Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เวียงเชียงรุ้งเร่งเครื่อง “วิ่งเลาะเวียง” โมเดลท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุ่นเครื่องเศรษฐกิจชุมชน

เวียงเชียงรุ้งเร่งเครื่อง “วิ่งเลาะเวียง” ปลายฝนต้นหนาว โมเดลท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ–เศรษฐกิจชุมชน ที่ออกสตาร์ทด้วยความพร้อมและความหวัง

เชียงราย, 7 ตุลาคม 2568 — ลมเย็นแรกของฤดูกาลกำลังเลียบไหล่เขาทางตะวันออกของเชียงราย ขณะเดียวกัน “อำเภอเวียงเชียงรุ้ง” ก็กำลังเร่งฝีเท้าสู่จุดปล่อยตัวครั้งสำคัญของการท่องเที่ยวฤดูหนาว ด้วยกิจกรรมวิ่งถนนขนาดกลางที่วางเป้าหมายไว้ชัดเจนทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และภาพลักษณ์พื้นที่ นั่นคือ วิ่งเลาะเวียง 4 เมืองล้านนาตะวันออก จังหวัดเชียงราย ตอน เวียงเชียงรุ้ง” ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 22–23 พฤศจิกายน 2568โรงเรียนอนุบาลเวียงเชียงรุ้ง โดยมีนักวิ่งลงทะเบียนแล้ว 728 คน พร้อมเส้นทาง 4 ระยะ ที่ตั้งใจ “ให้ทุกคนวิ่งได้” ตั้งแต่งานสายกิน–เที่ยวไปจนถึงมาราธอนเต็มระยะ

ภาพรวมทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน หากแต่เป็นผลของการ “บูรณาการจริงจัง” ระหว่างภาครัฐ–เอกชน–ชุมชนท้องถิ่น สะท้อนจากการประชุมเตรียมความพร้อมเมื่อ 7 ตุลาคม 2568 ที่ The Estretto Restaurant ซึ่งมี นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย, นายภาณุพันธ์ เอี่ยมอุบลสุวรรณ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพะเยา และ นางสาวมินทิรา ภดาประสงค์ นายอำเภอเวียงเชียงรุ้ง ร่วมเป็นประธาน พร้อมผู้เกี่ยวข้องรอบด้าน แนวทางที่วางไว้ชัดเจน ใช้กีฬาเป็นเข็มทิศให้การท่องเที่ยวปลายปี อุ่นเครื่องเศรษฐกิจชุมชน” ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยและประสบการณ์ที่ดี

เล่าจากห้องประชุมสู่เส้นทางจริง เมื่อ “วิ่ง” ไม่ได้แปลว่าแค่กิโลเมตร

สาระจากการเตรียมงาน มี 3 แกนหลัก

  1. มาตรฐานความปลอดภัยและบริการ
    คณะทำงานให้ความสำคัญกับการจัดการเส้นทาง จุดบริการน้ำ จุดพยาบาล และการจราจรตลอดคอร์ส โดยยึดแนวปฏิบัติการแข่งขันวิ่งถนนสมัยใหม่ เช่น การกระจายจุดให้น้ำตามสภาพภูมิประเทศ, การประสานงานหน่วยกู้ชีพท้องถิ่น, การกำหนดจุดตัด (cut-off) ให้เหมาะสมกับทุกระยะ และการสื่อสารระยะจริง–ระดับความยากให้ผู้เข้าร่วมทราบล่วงหน้า
  2. ดีไซน์ระยะทาง “ครอบคลุมทุกคน”
    • Kilo Run 2.5 กม. โจทย์คือ “ชวนคนทั้งบ้านมาเคลื่อนไหว” ได้วิ่ง ได้ชิม ได้ถ่ายรูป
    • Fun Run 5 กม. ระยะยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มวิ่งและนักท่องเที่ยว
    • Half Marathon 21 กม. จับกลุ่มนักวิ่งประสบการณ์กลาง ที่ต้องการวิวชนบท–นาข้าว–เนินสวย
    • Marathon 42 กม. สำหรับนักวิ่งจริงจังที่มองหาเส้นทางธรรมชาติในภาคเหนือปลายฝนต้นหนาว

รูปแบบรางวัลถูกออกแบบให้ “ปลอดแรงกดดันแต่จูงใจ” 100 คนแรกของแต่ละระยะ (ยกเว้น Kilo Run) รับเสื้อ Finisher ขณะที่ Kilo Run แจก กระบอกน้ำที่ระลึก เพื่อย้ำภาพ “งานของทุกคน”

  1. บรรยากาศนอกสนามที่คิดเผื่อ
    วันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 19.00 น. จะมี มินิคอนเสิร์ต “ศาล สานศิลป์” เติมสีสันช่วงรับนักวิ่งนอกพื้นที่และครอบครัว ให้ “ค่ำคืนก่อนวิ่ง” เป็นพื้นที่ของการพักผ่อน พบปะ และจับจ่ายในท้องถิ่น

ทำไม “เวียงเชียงรุ้ง” ต้องวิ่ง เศรษฐกิจ–สุขภาพ–อัตลักษณ์ ในงานเดียว

เศรษฐกิจชุมชน แม้จำนวนผู้เข้าร่วม 728 คนจะไม่ใช่งานใหญ่ระดับหมื่น แต่ด้วย สัดส่วนผู้ติดตาม และ การพักค้างคืน (โดยเฉพาะผู้ลงฮาล์ฟ–มาราธอน) เงินใช้จ่ายจะกระจายไปยัง ที่พักโฮมสเตย์–รีสอร์ทขนาดเล็ก–ร้านอาหาร–คาเฟ่–รถรับจ้าง–ร้านค้าชุมชน ตลอดสุดสัปดาห์ ก่อนถึงไฮซีซันปลายปี การแข่งขันในเดือนพฤศจิกายนจึงถูกวางให้เป็น “ตัวอุ่นเครื่องกระแสท่องเที่ยว” ช่วยให้ผู้ประกอบการได้ลองแพ็กเกจ–ชิมเมนู–ทดสอบบริการ ก่อนเข้าสู่คริสต์มาส–ปีใหม่ สุขภาพและทุนทางสังคม การวิ่งไม่ได้หมายถึง “นักกีฬา” เท่านั้น แต่คือการขยับร่างกายของคนทุกวัยตามคำแนะนำสากล เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO) ที่แนะนำการมีกิจกรรมแอโรบิกอย่างน้อย 150–300 นาที/สัปดาห์ สำหรับผู้ใหญ่ งานวิ่งชุมชนที่ออกแบบให้เข้าถึงทุกกลุ่มจึงเป็น เครื่องมือสร้างวินัยสุขภาพ และ “ทุนทางสังคม” ที่คนในพื้นที่ ซ้อม–วิ่ง–เชียร์ ร่วมกัน

สาม, อัตลักษณ์และภาพจำ
“ล้านนาตะวันออก” มี ภูมิทัศน์ชนบท–ไร่นา–สายหมอก ที่ต่างจากเมืองใหญ่ การจับ “เลนธรรมชาติ” มาอยู่ในเส้นทาง และการจัดกิจกรรมวัฒนธรรมขนาดย่อมในบริเวณงาน จะทำให้ผู้มาเยือน จดจำรสชาติท้องถิ่น ผ่านสิ่งเล็ก ๆ เสียงเกราะไม้เรียกนกยามเช้า, กลิ่นกาแฟคั่วอุ่น ๆ ริมทาง, ผ้าทอและงานคราฟต์ชุมชน นี่คือ soft power ที่ไม่ต้องตะโกน

กลไกความพร้อม เมื่อ “บูรณาการ” ไม่ใช่คำสวยหรู

จากเอกสารการประชุม 7 ตุลาคม 2568 แนวทางปฏิบัติถูกไล่ชัดเป็นข้อ ๆ

  • เส้นทางและจราจร การสำรวจเส้นทางร่วมกับอปท. ทต./อบต. และสถานศึกษา เพื่อกำหนดจุดเสี่ยงทางแยก–ทางโค้ง–สะพาน พร้อมแผนปิด–เปิดช่องทางชั่วคราวให้กระทบชุมชนน้อยที่สุด
  • การแพทย์ฉุกเฉิน ประสานหน่วยกู้ชีพท้องถิ่น จุดปฐมพยาบาลเคลื่อนที่, ระบบวิทยุสื่อสาร, รถพยาบาลสแตนด์บายตามจุดระยะ 5–7 กม., และกระบวนการส่งต่อ รพ.ใกล้ที่สุด
  • สิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุลดขยะ–คัดแยกขยะงาน, สนับสนุนแก้ว/ขวดส่วนตัว, ออกแบบจุดให้น้ำที่ลด Single-use, และกำหนดทีมเก็บกวาดหลังขบวนสุดท้าย
  • การสื่อสารผู้ร่วมงาน แผนประชาสัมพันธ์เส้นทาง–เวลาปิดถนน–จุดจอดรถ–รถรับส่ง (shuttle) ชัดเจน, แผนสภาพอากาศ–แผนปรับเวลา (หากมี) เพื่อความปลอดภัยเป็นหลัก
  • มิติชุมชน บูธชุมชน–ตลาดเล็ก ๆ ในพื้นที่จัดงาน ให้ชาวบ้านนำสินค้าพื้นถิ่น–อาหารท้องถิ่นมาจำหน่าย สร้างการมีส่วนร่วมพร้อมรายได้เสริม

ในเชิงมาตรฐาน งานวิ่งที่ดีในพื้นที่ต่างจังหวัดยุคนี้ ต้องทำให้คนในพื้นที่ “อยู่ร่วมกับงาน” อย่างราบรื่น มากกว่ารู้สึกว่าถูก “ปิดถนนให้คนนอกมาวิ่ง” เวียงเชียงรุ้งกำลังเดินในเส้นทางนี้

4 ระยะ 4 ประสบการณ์ ออกแบบให้ “เข้าถึง–สวย–ปลอดภัย”

แม้รายละเอียดระดับจุด กม. จะประกาศใกล้วันงาน แต่กรอบใหญ่ของประสบการณ์ถูกวางไว้พร้อม

  • Kilo Run 2.5 กม. — โฟกัสครอบครัว/มือใหม่ เดินสลับวิ่งได้ สนามถ่ายภาพเยอะ จุดให้น้ำ 1 จุดเพียงพอ เน้นอาสาสมัครให้กำลังใจ
  • Fun Run 5 กม. — วิ่งวนผ่านชุมชน–ทุ่งนา ทางเรียบ–เนินน้อย วิ่งกลางเช้าอากาศเย็น รับเส้นชัยพร้อมกิจกรรมสันทนาการ
  • Half Marathon 21 กม. — ระยะ “เวียงเชียงรุ้งในเช้าวันจริง” เจอเนินยาวบ้าง วิวโล่ง–ทุ่ง–เส้นทางชนบท ต้องบริหารพลัง น้ำ/เกลือแร่ทุก 2–3 กม.
  • Marathon 42 กม. — งานสำหรับนักวิ่งจริงจัง เส้นทางหลากหลายภูมิประเทศ ต้องวางแผน pace–พลังงาน–อากาศ งานบริการควรใส่จุดน้ำ–เจล–ห้องน้ำเคลื่อนที่ถี่กว่าปกติ

การให้ เสื้อ Finisher แก่ 100 คนแรก ของแต่ละระยะ (ยกเว้น Kilo Run) เป็นการวางสิ่งจูงใจที่ “ชัด แต่ไม่กดดัน” เพราะเกียรติยศยังอยู่ที่การ “ข้ามเส้นชัยอย่างปลอดภัย” มากกว่าการไล่จับเวลา

นอกเส้นทาง ดนตรี–อาหาร–วัฒนธรรม ที่ยกมารวมไว้ในสุดสัปดาห์เดียว

คอนเสิร์ต ศาล สานศิลป์” คืนก่อนแข่ง คือหัวใจดึงนักวิ่ง–ผู้ติดตามให้อยู่กับพื้นที่นานขึ้น เกิดการจับจ่าย–เข้าพัก–ใช้บริการในชุมชน นอกจากนี้ ฝ่ายจัดยังวาง พื้นที่ชิม–ช้อปของดีเวียงเชียงรุ้ง ทั้งกาแฟพื้นถิ่น–ผักผลไม้ตามฤดูกาล–อาหารล้านนาง่าย ๆ ให้เป็น “สนามพบปะ” ของคนใน–คนนอก สร้างประสบการณ์รวมที่น่าจดจำ

คิดล่วงหน้าเรื่องความเสี่ยง อากาศ–ความพร้อม–การแพ้กลูโคส

ช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศเช้าเย็น–บ่ายร้อนแดด ถ้าฟ้าเปิด การสูญเสียเหงื่ออาจสูงกว่าที่คิด โดยเฉพาะนักวิ่งมาราธอน–ฮาล์ฟ การจัดการ น้ำ–เกลือแร่–จุดพยาบาล–รถพยาบาล จึงเป็นหัวใจ นอกจากนี้ กลุ่มเสี่ยง (เช่น ผู้มีโรคประจำตัว, เคยเป็นลมแดด, ภาวะน้ำตาลต่ำ) ต้องได้รับคำแนะนำให้ เตรียมตัว–แจ้งอาสาฯ–พกยาประจำตัว รวมถึงการเผยแพร่ คู่มือเตรียมตัว 7–14 วันก่อนแข่ง เพื่อให้ทุกคนถึงเส้นชัยด้วยความปลอดภัย

ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ตัวคูณที่เกิดจริงในชุมชน

งานวิ่งขนาด 700–1,000 คน มักสร้างการใช้จ่ายต่อหัวที่กระจายไปยังที่พัก–อาหาร–เดินทาง–ของที่ระลึก หากบริหาร ตลาดชุมชน ให้เชื่อมกับงานหลักอย่างเหมาะสม จะเกิด เงินใหม่” เข้าชุมชน แท้จริง (ไม่ใช่แค่หมุนภายใน) ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนท้องถิ่น (คาเฟ่–รีสอร์ท) สามารถใช้โอกาสนี้ พล็อตแพ็กเกจปลายปี ให้กับนักวิ่งที่ “กลับมาอีก” ในช่วงไฮซีซัน การสร้าง ฐานลูกค้าซ้ำ (repeaters) คืองานเงียบ ๆ ที่คุ้มค่าที่สุด

เวียงเชียงรุ้งในแผนที่ท่องเที่ยวเชียงราย เติมช่องว่าง “ธรรมชาติใกล้–จริง–อบอุ่น”

เชียงรายมีแม่เหล็กท่องเที่ยวระดับประเทศอยู่แล้ว ทั้งวัดร่องขุ่น–ไร่ชา–ดอยแม่สลอง–ดอยตุง จึงเป็นธรรมดาที่ “อำเภอใหม่ ๆ” ต้อง หาเลนเฉพาะ ของตน งานวิ่งชุมชนที่ดี ทำให้ “พื้นที่ที่คนยังไม่คุ้น” ได้โอกาสโชว์ ถนนโล่ง–ทุ่งนา–วิถีบ้าน แบบไม่ยัดเยียด เวียงเชียงรุ้งกำลังวางตำแหน่งตนเองในเลนนั้น ธรรมชาติจริงมากกว่าฉาก, ผู้คนจริงมากกว่ารีวิว, และ ประสบการณ์อบอุ่นมากกว่าเช็กอิน

เสียงที่ยังไม่ต้องเป็นคำพูด ความร่วมมือคือหัวใจ

แม้การประชุมครั้งล่าสุดไม่ได้เปิดเผยคำกล่าวอย่างเป็นทางการของผู้บริหารต่อสาธารณะ แต่สารที่ส่งออกมาชัดเจนอยู่แล้วจาก รูปแบบการทำงาน—เวียงเชียงรุ้งไม่ได้กำลังจัด “งานของใครคนหนึ่ง” หากกำลังจัด “งานของพื้นที่” ที่ทุกหน่วยต้อง เกาะเกี่ยวกัน ตั้งแต่ อบจ./อบต., โรงเรียน, โรงพยาบาล, ตำรวจทางหลวง, ผู้ใหญ่บ้าน, ชมรมอาสาสมัคร, ผู้ประกอบการท่องเที่ยว, ไปจนถึงชาวบ้านที่เปิดบ้านเป็นจุดบริการหรือลูกมือข้างทาง

ความสำเร็จของงานวิ่ง จึงมักไม่ได้จบที่จำนวนผู้เข้าเส้นชัย หากจบที่ว่า วันรุ่งขึ้น ชุมชนยังยิ้มให้กันได้เหมือนเดิม และพร้อมเปิดบ้านรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง—ซึ่งคือ “ความยั่งยืน” แบบจับต้องได้

ข้อเสนอแนะเชิงระบบ ให้ “วิ่งเลาะเวียง” เป็นสินทรัพย์ระยะยาว

  1. สร้างมาตรฐานซ้ำได้ (Repeatable Standard)
    บันทึกคู่มือจัดการเส้นทาง–จราจร–แพทย์–อาสาสมัคร–สิ่งแวดล้อม ให้ทีมรุ่นต่อไปทำซ้ำได้โดยไม่เริ่มจากศูนย์
  2. เก็บข้อมูลจริง (Event Intelligence)
    เก็บข้อมูลอายุ–ภูมิลำเนา–พฤติกรรมจับจ่าย–ระยะพักคืน–ความพึงพอใจ เพื่อนำไปออกแบบแพ็กเกจท่องเที่ยวและสปอนเซอร์ปีหน้า
  3. เชื่อมการศึกษา–สุขภาพ (Schools x Health)
    ใช้งานวิ่งเป็นตัวคูณให้โรงเรียนในพื้นที่สร้างชมรมวิ่ง–ชมรมอาสาฯ ต่อเนื่อง สร้างทุนสุขภาพเยาวชน
  4. ยั่งยืนสิ่งแวดล้อม (Green Race)
    ลด single-use อย่างจริงจัง, จัดคัดแยกขยะ, ส่งเสริมรีฟิล, และรายงาน “คาร์บอนฟุตพริ้นต์” คร่าว ๆ หลังจบงาน เพื่อเป็นโมเดลงานสีเขียวของจังหวัด

เชิญชวนด้วยความพร้อมใจ 22–23 พฤศจิกายนนี้ พบกันที่เวียงเชียงรุ้ง

  • สถานที่: โรงเรียนอนุบาลเวียงเชียงรุ้ง
  • ระยะ: 2.5 กม. (Kilo Run) / 5 กม. (Fun Run) / 21 กม. (Half) / 42 กม. (Full)
  • ของที่ระลึก: ผู้เข้าเส้นชัย 100 คนแรกของแต่ละระยะ (ยกเว้น Kilo Run) รับเสื้อ Finisher / Kilo Run รับกระบอกน้ำที่ระลึก
  • กิจกรรมพิเศษ: มินิคอนเสิร์ต ศาล สานศิลป์” วันที่ 22 พ.ย. เวลา 19.00 น.
  • หัวใจของงาน: วิ่งอย่างปลอดภัย เคารพชุมชน สนับสนุนของดีท้องถิ่น และพากันกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม

เวียงเชียงรุ้งอาจไม่ได้อยู่กลางแผนที่ท่องเที่ยวหลักของเชียงราย แต่ในสุดสัปดาห์ปลายฝนต้นหนาวนี้ เมืองเล็กกำลังเปิดทางให้ทุกคนได้ “เลาะ” พื้นที่ที่เงียบงามด้วยรองเท้าคู่เดิม และหัวใจที่ตั้งใจจะวิ่งเพื่อสุขภาพ เพื่อชุมชน และเพื่อความจำดี ๆ ร่วมกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย
  •  สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพะเยา
  • ที่ว่าการอำเภอเวียงเชียงรุ้ง
  • องค์การอนามัยโลก (WHO)
  • กรมการท่องเที่ยว
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ดอกบัวงาม ทานตะวันบาน เวียงเชียงรุ้ง กระตุ้นการท่องเที่ยวเชียงราย

อบจ.เชียงรายเปิดงานดอกบัวงาม ทานตะวันบาน กระตุ้นการท่องเที่ยวเวียงเชียงรุ้ง

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.00 น. ณ หนองบัว หนองมน ตำบลป่าซาง อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ได้จัดงาน “ดอกบัวงาม ทานตะวันบาน ที่เวียงเชียงรุ้ง” โดยมี นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดงานดังกล่าว ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเวียงเชียงรุ้ง

งานครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก น.ส.มินทิรา ภดาประสงค์ นายอำเภอเวียงเชียงรุ้ง ที่กล่าวเปิดงานต้อนรับผู้ร่วมงาน โดยมี นายสมควร นัยติ๊บ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าซาง และ นายปภาณ นัยติ๊บ สมาชิกสภา อบจ.เชียงราย กล่าวรายงานถึงความสำคัญของงานดังกล่าว

กิจกรรมในงาน “ดอกบัวงาม ทานตะวันบาน”

  • งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2567 ณ หนองบัว หนองมน ตำบลป่าซาง
  • มีการจัดแสดงความงามของดอกบัวและทุ่งทานตะวัน พร้อมกิจกรรมสาธิตวิถีชีวิตแบบชุมชน
  • การแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่นและการออกร้านสินค้าชุมชน

ส่งเสริมเศรษฐกิจหลังอุทกภัย

นายก อบจ.เชียงราย กล่าวว่า การจัดงานนี้นอกจากเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่หลังจากเกิดอุทกภัยที่ผ่านมา ยังเป็นการนำเสนอต้นทุนธรรมชาติที่งดงามของอำเภอเวียงเชียงรุ้ง เช่น ทุ่งดอกไม้ วิถีชีวิตชุมชน และประเพณีวัฒนธรรม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมจังหวัดเชียงรายมากขึ้น

งานนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ได้แก่ นายสงกรานต์ โสภามา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดงมหาวัน และนายสมภพ ทิพย์อุ่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งก่อ รวมถึงผู้นำท้องถิ่นทั้ง 16 หมู่บ้านในตำบลป่าซาง

สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว

การจัดงานครั้งนี้ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงรายในฐานะเมืองท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกพื้นที่อย่างยั่งยืน

งาน “ดอกบัวงาม ทานตะวันบาน” ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของจังหวัดเชียงราย สร้างรายได้และเพิ่มโอกาสให้ชุมชนในพื้นที่อำเภอเวียงเชียงรุ้งสามารถพัฒนาศักยภาพตนเองในด้านการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืนต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

นายอำเภอ เปิดพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้ สร้างสรรค์เมืองโบราณเวียงเชียงรุ้ง

 

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ณ วัดเวียงเชียงรุ่ง อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย พิธีเปิดพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้สร้างสรรค์เมืองโบราณเวียงเชียงรุ้ง และงานเสวนาแหล่งเรียนรู้สร้างสรรค์เมืองโบราณเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย โดยนายพิสันต์ จันทรศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นายอภิชาต กันธิยะเขียว นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ และ นางสาวสุทธิดา ตราชื่นต้อง นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดและเข้าร่วมกิจกรรมฯ

 

ซึ่งมรนางสาวมินทิรา ภดาประสงค์ นายอำเภอเวียงเชียงรุ้ง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุทัศน์ คล้ายสุวรรณ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย กล่าวรายงาน และพระครูไพโรจน์คีรีรักษ์ ดร. เจ้าอาวาสวัดเวียงเชียงรุ้ง กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการและประชาชน เข้าร่วมพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้สร้างสรรค์เมืองโบราณเวียงเชียงรุ้ง และงานเสวนาแหล่งเรียนรู้สร้างสรรค์เมืองโบราณเวียงเชียงรุ้ง

 

สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีแผนการดำเนินโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก กิจกรรมการพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้สร้างสรรค์ “เมืองโบราณเวียงเชียงรุ้ง” เพื่อจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้เมืองโบราณเวียงเชียงรุ้งให้กับชุมชนท้องถิ่น

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เปิดทุ่งทานตะวันเวียงเชียงรุ้ง เลี้ยงขุนน้ำ ฟังธรรมปลาช่อน ขุนน้ำบ้านโป่ง

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2567 เวลา 10.30 น. นายก นก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานเปิดงานโครงการส่งเสริมจารีตประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น

 

กิจกรรมเลี้ยงขุนน้ำ (ฟังธรรมปลาช่อน) ณ ขุนน้ำบ้านโป่ง หมู่ 1 ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชียงรุ้ง โดยมีนายสมภพ ทิศอุ่น นายก อบต.ทุ่งก่อ กล่าวรายงาน นายปภาณ นัยติ๊บ รองประธานสภา อบจ.เชียงราย นายชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ อบต.ทุ่งก่อ และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ นายก นก ยังได้เสนอแนวทางในการพัฒนาให้พื้นที่ ต.บ้านโป่ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน บูรณาการกับการพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ โดยการขอความร่วมมือทุกๆ ครัวเรือนในพื้นที่ ให้ปลูกดอกทานตะวันเป็นแนวนำสายตาให้นักท่องเที่ยวได้ชมตลอดการเดินทางตั้งแต่เข้าชุมชน จนถึงขุนน้ำบ้านโป่ง เพื่อดึงดูดความน่าสนใจระหว่างการเดินทาง
 
 
ด้วยวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในการอยู่ร่วมกันของชาวล้านนาที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในด้านประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม หนึ่งในประเพณี ที่ชาวล้านนาถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษก็คือ “ประเพณีเลี้ยงขุนน้ำ (ฟังธรรมปลาช่อน)” ซึ่งในแต่ละหมู่บ้านจะมีแหล่งน้ำที่สำคัญเพื่อใช้อุปโภคและบริโภค และในทุกๆ ปีจะมีการทำพิธีเลี้ยงขุนน้ำ (ฟังธรรมปลาช่อน) เพื่อเป็นการขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล และขอให้มีน้ำใช้อุปโภคบริโภคตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กเยาวชน ผู้สูงอายุและประชาชนได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ และสืบสานประเพณีอันดีงามสืบไป และในปีนี้ทางผู้นำพร้อมกับพี่น้องประชาชนบ้านโป่ง ทั้ง 3 หมู่บ้าน ได้ปลูกดอกทานตะวันเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของบ้านโป่ง ทั้ง 3 หมู่บ้านต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

นายก นก” ยกมวยไทย Soft Power สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจมหาศาล

 
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน 2567 เวลา 19.30 น. นายก นก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการกีฬาและนันทนาการประชาชน จ.เชียงราย กิจกรรมที่ 25 การแข่งขันกีฬามวยไทย อบจ.เชียงราย ไฟท์ จากรากหญ้าสู่สากล ณ สนามมวยชั่วคราว สนามกีฬากลาง อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย พร้อมด้วย นายญาณาฤทธิ์ หนสมสุข รองปลัด อบจ.เชียงราย นายปภาณ นัยติ๊บ รองประธานสภา อบจ.เชียงราย
 
 
โดยมีนางสาวมินทิรา ภดาประสงค์ นายอำเภอเวียงเชียงรุ้ง เป็นผู้กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย นายศรีวรรณ์ วงศ์จินา นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.เชียงราย นายสมภพ ทิศอุ่น นายก อบต.ทุ่งก่อ นายสมควร นัยติ๊บ นายก อบต.ป่าซาง นายสงกรานต์ โสภามา นายก อบต.ดงมหาวัน นางสาวเบญจพร หากันต์ ปลัด อบต.ทุ่งก่อ น้องโน้ต อดิเรก เรือนปิน Miss LGBT Thailand 2024 และมีนายณรงค์ศักดิ์ ขันทะ หัวหน้าฝ่ายการกีฬา กองการท่องเที่ยวและกีฬา อบจ.เชียงราย ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดโครงการฯ ในครั้งนี้ด้วย
 
 
อบจ.เชียงราย และ อ.เวียงเชียงรุ้ง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะส่งเสริมให้ประชาชน มีสุขภาพดี ให้ทุกภาคมีส่วนร่วมบูรณาการ ทุกภาคส่วน สร้างกระบวนการเรียนรู้เน้นการมีส่วนร่วม สื่อสาธารณะ สร้างความสามัคคีและความเข้มแข็งทางจิตใจ จึงได้ส่งเสริม กีฬามวยไทย ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
 
 
เป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยมไปทั่วโลก และเพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการเผยแพร่กีฬามวยไทยให้มีความนิยมมากยิ่งขึ้น ผ่านโครงการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยสู่ต่างประเทศตามนโยบายของรัฐที่จะส่งเสริม Sofe Power พร้อมเร่งผลักดันให้กีฬามวยไทยได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งชนิดกีฬา ในการแข่งขันในมหกรรม กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปี 2032 ณ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย เพื่อเป็นการพัฒนา ศักยภาพช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมกีฬามวยไทยในระดับนานาชาติอย่างครบวงจร ภายในงานมี กิจกรรมสุดพิเศษ เช่น การประกวด Miss สงกรานต์ เวียงเชียงรุ้ง รำวงย้อนยุค การแสดงดนตรี และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เปิดกีฬาโรงเรียนผู้สูงอายุ ต.ป่าซาง อ.เวียงเชียงรุ้ง

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 08.30 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลป่าซาง ณ หอประชุมโรงเรียนบ้านป่าซาง ตำบลป่าซาง อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย และมอบของที่ระลึกให้แก่ประธานสตรีอำเภอเวียงเชียงรุ้ง และประธานสตรีตำบล พร้อมด้วย นายปภาน นัยติ๊บ รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย โดยมีนายสมควร นัยติ๊บ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าซางกล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดโครงการ และมีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลป่าซาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมเป็นเกียรติในการเปิดโครงการดังกล่าว

โครงการพัฒนาศักยภาพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลป่าซาง จัดขึ้นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุทั้งด้านสุขภาพ สังคม เศรษฐกิจและวัฒนธรรม กิจกรรมการแข่งขันกีฬาสีสัมพันธ์ เป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการ โดยนักเรียนผู้สูงอายุ ได้มีส่วนร่วมในการคิดรูปแบบ ชนิดกีฬา การจัดขบวน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หนึ่ง ของโครงการ ที่ให้นักเรียนผู้สูงอายุเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา การแข่งขันกีฬาแบ่งนักกีฬาเป็น 4 สี จัดการแข่งขันกีฬา ทั้งกีฬาสากล และกีฬาพื้นบ้าน จำนวน 19 ชนิดกีฬา โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานและบุคคลในพื้นที่ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีขวัญกำลังใจและเห็นคุณค่าของตนเอง ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุ สามารถดำรงชีวิตอยู่กับครอบครัวและบุตรหลาน อย่างปกติสุขและมีสุขภาพสมบูรณ์ต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย ปลุกพลังเยาวชน “กลุ่มต้นกล้าความดี” ยุวชนเวียงเชียงรุ้ง

 

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 นางอทิตาธร วันไชยธนวงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายปภาน นัยติ๊บ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอเวียงเชียงรุ้ง พบปะเยาวชน “กลุ่มต้นกล้าความดี” โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย ณ หอประชุมโรงเรียนเวียงเชียงรุ้งวิทยาคม อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย โดย มีนางยุพิน วงศ์ชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนเวียงเชียงรุ้งวิทยาคม ให้การต้อนรับ

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา นางอทิตาธร วันไชยธนวงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นายปภาน นัยติ๊บ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และนายเกียรติคุณ จันแก่น ผู้อำนวยการสำนักศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดโครงการ ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย “กลุ่มต้นกล้าความดี” ครั้งที่ 8 โดยมีนางสาวสุทธิดา ชาวลี้แสน กลุ่มเครือข่ายต้นกล้าความดี ศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการดังกล่าว

สำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้ เยาวชนเป็นพลังที่สำคัญในการพัฒนาสังคม การพัฒนาเพิ่มทักษะให้เยาวชนเหล่านี้เป็นผู้กล้าที่จะสร้างสรรค์แสดงออกถึงความสามารถ โดยยึดหลักคุณธรรม จริยธรรมในการดำเนินชีวิต คิดดี ทำดี เอาความรู้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการที่จะให้เยาวชนเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตและแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนอื่น ๆ นั้น เยาวชนเหล่านี้ต้องมีความเป็นผู้นำในด้านนั้น ๆ ก่อน การส่งเสริมการมีส่วนร่วม อนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน และสืบสานวัฒนธรรมโปงลางในท้องที่ของตน ภายใต้ความร่วมมือจากปราชญ์ชาวบ้าน ผู้รู้ในชุมชน ดังนั้นสภาเด็กและเยาวชนอำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย จึงได้จัดโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย “กลุ่มต้นกล้าความดี” ยุวชนเวียงเชียงรุ้งร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้านอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะและศักยภาพของเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย ที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News