Categories
HEALTH

ประกาศ 4 จังหวัดนำร่อง บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ทุกเครือข่าย

 

วันนี้ (24 ตุลาคม 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการฯ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงกรรมการจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งกระทรวงกลาโหม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร สภาวิชาชีพด้านสุขภาพ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน สำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม


          นายเศรษฐากล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนการสาธารณสุขของประเทศ โดยยกระดับระบบบริการสุขภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และสร้างระบบสาธารณสุขที่เหมาะสมสำหรับทุกคนบนแผ่นดินไทย มุ่งเน้นให้ทุกคนมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง เข้าถึงระบบบริการสุขภาพได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ซึ่งวันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งแรก เพื่อขับเคลื่อนนโยบายด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการสร้างและพัฒนาระบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคงด้านสุขภาพในระยะยาวให้เกิดความเท่าเทียม เป็นธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน โดยมีการหารือ 5 ประเด็นเร่งด่วนตามนโยบายยกระดับ 30 บาท ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนทั้งในและนอกระบบสาธารณสุข ได้แก่ บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่, มะเร็งครบวงจรและการให้วัคซีน HPV, สถานชีวาภิบาล, การเพิ่มการเข้าถึงบริการในเขต กทม. และสุขภาพจิต/ยาเสพติด ซึ่งเป็นประเด็นที่สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้ให้คำมั่นไว้กับประชาชน

 


          นายเศรษฐากล่าวว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้มีการแต่งตั้ง “คณะกรรมการบริหารการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ” ทำหน้าที่ติดตามและกำกับการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ โดยให้น.ส.แพทองธาร เป็นประธาน และมีกรรมการจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางสุขภาพในระยะยาวของประเทศ ให้คนไทยแข็งแรง ประเทศชาติมั่นคง นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบตามที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเสนอให้พิจารณาแต่งตั้งผู้แทนในคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ เพิ่มเติม 2 ตำแหน่ง คือ นายกสภาการสาธารณสุขชุมชน และนายกสภาการแพทย์แผนไทย

 


          น.ส.แพทองธารกล่าวว่า หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคนมาตั้งแต่ปี 2544 ปัจจุบันครอบคลุมประชาชนมากกว่าร้อยละ 99.6 ช่วยให้เข้าถึงบริการมากขึ้น ลดภาระค่าใช้จ่ายทางสุขภาพ และลดจำนวนครัวเรือนที่ยากจนจากรายจ่ายด้านสุขภาพได้ แต่ยังต้องพัฒนาต่อเนื่อง โดยแก้ไขจุดที่เป็นปัญหาและความทุกข์ของประชาชน คือ ความเหลื่อมล้ำในการรับบริการ ความแออัด และระยะเวลารอคอยการรักษา โดยเฉพาะโรงพยาบาลในเขตเมือง ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการ ตั้งแต่ส่งเสริมป้องกัน ตรวจวินิจฉัย ดูแลรักษา นัดหมาย ส่งต่อ และเชื่อมโยงจัดการฐานข้อมูลทั้งหมด เพื่อมุ่งสู่ก้าวต่อไปคือ ยกระดับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ารักษาได้ทุกที่ ให้ประชาชนทุกระดับสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับบริการสุขภาพได้ทุกหน่วยบริการ ไม่ว่าจะเป็นของรัฐ เอกชน คลินิก และร้านขายยาใกล้บ้าน รวมทั้งพัฒนาคุณภาพการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว มีทางเลือกที่เหมาะสม ลดขั้นตอนบริการ ตอบสนองต่อปัญหาและความต้องการโดยยึดหลัก “ผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง” เช่น นัดหมายออนไลน์ ใบรับรองแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน พื้นที่ห่างไกลให้เข้าถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางได้ทันท่วงที ไร้ข้อจำกัด ผ่านระบบ Telemedicine การส่งยาและเวชภัณฑ์ไปยังบ้านผู้ป่วย ซึ่งทั้งหมดนี้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันจึงจะยกระดับหลักประกันสุขภาพฯ ของไทยให้ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน

 


          นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ จะนำร่องใน 4 จังหวัด คือ แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส ที่สามารถเข้ารับบริการได้ทุกเครือข่ายทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งพัฒนาระบบบันทึกข้อมูล ระบบยืนยันตัวตน และเชื่อมโยงข้อมูลเครือข่ายบริการ ทั้งโรงพยาบาล คลินิก ร้านยา และแล็บที่สนใจเข้าร่วม ซึ่งจะทำให้ สปสช.สนับสนุนงบประมาณและจ่ายชดเชยให้หน่วยบริการได้เร็วขึ้น โดยจะได้รับงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวล่วงหน้า กรณีผู้ป่วยนอกจะจ่ายชดเชยใน 3 วัน และผู้ป่วยในจ่ายชดเชยทุก 7-14 วัน รวมถึงจะมีการเพิ่มคู่สาย สายด่วน 1330 ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยนัดหมายบริการ ยืนยันตัวตน การไปรับยาใกล้บ้าน เป็นต้น โดยเพิ่มอาสาสมัคร เช่น พยาบาลเกษียณ หรือคนพิการ เข้าร่วมบริการประชาชน

 


          นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า เรื่องมะเร็งครบวงจรจะครอบคลุมทั้งงานส่งเสริมป้องกัน คัดกรอง ตรวจวินิจฉัย รักษา และดูแลผู้ป่วย โดยจะมีการคิกออฟทีม Cancer Warrior ทั้งระดับกระทรวง ระดับเขตสุขภาพและระดับจังหวัดในปลายเดือนตุลาคมนี้ เพื่อดูแลประชาชนทุกจังหวัดให้มีความรู้และตระหนักในการป้องกันโรคมะเร็ง โดยเฉพาะ 5 มะเร็งสำคัญ คือ มะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก, คิกออฟฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูกในหญิงอายุ 11-20 ปี 1 ล้านโดส วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 และคิกออฟคัดกรองพยาธิใบไม้ในตับฟรี 1 แสนคน ภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 นอกจากนี้ จะเพิ่มการเข้าถึงการตรวจวินิจฉัยด้วยเทคโนโลยี PET/CT Scan SPECT/CT การแพทย์เฉพาะบุคคล การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ยามุ่งเป้า และรังสีรักษาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง ส่วนสถานชีวาภิบาล ดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง ติดบ้านติดเตียง ผู้ป่วยที่รับการดูแลแบบประคับประคอง ตั้งแต่ระยะแรกจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีมาตรฐานมากขึ้น เพิ่มคุณภาพชีวิต ลดภาระค่าเดินทาง ลดความกังวลครอบครัว จะพัฒนาคนเพื่อรองรับระบบชีวาภิบาลเพิ่มขึ้น 5 พันคน สร้างระบบชีวาภิบาลในทุกโรงพยาบาล บริการที่บ้าน ชุมชน และ Telemedicine รวมทั้งจัดตั้งสถานชีวาภิบาลในชุมชน เช่น วัดคำประมง จังหวัดสกลนคร และขยายสิทธิให้ครอบคลุมทั้ง 3 กองทุนสุขภาพ โดยเป้าหมาย 100 วันแรกจะจัดตั้งสถานชีวาภิบาลทุกเขตสุขภาพและใน กทม. 7 เขต มีการจัดบริการ Hospital at Home หรือ Home Ward ทุกจังหวัด โดยจะมีการเปิดสถานชีวาภิบาลต้นแบบในเดือนธันวาคม 2566    

 


          สำหรับการเพิ่มการเข้าถึงบริการในเขตกรุงเทพมหานคร 50 เขต 50 โรงพยาบาล จะนำร่องโรงพยาบาลประจำเขตดอนเมืองระยะที่ 1 โดยยกระดับโรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) เป็นโรงพยาบาลทุติยภูมิขนาด 120 เตียง ยกระดับศูนย์บริการสาธารณสุข 60 รสสุคนธ์ มโนชญากร เป็นโรงพยาบาลผู้ป่วยนอกเฉพาะทางร่วมกับโรงพยาบาลแม่ข่าย และเตรียมพร้อมโรงพยาบาลราชวิถี 2 เป็นโรงพยาบาลรับส่งต่อผู้ป่วย คาดว่าจะเปิดให้บริการทั้ง 3 ส่วนได้ภายในเดือนธันวาคม 2566 ขณะที่เรื่องสุขภาพจิตและยาเสพติด ยึดหลักการ “เพื่อนแท้มีทุกที่” ให้ประชาชนเข้าถึงบริการคุณภาพตั้งแต่ระยะแรก และสามารถกลับไปใช้ชีวิตในชุมชนได้ โดยจัดตั้งมินิธัญญารักษ์ทุกจังหวัดเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด ตามหลักการเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ซึ่งปัจจุบันมีมินิธัญญารักษ์แล้ว 35 จังหวัด 64 โรงพยาบาล มีกลุ่มงานจิตเวชทุกอำเภอ และมีหอผู้ป่วยจิตเวชทุกจังหวัด นอกจากนี้ จะส่งเสริมสุขภาพจิตเชิงรุกในชุมชน ค้นหากลุ่มเสี่ยงในชุมชน บริการฉุกเฉินจิตเวช เพิ่มการเข้าถึงบริการจิตเวชทางไกล และการฟื้นฟูผู้ป่วยระยะยาวในชุมชน/สังคม

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TRAVEL

เปิดนิทรรศการภาพทิวทัศน์ บันทึกถ่ายทอด ความประทับใจ การเดินทางพ่อลูก

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2566 เวลา 16.00 น.

– รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ ประธานมูลนิธิมดชนะภัย กล่าวต้อนรับ

– อ.นคร พงษ์น้อย ผู้อำนวยการอุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง กล่าวแนะนำศิลปิน

– ประธานในพิธี หม่อมราชวงศ์ปรีดียาธร เทวกุล

.

นิทรรศการนี้รวบรวมผลงานภาพทิวทัศน์ของคุณเสงี่ยมกับลูกสาว น้องชมพูฟ้า ที่เขียนสดในเดินทางท่องเที่ยวไปบนดอยสูง เกาะทะเลใต้ ประเทศจีน ฝรั่งเศสฯ โดยใช้สีอะครีลิคและสีนํ้ามัน ในขนาดกระทัดรัด เพื่อบันทึกถ่ายทอดความสวยงาม ความสุขสนุกสนาน ความประทับใจ จากการเดินทางของพ่อลูกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

นิทรรศการจัดแสดง วันที่ 21 ตุลาคม -25 พฤศจิกายน 2566

ณ บ้านสิงหไคล มูลนิธิมดชนะภัย เชียงราย

แกลเลอรี เปิดให้เข้าชมฟรี 10.00 – 16.00 น. (หยุดวันจันทร์)

บ้านสิงหไคล มูลนิธิมดชนะภัย, instagram.com/singhaklaihouse/

Precious Moments
by
Sangiam Yarangsee and Chomphufah Yarangsee
Mr.Phisan Chansin, Culture Director of Chiang Rai province, participated
Opening exbibition on Saturday October21, 2023 at 16.00 hrs.
– Assoc. Prof. Dr. Suthisak Sornluap, President of the Nimod Chanaphai Foundation, gave a welcome speech.
– Ajarn Nakhon Phong Noi, Director of Mae Fah Luang Art and Cultural Park Introducing the artist
– Guest of honor : Mom Rajawongse Pridiyathorn Devakula
At Singhaklai House, Modchanaphai Foundation Chiangrai
.
This exhibition features a collection of landscape paintings by me and my daughter, which were painted live during our travels to high mountains, islands in the South China Sea, China, and France. They were painted in acrylic and oil paints in a compact size to capture our first impressions of the new places we visited in the past 3 years.
.
Exhibition on view: October 21 – November 25, 2023
Open hour: 10.00-16.00 hrs. (Free Admission) closed on Mondays
More info: singhaklaihouse@gmail.com, บ้านสิงหไคล มูลนิธิมดชนะภัย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ขัวศิลปะ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
HEALTH

อย. ตั้งเป้า 100 วัน 100 ผลิตภัณฑ์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

 

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ตรวจเยี่ยมการดำเนินภารกิจของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมมอบนโยบายให้กับผู้บริหารและบุคลากร

 


          นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นองค์กรที่มีส่วนสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการสนับสนุนภาคธุรกิจผู้ประกอบการตั้งแต่ระดับชุมชนถึงระดับประเทศให้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากล ซึ่งสอดรับกับการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขด้านเศรษฐกิจสุขภาพ โดย Quick Win 100 วันแรก ได้ตั้งเป้าอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพชุมชน 100 รายการ พร้อมจัดโครงการยกระดับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยสู่ตลาดความงามโลก ส่วนด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพร ได้เตรียมปรับหลักเกณฑ์ให้ง่ายต่อการประกอบการ ลดระยะเวลาการอนุญาต ผลิตภัณฑ์ เช่น ยาหม่อง/ยาน้ำมัน ภายใน 1 วันทำการ ส่งเสริมนวัตกรรมและงานวิจัยผลิตภัณฑ์สมุนไพรผ่านระบบการให้คำปรึกษา พร้อมไปกับการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยร่วมมือกับผู้บริโภคเฝ้าระวังเชิงรุก ร่วมตรวจ ร่วมสื่อสาร แจ้งเตือนภัย ภายใต้แนวคิด “พัฒนาฐานราก อนุญาตเร็วไว ส่งเสริมนวัตกรรมไทย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอดภัย สู่ประชาชน”

 


          นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินงานในปี 2567 อย. มีแผนที่จะยกระดับผู้ประกอบการอาหารแปรรูป พัฒนานวัตกรรมบริการและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชน ผลักดันการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมการประกอบการเครื่องมือแพทย์ ส่งเสริมการเข้าถึงเครื่องมือแพทย์ ประเภท AI ตลอดจนมุ่งสู่ระบบดิจิทัลสุขภาพ โดยขยายโครงการใช้บัตรประชาชนใบเดียวในการออกของที่ได้รับอนุญาตจากระบบ e-Submission ของกองด่านอาหารและยา ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการและผู้ลงทุนผลิตภัณฑ์สุขภาพไทยได้เป็นอย่างดี

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

เตรียมเปิดสกายสกายวอล์คคีรีชัยยาม ชมธรรมชาติป่าดอยสะเก็น เชียงราย

 
 
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นายสมศักดิ์ เวียงโอสถ ประธานสภาเทศบาลนครเชียงราย นายภาธร์ รังษีกุลพิพัฒน์ เลขานุการนายกเทศมนตรีนคร พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงราย และ ผู้อำนวยการกอง ที่เกี่ยวข้องสำนักงานเทศบาลนครเชียงราย ตรวจความคืบหน้าในการก่อสร้าง สกายวอล์คดอยสะเก็น (คีรีชัยยามะ) ชุมชนดอยสะเก็น โดยเป็นการสร้างต่อจากจุดชมวิวเดิม ที่มีความสูงจากพื้นที่ก่อสร้าง 18 เมตร
โดย สกายวอล์คดอยสะเก็น (คีรีชัยยามะ) ชุมชนดอยสะเก็น แบ่งทางเดินออกเป็น 2 ช่องทางเดิน ซึ่งมีแบบพื้นปกติ และทางเดินพื้นกระจกพิเศษ พร้อมจุดชมวิว ตัวเมืองเชียงราย ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลืออีกไม่กี่ขั้นตอนและการส่งมอบงาน
 
นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า สกายวอล์คดอยสะเก็น (คีรีชัยยามะ) ชุมชนดอยสะเก็น ถือว่าจุดเช็คอินใหม่ ในเขตเทศบาลนครเชียงราย โดยเมื่อวัดระดับความสูงจากระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 400เมตร จึงทำให้มองเห็นวิวตัวเมืองเชียงรายอย่างสวยงาม และยังสามารถชมธรรมชาติของป่าดอยสะเก็น ดูรังผึ้งหลวง ที่ทำรังบนต้นหยวนผึ้ง หลายรัง
 
ทั้งนี้ การดำเนินการสร้าง สกายวอล์คดอยสะเก็น (คีรีชัยยามะ) ชุมชนดอยสะเก็น เพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของชุมชนดอยสะเก็น และจังหวัดเชียงราย เมื่อแล้วเสร็จสมบูรณ์ จะมีการบริหารจัดการโดยชุมชน และทางเทศบาลนครเชียงราย จะเป็นพี่เลี้ยงในการจัดการด้านอื่น ๆ ไปพร้อมกัน
 
ซึ่ง “ป่าดอยสะเก็น” ป่าใจกลางเมือง จังหวัดเชียงราย ที่เกิดจากความร่วมมือของทุกคนในชุมชน ยังมีความอุดมสมบูรณ์ และความหลากหลายของพันธุ์ไม้ขึ้นกระจายอยู่อย่างหนาแน่น มีมากกว่า 100 ชนิด ยังรวมความมหัศจรรย์ไว้อีกมากมาย ซึ่งรวมถึงต้นฆ้อง ที่มีอายุหลายร้อยปี แต่ชาวบ้านที่นี่เรียกกันว่า ต้นผึ้ง จะมีผึ้งผลัดเปลี่ยนกันมาอาศัย บางปีมีประมาณ 70 รัง และบางปีมีมากถึง 120 รัง
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

เปิดงานนิทรรศการ Spirit of Indigo

 
อาจารย์นคร พงษ์น้อย ผู้อำนวยการไร่แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดงานนิทรรศการ Spirit of Indigo โดยมี ครูศรุดา กันทะวงค์ ศิลปินอิสระ เป็นผู้กล่าวรายงาน และนำชมนิทรรศการ Spirit of Indigo “ชมเสน่ห์แห่งคราม และจินตนาการที่ไม่มีสิ้นสุดของการมัดย้อมครามสไตล์ชิโบริ” ในวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน 2566 เวลา 16.00 เป็นต้นไป ณ บ้านสิงหไคล มูลนิธิมดชนะภัย เชียงราย ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
นิทรรศการ Spirit of Indigo “ชมเสน่ห์แห่งคราม และจินตนาการที่ไม่มีสิ้นสุดของการมัดย้อมครามสไตล์ชิโบริ” เป็นการจัดแสดงผลงานมัดย้อมแบบชิโบริ ด้วยสีคราม ของครูศรุดา กันทะวงษ์ หรือ ครูวะ ศิลปินอิสระ ผู้หันมาทำผ้ามัดย้อมธรรมชาติ เชี่ยวชาญด้านการย้อมครามสไตล์ชิโบริ ซึ่งเป็นศาสตร์การทำผ้ามัดย้อมแบบญี่ปุ่นที่มีมานานกว่า 1,300  ปี มีหลายเทคนิควิธี ทั้งการพัน มัด พับ ผูก การเนา การกั้นสี ทำให้เกิดลวดลายบนผืนผ้า ซึ่งครูศรุดาได้ผสมผสานการย้อมแบบไทยจนกลายเป็นสไตล์ของเธอ นอกจากนี้เธอยังเปิดครอสสอนย้อมผ้าและออกร้านจำหน่ายในแบรนด์ By Sruda เธอได้นำผลงานมาจัดแสดง และยังจัดกิจกรรม Shibori Indigo Workshop อีกด้วย
ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมพิธีเปิดและร่วมกิจกรรมฯ ดังกล่าว
ทั้งนี้ การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยนิทรรทศการ Spirit of Indigo จัดแสดงในระหว่างวันที่ 24 กันยายน – 14 ตุลาคม 2566 แกลลอรี่เปิดให้เข้าชมเวลา 10.00 – 16.00 น. (หยุดวันจันทร์) ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บ้านสิงหไคล มูลนิธิมดชนะภัย 
 
 

Spirit of indigo

Solo exhibition By Saruda Kantawong

Opening Exhibition: Sunday 24th September 2023 at 16.00 hrs.

At Singhaklai House, Modchanaphai Foundation Chiangrai

Presided by Mr. Nakorn Pongnoi, director of the Mae Fah Luang Art and Cultural Park.

Exhibition on view: September24 -October14, 2023

Open hour: 10.00-16.00 hrs. (Free Admission) closed on Mondays More info: singhaklaihouse@gmail.com, facebook.com/singhaklaihouse 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
HEALTH

“หมอชลน่าน” สั่งปูพรมทั่วประเทศ สกัด “ ไข้หวัดใหญ่” หลังพบระบาดเพิ่ม 3 เท่า

 

    วันนี้ (14 ก.ย. 66)นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ว่า ล่าสุดได้รับรายงานมีจำนวนผู้ป่วยมากถึง 138,766 ราย อัตราป่วยเพิ่มสูงถึงกว่า 200 รายต่อประชาการแสนราย หรือเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมรับมือการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ที่แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะมีเพียงแค่ 2 ราย ในจังหวัดสงขลาและนครราชสีมา ก็ตาม


          นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า การระบาดในรอบนี้ เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A/H1N1 ซึ่งประเด็นที่น่าเป็นห่วง คือ มีการระบาดในโรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่มีเด็กนักเรียนอยู่รวมกัน อาจมีการไอ จาม หรือสัมผัสสิ่งของเครื่องใช้ร่วมกันได้ง่าย โดยข้อมูลของกรมควบคุมโรคพบว่า ในสัปดาห์ที่ 35 (ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม–2 กันยายน) มีรายงานนักเรียนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 101 ราย ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดลําพูน จากการเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อ 5 ราย พบเชื้อไข้หวัดใหญ่ ชนิด A 4 ราย (ร้อยละ 80) จึงได้สั่งการให้กรมควบคุมโรคเตรียมพร้อมส่งทีมสอบสวนโรคปูพรมทุกโรงเรียนในชุมชน โดยเฉพาะโรงเรียนในพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดสูงกว่าพื้นที่อื่น รวมถึงให้ทุกโรงพยาบาลเตรียมพรร้อมให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ด้วย โดยขอให้บุคลากรสาธารณสุขทุกคนถือว่าเรื่องนี้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
HEALTH

หน้ากากอนามัยผ้าสปันบอนด์ เป็นไมโครพลาสติก สูดดมอาจเสี่ยงมะเร็ง ไม่เป็นความจริง

 

วันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2566  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยข่าวปลอม อย่าแชร์! หน้ากากอนามัยผ้าสปันบอนด์ เป็นไมโครพลาสติก สูดดมอาจเสี่ยงมะเร็ง

 

ตามที่มีข้อมูลเตือนในสื่อโซเชียลเรื่องหน้ากากอนามัยผ้าสปันบอนด์ เป็นไมโครพลาสติก สูดดมอาจเสี่ยงมะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีที่มีผู้บอกต่อข้อมูลโดยระบุว่า หน้ากากอนามัยผ้าสปันบอนด์ที่เกิดจากเส้นใยสังเคราะห์ของโพลิเมอร์ที่เป็น “Polypropylene ( PP )” ซึ่งมีกลิ่นฉุน แตกยุ่ยได้ง่าย จะก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เรียกว่า ไมโครพลาสติก หากสูดดมเข้าไปในร่างกายจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า หน้ากากอนามัยผลิตจากใยสังเคราะห์ประเภทเดียวกันกับผ้าสปันบอนด์ ซึ่งทำมาจากพลาสติกกลุ่ม Polypropylene จากรายงานขององค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer ; IARC) ระบุว่า พลาสติกกลุ่ม Polypropylene ไม่จัดเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ หรืออยู่ในกลุ่ม 3

โดยในปัจจุบันการใช้หน้ากากอนามัยที่ทำมาจากผ้าสปันบอนด์จึงยังไม่มีข้อมูลว่า ทำให้เกิดโรคมะเร็ง ซึ่งพลาสติกกลุ่ม Polypropylene ที่นำมาใช้ผลิตผ้าสปันบอนด์ใช้ระยะเวลาในการย่อยสลายเร็วกว่าพลาสติกทั่วไป ทำให้เกิดความกังวลว่า พลาสติกชนิดนี้จะย่อยสลายเป็นไมโครพลาสติกแล้วปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีรายงานทางวิชาการที่ยืนยันแน่ชัดถึงไมโครพลาสติกกลุ่ม Polypropylene ที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมแล้วก่อให้เกิดโรคมะเร็งในมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่ควรตื่นตระหนกเกี่ยวกับการใช้หน้ากากอนามัยจากใยสังเคราะห์สปันบอนด์

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.nci.go.th หรือ โทร. 02-202-6800

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : หน้ากากอนามัยผลิตจากใยสังเคราะห์เป็นประเภทเดียวกันกับผ้าสปันบอนด์ ซึ่งทำมาจากพลาสติกกลุ่ม Polypropylene ซึ่งพลาสติกกลุ่ม Polypropylene ไม่จัดเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ดังนั้น การใช้หน้ากากอนามัยที่ทำมาจากผ้าสปันบอนด์จึงยังไม่มีข้อมูลว่า ทำให้เกิดโรคมะเร็ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
GALLERY

“กาดไตลื้อ” มนต์เสน่ชาวไตลื้อ

 

 ชุมชนศรีดอนชัยไทลื้อ เป็นพื้นที่ชุมชนและท้องถิ่นที่มีศักยภาพ มีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม “ไทลื้อ” ที่เด่นชัด จึงได้มีแนวคิดเปิดพื้นที่ตลาดใหม่เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนมีพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม กิจกรรมการแสดง บริการ ที่แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ผ่านการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว และเกิดความประทับใจ ซึ่งจะนำมาสู่ความภาคภูมิใจ รวมถึงเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน โดยมุ่งหวังที่จะให้ตลาดวัฒนธรรมชุมชน “กาดไตลื้อ” เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นที่น่าจดจำทั้งชาวเชียงราย ชาวไทยและต่างประเทศ โดยคณะกรรมการฯ ร่วมพัฒนาตลาดวัฒนธรรมชุมชนของเราในนามชื่อ “กาดไตลื้อ ศรีดอนชัย” กำหนดจัดตลาดทุกวันเสาร์แรกของเดือนนับแต่เดือนกันยายน ๒๕๖๖ นี้เป็นต้นไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กาดไตลื้อ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
Categories
TRAVEL

แสดงโขนสุดยิ่งใหญ่ตอน กุมภกรรณทดน้ำ 5 พ.ย. ถึง 5 ธ.ค. 66

 
เปิดจำหน่ายบัตรแล้ว ! การแสดงโขนสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ตอน กุมภกรรณทดน้ำ
 
จับจองบัตรด่วน! เริ่ม 12 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป สำหรับการแสดงโขนสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ตอนกุมภกรรณทดน้ำ ซึงจัดขึ้นโดย มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีกำหนดเปิดการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอน “กุมภกรรณทดน้ำ” ขึ้น ในระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บัตรราคา 2,000 บาท, 1,800 บาท, 1,000 บาท, 800 บาทและ 600 บาท (รอบนักเรียน ราคา 180 บาท) จำหน่ายบัตรที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา โทร. 0-2262-3456
 
สำหรับปี 2566 นี้ นับเป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทยอีกวาระหนึ่ง เนื่องในวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 71 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 91 พรรษา มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จึงร่วมเฉลิมฉลองโอกาสมหามงคลนี้ ด้วยการจัดการแสดงโขนตอน “กุมภกรรณทดน้ำ” โดยยึดแนวบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จับตอนตั้งแต่กุมภกรรณผู้หลงผิด หลงเชื่อคำยุยงของทศกัณฐ์ผู้เป็นพี่ให้มาขัดขวางกองทัพพระราม แท้จริงแล้วกุมภกรรณเป็นยักษ์ที่มีคุณธรรม ต่อมากุมภกรรณสำนึกได้ โดยก่อนตายได้สั่งสอนพิเภกให้รับราชการกับพระราม ให้ ปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต การแสดงในครั้งนี้ จึงเป็นข้อคิดให้ทุกคน มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์ ซื่อตรง และรู้รักสามัคคี
 
นอกจากการแสดงที่วิจิตรงดงามที่แสดงโดยนักแสดงเยาวชนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกซ้อมจากครูผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ จนมีฝีมือการร่ายรำอันงดงามถูกต้องตามจารีตแล้ว ผู้ชมจะได้รับฟังการบรรเลงดนตรีและขับร้องเพลงไทยอันไพเราะ รับชมความวิจิตรของเครื่องแต่งกายอันประณีต พบกับความพิเศษของสุดยอดฉากการแสดงที่ยิ่งใหญ่ตระการตาของกุมภกรรณทดน้ำเพื่อไม่ให้ไหลไปสู่พลับพลา ฉากหนุมานแปลงกายเป็นเหยี่ยวใหญ่ ฉากหนุมานดำลงสู่ใต้น้ำ และอีกมากมายที่จัดสร้างขึ้นเพื่อการแสดงโขนที่ยิ่งใหญ่บนเวที
 
สุดท้ายผลการต่อสู้และจุดจบของเรื่องราวกุมภกรรณทดน้ำจะเป็นอย่างไรนั้น เชิญเข้ารับชมการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน กุมภกรรณทดน้ำ จับจองเป็นเจ้าของบัตรด่วน! เปิดจำหน่ายบัตร 12 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา โทร. 0-2262-3456
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TRAVEL

ภูเขียว-น้ำหนาว-ภูกระดึงขึ้นทะเบียนอุทยานมรดกอาเซียน

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 34 (34th Meeting of the ASEAN Senior Officials on the Environment : 34th ASOEN) วันที่ 1 สิงหาคม 2566 ได้พิจารณารับรองการขึ้นทะเบียนอุทยานมรดกอาเซียน (ASEAN Heritage Park: AHP) ของประเทศไทย จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวและอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เป็นอุทยานมรดกอาเซียนแห่งที่ 56 และอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นอุทยานมรดกอาเซียนแห่งที่ 57 และได้พิจารณารับรองให้โรงเรียนสาธิตเทศบาลบ้านหัวหิน เข้ารับรางวัลโรงเรียนที่มีกระบวนการจัดการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมดีเด่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ กลุ่ม ASEAN “ASEAN Eco-Schools” ระดับมัธยมศึกษาและระดับประถมศึกษา รวมทั้งรับรองให้นายมนตรี เจือไธสง เข้ารับรางวัลนักวิจัย / ครูผู้สอนสิ่งแวดล้อมศึกษาดีเด่น ระดับชาติและระดับนานาชาติ กลุ่ม ASEAN “ASEAN Youth Eco-Champions Award”
 
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีพื้นที่ที่ได้รับการรับรองเป็นอุทยานมรดกอาเซียน ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา กลุ่มอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลันและอ่าวพังงา กลุ่มป่าแก่งกระจาน ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม-เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และอุทยานแห่งชาติเขาสก
 
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการนำเสนอ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ให้เป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 หลายภาคส่วนได้ร่วมกันเตรียมเอกสารนำเสนอข้อมูลพื้นที่ ตลอดจนเร่งระดมสรรพกำลังเพื่อให้สามารถผ่านเกณฑ์การประเมินได้ ซึ่งไทยมีความโดดเด่นหลายประการ อาทิ การอนุรักษ์ธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพ มีพื้นที่ที่มีความเชื่อมโยงกับประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น
 
“โลกมีการตื่นตัวเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและเร่งพัฒนาแนวความคิดของคนไทยอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ การสนับสนุนให้พื้นที่ในประเทศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อเป็นพื้นที่คุ้มครอง รักษาสภาพธรรมชาติ ร่วมกับให้เกิดประโยชน์กับมนุษย์ควบคู่ไปด้วย ซึ่งอุทยานแห่งชาติจะช่วยรักษาสภาวะสมดุลธรรมชาติ พร้อมกันนี้ รัฐบาลสนับสนุนให้ระบบการศึกษาไทยให้ความสำคัญกับการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมสร้างการตระหนักรู้ตั้งแต่เยาวชน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะส่งผลต่อการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต” นางสาวรัชดาฯ กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News