Categories
FEATURED NEWS

Cyber Booster เปิดตัวโครงการ สร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ทั่วไทย

เปิดตัวโครงการ Cyber Booster ถึงเวลาฉีดวัคซีน#สร้างภูมิสู้ภัยไซเบอร์ 5 หน่วยงานร่วมผนึกกำลัง ป้องกันประชาชนจากภัยร้ายออนไลน์

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ,รายการสถานีประชาชน สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และ บริษัท เทลสกอร์ จำกัด ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Cyber Booster #สร้างภูมิสู้ภัยไซเบอร์ ในรายการสถานีประชาชน สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส 

โครงการที่ผลิตและเผยแพร่สื่อเตือนภัยเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสู้ภัยไซเบอร์ ซึ่งมีจุดริเริ่มมาจากสถานการณ์สังคมไทยปัจจุบันที่ต้องเผชิญปัญหาที่มาจากภัยไซเบอร์ การแสวงหาประโยชน์จากกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ เว็บไซต์ปลอมที่แอบอ้างเป็นหน่วยงานราชการ และ การลักลอบใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหายนำมาข่มขู่ให้เกิดความกลัวและยอมทำตามที่มิจฉาชีพต้องการ 

ซึ่งจากปัญหาและผลกระทบดังกล่าว โครงการ Cyber Booster จะเข้ามาสร้างการตระหนักรู้ในภัยไซเบอร์ในช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างความเข้าใจและเสริมภูมิคุ้มกันต่อมิจฉาชีพแก่ประชาชน รวมทั้งช่วยประชาสัมพันธ์ช่องทางการช่วยเหลือจากภาครัฐให้ประชาชนทราบผ่านชุดคลิปวิดีโอจำนวน 17 เรื่องที่จัดทำขึ้น  

นำโดย พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือ สารวัตรแจ๊ะ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (IDMB)ร.ต.อ.นนทพัทธ์ อินทรศวร ผู้กองวิน และ หมวดแพนด้า ร.ต.ท.หญิง กานต์สินี สิทธิโชติพงศ์ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และ ทีมกากีนั้งทีวี พ.ต.ต.พากฤต กฤตยพงษ์,  ร.ต.อ.พิชพงศ์ โสมกุล,  ร.ต.อ.หญิง พิชญากร สุขทวี ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (PCT) พร้อมทั้ง คุณธิดารัตน์ อนันตรกิตติ ผู้ดำเนินรายการ สถานีประชาชน สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
 

ด้าน ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า ความจริงแล้วคนไทยมีความตระหนักในเรื่องการใช้สื่อมานาน รู้ว่าสื่อจะเป็นช่องทางที่สร้างประโยชน์และทำให้เกิดความเสียหาย ต้องยอมรับว่าวันนี้ทุกคนอยู่กับเครื่องมือสื่อสารมากกว่าสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตแต่แม้จะมีการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ให้ระวังมิจฉาชีพอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังพบว่ามีประชาชนจำนวนมากที่ถูกหลอก ซึ่งเรื่องนี้สะท้อนว่าไม่ใช่ความปกติ ฉะนั้นสังคมไทยถึงเวลาที่จะต้องมาร่วมกันคิดหาทาง และยกระดับการป้องกัน

 

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีหน้าที่รณรงค์ส่งเสริมให้สื่อสร้างสิ่งดี ๆ เพื่อเป็นเกราะป้องกันให้ประชาชนผ่านการจับมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้บังคับใช้กฎหมาย ที่จะต้องเพิ่มความเข้มงวดไปพร้อมกับ หน่วยงานประชาสัมพันธ์ที่จะต้องช่วยกันรณรงค์ต่อเนื่อง

 

“อย่าคิดว่าเรื่องอาชญากรรมออนไลน์เป็นเรื่องของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง วันนี้เรามาเริ่มจุดประกายเชิญชวนให้ทุกคนการสร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์” ดร.ธนกร กล่าว

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (IDMB) ระบุว่า ที่ผ่านมาตำรวจพยายามทำหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่เพื่อสู้กับมิจฉาชีพ แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่ามิจฉาชีพเองมีพัฒนาการต่อไปไม่หยุดยั้ง เปรียบเหมือนตำรวจที่อยู่ในสงครามสู้กับมิจฉาชีพ 5G 

 

และยิ่งปัจจุบันความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านการปราบปรามเป็นไปได้ยากขึ้น เพราะคนร้ายพยายามใช้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือประเทศที่ 3 เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการ เช่น กลุ่มคนร้ายประเทศ A ใช้ฐานที่ตั้งประเทศ B โดยมีลูกทีมเป็นคนประเทศ C  

 

แต่ในวันนี้ที่นับเป็นจุดเริ่มต้นโครงการ Cyber Booster ทำให้เรามีความหวัง ทุกคนในที่นี้และที่กำลังจะร่วมมือกันในอนาคต กำลังสร้างการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันร่วมกัน

 

“คนไทยที่ถูกหลอกส่วนมากจะอายและไม่กล้าออกมาเปิดเผยตัว ในฐานะตำรวจขอให้ผู้ที่เสียหายเดินเข้าหาเจ้าหน้าที่ออกมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ออกมาแจ้งความเพื่อเป็นตัวอย่างและภูมิคุ้มกันให้คนอื่น ๆ” พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าว

ขณะที่ คุณนันทสิทธิ์ นิตย์เมธา นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์  กล่าวว่า เทคโนโลยีมีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง คนร้ายเองก็ร่วมเรียนรู้ไปกับข่าวสาร สิ่งสำคัญที่เราต้องทำในฐานะสื่อคือ ต้องเรียนรู้ก้าวไปข้างหน้าและพยายามกระจายข้อมูลวิธีการและรูปแบบของคนร้ายไปสู่ภาคประชาชน 

 

ในสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ที่ขณะนี้มีสมาชิกกว่า 50 สื่อชั้นนำ ทั้งสื่อใหม่และสื่อดั้งเดิม ทุกหน่วยพร้อมที่จะกระจายข้อมูล  ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม

 

“ยุคนี้เราปราบปรามอย่างเดียวไม่ได้ การสร้างภูมิคุ้มกันเป็นจุดเริ่มต้นของการป้องกัน” คุณนันทสิทธิ์ กล่าว

ด้านคุณสุวิตา จรัญวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด กล่าวว่า บทบาทของภาคเอกชนในการนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับภัยไซเบอร์ยังสามารถขยายและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อีก แม้ว่าขณะนี้หลายภาคส่วนจะพยายามสร้างความตระหนักรู้แล้ว แต่เนื้อหาที่เป็นข่าวภัยไซเบอร์ยังคงต้องถูกนำเสนอในหลากหลายช่องทางและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้รับสารมากขึ้น โดยเฉพาะผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่คนใช้งานประจำ 

 

“Tellscore มองว่าการร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ให้ข้อมูลในช่องทางที่เข้าถึงผู้คนได้อย่างใกล้ชิด สามารถสร้างอิทธิพลให้คนเข้าใจและเห็นความสำคัญของภัยไซเบอร์ได้มากขึ้น” คุณสุวิตา กล่าว

สามารถติดตามข่าวสารของ โครงการ Cyber Booster #สร้างภูมิสู้ภัยไซเบอร์   และช่องทางการเผยแพร่ชุดคลิปวิดีโอ ตามสื่อโซเชียลมีเดีย ดังนี้

 

Facebook / Tiktok / Youtube

– กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

– สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ 

– รายการสถานีประชาชน 

– สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

– ตำรวจสอบสวนกลาง CIB 

– สืบนครบาล IDMB

– Saranitet Police

– KhakinangTV กากีนั้งทีวี

– POLICETV

– Tellscore

บทสรุป

โครงการ Cyber Booster เป็นก้าวสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนไทยในการเผชิญหน้ากับภัยไซเบอร์ การร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนช่วยเสริมสร้างการรับรู้และการป้องกันภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนทุกคนควรร่วมกันตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และเรียนรู้วิธีการป้องกันตนเองอย่างต่อเนื่อง

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและดาวน์โหลดชุดคลิปวิดีโอจากโครงการ Cyber Booster ได้ที่เว็บไซต์ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ หรือโครงการ Cyber Booster #สร้างภูมิสู้ภัยไซเบอร์ ผ่านทางช่องทางหลัก https://www.sonp.or.th/ 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

CPFC จับมือ IKEA-ดีแคทลอน ปฏิวัติร้านสะดวกซื้อใหม่ในเชียงใหม่

CPFC จับมือ IKEA และ Decathlon สร้างมิติใหม่ของร้านสะดวกซื้อในเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 บริษัท ซีพี ฟิวเจอร์ ซิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ CPFC ร่วมกับ CP AXTRA, CP All และ TRUE ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ IKEA และ Decathlon สองยักษ์ใหญ่ในธุรกิจรีเทลระดับโลก เปิดตัว “ฟิวเจอร์ คอนวีเนียนซ์ สโตร์” (FCS) ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ของร้านสะดวกซื้อบนทำเลหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเน้นการออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชน นำเสนอประสบการณ์ช้อปปิ้งที่เข้าถึงง่ายและสะดวกสบาย คาดว่าร้านนี้จะเป็นต้นแบบสำหรับการขยายสาขาในอนาคตทั่วประเทศ

แนวคิดและเป้าหมายของความร่วมมือ

คุณปพิตชญา สุวรรณดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ CPFC กล่าวว่าความร่วมมือครั้งนี้เน้นการผสมผสานความเชี่ยวชาญของทุกฝ่าย ทั้ง CPFC และพันธมิตรระดับโลกอย่าง IKEA และ Decathlon เพื่อสร้างสรรค์มิติใหม่ให้กับธุรกิจร้านสะดวกซื้อ นอกจากการนำเสนอสินค้าคุณภาพจาก IKEA และ Decathlon แล้ว ยังเน้นการออกแบบร้านที่คำนึงถึงการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมในชุมชนท้องถิ่น ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน

โมเดล FCS ร้านสะดวกซื้อแห่งอนาคต

โมเดล FCS ของ CPFC ที่จะเริ่มต้นเปิดให้บริการในต้นปี 2568 ณ แม็คโคร สาขาหางดง เชียงใหม่ จะเป็นร้านสะดวกซื้อที่แตกต่างจากร้านทั่วไป โดยมีสินค้าและบริการที่หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้บริโภคนอกเขตกรุงเทพฯ และเน้นการพัฒนาประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เข้าถึงง่ายในชุมชน โดยเป็นการผสานแนวคิดรีเทลล้ำสมัยเข้ากับการสร้างความยั่งยืนและความสะดวกสบายแก่ผู้คนในชุมชน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของโครงการ

เกี่ยวกับซีพี ฟิวเจอร์ ซิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น (CPFC)

CPFC เป็นผู้นำในด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2563 ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการบริหารจัดการให้อยู่ในมาตรฐานคุณภาพสูงสุด โดย CPFC มีเป้าหมายในการสร้างสรรค์โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่น่าอยู่ สะดวกสบาย และยั่งยืนผ่านนวัตกรรมที่ทันสมัย นอกจากนี้ CPFC ยังให้ความสำคัญกับโครงการอสังหาฯ แบบมิกซ์ยูสและโครงการที่ตั้งอยู่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูง โดยเน้นพัฒนาโครงการที่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยและผลักดันความเจริญในประเทศ

แผนการขยายและอนาคตของ FCS ทั่วประเทศ

หลังจากที่สาขาหางดงเปิดทำการ CPFC มีแผนที่จะขยายโมเดล FCS ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายร้านสะดวกซื้อที่เป็นมิตรกับชุมชน นำเสนอบริการที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่น และส่งเสริมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ความร่วมมือระหว่าง CPFC, IKEA และ Decathlon ไม่เพียงแค่สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ให้กับการช้อปปิ้งในร้านสะดวกซื้อ แต่ยังเป็นการผสานพลังเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด ลดขยะ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท ซีพี ฟิวเจอร์ ซิตี้ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (ซีพีเอฟซี)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

Amex เผยคนไทยนิยมโซเชียลมีเดีย ใช้ค้นหาอาหารและแบรนด์เนม

“Amex เผยโซเชียลมีเดียครองใจคนไทย ใช้ค้นหาร้านดัง-เลือกซื้อแบรนด์เนม”

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 American Express (อเมริกัน เอ็กซ์เพรส) ได้เปิดเผยผลสำรวจเรื่องแนวโน้มการท่องเที่ยว การรับประทานอาหาร และไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมสำหรับผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งพบว่าชาวไทย โดยเฉพาะในกลุ่มมิลเลนเนียลและเจน Z มีพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) เพื่อการค้นหาร้านอาหารและตัดสินใจซื้อสินค้าลักเซอรี่ต่าง ๆ สูงขึ้น โดยพบว่า 85% ของผู้ตอบแบบสำรวจใช้โซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาร้านอาหารใหม่ ๆ และ 67% ใช้ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าลักเซอรี่ นับเป็นช่องทางการค้นหาข้อมูลที่มีอิทธิพลอันดับหนึ่งในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย

ในส่วนของช่องทางอื่นที่คนไทยนิยมใช้ในการค้นหาข้อมูล 3 อันดับแรกนอกเหนือจากโซเชียลมีเดีย คือ การบอกต่อ (46%) และรีวิวออนไลน์ (43%) ขณะเดียวกันการเลือกซื้อสินค้าลักเซอรี่ คนไทยมักจะเลือกอ้างอิงคำแนะนำจากคนในครอบครัว (41%) และโฆษณาจากสื่อต่าง ๆ (38%)

การทานอาหารนอกบ้านและสิทธิพิเศษส่งเสริมการตัดสินใจ 

จากการสำรวจพบว่าคนไทยยังคงนิยมการรับประทานอาหารนอกบ้านเป็นอย่างมาก โดย 73% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่ามักไปรับประทานอาหารนอกบ้านอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2566 โดยเฉพาะในกลุ่มมิลเลนเนียลและเจน Z นอกจากนี้ เกือบ 8 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสอบถามมักไปรับประทานอาหารกับครอบครัว โดยเทคนิคที่นิยมใช้มากที่สุดคือการไปรับประทานอาหารในช่วงเวลาที่คนไม่เยอะ (45%) เพื่อเพิ่มโอกาสในการจองโต๊ะได้ง่ายขึ้น สำหรับกลุ่มลูกค้าของอเมริกัน เอ็กซ์เพรส การจองร้านอาหารผ่าน Concierge ของบัตรเครดิตก็เป็นที่นิยมในกลุ่มมิลเลนเนียลและเจน Z

นอกจากนี้ 8 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสอบถามยังให้ความสนใจสิทธิพิเศษในการเลือกร้านอาหาร ทำให้หลายคนมองหาร้านที่มีโปรโมชั่นพิเศษเพื่อตัดสินใจเลือก ซึ่งตรงกับนโยบายของอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ที่มอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกบัตรหลากหลาย อาทิ เครดิตเงินคืนสำหรับการรับประทานอาหารมูลค่า 14,000 บาท และโปรโมชั่น “1 for 1” สำหรับ Sunday Brunch ที่โรงแรมชั้นนำในกรุงเทพฯ

พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าลักเซอรี่

จากผลสำรวจพบว่า ชาวไทยให้ความสำคัญกับคุณภาพและฝีมือการผลิต (86%) รองลงมาคือค่านิยมของแบรนด์ที่ตรงกับค่านิยมส่วนบุคคล (80%) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนไทยที่เลือกซื้อสินค้าลักเซอรี่คำนึงถึงคุณภาพที่ยั่งยืนมากกว่าราคาถูก โดยมีแนวโน้มที่จะเลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพสูง เช่น รองเท้าและกระเป๋าถือในกลุ่มผู้หญิง และนาฬิกาในกลุ่มผู้ชาย สำหรับผู้ถือบัตร American Express ยังได้รับสิทธิพิเศษเช่น การเข้าถึงสินค้าคอลเลกชันใหม่ก่อนใคร รวมถึงข้อเสนอพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำที่มีการร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลก

นายพร้อม สิริสันต์ ผู้จัดการใหญ่ American Express ประเทศไทย กล่าวว่า “บริษัทต้องการมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารนอกบ้านที่มีคุณภาพให้กับคนไทยโดยการร่วมมือกับร้านอาหารชั้นนำหลายแห่งและแสวงหาพาร์ตเนอร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง”

สถิติผู้ตอบแบบสอบถามและแนวโน้มการซื้อสินค้าพรีเมียม

การสำรวจครั้งนี้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 2-16 พฤษภาคม 2567 โดยบริษัท Kantar โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 363 คน ซึ่งเป็นชาวไทยที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 140,000 บาท ขึ้นไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : American Express (อเมริกัน เอ็กซ์เพรส)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

โออาร์ ร่วม CIB ช่วยแม่สาย ฟื้นฟูภัยน้ำท่วม

โออาร์และ CIB ส่งมอบกำลังใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัยแม่สายในโครงการ “จากใจ สู่ใจ ฟื้นฟูภัยน้ำท่วม”

โออาร์ร่วมมือ CIB ช่วยผู้ประสบอุทกภัย ฟื้นฟูชีวิตหลังน้ำลด

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จัดโครงการจิตอาสา “จากใจ สู่ใจ ฟื้นฟูภัยน้ำท่วม” เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีการมอบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น เช่น หม้อหุงข้าวและพัดลม รวมทั้งหมด 80 ชิ้น โดยนายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโออาร์ เป็นผู้มอบให้แก่ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในพิธีมอบ ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กรุงเทพฯ

โออาร์ร่วมสนับสนุนเครื่องดื่มคาเฟ่ อเมซอน มอบให้ผู้ประสบภัย

นอกจากนี้ โออาร์ยังได้มอบเครื่องดื่มจากคาเฟ่ อเมซอน จำนวน 1,000 แก้ว เพื่อส่งเสริมกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยเครื่องดื่มนี้ถูกส่งไปยังโรงเรียนบ้านเหมืองแดง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ศูนย์รวมผู้ประสบภัยภายในโครงการ โออาร์แสดงความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูชีวิตและสนับสนุนชุมชนผ่านการมอบสิ่งของที่จำเป็น โดยการสนับสนุนครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดการช่วยเหลือที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

การช่วยเหลือเพิ่มเติมใน 7 จังหวัดภาคเหนือ

โออาร์ยังได้ร่วมกับผู้แทนจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ปตท. ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ มอบก๊าซหุงต้มจำนวน 3,223 กิโลกรัม ถุงยังชีพ 3,250 ชุด น้ำดื่ม 9,500 ขวด และถุงบิ๊กแบ๊กจำนวน 1,000 ถุง เพื่อใช้เป็นแนวป้องกันน้ำในจังหวัดภาคเหนือ รวมถึงจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง พะเยา เชียงราย น่าน แพร่ และสุโขทัย เพื่อสร้างความมั่นคงแก่ชุมชนและช่วยลดผลกระทบจากอุทกภัย

มุ่งมั่นสานต่อความช่วยเหลือและเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

โออาร์ยืนยันว่าจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือที่จำเป็นและเป็นกำลังใจให้ชุมชนในพื้นที่อำเภอแม่สายให้สามารถฟื้นฟูชีวิตและก้าวผ่านอุปสรรคไปด้วยกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

มหกรรมสีสันล้านนาตะวันออก เพิ่มช่องทางการค้าผู้ประกอบการ

แถลงข่าวการจัดงานมหกรรมสีสันล้านนาตะวันออก: เพิ่มช่องทางการค้าผู้ประกอบการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัว “งานแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (East-Northern Thailand & GMS Expo) หรือ มหกรรมสีสันล้านนาตะวันออก” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้โครงการบูรณาการการค้าและการลงทุนประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมีเป้าหมายสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย, พะเยา, แพร่, น่าน) และเปิดโอกาสขยายช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่น

กระทรวงพาณิชย์เน้นส่งเสริมผู้ประกอบการ

กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังเน้นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงพันธมิตรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการสร้างช่องทางการตลาดที่หลากหลาย และขยายการเข้าถึงตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับแนวคิด SDGs และ Soft Power เพื่อผลักดันเศรษฐกิจในระยะยาว

การจัดแสดงสินค้าเพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ได้กำหนดการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าทั้งหมด 3 ครั้งในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายช่องทางการตลาดนอกภูมิภาค และส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

  • ครั้งที่ 1: วันที่ 30 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครศรีธรรมราช
  • ครั้งที่ 2: วันที่ 13 – 17 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค กรุงเทพมหานคร
  • ครั้งที่ 3: วันที่ 1 – 5 ธันวาคม 2567 ณ บริเวณหน้าด่านพรมแดนแม่สาย จังหวัดเชียงราย

เป้าหมายและผลลัพธ์คาดหวัง

การจัดงานในครั้งนี้คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ไม่น้อยกว่า 18 ล้านบาท และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะที่อำเภอแม่สายซึ่งได้รับความเสียหายมากที่สุด

วิสัยทัศน์ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน เรามุ่งเน้นการพัฒนาช่องทางการตลาดให้กับสินค้าและบริการ

นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการบูรณาการการค้าการลงทุนประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งจริง ๆ แล้วควรจะเริ่มตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่เนื่องจากติดปัญหาเรื่องข้อระเบียบกฎหมายและการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้เริ่มดำเนินการล่าช้า โดยในปีนี้เรามุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจของกลุ่มตำบลที่มีศักยภาพและอัตลักษณ์โดดเด่น โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกที่เป็นประตูสู่การค้าในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียน เชื่อมโยงกับสถานีการค้าไทย-พม่าและภาคใต้

ทั้งนี้ กลุ่มตำบลเหล่านี้ยังมีมรดกทางศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีที่สามารถนำมาใช้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้าที่มีการบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เช่น ข้าว ข้าวโพด ชา กาแฟ ที่มีศักยภาพโดดเด่น

ในวิสัยทัศน์ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน เรามุ่งเน้นการพัฒนาช่องทางการตลาดให้กับสินค้าและบริการ ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล สอดคล้องกับนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งเน้นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ

การจัดงานในครั้งนี้หวังว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงรายที่เผชิญกับปัญหาอุทกภัยที่ผ่านมา เราต้องการแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของเชียงรายพร้อมฟื้นตัว โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการเยียวยาและจะกลับมาสร้างสีสันอีกครั้ง

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการและประชาชนในจังหวัดภาคเหนือตอนบนสอง และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้

ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้พร้อมสำหรับช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึง

นางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย กล่าวเสริมในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีแถลงข่าวในวันนี้ และขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่สนับสนุนงบประมาณและความร่วมมือ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงเครือข่ายในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ที่ร่วมกันผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากที่จังหวัดเชียงรายได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา

ท่านรองผู้ว่าฯ ได้กล่าวถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย แต่เราก็ไม่เคยย่อท้อ และพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้ ปรับตัว และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้พร้อมสำหรับช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ทั้งนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดนโยบายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และขยายโอกาสทางธุรกิจ โดยมีกิจกรรมหลายครั้งที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เช่น การจัดแสดงสินค้าที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแคและบางกะปิ เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมสินค้าจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 สู่ตลาดในระดับประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ เราได้กำหนดกิจกรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจที่อำเภอแม่สาย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก โดยจะมีการจัดงานแสดงสินค้าและส่งเสริมผู้ประกอบการในพื้นที่ พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพของจังหวัดเชียงรายและกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ที่พร้อมจะก้าวเดินไปข้างหน้า

ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและร่วมมือกันในครั้งนี้

ผลกระทบจากภัยแล้งทำให้ผลผลิตเหลือเพียง 200 กว่าตัน

นางศุภมิตร เต็งเผ่ พาณิชย์จังหวัดพะเยา กล่าวว่า ขอบคุณท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและผู้มีเกียรติทุกท่านที่เข้าร่วมงานแถลงข่าวในวันนี้ สำหรับจังหวัดพะเยาแม้ว่าเราจะเป็นจังหวัดที่แยกออกจากเชียงรายตั้งแต่ปี 2520 แต่เรายังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด โดยสินค้าที่มีความโดดเด่นของพะเยาได้แก่ ข้าวหอมมะลิที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ รวมถึงลิ้นจี่แม่ใจที่ถือเป็นแรร์ไอเท็มเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้งทำให้ผลผลิตเหลือเพียง 200 กว่าตัน นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์จากชุมชนที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ผ้าทอจากวิสาหกิจชุมชนแม่อิง ที่ใช้สีธรรมชาติและโนว์ฮาวจากประเทศญี่ปุ่น

ในด้านอาหารและเครื่องดื่ม พะเยามีปลานิลจากน้ำตกจ้ำปางที่มีความโดดเด่น และไวน์จากแม่นายไวเนอรี่ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงจากการแข่งขันที่ลอนดอน ส่วนเครื่องใช้จากผักตบชวาและเซรามิกซึ่งเป็นการแปรรูปให้ร่วมสมัยก็ได้รับความนิยมในการออกงานที่โตเกียว

นอกจากนี้ พะเยายังมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ปลอดสารเคมี เหมาะสำหรับผู้สูงวัย โดยมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สะดวกต่อการใช้งาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการพัฒนาสินค้าให้ทันสมัยและน่าสนใจ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนในวันนี้และขอฝากสินค้าจากจังหวัดพะเยาไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

แพร่พร้อมเป็นประตูสู่ล้านนาและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ

นายศุภสัณห์ ศิลป์ชูศรี พาณิชย์จังหวัดแพร่ กล่าวว่า กล่าวขอบคุณผู้ร่วมแถลงข่าวในวันนี้ พร้อมกล่าวถึงความพร้อมและความโดดเด่นของสินค้าจากจังหวัดแพร่ โดยเฉพาะสินค้าที่มีอัตลักษณ์และศักยภาพในการแข่งขัน เช่น หมูทุบเพ็ญนภาที่ผลิตด้วยเตาถ่าน ซึ่งเป็นแห่งเดียวในประเทศที่ยังคงใช้เตาถ่านแบบดั้งเดิม รวมถึงสุรากลั่นชุมชนจากตำบลสะเอียบ ที่มีศักยภาพในการพัฒนาและพร้อมสู้กับสุราเหมาไถของจีน

นอกจากนี้ จังหวัดแพร่ยังมีสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เช่น ปลาปากกาซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของจังหวัด และไม้สักแพร่ซึ่งมีชื่อเสียงระดับประเทศ ผ้าทอจากชุมชนก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์ โดยสินค้าจีไอของจังหวัดแพร่ก็ได้รับการยืนยันต่ออายุแล้ว รวมถึงการผลักดันให้ “ส้มโอขาวน้ำขึ้นเมืองลอง” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าจีไอใหม่ของจังหวัด

นายศุภสัณห์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าจังหวัดแพร่พร้อมเป็นประตูสู่ล้านนาและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ โดยมีกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่างที่สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล เช่น โครงการคนละครึ่ง เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่

ทิ้งท้ายด้วยการเชิญชวนทุกท่านมาเยี่ยมชมสินค้าคุณภาพจากจังหวัดแพร่ ที่มีทั้งความหลากหลายและความร่วมสมัย เพื่อต่อยอดความสำเร็จของผู้ประกอบการในภาคเหนือตอนบน 2

สินค้าจากน่านมีเอกลักษณ์และสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น

นางทัศนีย์ กองแดง รักษาการแทนพาณิชย์จังหวัดน่าน กล่าวถึงความพร้อมของจังหวัดน่านในการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว สินค้าจากน่านมีเอกลักษณ์และสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น เครื่องเงินที่มีเนื้อเงินบริสุทธิ์ 92.5% ขึ้นไป และผ้าทอลายน้ำไหลที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด รวมถึงผ้าลายใหม่ ๆ ที่ทันสมัย

จังหวัดน่านยังมีสินค้าที่โดดเด่น เช่น เกลือภูเขา ซึ่งเป็นสินค้าจีไอที่ได้รับการรับรอง นอกจากนี้ กาแฟจากน่านก็ได้รับรางวัลชนะเลิศหลายรางวัล และสินค้าจากการเกษตรแปรรูปอย่างมะไฟจีนก็กำลังจะยื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นจีไอ

ทางจังหวัดยังส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรในโครงการ “อะโกรว์” ที่รวมผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปไว้ในที่เดียว ผู้บริโภคสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเลือกซื้อสินค้าได้ผ่านช่องทางออนไลน์

พร้อมรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว

นายภาคภูมิ ผลพิสิษฐ์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวขอบคุณทุกท่านที่เข้าร่วมแถลงข่าวและกล่าวถึงสถานการณ์หลังน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย ซึ่งตอนนี้การฟื้นฟูดำเนินไปเกือบสมบูรณ์แล้ว แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจยังคงอยู่ การจัดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยโครงการนี้ถือว่ามาในเวลาที่เหมาะสม ช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจของ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2

นายภาคภูมิกล่าวว่าการจัดโครงการนี้ไม่เพียงแต่รอรับนักท่องเที่ยว แต่ยังเป็นการทำตลาดเชิงรุก เพื่อให้สินค้าของจังหวัดเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคใต้และกรุงเทพฯ ซึ่งทางหอการค้าก็พร้อมประสานกับหอการค้าในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด

นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการกระจายข่าวว่าเชียงรายพร้อมรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว และเตรียมงานใหญ่ที่อำเภอแม่สายในวันที่ 1-5 ธันวาคม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

สรุปสาระสำคัญ

การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคว่าจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ภาคเหนือพร้อมกลับมาให้บริการด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซ็นทรัลเชียงรายจัดฝึกซ้อมดับเพลิงเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย จัดฝึกซ้อมดับเพลิงเพื่อความปลอดภัยของลูกจ้างและผู้ใช้อาคาร

การตอบสนองต่อนโยบายความปลอดภัยจากกระทรวงแรงงาน

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ภายใต้การนำโดยนายสายัณห์ นักบุญ ผู้อำนวยการ ได้ดำเนินการตอบสนองต่อนโยบายด้านความปลอดภัยตามประกาศของกระทรวงแรงงาน เรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถานประกอบการ เพื่อความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้างและผู้ใช้อาคาร

การจัดฝึกซ้อมอพยพหนีไฟประจำปี

ตามนโยบายใหม่ สถานประกอบการจำเป็นต้องจัดฝึกซ้อมอพยพหนีไฟไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้งต่อปี โดยต้องมีผู้เข้าร่วมในการฝึกซ้อมอย่างน้อย 100 เปอร์เซ็นต์ เซ็นทรัล เชียงราย ได้ดำเนินการจัดโครงการฝึกซ้อมแผนดับเพลิงเบื้องต้นและซักซ้อมแผนอพยพหนีไฟ ประจำปี 2567 เพื่อให้ลูกจ้างและผู้ใช้อาคารมีความพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์อัคคีภัย

วัตถุประสงค์ของการฝึกซ้อม

การฝึกซ้อมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกจ้างและผู้ใช้อาคารสามารถรู้ถึงวิธีปฏิบัติตนเมื่อเกิดเพลิงไหม้ และสามารถอพยพหนีไฟได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย นอกจากนี้ยังเพื่อเพิ่มทักษะให้พนักงานสามารถดูแลตัวเองและลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

การเข้าร่วมกิจกรรมของพนักงานและหน่วยงานภายนอก

ในกิจกรรมฝึกซ้อมครั้งนี้ มีการเข้าร่วมจากพนักงานศูนย์การค้า ร้านค้าในศูนย์การค้า และพนักงานร้านเช่า รวมทั้งหมด 604 คน นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานภายนอกเข้าร่วมการฝึกซ้อมและร่วมสังเกตการณ์ อาทิ สื่อมวลชน นักประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงราย สำนักงานสาธารณสุขเชียงราย หนังสือเดินทางเชียงราย และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานส่งไฟร์แมนเข้าร่วมฝึกซ้อมแผนในครั้งนี้ เช่น ไทวัสดุเชียงราย ณ ชั้น G ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

การฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมในการอพยพ

การฝึกซ้อมครั้งนี้ประกอบด้วยการฝึกซ้อมแผนดับเพลิงเบื้องต้น และการซักซ้อมแผนอพยพหนีไฟ เพื่อให้พนักงานและลูกค้ามีความรู้และความเข้าใจในการดำเนินการเมื่อเกิดเหตุการณ์อัคคีภัยจริงๆ การฝึกซ้อมยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับพนักงานในการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน และสามารถแนะนำลูกค้าได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

ความสำคัญของการฝึกซ้อมในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

นายสายัณห์ นักบุญ กล่าวถึงความสำคัญของการฝึกซ้อมว่า การฝึกซ้อมเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับทั้งพนักงานและลูกค้าในการเผชิญกับเหตุการณ์อัคคีภัย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและป้องกันการสูญเสียชีวิตหรือทรัพย์สิน นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงรายให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของทุกคนที่มาใช้บริการ

การดูแลความปลอดภัยของลูกค้าเป็นอันดับแรก

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงรายให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าเป็นอันดับแรก โดยการจัดฝึกซ้อมและเตรียมความพร้อมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับการดูแลอย่างดีในกรณีเกิดเหตุการณ์อัคคีภัย นอกจากนี้ยังมีการจัดหอุปกรณ์ดับเพลิงและระบบเตือนภัยที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน

การร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

การฝึกซ้อมครั้งนี้ยังเป็นการส่งเสริมความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เช่น ไฟร์แมน สื่อมวลชน และหน่วยงานสาธารณสุข เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ การร่วมมือกันในครั้งนี้ทำให้การฝึกซ้อมเป็นไปอย่างครอบคลุมและสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์จากการฝึกซ้อมและการเตรียมความพร้อม

การฝึกซ้อมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากพนักงานและหน่วยงานต่างๆ อย่างเต็มที่ ทำให้สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้คือการเพิ่มความรู้และความเข้าใจในการป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมถึงการเตรียมความพร้อมให้กับพนักงานและลูกค้าในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยในชุมชน

นอกจากการฝึกซ้อมอัคคีภัย ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงรายยังมุ่งมั่นในการส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยในชุมชนโดยรอบ โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม การให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันอัคคีภัย และการดูแลสุขภาพจิตของพนักงานและลูกค้า ซึ่งเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สรุป

การจัดฝึกซ้อมดับเพลิงครั้งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการเตรียมความพร้อมและการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ซึ่งไม่เพียงแต่เน้นการป้องกันอัคคีภัย แต่ยังส่งเสริมการสร้างความรู้และความเข้าใจให้กับพนักงานและลูกค้าในการดูแลตัวเองและผู้อื่น การร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทำให้การฝึกซ้อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุม เป็นการรับรองว่าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงรายมีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินทุกประเภท เพื่อความปลอดภัยและความพึงพอใจของทุกคนที่มาใช้บริการ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เซ็นทรัลเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

ธนพิริยะ – BJC ช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยเชียงราย

บริษัท ธนพิริยะ มอบสินค้าช่วยเหลือประชาชนเชียงรายหลังอุทกภัย

บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) รับมืออุทกภัยในเชียงราย

บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันในนาม TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย ได้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา

การรับมอบผลิตภัณฑ์จากบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)

โดย ภญ.อมร พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นายธนภูมิ พุฒิพิริยะ รองกรรมการสายงานการตลาด จากบริษัท ธนพิริยะ ได้รับผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Promise, Maxa และ belle จากบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ผู้เป็นผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ

การแจกจ่ายสินค้าเพื่อช่วยเหลือประชาชน

ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมอบมานี้จะถูกนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและความเสียหายจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย การกระทำนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ TNP ที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือชุมชนในยามยากลำบาก

ความร่วมมือระหว่าง TNP และ BJC เพื่อสังคมที่ดีขึ้น

การร่วมมือครั้งนี้ระหว่าง TNP และ BJC แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างสองบริษัทในด้านการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน TNP พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและสนับสนุนทุกความต้องการ รวมถึงเป็นตัวแทนคู่ค้าและพันธมิตรในการส่งมอบสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทีมงาน TNP

ทีมงานของ TNP ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การแจกจ่ายสินค้าถูกวางแผนมาอย่างดี เพื่อให้ผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด

กำลังใจจาก TNP เพื่อชุมชนเชียงราย

นอกจากการมอบสินค้าแล้ว TNP ยังร่วมส่งกำลังใจให้กับประชาชนในจังหวัดเชียงราย เพื่อให้ทุกคนสามารถผ่านเหตุการณ์อุทกภัยไปได้ด้วยความปลอดภัยและความเข้มแข็ง TNP เชื่อมั่นว่าความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกฝ่ายจะช่วยให้ชุมชนฟื้นฟูและกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นได้ในเร็ววัน

ความสำคัญของการช่วยเหลือในยามวิกฤติ

การช่วยเหลือในยามวิกฤติเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและมีความเป็นอยู่ที่ดี บริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมเช่น TNP เป็นตัวอย่างที่ดีในการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในยามยากลำบาก

อนาคตของการสนับสนุนจาก TNP

TNP มุ่งมั่นที่จะดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดเชียงรายและพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปในอนาคต บริษัทจะยังคงมองหาวิธีใหม่ ๆ ในการสนับสนุนและช่วยเหลือสังคม เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถเผชิญกับความท้าทายได้อย่างมั่นคง

สรุปการสนับสนุนจากบริษัท ธนพิริยะ

บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) ได้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและการสนับสนุนชุมชนในยามวิกฤติอย่างชัดเจน การมอบสินค้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและมีความใส่ใจต่อสังคม

ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่าง TNP และ BJC รวมถึงความร่วมมือจากพันธมิตรและทีมงานที่มีความมุ่งมั่น การช่วยเหลือครั้งนี้จึงประสบความสำเร็จและสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่ TNP ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือสังคมต่อไปในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

ชมรมจิตสาธารณะซีพี ออลล์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเชียงราย

ชมรมจิตสาธารณะซีพี ออลล์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่เชียงราย

การบริจาคข้าวสารและอาหารแห้งเพื่อผู้ประสบภัย

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ชมรมจิตสาธารณะซีพี ออลล์ พนักงานเซเว่นฯ ได้ส่งมอบข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่มให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

ความร่วมมือระหว่างซีพี ออลล์และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

นายวิชัย จันทร์จริยากุล กรรมการผู้จัดการ (ร่วม) บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารจากเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ มาร่วมในการจัดส่งสินค้าไปยังเชียงราย เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การสนับสนุนจากพนักงานและคณะผู้บริหาร

คณะผู้บริหาร สำนักปฏิบัติการ และพนักงานเซเว่น อีเลฟเว่น ร่วมมือกันเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและตรงจุดประสงค์

นางสาวอรสิริพิมพ์ รัศสุวรรณเป็นผู้รับมอบ

นางสาวอรสิริพิมพ์ รัศสุวรรณ นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมคณะ รับมอบสิ่งของจำเป็น เพื่อส่งต่อให้กับพี่น้องชาวเชียงรายที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มที่

ผลกระทบที่ดีจากการช่วยเหลือครั้งนี้

การบริจาคครั้งนี้ช่วยให้ชาวเชียงรายมีอาหารและน้ำสะอาดในการดำรงชีวิต ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงวิกฤตน้ำท่วม และเสริมสร้างความมั่นคงในชุมชน

บทสรุป

ความร่วมมือของซีพี ออลล์และเซเว่น อีเลฟเว่นในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่เชียงราย เป็นตัวอย่างที่ดีของการรับผิดชอบต่อสังคมและการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง ความพยายามนี้ไม่เพียงแค่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แต่ยังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในยามวิกฤต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

โออาร์มอบถุงยังชีพช่วยเหลือชุมชนหลังน้ำท่วมเชียงราย

โออาร์มอบถุงบิ๊กแบ๊กและถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเชียงราย

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 โออาร์ได้ดำเนินการสนับสนุนผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายอย่างต่อเนื่อง โดยมอบถุงบิ๊กแบ๊กจำนวน 500 ถุง สำหรับใช้เป็นพนังกั้นน้ำ และถุงยังชีพจำนวน 400 ถุง พร้อมเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์จากคาเฟ่ อเมซอน รวมถึงน้ำดื่มจิฟฟี่ ให้กับหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชากองทัพไทย เพื่อช่วยเหลือชุมชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

การสนับสนุนอย่างจริงจังเพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัย

โออาร์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยการมอบถุงบิ๊กแบ๊กและถุงยังชีพ ซึ่งเป็นอุปกรณ์จำเป็นในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม การให้ถุงบิ๊กแบ๊กช่วยให้สามารถสร้างแนวป้องกันน้ำได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ถุงยังชีพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเอาตัวรอดในช่วงวิกฤต นอกจากนี้ การมอบเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์จากคาเฟ่ อเมซอน และน้ำดื่มจิฟฟี่ยังช่วยเติมพลังและเพิ่มกำลังใจให้แก่กำลังพลที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ความร่วมมือระหว่างภาคส่วนเพื่อช่วยเหลือชุมชน

การดำเนินงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างโออาร์กับผู้แทนจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ปตท. และผู้แทนจำหน่าย PTT Station ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โออาร์ได้จัดสรรถุงยังชีพกว่า 2,200 ถุง และน้ำดื่มรวมกว่า 9,500 ขวด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน 7 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา เชียงราย น่าน แพร่ และสุโขทัย

การมอบของขวัญแก่ผู้ประสบภัยและกำลังพล

ในงานมอบถุงบิ๊กแบ๊กและถุงยังชีพที่อำเภอแม่สาย พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รับเกียรติจากโออาร์ในการมอบถุงบิ๊กแบ๊ก 500 ถุง และถุงยังชีพ 400 ถุง เพื่อใช้ในการบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัย นอกจากนี้ พลตรีอนุมาศ พินิจชอบ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ยังได้รับเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์จากคาเฟ่ อเมซอน และน้ำดื่มจิฟฟี่ จากนางศรีญาภา หุตวณิช ผู้จัดการส่วนกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เพื่อเติมกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัยและกำลังพลในพื้นที่

การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและความมุ่งมั่นของโออาร์

การช่วยเหลือครั้งนี้เป็นการสานต่อความช่วยเหลือที่โออาร์ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ โดยได้ร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ปตท. และผู้แทนจำหน่าย PTT Station ในการจัดสรรถุงยังชีพและน้ำดื่มเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โออาร์ยังคงมุ่งมั่นในการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง พร้อมร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายและหน่วยงานในพื้นที่เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ชาวเชียงรายสามารถก้าวผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปด้วยกัน

บทสรุป

โออาร์แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการสนับสนุนผู้ประสบอุทกภัยในเชียงรายผ่านการมอบถุงบิ๊กแบ๊ก ถุงยังชีพ และผลิตภัณฑ์ที่จำเป็น การร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของโออาร์เป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ช่วยให้ชาวเชียงรายสามารถฟื้นฟูและกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

วิศวกรไทยร่วมฟื้นฟูเชียงรายหลังน้ำท่วม แนะปรับผังเมืองเพื่อรับมือภัยพิบัติ

 

วิศวกรไทยร่วมฟื้นฟูเชียงรายหลังน้ำท่วม แนะปรับผังเมืองเพื่อรับมือภัยพิบัติ

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทีมวิศวกรจาก สมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และ มูลนิธินายช่างไทยใจอาสา ภายใต้การนำของ ศ. ดร.อมร พิมานมาศ นักวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำท่วมในอำเภอเมืองและอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พบว่าความเสียหายในพื้นที่มีระดับสูงทั้งด้านระบบโครงสร้าง และระบบสาธารณูปโภค ซึ่งต้องมีการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย

น้ำท่วมเชียงรายเสียหายหนัก บ้านเรือนและระบบสาธารณูปโภคพังยับ

จากการสำรวจของทีมวิศวกรพบว่า บ้านเรือนในอำเภอแม่สายได้รับความเสียหายกว่า 150 หลังคาเรือน โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ติดริมน้ำถูกน้ำกัดเซาะจนโครงสร้างได้รับความเสียหาย ส่วนระบบไฟฟ้าและระบบประปาในพื้นที่ได้รับความเสียหายมาก ทำให้ระบบจ่ายน้ำและไฟฟ้าในหลายพื้นที่ไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ นอกจากนี้ ตลาดสายลมจอย ซึ่งเป็นแหล่งค้าขายสำคัญในพื้นที่แม่สาย ยังไม่มีบ่อบำบัดน้ำเสีย และจำเป็นต้องรื้อปรับปรุงระบบใหม่ทั้งหมด

ปัญหาใหญ่: ถนนขวางทางน้ำและพื้นที่รับน้ำเปลี่ยนแปลง

นายชูเลิศ จิตเจือจุน อุปนายกสมาคมฯ เปิดเผยว่า พื้นที่รับน้ำที่ติดกับลำน้ำกก ซึ่งเคยเป็นแก้มลิงรองรับน้ำ แต่ปัจจุบันถูกถมดินสูงเกินกว่าระดับน้ำ ทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ตามปกติ เมื่อเกิดฝนตกหนักทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ราบต่ำ นอกจากนี้ การตัดถนนและการพัฒนาโครงการต่าง ๆ โดยไม่คำนึงถึงการระบายน้ำ ทำให้เส้นทางน้ำถูกขวางและเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในหลายจุด

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.) นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ได้ประสานงานให้วิศวกรทำการสำรวจเพิ่มเติม และวางแผนแก้ไขอย่างเป็นระบบ เช่น การปรับโครงสร้างถนนเพื่อให้สามารถระบายน้ำได้ดีขึ้น การสร้างพนังกั้นน้ำตามแนวลำน้ำกก และการพัฒนาฝายน้ำล้นในจุดที่มีความเสี่ยง เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว

 
ฟื้นฟูเชียงราย: ต้องบูรณาการทุกภาคส่วน

การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เชียงรายต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน โดยทีมวิศวกรจะนำความรู้ด้านวิศวกรรมมาประยุกต์ใช้ เช่น การใช้โดรนและเรดาร์สำรวจเพื่อสร้างแผนที่จุดเสี่ยงน้ำท่วม รวมถึงการประเมินโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อจัดทำแผนการฟื้นฟูอย่างครบวงจร

นายก อบจ. เชียงรายเสนอสร้างระบบเตือนภัยและแก้มลิง

นายก อบจ.เชียงราย เห็นด้วยกับข้อเสนอของทีมวิศวกรที่จะจัดทำ แผนที่ความเสี่ยงภัย เช่นเดียวกับจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ทราบถึงจุดเสี่ยงและสามารถวางแผนป้องกันได้อย่างแม่นยำ โดยเสนอให้พัฒนา แก้มลิงและระบบระบายน้ำ เพื่อรองรับน้ำจากลำน้ำกก และเชื่อมต่อกับลำน้ำโขง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมในระยะยาว นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนแนวคิดในการสร้าง ระบบเตือนภัย ที่ครอบคลุมเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ถึงสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

ฟื้นฟูเชียงรายให้กลับมาแข็งแกร่ง ต้องมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว

อ.วัฒนพงศ์ หิรัญมาลย์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร และเลขาธิการสมาคมฯ กล่าวเสริมว่า จังหวัดเชียงรายมีความเสี่ยงสูงทั้งจากแผ่นดินไหว ดินถล่ม และน้ำท่วม จึงจำเป็นต้องจัดทำแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว โดยเน้นที่การออกแบบและก่อสร้างระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาโครงข่ายถนนและสะพานให้สามารถรองรับสถานการณ์น้ำหลากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายซ้ำในอนาคต

การฟื้นฟูเชียงรายครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะต้องทำการซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหาย แต่ต้องมองไปถึงการวางแผนผังเมืองใหม่ที่คำนึงถึงความยืดหยุ่นต่อการรับมือกับภัยพิบัติทุกรูปแบบ ซึ่งการวางแผนและการประสานงานระหว่างภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เชียงรายกลับมาแข็งแกร่งและพร้อมรับมือกับภัยพิบัติในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรยานิวส์ /สมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทยมูลนิธินายช่างไทยใจอาสา

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News