Categories
NEWS UPDATE

ทักษิณชี้ผลโพล “อาจคลาดเคลื่อน” หลังปราศรัยเชียงใหม่-เชียงราย

ศูนย์นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน “ทักษิณปราศรัยเชียงใหม่ เชียงราย ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งหรือไม่?”

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ทักษิณปราศรัยเชียงใหม่ เชียงราย…แล้วเราควรตัดสินใจอย่างไร” ซึ่งสำรวจระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม 2568 จากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,803 คน ครอบคลุมทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้

การตัดสินใจเลือกตั้งในเชียงใหม่

ผลสำรวจพบว่า สำหรับการปราศรัยของนายทักษิณ ชินวัตร เพื่อสนับสนุนผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พรรคเพื่อไทยในเชียงใหม่ ประชาชนร้อยละ 37.11 ระบุว่าไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจ เพราะจะไม่เลือกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ขณะที่ร้อยละ 23.24 ระบุว่าส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกพรรคเพื่อไทย

ส่วนร้อยละ 17.06 ระบุว่าไม่ส่งผลเพราะจะเลือกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ร้อยละ 13.59 ยังไม่ตัดสินใจ และร้อยละ 9.00 ระบุว่าส่งผลต่อการตัดสินใจไม่เลือกพรรคเพื่อไทย

ด้านผลต่อการเลือกตั้ง ส.ส. เชียงใหม่ในอนาคต พบว่าร้อยละ 30.37 ระบุว่าไม่ส่งผลเลย รองลงมาร้อยละ 28.87 ระบุว่าส่งผลมาก และร้อยละ 24.74 ระบุว่าค่อนข้างส่งผล

การตัดสินใจเลือกตั้งในเชียงราย

ในเชียงราย ประชาชนร้อยละ 33.01 ระบุว่าการปราศรัยของนายทักษิณไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจ เพราะจะไม่เลือกพรรคเพื่อไทย รองลงมาร้อยละ 26.09 ระบุว่าส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกพรรคเพื่อไทย และร้อยละ 17.12 ระบุว่าไม่ส่งผลเพราะจะเลือกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว

ส่วนร้อยละ 14.54 ยังไม่ตัดสินใจ และร้อยละ 9.24 ระบุว่าส่งผลต่อการตัดสินใจไม่เลือกพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามถึงผลกระทบต่อการเลือกตั้ง ส.ส. เชียงรายในอนาคต ร้อยละ 36.96 ระบุว่าไม่ส่งผลเลย ขณะที่ร้อยละ 25.95 ระบุว่าส่งผลมาก

ลักษณะทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม

สำหรับเชียงใหม่ ตัวอย่างร้อยละ 47.05 เป็นเพศชาย และร้อยละ 52.95 เป็นเพศหญิง ส่วนใหญ่มีอายุ 46-59 ปี (ร้อยละ 23.43) และอายุ 60 ปีขึ้นไป (ร้อยละ 29.52)

ในเชียงราย ตัวอย่างร้อยละ 47.96 เป็นเพศชาย และร้อยละ 52.04 เป็นเพศหญิง โดยกลุ่มอายุ 46-59 ปี คิดเป็นร้อยละ 25.41 และอายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.07

ทักษิณชี้ผลโพล “อาจคลาดเคลื่อน”

นายทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงผลโพลดังกล่าวว่า “อ่อ มั่ว” พร้อมตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของผลสำรวจ เขาเปรียบเทียบกับโพลในอดีตที่มักสะท้อนผลตรงข้าม

ศูนย์นิด้าโพลระบุว่าผลการสำรวจครั้งนี้สะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่หลากหลาย และอาจบ่งชี้ถึงทิศทางการตัดสินใจของประชาชนในอนาคต โดยเฉพาะการเลือกตั้งระดับชาติ

บทสรุป

ผลการสำรวจจากนิด้าโพลสะท้อนถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการปราศรัยของทักษิณ ชินวัตร ที่มีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งอาจมีผลต่อการเลือกตั้งในอนาคต การสำรวจนี้เป็นการเปิดเวทีให้เห็นถึงความคิดของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ที่มีความสำคัญทางการเมืองอย่างมาก

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายจัดงานวันเด็ก 2568 สนุกสนาน ครอบคลุมทุกพื้นที่

เชียงรายจัดงานวันเด็ก 2568 คึกคัก กองทัพ-ตำรวจ-เทศบาลร่วมมอบความสุขน้องๆ

เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงรายได้จัดกิจกรรมเนื่องใน วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 อย่างยิ่งใหญ่ในหลายพื้นที่ โดยมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจจากหลากหลายหน่วยงาน ทั้งกองทัพ ตำรวจ และเทศบาลนครเชียงราย

ค่ายเม็งรายมหาราช จัดเต็มอาวุธยุทโธปกรณ์

มณฑลทหารบกที่ 37 จัดงานวันเด็ก ณ ค่ายเม็งรายมหาราช มีการจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ อาทิ เฮลิคอปเตอร์ รถถัง และปืนขนาดต่างๆ ให้เด็กๆ ได้ทดลองใช้งาน พร้อมการแสดงดนตรีจากหมวดดุริยางค์ นอกจากนี้ยังมีการจัดอาหารจากรถครัวสนาม และแจกของขวัญให้เด็กๆ โดยงานนี้ได้รับความสนใจจากเด็กๆ และผู้ปกครองเป็นอย่างมาก

ฝูงบิน 416 เปิดสนามบิน โชว์สมรรถนะการบินครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี

กองทัพอากาศ และ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย จัดงานวันเด็ก ณ สนามบินเก่า อ.เมืองเชียงราย โดยมีไฮไลต์คือการแสดงบินโชว์ของ เครื่องบินขับไล่ F16 และการจัดแสดงเครื่องบิน AT-6 และเฮลิคอปเตอร์ EC-725 นอกจากนี้ยังมีเครื่องจำลองการบิน (Flight Simulator) ให้เด็กๆ ได้ทดลองขับ พร้อมกิจกรรมสนุกๆ เช่น การแข่งขัน Balance Bike และการโชว์สตันต์มอเตอร์ไซค์

เทศบาลนครเชียงรายจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อเยาวชน

เทศบาลนครเชียงราย นำโดย นายวันชัย จงสุทธานามณี จัดกิจกรรมที่สวนสาธารณะหาดนครเชียงราย มีการเล่นเกม Cyber Board Game เพื่อสร้างความรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ พร้อมมอบเกียรติบัตรแก่นักเรียนดีเด่นในด้านต่างๆ และแจกของรางวัลมากมาย งานนี้ผสมผสานความสนุกและการเรียนรู้สำหรับเด็กๆ

ตำรวจภูธรเชียงรายมอบความสนุก พร้อมสอนทักษะการเอาตัวรอด

ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย จัดงานวันเด็กที่ร้านปันรักษ์เจียงฮาย โดยมีการแสดงดนตรี การเต้น Cover และเกมสนุกๆ พร้อมการสาธิตวิธีเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น “หนี ซ่อน สู้” ซึ่งได้รับความสนใจจากเด็กๆ และผู้ปกครองอย่างล้นหลาม

สรุปภาพรวมงานวันเด็กเชียงราย 2568

งานวันเด็กในปีนี้จัดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วเชียงราย มีการผสมผสานความสนุกสนาน ความรู้ และความปลอดภัยเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มุ่งมั่นสร้างความสุขให้กับเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

องคมนตรีเยี่ยมโครงการหลวงเชียงราย สานต่อพระราชปณิธานพัฒนาพื้นที่สูง

องคมนตรีตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเชียงราย มอบถุงพระราชทาน สานต่อพระราชปณิธาน

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 เวลา 10.30 น. พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ในฐานะเลขาธิการและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ได้เดินทางไปยัง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย โดยมี นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้การต้อนรับ

มอบถุงพระราชทานกำลังใจผู้ปฏิบัติงานโครงการหลวง

ในโอกาสนี้ องคมนตรีได้เชิญ ถุงพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการสืบสานพระราชปณิธานงานโครงการหลวง มอบให้แก่เจ้าหน้าที่และสมาชิกเกษตรกรในพื้นที่ จำนวน 92 คน เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

พลเอก กัมปนาท กล่าวเน้นย้ำถึงพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรบนพื้นที่สูง

ติดตามความก้าวหน้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง ก่อตั้งขึ้นในปี 2550 ตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยผาหม่น ใกล้เขตแดนไทย-ลาว โดยมีหน้าที่พัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ 3 หมู่บ้าน 1 กลุ่มบ้าน รวม 763 ครัวเรือน

ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่สามารถปลูกพืชผัก ผลไม้เมืองหนาว และพืชสมุนไพร เช่น คอสสลัด พลับ กาแฟ และสมุนไพร ภายใต้ระบบอาหารปลอดภัย สร้างรายได้กว่า 7.9 ล้านบาทในปี 2567

เยี่ยมศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยแล้ง

ช่วงบ่าย องคมนตรีได้เดินทางไปยัง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยแล้ง ตำบลท่าข้าม อำเภอเวียงแก่น เพื่อมอบถุงพระราชทานแก่เจ้าหน้าที่และสมาชิกเกษตรกร 91 คน

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยแล้ง ก่อตั้งขึ้นในปี 2542 มีพื้นที่ดูแลครอบคลุม 11 หมู่บ้าน รวม 1,982 ครัวเรือน เน้นพัฒนาการเกษตร เช่น คะน้าฮ่องกง เมล่อนญี่ปุ่น และพริกเม็กซิกัน นอกจากนี้ยังสนับสนุนงานจักสานและผ้าทอไทลื้อ เพื่ออนุรักษ์และถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรม

ลดจุด Hotspot และส่งเสริมการปลูกป่า

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยแล้งยังดำเนินงานด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริ “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” โดยในปี 2567 สามารถลดจุด Hotspot ได้ถึงร้อยละ 58 เมื่อเทียบกับปี 2566

สรุปใจความสำคัญ

องคมนตรีตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาโครงการหลวงในเชียงราย มอบถุงพระราชทาน 183 ใบ สานต่อพระราชปณิธานสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ราษฎรบนพื้นที่สูง พร้อมติดตามความก้าวหน้าด้านการเกษตรและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายเปิดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว มุ่งคุณภาพและความยั่งยืน

เชียงรายเปิดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดปี มุ่งเน้นความยั่งยืนและคุณภาพ

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 เวลา 16.00 น. ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงราย ชั้น G Zone Grand Hall นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ภายใต้โครงการพัฒนากิจกรรมและการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ โดยมี นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการ สื่อมวลชน และประชาชนร่วมงานอย่างคึกคัก

กิจกรรมนี้จัดขึ้นโดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการให้มีคุณภาพ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่ อาทิ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวโดยชุมชน

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ กล่าวถึงจุดเด่นของจังหวัดเชียงรายว่า เชียงรายมีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านถึง 2 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ทำให้จังหวัดมีความหลากหลายทั้งด้านแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม และประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ล้านนา รวมถึงความหลากหลายของชาติพันธุ์ กิจกรรมเชิงสุขภาพที่รองรับทุกวัย และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม

กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 9 มกราคม 2568 โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น

  • ลานนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยว: ให้ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางได้ตลอดทั้งปี
  • บูธแสดงและจำหน่ายสินค้า: ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่สะท้อนอัตลักษณ์ของเชียงราย
  • กิจกรรม Workshop: สาธิตและให้ความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์

ผู้ที่สนใจสามารถร่วมงานได้ ณ ชั้น G Zone Grand Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงราย

นายนรศักดิ์ กล่าวปิดท้ายว่า กิจกรรมนี้จะช่วยเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว พร้อมทั้งกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของจังหวัดเชียงราย และย้ำถึงความสำคัญของการดื่มด่ำธรรมชาติ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพทั้งกายและใจ

กิจกรรมดังกล่าวสะท้อนถึงความพร้อมของจังหวัดเชียงรายในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท พร้อมสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าและยั่งยืนสำหรับผู้มาเยือน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS UPDATE

30 บาทรักษาทุกที่ ทั่วประเทศ เริ่มวันนี้ สุขภาพดีทั่วไทย

รัฐบาลเปิดตัว “30 บาทรักษาทุกที่” ครอบคลุมทั่วประเทศ ยกระดับสุขภาพคนไทย

วันที่ 3 มกราคม 2568 – รัฐบาลไทยได้เปิดตัวโครงการ “30 บาทรักษาทุกที่” ระยะที่ 4 ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นโครงการเรือธงที่มุ่งเน้นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการสุขภาพสำหรับคนไทยทุกคน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์หรือเอกสาร เพียงใช้ “บัตรประชาชนใบเดียว” ก็สามารถรับบริการทางการแพทย์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง

ความสำเร็จในปีที่ผ่านมา

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2567 และได้รับการขยายผลอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ระยะที่ 3 ครอบคลุม 46 จังหวัด และล่าสุดได้ขยายเพิ่มเติมอีก 31 จังหวัดในปี 2568 ทำให้ครอบคลุมทุกจังหวัดในประเทศ นับว่าเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาสาธารณสุขไทย

ในปี 2567 เพียงปีเดียว โครงการ “30 บาทรักษาทุกที่” มีผู้ใช้บริการกว่า 6,150,579 คน โดยให้บริการจำนวน 14,079,514 ครั้ง ซึ่งรวมถึง:

  • บริการเจาะเลือดใกล้บ้านผ่าน Lab Rider จำนวน 30 รายการ
  • บริการ Telemedicine หรือการพบแพทย์ออนไลน์ จำนวน 1,206,031 ครั้ง
  • บริการรับยาใกล้บ้านผ่านร้านยาเอกชน 93,927 ครั้ง
  • การจัดส่งยาทางไปรษณีย์ 573,612 ครั้ง
  • การส่งยาโดย Health Rider จำนวน 379,782 ครั้ง

โครงการนี้ช่วยลดระยะเวลาการรอคอยจากเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 7 นาที เหลือเพียง 56 นาทีต่อครั้ง และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครั้งได้ถึง 160 บาท

ความสะดวกที่เพิ่มขึ้นในปี 2568

ภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร โครงการนี้ได้รับการพัฒนาและขยายผลเพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างเท่าเทียม การใช้ บัตรประชาชนใบเดียว เป็นกุญแจสำคัญในการลดความยุ่งยากด้านเอกสาร และช่วยอำนวยความสะดวกในกระบวนการรักษา โดยประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้ทั้งใน:

  • โรงพยาบาลรัฐ
  • คลินิกเอกชน
  • ร้านขายยาเอกชน ที่เข้าร่วมโครงการ (สามารถสังเกตสติกเกอร์ “30 บาทรักษาทุกที่” ได้)

ทั้งนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้เตรียมความพร้อมในด้านการเบิกจ่าย และสนับสนุนหน่วยบริการในระบบเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

ประโยชน์และสิทธิใหม่ของประชาชน

นอกจากบริการเดิม โครงการนี้ยังมอบสิทธิประโยชน์ใหม่ อาทิ:

  • การเลือกสถานที่รักษาใกล้บ้าน ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน
  • เพิ่มบริการตรวจและรักษาโรคทั่วไปในร้านขายยา
  • บริการจัดส่งยาและปรึกษาแพทย์ออนไลน์ เพิ่มความสะดวกให้ผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล

ผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมไทย

นโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังมีผลกระทบเชิงบวกในด้านอื่น ๆ:

  1. ลดความแออัดในโรงพยาบาลใหญ่ โดยกระจายการรักษาไปยังหน่วยบริการอื่น ๆ
  2. เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการรักษาในพื้นที่ห่างไกล โดยเฉพาะประชาชนในชนบท
  3. สนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น ผ่านการมีส่วนร่วมของคลินิกและร้านขายยาเอกชน
  4. ลดความเหลื่อมล้ำในระบบสาธารณสุข ทำให้ประชาชนทุกคนได้รับโอกาสทางการรักษาที่เท่าเทียม

ก้าวต่อไปเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน

ในปี 2568 รัฐบาลตั้งเป้าที่จะพัฒนาโครงการให้ครอบคลุมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เช่น ระบบ Telemedicine และการจัดส่งยาอัจฉริยะ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกพื้นที่ของประเทศไทย

นโยบายนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการสร้างระบบสาธารณสุขที่ทันสมัย เท่าเทียม และครอบคลุมทุกกลุ่มประชากร ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืน

“30 บาทรักษาทุกที่” สุขภาพดีสำหรับคนไทยทุกคน เริ่มแล้วทั่วประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS UPDATE

ไทยดึงนักท่องเที่ยว 35 ล้านคน สร้างรายได้ทะลุเป้า 1.8 ล้านล้านบาท

ไทยแลนด์ครองเป้าหมายการท่องเที่ยวปี 2567 เตรียมพร้อมสู่ปี Amazing Thailand Grand Tourism 2025

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 35,047,501 คน ในปี 2567 ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ สร้างรายได้กว่า 1.8 ล้านล้านบาท จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

มาตรการเสริมศักยภาพการท่องเที่ยว
ความสำเร็จในปี 2567 เป็นผลมาจากมาตรการที่หลากหลาย เช่น

  • ยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) สำหรับ 93 ประเทศ
  • ยกเว้นบัตร ตม.6 สำหรับ 16 ด่านชายแดนทางบกและน้ำ
  • ความร่วมมือกับสายการบินระหว่างประเทศในการเปิดเส้นทางบินใหม่ เพิ่มเที่ยวบิน และขยายความจุที่นั่งสายการบิน

โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น มีสายการบินเปิดเส้นทางบินใหม่ถึง 311 เที่ยวบิน เพิ่มความจุที่นั่งกว่า 70,000 ที่นั่ง

ตลาดนักท่องเที่ยวที่เติบโตสูง
ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทำสถิติสูงสุด (New High) เมื่อเทียบกับปี 2562 ได้แก่

  • จีน: 6,667,610 คน
  • มาเลเซีย: 4,898,496 คน
  • อินเดีย: 2,100,645 คน
  • เกาหลีใต้: 1,847,276 คน
  • รัสเซีย: 1,705,198 คน
    นอกจากนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางและยุโรปยังคงเติบโตต่อเนื่อง

กิจกรรมเด่นดึงดูดนักท่องเที่ยว


ในปีที่ผ่านมา ททท. จัดกิจกรรมและอีเวนต์ระดับโลก เช่น

  • Amazing Thailand Countdown 2024
  • เทศกาลสงกรานต์ระดับชาติ
  • การท่องเที่ยวตามรอยซีรีส์และภาพยนตร์ไทย
  • โครงการ Amazing Thailand Passport Privileges

แผนงานปี 2568 สู่การเป็น Tourism Hub ของเอเชีย

ททท. วางเป้าหมายปี 2568 ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 36-39 ล้านคน สร้างรายได้ 1.98 – 2.23 ล้านล้านบาท ภายใต้แผนงาน Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 โดยเน้นเสน่ห์ไทยที่แตกต่าง เช่น

  • จัดอีเวนต์ระดับโลก
  • เสริมประสบการณ์การเดินทางใหม่
  • เพิ่มสิทธิพิเศษให้กับนักท่องเที่ยว
  • เชิญผู้มีชื่อเสียงระดับโลกเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

การเปิดเส้นทางบินใหม่ในปี 2568
สายการบินจากทั่วโลกเตรียมเปิดเส้นทางใหม่ ได้แก่

  • Ruili Airlines: คุนหมิง-เชียงใหม่
  • British Airways: ลอนดอน-กรุงเทพฯ
  • Thai Airways: บรัสเซลส์-กรุงเทพฯ
  • Air Canada: แวนคูเวอร์-กรุงเทพฯ

การมุ่งสู่การเป็น Tourism Hub

การผสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการเน้นความสะดวกและสิทธิพิเศษให้กับนักท่องเที่ยว จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคอย่างแท้จริง

บทสรุป

ความสำเร็จในปี 2567 เป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ที่สะท้อนถึงความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง โดยปี 2568 จะเป็นปีที่ประเทศไทยเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในการก้าวสู่การเป็น Tourism Hub ของเอเชีย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS UPDATE

ที่สุดแห่งปี 2567 หมูเด้งครองใจ ความหวังใหม่คนไทยปี 2568

“ที่สุดแห่งปี 2567” โดยสวนดุสิตโพล: หมูเด้งครองใจคนไทย สะท้อนความหวังปี 2568

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหัวข้อ “ที่สุดแห่งปี 2567” โดยทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 14,246 คน ผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และภาคสนาม ระหว่างวันที่ 13-27 ธันวาคม 2567 พบว่าปีนี้ประชาชนให้ความสนใจในเหตุการณ์ต่าง ๆ บุคคล และปรากฏการณ์ที่ส่งผลต่อสังคมไทยในหลากหลายมิติ

เหตุการณ์ที่สุดแห่งปี 2567

  1. หมูเด้ง โด่งดังทั่วโลก – ร้อยละ 26.43
    ปรากฏการณ์ “น้องหมูเด้ง” สร้างกระแสความนิยมในหมู่คนไทยและต่างชาติ ถือเป็นสิ่งที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดของคนไทยจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองและเศรษฐกิจ
  2. คดีดิไอคอน – ร้อยละ 24.54
    เหตุการณ์ที่สะท้อนการจับตามองปัญหาความโปร่งใสในสังคม
  3. ยุบพรรคก้าวไกล – ร้อยละ 17.95
    เป็นเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อความหวังและความคาดหวังของประชาชน

ที่สุดแห่งปีในหมวดบุคคล

  • นักร้องเพลงไทยสากลชาย: เจฟ ซาเตอร์ (ร้อยละ 30.65)
  • นักร้องเพลงไทยสากลหญิง: ปาล์มมี่ (ร้อยละ 28.38)
  • นักร้องลูกทุ่งชาย: ก้อง ห้วยไร่ (ร้อยละ 40.58) – ครองแชมป์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
  • นักร้องลูกทุ่งหญิง: ลำไย ไหทองคำ (ร้อยละ 34.74)
  • ดาราชาย: ต่อ ธนภพ (ร้อยละ 30.41)
  • ดาราหญิง: ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก (ร้อยละ 29.22)
  • นักกีฬาชาย: วิว กุลวุฒิ (ร้อยละ 44.35)
  • นักกีฬาหญิง: น้องเทนนิส (ร้อยละ 46.22) – ครองตำแหน่งเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
  • นักการเมืองชาย: ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (ร้อยละ 35.89)
  • นักการเมืองหญิง: แพทองธาร (ร้อยละ 36.77)
  • นักการศึกษาที่สุดแห่งปี: ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ (ร้อยละ 31.13)
  • ผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี: กรรชัย กำเนิดพลอย (ร้อยละ 40.69)

ความหวังของคนไทยในปี 2568

ผลสำรวจพบว่าความหวังที่ประชาชนอยากเห็นในปี 2568 ได้แก่ “คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี” (ร้อยละ 30.15) ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของประชาชนให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นลำดับแรก

มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลสำรวจนี้สะท้อนถึงความหลากหลายของความสนใจของคนไทยในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม แสดงถึงความต้องการผ่อนคลายความเครียดจากข่าวหนักหน่วง เช่น คดีดิไอคอน และการยุบพรรคก้าวไกล

ทั้งนี้ บุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปีอย่างกรรชัย กำเนิดพลอย สะท้อนพลังของวงการสื่อมวลชนที่สร้างแรงกระเพื่อมในสังคม และยังแสดงให้เห็นว่าประชาชนยังคงจับตามองประเด็นเศรษฐกิจและการเมืองเป็นสำคัญในปีหน้า

บทสรุปของปีแห่งความหวัง

ปี 2567 อาจเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง แต่ความหวังของคนไทยในปี 2568 ยังมุ่งไปที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการสร้างความมั่นคงในชีวิต พร้อมกับการรับแรงบันดาลใจจากบุคคลที่โดดเด่นในหลากหลายวงการ ทั้งการบันเทิง การกีฬา การศึกษา และสื่อมวลชน ซึ่งยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนให้สังคมไทยเดินหน้าต่อไปในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ดุสิตโพล

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

พิธีตักบาตรปีใหม่เชียงราย 2568 เสริมสิริมงคล ต้อนรับความสุข

พิธีอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และตักบาตรรับปีใหม่ เชียงราย ปี 2568

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 ที่บริเวณแยกสุริวงค์ ถนนธนาลัย อำเภอเมืองเชียงราย เทศบาลนครเชียงรายได้จัดพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จาก 9 วัด ประดิษฐานบนราชรถบุษบกศิลปะล้านนา 9 คัน พร้อมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2568

พิธีนี้มีพระรัตนมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โดยมีนางสินีนาฏ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายกเทศมนตรีนครเชียงราย เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงราย ผู้บริหารเทศบาลนครเชียงราย พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดเชียงราย และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

ราชรถบุษบก 9 คันแห่งศรัทธา

ราชรถบุษบกที่ใช้ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 องค์ ถูกออกแบบและสร้างสรรค์ด้วยศิลปะล้านนาที่วิจิตรบรรจง สะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและความเชื่อของชาวล้านนา โดยราชรถเหล่านี้ถูกใช้ในพิธีสำคัญที่เชียงรายมาตลอดหลายปี ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคลที่สร้างแรงศรัทธาให้แก่ผู้พบเห็น

พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 องค์ ได้แก่

  1. พระพุทธสิหิงค์
  2. พระพุทธชินราชจำลอง
  3. พระแก้วมรกตจำลอง
  4. พระพุทธเมตตา
  5. พระพุทธโสธรจำลอง
  6. พระพุทธไตรรัตนนายก
  7. พระพุทธมหามุนีจำลอง
  8. พระพุทธปางลีลา
  9. พระพุทธชินบัญชรจำลอง

ตักบาตรปีใหม่ สืบสานวัฒนธรรมไทย

พิธีทำบุญตักบาตรในครั้งนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 25 โดยมีพระภิกษุสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงราย จำนวน 129 รูป ออกรับบิณฑบาตจากประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงาน ตั้งแต่แยกสุริวงค์ ถนนธนาลัย ไปจนถึงแยกศาลแขวงเชียงราย รวมระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความศรัทธาและความอบอุ่น ประชาชนจำนวนมากร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง และดอกไม้เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันเริ่มต้นปีใหม่ ทั้งยังถือเป็นการส่งเสริมและสืบสานประเพณีอันดีงามของชาวไทย

ความสำคัญของพิธี

พิธีอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ ไม่เพียงเป็นการเสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิต แต่ยังสะท้อนถึงความร่วมมือของชุมชนในการสืบสานวัฒนธรรมไทยที่งดงาม อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีให้ประชาชนได้แสดงความกตัญญูและความเคารพต่อพระพุทธศาสนา

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า “พิธีนี้เป็นประเพณีสำคัญที่ชาวเชียงรายร่วมกันสืบสานมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่เปี่ยมด้วยศรัทธาและความสุข อีกทั้งยังส่งเสริมภาพลักษณ์ของเชียงรายในฐานะเมืองแห่งวัฒนธรรมล้านนาและการท่องเที่ยวเชิงศาสนา”

ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ

นอกจากจะเป็นพิธีที่สำคัญต่อชาวเชียงรายแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วประเทศและชาวต่างชาติให้มาสัมผัสบรรยากาศของประเพณีไทยที่งดงาม พิธีนี้จึงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย

เทศบาลนครเชียงรายได้ย้ำถึงความพร้อมในการจัดงาน พร้อมเชิญชวนทุกคนมาร่วมสัมผัสความงดงามและศรัทธาในปีหน้า เพื่อสืบสานประเพณีนี้ต่อไปอย่างยั่งยืน

พิธีอัญเชิญพระพุทธรูปและตักบาตรปีใหม่ที่เชียงราย เป็นมากกว่าพิธีกรรมทางศาสนา แต่เป็นสะพานเชื่อมโยงชุมชนและวัฒนธรรมไทยให้ยืนยาวต่อไปในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เชียงรายจัดตักบาตรดอกไม้ครั้งยิ่งใหญ่ ฉลองงานดอกไม้งามปีที่ 21

พิธีตักบาตรดอกไม้หนึ่งเดียวในล้านนา และเปิดงานเชียงรายดอกไม้งาม ปีที่ 21

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ที่สวนสาธารณะหาดนครเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และพระราชวชิรคณี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีตักบาตรดอกไม้ หนึ่งเดียวในล้านนา

พิธีตักบาตรดอกไม้ หนึ่งเดียวในล้านนา

พิธีเริ่มต้นด้วยขบวนแห่อัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 9 องค์จาก 9 วัดในอำเภอเมืองเชียงราย ประดิษฐานบนรถบุษบก 9 คัน สร้างโดยศิลปินจากหลากหลายจังหวัด ใช้เวลากว่า 9 ปีในการสร้าง และจะนำออกแสดงให้ประชาชนชมเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ในพิธีมีทั้งประชาชนชาวเชียงรายและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเข้าร่วมอย่างคึกคัก ร่วมตักบาตรดอกไม้เพื่อความเป็นสิริมงคล

พระสงฆ์และสามเณรออกรับบิณฑบาตรดอกไม้ โดยมีประชาชนจำนวนมากร่วมทำบุญตักบาตรในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความศรัทธาและความงดงามของราชรถและดอกไม้ ทำให้พิธีครั้งนี้เป็นที่ประทับใจของผู้ร่วมงานอย่างยิ่ง

เปิดงานเชียงรายดอกไม้งาม ปีที่ 21

หลังจากพิธีตักบาตรดอกไม้ รองนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานเชียงรายดอกไม้งาม ปีที่ 21 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สวนสาธารณะหาดนครเชียงราย

งานเชียงรายดอกไม้งามปีนี้จัดขึ้นในพื้นที่ใหม่ที่มีความกว้างกว่า 70 ไร่ ริมแม่น้ำกก โดยมีจุดเด่นคือสวนดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสีสัน สลับกับสายหมอกบางเบาที่แต่งแต้มบรรยากาศฤดูหนาวให้สดชื่นและสวยงาม

ในงานยังมีกิจกรรมหลากหลาย เช่น เทศกาลดนตรีในสวน การแสดงศิลปวัฒนธรรม และการจัดสวนดอกไม้ในสไตล์ล้านนา เหมาะสำหรับการพักผ่อนและดื่มด่ำกับธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมงานได้ฟรี

พัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะหาดนครเชียงราย

สวนสาธารณะหาดนครเชียงราย หรือที่เรียกกันว่า “พัทยาน้อย” ได้รับการพัฒนาโดยเทศบาลนครเชียงรายร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นพื้นที่ออกกำลังกายและแลนด์มาร์กใหม่ของเชียงราย มีเส้นทางเดินริมน้ำยาวกว่า 10 กิโลเมตร

เทศกาลดอกไม้ สัญลักษณ์ของเชียงราย

เชียงรายดอกไม้งามเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่นักท่องเที่ยวรอคอยทุกปี ด้วยความงดงามของดอกไม้เมืองหนาวและการตกแต่งในบรรยากาศล้านนา เป็นสถานที่ที่สร้างความประทับใจและความทรงจำดี ๆ ให้ผู้มาเยือน

หน้าหนาวปีนี้ ใครยังไม่มีแผน แนะนำให้แวะมาชมงานเชียงรายดอกไม้งาม ปีที่ 21 ที่จะมอบความสุขและโมเมนต์อันน่าจดจำให้กับทุกคนที่มาเยือน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS UPDATE

10 เทรนด์ดิจิทัลสุดฮิต 2567 น้องเนย-หมูเด้งครองใจคนไทย

10 เทรนด์ฮิตดิจิทัลแห่งปี 2567 โดย LINE ประเทศไทย: กระแสน่ารัก-ประเด็นฮอตครองโลกออนไลน์

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 LINE ประเทศไทยเผย 10 เทรนด์ฮิตดิจิทัลแห่งปี 2567 ที่ส่งอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างลึกซึ้งและหลากหลาย ทั้งกระแสน่ารักจากมาสคอตชื่อดัง ไปจนถึงประเด็นฮอตบนโลกออนไลน์ที่สร้างความตื่นตัวในสังคม โดยเทรนด์เหล่านี้สะท้อนวัฒนธรรมป๊อปและไลฟ์สไตล์ที่ผสมผสานในยุคดิจิทัล ดังนี้:

1. น้องเนย-หมูเด้ง ขวัญใจโลกดิจิทัล

‘น้องเนย’ จาก Butterbear และ ‘หมูเด้ง’ จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว คว้าหัวใจชาวไทยบนโลกออนไลน์ ด้อมแฟนคลับของทั้งคู่ใน LINE OPENCHAT มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ ‘ด้อมหมูเด้ง’ ที่สมาชิกเพิ่มจาก 5,000 เป็น 10,000 คนในเวลาเพียง 10 นาที ขณะที่เพลง “น่ารักมั๊ยไม่รู้” ของน้องเนย ติดอันดับเพลงฮิตบน LINE MELODY ด้วยยอดดาวน์โหลดสูงสุดภายใน 2 วันแรก

2. สติกเกอร์คนดังและคำฮิต วลีเด็ดครองใจ

LINE STICKERS ปีนี้เต็มไปด้วยคอลเลกชันใหม่ ๆ จากทั้งดาราและคำฮิต เช่น “birthday but with me (เกิดแต่กับกู)” ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการสนทนาของชาวเน็ต

3. ยกเครื่องอิโมจิในรอบ 7 ปี

LINE ปรับโฉมอิโมจิครั้งใหญ่ในรอบ 7 ปี เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้งาน เพิ่มความสะดวกในการสื่อสารและแสดงอารมณ์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

4. ของกินไวรัลแรง ช็อกโกแลตดูไบ-ไข่พะโล้ฮิต

‘ช็อกโกแลตดูไบ’ และ ‘ไข่พะโล้’ กลายเป็นเมนูยอดนิยมที่สร้างกระแสบนโลกโซเชียล โดยไข่พะโล้ทำยอดออเดอร์บน LINE MAN เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในเดือนเดียว

5. กีฬา-สมรสเท่าเทียม-ฉ้อโกง ประเด็นฮอตติดกระแส

มหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 และประเด็นสมรสเท่าเทียมดึงดูดความสนใจจากชาวไทย โดยการไลฟ์สดงาน Pride Parade มียอดรับชมสูงถึง 1 ล้านคน ขณะเดียวกัน ประเด็นฉ้อโกงและมิจฉาชีพมีผู้ติดตามข่าวสารกว่า 36 ล้านเพจวิว

6. เพลงฮิตหลากหลาย คว้ารางวัล Black Melody

LINE MELODY ปีนี้มอบรางวัล Black Melody ให้กับเพลงหลากหลายแนว เช่น “หมูเด้ง Moo Deng (Reggaeton)” โดย Karat K และเพลง “น่ารักมั๊ยไม่รู้” จากน้องเนยที่กลายเป็นเพลงฮิตแห่งปี

7. ขอพรออนไลน์ หลวงพ่อทันใจนำอันดับ

‘หลวงพ่อทันใจ’ วัดพระธาตุดอยคำ เชียงใหม่ นำอันดับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยใช้บริการขอพรออนไลน์ผ่าน LINE ดูดวงมากที่สุด

8. เกมสนุก-เว็บตูนปัง

LINE GAME และ LINE WEBTOON ยังคงเป็นที่นิยม โดย LINE Idle Ranger มีผู้เล่นสะสมเวลามากถึง 242,023 นาทีในวันแรก ขณะที่ LINE WEBTOON จัด Pop-up Store ให้แฟนคลับกว่า 10,000 คน

9. SME ตื่นตัว เรียนรู้ไม่หยุด

LINE for Business ช่วยพัฒนา SME ทั่วประเทศผ่านงานสัมมนาและคอร์สออนไลน์ เช่น BOOTCAMP DAY และ UPSKILL SME เพื่อเตรียมความพร้อมธุรกิจในยุคดิจิทัล

10. หลานม่า-ธี่หยด 2 หนังไทยฮอตแห่งปี

ภาพยนตร์ไทย “หลานม่า” และ “ธี่หยด 2” ทำยอดขายตั๋วสูงสุดบน LINE Pay พร้อมสะท้อนความนิยมของภาพยนตร์ไทยที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง

บทสรุป

10 เทรนด์ดิจิทัลปี 2567 จาก LINE ประเทศไทย สะท้อนการผสมผสานระหว่างดิจิทัลและชีวิตจริงในแบบที่ทุกคนเข้าถึงได้ ตั้งแต่ความบันเทิง อาหาร วัฒนธรรม ไปจนถึงประเด็นสังคมที่สร้างแรงกระเพื่อมในทุกมิติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : LINE

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE