Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

คลายกังวล! กปภ. เปิดพิสูจน์น้ำประปาเชียงราย “สะอาด-ปลอดภัย-ไร้สารหนู” เกินมาตรฐาน WHO

กปภ. ย้ำความเชื่อมั่น: น้ำประปาเชียงราย “ปลอดภัย ไร้สารหนู” หลังปรับกระบวนการผลิตและตรวจสอบเข้มงวด

เชียงราย, 25 กรกฎาคม 2568 – คลายกังวลน้ำประปาเชียงราย กปภ.เปิดบ้านให้สื่อพิสูจน์มาตรฐาน “สะอาด-ปลอดภัย-ไร้สารหนู” ย้ำมาตรการเหนือ WHO ภายหลังจากที่มีรายงานตรวจพบความขุ่นผิดปกติและสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบหลักในการผลิตน้ำประปาของจังหวัดเชียงราย ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความกังวลต่อความปลอดภัยในการใช้น้ำอย่างกว้างขวาง การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จึงรีบเร่งขับเคลื่อนมาตรการสร้างความเชื่อมั่น โดยจัดกิจกรรม “สื่อมวลชนสัญจร” นำผู้สื่อข่าวในพื้นที่ลงพื้นที่จริงเยี่ยมชมกระบวนการผลิต ตรวจสอบห้องควบคุมและห้องปฏิบัติการคุณภาพน้ำประปา ณ กปภ.สาขาเชียงราย พร้อมเปิดเผยข้อมูลและแผนการจัดการเชิงรุกอย่างโปร่งใส

ผู้ว่าการ กปภ. ลงนามการันตี “น้ำดื่มได้จริง” มาตรการผลิตเข้มข้นเกิน WHO

นายจักรพงศ์ คำจันทร์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า กปภ.เฝ้าระวังคุณภาพน้ำดิบในแม่น้ำกกตลอด 24 ชั่วโมง และเพิ่มมาตรการควบคุมการผลิตน้ำประปาให้เข้มข้นกว่ามาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) เช่น ค่าความขุ่น WHO อนุโลม 5 NTU แต่ กปภ.กำหนดสูงสุดเพียง 4 NTU เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน

กระบวนการผลิตน้ำดื่มของ กปภ.เชียงรายมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย

  • การปรับสัดส่วนเคมีเพื่อเร่งการตกตะกอน ดึงโลหะหนักออกจากน้ำดิบ
  • เติมคลอรีน ทั้ง Pre-Chlorine และ Post-Chlorine เพื่อฆ่าเชื้อโรคและคุมคุณภาพ
  • เสริมการเติมโพลิเมอร์และสารแทร็ก เพื่อให้โลหะหนัก (สารหนู แคดเมียม ฯลฯ) ตกตะกอนออกก่อนจ่ายเข้าสู่กระบวนการกรองขั้นสูง
  • ตรวจสอบคุณภาพน้ำโดยนักวิทยาศาสตร์ กำกับทุกขั้นตอนจนถึงปลายทาง
  • สุ่มเก็บตัวอย่างน้ำทั้งระบบ ส่งตรวจบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด ทุก 2 สัปดาห์

“น้ำประปา กปภ. สะอาด ปลอดภัย และดื่มได้จริงตามมาตรฐานสากล ผมกล้าการันตี” ผู้ว่าการ กปภ. กล่าว

รายงานผลตรวจล่าสุด ยืนยันไร้สารหนู-ประชาชนใช้น้ำได้ตามปกติ

ผลการสุ่มตรวจคุณภาพน้ำประปาล่าสุดจาก กปภ.เชียงราย เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ยืนยันว่า น้ำประปาทุกจุดปลอดภัย ไร้สารหนู และผ่านค่ามาตรฐานทุกด้าน โดยมีการเปิดเผยผลการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ผ่านแฟนเพจของ กปภ.สาขาเชียงรายและแม่สายทุก 3 วัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน และเน้นย้ำว่า หากพบค่าความขุ่นหรือสารปนเปื้อนเกินค่าควบคุมแม้แต่น้อย กปภ.จะดำเนินการหยุดจ่ายน้ำและหาแหล่งน้ำใหม่ทันที

นายสุทัศน์ นุชปาน รองผู้ว่าการ กปภ. (ปฏิบัติการ 1) กล่าวย้ำกับประชาชนชาวเชียงรายว่า “มั่นใจได้น้ำประปาที่ผ่านการผลิตของ กปภ. ใช้อุปโภคบริโภคได้แน่นอน แต่ขอให้หลีกเลี่ยงการนำน้ำดิบจากแม่น้ำกกไปใช้โดยตรง”

มาตรการและแนวทางเตรียมพร้อม กรณีวิกฤตสารปนเปื้อนในแหล่งน้ำดิบ

หากสถานการณ์น้ำดิบจากแม่น้ำกกในอนาคตมีสารปนเปื้อนเกินศักยภาพการบำบัด กปภ. มีแผนรองรับทันที ได้แก่

  • เปลี่ยนแหล่งน้ำดิบใหม่ ค้นหาน้ำดิบจากแหล่งที่มีปริมาณและคุณภาพเหมาะสม
  • เพิ่มการเฝ้าระวังและสุ่มตรวจอย่างเข้มข้น
  • สื่อสารแจ้งเตือนประชาชนอย่างโปร่งใส

บทพิสูจน์ “กอบกู้ศรัทธา” ด้วยมาตรการโปร่งใส-วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

การดำเนินการของ กปภ.เชียงรายในวิกฤตครั้งนี้ ถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญของหน่วยงานรัฐที่กล้าเปิดบ้านให้สื่อพิสูจน์และสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา เป็นการ “สร้างศรัทธาเชิงรุก” ต่อประชาชน และสร้างความมั่นใจด้วยข้อเท็จจริงเชิงวิทยาศาสตร์

  • การลงทุนเครื่องจ่ายสารเคมีและเทคโนโลยีทันสมัย มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ยืนยันถึงความจริงจังในคุณภาพน้ำ
  • โปร่งใส เปิดเผยผลตรวจคุณภาพน้ำ สร้างบรรทัดฐานใหม่ในการสื่อสารความเสี่ยงภาครัฐ
  • วางแผนรับมือเหตุฉุกเฉินอย่างเป็นระบบ สะท้อนความพร้อมต่อปัญหาเชิงโครงสร้างของแม่น้ำกก

ขณะเดียวกัน กปภ. ยอมรับข้อเท็จจริงว่า ปัญหาสารหนูในแม่น้ำกกเป็นประเด็นที่ต้องอาศัยความร่วมมือระยะยาวจากทุกหน่วยงาน ไม่ใช่แค่การประปา แต่ต้องร่วมแก้ไขที่ต้นน้ำและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

ข้อเสนอเชิงนโยบาย

  • จัดทำแผนประชาสัมพันธ์วิทยาศาสตร์น้ำ ให้ประชาชนเข้าใจการบำบัดน้ำ
  • สนับสนุนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการใช้น้ำดิบโดยตรง
  • ยกระดับการดูแลแหล่งน้ำต้นน้ำ ร่วมกับหน่วยงานสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข
  • เตรียมงบฉุกเฉินและแผนปฏิบัติการกรณีพบสารปนเปื้อนเกินมาตรฐาน

บทสรุป

การประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงรายกำลังยกระดับมาตรฐานความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และการสื่อสารเชิงรุก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนอย่างยั่งยืน ในวิกฤตที่หลายพื้นที่ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม “ความจริงใจและมาตรฐานสูงสุด” คือหัวใจที่ต้องยึดมั่นต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.)
  • บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด
  • รายงานคุณภาพน้ำประปา กปภ.สาขาเชียงราย
  • สัมภาษณ์ผู้ว่าการ กปภ.
  • ข่าวประชาสัมพันธ์ กปภ.
  • WHO Guidelines for Drinking-water Quality
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

‘น้ำประปาเชียงราย’ ปลอดภัยจริง มีการตรวจก่อนส่งให้ประชาชนใช้

การประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงรายชี้แจงกระบวนการผลิตน้ำประปา ยืนยันปลอดภัยจากมลพิษแม่น้ำกก

เชียงราย, 8 เมษายน 2568 – ที่สถานีผลิตน้ำวังคำ การประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงราย นายทวีศักดิ์ สุขก้อน ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงราย ได้นำคณะสื่อมวลชนและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและชี้แจงถึงกระบวนการผลิตน้ำประปาในเขตเทศบาลนครเชียงราย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน หลังจากเกิดความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพน้ำประปาในพื้นที่ อันเนื่องมาจากรายงานการปนเปื้อนของสารโลหะหนักและมลพิษในแม่น้ำกก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบหลักที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาสำหรับประชาชนในเขตอำเภอเมืองเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียง

การเยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำประปา

การเยี่ยมชมเริ่มต้นที่โรงคลองน้ำขนาด 1,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสถานีผลิตน้ำวังคำประมาณ 300 เมตร โดยจุดนี้เป็นสถานที่สูบน้ำดิบจากแม่น้ำกกในเขตพื้นที่ค่ายทหาร นายทวีศักดิ์อธิบายว่า น้ำดิบที่ถูกสูบเข้ามาจะถูกนำเข้าสู่ถังน้ำเพื่อผ่านกระบวนการเติมสารเคมีสำหรับจัดการตะกอน โดยในอดีต การประปาใช้สารเคมีในรูปแบบผงที่ต้องมีการเตรียมก่อนใช้งาน ซึ่งใช้เวลานานและอาจไม่ทันต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน ปัจจุบันได้ปรับปรุงมาใช้สารเคมีในรูปแบบน้ำ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการจัดการคุณภาพน้ำ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดน้ำท่วมหรือน้ำขุ่นสูงจากอุทกภัย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเพิ่มสารเคมีอีกประเภทหนึ่งเพื่อยกระดับการกำจัดตะกอนให้ดียิ่งขึ้น

จากนั้น น้ำดิบที่ผ่านการเติมสารเคมีจะถูกส่งต่อไปยังถังตกตะกอน ซึ่งใช้เวลาในกระบวนการนี้ประมาณ 30 นาที สารเคมีที่เติมเข้าไปจะช่วยให้ตะกอนทั้งจากธรรมชาติและตะกอนหนัก เช่น สารอินทรีย์หรือโลหะหนัก จับตัวกันเป็นก้อนที่มีน้ำหนักมากขึ้น และตกลงสู่ก้นถัง เหลือเพียงน้ำใสที่ไหลต่อไปยังขั้นตอนถัดไป นายทวีศักดิ์ได้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของน้ำในถังตกตะกอน โดยเมื่อน้ำเคลื่อนจากด้านหนึ่งของถังไปยังอีกด้านหนึ่ง ความขุ่นจะลดลงอย่างชัดเจน จนถึงปลายถังที่น้ำแทบไม่มีตะกอนหลงเหลืออยู่เลย

น้ำใสจากถังตกตะกอนจะไหลลงสู่ระบบกรองทรายที่มีชั้นกรอง 5 ชั้น ตั้งแต่ชั้นทรายหยาบที่ด้านล่างไปจนถึงชั้นทรายละเอียดที่ด้านบน เพื่อกำจัดสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็กที่อาจหลงเหลืออยู่ นายทวีศักดิ์ระบุว่า หลังจากผ่านระบบกรองนี้ น้ำจะถูกส่งไปยังถังเก็บน้ำสะอาดเพื่อเติมคลอรีนในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับฆ่าเชื้อโรค ก่อนจ่ายไปยังครัวเรือนในเขตบริการ เขาย้ำว่า การประปามีการตรวจวัดคุณภาพน้ำทุกวัน โดยค่าความขุ่นของน้ำที่ออกจากสถานีอยู่ที่ต่ำกว่า 1 หน่วย NTU (Nephelometric Turbidity Unit) ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 4 หน่วย NTU ตามเกณฑ์ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

การรับประกันความปลอดภัยของน้ำประปา

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสื่อมวลชนและประชาชน นายทวีศักดิ์ได้สาธิตการทดสอบคุณภาพน้ำ โดยการวัดค่า pH ซึ่งผลลัพธ์อยู่ที่ 7.12 อยู่ในช่วงมาตรฐาน 6.5-8.5 ที่กำหนดโดยกรมอนามัย นอกจากนี้ เขายังได้ล้างหน้าด้วยน้ำประปาตรงหน้ากล้อง เพื่อแสดงให้เห็นว่าน้ำมีความปลอดภัยต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน “น้ำประปาของเราผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมอนามัย และมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นช่วงน้ำท่วมหรือสถานการณ์ปกติ ระบบของเราสามารถรองรับได้” นายทวีศักดิ์กล่าว

การเยี่ยมชมยังรวมถึงการพูดคุยกับนายนิพนธ์ แสงพงษ์ วิศวกรประจำศูนย์ควบคุมการผลิต ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบและบันทึกข้อมูลคุณภาพน้ำได้แบบเรียลไทม์ ผ่านกราฟและตัวชี้วัดต่างๆ ศูนย์นี้ยังทำหน้าที่เฝ้าระวังระบบจ่ายน้ำในเขตบริการรอบเมืองเชียงราย หากเกิดปัญหาการขาดน้ำหรือระบบขัดข้อง เจ้าหน้าที่จะทราบทันทีและสามารถส่งทีมช่างออกไปแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว นายนิพนธ์ระบุว่า ระบบนี้ช่วยให้การประปาสามารถตอบสนองต่อปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำในพื้นที่

ห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพน้ำ

นายณรงค์ศักดิ์ สารใจ นักวิทยาศาสตร์ประจำห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพน้ำ ซึ่งรับผิดชอบการตรวจสอบน้ำประปาใน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา และน่าน อธิบายว่า ห้องปฏิบัติการนี้แบ่งการทดสอบออกเป็น 3 ด้านหลัก ได้แก่

  1. คุณลักษณะทางกายภาพ: เช่น ค่าความขุ่นและ pH
  2. คุณลักษณะทางเคมี: เช่น ค่าความกระด้างและฟลูออไรด์
  3. คุณลักษณะทางชีววิทยา: เช่น การตรวจหาเชื้อโรค เช่น อีโคไลและโคลิฟอร์มแบคทีเรีย

การตรวจเชื้อโรคพื้นฐานจะดำเนินการทุกเดือน ส่วนเชื้อก่อโรคอื่นๆ เช่น ซัลโมเนลลา จะมีการตรวจทุก 6 เดือน สำหรับการตรวจสารโลหะหนัก นายพิทักษ์ มูลวิไชย นักวิทยาศาสตร์อีกท่านหนึ่ง ระบุว่า การประปาสาขาเชียงรายจะส่งตัวอย่างไปยังห้องปฏิบัติการของการประปาส่วนภูมิภาคเขตที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนสารพิษที่ซับซ้อนกว่านั้น เช่น สารหนูและตะกั่ว จะถูกส่งไปตรวจที่สำนักงานใหญ่ของการประปาส่วนภูมิภาคที่กรุงเทพมหานคร โดยมีการตรวจสอบเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ ยังมีการร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เช่น กรมอนามัย และหน่วยงานอิสระ เพื่อยืนยันคุณภาพน้ำอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง

ความกังวลจากสถานการณ์แม่น้ำกก

การชี้แจงครั้งนี้มีขึ้นหลังจากมีรายงานเมื่อต้นเดือนเมษายน 2568 ว่า แม่น้ำกก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบหลักของการประปาสาขาเชียงราย มีการปนเปื้อนของสารโลหะหนัก เช่น สารหนูและตะกั่ว ในระดับที่เกินมาตรฐานน้ำผิวดิน ส่งผลให้เกิดความกังวลในหมู่ประชาชนถึงความปลอดภัยของน้ำประปา โดยเฉพาะเมื่อสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ออกมาเตือนถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมผัสหรือบริโภคน้ำจากแม่น้ำกกโดยตรง

นายทวีศักดิ์ยืนยันว่า แม้แม่น้ำกกจะมีรายงานการปนเปื้อน แต่กระบวนการผลิตน้ำประปาของการประปาสามารถกำจัดสารปนเปื้อนเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ “เราไม่ปล่อยให้น้ำดิบที่มีปัญหาคุณภาพไหลเข้าสู่ระบบโดยไม่ผ่านการบำบัด ทุกขั้นตอนถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้” เขากล่าว พร้อมระบุว่า การประปาได้เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบคุณภาพน้ำดิบจากแม่น้ำกกตั้งแต่ทราบผลการตรวจเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 เพื่อให้มั่นใจว่าระบบสามารถรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้น

การสื่อสารกับประชาชน

นายทวีศักดิ์กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในน้ำประปาของเรา กระบวนการผลิตและการตรวจสอบของเรามีมาตรฐานชัดเจน หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เพจ Facebook ‘การประปาส่วนภูมิภาค สาขาเชียงราย’ หรือโทรศัพท์สายตรงของเราได้ตลอดเวลา” เขายังระบุว่า ข้อมูลผลการตรวจคุณภาพน้ำจะมีการอัปเดตผ่านช่องทางออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ประชาชนรับทราบความเคลื่อนไหวและคลายความกังวล

ทัศนคติเป็นกลางต่อความเห็นทั้งสองฝั่ง

จากสถานการณ์ดังกล่าว มีความเห็นที่แตกต่างกันในหมู่ประชาชนและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความปลอดภัยของน้ำประปาในจังหวัดเชียงราย

ฝ่ายที่ 1: มั่นใจในน้ำประปา
การประปาส่วนภูมิภาคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่า น้ำประปาที่ผ่านกระบวนการผลิตมีมาตรฐานสูงและปลอดภัยต่อการใช้งาน ด้วยระบบบำบัดที่สามารถกำจัดสารปนเปื้อน รวมถึงสารโลหะหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทดสอบคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่องและการรับรองจากกรมอนามัยเป็นหลักฐานที่สนับสนุนว่า ประชาชนสามารถใช้งานน้ำประปาได้โดยไม่ต้องกังวล

ฝ่ายที่ 2: ยังคงกังวลถึงความเสี่ยง
ในทางกลับกัน บางส่วนของประชาชนและกลุ่มที่ติดตามสถานการณ์แม่น้ำกกมีความกังวลว่า แม้ระบบบำบัดจะมีประสิทธิภาพ แต่การปนเปื้อนของสารโลหะหนักในแหล่งน้ำดิบอาจส่งผลกระทบในระยะยาว โดยเฉพาะหากระบบเกิดข้อผิดพลาดหรือไม่สามารถรับมือกับปริมาณสารพิษที่สูงเกินคาดได้ การที่แหล่งน้ำต้นทางอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ

ทัศนคติเป็นกลาง: ทั้งสองฝ่ายมีมุมมองที่สมเหตุสมผล การประปาสาขาเชียงรายได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของระบบและการตรวจสอบที่เข้มงวด ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการรับประกันความปลอดภัยในสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ความกังวลของประชาชนก็ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากแหล่งน้ำดิบที่มีปัญหาคุณภาพอาจเป็นความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังในอนาคต การแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ เช่น การปนเปื้อนจากเหมืองทองคำในเมียนมา ร่วมกับการสื่อสารที่โปร่งใสและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง จะเป็นแนวทางที่สมดุลในการคลายความกังวลและรักษาความเชื่อมั่นของประชาชน

สถิติที่เกี่ยวข้อง

  1. ปริมาณการผลิตน้ำประปา: การประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงรายผลิตน้ำประปาประมาณ 30,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อให้บริการในเขตอำเภอเมืองเชียงรายและเวียงชัย (ที่มา: รายงานประจำปี 2567, การประปาส่วนภูมิภาค)
  2. คุณภาพน้ำแม่น้ำกก: กรมควบคุมมลพิษระบุว่า ในปี 2567 แม่น้ำกกมีค่า BOD เฉลี่ย 3-5 mg/L เกินมาตรฐานน้ำผิวดินที่ 2 mg/L (ที่มา: รายงานสถานการณ์มลพิษน้ำ, 2567)
  3. การปนเปื้อนสารหนู: องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การสัมผัสสารหนูเกิน 0.01 mg/L ในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง (ที่มา: WHO Arsenic Fact Sheet, 2023)
  4. การใช้น้ำในเชียงราย: แม่น้ำกกเป็นแหล่งน้ำดิบหลักสำหรับการผลิตน้ำประปาในเขตอำเภอเมืองเชียงราย คิดเป็นร้อยละ 60 ของปริมาณน้ำที่ใช้ทั้งหมด (ที่มา: รายงานทรัพยากรน้ำ, สทนช., 2567)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • การประปาส่วนภูมิภาค
  • กรมควบคุมมลพิษ
  • องค์การอนามัยโลก (WHO)
  • สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE