Categories
FEATURED NEWS

SONP จับมือ MarTech เสริมแกร่งทักษะสื่อยุคดิจิทัล One Day Training ครั้งที่ 2

 

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2566  ณ ห้องแมนดาริน ซี ชั้น 1 โรงแรมแมนดาริน สามย่าน กรุงเทพฯ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ในโครงการความร่วมมือองค์กรสื่อขับเคลื่อนพัฒนาวิชาชีพและส่งเสริมจริยธรรมสื่อเพื่อสร้างระบบนิเวศสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดให้มีการฝึกอบรม One Day Training แลกเปลี่ยน – เรียนรู้กับกูรูออนไลน์ ประจำปี 2566 ครั้งที่ 2  หัวข้อ “ความสำคัญของ MarTech กับอุตสาหกรรมสื่อดิจิทัล ในยุค Digital Era” โดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด (MerTech)  ในการจัดอบรมในครั้งนี้ วัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาทักษะให้แก่บุคลากรด้านการผลิตข่าว การตลาด รวมทั้งการสร้างรายได้ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อในยุคดิจิทัล มีสมาชิกผู้เข้าอบรม จำนวน 58 ท่าน

การอบรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณชุตินธรา วัฒนกุล ที่ปรึกษาสมาคมฯ และบรรณาธิการบริหารข่าวออนไลน์ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) กล่าวต้อนรับวิทยากร และผู้เข้ารับการอบรม

 

          คุณชุตินธรา กล่าวว่า “ในยุคที่เทคโนโลยีสื่อสารเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เรามีข้อมูลขนาดมหาศาลที่เรียกว่า Big Data เกิดขึ้น การตลาดดิจิทัลก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็วแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีเครื่องมือมากมายเลยสำหรับการทำการตลาด สามารถจะเอามาใช้ในการวิเคราะห์ในการวางกลยุทธ์ เราจะนำคอนเท้นท์ไปถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างไร จะหากลุ่มเป้าหมาย อย่างไร และจะนำเสนอผ่านแพลตฟอร์มอะไร เราจะปรับปรุงพัฒนาตัวคอนเท้นท์ของเราให้มีประสิทธิภาพอย่างไร เครื่องมือการตลาดสามารถช่วยตอบคำถามเหล่านี้ได้ หวังว่าความรู้และทักษะที่ผู้อบรมจะได้รับจากผู้บรรยาย จะสามารถที่นำไปประยุกต์ พัฒนา ปรับปรุงเนื้อหาของเราให้มีคุณภาพ วางแผนกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นพร้อมรับมือ AI ที่กำลังจะมา”

 

            ด้าน คุณนันทสิทธิ์ นิตย์เมธา นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ กล่าวว่า “นับว่าเป็นโอกาสดีที่ผู้บริหารคนรุ่นใหม่กลุ่ม Start up ในสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาดได้มาแชร์ความรู้ ประสบการณ์ทำงาน ในด้าน MerTech เพื่อตอบคำถามของสื่อมวลชนว่า เป้าหมายการทำงานต่อจากนี้จะเป็นไปในทิศทางไหน แกนหนึ่งที่สำคัญคือ  “เรื่องของข้อมูล” เป็นสิ่งสำคัญในยุคนี้อย่างยิ่ง สามารถไปต่อยอดในด้านกลยุทธ์หรือการขายก็ได้  เช่น  ข้อมูลของเพจ “ส่องสื่อ” ที่รวมรวม Engagementโดยจัดเรียงอันดับ ทำให้เราเห็น ความสัมพันธ์ของจำนวนการโพสต์ กับจำนวนผู้ติดตามในแต่ละเพจอย่างชัดเจน ” 

 

         การอบรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณจิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ นายกสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด หรือ MarTech มาบรรยายถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีด้านการตลาดมาช่วยในการปรับปรุง หรือ สร้างวิธีการทำงานแบบใหม่ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด  “MarTech คือ เครื่องมือที่ทำให้การทำการตลาดยุคใหม่ไม่ต้องใช้วิธี Manual เราสามารถทำแบบ Automation ได้ ซึ่ง MarTech มาจากการความก้าวหน้าของการใช้  Software ที่อยู่บนคลาวด์ SAAS (Software AS A Services)  ใช้ประโยชน์ได้มากมาย อาทิเช่น การเก็บข้อมูลจาก Social การช่วยตัดสินใจในธุรกิจ (Data Driven Business) ช่วยในการเก็บข้อมูลลูกค้า การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) การทำการตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation)”

 

          คุณกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Wisesight ให้มุมมองเรื่องการทำงานที่ท้าทายในปัจจุบัน Trend ของ Social media ไม่ได้หยุดแค่ Social Media  เพราะบริบทของ Social Media หมายถึง ผู้บริโภคทั้งหมด What Next 2024 มาดูกันว่า ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง และคอนเท้นท์บน Social media มีการปรับเปลี่ยนไปอย่างไร บริบทของสังคมในภาพใหญ่ ปรับเปลี่ยนอย่างไร เพื่อให้เราสามารถวางแผนกลยุทธ์ หรือวาง Tactic ได้ว่าในปี 2024  เราควรจะปรับตัวเรื่องอะไรบ้าง การเปลี่ยนแปลงในเชิงปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Disruption ถ้าใครปรับตัวใช้งานปัญญาประดิษฐ์ได้ก่อน ก็จะสามารถสร้างความได้เปรียบในปี 2024 ค่อนข้างมาก “ในอนาคต งานจะเหมือนเดิม แต่วิธีการทำงานจะเปลี่ยน ถ้าเราทำเหมือนเดิม เราจะตกยุค”

 

          คุณณัฐกรณ์ รัตนชัยสิทธิ์  ผู้บริหารและหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท พรีดิกทีฟ  (Predictive) ผู้ให้บริการด้าน Data Intelligent กล่าวถึง “การนำเครื่องมือ เทคโนโลยีการตลาดมาใช้ ทั้งในด้าน กระบวนการ วิธีคิด และกลยุทธ์ ในฐานะสื่อจะสามารถสร้างรายได้มากขึ้นจากการใช้ข้อมูล ไม่ว่าจากการวิเคราะห์ Segmentation ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาบนเว็บไซต์ ว่าเขาต้องการอะไรบ้าง ทั้งในแกนของ นักการตลาดและแกนของผู้ใช้งาน  พวกเขามีความคาดหวังอย่างไรบ้าง เราสามารถนำข้อมูล มาสร้างมูลค่าเพิ่มในการหารายได้อย่างไร ซึ่งกระบวนการคิดจะเริ่มจาก ต้องรู้ว่าปัจจุบันข้อมูลที่มีอยู่ในองค์กร ที่จัดเก็บมาเป็นสิบๆ ปีมีตรงไหนบ้าง นำมาสร้างมูลค่าให้เราได้ การนำข้อมูลไปสร้างธุรกิจใหม่ๆ หรือสามารถ Monetized เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกิดขึ้น เช่น การทำ CPM ถ้าเรานำข้อมูลมาวิเคราะห์แยกแยะประเภทของข้อมูลให้ละเอียดมากขึ้น เราก็จะอาจจะขายได้ในมูลค่าที่มากกว่าเดิม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เราวางกลยุทธ์ไว้ สามารถนำไปสร้างรายได้อย่างไรบ้าง ข้อมูลไม่ได้มาฟรี ๆ คุณต้องลงทุนเพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้า ”

 

          คุณภาวัต พุฒิดาวัฒน์  ผู้บริหาร บริษัท โกเซล  (Gosell) สตาร์ทอัพผู้ให้บริการด้าน ระบบจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าออนไลน์ กล่าวถึงการทำการตลาด  Ecommerce & Affiliated Marketing ว่า สื่อทุกค่ายมี Follower หรือผู้ติดตามจำนวนมากอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ยังขาดไปคือ การเพิ่มช่องทางการขาย เช่นการทำ Affiliate การเพิ่มรายได้จากฝั่ง E commerce นำไปปรับใช้กับธุรกิจสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตมากขึ้น และแพลตฟอร์มที่น่าสนใจที่สุดในเวลานี้คือ TikTok ที่ Disruption วิธีการขาย Affiliate แบบเก่า กลายมาเป็นรูปแบบของคลิปวีดีโอ ซึ่งสามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมากให้กับกลุ่ม Influencer

 

          คุณชนกานต์ ชินชัชวาล ผู้บริหาร บริษัท Robolingo (ZWIZ.AI) ผู้ให้บริการระบบ AI Chat Bot และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก บรรยายในหัวข้อ “ Social Commerce” แนะการหารายได้ บนช่องทาง Social Media เช่น Facebook  Line, IG, TikTok และ การนำ Automation Tool  มาช่วยในการขาย เช่น ออกรายการทีวีแล้วปิดการขายผ่าน Line ผ่าน Chat Facebook มีตัวช่วยเยอะมาก ถ้าสื่อบวกกับ MarTech ในเชิงการใช้เครื่องมือต่าง ๆ จะช่วย Brand และผู้ประกอบการ เรื่องยอดขายได้มากขึ้น เพิ่ม Reach การเข้าถึงได้มากขึ้น การออกแบบโครงสร้าง Chatbot ให้ดี ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และนำไปสู่การเพิ่มยอดขายได้

 

          คุณอัจฉริยะ ดาโรจน์ ผู้บริหารบริษัท AIYA บรรยายในหัวข้อ Proximity Marketing หรือการทำการตลาดแบบใกล้ชิด โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น  การทำ Location base Marketing ใน Line Application เป็นการตลาดที่น่าสนใจ มุ่งเน้นไปที่การเจาะกลุ่มลูกค้าตามโลเคชั่นเฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง สามารถวัดสถิติได้ เป็นการสื่อสารที่ไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถสร้างผู้ติดตามใน Line

กล่าวโดยสรุป การใช้เทคโนโลยีในการทำการตลาดยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจ มีความสำคัญต่อการปรับตัวขององค์กรสื่อ เพื่อมองหาโอกาสในการหารายได้เพิ่ม และเรียนรู้เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงเนื้อหา เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เล็งเห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการพัฒนาบุคคลากรองค์กรสื่อให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น และโครงการ One Day Training เป็นหนึ่งในโครงการที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพดังกล่าวให้เกิดขึ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

SONP ร่วมกับกองทุนสื่อฯ เชิญ Tellscore เสริมทักษะยุคดิจิทัล

 

 เมื่อวันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2566 สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดโครงการฝึกอบรม One Day Training แลกเปลี่ยน – เรียนรู้กับกูรูออนไลน์ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ Digital Journalism in the context of Influencer Economy Business Model & Monetization เพื่อเสริมสร้างพัฒนาทักษะให้แก่บุคลากรด้านงานข่าวให้สอดคล้องกับการปรับตัวขององค์กรสื่อบนความเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อในยุคดิจิทัล โดยเชิญ Tellscore เอเจนซี่ ด้าน Influencer marketing ครบวงจร มาร่วมแลกเปลี่ยนให้ความรู้ในการอบรมครั้งนี้

คุณนันทสิทธิ์ นิตย์เมธา นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ กล่าวว่า การอบรมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นทั้งหมด 4 ครั้งในหัวข้อที่แตกต่างกันไป โดยสมาคมมุ่งหวังเพื่อพัฒนาทักษะ และยกระดับให้สมาชิกผู้ผลิตข่าวออนไลน์ได้รับความรู้ใหม่ในยุคดิจิทัล และสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันกับเทคโนโลยีด้านการสื่อสารที่มีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงให้สมาชิกพัฒนาบุคลากรขององค์กรจนเองในการสร้างเนื้อหาการายงานข่าวที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้าน คุณสุวิตา จรัญวงศ์ CEO & CO – Founder, Tellscore ร่วมบรรยายในหัวข้อ Current & Trend Influencer Economy and The New Age Journalism โดยระบุว่า สื่อในยุคดิจิทัลต้องรับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ได้มีเพียงการรับมือกับแพลตฟอร์มที่เกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา แต่ยังต้องแข่งขันกับ Influencer ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในมุมธุรกิจที่บางแบรนด์สินค้าหันมาใช้บริการ Influencer ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนหรือ Influencer ยังมีความท้าทายเดียวกันคือการสร้างคอนเทนต์อย่างสร้างสรรค์ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำสื่อยุคดิจิทัล

“การผลิตคอนเทนต์ที่แข็งแรงยังเป็นหัวใจสำคัญในการทำสื่ออย่างยั่งยืน และอยากให้มองแพลตฟอร์มเป็นเพียงภาชนะใส่คอนเทนต์เท่านั้น ในอนาคตยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นการเล่าเรื่องที่ดียังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” คุณสุวิตา กล่าว

ขณะที่ คุณอัยยา ตันติเสรีรัตน์ Head of Partnership & Co – Managing Director, Tellscore บรรยายในหัวข้อ Opportunity in Digital Journalism The Rise of Content Creator Economy โดยระบุตอนหนึ่งว่า พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียที่เปลี่ยนไป ทำให้ Influencer มีบทบาทสำคัญมากขึ้น เช่น สร้างความเชื่อมั่นและเชื่อถือให้กับผู้สนใจมากกว่าแบรนด์พูดเอง , เล่าเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายทำให้เข้าถึงผู้คนได้ง่าย และรวมกลุ่มคนให้เกิดเป็นชุมชนการสื่อสาร ซึ่งทำให้เกิดอิทธิพลมากขึ้น

โดยปัจจุบันมีคำกล่าวว่า ใครๆ ก็สามารถเป็น Influencer ได้ แต่สื่อมวลชนและองค์กรสื่อถือว่ามีข้อได้เปรียบกว่าคนอื่น โดยเฉพาะการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว การกลั่นกรองข้อมูล เพื่อนำเสนอแต่ข้อเท็จจริง และยังมีความน่าเชื่อถือภายใต้กรอบจรรยาบรรณทางวิชาชีพ นอกจากนี้ยังหวังว่าในอนาคตจะเห็นสื่อมวลชนในยุคดิจิทัลจะรับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นในฐานะ Content Creator หรือ Influencer ก็ตาม

นอกจากนี้ในการฝึกอบรมยังได้รับเกียรติจาก คุณพิชิตชัย โพธิ์ศิริ หรือ เบลล์ Influencer แพลตฟอร์ม Tiktok เจ้าของช่อง @somethingjingglebell มาร่วมแชร์ความรู้ เทคนิคการเล่าเรื่องผ่านคลิปวิดีโอสั้นให้น่าสนใจ

คุณพิชิตชัย กล่าวว่า ปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำคลิปวิดีโอได้ง่ายมากขึ้น และปฏิเสธไม่ได้ว่าคลิปแนวตั้ง ยังคงเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจในเวลานี้ และคาดว่าจะยังได้รับคาวมนิยมต่อเนื่องในปีหน้า

ทั้งนี้มี 3 แนวคิดสำคัญที่จะทำให้การผลิตคลิปวิดีโอมีประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบด้วย 1.มนุษย์ชอบรู้เรื่องของมนุษย์เป็นแนวคิดที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกคอนเทนต์ได้เป็นอย่างดี 2.คำนึงถึงความยาวของคลิป ต้องไม่สั้นหรือยาวเกินไป และ 3.สร้างเนื้อหาที่ทำให้เกิดความรู้สึกร่วมกันของผู้ชม เป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้คอนเทนต์มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

สื่อออนไลน์ภูมิภาคอาเซียน แลกเปลี่ยนแนวทาง การอยู่รอด งาน Regional Seminar 2023

 

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดการประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความเห็นระดับภูมิภาค (Regional Seminar) ในหัวข้อ “ความอยู่รอดของสื่อออนไลน์ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง” หรือ Survival of Online News Providers in the Changing World เป็นการรวมตัวกันของตัวแทนผู้ผลิตสื่อออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ที่มาร่วมแลกเปลี่ยน หารือเกี่ยวกับปัญหา สถานการณ์และแนวทางการทำธุรกิจสื่อออนไลน์ในภูมิภาคนี้ โดยได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรม ปทุมวัน ปริ๊นเซส และถ่ายทอดสดออนไลน์ทางเฟซบุ๊กสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ www.fb.com/SONPThai และไทยพีบีเอส www.fb.com/ThaiPBS

นายระวี ตะวันธรงค์ นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยเน้นย้ำว่า  ภูมิทัศน์สื่อในภูมิภาคอาเซียนปรับเปลี่ยนไปอย่างมากโดยเฉพาะพฤติกรรมผู้รับสารที่ปรับเปลี่ยนไปโดยเปิดรับข้อมูลข่าวสารผ่านทาง Key Opinion Leader  หรืออินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการรับข่าวสารเป็นอย่างมาก ดังนั้นสื่อมวลชนในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งผู้ที่เข้าร่วมงานจะสามารถแลกเปลี่ยนแนวคิด พร้อมทั้งเสนอแนวทางต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาการผลิตสื่อที่เน้นถึงคุณภาพของคอนเทนต์ ตลอดจนร่วมกันหาแนวทางในการสร้างโมเดลธุรกิจ สำหรับหารายได้ให้องค์กรสื่อมีความยั่งยืนทางธุรกิจ  โดยในงานนี้ได้สรุปถึงที่มาและภาพรวมของพัฒนาการของอุตสาหกรรมสื่อออนไลน์ในภูมิภาคอาเซียน โดยนายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ที่ปรึกษาและผู้ก่อตั้งสมาคมฯ อีกด้วย

การสัมมนาดังกล่าว ได้เชิญตัวแทนจากสื่อออนไลน์ชื่อดังในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ได้แก่ ประเทศไทย เมียนมาร์ เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา และลาว   ร่วมหารือใน 3 หัวข้อหลัก คือ หัวข้อที่ 1 “กลยุทธ์ด้านเนื้อหา (Content Strategy)” นำเสนอการพัฒนาการนำเสนอเนื้อหาและกลยุทธ์ในมุมมองใหม่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นให้กับสาธารณชน โดย Min Thaw Htut, Executive Director of Eleven Media Group เมียนมาร์,  Thong Sovan Raingsey, General Director of Koh Santepheap Media จากกัมพูชา และ Somsack Pongkhao, News Editor of Vientiane Times จากลาว หัวข้อที่ 2 “โมเดลธุรกิจ (Business Model)” ศึกษาสื่อออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงการออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่อย่างไร เพื่อดึงดูดผู้อ่านและผู้ชมมากขึ้น ในขณะที่แพลตฟอร์มทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลง ร่วมเสวนาโดย Do Min Thu  Executive,  VietnamPlus Online News จากเวียดนาม , Rosette Santillan Adel, Online Writer/Editor of Philstar.com  จากฟิลิปปินส์ และ Adek Media Roza Ph.D .Director of Katadata Insight Center จากอินโดนีเซีย  โดยทั้งสองหัวข้อ ร่วมดำเนินรายการเสวนาโดย น.ส.ณัฎฐา โกมลวาทิน ผู้อำนวนการ Thai PBS World จาก Thai PBS  และหัวข้อที่ 3  “โอกาสการสร้างรายได้ (Monetization Opportunity)” โอกาสใหม่ ๆ และการพัฒนารูปแบบใหม่ ๆ ของการหารายได้ที่แต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน โดย  Chia Ting Ting,  Chief Commercial Officer Malaysiakini จากมาเลเซีย และนายระวี ตะวันธรงค์ นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์  ดำเนินรายการโดย น.ส.ธันย์ชนก จงยศยิ่ง บรรณาธิการ TNN World

ตัวแทนสื่อจากมาเลเซียกล่าวว่า สื่อ ผลิตภัณฑ์ และการโฆษณาเกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดด การกำหนดจุดยืนของแบรนด์ในระดับโลกเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะสื่อจำนวนมากลงไปแข่งขันในระดับนานาชาติ นอกจากนั้น สื่ออาจต้องเน้นให้บริการลูกค้าในด้านการบริหารชื่อเสียง การให้คำแนะนำด้านการสื่อสาร การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า รวมทั้งการให้ความรู้กับสาธารณชนด้วย  การจำแนกฐานลูกค้า การเข้าใจลูกค้าแบบลึกซึ้ง การเข้ากันได้แบรนด์ลูกค้ากับสื่อของเราก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงเช่นเดียวกัน

ขณะที่ตัวแทนจากประเทศไทยได้ให้ความเห็นว่า “สื่อต้องหากลุ่มเฉพาะของตัวเองให้เจอ ส่วนเนื้อหาที่ Google ต้องการในปัจจุบัน  คือเรื่องเกี่ยวกับการให้ความหวัง สุขภาพจิต สิ่งแวดล้อม และการข่มขู่คุกคามจะได้รับการผลักดันมากกว่าเรื่องอื่น ๆ

ตัวแทนสื่อจากลาว กล่าวว่า ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 สื่อมวลชนลาวต้องปรับตัวอย่างมากเพื่อความอยู่รอด แต่เดิมหารายได้จากการขายพื้นที่โฆษณาบนสื่อสิ่งพิมพ์ ต้องปรับตัวหารายได้จากออนไลน์ โดยผู้บริโภคข่าวสารในลาวที่รับข่าวสารผ่านระบบออนไลน์มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ตัวแทนจากเมียนมาร์ กล่าวว่า ภายในประเทศยังคงมีการควบคุมสื่ออย่างเข้มงวด จนทำให้สื่อหลาย ๆ รายต้องปิดตัวลง เป็นเรื่องธรรมดาที่ชาวพม่าต้องใช้ VPN ในการเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกปิดกั้น สื่อมวลชนพม่าจำนวนมากถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และกักขังจากการเสนอเนื้อหาหรือความจริงที่ไม่ถูกใจรัฐ แม้จะยากลำบากในการทำสื่อขนาดไหน ทางตัวแทนพม่าได้ให้ข้อคิดไว้ว่า “ถึงแม้คุณจะถูกห้ามไม่ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องทำเรื่องไม่ดีแทน”

ด้านตัวแทนจากกัมพูชา ให้คำแนะนำว่า “การแบ่งกลุ่มชุดเนื้อหาให้เหมาะกับกลุ่มเฉพาะ (Niche) เป็นสิ่งที่ควรทำ การทำข่าวในปัจจุบันเป็นเรื่องที่เน้นความเร็ว และควรมีความครอบคลุมหลากหลายกลุ่มผู้ชม และเห็นว่า COVID-19 ได้กระตุ้นให้สื่อต้องปรับกลยุทธ์อย่างมากเพื่อความอยู่รอด

ตัวแทนจากฟิลลิปปินส์ กล่าวว่า สื่อมวลชนนำเสนอคอนเทนต์ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าการเมือง สังคม กีฬา ในช่วงนี้สื่อจะผลิตเนื้อหาที่สั้นลงให้เข้ากับพฤติกรรมผู้รับสาร และเน้นไปที่การนำเสนอแบบไลฟ์สด หรือ Real Time โดยเนื้อหาที่ครองใจคนได้ คือเนื้อหาที่มีทั้งภาพและเสียง ( Visualization)  พร้อนแนะนำว่า การทำคอนเทนต์ให้ตรงใจกับผู้รับสารจะเป็นประโยชน์กับตัวสำนักข่าวเอง ส่วนการที่จะไปต่อสู้กับโซเชียลมีเดีย หรือเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ องค์กรสื่อเองต้องมีความน่าเชื่อถือและทำหน้าที่เป็นสุนัขเฝ้ายามของสังคม รักษาผลประโยชน์ให้ประชาชน

ตัวแทนจากอินโดนีเซียได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับโมเดลธุรกิจว่า “การหาทุนในการทำข่าวเชิงลึกเป็นเรื่องที่ยาก สื่อต้องมีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยน อีกทั้งสื่อยังต้องมีการคิดกลยุทธ์ทางธุรกิจก่อนการผลิตเนื้อหา ไม่เช่นนั้นการหารายได้จะลำบากอย่างยิ่ง”  

นอกจากนี้ยังได้จัดการสนทนาแบบ Roundtable ในหัวข้อ “The Future of News Website in ASEAN” โดยเปิดโอกาสให้วิทยากรทั้งหมด ​ได้แสดงความคิดเห็นและถาม-ตอบร่วมกับผู้เข้าร่วมงานกว่า 40 คน

ผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ประกอบด้วย บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน), โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), มูลนิธิเอสซีจี,  สายการบินไทยแอร์เอเชีย, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)  ทั้งนี้สามารถติดตามชมบรรยากาศและเนื้อหาตลอดการประชุมย้อนหลังได้ทาง www.facebook.com/SONPThai และ YouTube Thai PBS : ช่วงที่ 1 http://youtu.be/9jpqD9eFJok , ช่วงที่ 2 https://youtu.be/ylM3Ql03LBY

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์จัดสัมมนา ระดับสื่อดังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 12 มิ.ย. นี้

บรรณาธิการและผู้บริหารจากหลากสื่อดังบนออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมาถกกันในหัวข้อ “ความอยู่รอดของสื่อออนไลน์ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง” ในงานสัมมนาระดับภูมิภาคในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ จัดโดย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ร่วมกับ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

ในงานสัมมนา หัวข้อ “Survival of Online News Providers in the Changing World” ที่จะจัด   ณ โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส จะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสและเป็นการรวมตัวกันของผู้ผลิตสื่อออนไลน์จากประเทศไทย พม่า เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา และลาว ที่จะมาแลกเปลี่ยนและถกเกี่ยวกับปัญหา เคล็ดลับ และแนวทางการทำธุรกิจสื่อออนไลน์ในภูมิภาคนี้

นอกเหนือนี้ สัมมนานี้จะมีการถกกันเรื่องกลยุทธการนำเสนอข่าว รูปแบบการทำธุรกิจ และวิธีการสร้างรายได้จากการทำธุรกิจสื่อออนไลน์อีกด้วย

ร่วมสนับสนุนการจัดงาน โดย มูลนิธิเอสซีจี, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน), โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส, สายการบินไทยแอร์เอเชีย, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.sonp.or.th

 

Explore how online news providers survive in this changing world

 

Many editors and executives from major southeast Asia online news providers will be joining a seminar in Bangkok organized by ONLINE NEWS PROVIDERS ASSOCIATION and THAI MEDIA FUND on June 12th discussing how to survive and do business today.

 

This “Survival of Online News Providers in the Changing World” seminar will be staged at Pathumwan Princess Hotel in Bangkok. It will be an open stage dozens of major news organizations from Thailand, Myanmar, Vietnam, Malaysia, Philippines, Indonesia, Cambodia, and Laos to share and discuss about problems, tips, and how to do news-related business in this region.

 

Apart from the above, attendees will be discussing content strategies, business models, and monetization opportunities related to news providing business.

Co-sponsored by SCG Foundation, Bangkok Bank Public Company Limited, MBK Public Company Limited, Pathumwan Princess Hotel, Thai AirAsia, charoen pokphand foods public company limited, Gulf Energy Development Public Company Limited

 

More info: https://www.sonp.or.th

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : www.sonp.or.th

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

กรมราชทัณฑ์ลงนามร่วมมือสร้างสรรค์ด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง

ในวันพุธที่ 7 มิถุนายน 2566 เวลา 10.00 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ระหว่างกรมราชทัณฑ์ กับ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีนางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นางสาวรวิวรรณ จตุรพิธพร ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์  สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงยุติธรรม เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วมฯ ณ ห้องสนฉัตร ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม

ในการนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีพันธกิจหลักในการส่งเสริม สนับสนุนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการผลิตและพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยให้งบประมาณ ความรู้ และเทคนิคไปทำสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ออกเผยแพร่ จึงขอขอบคุณทั้งสองหน่วยงานที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงที่จะร่วมมือซึ่งกันและกัน อันเป็นประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติต่อไป และขอให้การดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงนี้ประสบความสำเร็จทุกประการ

นายอายุตม์ฯ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ก้าวพลาด ระหว่างกรมราชทัณฑ์ กับ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ในการนี้ ขอขอบคุณผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่ได้ให้การส่งเสริมสนับสนุนภารกิจด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ก้าวพลาด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่สร้างประโยชน์ยกระดับการพัฒนา สร้างโอกาส สร้างการยอมรับจากสังคมชุมชน และครอบครัวให้กับผู้พ้นโทษ “เพื่อคืนคนดีมีคุณค่าสู่สังคม” 

ดร.ธนกรฯ กล่าวว่า ไม่เพียงแต่เราที่ลงไปสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างความรู้ ทักษะให้กับผู้ต้องขังทั่วประเทศ แต่กิจกรรมการใช้สื่อเป็นเครื่องมือที่จะเกิดขึ้น เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับสังคมได้เรียนรู้พร้อมๆ กันไปด้วย คนภายนอกที่เห็นสื่อจะเข้าใจปัญหาของคนที่เคยก้าวพลาด ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาพฤตินิสัยจะได้มีแรงบันดาลใจ และเห็นว่าสังคมให้โอกาส การที่ได้เห็นว่าสังคมให้โอกาสเป็นการเปิดพื้นที่ให้ได้มีที่ยืน เมื่อได้มีที่ยืนจะเห็นคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และพร้อมที่จะกลับมาคืนสิ่งดีๆ ให้กับสังคม 

สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากข้อสั่งการท่านรองนายกฯ มอบหมายให้กรมราชทัณฑ์จัดทำสื่อ วิดีทัศน์ ภาพยนตร์ หรือละคร ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพัฒนาพฤตินิสัยและปรับทัศนคติเชิงบวกให้แก่ผู้ก้าวพลาด ซึ่งสื่อในรูปแบบของวิดีทัศน์หรือภาพยนตร์ หรือคลิปสั้น สามารถที่จะสื่อสารถ่ายทอดความตั้งใจ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มผู้รับชมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อที่สร้างสรรค์จะสามารถสร้างภาพลักษณ์เกี่ยวกับภารกิจของหน่วยงานในเชิงบวกได้ รวมถึงเป็นสื่อกลางที่จะจุดประกายความคิดที่จะสร้างพลังเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่จากสังคมภายนอกให้กับผู้ก้าวพลาด และนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขพัฒนาตนเอง ให้พร้อมที่จะกลับเข้ามายืนในสังคม ในฐานะของพลเมืองที่ดีของประเทศต่อไปได้ 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงยุติธรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News