Categories
ECONOMY

ครม. เห็นชอบร่างขยายเวลานำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2568

ครม. เห็นชอบร่างประกาศขยายเวลานำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตาม AFTA ปี 2568

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักร ตามความตกลงภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area: AFTA) สำหรับปี 2568 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ

ขยายเวลานำเข้าเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศ

ร่างประกาศดังกล่าวเป็นการขยายระยะเวลาการนำเข้าข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์สำหรับปี 2568 ในพิกัดอัตราศุลกากรประเภทย่อย 1005.90.99 รหัสสถิติ 001 โดยมีเงื่อนไขว่าสินค้าต้องมีถิ่นกำเนิดและส่งตรงจากประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN)

ผู้นำเข้าจะต้องมีเอกสารหลักฐานประกอบ เช่น หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form D) หรือ e-Form D ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice) หรือใบเรียกเก็บเงินค่าสินค้า (Billing Statement) รวมถึงเอกสารรับรองความปลอดภัยที่ออกโดยหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจของประเทศผู้ส่งออก

สิทธิพิเศษทางภาษีและข้อกำหนดนำเข้า

ผู้นำเข้าข้าวโพดที่ผ่านมาตรฐานและเอกสารตามข้อกำหนด จะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรในอัตรา 0% และหากองค์การคลังสินค้าเป็นผู้นำเข้า จะต้องดำเนินการระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 โดยเสียค่าธรรมเนียมพิเศษในอัตรา 0 บาทต่อเมตริกตัน และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ รวมถึงนำเข้าทางด่านศุลกากรที่มีด่านตรวจพืชและด่านกักสัตว์ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจประจำด่าน

มาตรการต่อเนื่องเพื่อความมั่นคงทางอาหาร

มาตรการนี้สืบเนื่องจากนโยบายที่เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2566-2567 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยเน้นการคงนโยบายเดิมเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้เพียงพอต่อความต้องการในช่วงผลผลิตภายในประเทศออกสู่ตลาดน้อย

นายอนุกูลกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ และปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศที่ไทยมีพันธกรณี รวมถึงช่วยลดผลกระทบด้านการขาดแคลนวัตถุดิบสำหรับเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารในประเทศ

มาตรการนี้คาดว่าจะช่วยส่งเสริมให้การผลิตอาหารสัตว์เป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ ตลอดจนรักษาความมั่นคงทางอาหารของประเทศไทยในระยะยาว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงพาณิชย์ 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
NEWS UPDATE

10 เทรนด์ดิจิทัลสุดฮิต 2567 น้องเนย-หมูเด้งครองใจคนไทย

10 เทรนด์ฮิตดิจิทัลแห่งปี 2567 โดย LINE ประเทศไทย: กระแสน่ารัก-ประเด็นฮอตครองโลกออนไลน์

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 LINE ประเทศไทยเผย 10 เทรนด์ฮิตดิจิทัลแห่งปี 2567 ที่ส่งอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างลึกซึ้งและหลากหลาย ทั้งกระแสน่ารักจากมาสคอตชื่อดัง ไปจนถึงประเด็นฮอตบนโลกออนไลน์ที่สร้างความตื่นตัวในสังคม โดยเทรนด์เหล่านี้สะท้อนวัฒนธรรมป๊อปและไลฟ์สไตล์ที่ผสมผสานในยุคดิจิทัล ดังนี้:

1. น้องเนย-หมูเด้ง ขวัญใจโลกดิจิทัล

‘น้องเนย’ จาก Butterbear และ ‘หมูเด้ง’ จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว คว้าหัวใจชาวไทยบนโลกออนไลน์ ด้อมแฟนคลับของทั้งคู่ใน LINE OPENCHAT มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ ‘ด้อมหมูเด้ง’ ที่สมาชิกเพิ่มจาก 5,000 เป็น 10,000 คนในเวลาเพียง 10 นาที ขณะที่เพลง “น่ารักมั๊ยไม่รู้” ของน้องเนย ติดอันดับเพลงฮิตบน LINE MELODY ด้วยยอดดาวน์โหลดสูงสุดภายใน 2 วันแรก

2. สติกเกอร์คนดังและคำฮิต วลีเด็ดครองใจ

LINE STICKERS ปีนี้เต็มไปด้วยคอลเลกชันใหม่ ๆ จากทั้งดาราและคำฮิต เช่น “birthday but with me (เกิดแต่กับกู)” ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการสนทนาของชาวเน็ต

3. ยกเครื่องอิโมจิในรอบ 7 ปี

LINE ปรับโฉมอิโมจิครั้งใหญ่ในรอบ 7 ปี เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้งาน เพิ่มความสะดวกในการสื่อสารและแสดงอารมณ์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

4. ของกินไวรัลแรง ช็อกโกแลตดูไบ-ไข่พะโล้ฮิต

‘ช็อกโกแลตดูไบ’ และ ‘ไข่พะโล้’ กลายเป็นเมนูยอดนิยมที่สร้างกระแสบนโลกโซเชียล โดยไข่พะโล้ทำยอดออเดอร์บน LINE MAN เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในเดือนเดียว

5. กีฬา-สมรสเท่าเทียม-ฉ้อโกง ประเด็นฮอตติดกระแส

มหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 และประเด็นสมรสเท่าเทียมดึงดูดความสนใจจากชาวไทย โดยการไลฟ์สดงาน Pride Parade มียอดรับชมสูงถึง 1 ล้านคน ขณะเดียวกัน ประเด็นฉ้อโกงและมิจฉาชีพมีผู้ติดตามข่าวสารกว่า 36 ล้านเพจวิว

6. เพลงฮิตหลากหลาย คว้ารางวัล Black Melody

LINE MELODY ปีนี้มอบรางวัล Black Melody ให้กับเพลงหลากหลายแนว เช่น “หมูเด้ง Moo Deng (Reggaeton)” โดย Karat K และเพลง “น่ารักมั๊ยไม่รู้” จากน้องเนยที่กลายเป็นเพลงฮิตแห่งปี

7. ขอพรออนไลน์ หลวงพ่อทันใจนำอันดับ

‘หลวงพ่อทันใจ’ วัดพระธาตุดอยคำ เชียงใหม่ นำอันดับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยใช้บริการขอพรออนไลน์ผ่าน LINE ดูดวงมากที่สุด

8. เกมสนุก-เว็บตูนปัง

LINE GAME และ LINE WEBTOON ยังคงเป็นที่นิยม โดย LINE Idle Ranger มีผู้เล่นสะสมเวลามากถึง 242,023 นาทีในวันแรก ขณะที่ LINE WEBTOON จัด Pop-up Store ให้แฟนคลับกว่า 10,000 คน

9. SME ตื่นตัว เรียนรู้ไม่หยุด

LINE for Business ช่วยพัฒนา SME ทั่วประเทศผ่านงานสัมมนาและคอร์สออนไลน์ เช่น BOOTCAMP DAY และ UPSKILL SME เพื่อเตรียมความพร้อมธุรกิจในยุคดิจิทัล

10. หลานม่า-ธี่หยด 2 หนังไทยฮอตแห่งปี

ภาพยนตร์ไทย “หลานม่า” และ “ธี่หยด 2” ทำยอดขายตั๋วสูงสุดบน LINE Pay พร้อมสะท้อนความนิยมของภาพยนตร์ไทยที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง

บทสรุป

10 เทรนด์ดิจิทัลปี 2567 จาก LINE ประเทศไทย สะท้อนการผสมผสานระหว่างดิจิทัลและชีวิตจริงในแบบที่ทุกคนเข้าถึงได้ ตั้งแต่ความบันเทิง อาหาร วัฒนธรรม ไปจนถึงประเด็นสังคมที่สร้างแรงกระเพื่อมในทุกมิติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : LINE

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เชียงรายจัดงานสุขภาพ ‘นอนดี ใจ๋แฮปปี้’ สร้างแรงบันดาลใจชุมชน

งาน “นอนดี ใจ๋แฮปปี้” เชียงราย: สร้างสุขภาพดี สร้างแรงบันดาลใจในชุมชน

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2567 งาน “นอนดี ใจ๋แฮปปี้” ได้จัดขึ้น ณ ลานการ์เด้น โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น จังหวัดเชียงราย ในบรรยากาศที่อบอุ่นและตรงกลุ่มเป้าหมาย ผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วยผู้สูงอายุ ประชาชนทั่วไป ผู้นำชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 พรรคประชาชน ที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในชุมชนอย่างเต็มที่

นิทรรศการสุขภาพที่น่าสนใจ

งานเริ่มต้นด้วยนิทรรศการสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้าร่วม เช่น การบรรยายเรื่อง “โรคหยุดหายใจขณะหลับ” โดย นพ.จิรยศ จินตนาดิลก ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การนอนหลับ ถ่ายทอดผ่านระบบ VDO Conference ที่เข้าใจง่ายและเป็นประโยชน์

กิจกรรมเพื่อสุขภาพแบบครบวงจร

ในเซสชั่นถัดมา มีการจัด โยคะนิทรา โดย ครูเก๋ วรารักษ์ สู่โนนทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะหัวเราะ เพื่อเสริมสร้างสมดุลทางอารมณ์และร่างกาย

ช่วงบ่าย ผู้เข้าร่วมงานได้เรียนรู้เกี่ยวกับ สมุนไพรเพื่อการนอนหลับ และได้ชมการสาธิตทำอาหารโดยใช้วัตถุดิบสมุนไพรไทยจากเชฟใหญ่ของโรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอนวัตกรรมสุขภาพ เช่น Aidery Connect Application ที่ช่วยเชื่อมโยงกับ IoT เพื่อตรวจสุขภาพเบื้องต้น

สร้างแรงบันดาลใจผ่านแนวคิดสิ่งแวดล้อม

ในเซสชั่นที่ 4 มีการนำเสนอแนวคิด Chiang Rai Zero Burn & Zero Flare (CRZF) โดยผู้เชี่ยวชาญ เช่น ว่าที่ ร.ต.ดุจเดี่ยว วงศ์ภักดิ์ ที่ปรึกษาสภาเกษตรกร และ นางสาวกมลชนก สว่างศิลป์ นักวิชาการพลังงาน ที่มุ่งเน้นลดการเผาและดูแลสิ่งแวดล้อม

การสนับสนุนจากหลากหลายองค์กร

งานนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (เชียงราย), สมาคมศักดิ์ศรีคนพิการไท, ชุมชนสันโค้งน้อย และกลุ่มองค์กรพัฒนาเกษตร รวมถึงบูธจากบริษัทด้านนวัตกรรมและสุขภาพ เช่น Garmin, Boncafé, และไร่รื่นรมย์

ผลตอบรับจากผู้เข้าร่วมงาน

ผู้เข้าร่วมงานต่างชื่นชมกิจกรรมว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้เรื่องสุขภาพ พร้อมทั้งประทับใจในบรรยากาศที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม งานนี้ไม่เพียงสร้างความตระหนักรู้ในชุมชน แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดกิจกรรมดี ๆ อีกในอนาคต

งาน “นอนดี ใจ๋แฮปปี้” เชียงรายจึงเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับชุมชนในด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
EDITORIAL

10 คดีคอร์รัปชัน 2567 ที่สังคมต้องจับตา

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันเผย 10 คดีคอร์รัปชันเด่นแห่งปี 2567

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เผยแพร่ข้อมูล “10 กรณี คอร์รัปชันแห่งปี 2567” ที่ทำคนไทย “เจ็บ” และ “จน” หลายกรณียัง “ไม่จบ” ทั้งหมดล้วนเกิดจากภาคเอกชนสมคบกับเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยการครอบงำ วิ่งเต้น ขาดความรับผิดชอบ ใช้อำนาจไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม   เป็น “วิกฤต” ที่คนไทยต้องช่วยกันติดตาม ทวงถามและเฝ้าระวังต่อไป

นายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เปิดเผยถึงกรณี/คดีคอร์รัปชันที่ได้รับความสนใจและเป็นที่พูดถึงในสังคมวงกว้างในรอบปี 2567 ที่ผ่านมาว่า  หลายกรณีเป็นการโกงกันซึ่งๆ หน้า ค้านสายตาประชาชน  ที่สำคัญ ยังคงส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดล้วนสะท้อนการปฏิบัติหน้าที่และการบังคับใช้กฎหมายที่ขัดหลักนิติธรรมรุนแรง

10 คดีคอร์รัปชันเด่นที่สังคมต้องจับตา

  1. กรณีลดโทษนักโทษคดีโกงชาติ
    นักโทษบางรายได้รับการลดโทษและอภิสิทธิ์อย่างไม่โปร่งใส เช่น นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และเสี่ยเปี๋ยง ทำให้ประชาชนตั้งคำถามถึงกระบวนการยุติธรรม

  2. ไฟไหม้รถนำเที่ยวเด็กนักเรียน
    โศกนาฏกรรมครั้งนี้คร่าชีวิตเด็ก 22 คน แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่ใดรับผิดชอบ และปัญหา “ส่วย-สินบน” ในระบบขนส่งยังไม่ได้รับการแก้ไข

  3. คดีนายอิทธิพล คุณปลื้ม
    แม้ศาลชี้ว่ามีความผิด แต่คดีกลับหมดอายุความ ส่งผลให้ประชาชนตั้งคำถามถึงความล่าช้าของกระบวนการยุติธรรม

  4. กรณีฮุบที่ดินเขากระโดง
    การโยกย้ายกรรมสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่รัฐกลายเป็นข้อพิพาทที่ยืดเยื้อ โดยมีการใช้กฎหมายอย่างบิดเบี้ยว

  5. สัมปทานรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
    แม้ประมูลโครงการเสร็จสิ้น แต่รัฐยังเจรจาแก้สัญญาซึ่งเป็นการเพิ่มประโยชน์ให้เอกชน

  6. การรุกที่ ส.ป.ก.
    การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ส.ป.ก. ให้สามารถซื้อขายและจำนองได้ นำไปสู่การสูญเสียพื้นที่เกษตรกรรมให้กับกลุ่มนายทุน

  7. การขุด/ขนย้ายกากแร่แคดเมียม
    การขนย้ายของเสียอันตรายโดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่งผลให้ประชาชนหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ

  8. หมูแช่แข็งเถื่อน
    การลักลอบนำเข้าเนื้อหมูที่ไม่ได้มาตรฐานส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้เลี้ยงหมูในประเทศ

  9. วิกฤตปลาหมอคางดำ
    การปล่อยให้เอกชนดำเนินการที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยด้านอาหารและสิ่งแวดล้อม

  10. คดีดิ ไอคอน
    การเรียกรับสินบนของเจ้าหน้าที่รัฐในหลายหน่วยงานทำให้ประชาชนสูญเสียความไว้วางใจ

บทสรุปแห่งปี 2567

นายมานะ นิมิตรมงคล ประธาน ACT กล่าวว่า การทุจริตในปี 2567 เป็นปัญหาที่ประชาชนต้องร่วมกันต่อต้านอย่างจริงจัง พร้อมเน้นย้ำว่า “รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการต่อต้านคอร์รัปชันเพื่อสร้างความโปร่งใสและเชื่อมั่นในสังคมไทย”

ACT ยังระบุเพิ่มเติมถึงคดีที่สร้างความตื่นตัวในสังคม เช่น การสาวไส้การทำงานในหน่วยงานรัฐ และการร้องเรียนเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ที่มีผู้มีอำนาจเกี่ยวข้อง

ประชาชนต้องร่วมมือเพื่อต่อต้านการคอร์รัปชัน

ACT เรียกร้องให้ประชาชนและสื่อมวลชนร่วมมือกันตรวจสอบและติดตามคดีต่าง ๆ เพื่อให้การโกงบ้านเมืองไม่กลายเป็นเรื่องปกติ และสร้างสังคมไทยที่โปร่งใสและเป็นธรรมในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย Kick Off ป้องกันไฟป่า หมอกควัน PM2.5 พร้อมทุกภาคส่วน

เชียงรายจัดกิจกรรม Kick Off รณรงค์แก้ปัญหาไฟป่าและ PM2.5 ทั่วจังหวัด

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 จังหวัดเชียงรายได้จัดกิจกรรม Kick Off ปล่อยขบวนรณรงค์การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ และเครือข่ายทุกภาคส่วนเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก

กิจกรรมนี้ถูกจัดขึ้นพร้อมกันในทุกอำเภอของจังหวัด รวมทั้ง 17 อำเภอที่ได้จัดกิจกรรม Kick Off ปล่อยขบวนรณรงค์ในลักษณะเดียวกัน เพื่อให้การรณรงค์และแก้ไขปัญหาไฟป่าและ PM2.5 เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

ปัญหาไฟป่าและ PM2.5 ในพื้นที่เชียงราย

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงานถึงสถานการณ์ว่า ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายนของทุกปี ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ปกคลุมพื้นที่ตอนบนของประเทศไทย ส่งผลให้อากาศในพื้นที่มีการยกตัวช้าและเคลื่อนตัวไม่ถ่ายเท ประกอบกับกิจกรรมการเผาในที่โล่งของประชาชน เช่น การเผาขยะ การเผาเศษวัสดุทางการเกษตร และการเผาป่าเพื่อหาของป่าหรือล่าสัตว์ สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันปกคลุมพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างรุนแรง

นโยบายเร่งด่วนปี 2568 ของจังหวัดเชียงราย

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายได้กำหนดให้ปัญหา ฝุ่นละออง PM2.5 เป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2568 โดยการแก้ปัญหานี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน ภาคเอกชน และประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อร่วมกันรณรงค์และป้องกันไฟป่า หมอกควัน และ PM2.5 พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว

บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน

กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ได้แก่

  • กระทรวงกลาโหม
  • กระทรวงมหาดไทย
  • กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กระทรวงสาธารณสุข
  • กระทรวงคมนาคม
    รวมถึงอาสาสมัครและมูลนิธิกู้ชีพกู้ภัย

ทั้งนี้ การประปาส่วนภูมิภาค สาขาเชียงราย และวัดห้วยปลากั้ง ยังสนับสนุนน้ำดื่มสำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย

เป้าหมายของการรณรงค์

การจัดกิจกรรม Kick Off ครั้งนี้ถือเป็น D-Day สำคัญที่ทุกภาคส่วนจะร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและ PM2.5 เพื่อลดความรุนแรงของภัยดังกล่าวและช่วยฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่เชียงรายให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงรายในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สะอาดและปลอดภัย

การดำเนินกิจกรรมครั้งนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดเชียงรายในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและเพิ่มความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เอกอัครราชทูตปากีสถานหารือเชียงราย พัฒนาสุขภาวะและแรงงานข้ามชาติ

เอกอัครราชทูตปากีสถานเยือนเชียงราย หารือพัฒนาความสัมพันธ์ด้านแรงงานและการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ให้การต้อนรับนางรุคซานา อัฟซอล (H.E. Ms. Rukhsana Afzaal) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ในโอกาสเดินทางเยือนจังหวัดเชียงราย

การหารือด้านสวัสดิการและการย้ายถิ่นฐานแรงงาน

เอกอัครราชทูตปากีสถานและคณะได้เข้าพบและหารือกับทางจังหวัดเกี่ยวกับประเด็นด้านสวัสดิการ การย้ายถิ่นฐาน และการจ้างงานของชาวต่างชาติในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนที่มีแรงงานหลากหลายชาติพันธุ์เข้ามาทำงาน โดยจังหวัดเชียงรายได้รายงานแผนงานการพัฒนาเชียงรายให้เป็น เมืองสุขภาวะ (Wellness City) ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ พร้อมทั้งย้ำถึงความสำคัญของการฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและวัฒนธรรม หลังประสบวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ในปีที่ผ่านมา

การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์

เอกอัครราชทูตฯ ได้แสดงความกังวลต่อปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งมีแรงงานถูกหลอกลวงให้ไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการทำงานในกลุ่ม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Scammer) และงานที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ ที่ล่อลวงแรงงานด้วยค่าตอบแทนสูง ทางจังหวัดเชียงรายได้รายงานความคืบหน้าในการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานแรงงานจังหวัด หน่วยงานปกครอง และตำรวจ เพื่อดำเนินการคัดกรอง ช่วยเหลือ เยียวยา และส่งตัวกลับประเทศ

ความสัมพันธ์ไทย-ปากีสถานในมิติการศึกษาและวัฒนธรรม

นอกจากนี้ยังได้หารือถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างประเทศไทยและปากีสถานในด้านต่าง ๆ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวัฒนธรรม มีนักศึกษามุสลิมไทยจำนวนมากที่ไปศึกษาด้านศาสนาในปากีสถาน ขณะที่ปากีสถานยังเป็นจุดหมายปลายทางของผู้แสวงบุญชาวพุทธไทยที่สนใจเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา

ขอบคุณและย้ำความร่วมมือในอนาคต

นางรุคซานา อัฟซอล ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลไทยและจังหวัดเชียงรายที่ให้การสนับสนุนและดำเนินการช่วยเหลือในประเด็นที่เกี่ยวข้องได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมแสดงความยินดีที่ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และขอยืนยันความร่วมมือในอนาคต โดยเฉพาะการสนับสนุนการพัฒนาเมืองเชียงรายให้เป็นเมืองสุขภาวะและการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์

ทั้งนี้ การเยือนครั้งนี้เป็นการแสดงถึงความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและขยายความร่วมมือในทุกมิติอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

รัฐบาลจัดพระราชพิธีสมมงคล 14 ม.ค. 2568 อย่างยิ่งใหญ่

รัฐบาลเตรียมจัดพระราชพิธีสมมงคลเฉลิมพระชนมายุ 14 มกราคม 2568

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 เวลา 09.30 น. ณ กรมประชาสัมพันธ์ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ครั้งที่ 3/2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลการดำเนินการประชาสัมพันธ์ตลอดปีที่ผ่านมา พร้อมเตรียมงานพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 14 มกราคม 2568

นางสาวจิราพร กล่าวขอบคุณคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ และสื่อมวลชนที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างการรับรู้ต่องานเฉลิมพระเกียรติฯ ตลอดปี 2567 โดยใช้สื่อทุกช่องทาง ทั้งสื่อหลักและสื่อออนไลน์ รวมถึงการถ่ายทอดสดพระราชพิธีผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ที่เผยแพร่ความงดงามของประเพณีและวัฒนธรรมไทยไปทั่วโลก

สำหรับงานพระราชพิธีสมมงคลวันที่ 14 มกราคม 2568 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุได้ 26,469 วัน ซึ่งเท่ากับพระชนมายุของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) รัฐบาลได้เตรียมจัดงานสำคัญนี้ในรูปแบบที่ประชาชนสามารถมีส่วนร่วม ได้แก่ การจัดพิธีสืบพระชะตาหลวง การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ การจัดทำเหรียญกษาปณ์และเหรียญที่ระลึก พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และกิจกรรมปลูกต้นไม้ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยได้กำหนดกิจกรรมสำคัญ 7 ประการ ได้แก่

  1. พิธีสืบพระชะตาหลวง ณ สวนสราญรมย์ และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วันที่ 13-20 มกราคม 2568)
  2. การบูรณปฏิสังขรณ์วัดสังกัสรัตนคีรี จังหวัดอุทัยธานี
  3. การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ณ ลานพระปฐมบรมราชานุสรณ์ในวันที่ 14 มกราคม 2568
  4. การจัดทำเหรียญที่ระลึก เฉลิมพระเกียรติฯ
  5. พิธีทางศาสนาและกิจกรรมถวายพระราชกุศล ณ วัดสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
  6. การปลูกต้นไม้ อาทิ ต้นตะเคียนทอง ต้นพิกุล และต้นอินจัน ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ
  7. กิจกรรมจิตอาสา เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์

นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีสมมงคลโดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งจะนำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณากราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต และจะเผยแพร่ให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนนำไปใช้ในการเฉลิมพระเกียรติฯ

รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศร่วมงานพระราชพิธีสำคัญนี้ในวันที่ 14 มกราคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสืบสานพระราชประเพณีอันทรงคุณค่าของชาติไทย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เสริมศักยภาพเกษตรกรเชียงราย

พิธีเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ จ.เชียงราย ส่งเสริมเกษตรกรอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร” ไตรมาสที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ พุทธมณฑล 750 ปี ตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย

โครงการนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และจังหวัดเชียงราย มีเป้าหมายในการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่แก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร พร้อมส่งเสริมความยั่งยืนในภาคการเกษตร โดยมีการบูรณาการหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ หน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริมการเกษตร และส่วนราชการต่าง ๆ

กิจกรรมสำคัญในโครงการ

ในงานนี้ มีการให้บริการด้านการเกษตรหลากหลาย เช่น

  • การวิเคราะห์ดิน: ตรวจสอบสภาพดินเพื่อวางแผนการเพาะปลูก
  • การวินิจฉัยโรคพืชและโรคสัตว์: เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรค
  • แจกจ่ายวัสดุเกษตร: เช่น เมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัว ปุ๋ยชีวภาพ และพันธุ์ปลาน้ำจืด
  • การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร: เช่น การฝึกอบรมการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน

นอกจากนี้ ยังมีการจัดบูธให้คำปรึกษาจากหน่วยงานต่าง ๆ และกิจกรรมฝึกอบรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะของเกษตรกร

ความสำคัญของอำเภอแม่ลาวในภาคการเกษตร

อำเภอแม่ลาวประกอบด้วย 5 ตำบล 63 หมู่บ้าน มีครัวเรือนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรจำนวน 4,630 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรรวม 40,644 ไร่ พืชเศรษฐกิจหลักในพื้นที่ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด ลำไย และยางพารา ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของเกษตรกร

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรยังเผชิญปัญหาคุณภาพการผลิตและการตลาด โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่จึงเป็นแนวทางสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร

เป้าหมายของโครงการ

  • ลดต้นทุนการผลิต
  • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
  • ยกระดับการตลาดของสินค้าเกษตร
  • ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการเกษตรให้แก่เกษตรกร

นายเสน่ห์ แสงคำ เกษตรจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การดำเนินงานครั้งนี้เป็นการรวมพลังความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อช่วยเกษตรกรได้อย่างครอบคลุม

นายรุ่งโรจน์ ตันวุฒิ นายอำเภอแม่ลาว กล่าวเสริมว่า การจัดกิจกรรมในรูปแบบคลินิกเคลื่อนที่นี้ช่วยให้เกษตรกรได้รับบริการใกล้บ้าน ลดต้นทุนและเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงเทคโนโลยี

ประโยชน์ของโครงการต่อเกษตรกร

เกษตรกรได้รับบริการที่หลากหลาย ทั้งการวิเคราะห์ดิน การแก้ไขปัญหาโรคพืชและโรคสัตว์ การเพิ่มความรู้และทักษะใหม่ ๆ รวมถึงการรับวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเกษตร

โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่นี้ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาด้านการเกษตร ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงในอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในระยะยาว

การดำเนินโครงการเช่นนี้ ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาด้านการเกษตร แต่ยังสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานรัฐและเกษตรกร เสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับภาคเกษตรกรรมไทยอย่างเป็นรูปธรรม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

เริ่มการเลือกตั้ง อบจ.เชียงราย 2 ผู้สมัครเด่นชิงชัย

บรรยากาศวันแรก เปิดรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ. เชียงราย คึกคัก ผู้สมัครเด่นสองรายลุยชิงชัย

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดเชียงราย ได้เปิดรับสมัครผู้สมัครนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย เป็นวันแรก ณ อาคารคชสาร สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักจากกองเชียร์และผู้สนับสนุนที่เดินทางมาให้กำลังใจผู้สมัครทั้งสองฝ่าย โดยจะเปิดรับสมัครถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2567 และกำหนดจัดการเลือกตั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ในวันแรก โดยพบว่าผู้สมัครนายก อบจ. ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือ นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ. เชียงราย ซึ่งลงสมัครในนามอิสระ และ นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งทั้งสองคนเดินทางมาถึงสถานที่สมัครตั้งแต่เช้าพร้อมกองเชียร์จำนวนมาก

การเมืองท้องถิ่น: โอกาสสร้างการเปลี่ยนแปลง

พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าใช้การเลือกตั้ง อบจ. เชียงรายเป็นเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพและเชื่อมโยงนโยบายระดับชาติสู่ท้องถิ่น พร้อมผลักดันนโยบาย “พลิกโฉมเชียงราย” เพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ และเรียกร้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งครั้งนี้

การแข่งขันระหว่างนางสลักจฤฎดิ์และนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ในนามผู้สมัครอิสระ จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญถึงทิศทางการเมืองในเชียงราย และอาจส่งผลต่อการเมืองระดับชาติในอนาคต

ผลการจับสลากลำดับผู้สมัคร

จากการจับสลากเพื่อตัดสินลำดับหมายเลขผู้สมัคร ผลปรากฏว่า นางอทิตาธร ได้หมายเลข 1 และนางสลักจฤฎดิ์ ได้หมายเลข 2 โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานจากเสียงเชียร์ของกองเชียร์ทั้งสองฝ่าย

นโยบายเด่นของผู้สมัครนายก อบจ.

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ เน้นการพัฒนาที่ตอบโจทย์ประชาชนในทุกด้าน โดยมีนโยบายสำคัญ เช่น

  • กระจายเครื่องจักรกลการเกษตร: พัฒนาแหล่งน้ำ เส้นทาง และการป้องกันสาธารณภัย
  • ส่งเสริมอาชีพและรายได้: สร้างนักขายออนไลน์ “อยู่ที่ไหนก็ขายได้” จากสวนถึงผู้บริโภค
  • ส่งเสริมการศึกษา: “อยู่ที่ไหนก็เรียนได้” เพิ่มโอกาสการเรียนรู้ทั่วจังหวัด
  • สุขภาพดีใกล้บ้าน: โครงการโฮงยาใกล้บ้าน PLUS พบหมอออนไลน์และระบบการรักษาพยาบาลทางไกล
  • การท่องเที่ยวครบทุกอำเภอ: พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวพร้อมจัดมหกรรมไม้ดอกและกิจกรรมตลอดปี

นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ชูนโยบาย “พลิกโฉมเชียงราย” 5 ข้อสำคัญ ได้แก่

  1. TONY Brand: ผลักดันสินค้าเชียงรายสู่แบรนด์ระดับโลก พร้อมเทศกาลนานาชาติ
  2. ศูนย์โดรนการเกษตร: จัดตั้งศูนย์โดรนในทุกตำบล เพื่อลดต้นทุนและแก้ปัญหาไฟป่า
  3. ศูนย์บาดาลการเกษตร: เพิ่มแหล่งน้ำให้เพียงพอและประหยัดพลังงาน
  4. ถนนเศรษฐกิจวัฒนธรรม: พัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชุมชนรอบสถานีรถไฟ 18 แห่ง พร้อม EV Cars เชื่อมโยงสถานีสำคัญ
  5. Homestay Agrotourism: พัฒนาทุ่งนาสนามกอล์ฟและสร้างโฮมสเตย์ในทุกตำบล

การเลือกตั้งครั้งนี้ท้าทายฐานเสียงเดิม

การเลือกตั้งครั้งนี้คาดว่าจะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างอดีตนายก อบจ. เชียงราย ทั้งสองฝ่าย โดยนางอทิตาธร มีฐานเสียงที่แข็งแกร่งในหลายอำเภอ และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเครือข่ายการเมืองท้องถิ่น ขณะที่นางสลักจฤฎดิ์ ได้รับแรงสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย และมีนโยบายที่ชัดเจนในการพัฒนาเชียงรายในทุกมิติ

การปราศรัยใหญ่จากผู้นำพรรคเพื่อไทย

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางมาปราศรัยสนับสนุนนางสลักจฤฎดิ์ ในวันที่ 5 มกราคม 2568 ที่อำเภอเทิงและอำเภอเชียงของ ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดผู้สนับสนุนจำนวนมากเข้าร่วม

สรุปภาพรวมวันแรก

บรรยากาศวันแรกเต็มไปด้วยสีสันและความคึกคักจากผู้สมัครและกองเชียร์ การเลือกตั้ง อบจ. เชียงราย ครั้งนี้นอกจากจะเป็นเวทีสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่นแล้ว ยังสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญในพื้นที่ ซึ่งผลลัพธ์ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 จะเป็นบทพิสูจน์ถึงความนิยมและนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

พรรคเพื่อไทยเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. เชียงรายชู 5 นโยบายหลัก

พรรคเพื่อไทยเชียงรายเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ. ทั้ง 36 เขต

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2567 พรรคเพื่อไทยจังหวัดเชียงรายได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.) และสมาชิกสภา อบจ. เชียงราย ทั้ง 36 เขต ณ ห้องประชุมใหญ่สโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย โดยมีผู้นำพรรค ตัวแทนผู้สมัคร และผู้สนับสนุนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

ในงานแถลงข่าว นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากพรรคเพื่อไทยในฐานะผู้สมัครนายก อบจ. เชียงราย พร้อมเปิดตัวผู้สมัครสมาชิก อบจ. เชียงราย ทั้ง 36 เขต โดยมีการปราศรัยที่เน้นนโยบายการพัฒนาท้องถิ่นที่สอดคล้องกับแผนงานของรัฐบาล ภายใต้สโลแกน “เชียงราย เข้มแข็ง อีกครั้ง”

การปราศรัยจากแกนนำพรรคเพื่อไทย

ในงานนี้ยังมีการปราศรัยในหัวข้อสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเชียงรายจากแกนนำพรรค เช่น:

  • “บทบาทของรัฐบาลสู่การเมืองท้องถิ่น” โดย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร
  • “การสาธารณสุขท้องถิ่น” โดย น.ส.ละออง ติยะไพรัช ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย
  • “การศึกษายุคใหม่ที่ส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนตามความถนัด” โดย ดร.เทอดชาติ ชัยพงษ์ ส.ส. เชียงราย
  • “สวัสดิการของรัฐเชื่อมโยงสู่ท้องถิ่น” โดย น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. เชียงราย
  • “การคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์” โดย นายปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส. เชียงราย

นโยบายหลัก 5 ข้อ “พลิกโฉมเชียงราย”

นางสลักจฤฎดิ์ได้เปิดตัวนโยบายหลักที่เน้นการพัฒนาเชียงรายให้ตอบโจทย์ทุกมิติของความยั่งยืน โดยมี 5 แนวทางสำคัญ ดังนี้:

  1. TONY Brand
    ผลักดันสินค้าและบริการของเชียงรายสู่ระดับโลก โดยเฉพาะสินค้าเกษตรปลอดภัย และการจัดเทศกาลนานาชาติ
  2. ศูนย์โดรนการเกษตรประจำตำบล
    ตั้งศูนย์โดรนใน 124 ตำบล พร้อมฝึกอบรม “1 ตำบล 1 นักบินโดรน” เพื่อลดต้นทุนการเกษตร เพิ่มผลผลิต และแก้ปัญหาไฟป่า
  3. ศูนย์บาดาลการเกษตรทุกตำบล
    สร้างแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรที่ยั่งยืนในทุกตำบล โดยใช้ระบบน้ำประหยัดพลังงาน
  4. ถนนเศรษฐกิจวัฒนธรรมรอบสถานีรถไฟ
    พัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจรอบสถานีรถไฟ 18 แห่ง พร้อมจัดระบบขนส่ง EV Cars เชื่อมโยงสถานีสำคัญทั่วเชียงราย
  5. ทุ่งนาสนามกอล์ฟ และ Homestay Agrotourism
    สร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬาและ Homestay เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน

บทบาทของพรรคเพื่อไทยในการฟื้นฟูเชียงราย

ย้อนกลับไปในปี 2566 พรรคเพื่อไทยต้องเผชิญกับความท้าทายในการแข่งขันกับพรรคก้าวไกลในเชียงราย ซึ่งพรรคก้าวไกลสามารถคว้าชัยชนะใน 3 เขตจากทั้งหมด 7 เขต คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทยยังห่างจากพรรคก้าวไกลไม่ถึงหนึ่งหมื่นคะแนน การเลือกตั้งนายก อบจ. เชียงรายครั้งนี้จึงเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับพรรคเพื่อไทยในการฟื้นฟูกระแสนิยมและสร้างความมั่นคงในพื้นที่

อทิตาธร วันไชยธนวงศ์: ผู้สมัครคู่แข่งในสนาม อบจ.

ด้านนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ. เชียงราย ได้เตรียมแถลงข่าวในวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ถึงเจตนารมณ์ในการตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งอีกครั้งในนามอิสระ พร้อมทั้งเปิดตัวผู้สมัครที่มีเจตนารมณ์เดียวกัน ซึ่งมาจากหลากหลายกลุ่มในจังหวัดเชียงราย

ในแถลงข่าวครั้งนี้ยังเปิดพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องการให้แก้ไขและพัฒนา ทั้งนี้ นางอทิตาธรยังได้เน้นย้ำถึงเป้าหมายการพัฒนาเชียงรายให้เป็นเมืองแห่งความสุขทั้งสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยว

กกต. เปิดรับสมัครผู้สมัคร อบจ.

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดเชียงราย ได้ประกาศเปิดรับสมัครนายกและสมาชิก อบจ. ณ หอประชุมคชสาร ระหว่างวันที่ 23-27 ธันวาคม 2567 เวลา 08.30-16.30 น. โดยคาดว่านางสลักจฤฎดิ์จะเดินทางไปสมัครตั้งแต่วันแรก

บทสรุปและความสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้

การเลือกตั้งนายก อบจ. เชียงราย ครั้งนี้เป็นการประชันระหว่างกลุ่มการเมืองที่มีอิทธิพลสูงในพื้นที่ ทั้งพรรคเพื่อไทยและกลุ่มอิสระ การเลือกตั้งครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการเมืองระดับท้องถิ่นที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายระดับชาติ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดความนิยมของพรรคเพื่อไทยและทิศทางการพัฒนาเชียงรายในอนาคต

ประชาชนชาวเชียงรายร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเชียงรายในการเลือกตั้ง อบจ. เชียงรายครั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับจังหวัดเชียงรายอีกครั้ง!

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย /ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News