Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ผู้ว่าฯ เชียงรายเร่งแก้แม่น้ำกก ปนเปื้อน สารหนูเกินมาตรฐาน!

เชียงรายเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ – จับมือทุกภาคส่วนสู้ภัยสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก วันสิ่งแวดล้อมโลกชาวบ้านแห่เรียกร้อง “ปิดเหมือง ฟื้นฟูลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง”

เชียงราย, 5 มิถุนายน 2568 – ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวของสังคมต่อวิกฤตสิ่งแวดล้อมในลุ่มน้ำสำคัญของภาคเหนือ “แม่น้ำกก” ซึ่งเป็นหัวใจของการดำรงชีวิตในพื้นที่เชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง กลายเป็นประเด็นร้อนบนเวทีสาธารณะอีกครั้ง หลังการตรวจพบสารหนูและสารพิษโลหะหนักเกินค่ามาตรฐานในน้ำอย่างต่อเนื่อง กระทบต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และความมั่นคงของชุมชนริมฝั่งน้ำ ทั้งยังเป็นชนวนจุดประกายให้ทุกภาคส่วนในจังหวัดลุกขึ้นผนึกกำลังสร้างความเปลี่ยนแปลง

นายก อบจ.เชียงราย นำทีมร่วมขบวน “ปอยหลวงปิดเหมือง ฟื้นฟูลุ่มน้ำกก สายรวก โขง” ย้ำจุดยืนปกป้องสิ่งแวดล้อม เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 2568

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้เข้าร่วมกิจกรรมขบวนแห่ “ปอยหลวงปิดเหมือง ฟื้นฟูลุ่มน้ำกก สายรวก โขง” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 ซึ่งตรงกับวันสิ่งแวดล้อมโลก โดยมีนายจิรวัฒน์ ณ เชียงใหม่ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เขตอำเภอเมืองเชียงราย เขต 1 เข้าร่วมกิจกรรมสำคัญในครั้งนี้ด้วย ท่ามกลางการรวมตัวของพี่น้องประชาชนชาวเชียงรายจำนวนมากที่มาร่วมแสดงพลังและเจตนารมณ์ร่วมกันในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของจังหวัด

กิจกรรม “ปอยหลวงปิดเหมือง ฟื้นฟูลุ่มน้ำกก สายรวก โขง” จัดขึ้นโดยความร่วมมือของภาคประชาสังคมและเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในจังหวัดเชียงราย มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเรียกร้องให้มีการพิจารณาและดำเนินการ “ปิดเหมือง” อันอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคุณภาพของลุ่มน้ำกก ลำน้ำสายรวก และแม่น้ำโขง ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชีวิตและเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ ตลอดจนการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่อาจได้รับผลกระทบจากกิจกรรมการทำเหมืองแร่ในอดีตหรือที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการพัฒนาที่ยั่งยืน “วันสิ่งแวดล้อมโลกในปีนี้เป็นโอกาสอันดีที่เราทุกคนจะได้ทบทวนบทบาทและความรับผิดชอบในการปกป้องผืนดินและแหล่งน้ำของเรา สิ่งแวดล้อมที่ดีคือรากฐานของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนทุกคนในปัจจุบันและในอนาคต องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริมการพัฒนาที่สมดุลระหว่างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะสนับสนุนทุกภาคส่วนในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม”

เวทีรัฐ-ประชาชนร่วมสื่อสารสถานการณ์

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 ที่ห้องประชุมจอมกิตติ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นแกนกลางนำทีมหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 1/1 เชียงราย สำนักงานประปาส่วนภูมิภาคเชียงราย สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย และสำนักงานประมงจังหวัดเชียงราย ร่วมชี้แจงสถานการณ์ปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเผยว่า ต้นตอของปัญหาส่วนใหญ่มาจากกิจกรรมเหมืองแร่ในต่างประเทศ จังหวัดจึงมีอำนาจและขีดความสามารถแก้ไขได้เพียงปลายเหตุ เช่น การตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก บ่อน้ำตื้น และแหล่งน้ำดิบของการประปา รวมถึงการเตรียมสำรองแหล่งน้ำจากที่อื่นไว้ในกรณีฉุกเฉิน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน อย่างไรก็ดี ทางจังหวัดยังยืนยันว่าได้อยู่เคียงข้างประชาชนมาโดยตลอด

ที่ผ่านมา สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ ได้ตรวจวัดคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ มาแล้วจำนวน 4 ครั้ง พบว่าคุณภาพน้ำใต้ฝายเชียงรายในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย มีแนวโน้มดีขึ้นจากการตกตะกอนของสารปนเปื้อน ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นฐานข้อมูลสำคัญเพื่อการวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหาในอนาคต

ผลวิเคราะห์คุณภาพน้ำ  ตัวเลขที่น่ากังวล

ผลการตรวจสอบโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ในเดือนพฤษภาคม 2568 พบสารหนูเกินค่ามาตรฐานทั้ง 11 จุดสำรวจ ในพื้นที่เชียงรายและเชียงใหม่ อาทิ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย (0.030 มก./ลิตร), บ้านหัวฝาย ต.แม่สาย อ.แม่สาย (0.023 มก./ลิตร) และจุดสูงสุดอยู่บริเวณชายแดนไทย–เมียนมา ขณะที่การตรวจในแม่น้ำโขงพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานที่ต.เวียง อ.เชียงแสน (0.026 มก./ลิตร) และต.บ้านแซว อ.เชียงแสน (0.025 มก./ลิตร)

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการดำเนินการตรวจสอบดังกล่าว หน่วยงานรัฐยังพบความคลาดเคลื่อนของผลตรวจน้ำระหว่างภาครัฐกับนักวิชาการอิสระในบางจุด จึงขอความร่วมมือจากประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ประสานงานล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ภาครัฐในการตรวจน้ำแต่ละครั้ง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงกัน ลดความตื่นตระหนกและสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องในชุมชน

แผนรับมือเชิงระบบ – การตั้งคณะทำงาน 4 ชุด

ในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ตั้งคณะทำงาน 4 ชุดเพื่อรับมือกับปัญหานี้ ได้แก่

  1. ชุดประสานงานระหว่างประเทศ
  2. ชุดด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
  3. ชุดติดตามคุณภาพน้ำ
  4. ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า

โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน พร้อมจัดประชุมร่วมกับจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ทางระบบออนไลน์ เพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหาให้เกิดความเป็นระบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ชาวบ้านลุกขึ้นสู้ “ปิดเหมือง ฟื้นฟูลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง”

ในวันเดียวกันนี้ บรรยากาศที่สวนสาธารณะแม่ฟ้าหลวงคึกคักไปด้วยประชาชน นักเรียน นักศึกษา ภาคประชาสังคม และผู้นำท้องถิ่นกว่า 1,000 คน รวมพลังแสดงจุดยืนร่วมในกิจกรรม “ปอยหลวงปิดเหมือง ฟื้นฟูลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง” เพื่อเรียกร้องปกป้องทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมจากผลกระทบของเหมืองแร่ พร้อมส่งสารถึงผู้นำประเทศและนานาชาติให้ร่วมมือกันอนุรักษ์ธรรมชาติ

การรวมพลังครั้งนี้สะท้อนถึงความตื่นตัวและความห่วงใยต่อแม่น้ำกก สาย รวก โขง ในฐานะสายชีวิตของผู้คนเชียงราย ซึ่งหากไม่มีมาตรการเชิงรุกที่ชัดเจน ปัญหาสารพิษข้ามพรมแดนจะลุกลามและกระทบวิถีชีวิตของชุมชนอย่างต่อเนื่อง

เสียงประชาชนสะท้อนถึงศูนย์กลางนโยบาย

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายย้ำว่า ทางจังหวัดจะดำเนินการเต็มที่และพร้อมประสานงานกับทุกฝ่ายในทุกมิติ ขณะที่ภาคประชาชนยังคงจับตาและผลักดันให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และยั่งยืน

สุดท้ายนี้ ความหวังของชาวเชียงรายและเครือข่ายภาคประชาชน คือ การได้เห็นแม่น้ำกกและลุ่มน้ำสำคัญกลับมาสะอาด บริสุทธิ์ เป็นแหล่งหล่อเลี้ยงชีวิตอย่างแท้จริง ขณะที่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งรัดการแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้าน และสร้างการสื่อสารที่ถูกต้องต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่
  • ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 1/1 เชียงราย
  • สำนักงานประปาส่วนภูมิภาคเชียงราย
  • สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย
  • สำนักงานประมงจังหวัดเชียงราย
  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายรวมพลัง! ปิดเหมืองกอบกู้แม่น้ำ จี้รัฐบาลเร่งแก้พิษ

เชียงรายรวมพลัง “ปอยหลวงปิดเหมือง” วันสิ่งแวดล้อมโลก เรียกร้องรัฐเร่งแก้ปัญหาสารพิษข้ามแดนในลุ่มน้ำกก-สาย-รวก-โขง

เชียงราย, 5 มิถุนายน 2568 – บรรยากาศเช้าวันสิ่งแวดล้อมโลกปีนี้ที่สวนสาธารณะแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เต็มไปด้วยเสียงกลอง พลังศรัทธา และความหวัง เมื่อชาวเชียงรายกว่า 1,000 คน ทั้งภาคประชาสังคม เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนหลากหลายกลุ่ม จัดกิจกรรม “ปอยหลวงปิดเหมือง ฟื้นฟูลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง” ภายใต้สัญลักษณ์แถลงการณ์ 5 ภาษา ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เร่งฟื้นฟูแม่น้ำสายหลักภาคเหนือที่กำลังเผชิญวิกฤตสารปนเปื้อนข้ามพรมแดนจากเหมืองในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา

จุดเริ่มต้นของ “ขบวนแห่” เพื่อสิ่งแวดล้อม

กิจกรรมเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ 9 โมงเช้า ณ สวนสาธารณะแม่ฟ้าหลวง ด้วยขบวนแห่ขนาดใหญ่ นำโดยสมาคมขัวศิลปะที่นำงาน “ศพปลาแค้” สะท้อนผลกระทบจากสารพิษในแม่น้ำ ตามด้วยนักเรียน ชาวบ้าน และกลุ่มเยาวชนซึ่งหลายคนเป็น “เสียงจริง” จากชุมชนที่ได้รับผลกระทบทั้งจากการจับปลาไม่ได้ การลงเล่นน้ำแล้วมีอาการผื่นคัน ไปจนถึงการดำรงชีพที่ถูกเปลี่ยนแปลงเพราะวิกฤตสิ่งแวดล้อม

จุดไฮไลต์ของงานอยู่ที่การเดินเท้าของประชาชนและนักเรียนจากสวนฯ ไปจนถึงกลางสะพานข้ามแม่น้ำกก พร้อมการอ่านแถลงการณ์ 5 ภาษา – ไทย อังกฤษ จีน เมียนมา และไทใหญ่ – เรียกร้องให้ผู้นำประเทศ รวมถึงรัฐบาลเมียนมา จีน และกองทัพว้า เร่งปิดเหมืองต้นเหตุปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม

แถลงการณ์ถึงรัฐบาลไทยและประชาคมโลก

ตัวแทนเครือข่ายประชาชนปกป้องลุ่มน้ำกก สาย รวก โขง ได้นำรายชื่อผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คนเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านนายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนางปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ พร้อมกับยื่นข้อเรียกร้องผ่านตัวแทนไปยังรัฐบาลเมียนมา จีน และกองทัพว้า

รองปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่า รัฐบาลไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ส่งหนังสือถึงประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขอความร่วมมือในการหยุดกิจกรรมเหมืองแร่ พร้อมกับนัดหมายหารือระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ วันที่ 6 มิถุนายนนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยจะประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับจังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ และกรมควบคุมมลพิษ เพื่อเดินหน้ามาตรการอย่างเร่งด่วน

เสียงจากคนท้องถิ่น “หยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตให้สายน้ำกก”

ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ “ครูตี๋” นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว เผยว่า ผลกระทบจากสารพิษในแม่น้ำกก สาย รวก และโขง ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่กลายเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยตรง โดยในปีนี้พบปลาจำนวนมากมีตุ่มพองและตายผิดธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็มีรายงานจากชาวบ้านที่ลงเล่นน้ำแล้วเกิดผื่นคัน ต้องใส่ชุดป้องกันเต็มที่

“วันนี้รัฐบาลคงเห็นแล้วว่าประชาชนคนเชียงรายมองว่าปัญหานี้มีความสำคัญกับชีวิต ถ้ารัฐบาลยังช้า หรือไม่ขับเคลื่อนอย่างจริงจัง จะเกิดปัญหาสุขภาพและอาชีพประชาชนในระยะยาว สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนที่สุดคือ หยุดเหมือง และฟื้นฟูลำน้ำให้กลับมาเป็นปกติ” ครูตี๋กล่าว

ข้อเสนอและความคาดหวัง

กิจกรรมครั้งนี้ นอกจากเป็นสัญลักษณ์การรวมพลังของคนเชียงรายแล้ว ยังถือเป็นการส่งเสียงเตือนที่ดังไปถึงส่วนกลางและนานาชาติว่าการจัดการกับปัญหามลพิษข้ามพรมแดนจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือหลายฝ่ายทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ พร้อมขอให้รัฐใช้มาตรการทางการทูตและความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมกับเมียนมาและจีนอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของไทยไม่ให้ถูกทำลายเพราะปัญหาจากภายนอก

ประชาชนยังเสนอให้รัฐเร่งรัดระบบเตือนภัยคุณภาพน้ำ ตรวจสอบคุณภาพปลาน้ำจืดในท้องถิ่น และมีมาตรการฟื้นฟูทั้งทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน รวมถึงเร่งส่งเสริมให้มีงานวิจัยและองค์ความรู้ใหม่ๆ ด้านระบบนิเวศในลุ่มน้ำข้ามแดน

บทสรุปและผลลัพธ์

“ปอยหลวงปิดเหมือง” ในปี 2568 จึงไม่ใช่เพียงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ แต่คือเสียงสะท้อนของผู้คนที่ตระหนักรู้ถึงคุณค่าของสิ่งแวดล้อม และเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับรัฐบาลว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อนข้ามพรมแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ชาวเชียงรายและประชาชนที่เกี่ยวข้องยังรอคอยความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมจากภาครัฐและความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News