Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายเร่งเครื่องพัฒนาบุคลากร สู่การทำงานมืออาชีพรับใช้ประชาชน

เชียงรายเร่งพัฒนาบุคลากร เสริมศักยภาพการทำงานสู่มืออาชีพ

เชียงราย, 7 กุมภาพันธ์ 2568 –   ณ ห้องประชุมธรรมปัญญา ชั้น 2 อบจ.เชียงราย] นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัด อบจ.เชียงราย ปฏิบัติหน้าที่ นายก อบจ.เชียงราย มอบหมายให้นางฐิรญาภัทร์ ธีติโรจนกาญจน์ ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ อบจ.เชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพการทำงานอย่างมืออาชีพ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีคณะวิทยากรและผู้เข้าอบรมจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมโครงการ

การบรรยายช่วงเช้า: แผนพัฒนาท้องถิ่นและการบริหารสัญญา

ในช่วงเช้าของการอบรม นายสุกรรณ์ คำภู ผอ.กลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่น ได้บรรยายในหัวข้อ “การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น และการจัดทำโครงการ” โดยเน้นถึงความสำคัญของการวางแผนพัฒนาที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และการจัดทำโครงการที่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม

ต่อมา นางฐิรญาภัทร์ ธีติโรจนกาญจน์ ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ อบจ.เชียงราย ได้บรรยายในหัวข้อ “สังเกตการบริหารสัญญา การลดความเสี่ยงของงานก่อสร้าง” โดยให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารสัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในงานก่อสร้าง

การบรรยายช่วงบ่าย: การบริหารสัญญาและการใช้เงินสำรองจ่าย

ในช่วงบ่าย ผอ.กองคลัง อบจ.เชียงราย ได้บรรยายในหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสัญญาและการเงิน ได้แก่

  1. การบริหารสัญญา
  2. การแจ้งหยุดงาน การแจ้งเข้างาน การแก้ไขสัญญาจ้าง
  3. การตรวจรับโครงการ
  4. แนวทางการใช้เงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินและความจำเป็นเร่งด่วน

โดยเน้นถึงความสำคัญของการบริหารสัญญาอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเป็นไปตามระเบียบ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประชาชน

อบจ.เชียงราย มุ่งพัฒนาบุคลากรให้เป็นมืออาชีพ

อบจ.เชียงราย เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ ที่มีภารกิจในการพัฒนาครอบคลุมทั้งจังหวัดเชียงราย การจัดบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะให้เกิดการตอบสนองความต้องการของประชาชน บุคลากรจึงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจขององค์กรให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด

ดังนั้น อบจ.เชียงราย จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีทักษะ ความรู้ ประสบการณ์ และขีดความสามารถในการทำงานที่ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาบุคลากรให้ครอบคลุมทุกประเภท ทุกระดับ ให้ทำงานอย่างมืออาชีพ มีความรู้ความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ ปฏิบัติงานได้ตามมาตรฐานอย่างถูกต้อง สามารถประกันคุณภาพของงานที่ทำได้ รวมทั้งมีไหวพริบในการจัดการ แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และทำงานอย่างจริงจังโดยมุ่งมั่นตั้งใจให้เกิดผลงานที่ดีที่สุด

โครงการพัฒนาศักยภาพการทำงานอย่างมืออาชีพในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ อบจ.เชียงราย ในการพัฒนาบุคลากร เพื่อยกระดับการทำงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างดีที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

เชียงราย เริ่มสมรสเท่าเทียมไทย มอบสิทธิเท่าเทียมทุกอัตลักษณ์ทางเพศ

กฎหมายสมรสเท่าเทียมเริ่มบังคับใช้ คู่รักทั่วไทยร่วมจดทะเบียนวันแรก

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 นับเป็นวันที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เมื่อ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ เปิดโอกาสให้บุคคลทุกอัตลักษณ์ทางเพศสามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างเท่าเทียมภายใต้กฎหมายไทย

จุดเริ่มต้นของวันสำคัญ

กฎหมายสมรสเท่าเทียมประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อเดือนกันยายน 2567 และมีผลบังคับใช้ในวันนี้ โดยในช่วงที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย ได้เร่งปรับแก้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น การเปลี่ยนถ้อยคำในเอกสารราชการจาก “ชาย-หญิง” เป็น “บุคคล” และ “สามี-ภริยา” เป็น “คู่สมรส”

กิจกรรมวันแรกของกฎหมายสมรสเท่าเทียมเริ่มต้นที่ ที่ว่าการอำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ซึ่งคู่รักคู่แรกได้ทำการจดทะเบียนสมรสต่อหน้านายบดินทร์ เทียมภักดี นายอำเภอเวียงชัย และเจ้าหน้าที่งานทะเบียน โดยมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความยินดี

Kick Off การจดทะเบียนสมรสทั่วประเทศ

นายบุญส่ง ตินารี นายอำเภอเมืองเชียงราย เปิดเผยว่า การจดทะเบียนสมรสวันแรกนี้จัดขึ้นในที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 แห่งทั่วประเทศ สำนักงานเขต 50 เขตในกรุงเทพมหานคร และสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ โดยกิจกรรมเฉลิมฉลองวันสำคัญนี้จัดขึ้นทั้งในกรุงเทพมหานครและพื้นที่อื่น ๆ เช่น ที่กรุงเทพฯ มีคู่รักกว่า 300 คู่ร่วมจดทะเบียนสมรส

สิทธิและประโยชน์จากสมรสเท่าเทียม

กฎหมายสมรสเท่าเทียมมอบสิทธิเสมือนคู่สมรสที่เป็นชาย-หญิง เช่น

  • การจัดการทรัพย์สินระหว่างคู่สมรส
  • สิทธิในการหย่าและการดูแลบุตร
  • การให้ความยินยอมในการรักษาพยาบาล
  • สิทธิได้รับสวัสดิการจากรัฐ
  • การอุปการะบุตรบุญธรรม

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกล่าวว่า การจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งนี้ ไม่เพียงแต่แสดงถึงความเท่าเทียมในสังคมไทย แต่ยังสะท้อนภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับนานาชาติว่าเป็นประเทศที่เคารพในสิทธิมนุษยชน

เส้นทางสู่กฎหมายสมรสเท่าเทียม

การต่อสู้เพื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมเริ่มต้นมานานกว่าทศวรรษ โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบในวาระที่หนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรในเดือนธันวาคม 2566 และผ่านวุฒิสภาในเดือนมิถุนายน 2567 ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา

การเตรียมตัวจดทะเบียนสมรส

ผู้ที่ประสงค์จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมต้องเตรียมเอกสาร ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง หรือสำเนาหนังสือเดินทาง หนังสือรับรองโสด (กรณีสมรสกับชาวต่างชาติ) ใบหย่าตัวจริง (กรณีเคยจดทะเบียนสมรส) และพยาน 2 คน พร้อมบัตรประชาชน

ผลกระทบและความสำคัญ

การเปิดให้จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมเป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงความเท่าเทียมและยอมรับในความหลากหลายทางเพศ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับคู่สมรสในด้านสิทธิกฎหมายและสวัสดิการ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นักเรียนอนุบาลเชียงรายมอบผ้าห่มช่วยเด็กยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร

นักเรียนอนุบาลเชียงรายมอบผ้าห่มกันหนาวช่วยเด็กด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดาร

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย (หลังเก่า) อ.เมืองเชียงราย นายพิษณุ คามวาสี ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ครู พี่เลี้ยง และนักเรียนสายชั้นปฐมวัย จำนวน 300 คน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งมอบผ้าห่มกันหนาวจำนวน 200 ผืน ให้แก่นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ขาดแคลนในถิ่นทุรกันดาร ตามโครงการ ทำดีเพื่อพ่อสานต่อ 89 ล้านความดี”

นายชรินทร์ ทองสุข กล่าวชื่นชมความเสียสละของเด็กๆ และโรงเรียนอนุบาลเชียงราย พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปลูกฝังคุณธรรมขั้นพื้นฐานในครอบครัวและโรงเรียน โดยระบุว่าความเสียสละแม้ในเรื่องเล็กน้อยจะส่งผลให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นบุคคลคุณภาพในอนาคต พร้อมมอบของที่ระลึกเพื่อขอบคุณความเสียสละและน้ำใจของนักเรียนทุกคน

ด้านนายพิษณุ คามวาสี กล่าวว่า กิจกรรมออมเงินเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวเชียงรายในโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้แก่เด็กนักเรียนชั้นปฐมวัย โดยเฉพาะเรื่องการเสียสละและการแบ่งปัน รวมถึงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนในด้านความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ ความกตัญญู และความประหยัด

การมอบผ้าห่มกันหนาวสร้างพลังบวกในชุมชน

กิจกรรมนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการส่งเสริมให้เด็กๆ เข้าใจถึงคุณค่าของการช่วยเหลือผู้อื่น และเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีในชุมชน ซึ่งผ้าห่มจำนวน 200 ผืน จะถูกนำไปแจกจ่ายให้กับเด็กๆ ในพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร โดยการสนับสนุนของเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย

นอกจากการมอบผ้าห่มกันหนาวแล้ว ยังมีการเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อการพัฒนานักเรียนในด้านวินัย ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์สุจริต และการปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา รวมถึงส่งเสริมให้เด็กๆ มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

การปลูกฝังคุณธรรมสู่อนาคต

โรงเรียนอนุบาลเชียงรายได้เน้นกระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อให้เด็กนักเรียนเติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา โดยการส่งเสริมกิจกรรมที่ปลูกฝังจิตสำนึกความดี เช่น การออมเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ซึ่งช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้การเสียสละ ความเอื้อเฟื้อ และการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด

การดำเนินกิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมในเด็กเล็ก แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ปกครอง ครู และชุมชนในการส่งเสริมคุณค่าแห่งการแบ่งปันและช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างยั่งยืน

สรุป

กิจกรรมมอบผ้าห่มกันหนาวครั้งนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการปลูกฝังคุณธรรมในเด็กเล็ก ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่มีความสุขและยั่งยืน เด็กๆ โรงเรียนอนุบาลเชียงรายได้แสดงให้เห็นถึงความเสียสละและน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมในการส่งเสริมความมีน้ำใจและการช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ตำรวจแม่จันจับ 7 เยาวชนลักรถจักรยานยนต์

ตำรวจแม่จันรวบ 7 เยาวชนคดีลักรถจักรยานยนต์ สืบสวนลึกพบเชื่อมโยงหลายพื้นที่

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 พันตำรวจเอกเกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.แม่จัน ภ.จว.เชียงราย พร้อมด้วย พันตำรวจโท สาคร ขัตติยะบุตร รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.ภูริวัฒ รุจิรัฐภาส รอง ผกก.ป. และ พ.ต.ท.ศุภกรณ์ชัย เดชายิ้มสวัสดิ์ รอง ผกก.สส. สภ.แม่จัน ได้ร่วมกันทำการสอบสวนคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ โดยพบว่าผู้ก่อเหตุทั้งหมดเป็นเยาวชนจำนวน 7 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 14-15 ปี และเชื่อมโยงการก่อเหตุในหลายพื้นที่

คดีเริ่มต้นจากการตรวจยึดรถดัดแปลง

คดีนี้เริ่มต้นจากเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน ได้ทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพจำนวน 2 คัน นำส่งพนักงานสอบสวนไว้ที่โรงจอดรถของ สภ.แม่จัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันที่ 16 มกราคม 2568 พบว่ารถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีเทา-ดำ ทะเบียนเชียงราย ซึ่งเป็นหนึ่งในของกลางได้หายไปจากโรงจอดรถดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าผู้ที่นำรถออกไปคือ ด.ช.เอ (สงวนนามสกุล)

สืบสวนจนพบผู้ต้องสงสัยและจับกุม

หลังจากตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามตัว โดยในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพบว่าผู้ต้องสงสัย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาบริเวณด้านหลังศูนย์จราจร และเข้าไปก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ที่โรงเก็บรถของ สภ.แม่จัน ชุดสืบสวนติดตามเส้นทางหลบหนีจนกระทั่งพบว่า ผู้ต้องสงสัยหลบหนีไปยังพื้นที่บ้านแม่คีหัวสะพาน ม.7 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน

ในช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 19 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวน 7 ราย ซึ่งเป็นเยาวชนทั้งหมด แบ่งเป็นชาย 5 คน และหญิง 2 คน โดยมีภูมิลำเนาแตกต่างกัน ได้แก่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่, ต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ จ.ตราด, ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย และ ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ข้อกล่าวหาและกระบวนการดำเนินคดี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดได้ร่วมกันพยายามลักทรัพย์และก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

การประสานงานระหว่างพื้นที่

คดีนี้เป็นตัวอย่างของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานตำรวจในพื้นที่หลายจังหวัด โดยมีการตรวจสอบข้อมูลและเชื่อมโยงเส้นทางหลบหนี รวมถึงประสานข้อมูลกับชุมชนในพื้นที่ ซึ่งทำให้สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว

ตำรวจยืนยันว่าจะดำเนินคดีอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย และเตรียมสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อขยายผลไปยังกรณีอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สภ.แม่จัน

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายเปิดศูนย์รังสีร่วมรักษา ยกระดับการรักษาโรคหลอดเลือด

ศูนย์รังสีร่วมรักษาเชียงราย เปิดให้บริการ พร้อมเครื่องมือแพทย์ดิจิตอลทันสมัย

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ที่ห้องประชุมเสม พริ้งพวงแก้ว โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ดร.นพ.สราวุฒิ บุญสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 1 พร้อมด้วย นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และแพทย์หญิงอัจฉรา ละอองนวลพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมกันเปิด “ศูนย์รังสีร่วมรักษา” โดยมี นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงพระราชวชิรคณี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย คณะสงฆ์ และภาคเอกชน เข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

การเปิดศูนย์ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตันระยะเฉียบพลัน ด้วยการใส่สายสวนหลอดเลือดเพื่อดูดลากลิ่มเลือด ซึ่งถือเป็นวิธีการรักษาที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากล การดำเนินการครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้กองทุนบริจาคจัดซื้อ เครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล (Biplane Digital Subtraction Angiography) พร้อมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลน เพื่อยกระดับการรักษาและลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

ที่มาของการระดมทุน

นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความพิการและอัตราการเสียชีวิตสูง โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้น โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดหา เครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล ซึ่งมีราคาสูงถึง 40 ล้านบาท แต่เนื่องจากขาดแคลนทุนทรัพย์ในการจัดซื้อ ทางชมรมผู้เกษียณอายุราชการ โรงพยาบาลศูนย์เชียงราย ได้ร่วมกับคณะสงฆ์ในพื้นที่ เพื่อระดมทุนจากประชาชนทั่วจังหวัดเชียงรายในโครงการ “กองทุนผ้าป่าเพื่อคนเชียงราย”

โครงการดังกล่าวริเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 จนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ภายใต้การสนับสนุนของนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ณ ขณะนั้น พร้อมความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวเชียงราย จนสามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้น 55,918,639 บาท ซึ่งนับเป็นการแสดงพลังความสามัคคีของชาวเชียงราย เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

ความสำคัญของศูนย์รังสีร่วมรักษา

เครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอลนี้ มีความสามารถพิเศษในการตรวจวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน ด้วยเทคโนโลยีที่แม่นยำสูง ช่วยลดระยะเวลาในการรักษา และเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวของผู้ป่วย โดยเฉพาะในกรณีเร่งด่วน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ตรวจวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจและอวัยวะอื่น ๆ ได้อีกด้วย

แพทย์หญิงอัจฉรา ละอองนวลพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดศูนย์รังสีร่วมรักษาในครั้งนี้ นอกจากการรักษาโรคหลอดเลือดสมองแล้ว ยังช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลใหญ่ และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

การจัดซื้อเครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอลครั้งนี้ เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ คณะสงฆ์ ประชาชน และภาคเอกชน ในการสนับสนุนงบประมาณ ผ่านกิจกรรมการกุศลต่าง ๆ จนสามารถดำเนินการจัดซื้อได้สำเร็จตามเป้าหมาย

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวในพิธีเปิดว่า การเปิดศูนย์รังสีร่วมรักษาและการจัดหาเครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอลในครั้งนี้ เป็นความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวเชียงราย และรองรับการรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

พิธีเปิดและการสาธิตการใช้งาน

ในวันเปิดศูนย์รังสีร่วมรักษา ได้มีการสาธิตการใช้งานเครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล โดยทีมแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในคุณภาพและประสิทธิภาพของการรักษา ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการดูแลจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

บทสรุปของความสำเร็จ

ศูนย์รังสีร่วมรักษา โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ถือเป็นศูนย์กลางในการรักษาโรคหลอดเลือดสมองที่ทันสมัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ด้วยการสนับสนุนจากกองทุนผ้าป่าเพื่อคนเชียงราย และความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ ช่วยให้ประชาชนชาวเชียงรายสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพ ลดการเดินทางไปโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และสร้างความมั่นใจในการรักษาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การเปิดศูนย์แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมมือของคนเชียงราย เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และการยกระดับบริการสาธารณสุขให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากลต่อไป

“ศูนย์รังสีร่วมรักษา เชียงราย พร้อมให้บริการ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อคนเชียงราย”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ถนนเมืองงิม-บ้านฟาร์ม ซ่อมเสร็จ ปลอดภัย พร้อมใช้งานแล้ว

สิ้นสุดการรอคอย ถนนเมืองงิม-บ้านฟาร์ม ซ่อมเสร็จพร้อมใช้งาน

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 สำนักช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) รายงานความคืบหน้าการซ่อมแซมถนนลาดยางสาย ชร.ถ1-0045 บ้านฝั่งหมิ่น – บ้านหนองบัวแดง เชื่อมระหว่างหมู่ที่ 4 ตำบลริมกก กับหมู่ที่ 5 ตำบลแม่ข้าวต้ม อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย (บ้านเมืองงิม – บ้านฟาร์มสัมพันธกิจ) ที่ประสบปัญหาดินทรุดตัวและผิวถนนแตกร้าวจากเหตุอุทกภัยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

การซ่อมแซมถนนเพื่อคืนความปลอดภัย

โครงการซ่อมแซมถนนสายดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม และแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 โดยภายใต้การบริหารงานของนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ได้สั่งการให้สำนักช่าง อบจ.เชียงราย เร่งดำเนินการซ่อมแซมในส่วนที่ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วน

การซ่อมแซมเริ่มต้นด้วยการอัดบดดินไหล่ทางและเพิ่มความแข็งแรงให้พื้นผิวถนน พร้อมดำเนินการปรับปรุงแนวถนนที่แตกร้าวให้กลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย โดยเน้นความแข็งแรงของโครงสร้างเพื่อลดปัญหาดินทรุดตัวในอนาคต

ผลกระทบและการฟื้นฟูชุมชน

การทรุดตัวของถนนในครั้งนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงค่ำคืนที่แสงสว่างไม่เพียงพอ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การแก้ไขปัญหาครั้งนี้จึงเป็นการคืนความปลอดภัยและสะดวกสบายให้ประชาชนในชุมชน

นายก อบจ.เชียงราย ลงพื้นที่ให้กำลังใจประชาชน

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากสำนักช่าง อบจ.เชียงราย ได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงาน พบปะและให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่เมืองงิม โดยได้รับการต้อนรับจากผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

นายก อบจ.เชียงราย ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลความปลอดภัยในเส้นทางดังกล่าว โดยขอความร่วมมือจากผู้นำชุมชน ท้องที่ ท้องถิ่น และอสม. ในการเฝ้าระวังความปลอดภัย และแจ้งเตือนประชาชนให้ใช้เส้นทางอย่างระมัดระวัง

การแก้ไขปัญหาในระยะยาว
อบจ.เชียงรายยังวางแผนดำเนินการติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มเติมในเส้นทาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในช่วงเวลากลางคืน รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างถนนให้รองรับการใช้งานในระยะยาว โดยเน้นการใช้วัสดุที่มีคุณภาพและการออกแบบที่เหมาะสมกับพื้นที่

ประชาชนสามารถใช้เส้นทางได้ปกติ

หลังการซ่อมแซมแล้วเสร็จ ถนนสายบ้านเมืองงิม – บ้านฟาร์มสัมพันธกิจ ได้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ โดยอบจ.เชียงราย ขอให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางนี้ขับขี่อย่างระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

บทสรุป

การซ่อมแซมถนนสายบ้านเมืองงิม – บ้านฟาร์มสัมพันธกิจ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ อบจ.เชียงราย ในการพัฒนาและฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน พร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์ความเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เทศบาลเร่งซ่อมสะพานแม่ฟ้าหลวงหลังน้ำท่วม สะพานขาดตัดเส้นทาง

เทศบาลนครเชียงรายเร่งซ่อมแซมสะพานถนนแม่ฟ้าหลวงหลังเกิดความเสียหายจากอุทกภัย

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 หลังจากที่จังหวัดเชียงรายประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนัก ทำให้โครงสร้างพื้นฐานหลายแห่งได้รับความเสียหาย หนึ่งในนั้นคือสะพานถนนแม่ฟ้าหลวง ชุมชนน้ำลัด ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย ที่คอสะพานทรุดตัวเสียหายจนไม่สามารถสัญจรได้

สะพานชั่วคราวเสียหายจากน้ำหนักเกิน

เพื่อแก้ไขปัญหาการสัญจรในเบื้องต้น เทศบาลนครเชียงรายได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งสะพานเครื่องหนุนมั่นแบบเร่งด่วน (MFB) เพื่อใช้เป็นทางเชื่อมชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ได้พบว่ามีรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถทัวร์ที่มีน้ำหนักเกินกำหนด 10 ตัน ฝ่าฝืนเข้ามาใช้สะพาน ทำให้สะพานชั่วคราวเกิดความเสียหายและเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน จึงจำเป็นต้องยกเลิกการใช้งานสะพานชั่วคราวดังกล่าว

เทศบาลฯเร่งดำเนินการซ่อมแซมสะพาน

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการซ่อมแซมสะพานให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด โดยได้มอบหมายให้ผู้รับเหมาเข้าดำเนินการก่อสร้างในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 45 วัน

นายรุ่งธรรม ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการกองช่างเทศบาลนครเชียงราย กล่าวว่า “ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างนั้น เราจะต้องรอให้ระดับน้ำลดลงจนถึงระดับที่เหมาะสมก่อน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐานทางวิศวกรรม โดยเฉพาะงานฐานรากของโครงสร้าง เพื่อความแข็งแรงของคอสะพานและเชื่อมต่อตัวสะพาน” การรอให้ระดับน้ำลดลงจะช่วยให้ทีมวิศวกรสามารถตรวจสอบสภาพพื้นที่และวางแผนการดำเนินงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลกระทบต่อประชาชนและการดำเนินชีวิต

การเสียหายของสะพานถนนแม่ฟ้าหลวงส่งผลกระทบต่อการเดินทางและการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนน้ำลัดและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งต้องใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และตลาด

การแก้ไขปัญหาในระยะยาว

เทศบาลนครเชียงรายตระหนักถึงความสำคัญของการซ่อมแซมสะพานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และได้วางแผนการดำเนินงานอย่างรอบคอบ เพื่อให้สะพานมีความแข็งแรงทนทานและสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว

การดำเนินการซ่อมแซมสะพานถนนแม่ฟ้าหลวงในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเทศบาลนครเชียงรายในการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและมีประสิทธิภาพ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘เชียงราย’ เตรียมรับมือน้ำท่วม! วางแผนป้องกันภัยรอบด้าน

เชียงรายเร่งวางแผนรับมืออุทกภัย หลังฝนตกหนัก

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 จังหวัดเชียงรายได้จัดประชุมด่วนเพื่อวางแผนรับมือสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่หลายพื้นที่ประสบปัญหาฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย, ชลประทานจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ

ประเด็นสำคัญที่ถูกนำมาหารือในที่ประชุม ได้แก่:

  • สถานการณ์น้ำท่วมในอดีต: ที่ประชุมได้ทบทวนสถานการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่มที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย และอำเภอแม่สาย ในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2567 โดยวิเคราะห์ปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสม ระดับน้ำในแม่น้ำสายสำคัญต่างๆ เช่น แม่น้ำกก แม่น้ำลาว แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง
  • การเตรียมความพร้อม: หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อาทิ การปรับปรุงระบบระบายน้ำ การสร้างอ่างเก็บน้ำ การสร้างเขื่อน และการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า
  • การมีส่วนร่วมของประชาชน: ที่ประชุมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัย รวมถึงการเตรียมความพร้อมของครัวเรือนในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่สำคัญ

  • มาตรการเชิงโครงสร้าง: การปรับปรุงสภาพลำน้ำ การใช้อ่างเก็บน้ำ เขื่อน และพนังกั้นน้ำ เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วม
  • มาตรการไม่ใช้โครงสร้าง: การจัดการใช้สอยที่ดิน การวางผังเมือง การควบคุมสิ่งปลูกสร้าง และการให้ความรู้แก่ประชาชน
  • การเฝ้าระวังและเตือนภัย: การติดตั้งระบบเฝ้าระวังน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทันท่วงที

เป้าหมายสูงสุดของการประชุมครั้งนี้คือ

การวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างครอบคลุม เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพื่อให้จังหวัดเชียงรายสามารถรับมือกับสถานการณ์ภัยธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายบุกยึดรถดัดแปลงเสียงดัง ลดอุบัติเหตุบนถนน

ตำรวจเชียงรายเปิดยุทธการ “บุกบ้านอันธพาล” ตรวจยึดรถดัดแปลงเสียงดัง สร้างความสงบในช่วงเทศกาลลอยกระทงและปีใหม่

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ตำรวจเชียงรายได้เปิดยุทธการครั้งใหญ่ภายใต้ชื่อ “บุกบ้านอันธพาล จังหวัดเชียงราย 2567” ซึ่งได้รับการอำนวยการจาก พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย เพื่อกวาดล้างและยึดรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพที่มีเสียงดังเกินควรและขาดอุปกรณ์ส่วนควบตามกฎหมาย นับเป็นการดำเนินงานเพื่อลดความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชนและเสริมสร้างความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสำคัญอย่างลอยกระทงและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

บูรณาการความร่วมมือหลายหน่วยงานเพื่อบรรลุภารกิจ

การดำเนินการครั้งนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งจากหน่วยงานตำรวจ องค์กรท้องถิ่น และภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมี พ.ต.ท.พันชาติ สมตัว รอง ผกก.จร.สภ. เมืองเชียงราย, พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์ เหล่าไพโรจน์จารี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองเชียงราย, พ.ต.ท.พรต เศรษฐกร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย และ พ.ต.ท.สถาพร มังคลาด สวป.สภ.เมืองเชียงราย ร่วมเป็นผู้ควบคุมและติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด ในการนี้ยังมีชุดปฏิบัติการสายตรวจและชุดปฏิบัติการจราจรจาก สภ.เมืองเชียงราย พร้อมหน่วยงานเครือข่าย เช่น อำเภอเมืองเชียงราย, ขนส่งจังหวัดเชียงราย, ผู้แทนสถานศึกษา, กำนัน ต.ป่าอ้อดอนชัย และส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมบูรณาการการปฏิบัติในพื้นที่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ตรวจเข้มรถจักรยานยนต์ดัดแปลง ท่อเสียงดัง ป้องกันการก่อความรำคาญ

ตามนโยบายของ พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้มอบหมายให้หน่วยงานตำรวจในพื้นที่เข้มงวดกับการตรวจสอบและยึดรถจักรยานยนต์ที่มีการดัดแปลงสภาพ เช่น ท่อไอเสียเสียงดังเกินกฎหมายกำหนด หรือมีอุปกรณ์ส่วนควบที่ไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลลอยกระทงและปีใหม่ ซึ่งมีการเดินทางและการเฉลิมฉลองในพื้นที่อย่างหนาแน่น การตรวจยึดรถเหล่านี้นอกจากจะช่วยลดความรำคาญแก่ประชาชนแล้วยังสามารถช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้รถที่ไม่ปลอดภัยได้อีกด้วย

ผลการดำเนินงาน: ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพรวม 86 คัน

จากการดำเนินยุทธการ “บุกบ้านอันธพาล” ที่ผ่านมานี้ ทางตำรวจสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ถูกดัดแปลงสภาพให้มีเสียงดังและมีสภาพที่ไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน รวมจำนวนทั้งสิ้น 86 คัน การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของพื้นที่และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการรบกวนประชาชนในช่วงเทศกาลสำคัญ

แนวทางป้องกันความปลอดภัยและเสริมสร้างสังคมปลอดภัย

นอกจากการตรวจยึดรถดัดแปลงแล้ว หน่วยงานตำรวจยังได้แนะนำให้ประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการดัดแปลงสภาพรถที่อาจเป็นอันตรายหรือสร้างความรำคาญแก่ผู้อื่น เพื่อเสริมสร้างสังคมที่ปลอดภัยและสร้างความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการลดปัญหาการดัดแปลงรถยนต์และการใช้รถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายในชุมชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สภ.เมืองเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบเงินกองทุนกว่า 1.9 ล้านบาท

เชียงรายเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบเงินกองทุนกว่า 1.9 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานฝ่ายพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยและดินถล่มที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

มอบเงินช่วยเหลือกว่า 1.9 ล้านบาท

ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ผู้ประสบภัยใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่สาย อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอเวียงแก่น โดยมอบเงินจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวนทั้งสิ้น 1,940,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 43 หลังคาเรือน

ความช่วยเหลือครอบคลุมทุกพื้นที่

จังหวัดเชียงรายได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง โดยได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อพิจารณาและจัดสรรเงินกองทุนให้แก่ผู้ที่มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วน โดยมีการพิจารณาจากหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและเป็นธรรม เพื่อให้การช่วยเหลือถึงมือผู้ประสบภัยอย่างตรงจุดและทั่วถึง

ขอบคุณผู้บริจาคทุกท่าน

นอกจากนี้ จังหวัดเชียงรายขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมบริจาคเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทำให้มีเงินทุนเพียงพอในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ โดยยอดบริจาค ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,245,716.42 บาท และหลังจากการพิจารณาในครั้งนี้ ยังคงเหลือเงินในกองทุนอีก 1,305,716.42 บาท ซึ่งจะนำไปใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในระยะต่อไป

ร่วมสร้างกำลังใจให้ผู้ประสบภัย

แม้ว่าเหตุการณ์อุทกภัยจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ผลกระทบยังคงอยู่ จังหวัดเชียงรายจึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกันส่งกำลังใจและให้การสนับสนุนผู้ประสบภัย เพื่อให้พวกเขาสามารถฟื้นฟูชีวิตและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News