ปฏิบัติการทลายเครือข่ายฟอกเงิน 46 จุดทั่วประเทศ คุม 442 บริษัท เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 46 จุดทั่วประเทศ ดำเนินคดีกับนิติบุคคล 442 บริษัท และผู้ต้องหากว่า 1,000 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นชาวจีนกว่า 250 ราย ซึ่งร่วมกันจดทะเบียนบริษัทเพื่ออำพรางการประกอบธุรกิจและฟอกเงิน รวมถึงรับโอนเงินจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมออนไลน์
พฤติการณ์การกระทำความผิด
จากการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิดใน 2 ลักษณะ คือ
- การจดทะเบียนบริษัทโดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee): ชาวต่างชาติว่าจ้างบริษัทบัญชีให้จดทะเบียนนิติบุคคล โดยมีคนไทยเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการตามข้อกำหนดของกฎหมาย เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และร้านอาหาร โดยมีทุนจดทะเบียนรวมกว่า 891 ล้านบาท
- การจดทะเบียนบริษัทม้า: จดทะเบียนบริษัทเพื่อเปิดบัญชีธนาคารสำหรับรับโอนเงินที่ได้จากการฉ้อโกงและฟอกเงิน โดยบัญชีเหล่านี้สามารถทำธุรกรรมได้ไม่จำกัดวงเงิน และไม่ต้องผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC)
พื้นที่เป้าหมายการตรวจค้น
- สำนักงานบัญชีและนอมินี: ตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบบริษัท 244 แห่ง และเอกสารการถือครองอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 254 ล้านบาท
- ร้านค้าและโกดังสินค้า: ตรวจค้นในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และสมุทรสาคร พบสินค้าหลายแสนรายการจากต่างประเทศ รวมถึงสินค้าผิดกฎหมาย
- บริษัทแลกเปลี่ยนเงินตราและสินทรัพย์ดิจิทัล: ตรวจพบธุรกิจที่ใช้ชื่อคนไทยเป็นเจ้าของ แต่ดำเนินการโดยชาวจีนและลักลอบเปิดกิจการอย่างผิดกฎหมาย
มูลค่าความเสียหายและพฤติกรรมที่พบ
จากการตรวจค้นครั้งนี้ พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท รวมถึงบัญชีธนาคาร 314 บัญชี ซึ่งมีนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาเข้าข่ายการกระทำความผิดจำนวนมาก
บทลงโทษและมาตรการต่อเนื่อง
บก.ปอศ. ได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด รวมถึงผู้สนับสนุน เช่น เจ้าหน้าที่บัญชีและทนายความที่รับรองเอกสารเท็จ และได้แจ้งให้สภาทนายความและสภาวิชาชีพบัญชีพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตของผู้ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ การตรวจค้นครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและฟอกเงินอย่างเป็นระบบ รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมทางเศรษฐกิจในอนาคต
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.)