วุฒิสภาลงพื้นที่เชียงราย ติดตามผลกระทบจากอุทกภัยและหนอนกระทู้
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 นายธวัช สุระบาล ประธานคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรและปศุสัตว์ และศึกษาแนวทางการฟื้นฟู โดยได้เยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาหมูดำดอยตุง ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและโรคระบาดในพื้นที่ตำบลเกาะช้าง
ติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจเกษตรกร
คณะกรรมาธิการฯ ได้เดินทางไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาหมูดำดอยตุง เพื่อศึกษาแนวทางการเลี้ยงหมูดำดอยตุง ซึ่งเป็นพันธุ์หมูที่มีความแข็งแรงและสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี จากนั้นได้เดินทางไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน เพื่อเยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำมันจากเมล็ดชา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง
สำรวจพื้นที่ประสบภัยและให้คำแนะนำ
คณะกรรมาธิการฯ ได้เดินทางไปยังพื้นที่ตำบลเกาะช้าง ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างหนัก โดยได้พบปะกับเกษตรกรเพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่าพื้นที่การเกษตรที่ติดแม่น้ำรวกได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง พืชผลทางการเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชสวนผลไม้ ได้รับความเสียหายไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลยังได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้ขึ้นทะเบียน ทำให้ไม่ได้รับความช่วยเหลือ
ปัญหาหนอนกระทู้ระบาดซ้ำเติมความเสียหาย
นอกจากปัญหาอุทกภัยแล้ว เกษตรกรในพื้นที่ยังประสบปัญหาหนอนกระทู้ระบาด ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรอย่างมาก
ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข
คณะกรรมาธิการฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา ดังนี้
- สำรวจความเสียหายอย่างละเอียด: ดำเนินการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากทั้งอุทกภัยและโรคระบาดอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน
- ช่วยเหลือเกษตรกร: ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเกษตรกรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน
- ฟื้นฟูพื้นที่: ดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายตามแผนฟื้นฟูระยะสั้น กลาง และยาว
- ป้องกันและแก้ไขปัญหาหนอนกระทู้: สนับสนุนให้เกษตรกรใช้ยาปราบศัตรูพืชอย่างถูกวิธีและปลอดภัย
- บูรณาการความร่วมมือ: สนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
บทสรุป
การลงพื้นที่ของคณะกรรมาธิการฯ ในครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยต่อปัญหาของเกษตรกร และเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและโรคระบาด
หมูดำดอยตุง: อัญมณีแห่งขุนเขา และ น้ำมันเมล็ดชา: สุดยอดแห่งธรรมชาติ
หมูดำดอยตุง: มรดกอันล้ำค่าจากดอยสูง
หมูดำดอยตุง ไม่ใช่แค่สุกรทั่วไป แต่เป็นสัตว์พื้นเมืองที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของชุมชนดอยตุงอย่างยิ่ง เป็นผลมาจากการนำหมูดำพันธุ์เหมยซานจากประเทศจีนมาผสมพันธุ์กับหมูพื้นเมือง จนได้สายพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะเด่นหลายประการ เช่น
- ความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศที่หนาวเย็น เหมาะกับการเลี้ยงบนพื้นที่สูง
- เนื้อมีคุณภาพสูง มีรสชาติอร่อย เนื้อแน่น มีไขมันแทรกพอดี
- ให้ลูกดก ช่วยเพิ่มปริมาณปศุสัตว์ในชุมชน
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เลี้ยงด้วยอาหารจากธรรมชาติ ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ
การเลี้ยงหมูดำดอยตุง นั้นเน้นการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น เช่น พืชผลทางการเกษตรที่ปลูกในชุมชน ทำให้ลดต้นทุนการผลิตและส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน นอกจากนี้ การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหมูดำดอยตุง เช่น ไส้กรอกรมควัน แฮม ก็สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน
น้ำมันเมล็ดชา: เศรษฐกิจชุมชนและสุขภาพที่ดี
น้ำมันเมล็ดชา เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว
- บำรุงเส้นผม ทำให้ผมแข็งแรงเงางาม
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ช่วยลดคอเลสเตอรอล
- มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
กระบวนการผลิตน้ำมันเมล็ดชา นั้นค่อนข้างซับซ้อนและต้องอาศัยความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้วกระบวนการผลิตจะประกอบด้วยขั้นตอนหลักดังนี้
- การคัดเลือกเมล็ดชา เลือกเมล็ดชาที่แก่จัด มีคุณภาพดี
- การทำความสะอาดเมล็ดชา ขจัดสิ่งสกปรกและวัตถุแปลกปลอมออก
- การบดเมล็ดชา บดเมล็ดชาให้ละเอียดเพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสกับตัวทำละลาย
- การสกัดน้ำมัน ใช้ตัวทำละลาย เช่น น้ำมันพืชหรือสารเคมี เพื่อสกัดน้ำมันออกจากเมล็ดชา
- การกลั่นน้ำมัน กลั่นน้ำมันเพื่อขจัดตัวทำละลายและสิ่งเจือปนอื่นๆ
- การบรรจุ บรรจุน้ำมันใส่ภาชนะที่สะอาดและปิดสนิท
การผลิตน้ำมันเมล็ดชา นอกจากจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์จากชาแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืนและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย