Categories
SOCIETY & POLITICS

“วราวุธ” ขับเคลื่อนงาน “พม. พอใจ : ให้ทุกวัยพึงพอใจใน พม.”

วันที่ 19 ก.ย. 2566  เวลา 09.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) มอบนโยบายการบริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ “พม. พอใจ : ให้ทุกวัยพึงใจใน พม.” โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) กล่าวรายงาน ทั้งนี้ คณะผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ร่วมรับฟังนโยบาย ณ  ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพฯ พร้อมทั้งผ่านระบบถ่ายทอดสดออนไลน์ 


นายวราวุธ กล่าวว่า นโยบายการบริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ “พม. พอใจ : ให้ทุกวัยพึงใจใน พม.” ตนมีหัวใจสำคัญในการทำงาน 3 ข้อหลัก ประกอบด้วย ข้อที่ 1 นับว่าที่สำคัญที่สุดคือ การทำงานตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ด้วยการทำงานรับใช้ประชาชน ไม่ยอมรับการคอรัปชั่น การทุจริตต่างๆ  ข้อที่ 2 การเป็นนักบริหาร ไม่ใช่นักสังคมสงเคราะห์ นักสหวิชาชีพ ซึ่งหน้าที่ของตน คือ ทำงานเพื่อให้ทุกคนทำงานได้ง่ายขึ้น ดีขึ้น และเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น และ ข้อที่ 3 ทำได้จริง เกิดประโยชน์ โดยการขับเคลื่อนไปข้างหน้า (ปฏิบัตินิยม) ด้วยวิธีทำงาน “PSS” แม่นยำ (Precision) รวดเร็ว (Speed) สร้างความเปลี่ยนแปลง (Impactful Scale) 


นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลได้ให้ความสําคัญกับความเท่าเทียมของประชาชนทุกกลุ่ม ด้วยการดูแลให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีงาน มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม ด้วยสวัสดิการโดยรัฐ ซึ่งจะเป็นแนวทางในการทํางานของกระทรวง พม. อีกทั้งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ กระทรวง พม. ต้องดำเนินการถึง 8 เป้าหมายจากทั้งหมด 17 เป้าหมาย เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับสังคมไทย ซึ่งจะเป็นกรอบสําคัญในการกําหนดวิธีคิด แนวปฏิบัติในการทํางานของกระทรวง พม. ทั้งนี้ นโยบายการบริหารกระทรวง พม. ในวันนี้ จะเป็นกรอบการทำงานของทุกคนในกระทรวง พม. เพื่อให้กระทรวง พม. เป็นผู้นำและเป็นที่พึ่งของประชาชนทุกกลุ่มในการเข้าถึงโอกาสและการคุ้มครองทางสังคมที่นำไปสู่หลักประกันและความมั่นคงในชีวิต โดยมีการขับเคลื่อน 5 นโยบายสำคัญ ประกอบด้วย 


1) นโยบายเด็กแรกเกิดและเด็กเล็ก จนถึงอายุ 3 ปี นับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากของชีวิต โดยสิ่งที่เราจะทำและพัฒนา คือ สนับสนุนให้ท้องถิ่นมีบทบาทในการคุ้มครองเด็กมากขึ้น ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 บริหารจัดการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด 600 บาท ให้ครอบคลุม ทั่วถึง และยกระดับศูนย์อนุบาลพัฒนาเด็กเล็กชุมชน  เป็นต้น 


2) นโยบายเด็กและเยาวชน เยาวชนคือวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ จำเป็นต้องสนับสนุนการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพของครอบครัวอุปถัมภ์ (Foster Care) เป็นที่พึ่งให้กลุ่มเปราะบางได้จริง และนำร่องโครงการศิลปะบำบัดสำหรับเด็กใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเยียวยาฟื้นฟูทางจิตใจ เป็นต้น


3) นโยบายคนทำงาน สำหรับวัยทำงาน โดยพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งการถือครองกรรมสิทธิ์และการเช่า ผลักดันโครงการบ้านตั้งต้นสำหรับผู้เริ่มทำงานใหม่ (First Jobber) พัฒนาเยาวชนสู่การเป็นผู้ประกอบกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise)  ขับเคลื่อนโครงการเตรียมพร้อมสูงวัยก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ (Pre-aging) โดยเฉพาะการบริหารการเงิน และโครงการสร้างรายได้สมาชิกนิคมสร้างตนเอง เป็นต้น


4) นโยบายผู้สูงอายุ ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์  (Complete Aged Society) ซึ่งกระทรวง พม. จำเป็นต้องเข้ามาดูแลผู้สูงอายุให้มากขึ้น ด้วยการพัฒนาสวัสดิการสังคมต่างๆ สำหรับผู้สูงอายุ อีกทั้งจัดตั้งศูนย์พักฟื้นและเสริมพลังชีวิต (Rejuvenation Center)  ศูนย์บริบาลผู้สูงอายุชุมชน/ตำบล  ศูนย์บริการจัดหางานผู้สูงอายุ และกองทุนพัฒนาชุมชรเพื่อผู้สูงอายุ สนับสนุนเงินกู้ยืมเพื่อการประกอบอาชีพ เพื่อความมั่นคงในชีวิต เป็นต้น


5) นโยบายคนพิการและคนไร้ที่พึ่ง สิ่งแรกที่สำคัญที่สุด คือ การปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 อีกทั้งยกระดับศูนย์บริการคนพิการทั่วไป ร่วมกับองค์กรด้านคนพิการ จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างคนพิการกับคนไม่พิการ ปรับปรุงกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อให้เป็นที่พึ่งสำหรับคนพิการทุกกลุ่มจำนวน 2.2 ล้านคนทั่วประเทศ  และขับเคลื่อนโครงการฝึกอบรมแรงงานหรือระบบการจับคู่งานกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพอิสระ เป็นต้น


นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายการบริหารกระทรวง พม. 100 วันแรก เป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ง่าย เนื่องจากแนวการทำงานของกระทรวง พม. เป็นปัญหาที่มีความละเอียดอ่อนและมีความซับซ้อน ที่สำคัญคือเป็นปัญหาที่ต้องอาศัยการบูรณาการของหลายหน่วยงานที่ต้องร่วมมือกัน ฉะนั้น จึงไม่มีปัญหาไหนเร่งด่วนไปมากกว่ากัน ทั้งมิติเรื่องของเด็กเล็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ สตรี ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ ซึ่งแต่ละหน่วยงานของกระทรวง พม. จะดูแลคนแต่ละกลุ่มแตกต่างกัน ดังนั้น เราจะขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน ไม่จำเป็นว่า 100 วันจะต้องทำให้เสร็จ แต่ให้คำมั่นว่าภายใน 100 วัน ทุกอย่าง จะมีการเริ่มต้นอย่างแน่นอน 


และวันนี้ เรามีคณะทำงานช่วยติดตามเร่งรัดนโยบายที่ได้มอบหมาย หากติดขัดปัญหาประการใด ตนและคณะทำงานจะเข้ามาช่วยให้ปัญหาเหล่านั้นได้รับการแก้ไข และทำให้งานของกระทรวง พม. เดินหน้าไปได้อย่างเต็มที่ เพราะท้ายที่สุดของเป้าหมายคือ การเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน ด้วยกลไกต่างๆ ที่มี ซึ่งนโยบายต่างๆ จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนดีมากยิ่งขึ้น 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เปิดโครงการมหกรรมเยาวชนท้องถิ่นร่วมส่งเสริมสวัสดิภาพทุกมิติ

วันที่ 20 ก.ย. 2566 ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย นางภัทราวดี สุทธิธนกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการมหกรรมเยาวชนท้องถิ่นเชียงราย เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2566 โดยมีนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน อาจารย์ สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย และนักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดปัญหาที่ซับซ้อนแก่เด็กและเยาวชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความรู้ไม่เท่าทันสื่อออนไลน์ และภัยสังคมที่มีเข้ามาทุกรูปแบบ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนที่ยังไม่ตรงจุด ซึ่งการจัดโครงการฯ ในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงรายให้ครอบคลุมทุกมิติ สร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนากับกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้มาแสดงความสามารถ ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เช่น การประกวดชุดแฟชั่นโชว์ การประกวดเดินแบบ การแข่งขันประกวดออกแบบโปสเตอร์ Chiang Rai Creative City of Design การแข่งขันประกวดร้องเพลงสตริงคอมโบ และการแข่งขันความรู้ ความสามารถทั่วไป
 
นางภัทราวดี สุทธิธนกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายได้เล็งเห็นความสำคัญของเยาวชนในจังหวัดเชียงราย ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ทำให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมผนึกกำลังกันอย่างแข็งขัน ในการสร้างสรรค์กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน อีกทั้งเด็กและเยาวชนยังเป็นช่วงวัยที่สำคัญที่จะต้องได้รับการส่งเสริมให้มีการพัฒนาได้รับความรู้ที่เหมาะสม ดังนั้นทุกภาคส่วนจึงต้องร่วมมือกัน ในการสร้างสรรค์สังคม สิ่งแวดล้อมให้เป็นที่ปลอดภัย ส่งเสริมสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนในทุกมิติ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับโอกาสทางการศึกษา สวัสดิการที่เหมาะสม มีพื้นที่แสดงออกในทางที่ถูกต้อง ตระหนักในหน้าที่รับผิดชอบ เห็นคุณค่าของตนเอง ตลอดจนห่างไกลยาเสพติดและอบายมุขต่อไป
 
ภายในงานมีกิจกรรมการออกบูธนิทรรศการและนวัตกรรมสร้างสรรค์ การแข่งขันการประกวดชุดแฟชั่นโชว์ กิจกรรมการแข่งขันความรู้ความสามารถทั่วไป การประกวดวงสตริงคอมโบ การประกวดเดินแบบ การมอบเกียรติบัตรให้กับบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ และองค์กรผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน การมอบเกียรติบัตรแก่เยาวชนดีเด่น ในวันเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2566 พร้อมทั้งได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างจังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ส่วนราชการ อำเภอ ภาคการศึกษา และภาคประชาสังคม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการผลักดันส่งเสริมให้เด็กมีการพัฒนาและได้รับความรู้ที่เหมาะสม เจริญเติบโตเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย จัดพิธีรำลึก 3 ผู้กล้า ยุคคอมมิวนิสต์เต็มเมือง

วันที่ 20 ก.ย. 2566 ที่อนุสรณ์สถาน 3 ผู้กล้า ณ บ้านห้วยกว้าน ม.9 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้นำคณะข้าราชการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ฯลฯ ประกอบพิธีทางศาสนา วางพวงมาลาหน้าอนุสรณ์สถาน 3 ผู้กล้า เนื่องในโอกาสครบรอบวันสูญเสียผู้กล้า ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงที่ถูกกลุ่มคอมมิวนิสต์ยิงเสียชีวิตที่บริเวณบ้านห้วยกว้าน

 
โดยนายศรัณยูได้นำวางพวงมาลาหน้าอนุสรณ์สถานของนายประหยัด สมานมิตร อดีตผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พล.ต.ท.ศรีเดช ภูมิประหมัน อดีต ผกก.ภ.เชียงราย และ พล.ท.จำเนียร มีสง่า อดีตผู้ช่วยหัวหน้ากองข่าว กองทัพภาคที่ 3 ซึ่งได้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าว
 
 
สำหรับเหตุการณ์เสียสละของสามผู้กล้าดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2513 ช่วงที่ยังมีปัญหาด้านผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ดังนั้นนายประหยัด พล.ต.ท.ศรีเดช และ พ.อ.จำเนียร ซึ่งมีหน้าที่ในขณะนั้นจึงได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยการพยายามเจรจาให้ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์มอบตัวต่อทางราชการ โดยนัดหมายการเจรจาเอาไว้เรียบร้อย แต่ขณะเดินทางผ่านหมู่บ้านดังกล่าวเพื่อจะไปเจรจาได้ถูกคนร้ายซุ่มโจมตีจนชีวิ
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
BREAKING NEWS

ข่าวเด่นน่าติดตามวันพุธที่ 20 กันยายน 2566

คลิกที่ภาพ

 

ข่าวเด่นน่าติดตามวันพุธที่ 20 กันยายน 2566


1.กรมราชทัณฑ์ ออกหนังสือชี้แจง “ทักษิณ” แพทย์ให้ความเห็นต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตำรวจต่อ

2. ‘ภูมิธรรม’ เผยไม่เกิน 2 สัปดาห์ เห็นโฉมหน้า ‘คกก.แก้รัฐธรรมนูญ’ ย้ำไม่ยื้อ จบในรัฐบาลนี้

3. “ธรรมนัส” พร้อมหนุน “คลัง” จัดมาตรการพักหนี้เกษตรกร

4.พีระพันธุ์ เผย จ่อลดราคาน้ำมันเบนซินเร็วๆ นี้ ครอบคลุมคนรายได้น้อยทุกกลุ่มอาชีพ

5.คำพิพากษาศาลฎีากา ลงดาบ’ช่อ พรรณิการ์’ตัดสิทธิ์สมัครเลือกตั้งตลอดไป


6.ทูตจีนถอดเข็มกลัดติดให้กับพิธา หลังเข้าร่วมฉลอง 74 ปี วันชาติจีน


7.บุรีรัมย์ และ แบงค็อก ทีมจากไทย เก็บสามแต้มแรกจากเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก


8.โรนัลโด้” สร้างอีกหนึ่งประวัติศาสตร์นักเตะคนแรกช่วยทีมไม่แพ้ 1,000 นัด


9.ฝรั่งเศส เตรียมเปิดประมูลโครงกระดูกไดโนเสาร์อายุ 150 ล้านปี

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

เชียงราย 3 ปีซ้อน หลังวัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน ถูกเลือกเป็น 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ ปี 66

 

วันที่ 20 ก.ย. 2566 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มุ่งขับเคลื่อนการดำเนินโครงการชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร เน้นใช้ “พลังบวร” เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนชุมชน และได้ดำเนินการส่งเสริมพัฒนาชุมชนคุณธรรมฯ ในระดับต่าง ๆ รวมจำนวนกว่า 27,000 ชุมชน ทั่วประเทศ ในปี 2566 นี้ วธ. จึงดำเนินโครงการคัดเลือก 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี 2566 มุ่งเน้นยกระดับชุมชนคุณธรรมฯ สู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อคัดเลือกชุมชนคุณธรรมฯ ที่มีศักยภาพ และความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ จำนวน 10 ชุมชน จากชุมชนคุณธรรมฯ ทั่วประเทศ เพื่อประกาศยกย่อง เชิดชูเกียรติ สร้างขวัญกำลังใจแก่ชุมชนและผู้ในการสนับสนุนการขับเคลื่อน พร้อมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงกว้าง เพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอดและขยายผลความสำเร็จไปยังชุมชนที่ส่งเสริมการสร้างจิตสำนึกต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้อยู่ดีมีสุข ดำรงชีวิตตามวิถีวัฒนธรรมที่ดีงาม ปลุกกระแสการท่องเที่ยววิถีชุมชน สร้างโอกาส สร้างรายได้ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ต่อไป

นายเสริมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกดังกล่าว อาทิ การมีผู้นำชุมชนเป็นศูนย์กลางบริหารจัดการชุมชนที่ดี สมาชิกมีส่วนร่วมจัดกิจกรรม หน่วยงานภาครัฐ เอกชน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) มีส่วนร่วมขับเคลื่อน มีอัตลักษณ์ของชุมชนมีความโดดเด่น อาทิ เป็นชุมชนที่มีความเชื่อหรือประวัติศาสตร์ชุมชนเป็นที่น่าสนใจ มีสถานที่ สถาปัตยกรรม หรืออื่นๆ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว มีวัฒนธรรมและประเพณีที่สร้างประสบการณ์ร่วมให้กับนักท่องเที่ยวสนุกสนาน น่าสนใจ สร้างความประทับใจ มีศิลปะการแสดง ผลิตภัณฑ์ชุมชน สะท้อนอัตลักษณ์ของชุมชน มีภูมิปัญญา ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้รู้ที่สามารถถ่ายทอดให้กับคนในชุมชน รวมถึงอาหาร การบริการการท่องเที่ยว มีนักเล่าเรื่อง/ผู้นำทางแนะนำอัตลักษณ์ของชุมชนได้ เส้นทางคมนาคมที่สะดวก ง่ายต่อการเข้าถึง มีรถรับจ้าง รถสาธารณะบริการในชุมชน ตลอดจนที่พัก/โฮมสเตย์มีมาตรฐาน สะอาด สวยงาม เป็นต้น

 

สำหรับผลการคัดเลือกดังกล่าว ปรากฏว่าผลการคัดเลือก 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี 2566 จำนวน 10 ชุมชน ซึ่งเป็นชุมชนที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ และมีผลการดำเนินงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ มีดังนี้

1.ชุมชนคุณธรรมฯ วัดท่าขนุน ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

2.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านปากน้ำชุมพร ต.ปากน้ำ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร

3.ชุมชนคุณธรรมฯวัดพระธาตุผาเงา ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

4.ชุมชนคุณธรรมฯ วัดพระธาตุช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่

5.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านฟ้าหยาด ตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชัยชนะ จังหวัดยโสธร

6.ชุมชนคุณธรรมฯ วัดบ้านหงาว ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง

7.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่ามะขาม ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

8.ชุมชนคุณธรรมฯ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

9.ชุมชนคุณธรรม ฯ บ้านท่าฉลอม ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 10.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโนนกอก ตำบลหนองนาคำ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี

“ขอแสดงความยินดีแก่ 10 ชุมชนทีได้รับรางวัล ถือเป็นชุมชนต้นแบบที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ ซึ่งทางกระทรวงวัฒนธรรมพร้อมสนับสนุน และจะประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้ชุมชนได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ดึงดูดนักท่องเที่ยว ตลอดจนประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และมุ่งหวังให้การท่องเที่ยวชุมชนในรูปแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” จะสามารถสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน” รมว.วธ. กล่าว

ทั้งนี้ จะมีพิธีมอบโล่ ให้แก่ผู้แทน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ปี 2566 และลงพื้นที่เปิดชุมชนที่ได้รับคัดเลือกแต่ละแห่ง ในช่วงปลายปี 2566 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ และเป็นโมเดลต้นแบบขยายไปสู่ชุมชนอื่น ๆ ต่อไป

 

ซึ่งทางเพจ สวท. เชียงราย ได้โพสต์แจ้งข้อมูลว่า จังหวัดเชียงราย คว้า 3 ปีซ้อน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ปี 66 ชุมชนคุณธรรมฯ วัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

ทั้งนี้ ตลอดสามปีที่ผ่านมา จังหวัดเชียงราย ได้รับการพิจารณาให้เป็น สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ต่อเนื่องทั้งสามปี โดย

ปี 2564 ได้แก่ ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านศรีดอนชัย ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ จ.เชียงราย 

ปี 2565 ได้แก่ ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านเมืองรวง จังหวัดเชียงราย 

และปี 2566 ล่าสุด ได้แก่ ชุมชนคุณธรรมฯ วัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

ทุกท่านสามารถเที่ยววัดพระธาตุผาเงา อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย

โดยมีรายละเอียดค่าบริการ
1.มีค่าบริการรถรับส่งท่านละ 30 บาท ขึ้น/ลง
2. แล้วก็บัตรเข้าชมสกายวอล์คท่านละ 40 บาท
เข้าขึ้นชมฟรี! สำหรับ
– ผู้สูงอายุ 80 ปี
– เด็กส่วนสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร
– พระภิกษุสงฆ์ สามเณร
หมายเหตุ : คุณครูโรงเรียนถ้าจะพานักเรียนมา ทัศนศึกษาให้ทำใบขอมาก่อนล่วงหน้า แล้วก็แต่งกายใสชุด ประจำโรงเรียน
 
ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่โทร 0612081998
เปิดให้เข้าชมสกายวอล์ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ : 07.30 น.
เวลาปิดทำการ : 17.30 น.
 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ / คนเก็บภาพ แม่สาย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

(มีคลิป) แก๊งวัยรุ่นชาย-หญิง กวนเมืองเชียงใหม่!! อ.สันป่าตอง

 

เมื่อเวลา 23.55 น.กลางดึกคืนวันที่ 19 ก.ย.2566 ได้มีกลุ่มวัยรุ่นกวนเมืองทั้งชายและหญิง ใช้รถรถจยย.เป็นพาหนะร่วม 10 กว่าคัน แต่ละคันล้วนเสียงดัง วิ่งไปตามถนนกลางเมืองสันป่าตอง พร้อมกับขว้างระเบิดลงพื้นถนนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมมีเสียงกรี๊ดร้องของผู้หญิง สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก ทางกลุ่มว่ยรุ่นกวนเมือง ขับขี่จยย.มุ่งหน้าไปทางบ้านทุ่งเสี้ยว -อ.ดอยหล่อ ขณะนี้ยังไม่ทราบกลุ่มวัยรุ่น จะไปก่อเหตุอะไรต่อ

ทางนายเต๋า ธนากร ชาวอ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าขณะที่ตนทำงานอยู่ในร้านติดกับถนน ได้วินเสียงเสียงรถจยย.กลุ่มใหญ่เสียงดังวิ่งผ่านมา และมีเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ลูก ตามด้วยเสียงหญิงวัยรุ่นกรี๊ดร้องอย่างสนุกสนาน ทางตนได้เปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่ากลุ่มวัยรุ่นดังได้โยนระเบิดลงพื้นถนนเสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังกล่าว

เมื่อเวลา 01.12 น. จากภาพกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพมีกลุ่มวัยรุ่นใช้จยย.เป็นพาหนะมาจอดริมถนน ใกล้ที่เกิดเหตุโดยไม่ทราบว่า เป็นกลุ่มเดิม หรือกลุ่มใหม่ สักครู่ได้พากันขับขี่รถจยย.กันออกไป

ชึ่งคืนเดียวกันพบการรวมกลุ่มวัยรุ่นที่ปั๊ม PTศรีเอี่ยม จากนั้น ขับไล่กันมาทาง ถนนเเม่จำโรง เเยกรพ.สันป่าตอง มาทางเเยกทุ่งเสี้ยว โดยกลุ่มวัยรุ่น มีอายุเเค่ 15-17 ปีมีทั้งผู้หญิงทั้งชายเเละยังเป็นเยาวชน ไล่ตีกัน ปาดระเบิดใส่กัน

ต่อมาทางฝ่ายปกครองตำบลบ้านกลางร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ยามทุ่งเสี้ยวจำนวน37นายได้ขับไล่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวจนรถวัยรุ่นได้ประสบอุบัติเหตุเกี่ยวพวกเดียวกันล้มได้รับบาดเจ็บที่หน้าวัดสันคะยอม ตรงข้าว ศูนย์วิจัยข้าวสันป่าตอง เเยกท่าวังพร้าว

โดยรถล้มระเนระนาด บาดเจ็บชาย 5 ราย นอนสลบ หมดสติ 1 กู้ชีพเทศบาลสันป่าตองนำส่ง รพ..สันป่าตอง เป็นชาย 1 ราย ขาผิดรูป กู้ชีพพยุหว่านำส่ง รพ.มีชาย 3 ราย มีบาดเเผลเต็มใบหน้าเเละถลอกตามร่างกาย กู้ชีพมะขามหลวงนำตัวทั้งหมดส่งรพ..สันป่าตอง ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสันป่าตองได้ออกตรวจสอบเเละจะได้ติดตามตัวกบุ่ทวัยรุ่นดังกล่าวมาดำเนินคดีกันต่อไป

ทั้งนี้ เหตุการณ์ เพิ่งผ่านมาไม่ถึงเดือนก็มาเกิดเหตุการณ์เป็นครั้งที่ 2จนทำให้ชาวบ้านผู้สัญจรเเละ ชาวบ้าน หวาดกลัวไปตามๆกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
BREAKING NEWS

ข่าวเด่นน่าติดตามวันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2566

คลิกที่ภาพ

 

ข่าวเด่นน่าติดตามวันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2566


1. ‘วันนอร์’ เผยอนุมัติงบฯ ‘หมออ๋อง’ บินดูงานสิงคโปร์ เพราะเห็นเป็นประโยชน์ต่อสภาฯ

2.เอกชนรับข่าวดี ลดค่าไฟเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย จับตาราคาสินค้าลดตาม


3. ยูนิเซฟประกาศแต่งตั้ง มาดามแป้ง “นวลพรรณ ล่ำซำ” เป็นทูตองค์การยูนิเซฟประจำประเทศไทย

4. นายกฯ สั่งเปิดเที่ยวบินเข้าเชียงใหม่ ตลอด 24 ชม. รับวีซ่าฟรี 1 พ.ย.นี้

5.ไทยชนะคดี ‘โฮปเวลล์’ รัฐไม่ต้องจ่าย 2.4 หมื่นล้านบาท

6. รมช.คลัง ตั้งคณะกรรมการดูเกณฑ์แจกเงินดิจิทัล-พักหนี้ มั่นใจ 10 วันได้ข้อสรุป


7. อิชิอิ ผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่น โพสต์ลาบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่อแวว ยุติบทบาท ปธ.เทคนิคทีมชาติไทย

8.น้ำท่วมกรีซซัดบ้านพักลงทะเล คร่าชีวิตคู่ฮันนีมูนชาวออสเตรีย

9.ทรัมป์ลั่น “ตัดสินใจเอง” พยายามล้มผลเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020
.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

กรมอุทยานฯ จัดชุดกู้ภัยช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวช่วงฤดูน้ำป่าไหลหลาก

 

วันที่ 18 กันยายน 2566 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับข้อสั่งการจากพล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ให้หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำตก และแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น เมื่อเกิดสถานการณ์อุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก ให้ประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

หากเห็นว่ามีความรุนแรงสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ให้ดำเนินการออกประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวในทันที แล้วรายงานสถานการณ์เหตุการณ์ให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น เบื้องต้นให้มีการประกาศแจ้งเตือน จัดเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวัง เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัย เพื่อสามารถเข้าระงับยับยั้งเหตุการณ์วิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที

นายอรรถพลฯยังกล่าวอีกว่า ช่วงนี้เป็นฤดูกาลที่มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ล่าสุดได้รับรายงานจากอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ จ.แม่ฮ่องสอน ว่ามีเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรง เข้าท่วมอาคารสำนักงาน บ้านพัก กระแสน้ำป่าได้พัดเอารถยนต์ และทรัพย์สินต่างๆของเจ้าหน้าที่ จนได้รับความเสียหายหลายรายการ อุทยานแห่งชาติถ้ำปลาฯ

จึงได้มีการประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวไว้ก่อน จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ อีกทั้งยังได้รับรายงานจากหน่วยงานภาคสนามอีกหลายแห่ง เกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่รับผิดชอบ ตลอดจนอาคารบ้านเรือนของราษฎรจนได้รับความเสียหาย ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติฯจะได้นำข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเคร่งครัด รวมถึงการเข้าช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย เพื่อเป็นการเยียวยาในเบื้องต้นร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ ต่อไป

อนึ่ง สำหรับอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำตกอันสวยงาม และอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยกตัวอย่างเช่น น้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดปราจีนบุรี น้ำตกหมันแดง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก น้ำตกตาดโตน อุทยานแห่งชาติตาดโตน จังหวัดชัยภูมิ น้ำตกทีลอซู เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก น้ำตกไพรวัลย์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด จังหวัดพัทลุง น้ำตกโตนงาช้าง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง จังหวัดสงขลา เป็นต้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TOP STORIES

กรมราชทัณฑ์ ยันเอง “กำนันนกตัวจริง ไม่ใช่ตัวปลอม”

 

วันที่ 18 กันยายน 2566 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่กระแสโซเชียลวิจารณ์และตั้งข้อสังเกตว่า กำนันนกที่ถูกจับไม่ใช่ตัวจริง ทำให้เกรงว่าจะมีการจับตัวปลอมไป โดยล่าสุดนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า “วันจันทร์ จะยื่นหนังสือถึง รมว.ยุติธรรม เพื่อให้ตรวจสอบลายนิ้วมือ 10 นิ้ว ว่ากำนันนกที่ตกเป็นผู้ต้องหา ฆ่าสารวัตรแบงค์ ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เป็นคนเดียวกันหรือไม่นั้น 

นายอายุตม์ฯ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ ได้รับการยืนยันจากนายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครในกรณีดังกล่าวแล้ว แจ้งว่า ทางเรือนจำได้รับตัว นายประวีณ จันทร์คล้าย ฐานความผิด เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่าผู้อื่น เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 ซึ่งในวันดังกล่าวกองบังคับการปราบปรามเป็นผู้นำตัวนายประวีณฯ ขึ้นศาลอาญารัชดา เพื่อยื่นฝากขัง จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ประจำศาลจะตรวจสอบข้อมูลบุคคลจากหมายขังที่ศาลออก ตรวจสอบลายนิ้วมือที่ตรงกันเรียบร้อยแล้ว จึงรับตัวส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และได้ตรวจสอบตำหนิ รูปพรรณ โดยการบันทึกลายนิ้วมือถูกต้องครบถ้วนตรงกันตั้งแต่ที่ศาลถึงเรือนจำ โดยขณะนี้นายประวีณฯ อยู่ระหว่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 และจะเข้าสู่กระบวนการจำแนกลักษณะผู้ต้องขังต่อไป ระหว่างที่นายประวีณฯ ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำฯ สามารถพบทนายได้ทุกวัน และเยี่ยมญาติผ่านระบบไลน์ตามระเบียบที่เรือนจำได้กำหนดไว้ ซึ่งที่ผ่านมามีภรรยาและบุตรเข้าเยี่ยม รวมถึงความเป็นอยู่ สามารถรับประทานอาหารของทางเรือนจำได้ตามปกติ 

นายอายุตม์ฯ กล่าวปิดท้ายว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้รับตัวและตรวจสอบลายนิ้วมือรูปพรรณต่างๆ ของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ควบคุมไว้ภายในเรือนจำแล้ว จึงขอยืนยันว่าก่อนรับตัวนายประวีณ จันทร์คล้าย เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจสอบหมายขังระหว่างสอบสวน/ใบส่งตัวและรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของศาลอาญา ซึ่งตรงกับรายงานทะเบียนราษฎร จากฐานข้อมูลการทะเบียน สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ระบบข้อมูลผู้ต้องขังกรมราชทัณฑ์ถูกต้องครบถ้วนเรียบร้อย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมราชทัณฑ์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
EDITORIAL

มุมมอง ‘อดีตนายกท่องเที่ยวภาคเหนือ’ ต่อการพัฒนาเส้นทาง “การบินเชียงใหม่”

 
จากการที่รัฐบาลมีข้อเสนอที่จะขยายสนามบินเชียงใหม่ หรือ สร้างสนามบินใหม่ กับความเร่งด่วน กับงบประมาณที่รัฐบาลมีจำกัด ในปัจจุบัน

ขอนำเสนอข้อมูล ในอีกมุมมองหนึ่ง กับการพัฒนาสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย กับสนามบินลำปางคู่ขนาน แล้วขยายถนนบางจุดเส้นทางเชื่อมเชียงใหม่เชียงราย ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวสองข้างทางเยอะมาก เป็นการกระจายนักท่องเที่ยวสร้างโอกาสแก่ชุมชนต่างๆ และเป็นการสร้างความคุ้มค่าจากเงินลงทุนจากภาครัฐที่ลงทุนไปแล้วที่เชียงรายให้คุ้มค่ามากที่สุด

อีกทั้งยังมีสนามบินลำปาง ที่ใช้เวลาเดินทางมาเชียงใหม่เพียงหนึ่งชั่วโมงรองรับเส้นทางบินในประเทศ

สนามบินเชียงใหม่มีข้อจำกัด เรื่องการขยายรันเวย์ หรือข้อจำกัดเวลาการบินหลังเที่ยงคืนถึงห้าโมงเช้า และสายการบินส่วนใหญ่ที่บินลงเชียงใหม่จะเป็นสายการบินในประเทศเป็นหลัก ส่วนการสร้างสนามบินใหม่ต้งใช้งบประมาณ 7หมื่นกว่าล้านบาทใช้เวลาอีก 7 ปี

ส่วนสนามบินแม่ฟ้าหลวงมีศักยภาพความพร้อมการบินเยอะมากเป็นสนามบินนานาชาติ สามารถบินลงได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีศักยภาพการบิน 10 ไฟท์ต่อชั่วโมง แต่ปัจจุบันมี 2 ไฟท์ต่อชั่วโมง ความแออัดของสนามบินยังมีน้อย ทั้งยังมีงบประมาณมาขยายรันเวย์แท็กซี่การบิน และยังสามารถรองรับเส้นทางการบินระหว่างประเทศเป็นจำนวนมาก ใช้เวลาเดินทางรถ จากเชียงรายเชียงใหม่เพียง 3 ชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ

มุมมองต่อเชียงใหม่เอง เชียงใหม่ควรเพิ่มศักยภาพทางด้านขนส่งสาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่มากกว่า รถไฟฟ้า ระบบรางรถไฟลอยฟ้า รถไฟใต้ดิน ที่รองรับคนจำนวนมาก การมีวิสัยทัศน์ มุ่งเป็นมหานครเมืองหลวงของภาคเหนือ

อันนี้เป็นอีกมุมมองของผมที่มีต่อเชียงใหม่ (และคุณพ่อผมเป็นคนเชียงใหม่) เชียงใหม่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยว ลงทุน เศรษฐกิจ และการศึกษา แต่ต้องขยายโอกาสการพัฒนาสู่หัวเมืองต่างๆ ให้มีศักยภาพเสริมกับเมืองเชียงใหม่

การส่งเสริมเพิ่มเส้นทางการบินสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย กับใช้สนามบินลำปางเพิ่มในส่วนเส้นทางบินในประเทศ น่าจะเป็นคำตอบเร่งด่วน ที่คุ้มค่าต่อการดึงนักท่องเที่ยว นักธุรกิจสู่ภาคเหนือ ขยาย GDP ของภาคเหนือเร็วที่สุด 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กิตติ ทิศสกุล อดีตนายกภาค สามคมสหพันธ์ทองเที่ยวภาคเหนือ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News