ครม. เห็นชอบร่างประกาศขยายเวลานำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตาม AFTA ปี 2568
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักร ตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area: AFTA) สำหรับปี 2568 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
ขยายเวลานำเข้าเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศ
ร่างประกาศดังกล่าวเป็นการขยายระยะเวลาการนำเข้าข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์สำหรับปี 2568 ในพิกัดอัตราศุลกากรประเภทย่อย 1005.90.99 รหัสสถิติ 001 โดยมีเงื่อนไขว่าสินค้าต้องมีถิ่นกำเนิดและส่งตรงจากประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN)
ผู้นำเข้าจะต้องมีเอกสารหลักฐานประกอบ เช่น หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form D) หรือ e-Form D ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice) หรือใบเรียกเก็บเงินค่าสินค้า (Billing Statement) รวมถึงเอกสารรับรองความปลอดภัยที่ออกโดยหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจของประเทศผู้ส่งออก
สิทธิพิเศษทางภาษีและข้อกำหนดนำเข้า
ผู้นำเข้าข้าวโพดที่ผ่านมาตรฐานและเอกสารตามข้อกำหนด จะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรในอัตรา 0% และหากองค์การคลังสินค้าเป็นผู้นำเข้า จะต้องดำเนินการระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 โดยเสียค่าธรรมเนียมพิเศษในอัตรา 0 บาทต่อเมตริกตัน และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ รวมถึงนำเข้าทางด่านศุลกากรที่มีด่านตรวจพืชและด่านกักสัตว์ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจประจำด่าน
มาตรการต่อเนื่องเพื่อความมั่นคงทางอาหาร
มาตรการนี้สืบเนื่องจากนโยบายที่เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2566-2567 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยเน้นการคงนโยบายเดิมเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้เพียงพอต่อความต้องการในช่วงผลผลิตภายในประเทศออกสู่ตลาดน้อย
นายอนุกูลกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ และปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศที่ไทยมีพันธกรณี รวมถึงช่วยลดผลกระทบด้านการขาดแคลนวัตถุดิบสำหรับเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารในประเทศ
มาตรการนี้คาดว่าจะช่วยส่งเสริมให้การผลิตอาหารสัตว์เป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ ตลอดจนรักษาความมั่นคงทางอาหารของประเทศไทยในระยะยาว
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงพาณิชย์