คอลัมน์ #ฅนเจียงฮาย EP.05 : เคยโดนว่า “เต้นกินรำกิน” ตอนนี้มันเป็นอาชีพไปแล้ว
ฅนเจียงฮาย : ครูกร้อ ครูสอนเต้น
เป็นใครมาจากไหน เล่าให้ฟังหน่อย? : ชื่อ “ครูก้อ” ครับ หรือว่าตะกร้อครับ เคยเรียนที่ ท.6 (โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย) มาก่อน แล้วก็ย้ายไปที่ มฟล. หรือ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ก็จบเป็นนักศึกษาสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศครับ เกี่ยวกับไอที ไม่ได้เกี่ยวกับสายเต้นเลย เราเรียนไม่ได้เป็นความชอบส่วนตัว แต่เป็นความชอบของพี่สาวครับ แบบครอบครัวเมื่อก่อนก็คือเรารู้สึกว่า พี่เรียนสายอาชีพทางบ้านก็คิดว่าน่าจะทำงานได้ดีในสายนี้เราก็เลยเรียนแต่พอเราเข้ามหาวิทยาลัยเราก็รู้สึกว่าตัวเองชอบสิ่งอื่นที่น่าสนใจมากกว่านั้น ซึ่งมันก็คือ ‘การเต้น’ ที่เรารู้สึกว่าเราหลงรักเสียงเพลง ก็เลยผันตัวเองมาลองเต้นดูครับ
ที่บ้านก็มีไม่เข้าบ้างครับ เราเต้นเพื่ออะไรหรือว่าจุดมุ่งหมายเราที่เราจริงจังเนี่ยเพื่ออะไร? แบบนี้ครับ มันก็เหมือนมีคนบอกว่าเป็นการ ‘เต้นกินรำกิน’ ยังมีคำนี้อยู่นะครับมันมีมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว เรารู้สึกว่าจริง ๆ แล้วมันก็เป็นอาชีพได้นะในวันนึง แต่เมื่อก่อนคุณพ่อคุณแม่อาจจะยังไม่เข้าใจครับ
เราก็พิสูจน์ตัวเองแล้วก็เต้นมาเรื่อย ๆ จนเราได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่ง Hip Hop International ครับ ปี 2014 ได้รางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 ครับ ได้ร่วมเป็นตัวแทนประเทศในทีมใหญ่ที่เป็นการรวมตัวกันของหลาย ๆ ทีม แข่งที่ Las Vegas ปี 2015 ได้รางวัล อันดับที่ 4 ครับ ได้เป็นตัวแทนไปแข่งที่ San Diego
พอได้รางวัลมาพ่อแม่ก็เข้าใจ ก็ปล่อยให้ทำเต็มที่เลยครับ เราได้แชมป์เราก็จะไปแข่งที่อเมริกามาอีกสองปี กับครูยุ้ย ครูเมฆ เจ้าของสถาบัน MY DANCE นี่แหละ แต่ก็ไม่ได้รางวัลครับ เพราะที่อเมริกา การแข่งขันมันสูงมากครับ ตอนนี้เราเริ่มผันตัวเองมาเป็นโค้ชด้วย ลงแข่งบ้างบางครั้งบางคราวครับ
คือผมเป็นคนเชียงรายมาดั้งเดิม แต่ว่ามันมีช่วงที่เราไปทำงาน คิดจะไปเต้นที่กรุงเทพฯ เป็นแบบผู้ช่วยพวกในบริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ อย่างแกรมมี่ครับ เป็นผู้ช่วยของพี่ที่ทำงานสายเต้นด้วยกันนี่แหละ แต่เราก็อยู่ได้ ประมาณเดือนนึงแล้วก็กลับ ด้วยความรู้สึกว่าพอเราไปอยู่เบื้องหลังอะมันยังไม่ใช่ตัวตนเราครับ เพราะเราอาจจะชอบเต้นมาก ๆ ด้วยแหละ ชอบสอนด้วย เลยรู้สึกว่ามาทำสิ่งที่เราชอบตั้งแต่ต้นดีกว่า แล้วสอนเต้นนี่ประมาณเกือบจะสองปีแล้วครับ มีทั้งวัยเด็กน้อยสุดก็ประมาณ 3 ขวบ มากสุดอยู่ที่ 47 ปี เกือบ 50 ปี ก็คิดว่าจะทำไปเรื่อย ๆ เพราะชีวิตเราอยู่กับการเต้นและเราก็ชอบมากครับ
ปกติตอนแรกเรารู้สึกว่าเราไม่ชอบการสอนตั้งแต่แรก แต่พอทำไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกว่าการสอนผู้คนมันเปลี่ยนผู้คนได้ เราเห็นเขายิ้ม ได้เห็นเขามีความสุขกับการเต้น เราพอใจละ เราไม่ต้องการอะไร ไม่ต้องเก่งก็ได้แต่ให้เขาได้เปลี่ยนไปทำในสิ่งที่เขาชอบ เพลงที่เขาชอบ เหมือนเดี๋ยวนี้คนชอบที่จะได้ฟังเสียงเพลงหรือว่าอยากให้การเต้นมาช่วยบําบัดเพื่อให้ตัวเองมีความสุขมากขึ้น สิ่งนี้ทำให้เรารู้สึกว่า เออ เขามีความสุขขึ้นจริง ๆ กับเสียงเพลงและการที่ได้มาเต้นกับเรา มันทำให้คนดีขึ้นได้ ผมก็โอเคแล้ว มันมีความสุข รู้สึกถูกเติมเต็มมาก ๆ เลยครับ
อย่างเช่นเคสนึง มีนักเรียนเขามาเรียนกับเรา คือเขาอกหัก แล้วเขาบอกว่าอยู่คนเดียวไม่ไหว รู้สึกว่าเหมือนจะมีอาการซึมเศร้า เขาก็เลยออกมาเรียนเต้น ออกมาแสดงตัวตน สุดท้ายเขาก็มีความสุขขึ้น รู้สึกหลุดพ้นไม่ต้องคิดอะไร ดังนั้นตรงนี้มันโอเคที่สุดแล้วสําหรับเราครับ
สิ่งที่อยากเปลี่ยนมากที่สุด? : ถ้าถามว่าอยากจะเปลี่ยนอะไร อยากเปลี่ยนให้ทุกคนยอมรับในการเต้นมากขึ้นครับ เพราะว่ามันยุคใหม่แล้วมันต่างจากเมื่อก่อนเยอะ ไม่มีใครมาดูถูกแล้วว่าการเต้นมันไม่มีคุณค่า ทุกอย่างทุกอาชีพมันมีคุณค่าของมันอยู่แล้ว การเต้นก็เหมือนกันครับ
ฅนเดินเรื่องโดย : ครูกร้อ ครูสอนเต้น
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : MY Dance Academy