาชนหลังผ่านวิกฤตอุทกภัย และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนและกำลังพลภายในโครงการ

โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 ได้นำเทคโนโลยีและองค์ความรู้ด้านการเกษตรแบบยั่งยืนมาใช้กับการปลูกผัก โดยเน้นวิถีเกษตรอินทรีย์ที่ไม่ใช้สารเคมีในการผลิต พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ภาคีเครือข่ายในพื้นที่ใกล้เคียงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจำหน่ายสินค้า ทำให้เกิดความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างชุมชน

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงรายให้การสนับสนุนพื้นที่

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงรายได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของโครงการดังกล่าว จึงได้เปิดพื้นที่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเพื่อให้โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 และเครือข่ายชุมชน ได้มีช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นมาตรการความปลอดภัยและความสะอาดอย่างเข้มงวด ซึ่งประกอบไปด้วย

  1. การคัดกรองอย่างเคร่งครัด ก่อนการเข้าซื้อสินค้า
  2. การเว้นระยะห่างระหว่างพื้นที่จำหน่ายสินค้า เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างปลอดภัย
  3. การดูแลจากเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาซื้อสินค้า

นอกจากนี้ โครงการทหารพันธุ์ดี ยังได้มีการนำผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานปลอดสารพิษมาจัดจำหน่ายในราคาประหยัด เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ต้องการสินค้าคุณภาพดีในราคาประหยัด

ประชาชนตอบรับดีเยี่ยม ช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายในครัวเรือน

ประชาชนที่มาเลือกซื้อสินค้าต่างแสดงความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสินค้าทางการเกษตรจากโครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 มีความสด สะอาด ปลอดภัย และราคาถูกกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนโครงการที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือสังคมและชุมชนอย่างแท้จริง

คุณนงลักษณ์ ชาวเชียงราย ผู้มาซื้อสินค้า กล่าวว่า “การมีตลาดแบบนี้ช่วยได้เยอะเลยค่ะ เพราะผักที่ขายสดและปลอดภัย สามารถซื้อในราคาย่อมเยาได้ทุกสัปดาห์ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้จริง ๆ”

ความสำคัญของโครงการทหารพันธุ์ดี

โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารและลดค่าใช้จ่ายของประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นโครงการที่ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่น โดยส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูง สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและเครือข่ายชุมชน พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดความตระหนักถึงการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย

ด้วยความร่วมมือระหว่างศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงราย และโครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 ทำให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินงาน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สรุปกิจกรรมจำหน่ายสินค้าทางการเกษตร

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถมาเลือกซื้อผักปลอดสารพิษและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากโครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37 ได้ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงราย ทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป โดยรายได้จากการจำหน่ายสินค้าจะถูกนำกลับไปพัฒนาโครงการและสนับสนุนภาคีเครือข่ายชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน

“โครงการทหารพันธุ์ดี มทบ.37” จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร เสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชน และช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนในจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียง”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

Chiang Rai Sport City Fight 2024 ดันเชียงรายเป็นเมืองกีฬาอย่างเต็มตัว

 

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 การกีฬาแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรม “Chiang Rai Sport City Fight 2024” ณ ลานกาสะลอง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการผลักดันมวยไทยให้เป็น Soft Power โดยมี นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการเปิดกิจกรรม และกล่าวแสดงความยินดีที่ได้เห็นความพร้อมเพรียงของชาวเชียงรายที่เข้าร่วมส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมกีฬาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย

นางอุบลรัตน์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมแข่งขันมวยไทยในครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันมวยไทยให้เป็นหนึ่งใน Soft Power ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในระดับสากล รวมถึงเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยผ่านกีฬามวยไทย และเปิดโอกาสให้เยาวชนและประชาชนได้มีทัศนคติที่ดีต่อกีฬามวยไทย พร้อมทั้งสร้างสังคมมวยไทยที่เข้มแข็ง

นอกจากนี้ กิจกรรมดังกล่าวยังช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงราย โดยการจัดการแข่งขัน “Chiang Rai Sport City Fight 2024” เป็นความร่วมมือของสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงราย, สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย, จังหวัดเชียงราย และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย

สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ มีนักมวยจากสังเวียนดังทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วมชิงชัยใน 14 คู่ อาทิ

  • น้ำหวาน ส.คงกระพันธ์ (เชียงราย) พบกับ บ่าวบาย บัญชาเมฆ (เชียงใหม่)
  • เพชรโพธิ์ทอง โบว์เมืองบาน (เชียงราย) พบกับ ฉายตะวัน บุญลานามวยไทย (เชียงใหม่)
  • ยอดธง ยอดทัพเชียงราย (พะเยา) พบกับ ไผ่เงิน เกียรติ สปป (ลำปาง)

การแข่งขันในครั้งนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬามวยไทยให้มีคุณภาพสูงสุด เพื่อยกระดับการแข่งขันสู่ระดับนานาชาติ รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ในกีฬามวยไทย และส่งเสริมทัศนคติที่ดีต่อกีฬามวยไทยในชุมชน โดยหวังว่าการแข่งขันครั้งนี้จะทำให้เชียงรายกลายเป็นเมืองกีฬา (Sport City) ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมผลักดันเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเชิงกีฬาแบบยั่งยืน

จุดประสงค์ของการจัดการแข่งขัน:
  • สร้างทัศนคติที่ดีต่อกีฬามวยไทยในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ
  • ผลักดันมวยไทยให้เป็น Soft Power เพื่อสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติ
  • ฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย และกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน
  • พัฒนาศักยภาพของนักกีฬามวยไทยให้ก้าวสู่การแข่งขันระดับสากล

การแข่งขันชกมวยไทยรายการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับเชียงรายสู่การเป็นเมืองกีฬาที่มีศักยภาพสูง และยังคงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการกีฬาระดับประเทศ

นางอุบลรัตน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันนี้จะไม่เพียงแค่เป็นการสร้างความบันเทิงและสนับสนุนความนิยมในกีฬามวยไทย แต่ยังแสดงถึงศักยภาพของชาวเชียงรายในการส่งเสริมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบ

การแข่งขันจะมีขึ้นตลอดช่วงเทศกาลท่องเที่ยวของเชียงราย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจองห้องพัก การใช้จ่าย และการเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกด้วย

การแข่งขันชกมวยไทยครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้มาตรการความปลอดภัย:
  • มีการคัดกรองนักกีฬาและผู้เข้าชมตามมาตรฐานการจัดงานระดับสากล
  • เน้นการสร้างความปลอดภัยในทุกมิติ ทั้งด้านสุขภาพและการรักษาความปลอดภัยในสถานที่จัดการแข่งขัน

ทั้งนี้ ผู้จัดหวังว่า การจัดงานในครั้งนี้จะทำให้ประชาชนในจังหวัดเชียงรายและนักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่ดี พร้อมเปิดโอกาสให้มวยไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม:
  • จัดขึ้น ณ ลานกาสะลอง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2567
  • เปิดให้เข้าชมฟรีเพื่อกระตุ้นการเข้าร่วมกิจกรรมจากชาวเชียงรายและนักท่องเที่ยว

กิจกรรมนี้จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเชียงรายให้ก้าวสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านกีฬาอย่างแท้จริง

หวังว่าการแข่งขันนี้จะช่วยส่งเสริมให้เชียงรายกลายเป็นหนึ่งใน Sport City ของประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้นี้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซ็นทรัลเชียงราย ร่วมจัดนิทรรศการ จัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงรายได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการ “โครงการส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายอย่างยั่งยืน จ.เชียงราย” ณ หอประชุมสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความตระหนักและกระตุ้นการมีส่วนร่วมในเรื่องการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงรายได้จัดบูธเพื่อแสดงการจัดการขยะที่มีระบบและเป็นระเบียบ รวมถึงการจัดการขยะที่มาจากศูนย์การค้าแต่ละประเภท เพื่อให้เห็นถึงการดำเนินงานและความมุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ “6 Actions for One Planet” ซึ่งเป็นโครงการของ Central Pattana ที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

อีกหนึ่งไฮไลต์ของการจัดนิทรรศการคือการแสดงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกากกาแฟ ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือกับ Sub Contract ที่มีส่วนร่วมในการผลิตผลิตภัณฑ์เหล่านี้ การใช้กากกาแฟซึ่งเป็นวัสดุที่มักถูกทิ้งเป็นขยะเพื่อนำมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ในงานนี้ ได้รับเกียรติจากว่าที่ ร.ต. ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เข้าชมบูธและกล่าวชื่นชมในความร่วมมือของเซ็นทรัลเชียงรายในการส่งเสริมและจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างแรงผลักดันสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมและสร้างสรรค์การพัฒนาที่ยั่งยืนในจังหวัดเชียงราย

การจัดนิทรรศการในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมและโลกของเราในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News